กรี๊ด! ที่ไหนก็ไม่ได้ คนหน้ามึน คนเอาแต่ใจ ตัวไม่ใช่แฟนเค้านะ จะมาจูบเค้าเอาแต่ใจแบบนี้ไม่ได้ พลอยไพลินกรีดร้องอยู่ในใจ เธอเป็นสาวมั่น ออกจะก๋ากั่นในสายตาคนอื่นด้วยซ้ำ แต่ไม่รู้ทำไมเธอถึงกลับกลายเป็นสาวน้อยไร้ความมั่นใจทุกครั้งที่อยู่ใกล้เขา พี่โยทำให้เธอไม่เป็นตัวของตัวเอง เขาทำให้เธอหงอ จนพ่อแม่พี่น้องหรือใครๆต่างก็คิดว่าเขาเป็นพี่ชายที่เก่งทำให้เธอเชื่อฟังได้ ขนาดพี่ชายแท้ๆของเธอยังยอมให้เขาจัดการเธอได้ตามแต่เห็นสมควรเลย ทุกคนเชื่อใจเขาจนเธอหมั่นไส้ เธออยากจะเปิดโปงความจริงว่าเขาไม่ใช่พี่ชายที่แสนดี เขาเป็นพี่ชายที่คิดไม่ซื่อกับน้องสาวอย่างเธอต่างหาก
“พี่โยขยับไปนั่งดีๆสิคะ จะมานั่งเบียดเต็นทำไม” แม้ในใจจะเดือดปุดๆ แต่พลอยไพลินพยายามใช้น้ำเย็นเข้าลูบ พูดกับเขาดีๆ
“จุ๊บพี่ทีหนึ่งก่อน แล้วพี่จะยอมทำตามที่เต็นบอก”
“พี่โย!” พลอยไพลินถอนหายใจออกมาสุดแรง อยากจะเลื่อนมือขึ้นไปบีบคอเขานัก
วาโยเลิกคิ้วขึ้นหนึ่งข้าง เขายิ้มกรุ้มกริ่ม รอคอยด้วยความมั่นใจว่า หญิงสาวไม่มีทางปฏิเสธข้อเสนอของเขาแน่นอน
พลอยไพลินถอนหายใจอีกครั้ง ก่อนจะยื่นใบหน้าเข้าใกล้ แล้วจุ๊บเบาๆที่ริมฝีปากร้อนผ่าวของคนเอาแต่ใจหนึ่งที คนถูกจุ๊บยิ้มน้อยๆ ดวงตาคู่คมเป็นประกายวาววามมีความสุข ริมฝีปากนุ่มๆเหมือนยาชูกำลัง ทำให้เขาหายเหนื่อยล้าจากการงานได้เป็นอย่างดี
“เด็กดีของพี่” วาโยหอมแก้มเนียนเบาๆให้รางวัลเด็กดี ก่อนเขยิบห่างออกมาเพียงเล็กน้อย เขายิ้มน้อยยิ้มใหญ่มองคนที่ถูกเขามอบรางวัลให้อย่างอารมณ์ดี
“เอาเปรียบตลอดเลย” พลอยไพลินบ่นอุบ หญิงสาวทำปากยื่น ชำเลืองตามองพ่อเสือหนุ่มรูปหล่ออย่างไม่ไว้ใจ
กว่าคนที่ต้องการกำลังใจในการรับประทานอาหารจะอิ่มหมีพีมันสมอุรา คนที่ต้องนั่งเป็นกำลังใจให้ก็ถอนหายใจทิ้งไปหลายรอบ ไหนจะต้องคอยระวังมือไม้แสนซนของเขาอีก เดี๋ยวจับมือถือแขน เดี๋ยวแตะแก้มแตะหน้าผาก หนักเข้าก็โอบเอวเธอกอดไว้หลวมๆหน้าตาเฉย
“อยากไปเที่ยวไหนต่อไหม” พ่อบุญทุ่มถามอย่างใจป้ำ ขณะที่รอพนักงานมาเก็บค่าอาหารและเครื่องดื่ม พลอยไพลินส่ายหน้าเร็วๆแทนคำตอบ
“ดึกแล้ว เต็นอยากกลับบ้านค่ะ”
“เพิ่งสามทุ่มเองนะ ปกติกลับดึกกว่านี้ไม่ใช่เหรอ” คนรู้ทันถามดักคอ เขารู้ว่าหญิงสาวชอบพบปะสังสรรค์กับเพื่อนๆ เธอกลับบ้านดึกประจำ แม้เขาไม่ได้ตามติดเธอทุกฝีก้าว แต่เขาก็ไม่เคยปล่อยให้เธอคลาดสายตา เขาสั่งการให้ทีมงานบอดี้การ์ดฝีมือดีในบริษัททีมหนึ่งทำหน้าที่ติดตามและดูแลเธออยู่ห่างๆมานานแล้ว
“เต็นเป็นเด็กดีแล้ว ไม่กลับดึกแล้วค่ะ” พลอยไพลินรีบแย้ง จะไม่ให้เธอเป็นเด็กดีได้อย่างไร ในเมื่อเขาชอบอ้างเอาเรื่องที่เธอกลับดึกมาเป็นข้อหาในการลงโทษเธออยู่ร่ำไป ครั้งล่าสุดที่เธอท้าทายคำสั่งเขาด้วยการออกไปย่ำราตรีจนล่วงเข้าวันใหม่ เขาก็ตามไปพาตัวเธอออกมาจากผับหรูท่ามกลางสายตาของเพื่อนฝูงหลายคน เขาพาเธอไปส่งที่บ้านก็จริง แต่กว่าเธอจะกลับถึงบ้านในคืนนั้น เธอก็ต้องโดนเขาจูบลงทัณฑ์จนแทบละลายคาอกกว้าง
“ไม่เลย เต็นยังเป็นเด็กดื้ออยู่เหมือนเดิม เต็นขัดคำสั่งพี่”
