ตอนที่ 9
ความรักชนะทุกอย่าง
ล้านนายังคงมีอาการแพ้ท้อง ภูเบศจึงไม่ยอมให้เธอไปทำงานให้นอนพักอยู่ที่บ้าน ส่วนตัวเขาเองรีบเข้าบริษัทอย่างรีบร้อนแต่ไม่ใช่เพราะมีงานเร่งด่วนแต่เขามีธุระสำคัญต้องคุยกับบิดา
ประจักษ์ไม่ค่อยได้กลับบ้านเพราะกลับไปทีไรก็ต้องได้มีเรื่องทะเลาะกับราตรีทุกที
“คุณพ่อครับผมมีเรื่องสำคัญจะปรึกษา”
คนเป็นลูกมองไม่เห็นใครแล้วที่จะช่วยคุยกับมารดาของเขาได้นอกจากบิดาเพียงคนเดียว
ภูเบศเล่าเรื่องราวระหว่างเขากับล้านนาให้กับประจักษ์ฟังตั้งแต่เริ่มต้นและสุดท้ายก็จบลงด้วยเรื่องของทรายแก้วอดีตคนรักที่มารดาต้องการจะให้เขาแต่งงานด้วย
“ลูกทำไมปล่อยให้ทุกอย่างเลยเถิดมาถึงขั้นนี้แต่ก็ยังดีนะที่ไม่ปล่อยให้ทุกอย่างเกินเลยไปจนเกินแก้ไข”
ประจักษ์เข้าใจและพร้อมจะอยู่ข้างเขาแต่ก็อดที่จะตำหนิไม่ได้ที่ภูเบศปล่อยให้ทุกอย่างมาไกลจนล้านนาท้อง
“ผมแค่คิดว่ายังไม่พร้อมจะสละชีวิตโสดแต่พอมารู้ว่าผมกำลังจะได้เป็นพ่อคนและล้านนาจะไปจากผม ทุกอย่างรอไม่ได้อีกแล้ว”
“ชีวิตคนเรามันสั้นนัก อย่าทำอะไรผิดพลาดแล้วไม่รีบแก้ไขเหมือนพ่อกับแม่ที่ปล่อยให้ความรู้สึกของเรามันห่างกันออกมาทุกที พ่อสงสารแม่แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเพราะลูกก็รู้ว่าพ่อก็ทิ้งอีกฝ่ายไม่ได้เหมือนกัน อีกคนคือความรักอีกคนคือความผูกพันถ้าพ่อกล้าพอที่จะดื้อไม่ยอมแต่งงานกับแม่ของลูกตั้งแต่แรก วันนี้ทุกอย่างอาจไม่เลวร้ายแบบนี้ก็ได้”
ประจักษ์เข้าใจดีว่าการที่ต้องอยู่กับคนที่ไม่ได้รักเพราะคิดว่าสักวันคงรักกันได้ผลมันเป็นอย่างไร สุดท้ายแล้วไม่มีใครเลยที่มีความสุขรวมทั้งลูกที่ไม่ได้มีส่วนรู้เรื่องอะไรด้วยก็ต้องมาไม่มีความสุขเหมือนครอบครัวคนอื่น
ภูเบศทำหน้าที่นัดมารดากินข้าวเย็นพร้อมหน้ากัน ตอนแรกราตรีตั้งใจจะไปกินที่ร้านอาหารแต่ชายหนุ่มขอที่จะกินที่บ้านแทนเพราะมีธุระสำคัญที่ต้องการคุยกันแบบส่วนตัว
“วันนี้ฝนตกน้ำท่วมกันทั้งประเทศแน่ คุณประจักษ์ยอมสละเวลามากินข้าวพร้อมลูกพร้อมเมีย”
ราตรีเปิดศึกทันทีแค่เพียงเจอหน้าสามีที่กำลังเดินมานั่งที่โต๊ะอาหาร
“ดีเหมือนกันถ้าน้ำจะท่วมเพราะผมตั้งใจว่าจะมากินข้าวพร้อมกันแบบนี้ให้บ่อยขึ้น น้ำคงจะท่วมไม่ทันได้แห้ง”
“นี่คุณตั้งใจจะยั่วโมโหฉันใช่ไหม”
ราตรีเริ่มหงุดหงิดที่ชวนอีกฝ่ายทะเลาะแต่กลับเห็นใบหน้าที่ยิ้มแย้มแทน
“คุณโมโหผมมาหลายปีไม่เบื่อบ้างหรือไง เรามาคุยกันดี ๆ บ้างนะ ผมยอมแพ้คุณทุกอย่างถึงผมจะเป็นคนไม่ดีในสายตาคุณแต่คุณรู้ไหมคุณคือแม่ของลูกที่ดีที่สุดสำหรับผม”
ประจักษ์มีภรรยาอีกคนก็จริงแต่เขาไม่ยอมมีลูก เหตุผลที่ราตรีไม่เคยรู้มีแต่ประจักษ์เท่านั้นที่รู้ว่าเขาไม่ยอมมีทายาทกับภรรยาอีกคนเพราะไม่มั่นใจว่าการเป็นภรรยาที่เขารักจะเป็นแม่ที่ดีเหมือนที่ราตรีเป็น
“คุณแม่ครับวันนี้เป็นวันดี ผมขอให้บ้านเราไม่มีเสียงทะเลาะกันสักครั้งจะได้ไหม ผมขอนะ”
ภูเบศหาเรื่องสนุก ๆ มาชวนพ่อกับแม่คุยระหว่างที่รับประทานอาหารเพราะยังไม่ใช่เวลาที่เขาจะเข้าเรื่องที่ตั้งใจจะมาพูดในวันนี้
ประจักษ์ชวนทุกคนไปนั่งคุยกันต่อที่ห้องรับแขกเพราะคืนนี้เขาตั้งใจจะนอนที่บ้าน บ้านที่เขาคิดมาตลอดว่ามีที่เดียวเท่านั้น
