ตอนที่ 6
รู้แค่วันนี้ฉันยังมีเธอ
“ล้านนาหายไปไหนมา งานที่พี่ให้เธอทำไม่มีอะไรใช่ไหม”
ยุพารีบเข้ามาประกบลูกน้องทันทีที่ล้านนามาถึงที่บริษัท
“ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ พี่ยุพาสบายใจได้ไม่มีใครรู้ว่าพี่เอางานมาให้หนูทำ”
ยุพาค่อยสบายใจขึ้นมาหน่อยเพราะการที่ลูกน้องของเธอลางานสองวันติดแถมยังเป็นการหายไปพร้อมเจ้านายอีก ยุพาแอบกลัวว่าจะเกี่ยวกับงานที่เธอจ้างให้ทำ
การทำงานยังคงเป็นไปอย่างปกติแต่ที่ทุกคนในแผนกกำลังให้ความสนใจคือยุพาถูกท่านรองประธานบริษัทเรียกเข้าไปคุยเกือบชั่วโมงยังไม่ออกมา
“ล้านนาจะเกี่ยวกับเราสองคนไหม”
ส้มโอพนักงานใหม่ที่ยังอยู่ในช่วงทดลองงานเหมือนกับล้านนาอดเป็นกังวลไม่ได้เพราะเธอไม่ยอมไปร่วมกิจกรรมกับทางแผนกในช่วงเย็นและล้านนาเองก็ลาติดกันถึงสองวันจึงกลัวจะไม่ผ่านการทดลองงาน
“ไม่น่าจะเกี่ยวกับเรา ส้มโออย่ากังวลไปก่อนเดี๋ยวพี่ยุพาออกมาเราก็จะรู้กันแล้ว”
ท่านรองประธานบริษัทและหัวหน้าแผนกบัญชีคุยกันอยู่เกือบชั่วโมงก็ยังไม่ออกมาก่อนที่เลขาพี่ยุพาจะโดนตามตัวให้เข้าไปคุยด้วยอีก ใกล้เวลามื้อเที่ยงทุกคนจึงได้ออกมาจากห้องประชุมย่อยของบริษัท
“มองหน้าพี่กันเชียวนะ ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงเป็นข่าวดีท่านรองประธานจะขึ้นเงินเดือนให้คนละสามเปอร์เซ็นและให้เบิกค่าที่พักได้”
พนักงานต่างพากันโล่งใจเพราะภาวะเศรษฐกิจและการระบาดของโรคโควิดแบบนี้ไม่มีใครอยากตกงานหรือโดนลดเงินเดือน
เสียงแจ้งเตือนว่ามีคนส่งแชทมา ล้านนารีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู
‘เย็นนี้ผมรอที่โรงจอดรถของธนาคาร’
ล้านนาตั้งใจจะขึ้นรถโดยสารประจำทางกลับเองถึงแม้จะไกลมากอยู่ก็ตามแต่อีกฝ่ายดันส่งข้อความมาบอกว่ารอเธอที่ธนาคารที่อยู่ถัดไปจากบริษัทเกือบห้าร้อยเมตรเพราะภูเบศต้องไปธนาคารทุกสัปดาห์
“ทางนี้ไม่ใช่ทางกลับบ้านนี่คะ”
“ใครบอกผมจะกลับบ้าน ผมจะไปแวะซื้อต้นไม้จะเอาไปปลูกเพิ่มความสดชื่นหน่อย”
ล้านนาอยากจะถามว่าเขาจะให้เธออยู่ที่บ้านของเขาอีกนานเท่าไหร่เพราะเธอจะได้เตรียมตัวไว้อย่างน้อยตอนย้ายออกเธอคงต้องใช้เงิน
“คุณตั้งใจจะอยู่ที่บ้านหลังนั้นจริงจังหรือคะ”
คนอยากรู้ไม่กล้าถามตรง ๆ เพราะกลัวจะทำให้คนขับที่กำลังอารมณ์ดีโมโหหรือโกรธเธอขึ้นมา
“ตอนซื้อก็ไม่ได้คิดแต่ตอนนี้พอซื้อของเข้าบ้านได้ลองไปนอน ผมก็ชอบอยากทำให้บ้านเป็นบ้านอย่างที่ผมเคยวาดฝันไว้ถึงแม้ว่าหลังมันจะเล็กกว่าที่คิดไว้ก็ตาม”
คำตอบที่ได้ถึงแม้มันจะไม่ได้หมายถึงว่าเขาจะให้เธออยู่ด้วยทั้งชีวิตก็ตามแต่มันก็ทำให้คนฟังรู้สึกดีที่อย่างน้อยเขาก็มองว่าบ้านหลังนี้เป็นบ้านไม่ใช่แค่เพียงฮาเร็มให้เขามาหาความสุขในเวลาต้องการเธอเท่านั้น
วันนี้กลับถึงบ้านก็มืดแล้วเพราะมัวแต่เลือกดอกไม้มาปลูกเสียหลายต้นแต่ภูเบศก็ยังคงไม่ยอมกินอาหารนอกบ้าน ล้านนาจึงเลือกที่จะทำเมนูง่าย ๆ เสร็จเร็ว ๆ แทน
