ตอนที่ 9
ภรรยาไม่รับจ้าง
พิรฎาก้าวเท้าออกจากบ้านที่เธอคิดว่ามันคือความอบอุ่นที่สุดในชีวิตของเธอ เธอตัดสินใจที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองให้กลายมาเป็นคนเข้มแข็งจะไม่หนีปัญหาอีกแล้ว ทันทีที่เธอเหยียบเท้าเข้าไปสู่บ้านหลังใหญ่ซึ่งเป็นบ้านของพ่อและแม่เธอตั้งใจจะประกาศตัวเป็นศัตรูกับอภิรดีทันทีวันนี้เธอจะเอาทุกอย่างคืน
“คุณพ่อพิมพ์กลับมาแล้ว”
สาวน้อยเปิดประตูบ้านก้าวเท้าเข้าไปก้มกราบบิดาทันทีเวลานี้พระอาทิตย์เพิ่งจะพ้นขอบฟ้าอภิรดียังคงไม่ตื่นนอน 2 คนเพ่อลุกจึงมีโอกาสได้พูดคุยกัน
“พิมพ์ขอโทษที่ทำให้คุณพ่อต้องเป็นห่วงคุณพ่อรู้แล้วใช่ไหม
ว่าอีนั่นมัน….”
คนเป็นพ่อใช้ฝ่ามือปิดปากของลูกเพราะไม่ต้องการให้ หญิงสาวพูดอะไรออกมาอีกแล้วเวลานี้นิรุตรู้ความจริงหมดแล้ว ทุกอย่างว่าภรรยาที่เขาคิดว่าเธอเป็นแม่เลี้ยงที่แสนดีดูแลลูกสาวเขามาตลอดแท้ที่จริงเธอคืออสรพิษที่สูบเงินของเขาโยกย้ายเข้าไปบัญชีส่วนตัวของเธอจนเวลานี้บริษัทของเขาแทบจะยืนอยู่ไม่ได้โชคยังดีที่กรรมการบริหารคนอื่นของบริษัทยังคงเข้มแข็ง
“พิมพ์จะเล่าทุกเรื่องที่เกิดขึ้นให้คุณพ่อฟังค่ะ”
ครั้งแรกที่สองคนพ่อลูกเปิดใจพูดคุยเรื่องราวทั้งหมดที่ ทุกคนต่างก็ได้รับรู้มาในแง่มุมที่ต่างกัน
นิรุตเล่าความจริงระหว่างที่ลูกสาวหนีออกจากบ้านว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตของเขาและตอนนี้เขากำลังต้องการที่จะให้ใครสักคนหาหลักฐานมาเอาผิดอภิรดีเพราะตัวเขาเองยังไม่มีแรงแม้แต่จะพาตัวเองออกไปเดินนอกบ้านจึงหวังว่าลูกสาวจะสามารถจับคนผิดเข้าคุกได้
พิรฎาเล่าเรื่องราวชีวิตของเธอที่เธอได้ไปเซ็นสัญญายอมเป็นภรรยารับจ้างให้กับภูริดลจนตอนนี้เธอกำลังตั้งท้องลูกของเขาอยู่หญิงสาวไม่กล่าวโทษว่าเป็นความผิดของชายหนุ่มเลยเธอโทษว่าตัวเธอเองต่างหากที่เป็นคนไม่จริงใจโกหกในขณะที่อีกฝ่ายมอบความจริงใจและความอบอุ่นให้กับเธอมาตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่เธอก้าวเข้าไปอยู่ในบ้านหลังนั้น
“ตอนนี้ลูกไม่ใช่ตัวคนเดียวทำอะไรก็ขอให้ใช้เหตุผลและคิดถึงลูกให้มาก ๆ คนเราถ้าเป็นพ่อแม่คนแล้วควรจะคิดถึงตัวเองเป็นสิ่งสุดท้ายอย่าเห็นแก่ตัวเหมือนพ่อนะลูก ทุกวันนี้พ่อรู้แล้วว่าความสุขที่พ่อยัดเยียดให้หนูแท้ที่จริงแล้วมันคือความทุกข์ต่างหาก”
พิรฎาเข้าใจทุกอย่างที่พ่อพูดและการหนีมาครั้งนี้ของเธอเธอก็มีความหวังว่าเวลาที่เธอกับภูวดลไม่ได้อยู่ด้วยกันมันอาจจะทำให้ทั้งคู่ต่างได้รับรู้หัวใจตัวเองและเธอเองต้องการจะกลับมาทำหน้าที่ลูกที่ดีอีกครั้งเพราะไม่อยากรู้สึกผิดในวันที่สายเกินไป
