“ถ้างานนี้สำเร็จ เต็นขอโบนัสหนักๆสักก้อนนะคะ”
“ยัยเต็นขี้งก!” เพชรนิลว่าเสียงดัง ยังไม่ทันออกจากบ้านไปทำงาน ยัยนกกระเต็นก็ร้องขอโบนัสซะแล้ว
“งกอะไรกัน โบนัสเป็นสิ่งที่ควรได้ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการทำงานนะคะ”
“เหรอ” เพชรนิลส่ายหน้ากับการแถของน้องสาว สองพี่น้องคงจะลับฝีปากกันต่ออีกหลายประโยคเป็นแน่ หากรถแลนด์โรเวอร์ ดิสคัฟเวอรี่สีขาวรุ่นใหม่ล่าสุดไม่แล่นผ่านประตูรั้วเข้ามาเสียก่อน
“รถมารับแล้ว” เพชรนิลบอกยิ้มๆ
“แล้วเต็นต้องบอกให้เขาไปรับคุณนิดที่ไหนคะ”
“คุณนิดไปรอที่รีสอร์ตตั้งแต่เมื่อวานแล้ว” พลอยไพลินพยักหน้ารับทราบ หญิงสาวยืนมองรถคันงามแล่นเข้ามาใกล้ด้วยความรู้สึกแปลกๆ
เมื่อรถยนต์แล่นมาจอดเทียบประตูหน้าบ้าน เพชรนิลสั่งให้คนรับใช้ยกกระเป๋าของน้องสาวขึ้นรถ เขาเดินไปเปิดประตูข้างคนขับให้ ส่งน้องสาวขึ้นไปนั่ง แล้วกำชับคนขับรถด้วยน้ำเสียงสุภาพ
“ฝากดูแลน้องสาวผมด้วยนะครับ”
พลอยไพลินโบกมือให้พี่ชาย ก่อนเขาจะปิดประตูรถให้เธอ หญิงสาวขยับตัวนั่งตรง และกำลังจะดึงเข็มขัดนิรภัยมาคาดเพื่อความปลอดภัย แต่คนขับรถกลับไวกว่า เขาโน้มตัวมาดึงเข็มขัดนิรภัยคาดให้เธออย่างรวดเร็ว
“อุ๊ย! นี่คุณ!...” พลอยไพลินนึกเคืองที่เขาเข้าใกล้เธอเกินความจำเป็น หญิงสาวรีบดันบ่าเขาสุดแรง ทว่าเมื่อเขาเงยหน้าขึ้น ทำให้เธอได้เห็นใบหน้าคนขับรถซึ่งพี่ชายแจ้งว่าเป็นหนึ่งในทีมบอดี้การ์ดชัดเจน เธอก็ต้องตกใจ ดวงตาคู่งามเบิกกว้างจ้องมองใบหน้าคมคายที่อยู่ห่างแค่คืบด้วยอาการตกตะลึง
“พี่โย!”
วาโยยิ้มหวานใส่นัยน์ตากลมโต ก่อนขยับตัวหันไปทำหน้าที่คนขับรถ เขาไม่ยินดียินร้ายกับใบหน้าตื่นๆของหญิงสาว เพราะคาดเดาได้ว่า เธอคงไม่พอใจเท่าไรที่เห็นเขาในวันนี้
เมื่อรถเริ่มเคลื่อนตัว พลอยไพลินหันรีหันขวางด้วยความตกใจ เธอไม่อยากไปกับเขา เธออยากขอเปลี่ยนตัวคนขับรถ
“พี่โยจอดรถเลยนะคะ เต็นไม่ไปกับพี่โย” พลอยไพลินแหวเสียงดัง เธอเหลียวหลังไปมองพี่ชายที่กำลังเดินกลับเข้าไปในบ้าน อยากตะโกนบอกให้พี่ชายมาช่วยพาเธอลงไปจากรถคันนี้ที พี่กระต่ายน้อยจะรู้ไหมว่ากำลังส่งนกกระเต็นน้อยเข้าปากเสือ
“อย่าทำตัวเป็นเด็กไม่รู้ความ เต็นไปทำงานของเต็น พี่ก็ไปทำงานของพี่ เราต่างมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบ โตแล้วควรรู้จักแยกแยะ ไม่ควรเอาอารมณ์ส่วนตัวมาเป็นที่ตั้ง” น้ำเสียงจริงจัง และใบหน้านิ่งขรึมของวาโยทำให้คนดื้อดึงนิ่งเงียบ และเมื่อรถแล่นพ้นประตูรั้ว พลอยไพลินก็หันกลับมานั่งตัวตรงตามเดิม หมดสิ้นความหวังที่จะได้ลงจากรถคันนี้แล้ว
เมื่อนั่งนิ่งมาได้สักระยะ ความโมโหอัดแน่นจนได้ที่ เธอไม่สามารถสะกดกลั้นความรู้สึกไม่พอใจได้อีกต่อไป พลอยไพลินจึงหันไปมองหน้าคนหน้ามึนอย่างเอาเรื่อง อยากจะกรีดร้องใส่หน้าเขานัก เธอรู้ว่าเธอมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบ มีงานต้องทำ แต่เขาล่ะ เขาเป็นถึงเจ้าของบริษัท จำเป็นด้วยหรือที่จะต้องมาทำหน้าที่คนขับรถแทนลูกน้องแบบนี้ เขาต้องมีแผนการที่ไม่น่าไว้ใจอยู่ในหัวแน่ๆ ขนาดนานๆเจอกันที เขายังจับเธอจูบเอาๆ แล้วนี่ต้องอยู่ด้วยกันตั้งหลายวัน เธอมิเสียจูบให้เขาเป็นร้อยครั้งพันครั้งหรอกเหรอ แต่เมื่อคนที่เธอเอาแต่จ้องมองด้วยสายตาเคืองขุ่นไม่ยอมหันมาสบตาด้วย คนโมโหได้แต่กะบึงกะบอนต่อว่าเขาด้วยความเจ็บใจ