“มะ...ไม่ได้ขัดคำสั่งสักหน่อย” พลอยไพลินร้อนๆหนาวๆกับสายตาดุที่มองมา เมื่อกลางวันเธอมัวแต่งอนพี่ชายที่เขามอบหมายให้เธอทำงานที่ไม่อยากทำ จนลืมไปว่าพี่โยสั่งห้ามไม่ให้เธอไปไหนมาไหนสองต่อสองกับผู้ชายคนอื่น
“จริงเหรอ ไม่ได้ขัดคำสั่งพี่จริงเหรอครับ” วาโยถามย้ำ เขายิ้มน้อยๆ พลอยไพลินรู้ดีว่า นี่คือยิ้มร้ายของซาตาน เป็นยิ้มพึงพอใจที่จะได้ทำโทษเธออีกแล้ว
“กะ...ก็ไม่จริงค่ะ” เถียงไปก็เข้าเนื้อ พลอยไพลินจึงก้มหน้ายอมจำนน
หลังจากชำระค่าอาหารและเครื่องดื่มเรียบร้อยแล้ว วาโยคว้าเอามือนุ่มมาจับไว้ไม่ยอมปล่อย เขาพาหญิงสาวเดินกลับไปยังรถ เปิดประตูให้เธอขึ้นไปนั่งเบาะผู้โดยสารข้างคนขับก่อน พลอยไพลินขืนตัวเล็กน้อย เธอรู้ดีว่าหากขึ้นไปนั่งบนรถแล้วจะเกิดอะไรขึ้น หญิงสาวหันมามองสบตาเจ้าของรถด้วยสายตาเว้าวอน
“อย่าดื้อครับ” วาโยบอกเสียงนุ่มทุ้ม ขัดกับสายตาคมดุที่มองหญิงสาว
พลอยไพลินร้องไห้โฮอยู่ในใจ กระนั้นก็ยอมนั่งลงแต่โดยดี เชื่อฟังเขาดีๆ โทษหนักอาจจะกลายเป็นเบาก็ได้ หญิงสาวสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อประตูรถปิดลง รู้งี้ไม่โทรเรียกนายภาสกรอะไรนั่นให้มารับไปกินข้าวหรอก...ไม่น่าเลย
“เด็กดื้อต้องทำยังไง” วาโยเอ่ยถามเสียงราบเรียบ เมื่อเข้ามานั่งประจำที่คนขับ ปิดล็อกประตูและสตาร์ตรถเรียบร้อย
พลอยไพลินมองเขาด้วยดวงตาตื่น หญิงสาวเหลียวมองรอบกายอย่างหวาดหวั่น บริเวณลานจอดรถมีเพียงแสงสลัวประกอบกับกระจกติดฟิล์มกรองแสงเกือบทึบรอบคัน ให้ความรู้สึกเหมือนห้องพิพากษาเด็กดื้ออย่างไรอย่างนั้น
“เต็นยอมรับว่าขัดคำสั่งพี่โย เต็นสมควรได้รับการลงโทษ แต่ครั้งนี้ขอละเว้นไปก่อนได้ไหมคะ” พลอยไพลินอ้อนเสียงหวาน ทั้งที่หัวใจเต้นกระหน่ำระรัวแรงอยู่ในอก
“ไม่ได้หรอก เต็นดื้อมาก ขืนพี่ละเว้นโทษคราวนี้ เต็นอาจจะเหลิงจนลืมว่าพี่เคยสั่งไว้ว่ายังไง”
“พี่โย!” พลอยไพลินหน้างอง้ำ หญิงสาวนั่งกระฟัดกระเฟียดไม่พอใจ อุตส่าห์ยอมอ่อนข้อให้แล้ว เขายังไม่ยอมลดราวาศอกให้ อะไรๆก็มีแต่จะจับจูบ คนบ้า!
“เร็วๆครับ อย่าเฉไฉ” วาโยโน้มใบหน้าเข้าหาหญิงสาว เขาใช้นิ้วชี้แตะซ้ำๆที่ริมฝีปากตัวเอง สายตาคมวาววับในความมืดสลัว
พลอยไพลินถอนหายใจ หญิงสาวขยับตัวจงใจกระแทกกระทั้นไม่พอใจ ทว่าคนรอจูบหวานๆจากปากนุ่มๆกลับยิ้มกริ่ม
“หลับตาสิคะ” พลอยไพลินบอกเสียงสั่นน้อยๆ คนรอจูบหลับตาลงอย่างว่าง่าย วาโยยิ้มเต็มใบหน้า เมื่อร่างอรชรขยับเข้าแนบชิด สองแขนเรียวยกขึ้นคล้องคอเขาไว้ ชายหนุ่มสูดลมหายใจเข้าดื่มด่ำกำซาบกับกลิ่นหอมจากกายสาวจนชุ่มปอด และเมื่อริมฝีปากนุ่มๆอุ่นๆแนบประกบ เขาก็เผยอปากรับอย่างเต็มใจเป็นที่สุด“อื้อ!” พลอยไพลินประท้วงในลำคอ เพราะเพียงแค่เธอแตะแต้มริมฝีปากลงบนปากหยักได้รูป ก็ถูกเขาใช้มือแข็งแรงตรึงท้ายทอยไว้แน่น วงแขนอีกข้างเกี่ยวกระหวัดรวบเอวคอดเกี่ยวกอดเธอจนเกยขึ้นไปนั่งบนตักแกร่ง จูบของพี่โยเร่าร้อนราวจะแผดเผาเธอให้มอดไหม้ลงตรงนี้ จูบของเขาเรียกร้องเอาแต่ใจ หวามหวานซาบซ่านราวกับจะหลอมเธอให้ละลายคาอก กระนั้นคนที่ถูกทำโทษด้วยการจูบมานับครั้งไม่ถ้วนก็ยังจูบตอบอย่างเท่าเทียม เสียงครางระงมในลำคออีกฝ่ายทำให้หญิงสาวฮึกเหิม เขาไม่ได้ทำให้เธอหัวหมุนอยู่ฝ่ายเดียว เธอก็ทำให้เขาหัวหมุนได้เหมือนกัน“กระเต็น!” วาโยถอนจูบออกอย่างแสนเสียดาย เขาดันบ่าบอบบางออก จ้องตาเธอในระยะใกล้ ชายหนุ่มหอบหายใจหนักหน่วง เขารู้ตัวเองดีว่าถ้าไม่หยุดตอนนี้ ทุกอย่างอาจเลยเถิดไปไกลสุดกู่ เขายังไม่อยากล่วงเกินน้องมากไปกว่านี้“เก่งเ