“ราตรีผมขอโทษนะที่ทำให้ครอบครัวของเราไม่มีความสุข ถ้าผมกล้าพอจะฝืนคำสั่งพ่อแม่ของเราสองคน เราคงไม่ต้องมานั่งเสียใจกันแบบนี้แต่ที่ผมพูดไม่ใช่ว่าผมไม่รู้สึกอะไรกับคุณถึงมันไม่ใช่ความรักแต่มันคือความผูกพันที่ไม่มีวันตัดกันขาด”
“คุณต้องการอะไรอยู่ดี ๆ มาพูดเรื่องที่คุณไม่เคยจะสนใจคุณต้องการอะไรจากฉัน”
ราตรีลุกยืนขึ้นกอดอกอย่างรู้ทันเพราะประจักษ์ไม่เคยยอมพูดเรื่องนี้ทั้งที่ตัวเธอเองพยายามที่จะคุยมาหลายครั้ง
“ผมอยากให้คุณปล่อยให้ลูกได้อยู่กับผู้หญิงที่เขารักก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไปเหมือนอย่างเราสองคนและสุดท้ายแล้วก็ไม่มีใครสักคนที่มีความสุข ผมไม่เคยมีความสุขเลยสักครั้งที่คิดว่ากำลังทิ้งคุณให้ต้องนอนร้องไห้อยู่คนเดียวแต่ผมก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว”
ภูเบศก้มลงกราบเท้ามารดา เขารู้สึกผิดที่ทำให้ความหลังอันเจ็บปวดถูกพูดขึ้นมาต่อหน้าแม่อีกครั้ง
“คุณแม่ครับความรักมันบังคับกันไม่ได้จริง ๆ ทรายแก้วคงไม่มีความสุขแน่ ๆ ถ้าต้องอยู่กับผู้ชายที่ไม่ได้รักเธอและล้านนากับลูกของผมก็คงต้องเสียใจที่ผมเลือกที่จะมีคนอื่นทั้ง ๆ ที่เธอกับลูกไม่ได้ผิดอะไร”
ราตรีกำลังจะอ้าปากตวาดลูกชายแต่กลับพูดไม่ออกเมื่อได้รู้ความจริงว่าล้านนากำลังท้อง
“นี่แม่นั่นกำลังท้อง ทำไมไม่มีใครบอกแม่ทั้งที่แม่จ่ายเงินก้อนโตเพื่อให้สืบ”
ราตรีจ้างให้ดลย์พนักงานที่อยู่แผนกที่ล้านนาทำงานอยู่คอยรายงานทุกอย่าง เธอถึงได้รู้ว่าทั้งคู่แอบอยู่ด้วยกัน
“ผมกับล้านนาก็เพิ่งรู้เมื่อวาน เธอเกือบจะหนีผมไปแล้วเพราะคำว่าเมียน้อยไม่มีใครอยากที่จะถูกตราหน้าแบนั้นหรอกครับ”
ประจักษ์จับมือภรรยามองสบตาด้วยความห่วงใยเพราะเขาเข้าใจความรู้สึกดีว่าราตรีคงรู้สึกเสียใจและผิดหวังที่ทุกคนไม่เป็นอย่างที่เธอคิด
“ฉันไม่เป็นไร ทุกคนกลับกันไปเถอะฉันอยากอยู่คนเดียว”
ราตรีไม่โวยวายเสียงดังเหมือนอย่างที่พ่อกับลูกคิด เธอเงียบและดูสงบจนทุกคนต่างมองด้วยความไม่สบายใจต่างรู้สึกผิดที่เป็นส่วนหนึ่งที่ทำร้ายหัวใจของผู้หญิงที่แทบจะไม่มีความสุขในชีวิตเหมือนคนอื่นเขา
“คุณแม่...ผมขอโทษที่ทำให้คุณแม่ต้องผิดหวัง”
“กลับไปหาเมียลูกเถอะ คืนนี้พ่อจะอยู่กับแม่เอง”
คนเป็นพ่อหันมาบอกลูกชายเพราะถึงภูเบศจะพูดอะไรในเวลานี้ราตรีก็คงไม่พร้อมฟัง
“ลูกไปแล้ว คุณก็กลับไปเถอะค่ะไม่ต้องกลัวว่าลูกจะมองคุณไม่ดีที่ทิ้งให้ฉันต้องอยู่คนเดียวในเวลานี้”
ราตรีเข้าใจว่าสามีของเธอแค่แกล้งพูดต่อหน้าลูกชายเท่านั้นที่จะนอนที่นี่คืนนี้
“ผมจะอยู่ข้าง ๆ คุณ ไม่ใช่แค่วันนี้แต่จะตลอดไปถึงแม้ผมจะเป็นสามีที่ไม่ดีแต่ผมก็ไม่เคยไม่ห่วงคุณ”
ค่ำคืนนี้ประจักษ์ใช้ความรู้สึกทั้งหมดในหัวใจของเขาสวมกอดภรรยาไว้ตลอดทั้งคืนพูดคุยทุกอย่างที่ค้างคาในใจทั้งคู่มาตลอดจนไม่มีอะไรที่ไม่เข้าใจกันอีกแล้ว
ล้านนาอาการดีขึ้นหลังจากที่นอนหลับมาหลายชั่วโมง หน้าที่ทำกับข้าววันนี้จึงตกเป็นของคุณพ่อคนใหม่
“ข้าวต้มร้อน ๆ ฝีมือเชฟภู ไม่รู้จะถูกใจคุณแม่ไหม”
ชายหนุ่มยกมาเสิร์ฟถึงบนเตียงเอาใจคุณแม่อย่างสุด ๆ จนล้านนาเองแอบอมยิ้มที่เห็นอีกฝ่ายเป็นห่วงเธอแบบนี้
“ผมบอกคุณแม่แล้วนะเรื่องของเรารวมทั้งเรื่องที่เรากำลังจะมีลูกด้วยกัน”
“ท่านโกรธมากใช่ไหมคะ” คนป่วยวางช้อนลงทันที
