ตอนที่ 5
เปิดตัวเมีย
“พิมพ์ อยู่ในห้องน้ำหรือเปล่า”
ภูริดลตื่นมาพบเพียงแค่ที่นอนที่ว่างเปล่าชายหนุ่มตะโกนเรียกหาภรรยาหมาด ๆ ของเขาแต่กลับไม่มีเสียงตอบมีเพียงแค่รอยปิดไม่สนิทของกระจกที่กั้นระหว่างส่วนของห้องนอนกับระเบียงที่มีรอยถูกเปิดออกภูริดลจึงตัดสินใจเดินออกไปเพราะคิดว่าบางทีภรรยาของเขาอาจจะออกไปยืนสูดอากาศด้านนอก
“คุณร้องไห้ทำไม ! ผมไม่ได้ข่มขืนคุณนะ”
คนถามไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเขากลับรู้สึกโกรธและน้อยใจที่เห็นผู้หญิงที่เขานอนด้วยเมื่อคืนมาแอบยืนร้องไห้เสียใจเหมือนกับว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้มันทำให้เธอรู้สึกทุกข์ไม่มีความสุข
“เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าที่ฉันร้องไห้เพราะกำลังรู้สึกมีความสุขอีกไม่นานฉันก็จะหลุดจากสัญญาของคุณแล้ว”
พิรฎาปดคำโต เธอไม่ได้รู้สึกอย่างที่พูดชีวิตความบริสุทธิ์ของผู้หญิงคนหนึ่งที่เธอก็มีความตั้งใจเหมือนผู้หญิงคนอื่น ๆ ที่อยากจะเก็บรักษาเอาไว้ให้ผู้ชายที่เธอรักที่สุดแต่วันนี้เธอกลับมอบให้กับผู้ชายที่เธอแทบจะไม่มีโอกาสได้รู้จักเขาดีพอเพียงเพราะต้องการเอาชนะบิดาเท่านั้น
“ใครบอกกันว่าใกล้จะสิ้นสุดสัญญามันคือการเริ่มต้นต่างหากสงสัยตอนที่คุณเซ็นยังไม่ได้อ่านโดยละเอียดถ้าอยากเข้าใจทุกอย่างให้มากกว่านี้สัญญาอยู่บนหัวเตียงลองอ่านดูนะ”
หญิงสาวหันมองหน้าชายหนุ่มที่ตอนนี้นุ่งเพียงแค่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียวปกปิดส่วนล่างของเขาด้วยความตกใจเพราะเธอคิดว่าสัญญาที่เธอเซ็นคือการจ้างเธอมาเป็นภรรยาเพื่อตบตาบิดารอวันที่ภูริดลจะได้โอนสมบัติจากผู้เป็นพ่อ
“ฉันจะไปอ่านเดี๋ยวนี้แหละ”
หญิงสาวที่ยังคงอยู่ในชุดนอนรีบเดินกลับเข้ามายังห้องเดินไปตรงบริเวณหัวเตียงหยิบกระดาษแผ่นสีขาวสัญญาที่เธอเคยเซ็นนั่งอ่านอย่างพินิจพิจารณาก่อนที่จะวางลงพร้อมด้วยแววตาที่แน่นิ่งเพราะในสัญญามีมากกว่าที่เธอคิด เธอจะต้องมีลูกให้เขาและทันทีที่เด็กคลอดออกมา เธอถึงจะเป็นอิสระได้โดยที่ตัวเธอเองต้องยอมยกลูกให้กับครอบครัวของภูริดลดูแลแต่เพียงผู้เดียว
“ตกใจมากเลยใช่ไหมเกียรตินิยมอันดับ 1 แต่แค่เรื่องอ่านสัญญาก็ยังไม่ยอมอ่านละเอียดอย่างไรคุณก็เซ็นแล้วนะผมคงช่วยอะไรคุณไม่ได้”
ภูริดลไม่อยากจะพูดจาทำร้ายจิตใจคนตรงหน้าแต่เขาเองก็รู้สึกน้อยใจเหมือนกันมีผู้หญิงมากมายที่อยากจะได้เขาเป็นสามีแต่กับผู้หญิงที่มีโอกาสได้อยู่นอนอยู่ข้าง ๆ เขากลับมองว่าสิ่งที่ได้ไปคือสิ่งไร้ค่าทำหน้าตาเสียใจเหมือนกับว่าการมีเขาเป็นสามีเป็นสิ่งที่ โชคร้ายเหลือเกิน
“นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันวะนี่ แกตัดสินใจอะไรลงไปพิมพ์”