พิรฎารีบขับรถออกจากบ้านมุ่งตรงไปยังบริษัทและเรียกประชุมคณะกรรมการผู้ถือหุ้นโดยที่ปิดบังไม่ให้อภิรดีรู้เพราะกว่า แม่เลี้ยงของเธอจะตื่นนอนก็เป็นเวลาเกือบบ่ายโมงแล้วเธอจึงต้องรีบทำทุกอย่างเพื่อใช้ในการหาหลักฐานเอาผิดกับคนที่ยักยอกเงินของบริษัท
“พวกเราได้รวบรวมหลักฐานให้หมดแล้วรอก็แต่เมื่อไหร่ที่คุณนิรุตจะเอาเรื่องภรรยาสักทีในเมื่อตอนนี้คุณพิมพ์ออกโรงเองทางพวกเราก็ขอส่งต่อหลักฐานให้ทันทีและพร้อมจะเป็นพยานในชั้นศาล”
คณะกรรมการผู้ถือหุ้นในบริษัทส่งหลักฐานให้กับหญิงสาวเพื่อใช้ในการฟ้องร้องดำเนินคดีในขั้นต่อไปพิรฎาไม่คิดเลยว่าทุกอย่างจะง่ายแบบนี้เธอคิดว่าเธอเองคงต้องใช้ความพยายามในการหาหลักฐานและผู้คนในบริษัทส่วนมากก็คงเป็นพวกของอภิรดีแต่กลายเป็นว่าทุกคนต่างต้องตกอยู่ในอำนาจเพียงเพราะเธออยู่ในตำแหน่งที่สูงรอแค่เพียงประธานของบริษัทตัวจริงคือพ่อของเธอหรือตัวเธอเองที่เป็นทายาทเข้ามาจัดการเรื่องนี้เพราะอภิรดีไม่ได้จดทะเบียนสมรสกับนิรุต ทุกอย่างที่พิรฎารับรู้เป็นเพียงแค่ข่าวลือที่ แม่เลี้ยงต้องการทำให้เธอรู้สึกน้อยใจเท่านั้น
“เธอเข้ามาที่นี่ทำไมยายลูกอกตัญญู”
อภิรดีเดินออกจากประตูลิฟท์ก็พบกับลูกเลี้ยงทำให้หัวใจของเธอรู้สึกได้ว่าเรื่องราวไม่ดีที่เธอกำลังทำกำลังถูกเปิดเผย
“ไว้พบกันที่ศาลนะคะคุณแม่”
พิรดาทิ้งระเบิดลูกใหญ่ไว้ก่อนที่เธอจะรีบเดินเข้าลิฟท์และปิดประตูอย่างไวแต่ไม่รู้เลยว่าอีกฝ่ายกำลังลงตามเธอมาเหมือนกันเมื่อรู้สึกว่าเรื่องราวที่ตัวเองทำกำลังจะถูกเปิดเผยอภิรดีก็คงไม่รอให้วันนั้นมาถึงเพราะเธอได้โยกย้ายทรัพย์สมบัติไปเป็นชื่อของเธอไว้แล้วจำนวนหนึ่งเมื่อไหร่ที่ความผิดของเธอถึงมือของตำรวจเธอคงจะต้องรีบหนี
“โง่ตั้งนานเพิ่งจะฉลาดนะนังตัวดี”
เสียงที่ดังมาจากด้านหลังทำให้หญิงสาวที่ตอนนี้เธอไม่ได้มีแค่เพียงชีวิตเดียวค่อย ๆ หันหลังไปมองและภาพที่เห็นคือภรรยาใหม่ของพ่อกำลังถือปืนหันปลายกระบอกมาที่ตัวเธอโดยที่ไม่คิดเกรงกลัวว่าจะมีใครมาเห็น
“ฉันคิดว่าคุณเลวแต่ก็ไม่ได้คิดว่าคุณจะทำได้ถึงขนาดนี้เก็บปืนของคุณเถอะแค่คดีฉ้อโกงมันก็มากพอแล้วอย่าให้ต้องมีคดีพยายามฆ่าเข้ามาอีกเลย”
พิรฎาถึงแม้จะรู้สึกกลัวแค่ไหนแต่ก็ทำใจดีสู้เสือเพราะเธอไม่มีอะไรที่จะไปต่อรองกับคนตรงหน้าอีกแล้วจะร้องให้คนช่วยก็ไม่กล้าหรือถ้าจะวิ่งหนีก็กลัวว่ากระสุนปืนจะพลาดไปโดนทารกน้อยในท้องของเธอ
“ฉันเลวมากกว่าที่เธอคิดอีกรู้ไหม ชีวิตของฉันมันพังตั้งแต่พ่อของแกไม่ยอมจดทะเบียนสมรสกับฉัน แกคงคิดว่าพ่อของแกหลงฉันมากแต่รู้ไว้เลยที่มันเอาฉันเข้ามาเป็นเมียก็หวังว่าให้ฉันมาดูแลแกนั่นแหละแต่แกมันโง่ที่มองไม่เห็นความรักของพ่อ ไหน ๆ แกก็กลับมาแล้วฉันคงจะให้แกมีชีวิตอยู่เป็นขวากหนามฉันไม่ได้ตามไปอยู่กับแม่แกเถอะ”
ปัง!