“ไม่ แต่คงต้องให้เวลาท่านสักพัก ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นผมจะไม่มีทางแต่งงานกับใครทั้งนั้นนอกจากคุณ ล้านนาผมรักคุณนะ มันเป็นความรู้สึกที่ผมเองก็ไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นมาตอนไหน ทั้งที่ชีวิตนี้มีผู้หญิงเข้ามามากมายแต่ไม่มีใครทำให้ชีวิตผมมีความสุขแบบนี้”
คนท้องที่กำลังอ่อนไหวง่ายร้องไห้จนน้ำตาหยดลงไปในชามข้าวต้มเพราะล้านนาไม่เคยแม้แต่จะคาดหวังว่าผู้หญิงจน ๆ อย่างเธอจะทำให้ผู้ชายที่มีพร้อมทุกอย่างแบบภูเบศมารักได้
ประจักษ์รับหน้าที่ไปคุยกับทรายแก้วหลังจากที่ได้รู้จากราตรีว่าเธอได้ไปคุยเรื่องแต่งงานกับมารดาของหญิงสาวแล้ว
“พวกคุณต้องชดใช้ที่ทำให้ลูกสาวของฉันต้องเสียใจ ต้องอายคนอื่น อยากจะมาขอก็มาอยากจะบอกยกเลิกก็บอกมันคงไม่ง่ายเกินไปหน่อยไหม”
ครอบครัวของทรายแก้วเรียกร้องค่าเสียหายที่ครอบครัวของเขาต้องอับอายคนอื่นเป็นเงินถึงสิบล้านบาท ประจักษ์ยอมให้ทั้งที่เขาก็ไม่เข้าใจว่าอะไรคือสิ่งที่ครอบครัวนี้ต้องอับอายเพราะเรื่องที่ราตรีได้มาพูดคุยทาบทามทรายแก้วก็ไม่ได้มีคนอื่นรับรู้แต่เพื่อความสบายใจคนเป็นพ่อเลือกที่จะจ่ายให้จบปัญหา
“คุณพ่อคุณแม่ ผมพาล้านนามากราบครับ”
ภูเบศพาภรรยามากราบพ่อกับแม่เป็นครั้งแรก ล้านนาคิดกังวลไปทั่วว่าเธอจะต้องเจอกับอะไรบ้างแต่สุดท้ายทุกอย่างกับไม่ได้เลวร้ายอย่างที่เธอคิด
“เธอไม่ต้องกลัวฉันขนาดนั้นก็ได้ แม่ทุกคนย่อมอยากให้ลูกเป็นอย่างที่ตัวเองหวังแต่ก็นั่นแหละเราเลี้ยงลูกได้แต่ตัว หัวใจของเขาก็คงต้องปล่อยให้เลือกเอง ฉันก็ขอให้รักกันมาก ๆ มีอะไรก็ขอให้คิดถึงวันนี้ที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้อยู่ได้รักกัน เธอสองคนโชคดีที่ได้อยู่กับคนที่รัก ฉันคงไม่ทำให้ให้ต้องมานั่งเสียใจแบบฉันอีก”
ประจักษ์โอบกอดภรรยาเพื่อส่งต่อกำลังใจและชื่นชมในความเสียสละของราตรีที่เลือกความรู้สึกของลูกเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
ครอบครัวของภูเบศเดินทางไปสู่ขอล้านที่บ้านต่างจังหวัดแต่พ่อแม่ของหญิงสาวไม่ต้องการเรียกร้องใด ๆ ทั้งสิ้นทั้งสองจึงเลือกที่จะทำพิธีผูกข้อไม้ข้อมือกันเท่านั้น
ล้านนาได้สร้างบ้านหลังใหม่ให้พ่อกับแม่ตามที่ตั้งใจไว้ ภูเบศควักกระเป๋าจ่ายให้ทุกอย่างเพื่อเป็นการตอบแทนค่าน้ำนมที่พ่อตาแม่ยายเลี้ยงภรรยาของเขามา
โรคภัยที่แม่ของล้านนาต้องเผชิญได้รับการรักษาที่ดีขึ้นเพราะลูกเขยพามารักษาตัวที่โรงพยาบาลที่กรุงเทพและรับมาหาหมอทุกครั้งตามนัด
วันเวลาที่ผ่านพ้นไปเต็มไปด้วยความสุข ภูเบศกลับไปกินข้าวเย็นกับแม่ทุกวันส่วนประจักษ์ก็กลับมานอนบ้านบ่อยขึ้นถึงแม้ว่าเขาจะยังคงอยู่กับภรรยาอีกคนก็ตาม
ราตรีเริ่มปล่อยใจจากเรื่องของสามีและหันมาตั้งตาเฝ้ารอหลานสาวที่เหลืออีกไม่กี่วันก็จะครบกำหนดได้ลืมตามาเจอโลกที่สวยงาม
“คุณรู้ไหมคุณกับลูกเป็นของขวัญที่มีค่าที่สุดในชีวิตผม”
ภูเบศนอนลูบท้องภรรยาไปมาอย่างมีความสุข สำหรับเขาแล้วการมีล้านนาเข้ามาในชีวิตมันคือความสุขที่เงินไม่สามารถซื้อได้ มันคือของขวัญที่ทำให้ชีวิตของเขามีค่าและมีความหมายที่สุดเมื่อรู้ว่าทุกวันจะมีคนคอยเข้ากลับบ้าน มีคนคอยเขากินข้าวและคอยเป็นห่วงเขาตลอดเวลา