“ต่ายให้ใครไปดูพลอยที่เมืองกาญจน์เหรอลูก” แม้จะวางมือจากการงาน ส่งมอบอำนาจและหน้าที่ให้ลูกชายคนโตดูแลทั้งหมดแล้ว แต่เพชรเพทายก็ยังติดตาม ให้คำปรึกษา และคอยถามไถ่ด้วยความเป็นห่วงอยู่เสมอ“เต็นเองค่ะคุณพ่อ” พลอยไพลินชิงตอบก่อน หญิงสาวกำลังจะอ้อนขอไม่ไปแต่ทว่า“ดีแล้ว จะได้รู้จักทำการทำงาน เรียนรู้ให้รอบด้าน” แทนที่พ่อเพชรของเธอจะเป็นห่วงเป็นใยลูกสาวที่ต้องเดินทางไปต่างจังหวัด ท่านกลับสนับสนุนแนวความคิดพี่กระต่ายน้อย เห็นดีเห็นงามไปด้วยเสียนี่ ทำให้คนที่คิดจะหาพวกต่อต้านคำสั่งพี่ชายหน้าตูมทันที“ให้น้องไปคนเดียวหรือกระต่าย” แม่กระแตถามด้วยความเป็นห่วงลูกสาว“ผมมีทีมบอดี้การ์ดไปคอยคุ้มกันน้องด้วยครับคุณแม่” เพชรนิลบอกให้มารดาคลายกังวล“แต่น้องเป็นผู้หญิง” แม่กระแตยังไม่วายแย้ง“ผมให้คุณนิตยาผู้จัดการแผนกจัดซื้อไปเป็นเพื่อนน้องครับ น้องโตแล้วนะครับคุณแม่ น้องต้องเรียนรู้งานให้รอบด้านเหมือนกับที่คุณพ่อบอกนะครับ” เพชรนิลบอกเหตุผลแก่มารดา เขาเข้าใจว่าท่านเป็นห่วงลูกสาว แต่สมควรแก่เวลาแล้วที่น้องสาวของเขาต้องเรียนรู้งานอย่างจริงจังเสียที“คุณแ
พลอยไพลินกำลังสับสนว่า เธอต้องการให้เขารับผิดชอบรอยจูบบนปากเธอก็จริง แต่เธอไม่ทันได้คิดว่าจะให้เขารับผิดชอบยังไง“กระเต็น...” วาโยเรียกปลายสายเสียงนุ่มทุ้ม“เอ่อ...กะ...ก็......”“พี่รอฟังอยู่” เมื่ออีกฝ่ายอึกอัก และเงียบไปดื้อๆ วาโยจึงเอ่ยปากเร่งเร้า เขาก็อยากรู้เหมือนกันว่าน้องอยากให้เขารับผิดชอบอย่างไร“เอ่อ...ครั้งต่อไป พี่โยต้องจูบเบาๆ แล้วก็ห้ามทำให้เป็นรอยอีก” วาโยเงยหน้าขึ้น ยิ้มกว้างกว่าเดิม ชายหนุ่มส่ายหน้า ก่อนจะตอบรับข้อเรียกร้องของแม่นกกระเต็นน้อย“ครับ...พี่สัญญาว่า ครั้งต่อไปจะจูบเต็นเบาๆ จะไม่ดูดให้ช้ำ จะไม่เม้มให้เจ็บ จะไม่กัดให้เป็นรอย”“พี่โย!” พลอยไพลินแหวเสียงสูง ใบหน้าสาวร้อนผ่าว เธอคิดผิดแล้วที่โทรมาเรียกร้องความรับผิดชอบจากเขา และเธอพลาดที่พูดถึงการจูบครั้งต่อไป นั่นหมายถึงเธอยอมรับว่ามันจะต้องมีครั้งต่อไปอีกแน่ๆ ตอนนี้เขาคงกำลังยิ้มกรุ้มกริ่มกับสิ่งที่เธอพูดไป อยากจะกัดลิ้นตัวเองให้ขาดนัก ไปพูดถึงจูบครั้งต่อไปได้ยังไงกัน“เสียงสูงเชียว ไม่ชอบจูบแบบที่พี่บอกเหรอครับ งั้นก็...จูบครั้งต่อไปของเรา ก็คงดุดันเหมือนเ
“ถ้างานนี้สำเร็จ เต็นขอโบนัสหนักๆสักก้อนนะคะ”“ยัยเต็นขี้งก!” เพชรนิลว่าเสียงดัง ยังไม่ทันออกจากบ้านไปทำงาน ยัยนกกระเต็นก็ร้องขอโบนัสซะแล้ว“งกอะไรกัน โบนัสเป็นสิ่งที่ควรได้ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการทำงานนะคะ”“เหรอ” เพชรนิลส่ายหน้ากับการแถของน้องสาว สองพี่น้องคงจะลับฝีปากกันต่ออีกหลายประโยคเป็นแน่ หากรถแลนด์โรเวอร์ ดิสคัฟเวอรี่สีขาวรุ่นใหม่ล่าสุดไม่แล่นผ่านประตูรั้วเข้ามาเสียก่อน“รถมารับแล้ว” เพชรนิลบอกยิ้มๆ“แล้วเต็นต้องบอกให้เขาไปรับคุณนิดที่ไหนคะ”“คุณนิดไปรอที่รีสอร์ตตั้งแต่เมื่อวานแล้ว” พลอยไพลินพยักหน้ารับทราบ หญิงสาวยืนมองรถคันงามแล่นเข้ามาใกล้ด้วยความรู้สึกแปลกๆเมื่อรถยนต์แล่นมาจอดเทียบประตูหน้าบ้าน เพชรนิลสั่งให้คนรับใช้ยกกระเป๋าของน้องสาวขึ้นรถ เขาเดินไปเปิดประตูข้างคนขับให้ ส่งน้องสาวขึ้นไปนั่ง แล้วกำชับคนขับรถด้วยน้ำเสียงสุภาพ“ฝากดูแลน้องสาวผมด้วยนะครับ”พลอยไพลินโบกมือให้พี่ชาย ก่อนเขาจะปิดประตูรถให้เธอ หญิงสาวขยับตัวนั่งตรง และกำลังจะดึงเข็มขัดนิรภัยมาคาดเพื่อความปลอดภัย แต่คนขับรถกลับไวกว่า เขาโน้มต
เมื่อมองไปทางไหนก็เห็นแต่ทางจะเสียเปรียบ พลอยไพลินจึงชักมือออกมาจากกระเป๋าถือของตน หญิงสาวเม้มปากแน่น สะบัดหน้าหนีสายตาคมดุวาโยยิ้มพอใจกับท่าทางอ่อนข้อของหญิงสาว เขาดับเครื่องยนต์ เปิดประตูลงจากรถ เดินอ้อมไปเปิดประตูให้คนที่นั่งหน้าบึ้งตึงไม่ยอมขยับตัวอีกด้าน“ลงมาได้แล้วครับ ช่วงบ่ายเราต้องไปที่เหมืองพลอย”“เต็นจะนั่งรออยู่บนรถ ว้าย!” พูดยังไม่ทันขาดคำ ร่างอรชรก็ถูกช้อนอุ้มแนบอกแกร่ง พลอยไพลินดิ้นยุกยิก แต่ไม่กล้าทุบตีคนหน้ามึน เธอกลัวเขาทำโทษ“พี่โย! ปล่อยเต็นนะ”“อยู่นิ่งๆ เดี๋ยวก็ตกลงไปหรอก” วาโยเอ็ดเสียงเข้ม แล้วหันไปสั่งให้พนักงานรีสอร์ตจัดการกระเป๋าของเขาและเธอคนถูกเอ็ดยอมให้เขาอุ้มดีๆ เธอสงบปากสงบคำ กระทั่งเขาอุ้มเธอเดินตามพนักงานจนมาถึงทางเดินไปยังวิลล่าลอยน้ำในลำน้ำแควน้อย“ไม่นอนห้องเดียวกันนะคะ” พลอยไพลินบอกน้ำเสียงจริงจัง“พี่โย! เต็นไม่นอนห้องเดียวกับพี่โยนะ” เมื่อคนอุ้มไม่สนใจสิ่งที่เธอพูด เขายังคงก้าวเดินไปเรื่อยๆ กระทั่งมาหยุดอยู่วิลล่าหลังริมสุด พลอยไพลินจึงย้ำอีกครั้ง คราวนี้เธอทำร้ายร่างกายเขาด้วยการทุบแผ่
วาโยเอนกายกึ่งนั่งกึ่งนอนบนโซฟาเบด สองมือประสานวางไว้บนหน้าอก เขาชันหัวเข่าด้านที่ติดพนักพิงขึ้น ขาอีกข้างเหยียดตรงตามความยาวของโซฟา ชายหนุ่มหลับตา ทว่าใบหน้าแต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้มน่าหมั่นไส้ พลอยไพลินเดินมาเข้ามาหยุดยืนเท้าสะเอวอยู่ข้างๆ เวลาโกรธ เธอมองเห็นเสือตัวเท่ามด ความระวังตัว และความหวาดหวั่นก่อนหน้านี้หายไปไหนหมดก็ไม่รู้ ตอนนี้เธออยากจะฉะกับคนที่นอนอยู่ตรงหน้ามากกว่า“พี่โย! ไม่ต้องทำเป็นหลับตาเลยนะคะ เพิ่งเดินเข้ามาเมื่อกี้เอง หลับไวขนาดนี้เลยเหรอ ลุกขึ้นมาเคลียร์เลยนะ” พลอยไพลินคว้าข้อมือข้างหนึ่งของคนแกล้งหลับดึงขึ้นมา ทว่าร่างใหญ่ไม่ขยับเขยื้อน ยิ่งเขานอนนิ่งเธอก็ยิ่งโมโห จึงออกแรงดึงสุดกำลัง“อุ๊ย!” ไม่เพียงแต่เขาไม่ลุกขึ้นดั่งใจเธอต้องการ แต่เขายังใช้มืออีกข้างคว้าหมับที่ข้อมือเล็กของเธอ แล้วออกแรงดึงเพียงนิด ทำให้ร่างนุ่มนิ่มปลิวติดมือเขา ล้มฟุบลงไปเกยอยู่บนอกกว้าง แถมยังถูกวงแขนแข็งแรงรวบกอดไว้แน่นหนา“พี่โย! ปล่อยเต็นนะ” พลอยไพลินใช้สองมือยันอกแกร่งไว้ หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองคนที่เอาแต่หลับตานิ่ง แต่วงแขนกลับรัดเธอไว้เสียแน่น“พี่อยากให้เต็