ทันทีที่ประตูห้องน้ำถูกปิดลงเสียงน้ำที่ไหลจากฝักบัวกระทบพื้นกระเบื้องในห้องน้ำเสียงร้องไห้จากด้านนอกก็ดังแข่งขึ้นมาทันทีเมื่อมั่นใจว่าชายหนุ่มมที่กำลังอาบน้ำจะไม่ได้ยินเสียงของเธอ
พิรฎาเริ่มรู้สึกว่าสิ่งที่ตัวเองตัดสินใจมันผิดพลาดไปหมดแต่ด้วยทิฐิมานะทำให้เธอยอมที่จะเช็ดน้ำตากัดฟันสู้และทำให้เหมือนว่าเธอไม่ได้ผิดพลาดอะไรทุกอย่างคือความตั้งใจเธอจะไม่ยอมแสดงความอ่อนแอให้ภูริดลหรือไม่ว่าใครทั้งนั้นเห็นอีก อย่างน้อยมันก็คงดีกว่าการยอมเป็นนกน้อยในกรงทองให้บิดาขังไว้และต้องทนเจ็บปวดกับพฤติกรรมของแม่เลี้ยงที่แม้เธอจะพยายามบอกใครว่าผู้หญิงคนนั้นไม่ได้เป็นคนดีอย่างที่ทุกคนคิดก็กลับไม่มีใครเชื่อ
“รีบอาบน้ำผมจะพาคุณไปข้างนอก”
“ไปไหน ฉันไม่อยากไปไหนทั้งนั้น”
หญิงสาวไม่ยอมลุกไปอาบน้ำตามความต้องการของอีกฝ่ายแต่เธอกลับเลือกที่จะดึงผ้าห่มผืนนุ่มขึ้นมาคลุมร่างกายหลับตานอนเหมือนว่าเธอตั้งใจจะดื้อดึงไม่ยอมทำตามคำสั่ง
“ลุกเดี๋ยวนี้หรือจะเล่นตัวให้อุ้มเธอไปอาบน้ำ สงสัยจะติดใจเมื่อคืนก็เลยอยากเปลี่ยนบรรยากาศ”
คนร่างสูงใหญ่กระชากผ้าห่มออกไปให้พ้นทางก่อนที่จะฉุดดึงมือคนตัวเล็กที่แกล้งนอนหลับอยู่บนเตียงให้ลุกขึ้นมานั่งและทำท่าเหมือนกำลังจะอุ้มเธอไปยังห้องน้ำ
“รู้แล้วเดี๋ยวไปอาบเองอย่าคิดว่าตัวเองถือสัญญาและจะเหนือกว่า”
“ทีหลังก็อย่าทำอะไรให้มันยากถ้าไม่อย่างนั้นผมคงต้องพัฒนาความรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ หรือบางทีที่คุณทำตัวแบบนี้ก็นิยมความรุนแรงอยู่เหมือนกัน”
ภูริดลไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมตอนนี้เขาถึงได้กลายเป็นผู้ชายปากร้ายเพียงเพราะรู้สึกว่าต้องการเอาชนะหญิงสาวที่เขาตั้งใจเพียงว่าจะจ้างให้เธอมาเป็นภรรยารับจ้างเพื่อหลอกตาบิดาเท่านั้นแต่ทำไมเขากลับรู้สึกน้อยใจกับความเฉยชาที่อีกฝ่ายแสดงทั้งที่เมื่อคืนนี้เธอกับเขามีความสัมพันธ์ที่แนบชิดเป็นสามีภรรยากันอย่างถูกต้องทางกาย
คฤหาสน์หลังใหญ่ที่ถึงแม้ตอนนี้จะเป็นเวลาสายแล้วแต่ ทุกคนก็ยังคงนั่งคุยเล่นกันอยู่ที่ห้องโถงห้องรับแขกเป็นภาพที่พิรฎารู้สึกไม่คุ้นตาเพราะชีวิตของเธออยู่บ้านหลังใหญ่ที่มีชีวิตอยู่แค่เพียงในห้องนอนเท่านั้นเธอหลุดพ้นจากอณาเขตตัวเองมาเมื่อไรก็จะต้องมาพบเจอกับสงครามประสาทจากคนที่ได้ชื่อว่าเป็นแม่เลี้ยง
