คฤหาสน์หลังใหญ่ที่ถึงแม้ตอนนี้จะเป็นเวลาสายแล้วแต่ ทุกคนก็ยังคงนั่งคุยเล่นกันอยู่ที่ห้องโถงห้องรับแขกเป็นภาพที่พิรฎารู้สึกไม่คุ้นตาเพราะชีวิตของเธออยู่บ้านหลังใหญ่ที่มีชีวิตอยู่แค่เพียงในห้องนอนเท่านั้นเธอหลุดพ้นจากอณาเขตตัวเองมาเมื่อไรก็จะต้องมาพบเจอกับสงครามประสาทจากคนที่ได้ชื่อว่าเป็นแม่เลี้ยง
“กินข้าวกันหรือยังลูกวันนี้มีน้ำพริกกะปิคุณนารีทำไว้”
บารมีเอ่ยทักลูกชายและลูกสะใภ้ด้วยแววตาที่ดูมีความสุขที่เห็นทั้งคู่เดินโอบกอดกันมาจากชั้น 2 คนเป็นพ่อเฝ้าหวังว่าจะได้เห็นภาพแบบนี้มาหลายปีถึงแม้จะดูช้าไปแต่อย่างน้อยบารมีก็มีหวังมากขึ้นที่เขาจะได้เป็นคุณปู่กับเขาเสียที
“ผมจะพาพิมพ์ไปกินข้าวข้างนอกครับเพราะจะแวะเข้าบริษัทก่อน ช่วงบ่ายว่าจะพาเธอไปหาหมอตรวจร่างกายเสียหน่อยว่าพร้อมจะมีลูกให้ผมหรือยัง”
พิรฎามองหน้าคนพูดด้วยความตกใจเพราะเขาไม่เคยบอกเธอว่าวันนี้จะพาเธอไปพบหมอถึงแม้เธอจะยอมเซ็นสัญญาแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะทำอะไรกับเธอก็ได้
“ไม่เห็นคุณบอกพิมพ์เลยว่าจะไปหาหมอ”
“ก็ผมบอกอยู่นี่ไง คุณก็ได้ยินแล้วหรือคุณมีปัญหา”
สายตาที่ดูดุดันมีอำนาจทำให้หญิงสาวต้องยอมเงียบเพราะคิดว่าคืนดึงดันเถียงไปก็คงไม่มีประโยชน์และอาจจะทำให้ความลับแตกและเธออาจจะกลายเป็นคนผิดสัญญาสุดท้ายก็จะเสียตัวฟรีๆไม่ได้อะไรกลับคืนในเมื่อเธอพลาดพลั้งมาถึงขั้นนี้แล้วคงทำได้แค่เพียงเดินหน้าต่อเพื่อจะได้เงิน 10 ล้านตามที่อีกฝ่ายตกลงไว้
“รับไปซะคนอย่างผมรักษาสัญญามากพอ”
ทั้งสองคนเมื่อขึ้นมาอยู่ในส่วนของบนรถที่สามารถพูดอะไรได้โดยที่ไม่ต้องกลัวว่าใครจะได้ยิน ดลก็ยื่นซองเงินสีขาวส่งให้หญิงสาวที่นั่งข้างๆทันที
“เงินค่าอะไรคะทำไมมันเยอะแบบนี้”
พิรฎาไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายให้เงินเธอทำไมเพราะตามสัญญาเธอจะได้เงิน 10 ล้านบาทหลังจากที่เธอคลอดลูกให้เขาเรียบร้อยแล้วแต่นี่เธอกับเขาเพิ่งมีอะไรกันทำไม เขาถึงให้เงินจำนวนมากมายแบบนี้กับเธอ
“ 1 ล้านที่ผมดูถูกคุณในเมื่อผมทดสอบดูแล้วคุณยังบริสุทธิ์อยู่ คุณชนะ”
สาวน้อยจำได้แล้วว่าก่อนเหตุการณ์เมื่อคืนภูริดลได้ดูถูกเธอว่าที่เธอไม่กล้านอนกับเขาเป็นเพราะต้องการปกปิดความลับว่าเธอไม่บริสุทธิ์และเธอก็ได้กล่าวท้าทายว่าถ้าเธอยังคงเป็นหญิงสาวที่ไม่เคยผ่านชายใดมาเขาพร้อมจะจ่ายเพิ่มหรือไม่และวันนี้เขาก็ได้ทำตามสัญญาจริงๆ