“เรียบร้อยดีไหม”“มีปัญหานิดหน่อยครับคุณโย” วัลลภตอบไม่เต็มเสียง ก้มหน้าหลบสายตาเจ้านาย ด้วยเพราะทำงานกับเจ้านายหนุ่มมานาน เขาจึงรู้ดีว่า คำว่าปัญหานั้นไม่ควรเกิดขึ้น ไม่ว่าจะนิดหน่อยหรือใหญ่โตก็ตาม แล้วยิ่งมาเกิดกับผู้หญิงของเจ้านายด้วยแล้ว ยิ่งเป็นเรื่องไม่สมควรอย่างยิ่ง“ว่ามา” วาโยหันหลังให้คนสนิท เขาเดินห่างออกไปเพื่อสงบสติอารมณ์ ชายหนุ่มไม่ชอบใจที่มีปัญหาเกิดขึ้นกับแผนการที่เขาวางไว้อย่างรัดกุม ร่างสูงสมาร์ตเดินไปหยุดอยู่ริมแม่น้ำ ล้วงมือสองข้างลงในกระเป๋ากางเกง สายตาคมคมกริบกวาดมองไปทั่วบริเวณ เขาจดจำรายละเอียดทุกอย่างที่ผ่านเข้ามาในครรลองสายตาได้อย่างแม่นยำ มันคือนิสัยและความเคยชินของผู้ที่ผ่านการฝึกฝนทักษะการต่อสู้ชั้นสูงมาอย่างหนัก“มีคนตัดหน้า เขาให้ราคาสูงกว่าครับ” วัลลภบอกด้วยน้ำเสียงกริ่งเกรง เขาเดินตามเจ้านายไปห่างๆ และหยุดยืนในระยะที่ไม่ใกล้และไม่ไกลจนเกินไป“แล้วไง” วาโยถามกลับเสียงราบเรียบโดยไม่หันกลับไปมองลูกน้อง“เอ่อ...”“นายรู้ว่าต้องทำยังไง ไปทำให้สำเร็จก่อนที่ฉันจะไปถึงที่นั่น”เป็นไปตามที่วัลล
วัลลภรับหน้าที่ขับรถของเจ้านาย นิตยานั่งเบาะด้านหน้าหน้าคู่คนขับ พลอยไพลินจำใจต้องนั่งคู่กับบอดี้การ์ดผู้อ้างว่า เขาต้องการดูแลเธออย่างใกล้ชิด ไม่อยากให้มีข้อผิดพลาดในการดูแลเธอ“มีร้านไหนที่มีพลอยไซซ์นี้อีกไหมคะคุณนิด”“ไม่มีเลยค่ะคุณเต็น อย่างที่รู้กันว่าไพลินไซซ์ใหญ่ขนาดนี้แทบหาไม่ได้แล้ว ตอนนี้มีที่ร้านนี้ร้านเดียวเท่านั้นค่ะ” นิตยาเบี่ยงตัวมาคุยกับเจ้านาย ผู้จัดการแผนกจัดซื้อมีสีหน้าไม่สู้ดีเท่าไรนัก เพราะพลอยเม็ดสวยที่มั่นใจว่าจะได้กลับไปทำเครื่องประดับเพื่อส่งเข้าประกวดงานอัญมณีและเครื่องประดับประจำปี กลับเกิดมีปัญหาขึ้นมาเสียได้ อีกทั้งดีไซเนอร์ของบริษัทได้ออกแบบเครื่องประดับไว้เรียบร้อยแล้ว ที่ประชุมก็มีมติเป็นเอกฉันท์ว่าจะใช้เครื่องประดับเซตนี้ส่งเข้าประกวด แต่หากไพลินเม็ดนี้หลุดลอยไป ทุกอย่างจะต้องเริ่มต้นใหม่จากศูนย์ และอาจจะส่งเข้าประกวดไม่ทัน“แล้วเม็ดเล็กที่เราสั่งไว้ล่ะคะ เขามีปัญหาอะไรไหมคะ”“ไม่มีค่ะ เขาจัดเตรียมไว้ให้เราตามที่สั่ง พร้อมกับใบรับรองเรียบร้อยแล้วค่ะ”พลอยไพลินถอนหายใจเฮือกใหญ่ หนักใจไม่น้อยกับสถานการณ์ที่กำลังเผชิญอ
“หยุดอยู่ตรงนั้น! อย่าเข้ามานะ!” เสียงตวาดเบาๆ แต่หน้าตาบูดบึ้งแสดงถึงความไม่พอใจอย่างชัดเจน ทั้งสายตาเคืองขุ่นที่มองมาราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ และนิ้วเรียวที่ชี้ตรงมาที่เขา ทำให้กวียิ้มมุมปาก“จะเข้า ใครจะทำไม จะเข้าให้ลึกสุดตัวเลยด้วย”คำพูดสองแง่สองง่าม น้ำเสียงยียวน และท่าทางกวนประสาท อีกทั้งสายตาวิบวับไม่น่าไว้ใจของคนที่ยืนอยู่อีกฝั่งของเตียงทำให้พรรณดาราอยากจะกรี๊ดออกมาดังๆ“คนบ้า! คนลามก!” หากแต่หญิงสาวก็ทำได้เพียงบริภาษออกมาเบาๆ และสาดสายตาดุใส่เขาเท่านั้น เพราะเธอกลัวลูกน้อยทั้งสองที่นอนหลับอยู่บนเตียงจะตื่น“ลามกน่ะใช่ แต่ไม่ได้บ้า” กวีกดเสียงต่ำขู่แม่ของลูกๆ ขายาวก้าวมั่นคงอ้อมไปทางปลายเตียง ขณะที่สายตาหมายมาดจับจ้องร่างอวบอิ่มน่าฟัดของคุณแม่ลูกสองไม่วางตา“คุณวี! ถ้าคุณเข้ามาใกล้ฉันอีกนิดเดียว ฉันจะกรี๊ดให้ลั่นบ้านเลย” พรรณดาราขู่คนที่เดินไม่กี่ก้าวก็มายืนอยู่ตรงหน้าเธอแล้ว ระยะห่างเพียงแค่หนึ่งช่วงแขนแบบนี้ ไม่ปลอดภัยสำหรับเธอ หญิงสาวก้าวถอยหลังอย่างระวังตัว ทั้งหันซ้ายหันขวา หาทางหนีทีไล่&nb