คฤหาสน์หลังใหญ่ที่ถึงแม้ตอนนี้จะเป็นเวลาสายแล้วแต่ ทุกคนก็ยังคงนั่งคุยเล่นกันอยู่ที่ห้องโถงห้องรับแขกเป็นภาพที่พิรฎารู้สึกไม่คุ้นตาเพราะชีวิตของเธออยู่บ้านหลังใหญ่ที่มีชีวิตอยู่แค่เพียงในห้องนอนเท่านั้นเธอหลุดพ้นจากอณาเขตตัวเองมาเมื่อไรก็จะต้องมาพบเจอกับสงครามประสาทจากคนที่ได้ชื่อว่าเป็นแม่เลี้ยง “กินข้าวกันหรือยังลูกวันนี้มีน้ำพริกกะปิคุณนารีทำไว้” บารมีเอ่ยทักลูกชายและลูกสะใภ้ด้วยแววตาที่ดูมีความสุขที่เห็นทั้งคู่เดินโอบกอดกันมาจากชั้น 2 คนเป็นพ่อเฝ้าหวังว่าจะได้เห็นภาพแบบนี้มาหลายปีถึงแม้จะดูช้าไปแต่อย่างน้อยบารมีก็มีหวังมากขึ้นที่เขาจะได้เป็นคุณปู่กับเขาเสียที “ผมจะพาพิมพ์ไปกินข้าวข้างนอกครับเพราะจะแวะเข้าบริษัทก่อน ช่วงบ่ายว่าจะพาเธอไปหาหมอตรวจร่างกายเสียหน่อยว่าพร้อมจะมีลูกให้ผมหรือยัง” พิรฎามองหน้าคนพูดด้วยความตกใจเพราะเขาไม่เคยบอกเธอว่าวันนี้จะพาเธอไปพบหมอถึงแม้เธอจะยอมเซ็นสัญญาแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะทำอะไรกับเธอก็ได้ “ไม่เห็นคุณบอกพิมพ์เลยว่าจะไปหาหมอ” “ก็ผมบอกอยู่นี่ไง คุณก็ได้ยินแล้วหรือคุณมีปัญหา”
ตอนที่ 6นามสกุลที่คุ้นหู“สบายใจขึ้นหรือยังคะ” พิรฎาถอนหายใจก่อนจะหันไปถามชายหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างๆเธอด้วยใบหน้าที่แสนจะเหน็ดเหนื่อยหลังจากที่เธอต้องเข้าไปตรวจร่างกายกับคุณหมอเพราะหญิงสาวทั้งรู้สึกกลัวและรู้สึกเจ็บกับการที่ต้องโดนตรวจภายในเป็นครั้งแรก “ก็ดีนะผมจะได้ตั้งหน้าตั้งตาทำเต็มที่คุณเองก็เตรียมร่างกายให้พร้อมจะได้ไม่ต้องทนเป็นเมียผมนานเอาเถอะยิ่งเรามีลูกกันช้าเท่าไหร่คุณก็ยังจะต้องทนเห็นหน้าผมไปอีกนาน” สาวน้อยได้แต่หันไปมองคนขับที่ตั้งแต่ออกมาจากบ้านเขายังไม่พูดหยุดพูดจาประชดประชันเธอเลยสักครั้งด้วยความรู้สึกเหนื่อยใจเหลือเกินแต่เธอก็ไม่อยากจะต่อล้อต่อเถียงอะไรแล้วเพราะตลอดทางเธอเองก็เถียงเข้ามาตลอดเหมือนกันจึงคิดว่าต่อไปนี้จะอยู่แบบเงียบๆบ้างเพราะแค่ต้องทนปฏิบัติตามคำสั่งของเขาเธอก็เหนื่อยใจพออยู่แล้วถ้ายังจะต้องมาเถียงเอาผิดเอาถูกกับเขาอีกเธอคงจะต้องบ้าก่อนที่งานสำเร็จแน่นอน “แวะไหนอีกคะนี่ฉันคิดว่าเราจะกลับบ้านกันได้แล้ว” คนขับไม่ได้มุ่งหน้ากลับบ้านตามที่อีกฝ่ายคิดแต่เขากลับพาเธอมาที่หน่วยงานราชการแห่งหนึ่งซึ่งเป้าหมายของเขาก็คือ
ตอนที่ 7เมื่อความผูกพันมันก่อตัว“ผมขอบัวลอยเพิ่มอีกสักถ้วยนะครับ” ทุกคนในโต๊ะอาหารต่างหันไปมองคนพูดด้วยความตกใจเพราะนับตั้งแต่นารีเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ในฐานะแม่เลี้ยงของ ภูริดลชายหนุ่มแทบจะไม่ยอมพูดจาอะไรกับเธอแต่วันนี้เขากลับขอบัวลอยเพื่อทั้งที่มันคือฝีมือของนารีซึ่งปกติแล้วชายหนุ่มแทบจะ ไม่ยอมแตะต้องมันเลยด้วยซ้ำ “ที่ทำงานเป็นอย่างไรบ้างลูก” บารมีเห็นบรรยากาศบนโต๊ะอาหารเริ่มมีความสนิทสนมคุ้นเคยกันมากขึ้นเขาจึงหาเรื่องชวนลูกชายคุยเกี่ยวกับงานบริษัทที่เขาวางมือให้ลูกชายเป็นคนสานต่อส่วนตัวเขาเองเป็นเพียงแค่ที่ปรึกษาใหญ่คอยให้คำแนะนำในเรื่องที่สำคัญเท่านั้น