“พี่โยร้ายที่สุด” พลอยไพลินเบี่ยงตัวหันหน้าหนีไปด้านข้าง ไม่อยากเห็นหน้าคนเจ้าเล่ห์ เจ้าแผนการ
วาโยชำเลืองตามองแผ่นหลังของคนงอน เขายิ้มบาง ส่ายหน้าด้วยความเอ็นดู ถึงจะโมโหปั้นปึ่งอย่างไร น้องก็น่ารักน่าจูบสำหรับเขาเสมอ
"พี่โยคะ นี่ไม่ใช่รีสอร์ตที่เลขาของเต็นแจ้งไว้นี่คะ" หลังจากนั่งเงียบมาตลอดทาง คนขับรถพูดอะไรด้วย เธอก็ไม่หือไม่อือ แต่พอเห็นป้ายรีสอร์ตตรงทางเข้า พลอยไพลินก็รีบหันไปถามหน้าตาตื่น
“แต่พี่ได้รับข้อมูลมาว่าเป็นที่นี่นะครับ” วาโยตอบเสียงราบเรียบ ทว่าสายตาเขากลับส่อแววมีพิรุธ ชายหนุ่มบังคับรถเลี้ยวเข้าไปจอดบริเวณลานจอดรถของรีสอร์ต แล้วหันมายิ้มให้คนที่เขาต้องดูแลความปลอดภัยตลอดสามวัน
“ไม่ใช่ที่นี่ค่ะ” เห็นแววตาเจ้าเล่ห์ของเขาแล้ว พลอยไพลินชักเอะใจ หญิงสาวจึงพยายามใช้เสียงเข้มเข้าข่ม เขามากับเธอในฐานะบอดี้การ์ด เขาต้องเชื่อฟังเธอในฐานะที่เป็นคนจ้างงานสิ
“แต่พี่จะพักที่นี่” คนหน้ามึนบอกแบบมึนๆ
“เต็นจะไม่พักที่นี่ค่ะ ในฐานะที่เต็นเป็นนายจ้าง เต็นขอสั่งให้พี่โยพาเต็นไปพักรีสอร์ตที่คุณนิดพักอยู่ค่ะ”
เมื่อเห็นท่าทางขึงขัง หน้าตาบึ้งตึงของแม่นกกระเต็นน้อย วาโยจึงขยับตัว หันมาจ้องหน้าเธอด้วยสายตาดุจริงจัง
“พี่มีทางเลือกให้เต็นเลือกสองทาง หนึ่ง...พักอยู่ที่นี่โดยนอนคนละห้องกับพี่ หรือสอง...พี่จะพาเต็นไปพักรีสอร์ตเดียวกับคุณนิดก็ได้ แต่เต็นต้องนอนห้องเดียวกับพี่”
พลอยไพลินอ้าปากค้างกับทางเลือกที่ไม่น่าเลือกสักทางของเขา หญิงสาวเม้มปากแน่น โมโหจอมบงการ คนเอาแต่ใจ เรื่องอะไรเธอจะต้องเลือกด้วย เธอจะไม่มีวันเลือกเด็ดขาด เธอจะโทรฟ้องพี่ชายว่าเขาคิดมิดีมิร้ายกับเธอ คนไม่อยากเลือกอะไรสักอย่างล้วงมือลงในกระเป๋าถือบนตัก เพื่อควานหาโทรศัพท์ ทว่ามือบางก็ต้องชะงัก เมื่อได้ยินคำพูดขู่ขวัญจากปากคนเสนอทางเลือกให้เธอ
“ถ้าเต็นคิดจะโทรฟ้องใครสักคน กว่าใครคนนั้นจะตามมารับเต็นถึงที่นี่ก็คงใช้เวลาหลายชั่วโมง ระหว่างที่รอ พี่ไม่รับประกันนะว่าเยื่อพรหมจรรย์ของเต็นจะปลอดภัยหรือเปล่า”
“พี่โย!”
“ถ้าคิดว่าพี่พูดเล่น เต็นก็ลองโทรออกสิ แล้วเต็นก็จะได้รู้ว่าพี่แค่ขู่หรือเอาจริง”
พลอยไพลินสบสายตาคนที่กล้าเอาเรื่องเยื่อพรหมจรรย์ของเธอมาขู่หน้าตาเฉย สายตาคมดุของเขาทำให้เธอร้อนๆหนาวๆ ชำเลืองมองรอบกายก็เห็นแต่ป่าไม้ ขุนเขา บรรยากาศแบบนี้หากมากับคนที่ไว้ใจได้ คงทำให้ผ่อนคลายไม่น้อย แต่นี่เธอมากับเสือ และเสือก็เพิ่งขู่ว่าจะกินตับเธอเสียด้วย ใครอารมณ์ดีได้ก็บ้าแล้ว
เมื่อมองไปทางไหนก็เห็นแต่ทางจะเสียเปรียบ พลอยไพลินจึงชักมือออกมาจากกระเป๋าถือของตน หญิงสาวเม้มปากแน่น สะบัดหน้าหนีสายตาคมดุวาโยยิ้มพอใจกับท่าทางอ่อนข้อของหญิงสาว เขาดับเครื่องยนต์ เปิดประตูลงจากรถ เดินอ้อมไปเปิดประตูให้คนที่นั่งหน้าบึ้งตึงไม่ยอมขยับตัวอีกด้าน“ลงมาได้แล้วครับ ช่วงบ่ายเราต้องไปที่เหมืองพลอย”“เต็นจะนั่งรออยู่บนรถ ว้าย!” พูดยังไม่ทันขาดคำ ร่างอรชรก็ถูกช้อนอุ้มแนบอกแกร่ง พลอยไพลินดิ้นยุกยิก แต่ไม่กล้าทุบตีคนหน้ามึน เธอกลัวเขาทำโทษ“พี่โย! ปล่อยเต็นนะ”“อยู่นิ่งๆ เดี๋ยวก็ตกลงไปหรอก” วาโยเอ็ดเสียงเข้ม แล้วหันไปสั่งให้พนักงานรีสอร์ตจัดการกระเป๋าของเขาและเธอคนถูกเอ็ดยอมให้เขาอุ้มดีๆ เธอสงบปากสงบคำ กระทั่งเขาอุ้มเธอเดินตามพนักงานจนมาถึงทางเดินไปยังวิลล่าลอยน้ำในลำน้ำแควน้อย“ไม่นอนห้องเดียวกันนะคะ” พลอยไพลินบอกน้ำเสียงจริงจัง“พี่โย! เต็นไม่นอนห้องเดียวกับพี่โยนะ” เมื่อคนอุ้มไม่สนใจสิ่งที่เธอพูด เขายังคงก้าวเดินไปเรื่อยๆ กระทั่งมาหยุดอยู่วิลล่าหลังริมสุด พลอยไพลินจึงย้ำอีกครั้ง คราวนี้เธอทำร้ายร่างกายเขาด้วยการทุบแผ่
วาโยเอนกายกึ่งนั่งกึ่งนอนบนโซฟาเบด สองมือประสานวางไว้บนหน้าอก เขาชันหัวเข่าด้านที่ติดพนักพิงขึ้น ขาอีกข้างเหยียดตรงตามความยาวของโซฟา ชายหนุ่มหลับตา ทว่าใบหน้าแต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้มน่าหมั่นไส้ พลอยไพลินเดินมาเข้ามาหยุดยืนเท้าสะเอวอยู่ข้างๆ เวลาโกรธ เธอมองเห็นเสือตัวเท่ามด ความระวังตัว และความหวาดหวั่นก่อนหน้านี้หายไปไหนหมดก็ไม่รู้ ตอนนี้เธออยากจะฉะกับคนที่นอนอยู่ตรงหน้ามากกว่า“พี่โย! ไม่ต้องทำเป็นหลับตาเลยนะคะ เพิ่งเดินเข้ามาเมื่อกี้เอง หลับไวขนาดนี้เลยเหรอ ลุกขึ้นมาเคลียร์เลยนะ” พลอยไพลินคว้าข้อมือข้างหนึ่งของคนแกล้งหลับดึงขึ้นมา ทว่าร่างใหญ่ไม่ขยับเขยื้อน ยิ่งเขานอนนิ่งเธอก็ยิ่งโมโห จึงออกแรงดึงสุดกำลัง“อุ๊ย!” ไม่เพียงแต่เขาไม่ลุกขึ้นดั่งใจเธอต้องการ แต่เขายังใช้มืออีกข้างคว้าหมับที่ข้อมือเล็กของเธอ แล้วออกแรงดึงเพียงนิด ทำให้ร่างนุ่มนิ่มปลิวติดมือเขา ล้มฟุบลงไปเกยอยู่บนอกกว้าง แถมยังถูกวงแขนแข็งแรงรวบกอดไว้แน่นหนา“พี่โย! ปล่อยเต็นนะ” พลอยไพลินใช้สองมือยันอกแกร่งไว้ หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองคนที่เอาแต่หลับตานิ่ง แต่วงแขนกลับรัดเธอไว้เสียแน่น“พี่อยากให้เต็
“เรียบร้อยดีไหม”“มีปัญหานิดหน่อยครับคุณโย” วัลลภตอบไม่เต็มเสียง ก้มหน้าหลบสายตาเจ้านาย ด้วยเพราะทำงานกับเจ้านายหนุ่มมานาน เขาจึงรู้ดีว่า คำว่าปัญหานั้นไม่ควรเกิดขึ้น ไม่ว่าจะนิดหน่อยหรือใหญ่โตก็ตาม แล้วยิ่งมาเกิดกับผู้หญิงของเจ้านายด้วยแล้ว ยิ่งเป็นเรื่องไม่สมควรอย่างยิ่ง“ว่ามา” วาโยหันหลังให้คนสนิท เขาเดินห่างออกไปเพื่อสงบสติอารมณ์ ชายหนุ่มไม่ชอบใจที่มีปัญหาเกิดขึ้นกับแผนการที่เขาวางไว้อย่างรัดกุม ร่างสูงสมาร์ตเดินไปหยุดอยู่ริมแม่น้ำ ล้วงมือสองข้างลงในกระเป๋ากางเกง สายตาคมคมกริบกวาดมองไปทั่วบริเวณ เขาจดจำรายละเอียดทุกอย่างที่ผ่านเข้ามาในครรลองสายตาได้อย่างแม่นยำ มันคือนิสัยและความเคยชินของผู้ที่ผ่านการฝึกฝนทักษะการต่อสู้ชั้นสูงมาอย่างหนัก“มีคนตัดหน้า เขาให้ราคาสูงกว่าครับ” วัลลภบอกด้วยน้ำเสียงกริ่งเกรง เขาเดินตามเจ้านายไปห่างๆ และหยุดยืนในระยะที่ไม่ใกล้และไม่ไกลจนเกินไป“แล้วไง” วาโยถามกลับเสียงราบเรียบโดยไม่หันกลับไปมองลูกน้อง“เอ่อ...”“นายรู้ว่าต้องทำยังไง ไปทำให้สำเร็จก่อนที่ฉันจะไปถึงที่นั่น”เป็นไปตามที่วัลล