“กินข้าวค่ะ”
แม่ครัวคนสวยต้องออกมาเรียกคนสวนสุดหล่อที่กำลังสาละวนกับการปลูกดอกกุหลาบที่รั้วหน้าบ้าน
“เมนูเร่งด่วนนะคะจะได้ไม่ต้องหิ้วท้องรอกันนาน”
ข้าวผัดกระเพราหมูไข่ดาวอาหารง่ายแต่อร่อยทำเอาคนสวนที่เพิ่งเสียแรงไปกับการปลูกดอกกุหลาบต้องขอเติมถึงสองรอบ
บ้านหลังนี้ดูน่าอยู่มากขึ้นและดูเป็นบ้านที่มีแต่ความสุขขึ้นทันทีเมื่อทั้งสองได้เข้ามาอยู่และเติมชีวิตให้กับมัน
ข่าวดีที่ยุพาต้องการแจ้งให้พนักงานทุกคนได้รู้ก็คือว่า ท่านรองประธานอนุญาตให้พนักงานทุกคนเบิกค่าเช่าที่พักได้เต็มจำนวนจริงเป็นเวลาหนึ่งปีเพื่อช่วยในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้
“บริษัทก็กำไรน้อยลงกว่าทุกปีแต่คุณภูเบศยังยื่นมือมาห่วงใยพวกเราอีกแบบนี้ทำงานถวายหัวแบบไม่กลัวเหนื่อยเลยเนาะพวกเรา”
พนักงานคนหนึ่งชื่นชมเจ้านายของเขาจากหัวใจเพราะบริษัทหลายแห่งต่างพากันขอลดเงินเดือนพนักงานเพื่อที่จะประคองผลกำไรของบริษัทแต่ที่นี่กลับช่วยเหลือพนักงานแทน
ภูเบศไม่ได้กลับไปนอนที่บ้านใหญ่เป็นเวลาหนึ่งเดือนเต็มซึ่งก็คือระยะเวลาที่ล้านนาได้เข้ามาอยู่ในบ้านหลังใหม่
“พรุ่งนี้กลับบ้านเองนะเพราะผมจะเข้าไปหาคุณแม่ เมื่อวานคุณพ่อบอกว่าท่านไม่ค่อยสบาย”
เช้าวันนี้ภูเบศรีบบอกกับหญิงสาวเพราะเป็นครั้งแรกที่เธอต้องกลับบ้านเองจะได้เตรียมตัว
“ไม่ต้องเป็นห่วงฉันนะคะ คุณกลับไปนอนที่บ้านบ้างก็ได้ คุณแม่ของคุณคงคิดถึงแย่แล้ว”
ชายหนุ่มพยักหน้าแทนคำตอบ เขาห่วงแม่แต่ก็ไม่อยากทิ้งให้หญิงสาวต้องนอนอยู่คนเดียว ความรู้สึกมันสับสนไปหมด
การกลับมาบ้านแล้วต้องพบว่าตัวเองต้องกินข้าวและนอนบนเตียงที่ดูใหญ่เกินไปเพียงคนเดียวมันทำให้ล้านนารู้สึกทั้งเหงาและกลัว เธอไม่ได้กลัวอันตรายแต่กลัวว่าเขาจะไม่กลับมาหาเธออีกต่างหาก
หญิงสาวใช้เวลาว่างที่มีโทรศัพท์ไปคุยกับพ่อและแม่ซึ่งเดือนนี้เธอส่งเงินกลับไปบ้านมากกว่าเก่าเพราะไม่ต้องเสียค่าเช่าบ้านแถมทุกวันนี้เธอเองแทบจะไม่ได้ใช้เงินอะไร มื้อกลางวันเธอก็ห่อข้าวไปกินค่ารถก็ไม่ได้เสียจึงมีเงินเก็บพอส่งให้ครอบครัวได้ซ่อมแซมบ้านถึงแม้จะได้แค่บางส่วนก็ตาม
“ฉันกลายเป็นผู้หญิงเห็นแก่เงินไปจริง ๆ แล้วใช่ไหม”
คนตัวเล็กบ่นพึมพำกับรูปเจ้านายในโทรศัพท์ที่เธอเคยแอบถ่ายเขาไว้ตั้งแต่วันแรก ๆ ที่เจอกันเพราะความหล่อและสุขุมของเขาทำให้เธอตกหลุมรักตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน
“กลับบ้านได้แล้วใช่ไหมลูก”
ราตรีนั่งกินข้าวอยู่คนเดียวในชุดนอนและใบหน้าที่ซีดเซียวไร้เครื่องสำอาง
“คุณแม่ไม่สบายทำไมไม่โทรศัพท์บอกผม”
ภูเบศมองหน้ามารดาด้วยความเป็นห่วงเพราะปกติแล้วต่อให้ไม่สบายแค่ไหนเธอก็จะไม่ยอมที่จะปล่อยตัวแบบนี้
“แล้วนี่ใครบอกล่ะ แม่ไม่ได้เป็นอะไรมากถ้าไม่ดีขึ้นเดี๋ยวก็คงให้คนขับรถพาไปหาหมอ ไม่ต้องเป็นห่วง แม่ไม่อยากเป็นภาระใคร”