ระหว่างพ่อลูกกำลังพูดคุยกันพิรฎาก็ลุกขึ้นไปช่วยนารีเตรียมขนมหวานให้กับคนทั้งคู่อีกรอบเพราะขนมบัวลอยฝีมือนารีมีทั้งความอร่อยและกลิ่นหอมจึงทำให้สองพ่อลูกค้าเติมกันอีกเรื่อยๆ ช่วงระยะเวลาที่ผู้ชายทั้ง 2 คนออกไปทำงานข้างนอกสองหญิงที่อยู่ในบ้านจึงมีเวลาได้พูดคุยกันจนเกิดความสนิทสนมพิรฎามองเห็นความดีในตัวของนารีและความจริงใจที่เริ่มชัดเจนออกมาทุกวัน เธอพยายามทำให้
ตอนที่ 8อะไรคือความจริง“ว้าย ! ” สิ้นเสียงกรีดร้องด้วยความตกใจพิรฎาก็มารู้สึกตัวอีกทีเธอก็นอนอยู่ที่โรงพยาบาลโดยมีสามีคอยยืนอยู่ข้างๆ “คุณปลอดภัยแล้วนะ” ภูริดลจับมือภรรยามากอดแน่นรอยยิ้มของเขามันดูมีความสุขมากกว่าการที่เห็นภรรยาลืมตาฟื้นขึ้นมาจนคนป่วยส่งสายตาเป็นคำถามให้อีกฝ่ายอธิบายว่าเกิดอะไรขึ้น “คุณกับลูกปลอดภัยดี” ชายหนุ่มบอกข่าวดีแก่ภรรยาที่มันเหมือนสายฟ้าฟาดลงไปกลางหัวใจของคนที่ตั้งใจจะสารภาพความจริงทุกอย่างภายในวันนี้จากที่ชีวิตของเธอมีแค่เพียงตัวคนเดียวตัดสินใจจะทำอะไรก็ยากเย็นมากพออยู่แล้วพอมารู้ข่าวที่ควรจะเป็นข่าวดีแต่มันกลับทำให้หัวใจของเธอรู้สึกสั่นไหววูบวาบไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรกับชีวิตที่ต่อไปนี้เพราะเธอกำลังจะเป็นแม่คน “ฉันท้องหรอคะ” “ใช่ เรากำลังจะมีลูกด้วยกันนะ” ภูริดลพยายามกลบเกลื่อนความรู้สึกบางอย่างในหัวใจเหมือนกันเพราะในสัญญาเขียนบอกไว้ว่าทันทีที่หญิงสาวคลอดลูกออกมาสัญญาจะจบลงทันทีชายหนุ่มไม่แน่ใจเลยว่าพิรฎาจะไปจากเขาทันทีหรือไม่เพราะถึงเวลานั้นเธอมีอิสระเต็มตัวแล้ว คุณหมอตรวจดูอ
ตอนที่ 9ภรรยาไม่รับจ้างพิรฎาก้าวเท้าออกจากบ้านที่เธอคิดว่ามันคือความอบอุ่นที่สุดในชีวิตของเธอ เธอตัดสินใจที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองให้กลายมาเป็นคนเข้มแข็งจะไม่หนีปัญหาอีกแล้ว ทันทีที่เธอเหยียบเท้าเข้าไปสู่บ้านหลังใหญ่ซึ่งเป็นบ้านของพ่อและแม่เธอตั้งใจจะประกาศตัวเป็นศัตรูกับอภิรดีทันทีวันนี้เธอจะเอาทุกอย่างคืน“คุณพ่อพิมพ์กลับมาแล้ว”สาวน้อยเปิดประตูบ้านก้าวเท้าเข้าไปก้มกราบบิดาทันทีเวลานี้พระอาทิตย์เพิ่งจะพ้นขอบฟ้าอภิรดียังคงไม่ตื่นนอน 2 คนเพ่อลุกจึงมีโอกาสได้พูดคุยกัน“พิมพ์ขอโทษที่ทำให้คุณพ่อต้องเป็นห่วงคุณพ่อรู้แล้วใช่ไหมว่าอีนั่นมัน….”คนเป็นพ่อใช้ฝ่ามือปิดปากของลูกเพราะไม่ต้องการให้ หญิงสาวพูดอะไรออกมาอีกแล้วเวลานี้นิรุตรู้ความจริงหมดแล้ว ทุกอย่างว่าภรรยาที่เขาคิดว่าเธอเป็นแม่เลี้ยงที่แสนดีดูแลลูกสาวเขามาตลอดแท้ที่จริงเธอคืออสรพิษที่สูบเงินของเขาโยกย้ายเข้าไปบัญชีส่วนตัวของเธอจนเวลานี้บริษัทของเขาแทบจะยืนอยู่ไม่ได้โชคยังดีที่กรรมการบริหารคนอื่นของบริษัทยังคงเข้มแข็ง“พิมพ์จะเล่าทุกเรื่องที่เกิดขึ้นให้คุณพ่อฟังค่ะ”ครั้งแรกที่สองคนพ่อลูกเปิดใจพูดคุยเรื่องราวทั