วัลลภรับหน้าที่ขับรถของเจ้านาย นิตยานั่งเบาะด้านหน้าหน้าคู่คนขับ พลอยไพลินจำใจต้องนั่งคู่กับบอดี้การ์ดผู้อ้างว่า เขาต้องการดูแลเธออย่างใกล้ชิด ไม่อยากให้มีข้อผิดพลาดในการดูแลเธอ“มีร้านไหนที่มีพลอยไซซ์นี้อีกไหมคะคุณนิด”“ไม่มีเลยค่ะคุณเต็น อย่างที่รู้กันว่าไพลินไซซ์ใหญ่ขนาดนี้แทบหาไม่ได้แล้ว ตอนนี้มีที่ร้านนี้ร้านเดียวเท่านั้นค่ะ” นิตยาเบี่ยงตัวมาคุยกับเจ้านาย ผู้จัดการแผนกจัดซื้อมีสีหน้าไม่สู้ดีเท่าไรนัก เพราะพลอยเม็ดสวยที่มั่นใจว่าจะได้กลับไปทำเครื่องประดับเพื่อส่งเข้าประกวดงานอัญมณีและเครื่องประดับประจำปี กลับเกิดมีปัญหาขึ้นมาเสียได้ อีกทั้งดีไซเนอร์ของบริษัทได้ออกแบบเครื่องประดับไว้เรียบร้อยแล้ว ที่ประชุมก็มีมติเป็นเอกฉันท์ว่าจะใช้เครื่องประดับเซตนี้ส่งเข้าประกวด แต่หากไพลินเม็ดนี้หลุดลอยไป ทุกอย่างจะต้องเริ่มต้นใหม่จากศูนย์ และอาจจะส่งเข้าประกวดไม่ทัน“แล้วเม็ดเล็กที่เราสั่งไว้ล่ะคะ เขามีปัญหาอะไรไหมคะ”“ไม่มีค่ะ เขาจัดเตรียมไว้ให้เราตามที่สั่ง พร้อมกับใบรับรองเรียบร้อยแล้วค่ะ”พลอยไพลินถอนหายใจเฮือกใหญ่ หนักใจไม่น้อยกับสถานการณ์ที่กำลังเผชิญอ
พลอยไพลินทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ เธอยังไม่พร้อมจะสูญเสียความสาวในตอนนี้ พี่โยนี่ก็กระไร รุกเธอหนักเหลือเกิน เล่นเจ้าล่อเอาเถิดอยู่ได้ ทั้งที่ไม่มีอะไรชัดเจนกับเธอเลย“เต็นไม่ยอมนะ พี่โยจะมาทำกับเต็นแบบนี้ไม่ได้” น้ำเสียงสั่นๆ ตัดพ้อน้อยใจ“เต็นคิดว่าพี่จะทำอะไร” วาโยถามเสียงเข้ม ทว่าใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม“ทำ เอ่อ...”“คิดไปไกลนะเรา เดี๋ยวพี่ก็ทำตามที่เต็นคิดจริงๆซะหรอก” วาโยว่ายิ้มๆ“คิดอะไร เต็นไม่ได้คิดอะไรสักหน่อย ปล่อยเต็นได้แล้วค่ะ เต็นจะไปอาบน้ำ” พลอยไพลินเปลี่ยนเรื่อง ไหนๆเธอก็ต้องจำใจอยู่กับเขาต่อ เพราะรู้ดีว่าต่อให้ยกแม่น้ำทั้งโลกมาอ้าง เขาก็ไม่มีทางพาเธอกลับแน่ๆ“ตกลงจะไม่แลก” วาโยถามเสียงทุ้ม คิ้วเข้มข้างหนึ่งเลิกสูง สายตาคมปลาบจับจ้องดวงหน้าหวานซึ้งไม่วางตาพลอยไพลินถอนหายใจสุดแรง มองค้อนคนที่ยังคงกอดรัดเธอไว้แนบกายแกร่ง“จะนอนกี่คืนก็เรื่องของพี่โยเถอะค่ะ เต็นรู้หรอกว่า ถึงเต็นจะเอาอะไรมาแลก ถ้าพี่โยคิดจะพักที่นี่ต่อ พี่โยก็จะพัก ไม่ว่ายังไงพี่โยก็จะเอาแต่ใจ ดังนั้นจะนอนกี่คืนก็แล้วแต่เลยค่ะ นอนกันสักเดือนหนึ่งก็ได้ งา
เมื่อฝ่ายรุกได้ดั่งใจ ฝ่ายรับก็ยอมโอนอ่อนทำตาม ต่างฝ่ายจึงต่างผลัดกันป้อนอาหารให้กัน ใบหน้าชายหนุ่มนั้นอิ่มเอิบ แต่งแต้มไปด้วยความสุข หากแต่ใบหน้าสาวนั้นงอหงิก ปากจิ้มลิ้มยื่นออกมาน้อยๆเป็นบางครั้ง ด้วยเพราะไม่ค่อยพอใจเท่าไรนักแม้จะโมโหที่เขาเอาแต่ใจอย่างร้ายกาจ แต่พลอยไพลินก็ไม่คิดจะเอาความโมโหเป็นที่ตั้ง เธอยอมกินอาหารที่เขาป้อน และยอมป้อนเขาอย่างที่เขาต้องการ ผลัดกันป้อนไปมาสักพัก คนที่ถูกบังคับในคราแรกก็เริ่มสนุก กินได้เยอะ เพราะเขาเอาอกเอาใจ และดูแลเธออย่างดี“เต็นจะกินปลาจานนี้ พี่โยแกะให้เต็นกินหน่อย ไม่เอาหนังปลานะคะ” พลอยไพลินชี้นิ้วไปยังจานปลากะพงนึ่งมะนาว หญิงสาวเผลออ้อนโดนไม่รู้ตัว แถมยังยิ้มหวาน กะพริบตาปริบๆ อย่างที่เคยทำเวลาอ้อนพี่กระต่ายน้อยประจำวาโยพยักหน้ายิ้มๆ พลอยไพลินยิ้มกว้างกว่า ใบหน้าแย้มยิ้มกระจ่างใสของน้อง ทำให้คนเป็นพี่ลอบถอนหายใจด้วยความรู้สึกปั่นป่วน น้องน่ารักน่าจับจูบ และน่าจับทำอะไรต่อมิอะไรอีกหลายอย่างจนเขาแทบอดใจไม่ไหวแล้วพนักงานของรีสอร์ตมาเก็บสำรับอาหารกลับออกไปแล้ว ความมืดโรยตัวเข้าปกคลุมไปทั่วบริเว