พิรฎาหลับตานิ่งสนิทเธอคิดว่าเสียงปืนที่ดังขึ้นมันคงจะพาชีวิตเธอจากคนที่เธอรักไปตลอดชีวิตแต่เพียงแค่เธอลืมตาภาพที่เห็นกลับเป็นภูริดลล้มลงไปกองกับพื้นมีเลือดเต็มทั่วบริเวณท้องพร้อมกับผู้คนที่วิ่งกันมาตามเสียงปืน
“คุณภู ! ทำแบบนี้ทำไม อย่าเป็นอะไรนะ คุณห้ามเป็นอะไรได้ยินไหม”
หญิงสาวกรีดร้องสุดเสียงเธอไม่คิดเลยว่าชายหนุ่มที่เธอคิดว่าเขาไม่เคยมีหัวใจให้เธอจะกล้าเอาชีวิตของตัวเองเข้ามาเสี่ยงรับลูกกระสุนไม่ห่วงตัวเองแบบนี้
คนเจ็บถูกพาส่งโรงพยาบาลหน่วยรักษาความปลอดภัยในตึกช่วยกันจับตัวอภิรดีไว้และนำส่งตำรวจที่เดินทางมาถึงที่เกิดเหตุอย่างทันท่วงที
“รออยู่ข้างนอกนะครับ”
คุณหมอกันญาติให้ออกมานั่งรอด้านนอกเพราะตอนนี้ภูริดลถูกส่งตัวเข้าห้องผ่าตัดโดยเร่งด่วนเนื่องจากกระสุนฝังในทางโรงพยาบาลมีแพทย์พร้อมจึงลงมือผ่าตัดได้ทันที
พิรฎานั่งร้องไห้สองมือปิดหน้าน้ำตาอาบแก้มเธอโทษทุกอย่างที่กำลังเกิดขึ้นตอนนี้ว่าเกิดจากความผิดพลาดในการตัดสินใจของเธอคนเดียวถ้าเธอไม่หนีออกจากบ้านถ้าเธอไม่ตกลงเซ็นสัญญารับเป็นภรรยารับจ้างของภูริดลหรือแม้แต่คืนนั้นถ้าเธอไม่ตัดสินใจหนีออกมาจากบ้านของชายหนุ่มเรื่องราวร้าย ๆ แบบนี้ก็คงไม่เกิดขึ้นถ้าภูริดลเป็นอะไรเธอจะไม่มีวันให้อภัยตัวเอง
“คุณพ่อคุณน้าพิมพ์ขอโทษ”
หญิงสาวทรุดตัวลงไปก้มกราบชายหญิงทั้งคู่ที่เดินทางมาถึงโรงพยาบาลทันทีเมื่อทราบข่าวว่าลูกชายถูกยิงด้วยความรู้สึกผิดที่ตัวเองเป็นต้นเหตุที่ทำให้คนเจ็บต้องถูกส่งตัวเข้าห้องผ่าตัดแบบนี้
“ไม่โทษตัวเองแบบนี้นะลูกเพราะว่าที่ดลทำเพราะว่าตั้งใจดีแล้วชีวิตของหนูกับลูกมีความหมายกับดลมากนะหน้าที่ของการปกป้องเป็นหน้าที่ของคนที่เป็นสามีและพ่อต้องทำอยู่แล้วสิ่งที่ลูกควรจะทำตอนนี้คือทำจิตใจให้เข้มแข็งเป็นกำลังใจให้ดลและดูแลหลานของพ่อให้ดีที่สุดตอนนี้ถึงมือหมอแล้วเพราะเชื่อว่าทุกอย่างจะปลอดภัยภูริดลจะต้องไม่เป็นอะไร”
นารีทำหน้าที่ปลอบใจลูกสะใภ้ในฐานะที่เป็นผู้หญิงด้วยกันคำพูดของแม่เลี้ยงสามีทำให้พิรดารับรู้ว่าตลอดเวลาที่เธอคิดว่าตัวเองเป็นเพียงแค่ภรรยารับจ้างแต่ความจริงแล้วเธอกลายเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวภูริดลชายหนุ่มเปลี่ยนแปลงตัวเองทุกอย่างเพียงเพราะต้องการเอาชนะใจเธอแต่เธอกลับมองไม่เห็นใช้อารมณ์ตัดสินความรู้สึกเพียงแค่การกระทำเพียงข้ามคืนเดียวของเขา
คุณแม่คนใหม่ตั้งใจว่าเธอจะให้อภัยสามีและขอโทษในสิ่งที่เธอได้ทำลงไปและคิดว่าเขาก็คงให้อภัยเธอเหมือนกันช่วงนาทีเวลาเป็นเวลาตายที่เกิดขึ้นทำให้พิรฎารู้แล้วว่าเวลาของคนเรามันสั้นเหลือเกินเราจึงควรเลือกทำในสิ่งที่เรามีความสุขทำในสิ่งที่หัวใจต้องการบางครั้งศักดิ์ศรีมันก็เป็นเรื่องที่กินไม่ได้ความรักต่างหากที่หล่อเลี้ยงหัวใจเราทุกคนให้มีพลัง
“ดลฟื้นแล้ว”
พิรฎาโผเข้ากอดลูบหน้าลูบตาสามีด้วยความดีใจตลอดเวลาที่ชายหนุ่มนอนหมดสติอยู่ที่โรงพยาบาลหญิงสาวคอยเฝ้าไม่ห่างและในวันนี้เธอก็มีความสุขที่สุดเมื่อได้สามีกลับคืนมา
“ผมขอโทษ”
“ไม่ต้องพูดอะไรแล้วค่ะไม่มีใครผิดทั้งนั้นเราทั้งคู่คงถูกสร้างให้มาเจอกันแบบนี้”
หญิงสาวถอดอ้อมกอดของตัวเองออกจากคนเจ็บและเดินตรงไปยังกระเป๋าล้วงกระดาษแผนที่ทั้งคู่ต่างคุ้นเคยฉีกมันออกเป็นหลายส่วนก่อนที่จะขยำเป็นก้อนและทิ้งลงขยะอย่างไม่ใยดี