ท่านประธานบริษัทพาภรรยาไปเปิดตัวเพราะเขาไม่อยากให้บรรดาสาว ๆ ที่พร้อมจะมาเสนอตัวมายุ่งกับเขาอีกการพาพิรฎามาที่ทำงานจะทำให้ข่าวนี้แล่นไปถึงหูบรรดาสาวๆได้ง่ายขึ้นโดยเฉพาะดุจดาว
“คุณพิรฎาเป็นภรรยาของผมแต่เธอคงไม่ได้เข้ามาข้องเกี่ยวกับบริษัทแต่ที่พามาแนะนำตัวในวันนี้เพราะอยากจะให้ทุกคนที่นี่รู้ว่าผมมีภรรยาแล้วถึงแม้เราจะไม่ได้แต่งงานแต่เราก็จดทะเบียนสมรสกันอย่างถูกต้อง”
เป็นอีกครั้งที่พิรฎาต้องรู้สึกตกใจเพราะเธอกับเขายังไม่ได้ไปจดทะเบียนสมรสกันถึงแม้ในสัญญาจะบอกไว้ว่าทั้งคู่จะจดทะเบียนสมรสและรีบหย่ากันให้เร็วที่สุดเพื่อเอาทะเบียนนั้นไปให้บิดาดูเป็นหลักฐานแต่ในเมื่อพ่อของภูริดลก็ไม่ได้เรียกร้องขอดูหลักฐานอะไรหญิงสาวจึงคิดว่าคงไม่มีการจดทะเบียนสมรสแล้ว
“พ่อคุณก็ไม่ได้สงสัยอะไรแล้วยังจะต้องจดทะเบียนกันอีกหรือคะ”
สาวน้อยกระซิบถามสามีทันทีที่ทั้งคู่เดินเข้ามายังห้องทำงานของท่านประธานเพราะเธอเริ่มกังวลว่าการจดทะเบียนเป็นเรื่องทางกฎหมายกลัวมันจะมีผลในระยะยาว
“ถ้าจำไม่ผิดเมื่อเช้าคุณอ่านสัญญาแล้วถึงแม้พ่อผมจะไม่สงสัยอะไรแต่ทุกอย่างต้องเป็นไปตามสัญญาหรือถ้าคุณมีปัญหา เรายกเลิกสัญญาเลยก็ได้นะเพราะอย่างไรคุณก็ได้ชื่อว่าเป็น เมียผมแล้ว”
ท่านประธานไม่ใช่แค่เพียงใช้สายตาที่ดูกรุ้มกริ่มมองมาที่ อีกฝ่ายแต่เขากับโน้มหน้าเอาปากหนาเข้ามาหอมกับแก้มนุ่มจน คนตัวเล็กยืนเซด้วยแรงกระแทกที่เธอไม่ทันได้ตั้งตัว
“คุณคิดว่าฉันจะไม่กล้าฉีกสัญญาเพียงเพราะเสียตัวให้คุณแล้วอย่างนั้นหรือคุณกำลังคิดผิดนะผู้หญิงสมัยนี้ไม่มีใครเขาสนใจแล้วกับเรื่องความบริสุทธิ์”
พิรฎาพยายามทำสีหน้าเหมือนว่าเธอไม่ได้ยึดถืออะไรกับเรื่องที่เธอถูกเขาย่ำยีไปเมื่อคืนแต่มันก็ไม่สามารถปกปิดความรู้สึกที่แท้จริงของเธอได้ภูริดลดูออกว่าผู้หญิงที่เขาได้เป็นคนแรกถึงเธอจะพยายามทำตัวเป็นคนหัวสมัยใหม่แต่ความจริงแล้วเธอยังคงเป็นผู้หญิงที่รักนวลสงวนตัวอยู่เขาจึงได้แต่ยิ้มมุมปากเมื่อรู้สึกว่าอีกฝ่ายก็แค่ต้องการพูดเพื่อเอาชนะเขาให้ได้ก็แค่นั้นเอ
ตอนที่ 6นามสกุลที่คุ้นหู“สบายใจขึ้นหรือยังคะ” พิรฎาถอนหายใจก่อนจะหันไปถามชายหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างๆเธอด้วยใบหน้าที่แสนจะเหน็ดเหนื่อยหลังจากที่เธอต้องเข้าไปตรวจร่างกายกับคุณหมอเพราะหญิงสาวทั้งรู้สึกกลัวและรู้สึกเจ็บกับการที่ต้องโดนตรวจภายในเป็นครั้งแรก “ก็ดีนะผมจะได้ตั้งหน้าตั้งตาทำเต็มที่คุณเองก็เตรียมร่างกายให้พร้อมจะได้ไม่ต้องทนเป็นเมียผมนานเอาเถอะยิ่งเรามีลูกกันช้าเท่าไหร่คุณก็ยังจะต้องทนเห็นหน้าผมไปอีกนาน” สาวน้อยได้แต่หันไปมองคนขับที่ตั้งแต่ออกมาจากบ้านเขายังไม่พูดหยุดพูดจาประชดประชันเธอเลยสักครั้งด้วยความรู้สึกเหนื่อยใจเหลือเกินแต่เธอก็ไม่อยากจะต่อล้อต่อเถียงอะไรแล้วเพราะตลอดทางเธอเองก็เถียงเข้ามาตลอดเหมือนกันจึงคิดว่าต่อไปนี้จะอยู่แบบเงียบๆบ้างเพราะแค่ต้องทนปฏิบัติตามคำสั่งของเขาเธอก็เหนื่อยใจพออยู่แล้วถ้ายังจะต้องมาเถียงเอาผิดเอาถูกกับเขาอีกเธอคงจะต้องบ้าก่อนที่งานสำเร็จแน่นอน “แวะไหนอีกคะนี่ฉันคิดว่าเราจะกลับบ้านกันได้แล้ว” คนขับไม่ได้มุ่งหน้ากลับบ้านตามที่อีกฝ่ายคิดแต่เขากลับพาเธอมาที่หน่วยงานราชการแห่งหนึ่งซึ่งเป้าหมายของเขาก็คือ
ตอนที่ 7เมื่อความผูกพันมันก่อตัว“ผมขอบัวลอยเพิ่มอีกสักถ้วยนะครับ” ทุกคนในโต๊ะอาหารต่างหันไปมองคนพูดด้วยความตกใจเพราะนับตั้งแต่นารีเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ในฐานะแม่เลี้ยงของ ภูริดลชายหนุ่มแทบจะไม่ยอมพูดจาอะไรกับเธอแต่วันนี้เขากลับขอบัวลอยเพื่อทั้งที่มันคือฝีมือของนารีซึ่งปกติแล้วชายหนุ่มแทบจะ ไม่ยอมแตะต้องมันเลยด้วยซ้ำ “ที่ทำงานเป็นอย่างไรบ้างลูก” บารมีเห็นบรรยากาศบนโต๊ะอาหารเริ่มมีความสนิทสนมคุ้นเคยกันมากขึ้นเขาจึงหาเรื่องชวนลูกชายคุยเกี่ยวกับงานบริษัทที่เขาวางมือให้ลูกชายเป็นคนสานต่อส่วนตัวเขาเองเป็นเพียงแค่ที่ปรึกษาใหญ่คอยให้คำแนะนำในเรื่องที่สำคัญเท่านั้น ระหว่างพ่อลูกกำลังพูดคุยกันพิรฎาก็ลุกขึ้นไปช่วยนารีเตรียมขนมหวานให้กับคนทั้งคู่อีกรอบเพราะขนมบัวลอยฝีมือนารีมีทั้งความอร่อยและกลิ่นหอมจึงทำให้สองพ่อลูกค้าเติมกันอีกเรื่อยๆ ช่วงระยะเวลาที่ผู้ชายทั้ง 2 คนออกไปทำงานข้างนอกสองหญิงที่อยู่ในบ้านจึงมีเวลาได้พูดคุยกันจนเกิดความสนิทสนมพิรฎามองเห็นความดีในตัวของนารีและความจริงใจที่เริ่มชัดเจนออกมาทุกวัน เธอพยายามทำให้
ตอนที่ 8อะไรคือความจริง“ว้าย ! ” สิ้นเสียงกรีดร้องด้วยความตกใจพิรฎาก็มารู้สึกตัวอีกทีเธอก็นอนอยู่ที่โรงพยาบาลโดยมีสามีคอยยืนอยู่ข้างๆ “คุณปลอดภัยแล้วนะ” ภูริดลจับมือภรรยามากอดแน่นรอยยิ้มของเขามันดูมีความสุขมากกว่าการที่เห็นภรรยาลืมตาฟื้นขึ้นมาจนคนป่วยส่งสายตาเป็นคำถามให้อีกฝ่ายอธิบายว่าเกิดอะไรขึ้น “คุณกับลูกปลอดภัยดี” ชายหนุ่มบอกข่าวดีแก่ภรรยาที่มันเหมือนสายฟ้าฟาดลงไปกลางหัวใจของคนที่ตั้งใจจะสารภาพความจริงทุกอย่างภายในวันนี้จากที่ชีวิตของเธอมีแค่เพียงตัวคนเดียวตัดสินใจจะทำอะไรก็ยากเย็นมากพออยู่แล้วพอมารู้ข่าวที่ควรจะเป็นข่าวดีแต่มันกลับทำให้หัวใจของเธอรู้สึกสั่นไหววูบวาบไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรกับชีวิตที่ต่อไปนี้เพราะเธอกำลังจะเป็นแม่คน “ฉันท้องหรอคะ” “ใช่ เรากำลังจะมีลูกด้วยกันนะ” ภูริดลพยายามกลบเกลื่อนความรู้สึกบางอย่างในหัวใจเหมือนกันเพราะในสัญญาเขียนบอกไว้ว่าทันทีที่หญิงสาวคลอดลูกออกมาสัญญาจะจบลงทันทีชายหนุ่มไม่แน่ใจเลยว่าพิรฎาจะไปจากเขาทันทีหรือไม่เพราะถึงเวลานั้นเธอมีอิสระเต็มตัวแล้ว คุณหมอตรวจดูอ
ตอนที่ 9ภรรยาไม่รับจ้างพิรฎาก้าวเท้าออกจากบ้านที่เธอคิดว่ามันคือความอบอุ่นที่สุดในชีวิตของเธอ เธอตัดสินใจที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองให้กลายมาเป็นคนเข้มแข็งจะไม่หนีปัญหาอีกแล้ว ทันทีที่เธอเหยียบเท้าเข้าไปสู่บ้านหลังใหญ่ซึ่งเป็นบ้านของพ่อและแม่เธอตั้งใจจะประกาศตัวเป็นศัตรูกับอภิรดีทันทีวันนี้เธอจะเอาทุกอย่างคืน“คุณพ่อพิมพ์กลับมาแล้ว”สาวน้อยเปิดประตูบ้านก้าวเท้าเข้าไปก้มกราบบิดาทันทีเวลานี้พระอาทิตย์เพิ่งจะพ้นขอบฟ้าอภิรดียังคงไม่ตื่นนอน 2 คนเพ่อลุกจึงมีโอกาสได้พูดคุยกัน“พิมพ์ขอโทษที่ทำให้คุณพ่อต้องเป็นห่วงคุณพ่อรู้แล้วใช่ไหมว่าอีนั่นมัน….”คนเป็นพ่อใช้ฝ่ามือปิดปากของลูกเพราะไม่ต้องการให้ หญิงสาวพูดอะไรออกมาอีกแล้วเวลานี้นิรุตรู้ความจริงหมดแล้ว ทุกอย่างว่าภรรยาที่เขาคิดว่าเธอเป็นแม่เลี้ยงที่แสนดีดูแลลูกสาวเขามาตลอดแท้ที่จริงเธอคืออสรพิษที่สูบเงินของเขาโยกย้ายเข้าไปบัญชีส่วนตัวของเธอจนเวลานี้บริษัทของเขาแทบจะยืนอยู่ไม่ได้โชคยังดีที่กรรมการบริหารคนอื่นของบริษัทยังคงเข้มแข็ง“พิมพ์จะเล่าทุกเรื่องที่เกิดขึ้นให้คุณพ่อฟังค่ะ”ครั้งแรกที่สองคนพ่อลูกเปิดใจพูดคุยเรื่องราวทั
ตอนที่1เมื่อเขาให้เป็นแค่น้องสาว “พี่วินเป็นอะไรคะ ทำไมถึงได้มานั่งเงียบ ๆ อยู่แบบนี้” มิตาน้องสาวต่างสายเลือดถามพี่ชายที่เป็นเพียงแค่ลูกของสามีใหม่ของมารดาด้วยความเป็นห่วงที่เห็นชายหนุ่มหลบผู้คนมานั่งเงียบอยู่ที่สระว่ายน้ำหลังบ้าน ธาวินเป็นผู้ชายที่เรียกได้ว่ามีคุณสมบติครบทุกอย่างตามที่สาว ๆ ต้องการแต่ตัวเขาเองเจ็บกับคำว่าความรักมามากเขาจึง ไม่คิดจะเริ่มต้นใหม่กับใคร “ทุกครั้งที่พี่มีเรื่องอะไรไม่สบายใจ ก็เห็นจะมีแต่น้องสาวพี่คนนี้ที่รู้ทันและตามมาถามมาห่วง ถ้าวันไหนมิตามีแฟนมีครอบครัวขึ้นมาพี่คงไม่รู้จะเล่าความทุกข์ให้ใครฟังได้เลย” มิตาได้แต่ส่งยิ้มหวานให้ชายหนุ่มที่นั่งข้าง ๆ เธอ ทั้งสองคนหย่อนเท้าลงไปในสระน้ำเตะเท้าไปมาโดยที่ยังไม่มีใครพูดอะไร หญิงสาวไม่กล้าถามเพราะอยากให้คนที่กำลังเครียดเป็นฝ่ายเริ่มเล่าเองมากกว่า ธาวินนั่งเงียบไปเกือบสิบนาทีก่อนที่จะเริ่มเล่าความทุกข์ของเขาในวันนี้โดยที่ไม่ได้หันหน้ามาหาผู้ฟังตามแบบที่เขาทำเสมอเวลาระบายความทุกข์ให้มิตาฟัง “วันนี้พี่ไปที่สนามกีฬามา ตั้งใจว่าจะไปวิ่ง
ตอนที่ 2เลขาส่วนตัว มิตาเรียนจบเธอก็ได้ตำแหน่งเลขาส่วนตัวของธาวินทันที งานเลขาไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลยสำหรับคนที่จบทางด้านภาษามาอย่างมิตา เธอต้องเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ ดาราต้องเริ่มสอนทีละงานที่คิดว่ามิตาจะสามารถทำได้ “เหนื่อยไหมวันนี้ วันแรกของการเป็นเลขาพี่” ธาวินหันมาถามหญิงสาวที่นั่งข้าง ๆ เพราะตอนนี้ท่าทางของมิตาเหมือนคนกำลังจะหมดแรง “ง่วงมากเลยค่ะ ช่วงบ่ายมิตาแอบหลับด้วยเวียนหัวกับตัวหนังสือ มันเยอะไปหมด สงสารคุณดาราเลยลูกอ่อนแล้วยังต้องมาทำงานหนักแบบนี้” “ถ้าสงสารก็รีบเรียนรู้ คุณดาราเธอจะได้มีเวลาให้กับลูกมากขึ้น” หญิงสาวหันมาส่งยิ้มให้พี่ชายต่างสายเลือดก่อนที่จะเผลอหลับไปอย่างไม่รู้ตัวเพราะความเพลีย คนตัวเล็กหลับแล้ว ธาวินไม่รู้จะคุยกับใครทำให้เขาคิดถึงเรื่องที่บิดาเรียกเขาไปคุยเมื่อสองวันก่อน อดิสรณ์พูดกับลูกชายเรื่องของการมีทายาทสืบสกุลเพราะตัวอดิสรณ์ก็เป็นลูกชายเพียงคนเดียวและเขาก็ดันมีธาวินเพียงคนเดียวอีก ถ้าธาวินไม่มีลูกก็เท่ากับว่าตระกูลของเขาจะจบสิ้นเพียงเท่านี้ กิจการต่าง ๆ ที่ทำไว้สร้างมาด้วยน้ำพักน
ตอนที่ 3บีบ ธาวินกับมิตากว่าจะกลับถึงบ้านก็ดึกมากแล้ว บ้านหลังใหญ่เปิดไฟอยู่เกือบทุกดวง แม่บ้านพากันมานั่งอยู่กลางบ้านเหมือนกำลังรออะไรกันสักอย่าง “คุณธาวินคุณท่านอยู่ดี ๆ ก็หายใจติดขัด ปากเบี้ยว คุณวิภาพาส่งโรงพยาบาลแล้วค่ะ” แม่บ้านที่อายุมากที่สุดและอยู่รับใช้ครอบครัวนี้มานานทำหน้าที่รายงานเจ้านายตัวน้อยของเธอ “ตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ ทำไมไม่มีใครโทรศัพท์บอกผมเลย” “ตั้งแต่หัวค่ำแล้ว พวกเราก็รอฟังข่าวคุณวิภาก็ไม่เห็นโทรกลับมา คุณาวินรีบตามไปนะคะและส่งข่าวให้พวกเรารู้บ้าง จะได้หายห่วงกัน” ธาวินและมิตารีบขับรถตามไปที่โรงพยาบาล ชายหนุ่ม ไม่ยอมให้มิตาโทรศัพท์ไปถามมารดาของเธอ เพราะเขาอยากไปรู้ด้วยตัวเองมากกว่า ธาวินกลัวว่าถ้าบิดาอาการไม่ดีตัวเขาเองจะแย่ไปอีกคน โรงพยาบาลอยู่ไม่ไกลจากตัวบ้านจึงใช้เวลาไม่นานและตอนนี้ดึกแล้วถนนค่อนข้างโล่ง มิตาวิ่งตามชายหนุ่มที่กำลังวิ่งนำเธอเพื่อไปยังฝ่ายประชาสัมพันธ์เพื่อถามว่าตอนนี้บิดาของเขาอยู่ที่ไหน “คนไข้อยู่ห้องฉุกเฉินค่ะตอนนี้” ธาวินได้คำตอบก็รีบวิ่งตรงไ