“คุณก็เป็นของขวัญที่มีค่าสำหรับฉันเหมือนกัน ขอบคุณมากนะคะที่รักผู้หญิงที่แสนจะธรรมดาคนนี้ ฉันสัญญาว่าจะรักคุณกับลูกตลอดไป”
การได้อยู่กับคนที่เรามันคือความโชคดีที่สุดในชีวิตที่ทุกคนต่างปรารถนา เด็กน้อยแสนน่าชังลืมตาดูโลกบนความดีใจและความสุขของทุกคน ครอบครัวหนึ่งกำลังเริ่มต้นอีกครอบครัวก็มีโอกาสได้กลับมาเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง คุณปู่คุณย่ายอมหันหน้าเข้าหากันช่วยกันเลี้ยงหลานเป็นเพื่อนทุกข์เพื่อนยากกันตลอดไป
จบบริบูรณ์
ขอบคุณทุกความเมตตานะคะ
ปะหนัน
ตอนที่ 6รู้แค่วันนี้ฉันยังมีเธอ “ล้านนาหายไปไหนมา งานที่พี่ให้เธอทำไม่มีอะไรใช่ไหม” ยุพารีบเข้ามาประกบลูกน้องทันทีที่ล้านนามาถึงที่บริษัท “ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ พี่ยุพาสบายใจได้ไม่มีใครรู้ว่าพี่เอางานมาให้หนูทำ” ยุพาค่อยสบายใจขึ้นมาหน่อยเพราะการที่ลูกน้องของเธอลางานสองวันติดแถมยังเป็นการหายไปพร้อมเจ้านายอีก ยุพาแอบกลัวว่าจะเกี่ยวกับงานที่เธอจ้างให้ทำ การทำงานยังคงเป็นไปอย่างปกติแต่ที่ทุกคนในแผนกกำลังให้ความสนใจคือยุพาถูกท่านรองประธานบริษัทเรียกเข้าไปคุยเกือบชั่วโมงยังไม่ออกมา “ล้านนาจะเกี่ยวกับเราสองคนไหม” ส้มโอ
ตอนที่ 7มือที่สามที่ไม่ได้รับเชิญ “ไม่ได้พักที่เดิมหรือล้านนาเดี๋ยวนี้พี่ไม่เห็นเธอกลับรถสายเดิม” ดลย์พนักงานรุ่นพี่เดินเข้ามาทักหญิงสาวที่กำลังเดินลงทางบันไดหนีไฟเพราะตอนนี้ที่ลิฟท์มีคนรออยู่หลายคน “อืม ล้านนาย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้วค่ะ นึกอย่างไรคะถึงได้มาเดินลงบันไดหนีไฟแบบนี้” “คนรออีกเพียบเดินออกกำลังกายดีกว่า วัน ๆ ทำงานก็นั่งอยู่แต่กับเก้าอี้จะได้ยืดเส้นยืดสายด้วย” รุ่นพี่ทำงานทำท่าทางประกอบให้รู้ว่าเขาต้องการออกกำลังกายจริง ๆ “ข้างนอกฝนตกแรงแบบนี้ ล้านนาให้พี่ไปส่งไหมหรือไม่ก็ไปลงตรงไหนที่ใกล้ที่พักแล้วค่อยต่อรถไปอีกทีก็ได้ถ้ารออยู่หน้าบริษัทแบบนี้พี่ว
ตอนที่ 8ทะเบียนสมรส เสียงของผู้หญิงที่ดังแทรกเข้ามาก่อนที่ภูเบศจะวางสายทำให้หัวใจของผู้หญิงที่ไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองมีตัวตนในชีวิตของเขาไม่สบายใจ ล้านนาพยายามที่จะข่มตาให้หลับลงแต่มันก็ไม่สำเร็จ เธอวางสายจากเจ้านายไปเกือบสองชั่วโมงแล้วแต่ความรู้สึกมันเหมือนทุกอย่างยังคงวนเวียนอยู่ในความคิดของเธอ เสียงรถยนต์มาจอดที่หน้าบ้านและตามมาด้วยเสียงประตูหน้าบ้านเปิดออก หญิงสาวรีบลุกออกจากเตียงนอนมาดูที่หน้าต่างด้วยความตกใจเพราะเวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะมีใครมาหาเธอ “ไหนคุณว่าจะนอนกับคุณแม่คุณไม่ใช่หรือคะ” หญิงสาวดีใจที่คนที่มาคือผู้ชายที่เธอสุดแสนจะคิดถึงและมีเรื่องค้างคาใจ