ตอนที่1เมื่อเขาให้เป็นแค่น้องสาว “พี่วินเป็นอะไรคะ ทำไมถึงได้มานั่งเงียบ ๆ อยู่แบบนี้” มิตาน้องสาวต่างสายเลือดถามพี่ชายที่เป็นเพียงแค่ลูกของสามีใหม่ของมารดาด้วยความเป็นห่วงที่เห็นชายหนุ่มหลบผู้คนมานั่งเงียบอยู่ที่สระว่ายน้ำหลังบ้าน ธาวินเป็นผู้ชายที่เรียกได้ว่ามีคุณสมบติครบทุกอย่างตามที่สาว ๆ ต้องการแต่ตัวเขาเองเจ็บกับคำว่าความรักมามากเขาจึง ไม่คิดจะเริ่มต้นใหม่กับใคร “ทุกครั้งที่พี่มีเรื่องอะไรไม่สบายใจ ก็เห็นจะมีแต่น้องสาวพี่คนนี้ที่รู้ทันและตามมาถามมาห่วง ถ้าวันไหนมิตามีแฟนมีครอบครัวขึ้นมาพี่คงไม่รู้จะเล่าความทุกข์ให้ใครฟังได้เลย” มิตาได้แต่ส่งยิ้มหวานให้ชายหนุ่มที่นั่งข้าง ๆ เธอ ทั้งสองคนหย่อนเท้าลงไปในสระน้ำเตะเท้าไปมาโดยที่ยังไม่มีใครพูดอะไร หญิงสาวไม่กล้าถามเพราะอยากให้คนที่กำลังเครียดเป็นฝ่ายเริ่มเล่าเองมากกว่า ธาวินนั่งเงียบไปเกือบสิบนาทีก่อนที่จะเริ่มเล่าความทุกข์ของเขาในวันนี้โดยที่ไม่ได้หันหน้ามาหาผู้ฟังตามแบบที่เขาทำเสมอเวลาระบายความทุกข์ให้มิตาฟัง “วันนี้พี่ไปที่สนามกีฬามา ตั้งใจว่าจะไปวิ่ง
ตอนที่ 2เลขาส่วนตัว มิตาเรียนจบเธอก็ได้ตำแหน่งเลขาส่วนตัวของธาวินทันที งานเลขาไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลยสำหรับคนที่จบทางด้านภาษามาอย่างมิตา เธอต้องเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ ดาราต้องเริ่มสอนทีละงานที่คิดว่ามิตาจะสามารถทำได้ “เหนื่อยไหมวันนี้ วันแรกของการเป็นเลขาพี่” ธาวินหันมาถามหญิงสาวที่นั่งข้าง ๆ เพราะตอนนี้ท่าทางของมิตาเหมือนคนกำลังจะหมดแรง “ง่วงมากเลยค่ะ ช่วงบ่ายมิตาแอบหลับด้วยเวียนหัวกับตัวหนังสือ มันเยอะไปหมด สงสารคุณดาราเลยลูกอ่อนแล้วยังต้องมาทำงานหนักแบบนี้” “ถ้าสงสารก็รีบเรียนรู้ คุณดาราเธอจะได้มีเวลาให้กับลูกมากขึ้น” หญิงสาวหันมาส่งยิ้มให้พี่ชายต่างสายเลือดก่อนที่จะเผลอหลับไปอย่างไม่รู้ตัวเพราะความเพลีย คนตัวเล็กหลับแล้ว ธาวินไม่รู้จะคุยกับใครทำให้เขาคิดถึงเรื่องที่บิดาเรียกเขาไปคุยเมื่อสองวันก่อน อดิสรณ์พูดกับลูกชายเรื่องของการมีทายาทสืบสกุลเพราะตัวอดิสรณ์ก็เป็นลูกชายเพียงคนเดียวและเขาก็ดันมีธาวินเพียงคนเดียวอีก ถ้าธาวินไม่มีลูกก็เท่ากับว่าตระกูลของเขาจะจบสิ้นเพียงเท่านี้ กิจการต่าง ๆ ที่ทำไว้สร้างมาด้วยน้ำพักน