“คุณพ่อบอก ท่านบอกว่ามาที่บ้านสองครั้งก็เห็นคุณแม่เอาแต่นอนหลับถามอะไรก็ไม่พูดไม่ตอบ คุณพ่อเป็นห่วงคุณแม่มากนะครับ”
ภูเบศพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้พ่อและแม่ของเขากลับมาคุยกันดี ๆ เหมือนเดิมแต่มันก็ไม่เคยสำเร็จเพราะทั้งสองคนต่างไม่ยอมปรับความเข้าใจกัน
“ห่วง ห่วงแล้วอย่างไรแม้แต่ตัวแม่ พ่อของลูกยังไม่คิดจะจับเลย เขามีความสุขกับคนที่เขารักแล้วไม่มีทางที่เขาจะมาเป็นห่วงเมียที่เขาไม่ได้รักอย่างแม่หรอก ช่างเถอะ! ลูกกลับมาก็ดีแล้วพาแม่ไปเสริมสวยบ้างได้ไหม เผื่อมันจะสดชื่นมากขึ้น”
ชายหนุ่มนั่งคุกเข่าลงข้าง ๆ มารดา เขาสวมกอดผู้หญิงที่เขารักที่สุดแทนความรู้สึกที่เขามี ถึงแม้ว่าความรักที่เขามีให้มารดามันจะไม่สามารถทดแทนความรักที่แม่ของเขาต้องการจากพ่อก็ตาม
“ภูแม่อยากให้ลูกแต่งงาน”
ราตรีพูดขึ้นมาไม่มีเกริ่นใด ๆ ขณะที่กำลังเดินทางกลับจากร้านเสริมสวยร้านประจำ
“ผมยังไม่อยากมีครอบครัวอยากอยู่เป็นเพื่อนคุณแม่แบบนี้ไปนาน ๆ ”
ภูเบศไม่เคยคิดเรื่องนี้เพราะเขายังรู้สึกว่าแค่มารดาเขายังดูแลได้ไม่ดีพอและที่สำคัญเขาหวงความโสดเอามาก ๆ ไม่ต้องการให้มีใครมาแสดงความเป็นเจ้าของเขาเด็ดขาด
“แม่อยากมีหลาน อยากให้บ้านเรากลับมามีคนเยอะ ๆ อย่างน้อยเวลาอยู่บ้านแม่ก็จะได้ไม่รู้สึกเหงาแบบนี้”
“ผมยังไม่มีแฟน ขอเวลาหาแฟนก่อนนะครับแล้วค่อยคิดเรื่องแต่งงาน”
ชายหนุ่มคิดว่ามันคือคำปฎิเสธที่ฟังดูไม่หักหามน้ำใจมารดาจนเกินไปแต่เขาหารู้ไหมว่าราตรีได้เตรียมผู้หญิงไว้ให้เขาเรียบร้อยแล้ว
ตอนที่ 7มือที่สามที่ไม่ได้รับเชิญ “ไม่ได้พักที่เดิมหรือล้านนาเดี๋ยวนี้พี่ไม่เห็นเธอกลับรถสายเดิม” ดลย์พนักงานรุ่นพี่เดินเข้ามาทักหญิงสาวที่กำลังเดินลงทางบันไดหนีไฟเพราะตอนนี้ที่ลิฟท์มีคนรออยู่หลายคน “อืม ล้านนาย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้วค่ะ นึกอย่างไรคะถึงได้มาเดินลงบันไดหนีไฟแบบนี้” “คนรออีกเพียบเดินออกกำลังกายดีกว่า วัน ๆ ทำงานก็นั่งอยู่แต่กับเก้าอี้จะได้ยืดเส้นยืดสายด้วย” รุ่นพี่ทำงานทำท่าทางประกอบให้รู้ว่าเขาต้องการออกกำลังกายจริง ๆ “ข้างนอกฝนตกแรงแบบนี้ ล้านนาให้พี่ไปส่งไหมหรือไม่ก็ไปลงตรงไหนที่ใกล้ที่พักแล้วค่อยต่อรถไปอีกทีก็ได้ถ้ารออยู่หน้าบริษัทแบบนี้พี่ว
ตอนที่ 8ทะเบียนสมรส เสียงของผู้หญิงที่ดังแทรกเข้ามาก่อนที่ภูเบศจะวางสายทำให้หัวใจของผู้หญิงที่ไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองมีตัวตนในชีวิตของเขาไม่สบายใจ ล้านนาพยายามที่จะข่มตาให้หลับลงแต่มันก็ไม่สำเร็จ เธอวางสายจากเจ้านายไปเกือบสองชั่วโมงแล้วแต่ความรู้สึกมันเหมือนทุกอย่างยังคงวนเวียนอยู่ในความคิดของเธอ เสียงรถยนต์มาจอดที่หน้าบ้านและตามมาด้วยเสียงประตูหน้าบ้านเปิดออก หญิงสาวรีบลุกออกจากเตียงนอนมาดูที่หน้าต่างด้วยความตกใจเพราะเวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะมีใครมาหาเธอ “ไหนคุณว่าจะนอนกับคุณแม่คุณไม่ใช่หรือคะ” หญิงสาวดีใจที่คนที่มาคือผู้ชายที่เธอสุดแสนจะคิดถึงและมีเรื่องค้างคาใจ
ตอนที่ 1แค่เพียงแรกเจอ“มันยากตรงไหนวะกับการหาเมียสักคนเรื่องมันจะได้จบ ถ้าปล่อยให้มันยาวนานกว่านี้เราว่าพ่อแก่คงได้ยกสมบัติให้แม่เลี้ยงของแน่”ยุทธนั่งฟังเรื่องราวความทุกข์ของเพื่อนเรียกได้ว่าเขาต้องทนฟังมันมาเกือบทั้งปีและก็เกือบทุกวันที่ภูริดลจะโทรศัพท์ตามให้เขามานั่งดื่มเหล้าเป็นเพื่อนเพื่อฟังเรื่องราวความทุกข์ในเรื่องนี้“หาเมียมันไม่ยากแต่แกก็รู้ ฉันไม่ต้องการผูกพันกับผู้หญิงคนไหนถ้าฉันต้องเลือกผู้หญิงสักคนมาเป็นเมียบอกตรง ๆ อยากได้คนที่ฉันไม่เคยรู้จักเพราะเมื่อถึงวันที่ต้องเลิกรากันไปจะได้ต่างคนต่างเดิน”ภูริดลมีความทรงจำที่เลวร้ายกับชีวิตครอบครัวเพราะพ่อของเขาเมื่อตอนสมัยที่ยังเป็นวัยรุ่นอยู่และตอนนั้นแม่ของเขาก็ยังไม่จากไป บารมีเป็นชายหนุ่มนักธุรกิจฐานะดีรูปร่างหน้าตาดีจึงมักมีสาว ๆ เข้ามาพัวพันอยู่มากมายและพ่อของภูริดลก็มักจะตอบสนองผู้หญิงเหล่านั้นอยู่เสมอและนั่นคือสาเหตุที่ทำให้แม่ของเขาต้องตัดสินใจทำร้ายตัวเองและจากโลกนี้ไปในวัยเพียงแค่ 30 กว่า“ไม่เห็นจะยากแกมีเงินก็หาจ้างผู้หญิงสักคนเอามาแต่งงานกับแกหลอกให้พ่อแกเชื่อ”คนเป็นเพื่อนออกความเห็น ยุทธเป็นผู้ชายที่อยู่ในวงกา
ตอนที่ 2ลิ้นกับฟัน“ปีนี้อายุเท่าไหร่แล้ว” บารมีถามลูกชายเพื่อต้องการโยงไปถึงเรื่องต่อไปที่เขากำลังจะพูดซึ่งเป็นเรื่องที่ภูริดลก็รู้ดีว่ามันคือเรื่องอะไร “ 33 ครับ คุณพ่อกำลังจะพูดต่ออีกว่าอายุก็มากแล้วเมื่อไหร่จะหาแฟนสักคนหรือแกอยากให้พ่อยกสมบัติทั้งหมดให้ คุณนารี” ชายหนุ่มทำท่าทางน้ำเสียงล้อเลียนคนเป็นพ่อด้วยใบหน้าที่บึ้งตึงมองสบตาคนพูดโดยที่ไม่ยอมละสายตาไปไหนต้องการแสดงออกให้รู้ว่าเขาเบื่อเหลือเกินที่จะต้องฟังเรื่องราวเดิม ๆ แบบนี้ทุกวัน “ลูกก็รู้ว่าพ่อต้องพูดเรื่องนี้ก็แล้วทำไมไม่ทำให้มันสำเร็จ สักทีล่ะพ่อเริ่มคิดแล้วนะหรือความจริงแกไม่ได้ชอบผู้หญิงเหมือนอย่างที่คนอื่นเขาพูดกันพ่อไม่ว่าถ้าแกจะมีรสนิยมทางเพศแบบนั้นแต่ก็ควรจะพูดความจริงไม่ใช่เอาแต่อ้างนู่นอ้างนี่สุดท้ายอย่าหวังไปถึงมีครอบครัวเลยแค่แฟนสักคนก็ยังไม่เคยเห็นแกพามาบ้าน” ข้าวต้มถูกตักเข้าปากเพียงแค่ไม่กี่คำ ชายหนุ่มก็วางช้อนลงคว้าผ้าข้าง ๆ มาเช็ดปากแสดงให้คนเป็นพ่อรู้ว่าคำพูดของผู้ใหญ่กำลังทำให้เขาไม่มีอารมณ์ที่จะกินข้าวต่อก่อนที่จะยกมือไหว้สวัสดีตอนเช้าและเดินออก
ตอนที่ 3สะใภ้รับจ้าง“ดูเหมือนคุณกำลังกลัว....