“เรียบร้อยดีไหม”
“มีปัญหานิดหน่อยครับคุณโย” วัลลภตอบไม่เต็มเสียง ก้มหน้าหลบสายตาเจ้านาย ด้วยเพราะทำงานกับเจ้านายหนุ่มมานาน เขาจึงรู้ดีว่า คำว่าปัญหานั้นไม่ควรเกิดขึ้น ไม่ว่าจะนิดหน่อยหรือใหญ่โตก็ตาม แล้วยิ่งมาเกิดกับผู้หญิงของเจ้านายด้วยแล้ว ยิ่งเป็นเรื่องไม่สมควรอย่างยิ่ง
“ว่ามา” วาโยหันหลังให้คนสนิท เขาเดินห่างออกไปเพื่อสงบสติอารมณ์ ชายหนุ่มไม่ชอบใจที่มีปัญหาเกิดขึ้นกับแผนการที่เขาวางไว้อย่างรัดกุม ร่างสูงสมาร์ตเดินไปหยุดอยู่ริมแม่น้ำ ล้วงมือสองข้างลงในกระเป๋ากางเกง สายตาคมคมกริบกวาดมองไปทั่วบริเวณ เขาจดจำรายละเอียดทุกอย่างที่ผ่านเข้ามาในครรลองสายตาได้อย่างแม่นยำ มันคือนิสัยและความเคยชินของผู้ที่ผ่านการฝึกฝนทักษะการต่อสู้ชั้นสูงมาอย่างหนัก
“มีคนตัดหน้า เขาให้ราคาสูงกว่าครับ” วัลลภบอกด้วยน้ำเสียงกริ่งเกรง เขาเดินตามเจ้านายไปห่างๆ และหยุดยืนในระยะที่ไม่ใกล้และไม่ไกลจนเกินไป
“แล้วไง” วาโยถามกลับเสียงราบเรียบโดยไม่หันกลับไปมองลูกน้อง
“เอ่อ...”
“นายรู้ว่าต้องทำยังไง ไปทำให้สำเร็จก่อนที่ฉันจะไปถึงที่นั่น”
เป็นไปตามที่วัลลภคาดไว้ว่าเจ้านายยอมทุ่มไม่อั้น และยอมทำทุกวิถีทางเพื่อให้งานนี้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี แต่ที่เขาต้องมารายงานให้เจ้านายทราบก่อน ก็เพราะจำนวนเงินที่จะใช้นั้น สูงกว่าที่เคยพูดคุยและประมาณการกันไว้
“ครับ คุณโย” วัลลภรับคำ ก่อนหันหลังเดินกลับออกไปจากบริเวณนั้นทันที เมื่อได้รับคำยืนยันจากผู้เป็นนายว่าภารกิจนี้ต้องสำเร็จเท่านั้น ไม่ว่าจะต้องใช้วิธีการใดและใช้เงินเท่าไรก็ตาม
“กระเต็น ตื่นได้แล้วครับ”
วาโยนั่งลงบนโซฟาเบด ข้างๆคนที่งอแงว่าไม่อยากนอนในคราแรก ทว่าตอนนี้คนไม่อยากนอนกลับนอนหลับตาพริ้ม รอยยิ้มระบายเต็มใบหน้าหวานซึ้ง เธอกำลังมีความสุขในห้วงนิทรา เขาเรียกหลายครั้งแล้วก็ไม่ยอมตื่น
“เต็นครับ” วาโยก้มลงกระซิบเรียกชิดใบหูขาว เขาอมยิ้มเมื่อคนขี้เซาขยับตัวพลิกกายนอนตะแคงหันหลังให้เขา
“เต็น” วาโยเรียกอีกครั้ง แต่เจ้าของชื่อไม่มีวี่แววว่าจะรู้สึกตัว เมื่อเธอไม่ตื่น เขาก็นึกอยากแกล้ง ชายหนุ่มโน้มใบหน้าลงจนชิดแก้มนวล ลักหอมแก้มคนหลับไม่รู้เรื่องฟอดใหญ่
พลอยไพลินขยับตัวเล็กน้อย ดวงตาคู่งามกะพริบถี่ สมองเริ่มตื่นตัวทีละนิด กระทั่งตื่นเต็มที่ และรู้ตัวว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหน หญิงสาวก็รีบลุกขึ้นนั่ง
“พี่โย!” พลอยไพลินกระถดตัวหนีคนเจ้าเล่ห์ เห็นรอยยิ้มกรุ้มกริ่มไม่น่าไว้ใจนั่นแล้ว หญิงสาวก็นึกถึงสัมผัสอุ่นวาบที่แนบลงบนแก้มเธอเมื่อครู่
“พี่โยแอบหอมแก้มเต็น” มือบางยกขึ้นกุมแก้มข้างที่โดนลักหอม ปากจิ้มลิ้มยื่นน้อยๆไม่พอใจ สายตาดุเอาเรื่องมองเขาด้วยความหงุดหงิด
“แอบอะไรกัน พี่ก็หอมตรงๆนี่แหละ ไม่ได้แอบสักหน่อย ลุกขึ้นไปล้างหน้าหน่อยไหม น้ำลายเปรอะเต็มแก้มเลย กลิ่นยังติดจมูกพี่อยู่เลยเนี่ย” วาโยย่นจมูก แล้วทำท่าเอานิ้วชี้มาถูจมูกสองสามที
“อ๊าย! เต็นไม่เคยนอนน้ำลายยืดนะ พี่โยอย่ามากล่าวหา”
“แล้วมีกลิ่นน้ำลายติดแก้มได้ยังไง”
“ไม่มีหรอก ไม่ต้องมาอำ” พลอยไพลินเถียงหน้าแดงหน้าดำ
“มีสิ ก็พี่ได้กลิ่น”
“ไม่มี นี่ไง เต็นดมมือดูแล้ว ก็ไม่เห็นจะมีกลิ่นอะไรสักหน่อย” พลอยไพลินถูกแก้มเบาๆ แล้วเอามือมาดม หญิงสาวเงยหน้าเถียงเขาด้วยความมั่นใจ