“หมดสิ้นสัญญาระหว่างเราแล้วนะคะต่อไปนี้จะมีเพียงแค่สัญญาหัวใจที่พิมพ์จะขอสัญญาว่าจะอยู่กับคุณตลอดชีวิตหรือไม่จนกว่าคุณจะไม่อยากให้พิมพ์อยู่”
น้ำตาลูกผู้ชายที่ทั้งชีวิตมันไม่เคยไหลออกมาให้ใครเห็น ภูริดลไม่อายอีกแล้วเขายอมรับกับตัวเองว่าเวลานี้เขามีความสุขที่สุดที่ได้ลืมตาฟื้นขึ้นมาและพบว่าผู้หญิงที่หนีเขาไปเธอกลับมาแล้วและเธอจะไม่ไปไหนจากเขาอีกตลอดชีวิต
“คุณไม่กลัวการมีครอบครัวแล้วใช่ไหมคะ”
“ผมกลัวไม่มีคุณกับลูกมากกว่าขอบคุณนะภรรยาตัวจริงของผมนับจากนี้ไปเราจะเป็นครอบครัวที่มีความสุขที่สุด อดีตที่ผ่านมาถึงผมจะลืมมันไปจากความทรงจำไม่ได้แต่ผมจะขอจดจำ ความทรงจำของครอบครัวเราเข้ามาแทนที่”
สองกายกอดประสานรวมเป็นใจหนึ่งเดียวความรักที่อาจจะเกิดขึ้นเพียงจากเหตุบังเอิญและผลประโยชน์แต่มันก็ก่อให้เกิดความผูกพันที่เกิดขึ้นประสานให้สองหัวใจรวมกันเป็นหนึ่งและเกิดอีกหนึ่งชีวิตที่อยู่ภายใต้ร่างกายเบาะบางทีตอนนี้เธอกำลังจะเป็นคุณแม่ลูกหนึ่ง
ชีวิตครอบครัวที่ภูริดลเคยคิดว่ามันไม่หอมหวานเป็นสิ่งที่ น่ากลัววันนี้ชายหนุ่มรู้แล้วว่าการสร้างครอบครัวเป็นเรื่องที่คนสองคนต้องช่วยกันไม่มีใครกำหนดได้ว่าครอบครัวไหนจะมีความสุขหรือความทุกข์มันอยู่ที่ว่าคนในครอบครัวจะกำหนดทุกอย่างผ่านการกระทำของทุกคนให้มันทุกข์หรือสุขต่างหาก
“รีบหายนะคะคุณสามีที่รัก”
The End
ตอนที่1เมื่อเขาให้เป็นแค่น้องสาว “พี่วินเป็นอะไรคะ ทำไมถึงได้มานั่งเงียบ ๆ อยู่แบบนี้” มิตาน้องสาวต่างสายเลือดถามพี่ชายที่เป็นเพียงแค่ลูกของสามีใหม่ของมารดาด้วยความเป็นห่วงที่เห็นชายหนุ่มหลบผู้คนมานั่งเงียบอยู่ที่สระว่ายน้ำหลังบ้าน ธาวินเป็นผู้ชายที่เรียกได้ว่ามีคุณสมบติครบทุกอย่างตามที่สาว ๆ ต้องการแต่ตัวเขาเองเจ็บกับคำว่าความรักมามากเขาจึง ไม่คิดจะเริ่มต้นใหม่กับใคร “ทุกครั้งที่พี่มีเรื่องอะไรไม่สบายใจ ก็เห็นจะมีแต่น้องสาวพี่คนนี้ที่รู้ทันและตามมาถามมาห่วง ถ้าวันไหนมิตามีแฟนมีครอบครัวขึ้นมาพี่คงไม่รู้จะเล่าความทุกข์ให้ใครฟังได้เลย” มิตาได้แต่ส่งยิ้มหวานให้ชายหนุ่มที่นั่งข้าง ๆ เธอ ทั้งสองคนหย่อนเท้าลงไปในสระน้ำเตะเท้าไปมาโดยที่ยังไม่มีใครพูดอะไร หญิงสาวไม่กล้าถามเพราะอยากให้คนที่กำลังเครียดเป็นฝ่ายเริ่มเล่าเองมากกว่า ธาวินนั่งเงียบไปเกือบสิบนาทีก่อนที่จะเริ่มเล่าความทุกข์ของเขาในวันนี้โดยที่ไม่ได้หันหน้ามาหาผู้ฟังตามแบบที่เขาทำเสมอเวลาระบายความทุกข์ให้มิตาฟัง “วันนี้พี่ไปที่สนามกีฬามา ตั้งใจว่าจะไปวิ่ง
ตอนที่ 2เลขาส่วนตัว มิตาเรียนจบเธอก็ได้ตำแหน่งเลขาส่วนตัวของธาวินทันที งานเลขาไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลยสำหรับคนที่จบทางด้านภาษามาอย่างมิตา เธอต้องเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ ดาราต้องเริ่มสอนทีละงานที่คิดว่ามิตาจะสามารถทำได้ “เหนื่อยไหมวันนี้ วันแรกของการเป็นเลขาพี่” ธาวินหันมาถามหญิงสาวที่นั่งข้าง ๆ เพราะตอนนี้ท่าทางของมิตาเหมือนคนกำลังจะหมดแรง “ง่วงมากเลยค่ะ ช่วงบ่ายมิตาแอบหลับด้วยเวียนหัวกับตัวหนังสือ มันเยอะไปหมด สงสารคุณดาราเลยลูกอ่อนแล้วยังต้องมาทำงานหนักแบบนี้” “ถ้าสงสารก็รีบเรียนรู้ คุณดาราเธอจะได้มีเวลาให้กับลูกมากขึ้น” หญิงสาวหันมาส่งยิ้มให้พี่ชายต่างสายเลือดก่อนที่จะเผลอหลับไปอย่างไม่รู้ตัวเพราะความเพลีย คนตัวเล็กหลับแล้ว ธาวินไม่รู้จะคุยกับใครทำให้เขาคิดถึงเรื่องที่บิดาเรียกเขาไปคุยเมื่อสองวันก่อน อดิสรณ์พูดกับลูกชายเรื่องของการมีทายาทสืบสกุลเพราะตัวอดิสรณ์ก็เป็นลูกชายเพียงคนเดียวและเขาก็ดันมีธาวินเพียงคนเดียวอีก ถ้าธาวินไม่มีลูกก็เท่ากับว่าตระกูลของเขาจะจบสิ้นเพียงเท่านี้ กิจการต่าง ๆ ที่ทำไว้สร้างมาด้วยน้ำพักน
ตอนที่ 3บีบ ธาวินกับมิตากว่าจะกลับถึงบ้านก็ดึกมากแล้ว บ้านหลังใหญ่เปิดไฟอยู่เกือบทุกดวง แม่บ้านพากันมานั่งอยู่กลางบ้านเหมือนกำลังรออะไรกันสักอย่าง “คุณธาวินคุณท่านอยู่ดี ๆ ก็หายใจติดขัด ปากเบี้ยว คุณวิภาพาส่งโรงพยาบาลแล้วค่ะ” แม่บ้านที่อายุมากที่สุดและอยู่รับใช้ครอบครัวนี้มานานทำหน้าที่รายงานเจ้านายตัวน้อยของเธอ “ตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ ทำไมไม่มีใครโทรศัพท์บอกผมเลย” “ตั้งแต่หัวค่ำแล้ว พวกเราก็รอฟังข่าวคุณวิภาก็ไม่เห็นโทรกลับมา คุณาวินรีบตามไปนะคะและส่งข่าวให้พวกเรารู้บ้าง จะได้หายห่วงกัน” ธาวินและมิตารีบขับรถตามไปที่โรงพยาบาล ชายหนุ่ม ไม่ยอมให้มิตาโทรศัพท์ไปถามมารดาของเธอ เพราะเขาอยากไปรู้ด้วยตัวเองมากกว่า ธาวินกลัวว่าถ้าบิดาอาการไม่ดีตัวเขาเองจะแย่ไปอีกคน โรงพยาบาลอยู่ไม่ไกลจากตัวบ้านจึงใช้เวลาไม่นานและตอนนี้ดึกแล้วถนนค่อนข้างโล่ง มิตาวิ่งตามชายหนุ่มที่กำลังวิ่งนำเธอเพื่อไปยังฝ่ายประชาสัมพันธ์เพื่อถามว่าตอนนี้บิดาของเขาอยู่ที่ไหน “คนไข้อยู่ห้องฉุกเฉินค่ะตอนนี้” ธาวินได้คำตอบก็รีบวิ่งตรงไ
ตอนที่ 4เต็มใจ อดิสรณ์ใช้เวลารักษาตัวอยู่โรงพยาบาลนานเกือบ สองสัปดาห์เพราะความดันยังไม่ลดลง บางวันยังมีสูงอยู่ ตอนนี้สิ่งที่ทุกคนเป็นห่วงคือเขาจะกลืนอาหารลำบากและพูดลิ้นแข็ง จึงต้องอาศัยกำลังใจและคนดูแลอย่างใกล้ชิด วิภา ธาวิน และมิตาจึงเริ่มคุยเรื่องของธาวินและมิตาที่ตกลงจะแต่งงานกันเพราะต้องการรีบมีทายาทให้กับคนเป็นพ่อที่เริ่มป่วยและการมีหลานไว้สืบสกุลคงทำให้ท่านรู้สึกดีขึ้น วิภาเป็นห่วงว่าถ้าอดิสรณ์รู้ว่าทั้งคู่ไม่ได้รักกันจริง เขาอาจจะไม่ยอม “ความจริงน้าก็ไม่ได้เห็นด้วยนะคุณวินแต่ในเมื่อตัดสินใจกันแล้วก็คงไม่มีประโยชน์ที่จะมาทัดทานกัน เพียงแต่ว่าน้าเป็นห่วง ถ้าคุณอดิสรณ์รู้ว่าเราสองคนแต่งงานกันเพียงเพราะต้องการมีทายาทตามที่ท่านต้องการ ท่านคงไม่ยอม” วันนี้วิภาได้กลับบ้านมาพักแล้วไปเฝ้าสามีใหม่ในวันพรุ่งนี้ เธอจึงถือโอกาสคุยกับทั้งสองคน ก่อนที่เรื่องนี้จะถูกนำไปบอก คนป่วย ธาวินทำท่าคิดตามคำที่แม่เลี้ยงพูด เขาลืมคิดเรื่องนี้ไป คิดแต่ว่าอยากจะบอกความจริงทุกอย่างเท่านั้น “แล้วคุณน้าคิดว่าเราควรจะบอกคุณพ่
ตอนที่ 5เกือบล่ม งานแต่งงานเตรียมทุกอย่างไปได้เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ตอนนี้อดิสรณ์เองก็ออกจากโรงพยาบาลแล้ว เขาเดินได้คล่องเหมือนปกติถึงแม้ขาข้างขวาจะอ่อนแรงลงแต่เรื่องของการกลืนและการพูดดีขึ้นแต่ก็ยังไม่เหมือนเดิม “วิภางานแต่งงานของเด็ก ๆ เขาถึงไหนกันแล้ว” คนเป็นพ่อถึงร่างกายจะไม่แข็งแรงแต่ก็ยังอดเป็นห่วงไม่ได้เพราะตัวเขาเองไม่เคยคิดว่าจะมีโอกาสได้เห็นงานแต่งงาน ของลูกชายเพียงคนเดียวของเขา “คุณวินเก่งมากเลยค่ะ จัดแจงทุกอย่างเองหมด มิตาก็มาบ่น ๆ อยู่ว่าหมดเงินไปเยอะห้ามก็ไม่ได้ คุณวินเขาบอกว่า&n