ปักลึกในซอกสาว วงแขนแกร่งกอดเกี่ยวร่างบางไว้แน่น ปลดปล่อยหยาดรักถ่ายเทเข้าสู่ร่างสาวจนหมดสิ้น “เต็นจ๋า เมื่อไรเจ้าตัวน้อยจะมาสักที” วาโยรำพึงเบาๆคลอเคลียแก้มเนียน เขาแช่ลำรักร้อนผ่าวในร่องสาว ให้เธอตอดรัดเขาอย่างแสนสุข ร่างเปลือยเปล่าแข็งแกร่ง และร่างเกือบเปลือยแสนเย้ายวนนอนกอดก่ายกันอยู่บนเบาะแคบ พลอยไพลินนอนหนุนอกสามี หญิงสาวก่ายเกยอยู่บนร่างเขา แนบแก้มกับอกกว้าง ฟังเสียงหัวใจแกร่งเต้นเป็นจังหวะหนักแน่น มือบางลูบไล้ผิวเนื้อเรียบตึงอย่างเพลินมือ ใบหน้าสาวอมยิ้ม ทอดถอนใจอย่างมีความสุข วาโยนอนหนุนแขนตัวเองข้างหนึ่ง วงแขนอีกข้างกอดน้องไว้แนบอก และป่ายมือลงไปวางบนสะโพกหนั่นแน่น เคล้นคลึงเบาๆ “พี่โยขา” “ครับ” “เต็นมีอะไรจะบอกค่ะ” พลอยไพลินขยับตัวขึ้นไปนอนคว่ำอยู่บนตัวสามี ดวงตาคู่งามเป็นกระกายวิบวับ หญิงสาวยิ้มน้อยๆให้เขา คิ้วเข้มขมวดมุ่น มองหน้าน้องอย่างจับผิด ท่าทางแบบนี้ต้องมีเรื่องอะไรที่ปิดบังเขาอยู่แน่ๆ “เต็
วาโยใช้นิ้วกดกลางรอยแยกหว่างขา เขาสูดลมหายใจเข้าปอดยาวๆ หัวใจแกร่งเต้นแรง เขาต้องข่มกลั้นอารมณ์เต็มที่เมื่อพบว่ามันเปียกชุ่ม น้ำสวาทสาวซึมผ่านเนื้อผ้าออกมาชายหนุ่มกดปลายลิ้นลงบนเนื้อผ้าเปียกชุ่ม ตวัดช้าๆเน้นหนัก นิ้วโป้งข้างขวาบดขยี้ตำแหน่งปุ่มเนื้อระรัว“อ๊ะ พี่โย อ๊า...” พลอยไพลินเด้งสะโพกสูงส่ายร่อนร้อนร่าน หญิงสาวควานมือลงมาขยุ้มเส้นผมสามีไว้แน่น การสัมผัสผ่านเนื้อผ้าให้อารมณ์เร้าใจแปลกใหม่ เสียดเสียวทรมาน“เต็นจ๋า...เมียพี่หอมเหลือเกิน” วาโยพร่ำเพ้ออยู่กับซอกขาสาว เขากัดขย้ำ ขบเม้ม และลงลิ้นแทงเร็วๆสลับกันไป มือหนาบีบนวดโคนขาหนีบ เร่งเร้าอารมณ์สาวคนถูกสามีกัดกินโดยไม่ปอกเปลือกเสียวกระสันจนมิอาจกลั้นเสียงครวญครางไว้ได้ แรงซุกไซ้จากคนหลงเนื้อนวลเมียส่งผลให้ร่างสาวเขยื้อนกระเพื่อมไหว ยิ่งเขาเพิ่มความรุนแรงในการจ้วงลิ้นแทงมากเท่าไร พลอยไพลินก็เสียดเสียวมากขึ้น เธอกำลังจะระเบิดพร่างทั้งที่เขาไม่ได้แตะต้องโดยตรง“พี่โย พี่โย อ๊ะ! อ๊าย...” พลอยไพลินดีดเด้งสะโพกขึ้นสูง ความเสียดเสียวทิ่มแทงบาดลึกในความรู้สึก จนหญิงสาวหลงลืมตัวตน ยกขาเรียวขึ้นตวัดรัด
“อ้าว! กลับไปแล้วเหรอ กูนึกว่ามึงจะอยู่ต่ออีกนาน เลยไปเดินเล่นรอ ถูกพี่เมียไล่ตะเพิดอีกล่ะสิ อือๆ งั้นกูกลับเลยแล้วกัน”พบรักเดินหนีไปทันทีที่วางสาย เขาตรงไปยังรถกระบะสี่ประตูของตนที่จอดอยู่ไม่ไกล เขามางานนี้เพราะกวีซึ่งเป็นอดีตสามีของพรรณดาราชวนมาเป็นเพื่อนเผื่อกูถูกไอ้เพลิงยิงตาย มึงจะได้ช่วยเก็บศพกูกลับไปให้พ่อแม่กูทำพิธีนั่นเป็นเหตุผลที่มันบอกกับเขา ตอนที่โทรไปขอร้องให้เขามาเป็นเพื่อนพลอยชมพูมองตามร่างสูงใหญ่เดินห่างออกไป จะตะโกนเรียกก็ไม่รู้จักชื่อ กระทั่งเขาขึ้นรถคันใหญ่ขับออกไปแล้ว หญิงสาวก็ยังมองตามด้วยความหงุดหงิด เธอรู้สึกติดค้างหนี้บุญคุณเขา“ต้องตามไปชดใช้ในชาติหน้าไหมเนี่ย”วาโยยิ้มบางเมื่อเปิดประตูห้องฟิตเนสส่วนตัวเข้ามา แล้วพบว่าภรรยาของตนกำลังเล่นโยคะอยู่บนเบาะรองที่กลางห้อง เธออยู่ในท่วงท่าคลาน เข่าสองข้างห่างกันเล็กน้อย กดเอวลงจนสะโพกยกสูง สองแขนยืดตึง และเงยหน้าเชิดขึ้น ชายหนุ่มรออยู่เงียบๆ กระทั่งเธอเปลี่ยนท่าและมองเห็นเขาเอง“พี่โย มานานแล้วเหรอคะ” หญิงสาวถาม พร้อมกับเปลี่ยนท่วงท่าไปตา