ว่าแต่ชื่ออะไรไม่คิดจะแนะนำตัวให้อนาคตสามีฟังเลยหรือไง” ภูริดลขับรถไปรับพิรฎายังบริเวณที่เธอนัดหมาย หญิงสาวไม่ยอมบอกที่อยู่เธอให้เหตุผลแค่เพียงว่าเธอเช่าห้องพักอยู่ถึงไม่อยากให้เขาเข้าไปวุ่นวายเกรงใจคนที่เช่าห้องอยู่ด้วยกัน “พิรฎาเรียกพิมพ์เฉย ๆ ก็ได้ค่ะชีวิตของฉันก็ไม่มีอะไรมากเกิดและเติบโตที่ต่างจังหวัดและเข้ามาเรียนกรุงเทพ ฯ เมื่อพ่อกับแม่เสียชีวิตไปหมดโดยได้รับทุนการศึกษาจากครูที่โรงเรียนแล้วก็ทำงานหาเงินเลี้ยงตัวเองไปวัน ๆ คุณสบายใจได้ว่าฉันไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนที่จะมาแสดงตัวให้ครอบครัวของคุณรู้ว่าเรื่องราวของเราไม่เป็นความจริง” หญิงสาวเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่แทบจะไม่มีความจริงในชีวิตเลยมีเพียงแค่ชื่อของเธอเท่านั้นที่เป็นความจริงนอกนั้นเธอก็แต่งเรื่องเพื่อให้อีกฝ่ายสบายใจและเธอเองไม่มีทางที่จะให้ภูริดลรู้ว่าความจริงแล้วเธอเป็นลูกสาวของเจ้าของกิจการใหญ่โตเพราะถ้าชายหนุ่มได้รู้ความจริงเขาคงไม่มีทางเลือกเธอมาเป็นภรรยารับจ้างเด็ดขาด “ฉันรอฟังชีวิตของสามีในอนาคตอยู่นะคะช่วยเล่าทุกอย่างให้ฟังโดยละเอียดเ
ตอนที่ 4คืนแรกในหน้าที่ภรรยา“คุณจะให้ฉันนอนตรงไหนก็บอก” ภูริดลหันไปมองหน้าคนถามด้วยความแปลกใจในเมื่อเขาจ้างเธอเข้ามาทำงานในตำแหน่งเมียรับจ้างแล้วเรื่องอะไรหญิงสาวมาถามหาที่นอนที่อื่น “คุณลืมอะไรไปหรือเปล่าผมจ้างคุณมาเป็นภรรยาของผมคุณก็ต้องนอนบนเตียงแล้วก็ทำหน้าที่ภรรยาอย่างสมจริง” พิรฎาพยักหน้าแต่เธอก็แอบหลบสายตาด้วยความอาย เอาเข้าจริง ๆ เมื่อถึงเวลานี้เธอกลับเริ่มรู้สึกว่าตัวเองกำลังคิดผิดไปหรือเปล่า การที่เธอจะต้องร่วมหลับนอนกับผู้ชายที่เธอไม่ได้รัก มันคงนำความทุกข์มาสู่เธอแต่ในเมื่อตัดสินใจแล้วเธอก็คงต้องยอมรับมันอย่างน้อยเธอก็มีที่พักอาศัยมีเงินให้ใช้โดยที่ไม่ต้องกลับไปพึ่งพาบิดา ได้เวลาของอาหารมื้อเย็นเจ้าของบ้านทำหน้าที่เดินนำสมาชิกใหม่ไปยังโต๊ะอาหารที่อยู่บริเวณกลางสนามเพราะวันนี้บารมีตั้งใจจะจัดงานเลี้ยงเล็ก ๆ เพื่อต้อนรับลูกสะใภ้ของเขา “พิมพ์ไม่รู้ว่าจะมีงานเลี้ยงแบบนี้เลยไม่ได้ลงมาช่วยต้องขอโทษด้วยนะคะ” สาวน้อยรีบเดินเข้าไปช่วยนารีที่กำลังเดินยกของจากครัวมายังโต๊ะอาหารเพราะแม่บ้านที่นี่มีจำนวนไม่มากนักถ้าเที
ตอนที่ 5เปิดตัวเมีย“พิมพ์ อยู่ในห้องน้ำหรือเปล่า” ภูริดลตื่นมาพบเพียงแค่ที่นอนที่ว่างเปล่าชายหนุ่มตะโกนเรียกหาภรรยาหมาด ๆ ของเขาแต่กลับไม่มีเสียงตอบมีเพียงแค่รอยปิดไม่สนิทของกระจกที่กั้นระหว่างส่วนของห้องนอนกับระเบียงที่มีรอยถูกเปิดออกภูริดลจึงตัดสินใจเดินออกไปเพราะคิดว่าบางทีภรรยาของเขาอาจจะออกไปยืนสูดอากาศด้านนอก “คุณร้องไห้ทำไม ! ผมไม่ได้ข่มขืนคุณนะ” คนถามไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเขากลับรู้สึกโกรธและน้อยใจที่เห็นผู้หญิงที่เขานอนด้วยเมื่อคืนมาแอบยืนร้องไห้เสียใจเหมือนกับว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้มันทำให้เธอรู้สึกทุกข์ไม่มีความสุข “เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าที่ฉันร้องไห้เพราะกำลังรู้สึกมีความสุขอีกไม่นานฉันก็จะหลุดจากสัญญาของคุณแล้ว” พิรฎาปดคำโต เธอไม่ได้รู้สึกอย่างที่พูดชีวิตความบริสุทธิ์ของผู้หญิงคนหนึ่งที่เธอก็มีความตั้งใจเหมือนผู้หญิงคนอื่น ๆ ที่อยากจะเก็บรักษาเอาไว้ให้ผู้ชายที่เธอรักที่สุดแต่วันนี้เธอกลับมอบให้กับผู้ชายที่เธอแทบจะไม่มีโอกาสได้รู้จักเขาดีพอเพียงเพราะต้องการเอาชนะบิดาเท่านั้น “ใครบอกกันว่าใกล้จะสิ้นสุดสัญญามันคือ