“อืม...” พลอยไพลินครางเบาๆในลำคอ หญิงสาวรู้สึกก้ำกึ่งอยู่ระหว่างความฝันกับความจริง หากนี่คือฝัน มันคือความฝันอันแสนหวามไหว รสจูบหวานซาบซ่านเคยคุ้นทำให้เธอจูบตอบทั้งที่ยังหลับตา แต่หากนี่คือความจริง ช่างเป็นความจริงที่น่าเคลิบเคลิ้ม เธอมิอาจปฏิเสธได้เลยว่า บทจูบอ่อนหวานซ่านอารมณ์กำลังปั่นหัวเธอให้หลงละเมอ จนมิอาจถอนตัวถอนใจผลักไสคนที่มอบจูบให้เธอได้วาโยแทบคลั่งเมื่อน้องเริ่มจูบตอบ ชายหนุ่มพลิกกายขึ้นทาบทับอยู่เหนือร่างสาว ความหวานล้ำที่ได้รับ บวกกับความใกล้ชิดมากกว่าครั้งไหน อีกทั้งบรรยากาศก็เป็นใจทำให้เลือดในกายหนุ่มร้อนฉ่า เขาไม่รู้เลยว่าครั้งนี้เขาจะหยุดตัวเองได้หรือเปล่า ไม่รู้เลยว่ามันจะเลยเถิดไปไกลถึงจุดไหน วาโยรู้เพียงว่า หากให้ถอนจูบออกมาตอนนี้ เขาต้องลงแดงตายแน่ๆความอึดอัดเพราะโดนโถมทับไว้ทั้งตัว กับจูบที่ค่อยๆทวีความดุดันขึ้นเรื่อยๆทำให้สติที่พร่าเลือนเริ่มชัดเจนขึ้นทีละน้อย พลอยไพลินเบิกตาโพลงในความมืด หัวอกหัวใจสั่นไหวระรัว กลัวพี่ชายเจ้าเล่ห์จะทำมากกว่าที่เคยทำอาการขัดขืนโวยวาย การดิ้นยุกยิก และความพยายามเบี่ยงหน้าหนีทำให้วาโยครางขัดใจ ทว่าชายหนุ่
พลอยไพลินถอนหายใจแรง เขาต้อนเธอให้จนมุมจนได้ แต่หญิงสาวยอมแต่โดยดี เมื่อเขาขยับกายลงจากร่างเธอ แล้วกกกอดเธอไว้แนบอก แม้จะหวาดหวั่น เกรงว่าเขาจะทำอะไรเกินเลย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า อ้อมกอดพี่โยอบอุ่นและเธอรู้สึกปลอดภัยจากอันตรายภายนอก เพียงแต่ไม่รู้สึกปลอดภัยต่อหัวใจเท่านั้นเอง“สาบานเลยว่า ครั้งต่อไปที่เราได้นอนเตียงเดียวกัน พี่จะไม่ปล่อยให้เต็นได้นอนสบายแบบนี้แน่”คำขู่แสนวาบหวามของคนเป็นพี่ทำให้หัวใจดวงน้อยเต้นระรัวสั่นไหว พลอยไพลินไม่กล้าแย้ง ไม่กล้ากระดุกกระดิกร่างกาย ตอนนี้เธอตกเป็นรองอยู่ การสงบปากสงบคำไว้ดีที่สุดแล้ว แต่...สาบานเลยว่า เธอจะไม่มีวันนอนเตียงเดียวกับเขาอีกครั้งแน่นอนพลอยไพลินรู้สึกเหมือนจะละลาย เพราะสายตาร้อนแรงของคนเป็นพี่ เธอกับเขากำลังนั่งรับประทานอาหารเช้าที่ระเบียงส่วนตัว ท่ามกลางบรรยากาศสายน้ำไหลเอื่อย อ้อมกอดขุนเขาป่าไม้ แต่แทนที่จะสนใจมื้อเช้าแสนอร่อยตรงหน้า เขากลับเอาแต่จ้องมองเธออยู่ได้“พี่โยไม่หิวเหรอคะ” พลอยไพลินถามและจ้องมองสบตาเขาตรงๆ คนถูกน้องจ้องตอบยิ้มกรุ้มกริ่ม“ไม่
“ไม่เป็นไรค่ะ คุณกระติ๊บรีบหายเร็วๆนะคะ อยู่แต่ในบ้านแบบนี้น่าเบื่อแย่เลย”“ติ๊บก็อยากหายเร็วๆค่ะ แต่แผลมันไม่เป็นใจ”“แล้วนี่คุณหมอนัดตัดไหมวันไหนคะ” ลำดวนถามขณะที่เดินกลับมา หลังจากเอาอุปกรณ์ล้างแผลไปเก็บแล้ว“ไม่ทราบค่ะ” พลอยชมพูตอบแล้วยิ้มแหยๆ ก็เมื่อวานเธอเอาแต่ร้องห่มร้องไห้ ไม่สนใจฟังสิ่งที่คุณหมอคุณพยาบาลบอกสักนิด“อ้าว!” ลำดวนมองหน้าคนที่นั่งอยู่บนโซฟา สีหน้าและแววตาของลำดวนดูงงๆ พลอยชมพูจึงรีบอธิบายต่อว่า“เอ่อ...คุณหมอเขียนใบนัดให้แล้วค่ะ ติ๊บเก็บไว้บนห้อง เดี๋ยวเย็นนี้ค่อยขึ้นไปดู”“อ๋อ! ค่ะ ว่าแต่คุณกระติ๊บจะเอาอะไรอีกไหมคะ น้าจะได้ขอตัวไปพับนกกระดาษช่วยคนอื่นๆ”“ไม่ล่ะค่ะ แค่นี้ก็รบกวนน้าลำดวนมากแล้ว ว่าแต่จะพับนกกระดาษไปทำอะไรคะ”“สัปดาห์หน้าจะมีลูกค้ามาจัดงานแต่งงานที่รีสอร์ตค่ะ เขาเหมารีสอร์ตทุกหลัง เห็นว่าจัดเป็นงานเลี้ยงเล็กๆ ไม่ได้จ้างออแกไนซ์จัดงาน แล้วทีนี้ลูกค้าอยากใช้นกกระดาษตกแต่งสถานที่ คุณพบเลยจะทำให้เป็นพิเศษค่ะ”“อ๋อ...แบบนี้นี่เอง งั้นติ๊บขอไปพับนกช่วยได้ไหมคะ ติ๊บอยากทำงานบ้าง นั่งอยู่เฉยๆม