“จริงเหรอ ไหน...ขอพี่พิสูจน์กลิ่นอีกทีซิ” วาโยโน้มใบหน้าเข้าใกล้แก้มนวล แต่ดูเหมือนพลอยไพลินจะจับไต๋เขาได้ หญิงสาวรีบยกสองมือขึ้นปิดปากกับจมูกของเขา แล้วยันไว้สุดแรง
“ไม่ต้องมาขี้โกง”
วาโยหัวเราะในลำคอ สายตาคมวาววับจับจ้องดวงหน้าน้องนิ่ง
“เอ่อ...กี่โมงแล้วคะ” เมื่อเขาเอาแต่จ้อง พลอยไพลินก็ต้องหาทางออกให้ตัวเอง จ้องกันขนาดนี้ ถ้าเป็นปลากัด เธอคงตั้งท้องไปแล้ว
“เรามีเวลาอีกสี่สิบห้านาทีครับ”
“งั้นเต็นขอไปล้างหน้าหน่อยดีกว่า เราจะได้ออกไปเลย พี่โยขยับออกไปสิคะ เต็นจะเข้าห้องน้ำ”
วาโยตัดใจจากแก้มสาว ยอมลุกขึ้นยืนแต่โดยดี ที่จริงเขาอยากหอมแก้มน้องอีกสักฟอด เมื่อกี้ยังไม่ชุ่มปอดเลย ทว่าใกล้เวลานัดคุยงานของน้องแล้ว เขาจะมามัวแต่โอ้เอ้กับแก้มนวลไม่ได้ เดี๋ยวน้องจะเสียการเสียงาน
พลอยไพลินลุกจากโซฟา รีบเดินไปยังห้องน้ำ เพื่อจัดการตัวเองให้เรียบร้อย แม้หัวใจจะเต้นระรัวแรง เพราะสัมผัสจากปลายจมูกโด่งยังทิ้งความอุ่นร้อนไว้บนแก้ม แต่เธอก็ต้องเก็บอาการไว้ ไม่ให้เขาได้ใจ ว่าทุกสัมผัสจากเขาสร้างความปั่นป่วนให้เธอได้เสมอ
สองหนุ่มสาวมาถึงเหมืองพลอยก่อนเวลานัดสิบนาที นิตยามารออยู่ก่อนแล้วกับวัลลภและทีมบอดี้การ์ดอีกสองคน เมื่อเห็นเจ้านายสาวลงมาจากรถ นิตยาก็รีบเดินเข้าไปหาทันที
“คุณเต็นคะ เจ้าของเหมืองไปที่ร้านแล้วค่ะ” นิตยารีบรายงานให้เจ้านายได้ทราบ เพราะตอนแรกเธอได้ติดต่อประสานงาน นัดเวลาการเจรจาซื้อขายพลอยไว้ที่เหมืองแห่งนี้ ทว่าพอมาถึงที่นี่ กลับพบว่าเจ้าของเหมืองไม่อยู่ คนงานในเหมืองบอกว่า เถ้าแก่ของพวกเขาให้ไปพบเพื่อตกลงราคากันใหม่ที่ร้านพลอยในตัวอำเภอบ่อพลอย
“เรานัดเขาไว้ที่นี่ไม่ใช่เหรอคะคุณนิด”
“เอ่อ...ค่ะ นิดกำลังคิดว่าเขาอาจจะตุกติกเรื่องราคานิดหน่อย เพราะไพลินขนาดแปดกะรัตน้ำดีสีสวยแบบนั้นไม่ได้หาได้ง่ายๆ อีกอย่างนิดได้ข่าวมาว่า มีคุณหญิงซึ่งเป็นภรรยาอดีตนายทหารใหญ่อยากได้และพร้อมสู้ราคาด้วยค่ะ เขาอาจจะต้องการโก่งราคา” นิตยารายงานด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก
“เต็นจะเอาพลอยเม็ดนั้นค่ะ” พลอยไพลินบอกหนักแน่น ก่อนจะหันไปหาบอดี้การ์ดส่วนตัวของตน
“พี่โยคะ เราต้องไปที่ร้านในตัวอำเภอค่ะ เต็นอยากให้คุณนิดนั่งรถไปกับเต็น มีบางอย่างที่เราต้องพูดคุยกันก่อนไปถึงร้าน”
“ครับ” วาโยรับคำน้ำเสียงสุภาพ ต่อหน้าคนอื่นเขาวางตัวได้อย่างเหมาะสม ให้เกียรติพลอยไพลินในฐานะญาติผู้น้อง เขาไม่เคยทำให้น้องต้องเสื่อมเสีย ชายหนุ่มหันไปทางวัลลภ ซึ่งลูกน้องผู้รู้ใจพยักหน้ารับทราบ เขาเดินเข้ามารับกุญแจรถจากผู้เป็นนาย แล้วเดินไปสั่งงานทีมบอดี้การ์ดอีกสองคนที่ยืนอยู่ไม่ไกล
วัลลภรับหน้าที่ขับรถของเจ้านาย นิตยานั่งเบาะด้านหน้าหน้าคู่คนขับ พลอยไพลินจำใจต้องนั่งคู่กับบอดี้การ์ดผู้อ้างว่า เขาต้องการดูแลเธออย่างใกล้ชิด ไม่อยากให้มีข้อผิดพลาดในการดูแลเธอ“มีร้านไหนที่มีพลอยไซซ์นี้อีกไหมคะคุณนิด”“ไม่มีเลยค่ะคุณเต็น อย่างที่รู้กันว่าไพลินไซซ์ใหญ่ขนาดนี้แทบหาไม่ได้แล้ว ตอนนี้มีที่ร้านนี้ร้านเดียวเท่านั้นค่ะ” นิตยาเบี่ยงตัวมาคุยกับเจ้านาย ผู้จัดการแผนกจัดซื้อมีสีหน้าไม่สู้ดีเท่าไรนัก