ตอนที่ 1แค่เพียงแรกเจอ“มันยากตรงไหนวะกับการหาเมียสักคนเรื่องมันจะได้จบ ถ้าปล่อยให้มันยาวนานกว่านี้เราว่าพ่อแก่คงได้ยกสมบัติให้แม่เลี้ยงของแน่”ยุทธนั่งฟังเรื่องราวความทุกข์ของเพื่อนเรียกได้ว่าเขาต้องทนฟังมันมาเกือบทั้งปีและก็เกือบทุกวันที่ภูริดลจะโทรศัพท์ตามให้เขามานั่งดื่มเหล้าเป็นเพื่อนเพื่อฟังเรื่องราวความทุกข์ในเรื่องนี้“หาเมียมันไม่ยากแต่แกก็รู้ ฉันไม่ต้องการผูกพันกับผู้หญิงคนไหนถ้าฉันต้องเลือกผู้หญิงสักคนมาเป็นเมียบอกตรง ๆ อยากได้คนที่ฉันไม่เคยรู้จักเพราะเมื่อถึงวันที่ต้องเลิกรากันไปจะได้ต่างคนต่างเดิน”ภูริดลมีความทรงจำที่เลวร้ายกับชีวิตครอบครัวเพราะพ่อของเขาเมื่อตอนสมัยที่ยังเป็นวัยรุ่นอยู่และตอนนั้นแม่ของเขาก็ยังไม่จากไป บารมีเป็นชายหนุ่มนักธุรกิจฐานะดีรูปร่างหน้าตาดีจึงมักมีสาว ๆ เข้ามาพัวพันอยู่มากมายและพ่อของภูริดลก็มักจะตอบสนองผู้หญิงเหล่านั้นอยู่เสมอและนั่นคือสาเหตุที่ทำให้แม่ของเขาต้องตัดสินใจทำร้ายตัวเองและจากโลกนี้ไปในวัยเพียงแค่ 30 กว่า“ไม่เห็นจะยากแกมีเงินก็หาจ้างผู้หญิงสักคนเอามาแต่งงานกับแกหลอกให้พ่อแกเชื่อ”คนเป็นเพื่อนออกความเห็น ยุทธเป็นผู้ชายที่อยู่ในวงกา
ตอนที่ 2ลิ้นกับฟัน“ปีนี้อายุเท่าไหร่แล้ว” บารมีถามลูกชายเพื่อต้องการโยงไปถึงเรื่องต่อไปที่เขากำลังจะพูดซึ่งเป็นเรื่องที่ภูริดลก็รู้ดีว่ามันคือเรื่องอะไร “ 33 ครับ คุณพ่อกำลังจะพูดต่ออีกว่าอายุก็มากแล้วเมื่อไหร่จะหาแฟนสักคนหรือแกอยากให้พ่อยกสมบัติทั้งหมดให้ คุณนารี” ชายหนุ่มทำท่าทางน้ำเสียงล้อเลียนคนเป็นพ่อด้วยใบหน้าที่บึ้งตึงมองสบตาคนพูดโดยที่ไม่ยอมละสายตาไปไหนต้องการแสดงออกให้รู้ว่าเขาเบื่อเหลือเกินที่จะต้องฟังเรื่องราวเดิม ๆ แบบนี้ทุกวัน “ลูกก็รู้ว่าพ่อต้องพูดเรื่องนี้ก็แล้วทำไมไม่ทำให้มันสำเร็จ สักทีล่ะพ่อเริ่มคิดแล้วนะหรือความจริงแกไม่ได้ชอบผู้หญิงเหมือนอย่างที่คนอื่นเขาพูดกันพ่อไม่ว่าถ้าแกจะมีรสนิยมทางเพศแบบนั้นแต่ก็ควรจะพูดความจริงไม่ใช่เอาแต่อ้างนู่นอ้างนี่สุดท้ายอย่าหวังไปถึงมีครอบครัวเลยแค่แฟนสักคนก็ยังไม่เคยเห็นแกพามาบ้าน” ข้าวต้มถูกตักเข้าปากเพียงแค่ไม่กี่คำ ชายหนุ่มก็วางช้อนลงคว้าผ้าข้าง ๆ มาเช็ดปากแสดงให้คนเป็นพ่อรู้ว่าคำพูดของผู้ใหญ่กำลังทำให้เขาไม่มีอารมณ์ที่จะกินข้าวต่อก่อนที่จะยกมือไหว้สวัสดีตอนเช้าและเดินออก
ตอนที่ 3สะใภ้รับจ้าง“ดูเหมือนคุณกำลังกลัว....ว่าแต่ชื่ออะไรไม่คิดจะแนะนำตัวให้อนาคตสามีฟังเลยหรือไง” ภูริดลขับรถไปรับพิรฎายังบริเวณที่เธอนัดหมาย หญิงสาวไม่ยอมบอกที่อยู่เธอให้เหตุผลแค่เพียงว่าเธอเช่าห้องพักอยู่ถึงไม่อยากให้เขาเข้าไปวุ่นวายเกรงใจคนที่เช่าห้องอยู่ด้วยกัน “พิรฎาเรียกพิมพ์เฉย ๆ ก็ได้ค่ะชีวิตของฉันก็ไม่มีอะไรมากเกิดและเติบโตที่ต่างจังหวัดและเข้ามาเรียนกรุงเทพ ฯ เมื่อพ่อกับแม่เสียชีวิตไปหมดโดยได้รับทุนการศึกษาจากครูที่โรงเรียนแล้วก็ทำงานหาเงินเลี้ยงตัวเองไปวัน ๆ คุณสบายใจได้ว่าฉันไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนที่จะมาแสดงตัวให้ครอบครัวของคุณรู้ว่าเรื่องราวของเราไม่เป็นความจริง” หญิงสาวเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่แทบจะไม่มีความจริงในชีวิตเลยมีเพียงแค่ชื่อของเธอเท่านั้นที่เป็นความจริงนอกนั้นเธอก็แต่งเรื่องเพื่อให้อีกฝ่ายสบายใจและเธอเองไม่มีทางที่จะให้ภูริดลรู้ว่าความจริงแล้วเธอเป็นลูกสาวของเจ้าของกิจการใหญ่โตเพราะถ้าชายหนุ่มได้รู้ความจริงเขาคงไม่มีทางเลือกเธอมาเป็นภรรยารับจ้างเด็ดขาด “ฉันรอฟังชีวิตของสามีในอนาคตอยู่นะคะช่วยเล่าทุกอย่างให้ฟังโดยละเอียดเ