“คงต้องสระผมด้วย” วาโยบ่นงึมงำขณะแกะมวยผมออกให้น้องอย่างเบามือ“อาบน้ำอย่างเดียวจริงๆเหรอคะ” คนที่เคยร่วมอาบน้ำพร้อมกับเขาถามอย่างไม่ไว้ใจวาโยมองสบตาน้อง เขายิ้มกรุ้มกริ่ม ย่อตัวลงอุ้มน้องขึ้นแนบอก แล้วกระซิบตอบเสียงแหบพร่า“ไม่น่าจะจริงครับ”“ฮือ...หายไปไหนนะเงินหนึ่งล้านของฉัน”หลังจากส่งตัวบ่าวสาวเข้าห้องหอเรียบร้อย แขกเหรื่อก็ร่วมรับประทานอาหารกันและเริ่มทยอยกลับจนเกือบหมดแล้ว บรรดาญาติสนิทที่จะพักค้างคืนที่นี่ก็พาไปรวมตัวกันที่บ้านหลังใหญ่ ปล่อยให้บ่าวสาวอยู่ในห้องหอภายในบ้านไม้เพียงลำพัง แต่คนที่ทำเช็คมูลค่าหนึ่งล้านบาทหายกลับต้องกลับมาที่บ้านไม้อีกครั้ง เพื่อตามหามัน“เช็คจ๋า ออกมาหาติ๊บเถอะ”พลอยชมพูก้มหน้าเดินหาไปรอบๆบ้าน เธอมั่นใจว่ามันต้องตกอยู่ข้างล่าง เพราะก่อนก้าวลงจากบันได เธอเอามือจับดูก็พบว่ามันยังอยู่ตรงชายพก ตอนนั้นเธอลงมาแล้ววิ่งไล่จับพี่พร้อมน้องพริ้งช่วยพี่หนูพรรณ เช็คอาจจะหล่นตอนนั้นก็ได้หญิงสาวในชุดไทยประยุกต์ที่กำลังถลกผ้าถุงเดินไปมา แล้วเอาแต่ก้มหน้าเหมือนกำลังหาอะไรสักอย่างทำให้คนที
“จะไปรู้เหรอ ก็เห็นทั้งร้ายทั้งใจร้อนแบบนี้ นึกว่าจะไม่มีความยับยั้งชั่งใจ”“มึงจะพูดมากทำไม ลงไปแดกเหล้าดีกว่า เขาเข้าหอกันแล้ว จะนั่งอยู่ทำซากอะไร” เพลิงตะวันตัดบท ขืนให้มันพูดต่อไปเขาคงถูกมันลากไส้ออกมาจนหมดพุงแน่ ชายหนุ่มลุกขึ้นเดินไปทางบันไดก่อน แต่ก็ยังได้ยินเสียงกวนตีนแว่วตามหลังมาอีก“รักน้องจะตายห่า รักมาตั้งแต่น้องยังเด็ก ยังกล้าทำให้น้องเสียใจนะพี่น่ะ”เพลิงตะวันหันกลับไปขึงตาใส่ไอ้คนปากมาก ไอ้คนได้ทีขี่แพะไล่ มันจะรื้อฟื้นความหลังความเก่าหาพระแสงอะไร แต่เพราะแขกเหรื่ออยู่เต็มบ้าน เขาจึงไม่โต้ตอบ แต่...ฝากไว้ก่อนเถอะมึงภายในห้องหอชั่วคราว ผู้หลักผู้ใหญ่นั่งอยู่บนเก้าอี้บุผ้าลายวิจิตรที่จัดเตรียมไว้กำลังให้พรให้โอวาทในการครองเรือน คู่บ่าวสาวนั่งพับเพียบประนมมืออยู่บนพื้นห้อง“พ่อดีใจที่ได้เต็นมาเป็นลูกสะใภ้ หนักนิดเบาหน่อยก็อภัยให้กันนะลูก ถ้าพี่เขาทำอะไรให้เจ็บช้ำน้ำใจฟ้องพ่อได้นะ พ่อจะจัดการให้” คุณวาทิตเข้าข้างลูกสะใภ้เต็มที่“ขอบคุณค่ะ คุณพ่อ” พลอยไพลินรับคำยิ้มๆ หญิงสาวชำเลืองตามองคนที่นั่งข้างๆ เขายิ้มตอบเธอแล้วกระซิบบอกเบาๆ