ตอนที่ 3บีบ ธาวินกับมิตากว่าจะกลับถึงบ้านก็ดึกมากแล้ว บ้านหลังใหญ่เปิดไฟอยู่เกือบทุกดวง แม่บ้านพากันมานั่งอยู่กลางบ้านเหมือนกำลังรออะไรกันสักอย่าง “คุณธาวินคุณท่านอยู่ดี ๆ ก็หายใจติดขัด ปากเบี้ยว คุณวิภาพาส่งโรงพยาบาลแล้วค่ะ” แม่บ้านที่อายุมากที่สุดและอยู่รับใช้ครอบครัวนี้มานานทำหน้าที่รายงานเจ้านายตัวน้อยของเธอ “ตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ ทำไมไม่มีใครโทรศัพท์บอกผมเลย” “ตั้งแต่หัวค่ำแล้ว พวกเราก็รอฟังข่าวคุณวิภาก็ไม่เห็นโทรกลับมา คุณาวินรีบตามไปนะคะและส่งข่าวให้พวกเรารู้บ้าง จะได้หายห่วงกัน” ธาวินและมิตารีบขับรถตามไปที่โรงพยาบาล ชายหนุ่ม ไม่ยอมให้มิตาโทรศัพท์ไปถามมารดาของเธอ เพราะเขาอยากไปรู้ด้วยตัวเองมากกว่า ธาวินกลัวว่าถ้าบิดาอาการไม่ดีตัวเขาเองจะแย่ไปอีกคน โรงพยาบาลอยู่ไม่ไกลจากตัวบ้านจึงใช้เวลาไม่นานและตอนนี้ดึกแล้วถนนค่อนข้างโล่ง มิตาวิ่งตามชายหนุ่มที่กำลังวิ่งนำเธอเพื่อไปยังฝ่ายประชาสัมพันธ์เพื่อถามว่าตอนนี้บิดาของเขาอยู่ที่ไหน “คนไข้อยู่ห้องฉุกเฉินค่ะตอนนี้” ธาวินได้คำตอบก็รีบวิ่งตรงไ
ตอนที่ 8ทะเบียนสมรส เสียงของผู้หญิงที่ดังแทรกเข้ามาก่อนที่ภูเบศจะวางสายทำให้หัวใจของผู้หญิงที่ไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองมีตัวตนในชีวิตของเขาไม่สบายใจ ล้านนาพยายามที่จะข่มตาให้หลับลงแต่มันก็ไม่สำเร็จ เธอวางสายจากเจ้านายไปเกือบสองชั่วโมงแล้วแต่ความรู้สึกมันเหมือนทุกอย่างยังคงวนเวียนอยู่ในความคิดของเธอ เสียงรถยนต์มาจอดที่หน้าบ้านและตามมาด้วยเสียงประตูหน้าบ้านเปิดออก หญิงสาวรีบลุกออกจากเตียงนอนมาดูที่หน้าต่างด้วยความตกใจเพราะเวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะมีใครมาหาเธอ “ไหนคุณว่าจะนอนกับคุณแม่คุณไม่ใช่หรือคะ” หญิงสาวดีใจที่คนที่มาคือผู้ชายที่เธอสุดแสนจะคิดถึงและมีเรื่องค้างคาใจ
ตอนที่ 7มือที่สามที่ไม่ได้รับเชิญ “ไม่ได้พักที่เดิมหรือล้านนาเดี๋ยวนี้พี่ไม่เห็นเธอกลับรถสายเดิม” ดลย์พนักงานรุ่นพี่เดินเข้ามาทักหญิงสาวที่กำลังเดินลงทางบันไดหนีไฟเพราะตอนนี้ที่ลิฟท์มีคนรออยู่หลายคน “อืม ล้านนาย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้วค่ะ นึกอย่างไรคะถึงได้มาเดินลงบันไดหนีไฟแบบนี้” “คนรออีกเพียบเดินออกกำลังกายดีกว่า วัน ๆ ทำงานก็นั่งอยู่แต่กับเก้าอี้จะได้ยืดเส้นยืดสายด้วย” รุ่นพี่ทำงานทำท่าทางประกอบให้รู้ว่าเขาต้องการออกกำลังกายจริง ๆ “ข้างนอกฝนตกแรงแบบนี้ ล้านนาให้พี่ไปส่งไหมหรือไม่ก็ไปลงตรงไหนที่ใกล้ที่พักแล้วค่อยต่อรถไปอีกทีก็ได้ถ้ารออยู่หน้าบริษัทแบบนี้พี่ว
ตอนที่ 6รู้แค่วันนี้ฉันยังมีเธอ “ล้านนาหายไปไหนมา งานที่พี่ให้เธอทำไม่มีอะไรใช่ไหม” ยุพารีบเข้ามาประกบลูกน้องทันทีที่ล้านนามาถึงที่บริษัท “ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ พี่ยุพาสบายใจได้ไม่มีใครรู้ว่าพี่เอางานมาให้หนูทำ” ยุพาค่อยสบายใจขึ้นมาหน่อยเพราะการที่ลูกน้องของเธอลางานสองวันติดแถมยังเป็นการหายไปพร้อมเจ้านายอีก ยุพาแอบกลัวว่าจะเกี่ยวกับงานที่เธอจ้างให้ทำ การทำงานยังคงเป็นไปอย่างปกติแต่ที่ทุกคนในแผนกกำลังให้ความสนใจคือยุพาถูกท่านรองประธานบริษัทเรียกเข้าไปคุยเกือบชั่วโมงยังไม่ออกมา “ล้านนาจะเกี่ยวกับเราสองคนไหม” ส้มโอ