ตอนที่ 4คืนแรกในหน้าที่ภรรยา“คุณจะให้ฉันนอนตรงไหนก็บอก” ภูริดลหันไปมองหน้าคนถามด้วยความแปลกใจในเมื่อเขาจ้างเธอเข้ามาทำงานในตำแหน่งเมียรับจ้างแล้วเรื่องอะไรหญิงสาวมาถามหาที่นอนที่อื่น “คุณลืมอะไรไปหรือเปล่าผมจ้างคุณมาเป็นภรรยาของผมคุณก็ต้องนอนบนเตียงแล้วก็ทำหน้าที่ภรรยาอย่างสมจริง” พิรฎาพยักหน้าแต่เธอก็แอบหลบสายตาด้วยความอาย เอาเข้าจริง ๆ เมื่อถึงเวลานี้เธอกลับเริ่มรู้สึกว่าตัวเองกำลังคิดผิดไปหรือเปล่า การที่เธอจะต้องร่วมหลับนอนกับผู้ชายที่เธอไม่ได้รัก มันคงนำความทุกข์มาสู่เธอแต่ในเมื่อตัดสินใจแล้วเธอก็คงต้องยอมรับมันอย่างน้อยเธอก็มีที่พักอาศัยมีเงินให้ใช้โดยที่ไม่ต้องกลับไปพึ่งพาบิดา ได้เวลาของอาหารมื้อเย็นเจ้าของบ้านทำหน้าที่เดินนำสมาชิกใหม่ไปยังโต๊ะอาหารที่อยู่บริเวณกลางสนามเพราะวันนี้บารมีตั้งใจจะจัดงานเลี้ยงเล็ก ๆ เพื่อต้อนรับลูกสะใภ้ของเขา “พิมพ์ไม่รู้ว่าจะมีงานเลี้ยงแบบนี้เลยไม่ได้ลงมาช่วยต้องขอโทษด้วยนะคะ” สาวน้อยรีบเดินเข้าไปช่วยนารีที่กำลังเดินยกของจากครัวมายังโต๊ะอาหารเพราะแม่บ้านที่นี่มีจำนวนไม่มากนักถ้าเที
ตอนที่ 5เปิดตัวเมีย“พิมพ์ อยู่ในห้องน้ำหรือเปล่า” ภูริดลตื่นมาพบเพียงแค่ที่นอนที่ว่างเปล่าชายหนุ่มตะโกนเรียกหาภรรยาหมาด ๆ ของเขาแต่กลับไม่มีเสียงตอบมีเพียงแค่รอยปิดไม่สนิทของกระจกที่กั้นระหว่างส่วนของห้องนอนกับระเบียงที่มีรอยถูกเปิดออกภูริดลจึงตัดสินใจเดินออกไปเพราะคิดว่าบางทีภรรยาของเขาอาจจะออกไปยืนสูดอากาศด้านนอก “คุณร้องไห้ทำไม ! ผมไม่ได้ข่มขืนคุณนะ” คนถามไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเขากลับรู้สึกโกรธและน้อยใจที่เห็นผู้หญิงที่เขานอนด้วยเมื่อคืนมาแอบยืนร้องไห้เสียใจเหมือนกับว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้มันทำให้เธอรู้สึกทุกข์ไม่มีความสุข “เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าที่ฉันร้องไห้เพราะกำลังรู้สึกมีความสุขอีกไม่นานฉันก็จะหลุดจากสัญญาของคุณแล้ว” พิรฎาปดคำโต เธอไม่ได้รู้สึกอย่างที่พูดชีวิตความบริสุทธิ์ของผู้หญิงคนหนึ่งที่เธอก็มีความตั้งใจเหมือนผู้หญิงคนอื่น ๆ ที่อยากจะเก็บรักษาเอาไว้ให้ผู้ชายที่เธอรักที่สุดแต่วันนี้เธอกลับมอบให้กับผู้ชายที่เธอแทบจะไม่มีโอกาสได้รู้จักเขาดีพอเพียงเพราะต้องการเอาชนะบิดาเท่านั้น “ใครบอกกันว่าใกล้จะสิ้นสุดสัญญามันคือ
ตอนที่ 8ทะเบียนสมรส เสียงของผู้หญิงที่ดังแทรกเข้ามาก่อนที่ภูเบศจะวางสายทำให้หัวใจของผู้หญิงที่ไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองมีตัวตนในชีวิตของเขาไม่สบายใจ ล้านนาพยายามที่จะข่มตาให้หลับลงแต่มันก็ไม่สำเร็จ เธอวางสายจากเจ้านายไปเกือบสองชั่วโมงแล้วแต่ความรู้สึกมันเหมือนทุกอย่างยังคงวนเวียนอยู่ในความคิดของเธอ เสียงรถยนต์มาจอดที่หน้าบ้านและตามมาด้วยเสียงประตูหน้าบ้านเปิดออก หญิงสาวรีบลุกออกจากเตียงนอนมาดูที่หน้าต่างด้วยความตกใจเพราะเวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะมีใครมาหาเธอ “ไหนคุณว่าจะนอนกับคุณแม่คุณไม่ใช่หรือคะ” หญิงสาวดีใจที่คนที่มาคือผู้ชายที่เธอสุดแสนจะคิดถึงและมีเรื่องค้างคาใจ