“คนละล้าน! เรารวยแล้วน้ำฝน” พลอยชมพูจูบเช็คเบาๆ โบกพัดไปมาอย่างมีความสุข หยาดพิรุณอมยิ้มไปกับท่าทางดีใจเกินเหตุของพี่สาว“พี่ติ๊บต้องขึ้นไปเป็นเพื่อนเจ้าสาวนะคะ รีบขึ้นไปบนบ้านเถอะค่ะ“จริงสิ พี่ไปก่อนนะ”พลอยไพลินรีบเหน็บเช็คไว้ที่ชายพก แล้ววิ่งขึ้นบันไดไป หยาดพิรุณหัวเราะเบาๆกับท่าทางที่ขัดกันกับชุดไทยประยุกต์งดงามที่พี่สาวสวมอยู่ ก่อนเดินตามพี่สาวขึ้นบันไดไปร่วมพิธีมงคลหลังจากฝ่าด่านประตูเงินประตูทองขึ้นมาได้ ผู้หลักผู้ใหญ่ก็เจรจาสู่ขอตามประเพณี ตรวจนับสินสอดมูลค่าหลายสิบล้านบาท เมื่อเรียบร้อยแล้ว จึงอนุญาตให้เจ้าบ่าวไปรับตัวเจ้าสาวออกมาจากห้องเพื่อทำพิธีมงคลเสียงเปิดประตูห้องทำให้คนที่นั่งรออยู่อย่างใจจดจ่อเงยหน้าขึ้น คนที่เปิดประตูเข้ามาคือเจ้าบ่าวของเธอ เขาสวมชุดราชปะแตนคุมโทนสีเดียวกับชุดที่เธอสวมอยู่ ใบหน้าหล่อเหลามีรอยยิ้มประดับอยู่ หญิงสาวระบายยิ้มหวานเต็มดวงหน้า มองสบสายตาเขาตลอดเวลาที่เขาก้าวใกล้เข้ามา“พี่โย” พลอยไพลินลุกขึ้นจากเก้าอี้ ยืนรอด้วยหัวใจเต้นระทึกวาโยก้าวมั่นคงไปยังร่างงดงามราวกับนางฟ้า เจ้าสาวของเขาสวยจนเข
“ลูกแม่เป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุด” แม่กระแตแตะแก้มลูกสาวเบาๆ ท่านยิ้มอย่างปลื้มใจ เห็นลูกสาวมีความสุข คนเป็นแม่ก็พลอยมีความสุขไปด้วยพลอยไพลินยิ้มตอบมารดา หญิงสาวย่อตัวลงเล็กน้อย ซบหน้ากับอกอบอุ่นและโอบกอดท่านไว้เต็มวงแขน“คุณแม่ก็เป็นแม่เจ้าสาวที่สวยที่สุดในโลกค่ะ”แม่กระแตทอดถอนใจเบาๆ มือบางลูบหัวลูบหลังลูกอย่างอ่อนโยน แม้ในใจลึกๆจะยังห่วงและอยากดึงรั้งลูกไว้กับอกนานกว่านี้ ทว่าเมื่อลูกได้เลือกแล้วว่าจะฝากชีวิตไว้กับผู้ชายคนนี้ คนที่พ่อและแม่ก็รู้ดีว่าเขาสามารถปกป้องดูแลลูกสาวให้มีความสุขได้ตลอดไป และที่สำคัญเขารักลูกสาวของท่านจนหมดหัวใจ ท่านจึงไร้ซึ่งคำทัดทาน“คุณแม่ขา ถ้าพี่เต็นเป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุด แล้วติ๊บจะเป็นเจ้าสาวที่สวยกว่าพี่เต็นได้ยังไง” พลอยชมพูกางแขนกอดมารดาอีกข้าง หญิงสาวซบหน้ากับบ่าบอบบางออดอ้อน“หาเจ้าบ่าวให้ได้ก่อนเถอะน่า” พี่สาวว่ายิ้มๆ ทำให้ใบหน้าระรื่นของคนเป็นน้องบูดบึ้ง แก้มชมพูใสป่องน้อยๆอย่างคนงอน พลอยชมพูมองค้อนพี่สาว ก่อนเงยหน้าขึ้นฟ้องมารดา“คุณแม่ขาพี่เต็นว่าติ๊บ”“อย่าว่าน้องสิเต็น” พลอยชมพูยิ้มเยาะอย่างผ
“อื๊อ!” พลอยไพลินหลับตาแน่นอยู่กับซอกคอแกร่ง“ท่าอื่นบ้างนะทูนหัว พี่จะสอนให้” วาโยกระซิบบอกน้อง แล้วปลดแขนน้องออกจากลำคอแกร่ง ปลดสองขาเรียวออกจากเอวสอบ พลอยไพลินยอมอย่างง่ายดาย ร่างกายไร้แรงต่อต้าน หญิงสาวหลับตาลงหนีอายวาโยนั่งคุกเข่ากลางกายสาว สอดลำเนื้อร้อนผ่าวเข้าสู่โพรงรักอุ่นลื่นอีกครั้ง พลอยไพลินหวีดร้องเบาๆ เธอรู้สึกคับแน่นอึดอัด และหลงเหลือความเจ็บอยู่เล็กน้อย หญิงสาวขยุ้มผ้าปูที่นอนไว้แน่น ลมหายใจเริ่มหอบหนักวาโยจับข้อพับขาทั้งสองข้างของน้องแยกถ่างแล้วยกขึ้นสูงจนสะโพกสาวลอยเหนือที่นอน เขาค่อยๆโยกควานลำกายในร่องรักคับแน่น บดขยี้โหนกเนื้อชายกับติ่งกระสันสาว การเคลื่อนไหวเนิบนาบ ทว่าหนักหน่วงจนคนใต้ร่างเริ่มครางประท้วงเพราะความเสียวซ่าน“พี่โย...อา...” พลอยไพลินครางหวิว แอ่นสะโพกแผ่นวลเนื้อให้เขากระหน่ำเข้าหาด้วยความเต็มใจวาโยสูดหายใจยาว หัวใจแกร่งเต้นระรัว ชายหนุ่มเลื่อนมือขึ้นไปจับข้อเท้าบางสองข้างแล้วกางออกจนสุด หัวเข่าแกร่งกดลงบนที่นอนข้างสะโพกอวบ ก่อนจะโหมกระหน่ำเสือกไสลำเนื้อเข้าออกอย่างรุนแรงดุดัน บังเกิดเสียงเนื้อปะทะเนื้อประสานเส