ตอนที่ 6หวงหรือห่วง ธาวินกลับขึ้นไปนอนคิดถึงคำพูดของมิตาทั้งคืน เขาไม่รู้เหมือนกันในเมื่อเขาเองก็ไม่ได้รักเธอและตอนนี้เธอกับเขาก็ยังไม่ได้แต่งงานกันแล้วทำไมเขาถึงต้องไปรู้สึกไม่พอใจจนพูดจาแบบนั้นทำไม คำว่าหวงกับห่วงชายหนุ่มไม่แน่ใจว่าตัวเองกำลังรู้สึกแบบไหนกันแน่เพราะถ้าเขาห่วงก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกแต่ถ้าหวงนั่นหมายความว่าเขากำลังรู้สึกอะไรกับอนาคตเจ้าสาวเข้าแล้ว “วินแกจะไม่รักใครอีกแล้วเข้าใจไหม” ชายหนุ่มขยี้ผมเหมือนต้องการระบายอารมณ์เมื่อเขาพูดกับตัวเองอยู่คนเดียวบนเตียงนอน มิตาเธอทั้งโกรธทั้งดีใจ หัวใจของเธอมันกำลังเข้าข้างตัวเองมันบอกว่าธาวินกำลังหวงและหึงเธอ&n
ตอนที่ 7คืนหวาน มิตาออกมาจากห้องน้ำก่อนที่ธาวินจะหมดความอดทน เมื่อได้ยินเสียงประตูเปิดชายหนุ่มจึงแกล้งหลับตาทำเหมือนว่าเขาทนรอไม่ไหวหลับไปแล้ว มิตามองมาที่เจ้าบ่าวของเธอพร้องกับถอนหายใจด้วยความรู้สึกโล่งใจที่คืนนี้คงไม่มีอะไรเกิดขึ้นเพราะธาวินหลับไปแล้ว หญิงสาวค่อย ๆ ล้มตัวลงนอนบนที่นอนและพยายามห่มผ้าให้เบาและนุ่มนวลที่สุดเพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายรู้สึกตัว ทันทีที่หญิงสาวหลับตาโคมไฟหัวเตียงก็ถูกปิด ร่างสูงที่ ตอนแรกนอนนิ่งตอนนี้ขึ้นมาอยู่บนตัวของหญิงสาวที่ไม่ทันได้ตั้งตัว เธอจึงสะดุ้งสุดตัวเพราะความตกใจ “มิตาคิดว่าพี่วินหลับแล้ว”&
ตอนที่ 8ความห่างไกลกับถ่านไฟเก่าสองเดือนผ่านไป ธาวินตัดสินใจที่จะเปิดโครงการใหม่ที่หัวหินเพราะเขากลัวว่าถ้าช้าไปแล้วมิตาเกิดท้องขึ้นมา เขาจะไม่มีเวลาดูแล “อยู่ได้ใช่ไหมพี่ไปห้าวันแล้วจะกลับมาสองวันเพราะช่วงนี้ต้องดูแลการก่อสร้างทิ้งมากลัวมีปัญหา” ธาวินเป็นห่วงกลัวมิตาจะน้อยใจเพราะเขาไม่สามารถเอาเธอไปด้วยได้เพราะงานที่กรุงเทพจะไม่มีคนดู “ได้ค่ะ คอนโดคงไม่สร้างถึงห้าปีหรอกมั้งคะ” ธาวินเดินทางหัวหินกรุงเทพอยู่แบบนี้ได้เกือบสองเดือนแล้วแต่ปัญหามันดันมาเกิดเพราะมิตาดันไปรู้มาว่าลุลาเลิกกับปราชญ์แล้วและตอนนี้เธอกำลังทำงานอยู่ที่โรงแรมในหัวหิน
ตอนที่ 1ระบายอารมณ์ “คุณคราม ทิพย์ว่าคุณเมามากแล้วนะคะ ขึ้นห้องเถอะค่ะ” ข้าวทิพย์เธอกลัวว่าลูกชายเจ้านายของเธอ จะเมากองอยู่กลางห้องรับแขกแบบนี้ เพราะถ้าเป็นแบบนั้น หากคุณอเนกกลับมาจากงานเลี้ยง ท่านจะต้องไม่พอในเธอแน่ ๆ ที่ยอมให้ลูกชายของเขาดื่มจนเมาแบบนี้ “หยุดเลย! เธอเป็นใครถึงได้มาสั่งฉัน ข้าวทิพย์ถ้าแม่เธอไม่มาเดินขวางทางรถที่แพรขับ พ่อของฉันก็ไม่ต้องเสียเงินปิดคดี และต้องมานั่งรับผิดชอบเธอแบบนี้หรอก” สีหน้าดุดัน และจ้องมองเธอแบบจะกินเลือดกินเนื้อ หญิงสาวไม่เคยได้ยินคำพูดแบบนี้ออกจากปากของครามเลย เพราะปกติแล้ว ชายหนุ่มเป็นคนพูดน้อย แล้วเรื่องที่แพรรำภาคู่หมั้นของเขาขับรถชนแม่เธอ ใคร ๆ ก็รู้ว่าใครเป็นฝ่ายผิด &l