คฤหาสน์หลังใหญ่ที่ถึงแม้ตอนนี้จะเป็นเวลาสายแล้วแต่ ทุกคนก็ยังคงนั่งคุยเล่นกันอยู่ที่ห้องโถงห้องรับแขกเป็นภาพที่พิรฎารู้สึกไม่คุ้นตาเพราะชีวิตของเธออยู่บ้านหลังใหญ่ที่มีชีวิตอยู่แค่เพียงในห้องนอนเท่านั้นเธอหลุดพ้นจากอณาเขตตัวเองมาเมื่อไรก็จะต้องมาพบเจอกับสงครามประสาทจากคนที่ได้ชื่อว่าเป็นแม่เลี้ยง “กินข้าวกันหรือยังลูกวันนี้มีน้ำพริกกะปิคุณนารีทำไว้” บารมีเอ่ยทักลูกชายและลูกสะใภ้ด้วยแววตาที่ดูมีความสุขที่เห็นทั้งคู่เดินโอบกอดกันมาจากชั้น 2 คนเป็นพ่อเฝ้าหวังว่าจะได้เห็นภาพแบบนี้มาหลายปีถึงแม้จะดูช้าไปแต่อย่างน้อยบารมีก็มีหวังมากขึ้นที่เขาจะได้เป็นคุณปู่กับเขาเสียที “ผมจะพาพิมพ์ไปกินข้าวข้างนอกครับเพราะจะแวะเข้าบริษัทก่อน ช่วงบ่ายว่าจะพาเธอไปหาหมอตรวจร่างกายเสียหน่อยว่าพร้อมจะมีลูกให้ผมหรือยัง” พิรฎามองหน้าคนพูดด้วยความตกใจเพราะเขาไม่เคยบอกเธอว่าวันนี้จะพาเธอไปพบหมอถึงแม้เธอจะยอมเซ็นสัญญาแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะทำอะไรกับเธอก็ได้ “ไม่เห็นคุณบอกพิมพ์เลยว่าจะไปหาหมอ” “ก็ผมบอกอยู่นี่ไง คุณก็ได้ยินแล้วหรือคุณมีปัญหา”
ตอนที่ 8ทะเบียนสมรส เสียงของผู้หญิงที่ดังแทรกเข้ามาก่อนที่ภูเบศจะวางสายทำให้หัวใจของผู้หญิงที่ไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองมีตัวตนในชีวิตของเขาไม่สบายใจ ล้านนาพยายามที่จะข่มตาให้หลับลงแต่มันก็ไม่สำเร็จ เธอวางสายจากเจ้านายไปเกือบสองชั่วโมงแล้วแต่ความรู้สึกมันเหมือนทุกอย่างยังคงวนเวียนอยู่ในความคิดของเธอ เสียงรถยนต์มาจอดที่หน้าบ้านและตามมาด้วยเสียงประตูหน้าบ้านเปิดออก หญิงสาวรีบลุกออกจากเตียงนอนมาดูที่หน้าต่างด้วยความตกใจเพราะเวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะมีใครมาหาเธอ “ไหนคุณว่าจะนอนกับคุณแม่คุณไม่ใช่หรือคะ” หญิงสาวดีใจที่คนที่มาคือผู้ชายที่เธอสุดแสนจะคิดถึงและมีเรื่องค้างคาใจ
ตอนที่ 7มือที่สามที่ไม่ได้รับเชิญ “ไม่ได้พักที่เดิมหรือล้านนาเดี๋ยวนี้พี่ไม่เห็นเธอกลับรถสายเดิม” ดลย์พนักงานรุ่นพี่เดินเข้ามาทักหญิงสาวที่กำลังเดินลงทางบันไดหนีไฟเพราะตอนนี้ที่ลิฟท์มีคนรออยู่หลายคน “อืม ล้านนาย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้วค่ะ นึกอย่างไรคะถึงได้มาเดินลงบันไดหนีไฟแบบนี้” “คนรออีกเพียบเดินออกกำลังกายดีกว่า วัน ๆ ทำงานก็นั่งอยู่แต่กับเก้าอี้จะได้ยืดเส้นยืดสายด้วย” รุ่นพี่ทำงานทำท่าทางประกอบให้รู้ว่าเขาต้องการออกกำลังกายจริง ๆ “ข้างนอกฝนตกแรงแบบนี้ ล้านนาให้พี่ไปส่งไหมหรือไม่ก็ไปลงตรงไหนที่ใกล้ที่พักแล้วค่อยต่อรถไปอีกทีก็ได้ถ้ารออยู่หน้าบริษัทแบบนี้พี่ว