ตอนที่ 9ความรักชนะทุกอย่าง ล้านนายังคงมีอาการแพ้ท้อง ภูเบศจึงไม่ยอมให้เธอไปทำงานให้นอนพักอยู่ที่บ้าน ส่วนตัวเขาเองรีบเข้าบริษัทอย่างรีบร้อนแต่ไม่ใช่เพราะมีงานเร่งด่วนแต่เขามีธุระสำคัญต้องคุยกับบิดา ประจักษ์ไม่ค่อยได้กลับบ้านเพราะกลับไปทีไรก็ต้องได้มีเรื่องทะเลาะกับราตรีทุกที “คุณพ่อครับผมมีเรื่องสำคัญจะปรึกษา” คนเป็นลูกมองไม่เห็นใครแล้วที่จะช่วยคุยกับมารดาของเขาได้นอกจากบิดาเพียงคนเดียว ภูเบศเล่าเรื่องราวระหว่างเขากับล้านนาให้กับประจักษ์ฟังตั้งแต่เริ่มต้นและสุดท้ายก็จบลงด้วยเรื่องของทรายแก้วอดีตคนรักที่มารดาต้องการจะให้เขาแต่งงานด้วย “ลูกทำไมปล่อยให้ทุกอย่างเลยเถิดมาถึงขั้นนี้แต่ก็ยังดีนะที่ไม่ปล่อยให้ทุกอย่างเกินเลยไปจนเกินแก้ไข” ประจักษ์เข้าใจและพร้อมจะอยู่ข้างเขาแต่ก็อดที่จะตำหนิไม่ได้ที่ภูเบศปล่อยให้ทุกอย่างมาไกลจนล้านนาท้อง “ผมแค่คิดว่ายังไม่พร้อมจะสละชีวิตโสดแต่พอมารู้ว่าผมกำลังจะได้เป็นพ่อคนและล้านนาจะไปจากผม ทุกอย่างรอไม่ได้อีกแล้ว” “ชีวิตคนเรามันสั้นนัก อย่าทำอะไรผิดพลาดแล้วไม่รีบแก้ไขเหมือนพ่อก
ตอนที่ 5สถานะที่ไม่ได้เลือก “คุณพาฉันมาที่นี่ทำไม” ล้านนายังไม่ยอมลงจากรถเมื่อมาถึงหน้าบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ที่อยู่ส่วนในสุดของหมู่บ้านที่ดูสะอาด สงบน่าอยู่มาก ๆ “บ้านหลังนี้คือบ้านที่คุณต้องอยู่จนกว่าผมจะเบื่อ” ภูเบศลงจากรถมาเปิดประตูให้หญิงสาวที่ยังคงนั่งสับสนทำอะไรไม่ถูก “ลงมาเถอะยังมีอีกหลายอย่างที่เราต้องจัดการภายในวันนี้ให้เสร็จ” เจ้าของบ้านเดินนำเข้าบ้านไปพร้อมกระเป๋าหลายใบในมือที่เป็นข้าวของที่หญิงสาวขนมาจากห้องพักเดิม “คุณให้ฉันมาอยู่ที่บ้านใคร” ล้านนารู้สึกไม่ไว้ใจ “บ้านผม บ้านหลังนี้ผมซื้อไว้ขายแต่ตอนนี้คงไม่ขายแล้ว อย่าเสียเวลาถามอะไรอยู่เลย ลองมองดูว่าขาดเหลืออะไรจะได้พาไปซื้อ ทางร้านจะได้มาส่งวันนี้ทัน” เจ้าของบ้านเดินออกไปขนของในรถมาวางกองรวมกันไว้ในขณะที่คนมาใหม่ก็เดินสำรวจไปรอบ ๆ บ้านหลังนี้เป็นบ้านชั้นเดียวมีเนื้อที่รอบบ้าน ห้องนอนสี่ห้องทำให้ล้านนารู้สึกว่าที่นี่มันใหญ่เกินไปสำหรับการที่เธอต้องอยู่อาศัยเพียงคนเดียว “บ้านมันใหญ่เกินไป ฉันไปอยู่ห้องเช่าเหมือนเดิมดีแล้ว”