ตอนที่ 8ทะเบียนสมรส เสียงของผู้หญิงที่ดังแทรกเข้ามาก่อนที่ภูเบศจะวางสายทำให้หัวใจของผู้หญิงที่ไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองมีตัวตนในชีวิตของเขาไม่สบายใจ ล้านนาพยายามที่จะข่มตาให้หลับลงแต่มันก็ไม่สำเร็จ เธอวางสายจากเจ้านายไปเกือบสองชั่วโมงแล้วแต่ความรู้สึกมันเหมือนทุกอย่างยังคงวนเวียนอยู่ในความคิดของเธอ เสียงรถยนต์มาจอดที่หน้าบ้านและตามมาด้วยเสียงประตูหน้าบ้านเปิดออก หญิงสาวรีบลุกออกจากเตียงนอนมาดูที่หน้าต่างด้วยความตกใจเพราะเวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะมีใครมาหาเธอ “ไหนคุณว่าจะนอนกับคุณแม่คุณไม่ใช่หรือคะ” หญิงสาวดีใจที่คนที่มาคือผู้ชายที่เธอสุดแสนจะคิดถึงและมีเรื่องค้างคาใจ
ตอนที่ 7มือที่สามที่ไม่ได้รับเชิญ “ไม่ได้พักที่เดิมหรือล้านนาเดี๋ยวนี้พี่ไม่เห็นเธอกลับรถสายเดิม” ดลย์พนักงานรุ่นพี่เดินเข้ามาทักหญิงสาวที่กำลังเดินลงทางบันไดหนีไฟเพราะตอนนี้ที่ลิฟท์มีคนรออยู่หลายคน “อืม ล้านนาย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้วค่ะ นึกอย่างไรคะถึงได้มาเดินลงบันไดหนีไฟแบบนี้” “คนรออีกเพียบเดินออกกำลังกายดีกว่า วัน ๆ ทำงานก็นั่งอยู่แต่กับเก้าอี้จะได้ยืดเส้นยืดสายด้วย” รุ่นพี่ทำงานทำท่าทางประกอบให้รู้ว่าเขาต้องการออกกำลังกายจริง ๆ “ข้างนอกฝนตกแรงแบบนี้ ล้านนาให้พี่ไปส่งไหมหรือไม่ก็ไปลงตรงไหนที่ใกล้ที่พักแล้วค่อยต่อรถไปอีกทีก็ได้ถ้ารออยู่หน้าบริษัทแบบนี้พี่ว
ตอนที่ 6รู้แค่วันนี้ฉันยังมีเธอ “ล้านนาหายไปไหนมา งานที่พี่ให้เธอทำไม่มีอะไรใช่ไหม” ยุพารีบเข้ามาประกบลูกน้องทันทีที่ล้านนามาถึงที่บริษัท “ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ พี่ยุพาสบายใจได้ไม่มีใครรู้ว่าพี่เอางานมาให้หนูทำ” ยุพาค่อยสบายใจขึ้นมาหน่อยเพราะการที่ลูกน้องของเธอลางานสองวันติดแถมยังเป็นการหายไปพร้อมเจ้านายอีก ยุพาแอบกลัวว่าจะเกี่ยวกับงานที่เธอจ้างให้ทำ การทำงานยังคงเป็นไปอย่างปกติแต่ที่ทุกคนในแผนกกำลังให้ความสนใจคือยุพาถูกท่านรองประธานบริษัทเรียกเข้าไปคุยเกือบชั่วโมงยังไม่ออกมา “ล้านนาจะเกี่ยวกับเราสองคนไหม” ส้มโอ
ตอนที่ 9ความรักชนะทุกอย่าง ล้านนายังคงมีอาการแพ้ท้อง ภูเบศจึงไม่ยอมให้เธอไปทำงานให้นอนพักอยู่ที่บ้าน ส่วนตัวเขาเองรีบเข้าบริษัทอย่างรีบร้อนแต่ไม่ใช่เพราะมีงานเร่งด่วนแต่เขามีธุระสำคัญต้องคุยกับบิดา ประจักษ์ไม่ค่อยได้กลับบ้านเพราะกลับไปทีไรก็ต้องได้มีเรื่องทะเลาะกับราตรีทุกที “คุณพ่อครับผมมีเรื่องสำคัญจะปรึกษา” คนเป็นลูกมองไม่เห็นใครแล้วที่จะช่วยคุยกับมารดาของเขาได้นอกจากบิดาเพียงคนเดียว ภูเบศเล่าเรื่องราวระหว่างเขากับล้านนาให้กับประจักษ์ฟังตั้งแต่เริ่มต้นและสุดท้ายก็จบลงด้วยเรื่องของทรายแก้วอดีตคนรักที่มารดาต้องการจะให้เขาแต่งงานด้วย “ลูกทำไมปล่อยให้ทุกอย่างเลยเถิดมาถึงขั้นนี้แต่ก็ยังดีนะที่ไม่ปล่อยให้ทุกอย่างเกินเลยไปจนเกินแก้ไข” ประจักษ์เข้าใจและพร้อมจะอยู่ข้างเขาแต่ก็อดที่จะตำหนิไม่ได้ที่ภูเบศปล่อยให้ทุกอย่างมาไกลจนล้านนาท้อง “ผมแค่คิดว่ายังไม่พร้อมจะสละชีวิตโสดแต่พอมารู้ว่าผมกำลังจะได้เป็นพ่อคนและล้านนาจะไปจากผม ทุกอย่างรอไม่ได้อีกแล้ว” “ชีวิตคนเรามันสั้นนัก อย่าทำอะไรผิดพลาดแล้วไม่รีบแก้ไขเหมือนพ่อก