ตอนที่ 7มือที่สามที่ไม่ได้รับเชิญ “ไม่ได้พักที่เดิมหรือล้านนาเดี๋ยวนี้พี่ไม่เห็นเธอกลับรถสายเดิม” ดลย์พนักงานรุ่นพี่เดินเข้ามาทักหญิงสาวที่กำลังเดินลงทางบันไดหนีไฟเพราะตอนนี้ที่ลิฟท์มีคนรออยู่หลายคน “อืม ล้านนาย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้วค่ะ นึกอย่างไรคะถึงได้มาเดินลงบันไดหนีไฟแบบนี้” “คนรออีกเพียบเดินออกกำลังกายดีกว่า วัน ๆ ทำงานก็นั่งอยู่แต่กับเก้าอี้จะได้ยืดเส้นยืดสายด้วย” รุ่นพี่ทำงานทำท่าทางประกอบให้รู้ว่าเขาต้องการออกกำลังกายจริง ๆ “ข้างนอกฝนตกแรงแบบนี้ ล้านนาให้พี่ไปส่งไหมหรือไม่ก็ไปลงตรงไหนที่ใกล้ที่พักแล้วค่อยต่อรถไปอีกทีก็ได้ถ้ารออยู่หน้าบริษัทแบบนี้พี่ว
ตอนที่ 6รู้แค่วันนี้ฉันยังมีเธอ “ล้านนาหายไปไหนมา งานที่พี่ให้เธอทำไม่มีอะไรใช่ไหม” ยุพารีบเข้ามาประกบลูกน้องทันทีที่ล้านนามาถึงที่บริษัท “ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ พี่ยุพาสบายใจได้ไม่มีใครรู้ว่าพี่เอางานมาให้หนูทำ” ยุพาค่อยสบายใจขึ้นมาหน่อยเพราะการที่ลูกน้องของเธอลางานสองวันติดแถมยังเป็นการหายไปพร้อมเจ้านายอีก ยุพาแอบกลัวว่าจะเกี่ยวกับงานที่เธอจ้างให้ทำ การทำงานยังคงเป็นไปอย่างปกติแต่ที่ทุกคนในแผนกกำลังให้ความสนใจคือยุพาถูกท่านรองประธานบริษัทเรียกเข้าไปคุยเกือบชั่วโมงยังไม่ออกมา “ล้านนาจะเกี่ยวกับเราสองคนไหม” ส้มโอ
ตอนที่ 9ความรักชนะทุกอย่าง ล้านนายังคงมีอาการแพ้ท้อง ภูเบศจึงไม่ยอมให้เธอไปทำงานให้นอนพักอยู่ที่บ้าน ส่วนตัวเขาเองรีบเข้าบริษัทอย่างรีบร้อนแต่ไม่ใช่เพราะมีงานเร่งด่วนแต่เขามีธุระสำคัญต้องคุยกับบิดา ประจักษ์ไม่ค่อยได้กลับบ้านเพราะกลับไปทีไรก็ต้องได้มีเรื่องทะเลาะกับราตรีทุกที “คุณพ่อครับผมมีเรื่องสำคัญจะปรึกษา” คนเป็นลูกมองไม่เห็นใครแล้วที่จะช่วยคุยกับมารดาของเขาได้นอกจากบิดาเพียงคนเดียว ภูเบศเล่าเรื่องราวระหว่างเขากับล้านนาให้กับประจักษ์ฟังตั้งแต่เริ่มต้นและสุดท้ายก็จบลงด้วยเรื่องของทรายแก้วอดีตคนรักที่มารดาต้องการจะให้เขาแต่งงานด้วย “ลูกทำไมปล่อยให้ทุกอย่างเลยเถิดมาถึงขั้นนี้แต่ก็ยังดีนะที่ไม่ปล่อยให้ทุกอย่างเกินเลยไปจนเกินแก้ไข” ประจักษ์เข้าใจและพร้อมจะอยู่ข้างเขาแต่ก็อดที่จะตำหนิไม่ได้ที่ภูเบศปล่อยให้ทุกอย่างมาไกลจนล้านนาท้อง “ผมแค่คิดว่ายังไม่พร้อมจะสละชีวิตโสดแต่พอมารู้ว่าผมกำลังจะได้เป็นพ่อคนและล้านนาจะไปจากผม ทุกอย่างรอไม่ได้อีกแล้ว” “ชีวิตคนเรามันสั้นนัก อย่าทำอะไรผิดพลาดแล้วไม่รีบแก้ไขเหมือนพ่อก
ตอนที่ 5สถานะที่ไม่ได้เลือก “คุณพาฉันมาที่นี่ทำไม” ล้านนายังไม่ยอมลงจากรถเมื่อมาถึงหน้าบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ที่อยู่ส่วนในสุดของหมู่บ้านที่ดูสะอาด สงบน่าอยู่มาก ๆ “บ้านหลังนี้คือบ้านที่คุณต้องอยู่จนกว่าผมจะเบื่อ” ภูเบศลงจากรถมาเปิดประตูให้หญิงสาวที่ยังคงนั่งสับสนทำอะไรไม่ถูก “ลงมาเถอะยังมีอีกหลายอย่างที่เราต้องจัดการภายในวันนี้ให้เสร็จ” เจ้าของบ้านเดินนำเข้าบ้านไปพร้อมกระเป๋าหลายใบในมือที่เป็นข้าวของที่หญิงสาวขนมาจากห้องพักเดิม “คุณให้ฉันมาอยู่ที่บ้านใคร” ล้านนารู้สึกไม่ไว้ใจ “บ้านผม บ้านหลังนี้ผมซื้อไว้ขายแต่ตอนนี้คงไม่ขายแล้ว อย่าเสียเวลาถามอะไรอยู่เลย ลองมองดูว่าขาดเหลืออะไรจะได้พาไปซื้อ ทางร้านจะได้มาส่งวันนี้ทัน” เจ้าของบ้านเดินออกไปขนของในรถมาวางกองรวมกันไว้ในขณะที่คนมาใหม่ก็เดินสำรวจไปรอบ ๆ บ้านหลังนี้เป็นบ้านชั้นเดียวมีเนื้อที่รอบบ้าน ห้องนอนสี่ห้องทำให้ล้านนารู้สึกว่าที่นี่มันใหญ่เกินไปสำหรับการที่เธอต้องอยู่อาศัยเพียงคนเดียว “บ้านมันใหญ่เกินไป ฉันไปอยู่ห้องเช่าเหมือนเดิมดีแล้ว”