เพราะพลอยเม็ดสวยที่มั่นใจว่าจะได้กลับไปทำเครื่องประดับเพื่อส่งเข้าประกวดงานอัญมณีและเครื่องประดับประจำปี กลับเกิดมีปัญหาขึ้นมาเสียได้ อีกทั้งดีไซเนอร์ของบริษัทได้ออกแบบเครื่องประดับไว้เรียบร้อยแล้ว ที่ประชุมก็มีมติเป็นเอกฉันท์ว่าจะใช้เครื่องประดับเซตนี้ส่งเข้าประกวด แต่หากไพลินเม็ดนี้หลุดลอยไป ทุกอย่างจะต้องเริ่มต้นใหม่จากศูนย์ และอาจจะส่งเข้าประกวดไม่ทัน“แล้วเม็ดเล็กที่เราสั่งไว้ล่ะคะ เขามีปัญหาอะไรไหมคะ”“ไม่มีค่ะ เขาจัดเตรียมไว้ให้เราตามที่สั่ง พร้อมกับใบรับรองเรียบร้อยแล้วค่ะ”พลอยไพลินถอนหายใจเฮือกใหญ่ หนักใจไม่น้อยกับสถานการณ์ที่กำลังเผชิญอ
“ทำไมต้องเป็นเต็นด้วยล่ะพี่ต่าย ให้คนอื่นไปไม่ได้เหรอ” “ไม่ได้!” เสียงเข้มดุของพี่ชายที่เกิดก่อนเกือบสี่ปีทำให้พลอยไพลินหน้าหงิกงอลงทันที หญิงสาวลุกจากเก้าอี้เดินอ้อมโต๊ะทำงานตัวใหญ่ไปหยุดยืนข้างพี่ชาย ผู้ซึ่งเอาแต่ก้มหน้าสนใจงานในมือ ไม่สนใจว่าน้องสาวจะพอใจหรือไม่พอใจกับงานที่เขามอบหมายให้ พลอยไพลินนั่งคุกเข่าลงบนพื้น สองมือเกาะพนักเก้าอี้ตัวใหญ่ไว้แน่น หญิงสาวเงยหน้ากะพริบตาปริบๆมองพี่ชาย ดวงตาเป็นประกายวิ้งๆ ริมฝีปากจิ้มลิ้มยื่นน้อยๆ และปั้นหน้าเศร้าให้ดูน่าสงสาร “พี่กระต่ายขา...” เสียงอ้อนหวานเจี๊ยบจนน่าขนลุกทำให้เพชรนิลมองน้องสาวอย่างไม่ไว้วางใจ ชายหนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขายกมือขึ้นกอดอก แล้วเอนกายพิงพนักเก้าอี้หลุบตามองคนลงทุนคุกเข่าอ้อนด้วยสายตาไม่เชื่อถือ “อย่ามาอ้อนเสียให้ยาก พี่ไม่ใจอ่อนหรอก” เพชรนิลบอกเสียงเข้ม แล้วขยับนั่งตัวตรงตามเดิม สายตาคมจ้องมองงานบนหน้าจอโน้ตบุ๊กตรงหน้า ไม่ชำเลืองแม้หางตาดูน้องสาวที่นั่งหน้าเศร้าอยู่ที่เดิมไม่ยอมขยับไปไหน “พี่กระต่ายขา...” พลอยไพลินยังคงเกาะพนักเก้าอี้ไว้ไม่ยอมปล่อย ห
“มีเรื่องอะไรหนักใจ กระเต็นบอกพี่ได้นะครับ พี่ยินดีรับฟัง และเต็มใจเป็นที่ปรึกษาให้” ภาสกรยื่นมือออกไปกุมมือบางที่วางอยู่บนโต๊ะ เขาบีบเบาๆ มองหญิงสาวด้วยสายตาหวานเชื่อม พลอยไพลินยิ้มแหยๆกับการถึงเนื้อถึงตัวเธอของเขา หญิงสาวชักมือกลับช้าๆ ไม่ให้เป็นการดูเสียมารยาท “ขอบคุณพี่กรนะคะ แต่ไม่เป็นไร เต็นทำได้แน่นอนค่ะ” พลอยไพลินค่อยๆเลื่อนสองมือลงจากโต๊ะวางไว้บนตัก ซุกซ่อนมันจากการฉวยโอกาสของเขาภาสกรมองตามอย่างแสนเสียดาย เพราะแม้ว่าพลอยไพลินจะยอมรับนัดเขาบ่อยๆ หรือกระทั่งเธอเป็นคนนัดเขาเอง แต่หญิงสาวก็ไม่เปิดโอกาสให้เขาได้แตะเนื้อต้องตัวเลย แม้เธอจะดูเป็นปาร์ตี้เกิร์ลแต่เธอก็ไว้ตัวราวกับนางพญา“น้องกระเต็นของพี่เก่งอยู่แล้ว พี่เชื่อว่าทุกอย่างต้องผ่านไปด้วยดีแน่นอน”“ค่ะ” พลอยไพลินยิ้มแหยอีกครั้งกับคำว่า น้องกระเต็นของพี่ อยากจะถามเขาเหลือเกินว่า ฉันไปเป็นของคุณตั้งแต่เมื่อไรกันยะ เธอรู้สึกว่า คิดผิดเสียแล้วที่เลือกโทรหาอีตานี่ให้มาเป็นเพื่อนกินข้าวฟังเพลงตอนแรกๆที่ผู้ใหญ่แนะนำให้รู้จักกันก็เห็นเขาเป็นสุภาพบุรุษ ให้เกียรติ ไม่เคยแตะเนื้อต้องตัวเธอ เธอก็เลยไว้ใจ