ตอนที่ 10ถ้าไม่ใช่เธอ..ใครก็ไม่เอา ลิตาทำอะไรไม่ถูก เธอรู้ว่าคงไม่มีทางปฎิเสธได้ จึงเปลี่ยนเป็น ยกมือไหว้อ้อนวอนอีกฝ่ายแทน “ที่ลิตาทำไปเพราะอยากได้เข้ามาดูแลลูกและคุณกับลิลก็ไม่ได้เป็นสามีภรรยากันจริง ๆ ลิตาก็คิดว่าไม่น่าจะมีอะไรแค่อยากได้มีโอกาสดูแลลูกบ้าง” วายุเห็นท่าทางของพี่สาวภรรยานอกจากมันจะไม่ทำให้เขาสงสารแล้ว มันยังทำให้เขารู้สึกโมโหมากกว่าเดิม “หยุดตอแหล ก่อนที่ผมจะไม่เห็นความเป็นคนในตัวคุณ คุณลิตาคุณรู้ไว้เลยนะ ว่าผมกับลิลเราเป็นสามีภรรยากันอย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้วก็ทางปฎิบัติด้วย ถ้าคุณทำแบบนี้อีก ผมจะให้คุณชดใช้เงินสิบห้าล้านคืนผม เพราะสัญญาที่คุณเซ็นมันคือสัญญาการกู้ยืมเงิน” ลิตาอยากได้เงินจนไม่ได้อ่านว่าตัวเอ
ตอนที่ 9 ทวง อนุสรณ์สังเกตสีหน้าท่าทางของลูกชาย เช้านี้วายุทำหน้าเหมือนคนยิ้มแบบเขินตลอดเวลา พอหันมาที่ลูกสะใภ้คนเล็กก็ไม่ต่างกัน “พระพายวันนี้คุณอาหนูเขาไปแอบมีความสุขอะไรกันมา ปู่เห็นตั้งแต่เดินลงมาก็เอาแต่ยิ้มอายไปอายมา” วายุหันมาสบตาภรรยา คราวนี้ลลิลถึงขั้นทำของเล่นลูกสาวหลุดจากมือ “ถ้าอย่างนั้นปู่ไม่แซวแล้ว ดูมือไม้สั่นไปหมด” การได้เป็นสามีภรรยากันอย่างสมบูรณ์ในคืนที่ผ่านมา ยังทำให้หญิงสาวรู้สึกอาย ๆ ไม่กล้าสู้หน้าคนเป็นสามีเท่าไหร่ วายุพยายามทำทุกอย่างให้เป็นปกติเพราะไม่อยากให้ภรรยาของเขาต้องรู้สึกเขินอาย เพราะเรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่
ตอนที่ 8แพ้ใจ ทริปแรกจบไปอย่างสวยงามพระพายมีของฝากมาให้ทุกคนตามที่คุณปู่สั่ง คุณปู่เองก็หอมหลานสาวทั้งคู่เหมือนกับไม่ได้เจอหน้ากันหลายเดือน จนตอนนี้ลลิลเลยทิ้งแก้มใสให้คุณปู่เลี้ยงให้หายคิดถึง บ้านที่ตกแต่งเสร็จแล้วหลายเดือน แต่ลลิลยังไม่มีเวลาที่จะจัดตกแต่ง “ตกลงเฟอร์นิเจอร์เราซื้อใหม่หมดใช่ไหมคะ คือลิลคิดว่าบางอย่างมันก็เอาไปจากห้องเดิมได้ จะได้ประหยัด” วายุส่ายหัวเพราะเขาไม่ได้เป็นคนจ่าย คนที่สั่งให้ซื้อใหม่หมดคือพ่อของเขา ดังนั้นก็มีคนจ่ายเงินให้โดยที่ไม่ต้องกลัวเปลือง “อย่าขัดใจคุณปู่ พรุ่งนี้ไปสั่งกันเลย จะได้ย้ายห้องสักที ตอนนี้ยายหนูก็โตแล้วกลิ้งไปทั่วผมล่ะกลัวสักวันจะตกเตียง”&n
ตอนที่ 7ภรรยาตามกฎหมาย วันนี้แก้มใสแต่งตัวสวยกว่าทุกวัน เพราะวันนี้คุณพ่อกับคุณแม่และพี่พระพายจะพาแก้มใสไปเที่ยวสวนสัตว์ “เอามาให้ปู่อุ้มก่อน พ่อกับแม่จะได้ไปเตรียมของ อย่าลืมนมล่ะวายุเดี๋ยวร้องตายเลย” วายุวุ่นกับการเตรียมของให้หลานสาว ส่วนลลิลก็เตรียมของให้ลูก เพราะหลังจากเที่ยวที่สวนสัตว์ บริเวณนั้นมีอ่างเก็บน้ำและมีรีสอร์ต วายุจะพาเด็ก ๆ และภรรยาไปนอนเล่นสักคืน “คุณพ่อไม่ไปกับเราแน่เหรอครับ นาน ๆ เราจะได้ไปกันที” วายุยังไม่เคยไปเที่ยวพร้อมหน้าครอบครัวแบบนี้เลยสักครั้งแต่เขาก็ไม่เคยเห็นพ่อของเขาไปไหนเหมือนกัน “พ่อจะอยู่เป็นเพื่อนอร เอาไว้ถึงฤดูหนาวเราไปเชียงใหม่กัน ไ