ตอนที่ 6รู้แค่วันนี้ฉันยังมีเธอ “ล้านนาหายไปไหนมา งานที่พี่ให้เธอทำไม่มีอะไรใช่ไหม” ยุพารีบเข้ามาประกบลูกน้องทันทีที่ล้านนามาถึงที่บริษัท “ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ พี่ยุพาสบายใจได้ไม่มีใครรู้ว่าพี่เอางานมาให้หนูทำ” ยุพาค่อยสบายใจขึ้นมาหน่อยเพราะการที่ลูกน้องของเธอลางานสองวันติดแถมยังเป็นการหายไปพร้อมเจ้านายอีก ยุพาแอบกลัวว่าจะเกี่ยวกับงานที่เธอจ้างให้ทำ การทำงานยังคงเป็นไปอย่างปกติแต่ที่ทุกคนในแผนกกำลังให้ความสนใจคือยุพาถูกท่านรองประธานบริษัทเรียกเข้าไปคุยเกือบชั่วโมงยังไม่ออกมา “ล้านนาจะเกี่ยวกับเราสองคนไหม” ส้มโอ
ตอนที่ 9ความรักชนะทุกอย่าง ล้านนายังคงมีอาการแพ้ท้อง ภูเบศจึงไม่ยอมให้เธอไปทำงานให้นอนพักอยู่ที่บ้าน ส่วนตัวเขาเองรีบเข้าบริษัทอย่างรีบร้อนแต่ไม่ใช่เพราะมีงานเร่งด่วนแต่เขามีธุระสำคัญต้องคุยกับบิดา ประจักษ์ไม่ค่อยได้กลับบ้านเพราะกลับไปทีไรก็ต้องได้มีเรื่องทะเลาะกับราตรีทุกที “คุณพ่อครับผมมีเรื่องสำคัญจะปรึกษา” คนเป็นลูกมองไม่เห็นใครแล้วที่จะช่วยคุยกับมารดาของเขาได้นอกจากบิดาเพียงคนเดียว ภูเบศเล่าเรื่องราวระหว่างเขากับล้านนาให้กับประจักษ์ฟังตั้งแต่เริ่มต้นและสุดท้ายก็จบลงด้วยเรื่องของทรายแก้วอดีตคนรักที่มารดาต้องการจะให้เขาแต่งงานด้วย “ลูกทำไมปล่อยให้ทุกอย่างเลยเถิดมาถึงขั้นนี้แต่ก็ยังดีนะที่ไม่ปล่อยให้ทุกอย่างเกินเลยไปจนเกินแก้ไข” ประจักษ์เข้าใจและพร้อมจะอยู่ข้างเขาแต่ก็อดที่จะตำหนิไม่ได้ที่ภูเบศปล่อยให้ทุกอย่างมาไกลจนล้านนาท้อง “ผมแค่คิดว่ายังไม่พร้อมจะสละชีวิตโสดแต่พอมารู้ว่าผมกำลังจะได้เป็นพ่อคนและล้านนาจะไปจากผม ทุกอย่างรอไม่ได้อีกแล้ว” “ชีวิตคนเรามันสั้นนัก อย่าทำอะไรผิดพลาดแล้วไม่รีบแก้ไขเหมือนพ่อก
ตอนที่ 5สถานะที่ไม่ได้เลือก “คุณพาฉันมาที่นี่ทำไม” ล้านนายังไม่ยอมลงจากรถเมื่อมาถึงหน้าบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ที่อยู่ส่วนในสุดของหมู่บ้านที่ดูสะอาด สงบน่าอยู่มาก ๆ “บ้านหลังนี้คือบ้านที่คุณต้องอยู่จนกว่าผมจะเบื่อ” ภูเบศลงจากรถมาเปิดประตูให้หญิงสาวที่ยังคงนั่งสับสนทำอะไรไม่ถูก “ลงมาเถอะยังมีอีกหลายอย่างที่เราต้องจัดการภายในวันนี้ให้เสร็จ” เจ้าของบ้านเดินนำเข้าบ้านไปพร้อมกระเป๋าหลายใบในมือที่เป็นข้าวของที่หญิงสาวขนมาจากห้องพักเดิม “คุณให้ฉันมาอยู่ที่บ้านใคร” ล้านนารู้สึกไม่ไว้ใจ “บ้านผม บ้านหลังนี้ผมซื้อไว้ขายแต่ตอนนี้คงไม่ขายแล้ว อย่าเสียเวลาถามอะไรอยู่เลย ลองมองดูว่าขาดเหลืออะไรจะได้พาไปซื้อ ทางร้านจะได้มาส่งวันนี้ทัน” เจ้าของบ้านเดินออกไปขนของในรถมาวางกองรวมกันไว้ในขณะที่คนมาใหม่ก็เดินสำรวจไปรอบ ๆ บ้านหลังนี้เป็นบ้านชั้นเดียวมีเนื้อที่รอบบ้าน ห้องนอนสี่ห้องทำให้ล้านนารู้สึกว่าที่นี่มันใหญ่เกินไปสำหรับการที่เธอต้องอยู่อาศัยเพียงคนเดียว “บ้านมันใหญ่เกินไป ฉันไปอยู่ห้องเช่าเหมือนเดิมดีแล้ว”