“โกหกใช่ไหม” คิ้วเข้มเลิกสูงเป็นเชิงถาม พลอยไพลินส่ายหน้าเร็ว “โกหกอะไร เต็นไม่ได้โกหกนะคะ เรารีบออกไปดูที่ลานจอดรถกันเถอะค่ะ เผื่อโจรมันจับยัยติ๊บไปด้วย” วาโยส่ายหน้าน้อยๆ แล้วถอนหายใจ ชายหนุ่มใช้นิ้วชี้เคาะสองครั้งเบาๆที่ข้างใบหูตนเอง ขณะที่สายตาดุไม่ละไปจากใบหน้าของคนที่เริ่มมีเหงื่อซึมออกมาตามมือ พลอยไพลินเบิกตากว้างเมื่อเห็นหูฟังแบบไร้สายที่เชื่อมต่อกับวิทยุสื่อสารติดอยู่กับใบหูเขา หญิงสาวถอยหลังไปสองก้าว มองซ้ายขวาหาทางหนีทีไล่ “เอ่อ...ลูกน้องพี่โยว่าไงบ้างคะ จะ...จับโจรได้แล้วใช่ไหมคะ” วาโยส่งเสียงหึในลำคอ ก้าวเท้าเข้าหาร่างบอบบางในชุดราตรีเกาะอกยาวกรอมเท้าสีเข้ม ใบหน้าสวยที่ถูกแต่งแต้มให้ดูสวยเด่นกว่ายามปกติปกปิดความซีดเผือดของสีหน้าได้เป็นอย่างดี หากแต่แววตาหลุกหลิกของคนทำผิดกลับแสดงออกชัดเจนว่ามีเรื่องปิดบังอยู่ “พี่รู้ว่ากระเต็นโกหกตั้งแต่เดินยังไม่ถึงห้องนี้ด้วยซ้ำ ลูกน้องพี่รายงานมาแล้วว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี” วาโยบอกเสียงเข้ม ใบหน้าเรียบเฉยไร้การแสดงออกซึ่งอารมณ์ใดๆของเขาทำให้พลอยไพลินหายใจไม่ทั่วท้อง “เต็นไม่ได้โกหก” “หลอกพี่
กรี๊ด! ที่ไหนก็ไม่ได้ คนหน้ามึน คนเอาแต่ใจ ตัวไม่ใช่แฟนเค้านะ จะมาจูบเค้าเอาแต่ใจแบบนี้ไม่ได้ พลอยไพลินกรีดร้องอยู่ในใจ เธอเป็นสาวมั่น ออกจะก๋ากั่นในสายตาคนอื่นด้วยซ้ำ แต่ไม่รู้ทำไมเธอถึงกลับกลายเป็นสาวน้อยไร้ความมั่นใจทุกครั้งที่อยู่ใกล้เขา พี่โยทำให้เธอไม่เป็นตัวของตัวเอง เขาทำให้เธอหงอ จนพ่อแม่พี่น้องหรือใครๆต่างก็คิดว่าเขาเป็นพี่ชายที่เก่งทำให้เธอเชื่อฟังได้ ขนาดพี่ชายแท้ๆของเธอยังยอมให้เขาจัดการเธอได้ตามแต่เห็นสมควรเลย ทุกคนเชื่อใจเขาจนเธอหมั่นไส้ เธออยากจะเปิดโปงความจริงว่าเขาไม่ใช่พี่ชายที่แสนดี เขาเป็นพี่ชายที่คิดไม่ซื่อกับน้องสาวอย่างเธอต่างหาก“พี่โยขยับไปนั่งดีๆสิคะ จะมานั่งเบียดเต็นทำไม” แม้ในใจจะเดือดปุดๆ แต่พลอยไพลินพยายามใช้น้ำเย็นเข้าลูบ พูดกับเขาดีๆ“จุ๊บพี่ทีหนึ่งก่อน แล้วพี่จะยอมทำตามที่เต็นบอก”“พี่โย!” พลอยไพลินถอนหายใจออกมาสุดแรง อยากจะเลื่อนมือขึ้นไปบีบคอเขานักวาโยเลิกคิ้วขึ้นหนึ่งข้าง เขายิ้มกรุ้มกริ่ม รอคอยด้วยความมั่นใจว่า หญิงสาวไม่มีทางปฏิเสธข้อเสนอของเขาแน่นอนพลอยไพลินถอนหายใจอีกครั้ง ก่อนจะยื่นใบหน้าเข้าใกล้ แล้วจุ๊บเบาๆที่ริมฝีปากร้อนผ่าวของคนเอาแต่ใจห
“หลับตาสิคะ” พลอยไพลินบอกเสียงสั่นน้อยๆ คนรอจูบหลับตาลงอย่างว่าง่าย วาโยยิ้มเต็มใบหน้า เมื่อร่างอรชรขยับเข้าแนบชิด สองแขนเรียวยกขึ้นคล้องคอเขาไว้ ชายหนุ่มสูดลมหายใจเข้าดื่มด่ำกำซาบกับกลิ่นหอมจากกายสาวจนชุ่มปอด และเมื่อริมฝีปากนุ่มๆอุ่นๆแนบประกบ เขาก็เผยอปากรับอย่างเต็มใจเป็นที่สุด“อื้อ!” พลอยไพลินประท้วงในลำคอ เพราะเพียงแค่เธอแตะแต้มริมฝีปากลงบนปากหยักได้รูป ก็ถูกเขาใช้มือแข็งแรงตรึงท้ายทอยไว้แน่น วงแขนอีกข้างเกี่ยวกระหวัดรวบเอวคอดเกี่ยวกอดเธอจนเกยขึ้นไปนั่งบนตักแกร่ง จูบของพี่โยเร่าร้อนราวจะแผดเผาเธอให้มอดไหม้ลงตรงนี้ จูบของเขาเรียกร้องเอาแต่ใจ หวามหวานซาบซ่านราวกับจะหลอมเธอให้ละลายคาอก กระนั้นคนที่ถูกทำโทษด้วยการจูบมานับครั้งไม่ถ้วนก็ยังจูบตอบอย่างเท่าเทียม เสียงครางระงมในลำคออีกฝ่ายทำให้หญิงสาวฮึกเหิม เขาไม่ได้ทำให้เธอหัวหมุนอยู่ฝ่ายเดียว เธอก็ทำให้เขาหัวหมุนได้เหมือนกัน“กระเต็น!” วาโยถอนจูบออกอย่างแสนเสียดาย เขาดันบ่าบอบบางออก จ้องตาเธอในระยะใกล้ ชายหนุ่มหอบหายใจหนักหน่วง เขารู้ตัวเองดีว่าถ้าไม่หยุดตอนนี้ ทุกอย่างอาจเลยเถิดไปไกลสุดกู่ เขายังไม่อยากล่วงเกินน้องมากไปกว่านี้“เก่งเ