“หกเดือนเหมือนเดิมก็ได้ แต่พี่ต่ายต้องบอกมาก่อนว่าคิดถึงน้องกระติ๊บคนสวยมากแค่ไหน” ยายตัวแสบของพี่ชายได้ทีรีบต่อรอง“คิดถึงที่สุดในจักรวาล พอใจหรือยัง”พลอยชมพูยิ้มกับคำตอบ ที่จริงอยากจะบอกเล่าอะไรหลายๆอย่างให้พี่ชายฟัง แต่ก็กลัวเขาจะเป็นห่วง หญิงสาวจึงทำเพียงแค่ยิ้มกับโทรศัพท์ แล้วตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงสดใสร่าเริง เพื่อไม่ให้พี่ชายต้องกังวลใจ“ติ๊บรักพี่ต่ายนะคะ แล้วก็คิดถึงที่สุดในจักรวาลเหมือนกันค่ะ” พลอยชมพูคิดถึงพี่ชายจริงๆ ยิ่งเวลาเจ็บตัวแบบนี้ เธออยากอ้อนอยากให้พี่มาดูแล ถ้าพี่กระต่ายรู้ว่าเธอเจ็บขนาดนี้ พี่ชายของเธอคงรีบมารับกลับบ้านแน่ๆ ดังนั้น เธอจะให้พี่กระต่ายรู้เรื่องนี้ไม่ได้เด็ดขาด“ถ้าคิดถึงกันขนาดนั้น ให้ผมไปส่งที่กรุงเทพไหม” พบรักว่าขณะที่วางร่างบางลงบนโซฟาในห้องโถงของบ้าน“ไปส่งทำไมคะ เราคุยกันรู้เรื่องแล้ว” พลอยชมพูนิ่วหน้ามองเจ้านายด้วยความแปลกใจ“ก็ไม่รู้สิ” พบรักยักไหล่ ถ้าจะบอกว่าอาการของเขาตอนนี้เหมือนคนเหม็นความรัก เขายอมรับเลยว่าใช่“คู่รักห่างกันแค่วันสองวันก็คงตรอมใจ” เมื่อวางหญิงสาวลงเรียบร้อยแล้ว พบรักก็ผ
“คุณต้องไปโรงพยาบาล ต้องเย็บแผล ต้องฉีดยา ถ้าไม่เชื่อฟังกันก็กลับบ้านไปเลย ผมไม่จ้างคนขี้กลัวไร้เหตุผลทำงานด้วย”“อื้อ! ฮึกๆ” สองมือของพลอยชมพูขยุ้มเสื้อเชิ้ตช่วงอกของคนที่ยืนอยู่ข้างเตียงไว้แน่น หญิงสาวซุกหน้ากับอกกว้าง หลับตาปี๋ น้ำตาไหลตลอดเวลา จนเสื้อของคนที่เธออาศัยซุกหน้าอยู่เปียกปอน หญิงสาวสะดุ้งทุกครั้งที่คุณหมอลงเข็มเย็บแผลให้สดๆ เพราะเธอปฏิเสธการฉีดยาชา หญิงสาวให้เหตุผลว่า ถ้าฉีดยาชาก็เท่ากับว่าเธอต้องถูกหมอแทงเข็มเพิ่มอีกหนึ่งเข็ม“หมอเย็บแผลให้เรียบร้อยแล้วนะครับ เดี๋ยวพยาบาลจะมาฉีดยาบาดทะยักให้ คุณจำไม่ได้ว่าเคยฉีดวัคซีนบาดทะยักครั้งล่าสุดเมื่อไร ดังนั้นจะต้องฉีดยาสามเข็มนะครับ เข็มแรกวันนี้ แล้วอีกหนึ่งเดือนให้มาฉีดเข็มที่สอง ส่วนเข็มที่สามให้มาฉีดหลังจากฉีดเข็มที่สองไปแล้วหกเดือนนะครับ หมอจะเขียนใบนัดให้นะครับ”คนกลัวเข็มช็อกซีนีม่าไปตั้งแต่ที่หมอบอกว่าต้องฉีดยาตั้งสามเข็มแล้ว พลอยชมพูไม่มีกะจิตกะใจฟังหรอกว่าคุณหมอพูดอะไรบ้าง หญิงสาวร้องไห้สะอึกสะอื้นกับอกกว้าง ส่ายหน้าไปมาเร็วๆ ที่จริงอยากกรีดร้องโหยหวนออกมาให้สาแก่ใจด้วยซ้ำ ถ้าไ
“ค่ะ น้าจบบอกว่าจะแวะมารับค่ะ” พลอยชมพูบอกแล้วนั่งลงบนเสื่อ“ไปกับผมก็ได้ จะพาไปแนะนำให้พนักงานในห้องครัวรู้จักด้วย”“ได้ค่ะ คุณพบรอแป๊บนะคะ ติ๊บขอไปใส่รองเท้าก่อน” ร่างสมส่วนรีบลุกขึ้นเดินเท้าเปล่ากระย่องกระแย่งเพื่อไปสวมรองเท้าที่ถอดอยู่ไกลๆ พบรักมองตามแล้วส่ายหน้า กะเปิ๊บกะป๊าบแบบนี้เดี๋ยวก็ได้หกล้มเหมือนตอนนั้นอีกหรอก“โอ๊ย!” เสียงอุทานของหญิงสาวกับการทรุดตัวลงนั่งทันทีทำให้พบรักที่มองตามหญิงสาวทุกฝีก้าวรีบวิ่งเข้าไปหาเธอ“เป็นอะไร” ชายหนุ่มนั่งลงใกล้ๆแล้วถามน้ำเสียงติดดุ เพราะเขาคิดว่าเธอเดินไม่ระวัง“เหยียบอะไรก็ไม่รู้ค่ะ” พลอยชมพูนั่งพับเพียบอยู่กับพื้นดินร้อนระอุ หญิงสาวหงายฝ่าเท้าขึ้นมาดู เลือดสีแดงสดเลอะเต็มฝ่าเท้าขาวๆ ทั้งมีเศษดิน เศษใบไม้ และมีเศษขี้วัวติดอยู่ด้วยพบรักกวาดสายตามองบริเวณที่หญิงสาวนั่งอยู่ แล้วเขาก็พบเศษแก้วชิ้นใหญ่อยู่ใกล้ๆ แถมยังมีรอยเลือดติดอยู่เล็กน้อยด้วย“เหยียบเศษแก้ว แผลน่าจะลึกพอสมควร” ชายหนุ่มคาดคะเนเอาจากเลือดที่ไหลออกมาค่อนข้างเยอะ พอเขาเงยขึ้นมองหน้าคนเหยียบเศษแก้วก็เห็นเธอทำหน้าตาบิดเบ้ น้ำตาร
สายลมเย็นพัดโชยมาเอื่อยๆ จากที่คิดว่าจะนอนเล่นๆ พอได้เหยียดตัวนิดหน่อย ดวงตาคู่สุกใสก็เริ่มหรี่ปรือลงจนเกือบปิด แต่แล้วก็ต้องเบิกกว้างขึ้นทันทีเพราะเสียงห้าวที่ดังขึ้นเหนือศีรษะ“นี่มาทำงานหรือว่ามาพักผ่อนกันแน่”พลอยชมพูดีดตัวลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็ว หญิงสาวเงยหน้ามองคนที่ยืนค้ำหัวอยู่ด้วยสายตาไม่พอใจเท่านัก เขาจะพูดดีๆไม่ได้หรือยังไงนะ ทำไมต้องตะคอกเสียงดังด้วย นี่ถ้าเกิดเธอเป็นโรคหัวใจอยู่นะ ป่านนี้คงหัวใจวายตายไปแล้ว“มาทำงานค่ะ งานเสร็จแล้วเลยมานั่งพัก”“ที่เห็นเมื่อกี้เรียกนั่ง?”กรามเล็กขบกันดังกึก อยากเถียงใจจะขาด แต่ก็ได้แต่ท่องเอาไว้ในใจว่าเขาคือเจ้านาย คือคนที่เธอมาขอทำงานด้วย เขาเป็นคนจ่ายค่าแรงตลอดหกเดือนที่เธอจะไม่ได้รับเงินเดือนจากพี่ชาย เพราะพี่กระต่ายอ้างว่าหากไม่อยู่ทำงานที่บริษัทด้วย ก็จะไม่จ่ายเงินเดือนให้ เงินเก็บส่วนอื่นก็ห้ามเบิกมาใช้ และห้ามขอเงินคุณพ่อคุณแม่เด็ดขาด บัตรเอทีเอ็ม บัตรเครดิต และสมุดบัญชีเงินฝากทุกประเภทในนามเธอ ถูกพี่กระต่ายยึดไว้หมดเลย แต่พี่ชายแสนดีของเธอก็ยังพอมีน้ำใจอยู่บ้าง ด้วยการให้เงินสดติดตัวมาหนึ่งหมื
น้ำเสียงสดใสกังวานทว่าสุภาพอย่างที่ผู้มีอายุน้อยกว่าพึงใช้กับผู้ใหญ่ ทั้งยิ้มหวานและแววตาจริงใจ กอปรกับใบหน้าอ่อนใสน่ารักของหญิงสาว ทำให้ลำดวนนึกเอ็นดูลูกจ้างคนใหม่ของเจ้านายจนหมดใจ“ทานข้าวก่อนเถอะค่ะ เสร็จแล้วพี่จบจะมารับไปทำงานนะคะ”“ค่ะ” พลอยชมพูรับคำกระตือรือร้น เธอจะได้เริ่มทำงานจริงจังแล้ว งานที่ออกจากกรอบเดิมๆที่เห็นมาตั้งแต่เด็ก แค่คิดก็สนุกแล้ว“เอ่อ...ทำปุ๋ยคอกหมักหรือคะ” พลอยชมพูถามคนที่ขับรถกระบะพาเธอมาถึงโรงเรือนเพาะชำกล้าไม้ของรีสอร์ต ซึ่งอยู่เกือบสุดเขตพื้นที่รีสอร์ตห้าสิบกว่าไร่“ใช่ครับ วันนี้คุณพบบอกว่าให้คุณกะติ๊บเริ่มทำงานในสวนเป็นลำดับแรกครับ” ประจบบอกขณะที่เดินนำลูกจ้างคนใหม่ไปยังบริเวณที่เตรียมวัสดุอุปกรณ์ทำปุ๋ยคอกหมักไว้แล้ว“แล้วทำไมเราต้องหมักด้วยล่ะคะ ปุ๋ยคอกพอได้มาแล้วก็เอาไปใส่แปลงผักหรือต้นไม้เลยไม่ได้หรือคะ” “ปุ๋ยคอกสดๆยังเอาไปใช้ไม่ได้ครับ เพราะมันยังไม่ผ่านกระบวนการย่อยสลาย เวลาเราเอาปุ๋ยคอกสดๆไปใส่ต้นไม้เลย จุลินทรีย์ในดินจะดึงไนโตรเจนจากต้นไม้มาช่วยในการย่อยสลายปุ๋ยคอก แท