ตอนที่ 10ถ้าไม่ใช่เธอ..ใครก็ไม่เอา ลิตาทำอะไรไม่ถูก เธอรู้ว่าคงไม่มีทางปฎิเสธได้ จึงเปลี่ยนเป็น ยกมือไหว้อ้อนวอนอีกฝ่ายแทน “ที่ลิตาทำไปเพราะอยากได้เข้ามาดูแลลูกและคุณกับลิลก็ไม่ได้เป็นสามีภรรยากันจริง ๆ ลิตาก็คิดว่าไม่น่าจะมีอะไรแค่อยากได้มีโอกาสดูแลลูกบ้าง” วายุเห็นท่าทางของพี่สาวภรรยานอกจากมันจะไม่ทำให้เขาสงสารแล้ว มันยังทำให้เขารู้สึกโมโหมากกว่าเดิม “หยุดตอแหล ก่อนที่ผมจะไม่เห็นความเป็นคนในตัวคุณ คุณลิตาคุณรู้ไว้เลยนะ ว่าผมกับลิลเราเป็นสามีภรรยากันอย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้วก็ทางปฎิบัติด้วย ถ้าคุณทำแบบนี้อีก ผมจะให้คุณชดใช้เงินสิบห้าล้านคืนผม เพราะสัญญาที่คุณเซ็นมันคือสัญญาการกู้ยืมเงิน” ลิตาอยากได้เงินจนไม่ได้อ่านว่าตัวเอ
ตอนที่ 9 ทวง อนุสรณ์สังเกตสีหน้าท่าทางของลูกชาย เช้านี้วายุทำหน้าเหมือนคนยิ้มแบบเขินตลอดเวลา พอหันมาที่ลูกสะใภ้คนเล็กก็ไม่ต่างกัน “พระพายวันนี้คุณอาหนูเขาไปแอบมีความสุขอะไรกันมา ปู่เห็นตั้งแต่เดินลงมาก็เอาแต่ยิ้มอายไปอายมา” วายุหันมาสบตาภรรยา คราวนี้ลลิลถึงขั้นทำของเล่นลูกสาวหลุดจากมือ “ถ้าอย่างนั้นปู่ไม่แซวแล้ว ดูมือไม้สั่นไปหมด” การได้เป็นสามีภรรยากันอย่างสมบูรณ์ในคืนที่ผ่านมา ยังทำให้หญิงสาวรู้สึกอาย ๆ ไม่กล้าสู้หน้าคนเป็นสามีเท่าไหร่ วายุพยายามทำทุกอย่างให้เป็นปกติเพราะไม่อยากให้ภรรยาของเขาต้องรู้สึกเขินอาย เพราะเรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่
ตอนที่ 8แพ้ใจ ทริปแรกจบไปอย่างสวยงามพระพายมีของฝากมาให้ทุกคนตามที่คุณปู่สั่ง คุณปู่เองก็หอมหลานสาวทั้งคู่เหมือนกับไม่ได้เจอหน้ากันหลายเดือน จนตอนนี้ลลิลเลยทิ้งแก้มใสให้คุณปู่เลี้ยงให้หายคิดถึง บ้านที่ตกแต่งเสร็จแล้วหลายเดือน แต่ลลิลยังไม่มีเวลาที่จะจัดตกแต่ง “ตกลงเฟอร์นิเจอร์เราซื้อใหม่หมดใช่ไหมคะ คือลิลคิดว่าบางอย่างมันก็เอาไปจากห้องเดิมได้ จะได้ประหยัด” วายุส่ายหัวเพราะเขาไม่ได้เป็นคนจ่าย คนที่สั่งให้ซื้อใหม่หมดคือพ่อของเขา ดังนั้นก็มีคนจ่ายเงินให้โดยที่ไม่ต้องกลัวเปลือง “อย่าขัดใจคุณปู่ พรุ่งนี้ไปสั่งกันเลย จะได้ย้ายห้องสักที ตอนนี้ยายหนูก็โตแล้วกลิ้งไปทั่วผมล่ะกลัวสักวันจะตกเตียง”&n
ตอนที่ 7ภรรยาตามกฎหมาย วันนี้แก้มใสแต่งตัวสวยกว่าทุกวัน เพราะวันนี้คุณพ่อกับคุณแม่และพี่พระพายจะพาแก้มใสไปเที่ยวสวนสัตว์ “เอามาให้ปู่อุ้มก่อน พ่อกับแม่จะได้ไปเตรียมของ อย่าลืมนมล่ะวายุเดี๋ยวร้องตายเลย” วายุวุ่นกับการเตรียมของให้หลานสาว ส่วนลลิลก็เตรียมของให้ลูก เพราะหลังจากเที่ยวที่สวนสัตว์ บริเวณนั้นมีอ่างเก็บน้ำและมีรีสอร์ต วายุจะพาเด็ก ๆ และภรรยาไปนอนเล่นสักคืน “คุณพ่อไม่ไปกับเราแน่เหรอครับ นาน ๆ เราจะได้ไปกันที” วายุยังไม่เคยไปเที่ยวพร้อมหน้าครอบครัวแบบนี้เลยสักครั้งแต่เขาก็ไม่เคยเห็นพ่อของเขาไปไหนเหมือนกัน “พ่อจะอยู่เป็นเพื่อนอร เอาไว้ถึงฤดูหนาวเราไปเชียงใหม่กัน ไ