“ต่ายให้ใครไปดูพลอยที่เมืองกาญจน์เหรอลูก” แม้จะวางมือจากการงาน ส่งมอบอำนาจและหน้าที่ให้ลูกชายคนโตดูแลทั้งหมดแล้ว แต่เพชรเพทายก็ยังติดตาม ให้คำปรึกษา และคอยถามไถ่ด้วยความเป็นห่วงอยู่เสมอ“เต็นเองค่ะคุณพ่อ” พลอยไพลินชิงตอบก่อน หญิงสาวกำลังจะอ้อนขอไม่ไปแต่ทว่า“ดีแล้ว จะได้รู้จักทำการทำงาน เรียนรู้ให้รอบด้าน” แทนที่พ่อเพชรของเธอจะเป็นห่วงเป็นใยลูกสาวที่ต้องเดินทางไปต่างจังหวัด ท่านกลับสนับสนุนแนวความคิดพี่กระต่ายน้อย เห็นดีเห็นงามไปด้วยเสียนี่ ทำให้คนที่คิดจะหาพวกต่อต้านคำสั่งพี่ชายหน้าตูมทันที“ให้น้องไปคนเดียวหรือกระต่าย” แม่กระแตถามด้วยความเป็นห่วงลูกสาว“ผมมีทีมบอดี้การ์ดไปคอยคุ้มกันน้องด้วยครับคุณแม่” เพชรนิลบอกให้มารดาคลายกังวล“แต่น้องเป็นผู้หญิง” แม่กระแตยังไม่วายแย้ง“ผมให้คุณนิตยาผู้จัดการแผนกจัดซื้อไปเป็นเพื่อนน้องครับ น้องโตแล้วนะครับคุณแม่ น้องต้องเรียนรู้งานให้รอบด้านเหมือนกับที่คุณพ่อบอกนะครับ” เพชรนิลบอกเหตุผลแก่มารดา เขาเข้าใจว่าท่านเป็นห่วงลูกสาว แต่สมควรแก่เวลาแล้วที่น้องสาวของเขาต้องเรียนรู้งานอย่างจริงจังเสียที“คุณแ
พลอยไพลินกำลังสับสนว่า เธอต้องการให้เขารับผิดชอบรอยจูบบนปากเธอก็จริง แต่เธอไม่ทันได้คิดว่าจะให้เขารับผิดชอบยังไง“กระเต็น...” วาโยเรียกปลายสายเสียงนุ่มทุ้ม“เอ่อ...กะ...ก็......”“พี่รอฟังอยู่” เมื่ออีกฝ่ายอึกอัก และเงียบไปดื้อๆ วาโยจึงเอ่ยปากเร่งเร้า เขาก็อยากรู้เหมือนกันว่าน้องอยากให้เขารับผิดชอบอย่างไร“เอ่อ...ครั้งต่อไป พี่โยต้องจูบเบาๆ แล้วก็ห้ามทำให้เป็นรอยอีก” วาโยเงยหน้าขึ้น ยิ้มกว้างกว่าเดิม ชายหนุ่มส่ายหน้า ก่อนจะตอบรับข้อเรียกร้องของแม่นกกระเต็นน้อย“ครับ...พี่สัญญาว่า ครั้งต่อไปจะจูบเต็นเบาๆ จะไม่ดูดให้ช้ำ จะไม่เม้มให้เจ็บ จะไม่กัดให้เป็นรอย”“พี่โย!” พลอยไพลินแหวเสียงสูง ใบหน้าสาวร้อนผ่าว เธอคิดผิดแล้วที่โทรมาเรียกร้องความรับผิดชอบจากเขา และเธอพลาดที่พูดถึงการจูบครั้งต่อไป นั่นหมายถึงเธอยอมรับว่ามันจะต้องมีครั้งต่อไปอีกแน่ๆ ตอนนี้เขาคงกำลังยิ้มกรุ้มกริ่มกับสิ่งที่เธอพูดไป อยากจะกัดลิ้นตัวเองให้ขาดนัก ไปพูดถึงจูบครั้งต่อไปได้ยังไงกัน“เสียงสูงเชียว ไม่ชอบจูบแบบที่พี่บอกเหรอครับ งั้นก็...จูบครั้งต่อไปของเรา ก็คงดุดันเหมือนเ
วัลลภรับหน้าที่ขับรถของเจ้านาย นิตยานั่งเบาะด้านหน้าหน้าคู่คนขับ พลอยไพลินจำใจต้องนั่งคู่กับบอดี้การ์ดผู้อ้างว่า เขาต้องการดูแลเธออย่างใกล้ชิด ไม่อยากให้มีข้อผิดพลาดในการดูแลเธอ“มีร้านไหนที่มีพลอยไซซ์นี้อีกไหมคะคุณนิด”“ไม่มีเลยค่ะคุณเต็น อย่างที่รู้กันว่าไพลินไซซ์ใหญ่ขนาดนี้แทบหาไม่ได้แล้ว ตอนนี้มีที่ร้านนี้ร้านเดียวเท่านั้นค่ะ” นิตยาเบี่ยงตัวมาคุยกับเจ้านาย ผู้จัดการแผนกจัดซื้อมีสีหน้าไม่สู้ดีเท่าไรนัก เพราะพลอยเม็ดสวยที่มั่นใจว่าจะได้กลับไปทำเครื่องประดับเพื่อส่งเข้าประกวดงานอัญมณีและเครื่องประดับประจำปี กลับเกิดมีปัญหาขึ้นมาเสียได้ อีกทั้งดีไซเนอร์ของบริษัทได้ออกแบบเครื่องประดับไว้เรียบร้อยแล้ว ที่ประชุมก็มีมติเป็นเอกฉันท์ว่าจะใช้เครื่องประดับเซตนี้ส่งเข้าประกวด แต่หากไพลินเม็ดนี้หลุดลอยไป ทุกอย่างจะต้องเริ่มต้นใหม่จากศูนย์ และอาจจะส่งเข้าประกวดไม่ทัน“แล้วเม็ดเล็กที่เราสั่งไว้ล่ะคะ เขามีปัญหาอะไรไหมคะ”“ไม่มีค่ะ เขาจัดเตรียมไว้ให้เราตามที่สั่ง พร้อมกับใบรับรองเรียบร้อยแล้วค่ะ”พลอยไพลินถอนหายใจเฮือกใหญ่ หนักใจไม่น้อยกับสถานการณ์ที่กำลังเผชิญอ