ตอนที่ 10ถ้าไม่ใช่เธอ..ใครก็ไม่เอา ลิตาทำอะไรไม่ถูก เธอรู้ว่าคงไม่มีทางปฎิเสธได้ จึงเปลี่ยนเป็น ยกมือไหว้อ้อนวอนอีกฝ่ายแทน “ที่ลิตาทำไปเพราะอยากได้เข้ามาดูแลลูกและคุณกับลิลก็ไม่ได้เป็นสามีภรรยากันจริง ๆ ลิตาก็คิดว่าไม่น่าจะมีอะไรแค่อยากได้มีโอกาสดูแลลูกบ้าง” วายุเห็นท่าทางของพี่สาวภรรยานอกจากมันจะไม่ทำให้เขาสงสารแล้ว มันยังทำให้เขารู้สึกโมโหมากกว่าเดิม “หยุดตอแหล ก่อนที่ผมจะไม่เห็นความเป็นคนในตัวคุณ คุณลิตาคุณรู้ไว้เลยนะ ว่าผมกับลิลเราเป็นสามีภรรยากันอย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้วก็ทางปฎิบัติด้วย ถ้าคุณทำแบบนี้อีก ผมจะให้คุณชดใช้เงินสิบห้าล้านคืนผม เพราะสัญญาที่คุณเซ็นมันคือสัญญาการกู้ยืมเงิน” ลิตาอยากได้เงินจนไม่ได้อ่านว่าตัวเอ
ตอนที่ 9 ทวง อนุสรณ์สังเกตสีหน้าท่าทางของลูกชาย เช้านี้วายุทำหน้าเหมือนคนยิ้มแบบเขินตลอดเวลา พอหันมาที่ลูกสะใภ้คนเล็กก็ไม่ต่างกัน “พระพายวันนี้คุณอาหนูเขาไปแอบมีความสุขอะไรกันมา ปู่เห็นตั้งแต่เดินลงมาก็เอาแต่ยิ้มอายไปอายมา” วายุหันมาสบตาภรรยา คราวนี้ลลิลถึงขั้นทำของเล่นลูกสาวหลุดจากมือ “ถ้าอย่างนั้นปู่ไม่แซวแล้ว ดูมือไม้สั่นไปหมด” การได้เป็นสามีภรรยากันอย่างสมบูรณ์ในคืนที่ผ่านมา ยังทำให้หญิงสาวรู้สึกอาย ๆ ไม่กล้าสู้หน้าคนเป็นสามีเท่าไหร่ วายุพยายามทำทุกอย่างให้เป็นปกติเพราะไม่อยากให้ภรรยาของเขาต้องรู้สึกเขินอาย เพราะเรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่
ตอนที่ 8แพ้ใจ ทริปแรกจบไปอย่างสวยงามพระพายมีของฝากมาให้ทุกคนตามที่คุณปู่สั่ง คุณปู่เองก็หอมหลานสาวทั้งคู่เหมือนกับไม่ได้เจอหน้ากันหลายเดือน จนตอนนี้ลลิลเลยทิ้งแก้มใสให้คุณปู่เลี้ยงให้หายคิดถึง บ้านที่ตกแต่งเสร็จแล้วหลายเดือน แต่ลลิลยังไม่มีเวลาที่จะจัดตกแต่ง “ตกลงเฟอร์นิเจอร์เราซื้อใหม่หมดใช่ไหมคะ คือลิลคิดว่าบางอย่างมันก็เอาไปจากห้องเดิมได้ จะได้ประหยัด” วายุส่ายหัวเพราะเขาไม่ได้เป็นคนจ่าย คนที่สั่งให้ซื้อใหม่หมดคือพ่อของเขา ดังนั้นก็มีคนจ่ายเงินให้โดยที่ไม่ต้องกลัวเปลือง “อย่าขัดใจคุณปู่ พรุ่งนี้ไปสั่งกันเลย จะได้ย้ายห้องสักที ตอนนี้ยายหนูก็โตแล้วกลิ้งไปทั่วผมล่ะกลัวสักวันจะตกเตียง”&n
ตอนที่ 7ภรรยาตามกฎหมาย วันนี้แก้มใสแต่งตัวสวยกว่าทุกวัน เพราะวันนี้คุณพ่อกับคุณแม่และพี่พระพายจะพาแก้มใสไปเที่ยวสวนสัตว์ “เอามาให้ปู่อุ้มก่อน พ่อกับแม่จะได้ไปเตรียมของ อย่าลืมนมล่ะวายุเดี๋ยวร้องตายเลย” วายุวุ่นกับการเตรียมของให้หลานสาว ส่วนลลิลก็เตรียมของให้ลูก เพราะหลังจากเที่ยวที่สวนสัตว์ บริเวณนั้นมีอ่างเก็บน้ำและมีรีสอร์ต วายุจะพาเด็ก ๆ และภรรยาไปนอนเล่นสักคืน “คุณพ่อไม่ไปกับเราแน่เหรอครับ นาน ๆ เราจะได้ไปกันที” วายุยังไม่เคยไปเที่ยวพร้อมหน้าครอบครัวแบบนี้เลยสักครั้งแต่เขาก็ไม่เคยเห็นพ่อของเขาไปไหนเหมือนกัน “พ่อจะอยู่เป็นเพื่อนอร เอาไว้ถึงฤดูหนาวเราไปเชียงใหม่กัน ไ