“เดี๋ยวลำดวนไปเอายาดมมาให้นะคะ เผื่อจะดีขึ้น คุณรอสักครู่นะคะ”ลำดวนลุกไปแล้ว จึงเหลือเพียงสองหนุ่มสาว พบรักถอนใจแรง มองคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ด้วยสายตาดูแคลนพลอยชมพูนึกโมโหร่างกายตัวเอง น่าขายหน้าชะมัด กะอีแค่นั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซด์คันใหญ่มาแค่ไม่กี่นาทีก็ถึงกับต้องเมารถ ยิ่งพอเหลือบตาขึ้นสบสายตาคนตัวโตที่ยืนจังก้าอยู่ตรงหน้าด้วยแล้ว หญิงสาวก็ชักฉุน เขาต้องกำลังเยาะเย้ยเธออยู่ในใจแน่ๆ คนอย่างพลอยชมพูเสียอะไรไม่ว่า แต่จะเสียหน้าไม่ได้นะ“จะไปไหน” เมื่อเห็นคนตัวเล็กขยับทำท่าจะลุกขึ้น พบรักจึงเอ่ยถามเสียงเข้ม ก็เห็นบอกว่าเวียนหัว ยังจะลุกขึ้นอีก ไม่รู้จักเจียมสังขารตัวเองบ้างเลย“จะไปห้องพักค่ะ อยู่ทางไหนคะ” พลอยชมพูฝืนลุกขึ้นยืนทั้งที่เวียนหัว ตาพร่ามัว มองเห็นภาพเบลอทับซ้อนไปหมด แต่ถ้าให้เธอเลือกระหว่างฝืนเดินไปพักผ่อนที่ห้องพัก กับนั่งอยู่ตรงนี้ให้เขามองด้วยสายตาสมเพชเวทนา เธอขอเลือกอย่างแรกดีกว่า“อยู่ชั้นบน เดินไหวหรือ” น้ำเสียงเยาะเย้ยอยู่ในทีทำให้คนเมารถมีแรงฮึดพลอยชมพูไม่ตอบ หญิงสาวมองไปยังบันไดที่อยู่ไม่ไกล เธอเดินช้าๆตรงไปยังจุดหมาย
“จับดีๆ ระวังตก” พบรักคร้านจะเถียงกับคนปากดีแล้ว เพราะตั้งแต่ค่ำมานี่เขาวุ่นวายแต่กับเธอคนเดียวจนไม่เป็นอันต้องทำอะไร“ว้าย!” พลอยชมพูรีบโน้มตัวไปกอดคนขับแทบไม่ทัน เมื่อคนที่เพิ่งบอกเธอว่าให้จับดีๆขับรถออกตัวอย่างรวดเร็วจนเธอแทบหงายหลัง หญิงสาวเกร็งไปทั้งตัว เธอกลัวตก กลัวเขาจะพารถล้ม เรียวขาเสลาหนีบแนบอยู่กับต้นขาแกร่งทั้งสองข้าง เธอรับรู้ถึงการขยับของกล้ามเนื้อต้นขาในตอนที่เขาเปลี่ยนเกียร์ทุกครั้ง ยิ่งเขาเพิ่มความเร็วมากขึ้นเรื่อยๆ เธอก็กอดกระชับเขาแน่นยิ่งขึ้นเช่นกัน สองร่างแนบชิดจนรู้สึกได้ถึงไออุ่นของกันและกัน ทว่าพลอยชมพูไม่คิดใส่ใจ หญิงสาวแนบแก้มกับแผ่นหลังกว้าง หลับตาปี๋ไม่กล้ามองอะไรทั้งนั้น ในใจก็ได้แต่ภาวนาขอให้กลับถึงรีสอร์ตอย่างปลอดภัยใช้เวลาสิบห้านาทีพบรักก็พาคนงานใหม่กลับมาถึงรีสอร์ต ชายหนุ่มถอดหมวกกันน็อกออก แล้วถอนหายใจอย่างหงุดหงิด ก่อนเบี่ยงหน้าไปบอกคนที่ยังคงนั่งกอดเอวเขาไว้แน่น แม้ว่าเขาจะจอดรถและดับเครื่องแล้วก็ตาม“ลงไปได้แล้ว”เสียงห้วนติดดุทำให้พลอยชมพูลืมตาขึ้นทีละข้าง คิ้วเรียวขมวดมุ่น เมื่อเห็นภาพวิวทิวทัศน์ชัดเจน ไม่ได้เป็นภา
พลอยชมพูนั่งรอจนถึงสองทุ่มก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะมีรถมารับ หญิงสาวเริ่มกระวนกระวาย มองซ้ายขวาด้วยความระแวง แสงไฟนีออนหลอดเดียวภายในเพิงพักที่ติดๆดับๆยิ่งทำให้เธอขวัญผวา ผู้คนเริ่มบางตาจนแทบไม่เหลือใคร แม่ค้าแม่ขายเข็นรถกลับบ้านไปจนหมดแล้ว ตึกแถวขนาดสี่คูหาที่มีร้านขายของชำเล็กๆเพียงร้านเดียวก็เลื่อนประตูเหล็กปิดหนีเธอไปแล้วด้วย มือเรียวสวยล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าถือ พลอยชมพูตัดสินใจโทรหาพบรักอีกครั้ง เธอไม่ได้คิดจะเร่งเขา แต่อย่างน้อยก็ขอให้ได้รู้ว่าเขาไม่ได้ลืมที่รับปากเธอไว้ว่าจะส่งคนมารับเธอที่นี่ หญิงสาวโทรหาเขาถึงสามครั้ง ทว่าคนที่เธอโทรหากลับไม่ยอมรับสาย ใบหน้าน่ารักเริ่มฉายแววกังวลชัดเจนขึ้น ขณะที่หญิงสาวนั่งรอนายจ้างส่งคนมารับอยู่ด้วยความเป็นกังวลอยู่นั้น ก็มีจักรยานยนต์ที่ดัดแปลงแต่งท่อให้มีเสียงดังเกินที่กฎหมายกำหนดแล่นผ่านเพิงพักผู้โดยสารไปอย่างรวดเร็ว แต่เพียงครู่เดียวมันก็วกกลับมาจอดตรงหน้าเธอ สัญชาตญาณระวังภัยทำให้พลอยชมพูกอดกระเป๋าเป้ใบใหญ่แนบอกแล้วรีบลุกขึ้นยืนท