“เรียบร้อยดีไหม”“มีปัญหานิดหน่อยครับคุณโย” วัลลภตอบไม่เต็มเสียง ก้มหน้าหลบสายตาเจ้านาย ด้วยเพราะทำงานกับเจ้านายหนุ่มมานาน เขาจึงรู้ดีว่า คำว่าปัญหานั้นไม่ควรเกิดขึ้น ไม่ว่าจะนิดหน่อยหรือใหญ่โตก็ตาม แล้วยิ่งมาเกิดกับผู้หญิงของเจ้านายด้วยแล้ว ยิ่งเป็นเรื่องไม่สมควรอย่างยิ่ง“ว่ามา” วาโยหันหลังให้คนสนิท เขาเดินห่างออกไปเพื่อสงบสติอารมณ์ ชายหนุ่มไม่ชอบใจที่มีปัญหาเกิดขึ้นกับแผนการที่เขาวางไว้อย่างรัดกุม ร่างสูงสมาร์ตเดินไปหยุดอยู่ริมแม่น้ำ ล้วงมือสองข้างลงในกระเป๋ากางเกง สายตาคมคมกริบกวาดมองไปทั่วบริเวณ เขาจดจำรายละเอียดทุกอย่างที่ผ่านเข้ามาในครรลองสายตาได้อย่างแม่นยำ มันคือนิสัยและความเคยชินของผู้ที่ผ่านการฝึกฝนทักษะการต่อสู้ชั้นสูงมาอย่างหนัก“มีคนตัดหน้า เขาให้ราคาสูงกว่าครับ” วัลลภบอกด้วยน้ำเสียงกริ่งเกรง เขาเดินตามเจ้านายไปห่างๆ และหยุดยืนในระยะที่ไม่ใกล้และไม่ไกลจนเกินไป“แล้วไง” วาโยถามกลับเสียงราบเรียบโดยไม่หันกลับไปมองลูกน้อง“เอ่อ...”“นายรู้ว่าต้องทำยังไง ไปทำให้สำเร็จก่อนที่ฉันจะไปถึงที่นั่น”เป็นไปตามที่วัลล
วาโยเอนกายกึ่งนั่งกึ่งนอนบนโซฟาเบด สองมือประสานวางไว้บนหน้าอก เขาชันหัวเข่าด้านที่ติดพนักพิงขึ้น ขาอีกข้างเหยียดตรงตามความยาวของโซฟา ชายหนุ่มหลับตา ทว่าใบหน้าแต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้มน่าหมั่นไส้ พลอยไพลินเดินมาเข้ามาหยุดยืนเท้าสะเอวอยู่ข้างๆ เวลาโกรธ เธอมองเห็นเสือตัวเท่ามด ความระวังตัว และความหวาดหวั่นก่อนหน้านี้หายไปไหนหมดก็ไม่รู้ ตอนนี้เธออยากจะฉะกับคนที่นอนอยู่ตรงหน้ามากกว่า“พี่โย! ไม่ต้องทำเป็นหลับตาเลยนะคะ เพิ่งเดินเข้ามาเมื่อกี้เอง หลับไวขนาดนี้เลยเหรอ ลุกขึ้นมาเคลียร์เลยนะ” พลอยไพลินคว้าข้อมือข้างหนึ่งของคนแกล้งหลับดึงขึ้นมา ทว่าร่างใหญ่ไม่ขยับเขยื้อน ยิ่งเขานอนนิ่งเธอก็ยิ่งโมโห จึงออกแรงดึงสุดกำลัง“อุ๊ย!” ไม่เพียงแต่เขาไม่ลุกขึ้นดั่งใจเธอต้องการ แต่เขายังใช้มืออีกข้างคว้าหมับที่ข้อมือเล็กของเธอ แล้วออกแรงดึงเพียงนิด ทำให้ร่างนุ่มนิ่มปลิวติดมือเขา ล้มฟุบลงไปเกยอยู่บนอกกว้าง แถมยังถูกวงแขนแข็งแรงรวบกอดไว้แน่นหนา“พี่โย! ปล่อยเต็นนะ” พลอยไพลินใช้สองมือยันอกแกร่งไว้ หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองคนที่เอาแต่หลับตานิ่ง แต่วงแขนกลับรัดเธอไว้เสียแน่น“พี่อยากให้เต็
เมื่อมองไปทางไหนก็เห็นแต่ทางจะเสียเปรียบ พลอยไพลินจึงชักมือออกมาจากกระเป๋าถือของตน หญิงสาวเม้มปากแน่น สะบัดหน้าหนีสายตาคมดุวาโยยิ้มพอใจกับท่าทางอ่อนข้อของหญิงสาว เขาดับเครื่องยนต์ เปิดประตูลงจากรถ เดินอ้อมไปเปิดประตูให้คนที่นั่งหน้าบึ้งตึงไม่ยอมขยับตัวอีกด้าน“ลงมาได้แล้วครับ ช่วงบ่ายเราต้องไปที่เหมืองพลอย”“เต็นจะนั่งรออยู่บนรถ ว้าย!” พูดยังไม่ทันขาดคำ ร่างอรชรก็ถูกช้อนอุ้มแนบอกแกร่ง พลอยไพลินดิ้นยุกยิก แต่ไม่กล้าทุบตีคนหน้ามึน