ตอนที่ 5สถานะที่ไม่ได้เลือก “คุณพาฉันมาที่นี่ทำไม” ล้านนายังไม่ยอมลงจากรถเมื่อมาถึงหน้าบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ที่อยู่ส่วนในสุดของหมู่บ้านที่ดูสะอาด สงบน่าอยู่มาก ๆ “บ้านหลังนี้คือบ้านที่คุณต้องอยู่จนกว่าผมจะเบื่อ” ภูเบศลงจากรถมาเปิดประตูให้หญิงสาวที่ยังคงนั่งสับสนทำอะไรไม่ถูก “ลงมาเถอะยังมีอีกหลายอย่างที่เราต้องจัดการภายในวันนี้ให้เสร็จ” เจ้าของบ้านเดินนำเข้าบ้านไปพร้อมกระเป๋าหลายใบในมือที่เป็นข้าวของที่หญิงสาวขนมาจากห้องพักเดิม “คุณให้ฉันมาอยู่ที่บ้านใคร” ล้านนารู้สึกไม่ไว้ใจ “บ้านผม บ้านหลังนี้ผมซื้อไว้ขายแต่ตอนนี้คงไม่ขายแล้ว อย่าเสียเวลาถามอะไรอยู่เลย ลองมองดูว่าขาดเหลืออะไรจะได้พาไปซื้อ ทางร้านจะได้มาส่งวันนี้ทัน” เจ้าของบ้านเดินออกไปขนของในรถมาวางกองรวมกันไว้ในขณะที่คนมาใหม่ก็เดินสำรวจไปรอบ ๆ บ้านหลังนี้เป็นบ้านชั้นเดียวมีเนื้อที่รอบบ้าน ห้องนอนสี่ห้องทำให้ล้านนารู้สึกว่าที่นี่มันใหญ่เกินไปสำหรับการที่เธอต้องอยู่อาศัยเพียงคนเดียว “บ้านมันใหญ่เกินไป ฉันไปอยู่ห้องเช่าเหมือนเดิมดีแล้ว”
ตอนที่ 10ถ้าไม่ใช่เธอ..ใครก็ไม่เอา ลิตาทำอะไรไม่ถูก เธอรู้ว่าคงไม่มีทางปฎิเสธได้ จึงเปลี่ยนเป็น ยกมือไหว้อ้อนวอนอีกฝ่ายแทน “ที่ลิตาทำไปเพราะอยากได้เข้ามาดูแลลูกและคุณกับลิลก็ไม่ได้เป็นสามีภรรยากันจริง ๆ ลิตาก็คิดว่าไม่น่าจะมีอะไรแค่อยากได้มีโอกาสดูแลลูกบ้าง” วายุเห็นท่าทางของพี่สาวภรรยานอกจากมันจะไม่ทำให้เขาสงสารแล้ว มันยังทำให้เขารู้สึกโมโหมากกว่าเดิม “หยุดตอแหล ก่อนที่ผมจะไม่เห็นความเป็นคนในตัวคุณ คุณลิตาคุณรู้ไว้เลยนะ ว่าผมกับลิลเราเป็นสามีภรรยากันอย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้วก็ทางปฎิบัติด้วย ถ้าคุณทำแบบนี้อีก ผมจะให้คุณชดใช้เงินสิบห้าล้านคืนผม เพราะสัญญาที่คุณเซ็นมันคือสัญญาการกู้ยืมเงิน” ลิตาอยากได้เงินจนไม่ได้อ่านว่าตัวเอ
ตอนที่ 9 ทวง อนุสรณ์สังเกตสีหน้าท่าทางของลูกชาย เช้านี้วายุทำหน้าเหมือนคนยิ้มแบบเขินตลอดเวลา พอหันมาที่ลูกสะใภ้คนเล็กก็ไม่ต่างกัน “พระพายวันนี้คุณอาหนูเขาไปแอบมีความสุขอะไรกันมา ปู่เห็นตั้งแต่เดินลงมาก็เอาแต่ยิ้มอายไปอายมา” วายุหันมาสบตาภรรยา คราวนี้ลลิลถึงขั้นทำของเล่นลูกสาวหลุดจากมือ “ถ้าอย่างนั้นปู่ไม่แซวแล้ว ดูมือไม้สั่นไปหมด” การได้เป็นสามีภรรยากันอย่างสมบูรณ์ในคืนที่ผ่านมา ยังทำให้หญิงสาวรู้สึกอาย ๆ ไม่กล้าสู้หน้าคนเป็นสามีเท่าไหร่ วายุพยายามทำทุกอย่างให้เป็นปกติเพราะไม่อยากให้ภรรยาของเขาต้องรู้สึกเขินอาย เพราะเรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่
ตอนที่ 8แพ้ใจ ทริปแรกจบไปอย่างสวยงามพระพายมีของฝากมาให้ทุกคนตามที่คุณปู่สั่ง คุณปู่เองก็หอมหลานสาวทั้งคู่เหมือนกับไม่ได้เจอหน้ากันหลายเดือน จนตอนนี้ลลิลเลยทิ้งแก้มใสให้คุณปู่เลี้ยงให้หายคิดถึง บ้านที่ตกแต่งเสร็จแล้วหลายเดือน แต่ลลิลยังไม่มีเวลาที่จะจัดตกแต่ง “ตกลงเฟอร์นิเจอร์เราซื้อใหม่หมดใช่ไหมคะ คือลิลคิดว่าบางอย่างมันก็เอาไปจากห้องเดิมได้ จะได้ประหยัด” วายุส่ายหัวเพราะเขาไม่ได้เป็นคนจ่าย คนที่สั่งให้ซื้อใหม่หมดคือพ่อของเขา ดังนั้นก็มีคนจ่ายเงินให้โดยที่ไม่ต้องกลัวเปลือง “อย่าขัดใจคุณปู่ พรุ่งนี้ไปสั่งกันเลย จะได้ย้ายห้องสักที ตอนนี้ยายหนูก็โตแล้วกลิ้งไปทั่วผมล่ะกลัวสักวันจะตกเตียง”&n