เธอกลัวเขาทำโทษ“พี่โย! ปล่อยเต็นนะ”“อยู่นิ่งๆ เดี๋ยวก็ตกลงไปหรอก” วาโยเอ็ดเสียงเข้ม แล้วหันไปสั่งให้พนักงานรีสอร์ตจัดการกระเป๋าของเขาและเธอคนถูกเอ็ดยอมให้เขาอุ้มดีๆ เธอสงบปากสงบคำ กระทั่งเขาอุ้มเธอเดินตามพนักงานจนมาถึงทางเดินไปยังวิลล่าลอยน้ำในลำน้ำแควน้อย“ไม่นอนห้องเดียวกันนะคะ” พลอยไพลินบอกน้ำเสียงจริงจัง“พี่โย! เต็นไม่นอนห้องเดียวกับพี่โยนะ” เมื่อคนอุ้มไม่สนใจสิ่งที่เธอพูด เขายังคงก้าวเดินไปเรื่อยๆ กระทั่งมาหยุดอยู่วิลล่าหลังริมสุด พลอยไพลินจึงย้ำอีกครั้ง คราวนี้เธอทำร้ายร่างกายเขาด้วยการทุบแผ่
“ถ้างานนี้สำเร็จ เต็นขอโบนัสหนักๆสักก้อนนะคะ”“ยัยเต็นขี้งก!” เพชรนิลว่าเสียงดัง ยังไม่ทันออกจากบ้านไปทำงาน ยัยนกกระเต็นก็ร้องขอโบนัสซะแล้ว“งกอะไรกัน โบนัสเป็นสิ่งที่ควรได้ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการทำงานนะคะ”“เหรอ” เพชรนิลส่ายหน้ากับการแถของน้องสาว สองพี่น้องคงจะลับฝีปากกันต่ออีกหลายประโยคเป็นแน่ หากรถแลนด์โรเวอร์ ดิสคัฟเวอรี่สีขาวรุ่นใหม่ล่าสุดไม่แล่นผ่านประตูรั้วเข้ามาเสียก่อน“รถมารับแล้ว” เพชรนิลบอกยิ้มๆ“แล้วเต็นต้องบอกให้เขาไปรับคุณนิดที่ไหนคะ”“คุณนิดไปรอที่รีสอร์ตตั้งแต่เมื่อวานแล้ว” พลอยไพลินพยักหน้ารับทราบ หญิงสาวยืนมองรถคันงามแล่นเข้ามาใกล้ด้วยความรู้สึกแปลกๆเมื่อรถยนต์แล่นมาจอดเทียบประตูหน้าบ้าน เพชรนิลสั่งให้คนรับใช้ยกกระเป๋าของน้องสาวขึ้นรถ เขาเดินไปเปิดประตูข้างคนขับให้ ส่งน้องสาวขึ้นไปนั่ง แล้วกำชับคนขับรถด้วยน้ำเสียงสุภาพ“ฝากดูแลน้องสาวผมด้วยนะครับ”พลอยไพลินโบกมือให้พี่ชาย ก่อนเขาจะปิดประตูรถให้เธอ หญิงสาวขยับตัวนั่งตรง และกำลังจะดึงเข็มขัดนิรภัยมาคาดเพื่อความปลอดภัย แต่คนขับรถกลับไวกว่า เขาโน้มต
พลอยไพลินกำลังสับสนว่า เธอต้องการให้เขารับผิดชอบรอยจูบบนปากเธอก็จริง แต่เธอไม่ทันได้คิดว่าจะให้เขารับผิดชอบยังไง“กระเต็น...” วาโยเรียกปลายสายเสียงนุ่มทุ้ม“เอ่อ...กะ...ก็......”“พี่รอฟังอยู่” เมื่ออีกฝ่ายอึกอัก และเงียบไปดื้อๆ วาโยจึงเอ่ยปากเร่งเร้า เขาก็อยากรู้เหมือนกันว่าน้องอยากให้เขารับผิดชอบอย่างไร“เอ่อ...ครั้งต่อไป พี่โยต้องจูบเบาๆ แล้วก็ห้ามทำให้เป็นรอยอีก” วาโยเงยหน้าขึ้น ยิ้มกว้างกว่าเดิม ชายหนุ่มส่ายหน้า ก่อนจะตอบรับข้อเรียกร้องของแม่นกกระเต็นน้อย“ครับ...พี่สัญญาว่า ครั้งต่อไปจะจูบเต็นเบาๆ จะไม่ดูดให้ช้ำ จะไม่เม้มให้เจ็บ จะไม่กัดให้เป็นรอย”“พี่โย!” พลอยไพลินแหวเสียงสูง ใบหน้าสาวร้อนผ่าว เธอคิดผิดแล้วที่โทรมาเรียกร้องความรับผิดชอบจากเขา และเธอพลาดที่พูดถึงการจูบครั้งต่อไป นั่นหมายถึงเธอยอมรับว่ามันจะต้องมีครั้งต่อไปอีกแน่ๆ ตอนนี้เขาคงกำลังยิ้มกรุ้มกริ่มกับสิ่งที่เธอพูดไป อยากจะกัดลิ้นตัวเองให้ขาดนัก ไปพูดถึงจูบครั้งต่อไปได้ยังไงกัน“เสียงสูงเชียว ไม่ชอบจูบแบบที่พี่บอกเหรอครับ งั้นก็...จูบครั้งต่อไปของเรา ก็คงดุดันเหมือนเ
“ต่ายให้ใครไปดูพลอยที่เมืองกาญจน์เหรอลูก” แม้จะวางมือจากการงาน ส่งมอบอำนาจและหน้าที่ให้ลูกชายคนโตดูแลทั้งหมดแล้ว แต่เพชรเพทายก็ยังติดตาม ให้คำปรึกษา และคอยถามไถ่ด้วยความเป็นห่วงอยู่เสมอ“เต็นเองค่ะคุณพ่อ” พลอยไพลินชิงตอบก่อน หญิงสาวกำลังจะอ้อนขอไม่ไปแต่ทว่า“ดีแล้ว จะได้รู้จักทำการทำงาน เรียนรู้ให้รอบด้าน” แทนที่พ่อเพชรของเธอจะเป็นห่วงเป็นใยลูกสาวที่ต้องเดินทางไปต่างจังหวัด ท่านกลับสนับสนุนแนวความคิดพี่กระต่ายน้อย เห็นดีเห็นงามไปด้วยเสียนี่ ทำให้คนที่คิดจะหาพวกต่อต้านคำสั่งพี่ชายหน้าตูมทันที“ให้น้องไปคนเดียวหรือกระต่าย” แม่กระแตถามด้วยความเป็นห่วงลูกสาว“ผมมีทีมบอดี้การ์ดไปคอยคุ้มกันน้องด้วยครับคุณแม่” เพชรนิลบอกให้มารดาคลายกังวล“แต่น้องเป็นผู้หญิง” แม่กระแตยังไม่วายแย้ง“ผมให้คุณนิตยาผู้จัดการแผนกจัดซื้อไปเป็นเพื่อนน้องครับ น้องโตแล้วนะครับคุณแม่ น้องต้องเรียนรู้งานให้รอบด้านเหมือนกับที่คุณพ่อบอกนะครับ” เพชรนิลบอกเหตุผลแก่มารดา เขาเข้าใจว่าท่านเป็นห่วงลูกสาว แต่สมควรแก่เวลาแล้วที่น้องสาวของเขาต้องเรียนรู้งานอย่างจริงจังเสียที“คุณแ
“หลับตาสิคะ” พลอยไพลินบอกเสียงสั่นน้อยๆ คนรอจูบหลับตาลงอย่างว่าง่าย วาโยยิ้มเต็มใบหน้า เมื่อร่างอรชรขยับเข้าแนบชิด สองแขนเรียวยกขึ้นคล้องคอเขาไว้ ชายหนุ่มสูดลมหายใจเข้าดื่มด่ำกำซาบกับกลิ่นหอมจากกายสาวจนชุ่มปอด และเมื่อริมฝีปากนุ่มๆอุ่นๆแนบประกบ เขาก็เผยอปากรับอย่างเต็มใจเป็นที่สุด“อื้อ!” พลอยไพลินประท้วงในลำคอ เพราะเพียงแค่เธอแตะแต้มริมฝีปากลงบนปากหยักได้รูป ก็ถูกเขาใช้มือแข็งแรงตรึงท้ายทอยไว้แน่น วงแขนอีกข้างเกี่ยวกระหวัดรวบเอวคอดเกี่ยวกอดเธอจนเกยขึ้นไปนั่งบนตักแกร่ง จูบของพี่โยเร่าร้อนราวจะแผดเผาเธอให้มอดไหม้ลงตรงนี้ จูบของเขาเรียกร้องเอาแต่ใจ หวามหวานซาบซ่านราวกับจะหลอมเธอให้ละลายคาอก กระนั้นคนที่ถูกทำโทษด้วยการจูบมานับครั้งไม่ถ้วนก็ยังจูบตอบอย่างเท่าเทียม เสียงครางระงมในลำคออีกฝ่ายทำให้หญิงสาวฮึกเหิม เขาไม่ได้ทำให้เธอหัวหมุนอยู่ฝ่ายเดียว เธอก็ทำให้เขาหัวหมุนได้เหมือนกัน“กระเต็น!” วาโยถอนจูบออกอย่างแสนเสียดาย เขาดันบ่าบอบบางออก จ้องตาเธอในระยะใกล้ ชายหนุ่มหอบหายใจหนักหน่วง เขารู้ตัวเองดีว่าถ้าไม่หยุดตอนนี้ ทุกอย่างอาจเลยเถิดไปไกลสุดกู่ เขายังไม่อยากล่วงเกินน้องมากไปกว่านี้“เก่งเ
กรี๊ด! ที่ไหนก็ไม่ได้ คนหน้ามึน คนเอาแต่ใจ ตัวไม่ใช่แฟนเค้านะ จะมาจูบเค้าเอาแต่ใจแบบนี้ไม่ได้ พลอยไพลินกรีดร้องอยู่ในใจ เธอเป็นสาวมั่น ออกจะก๋ากั่นในสายตาคนอื่นด้วยซ้ำ แต่ไม่รู้ทำไมเธอถึงกลับกลายเป็นสาวน้อยไร้ความมั่นใจทุกครั้งที่อยู่ใกล้เขา พี่โยทำให้เธอไม่เป็นตัวของตัวเอง เขาทำให้เธอหงอ จนพ่อแม่พี่น้องหรือใครๆต่างก็คิดว่าเขาเป็นพี่ชายที่เก่งทำให้เธอเชื่อฟังได้ ขนาดพี่ชายแท้ๆของเธอยังยอมให้เขาจัดการเธอได้ตามแต่เห็นสมควรเลย ทุกคนเชื่อใจเขาจนเธอหมั่นไส้ เธออยากจะเปิดโปงความจริงว่าเขาไม่ใช่พี่ชายที่แสนดี เขาเป็นพี่ชายที่คิดไม่ซื่อกับน้องสาวอย่างเธอต่างหาก“พี่โยขยับไปนั่งดีๆสิคะ จะมานั่งเบียดเต็นทำไม” แม้ในใจจะเดือดปุดๆ แต่พลอยไพลินพยายามใช้น้ำเย็นเข้าลูบ พูดกับเขาดีๆ“จุ๊บพี่ทีหนึ่งก่อน แล้วพี่จะยอมทำตามที่เต็นบอก”“พี่โย!” พลอยไพลินถอนหายใจออกมาสุดแรง อยากจะเลื่อนมือขึ้นไปบีบคอเขานักวาโยเลิกคิ้วขึ้นหนึ่งข้าง เขายิ้มกรุ้มกริ่ม รอคอยด้วยความมั่นใจว่า หญิงสาวไม่มีทางปฏิเสธข้อเสนอของเขาแน่นอนพลอยไพลินถอนหายใจอีกครั้ง ก่อนจะยื่นใบหน้าเข้าใกล้ แล้วจุ๊บเบาๆที่ริมฝีปากร้อนผ่าวของคนเอาแต่ใจห