ตอนที่ 4เต็มใจ อดิสรณ์ใช้เวลารักษาตัวอยู่โรงพยาบาลนานเกือบ สองสัปดาห์เพราะความดันยังไม่ลดลง บางวันยังมีสูงอยู่ ตอนนี้สิ่งที่ทุกคนเป็นห่วงคือเขาจะกลืนอาหารลำบากและพูดลิ้นแข็ง จึงต้องอาศัยกำลังใจและคนดูแลอย่างใกล้ชิด วิภา ธาวิน และมิตาจึงเริ่มคุยเรื่องของธาวินและมิตาที่ตกลงจะแต่งงานกันเพราะต้องการรีบมีทายาทให้กับคนเป็นพ่อที่เริ่มป่วยและการมีหลานไว้สืบสกุลคงทำให้ท่านรู้สึกดีขึ้น วิภาเป็นห่วงว่าถ้าอดิสรณ์รู้ว่าทั้งคู่ไม่ได้รักกันจริง เขาอาจจะไม่ยอม “ความจริงน้าก็ไม่ได้เห็นด้วยนะคุณวินแต่ในเมื่อตัดสินใจกันแล้วก็คงไม่มีประโยชน์ที่จะมาทัดทานกัน เพียงแต่ว่าน้าเป็นห่วง ถ้าคุณอดิสรณ์รู้ว่าเราสองคนแต่งงานกันเพียงเพราะต้องการมีทายาทตามที่ท่านต้องการ ท่านคงไม่ยอม” วันนี้วิภาได้กลับบ้านมาพักแล้วไปเฝ้าสามีใหม่ในวันพรุ่งนี้ เธอจึงถือโอกาสคุยกับทั้งสองคน ก่อนที่เรื่องนี้จะถูกนำไปบอก คนป่วย ธาวินทำท่าคิดตามคำที่แม่เลี้ยงพูด เขาลืมคิดเรื่องนี้ไป คิดแต่ว่าอยากจะบอกความจริงทุกอย่างเท่านั้น “แล้วคุณน้าคิดว่าเราควรจะบอกคุณพ่
ตอนที่ 8ทะเบียนสมรส เสียงของผู้หญิงที่ดังแทรกเข้ามาก่อนที่ภูเบศจะวางสายทำให้หัวใจของผู้หญิงที่ไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองมีตัวตนในชีวิตของเขาไม่สบายใจ ล้านนาพยายามที่จะข่มตาให้หลับลงแต่มันก็ไม่สำเร็จ เธอวางสายจากเจ้านายไปเกือบสองชั่วโมงแล้วแต่ความรู้สึกมันเหมือนทุกอย่างยังคงวนเวียนอยู่ในความคิดของเธอ เสียงรถยนต์มาจอดที่หน้าบ้านและตามมาด้วยเสียงประตูหน้าบ้านเปิดออก หญิงสาวรีบลุกออกจากเตียงนอนมาดูที่หน้าต่างด้วยความตกใจเพราะเวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะมีใครมาหาเธอ “ไหนคุณว่าจะนอนกับคุณแม่คุณไม่ใช่หรือคะ” หญิงสาวดีใจที่คนที่มาคือผู้ชายที่เธอสุดแสนจะคิดถึงและมีเรื่องค้างคาใจ
ตอนที่ 7มือที่สามที่ไม่ได้รับเชิญ “ไม่ได้พักที่เดิมหรือล้านนาเดี๋ยวนี้พี่ไม่เห็นเธอกลับรถสายเดิม” ดลย์พนักงานรุ่นพี่เดินเข้ามาทักหญิงสาวที่กำลังเดินลงทางบันไดหนีไฟเพราะตอนนี้ที่ลิฟท์มีคนรออยู่หลายคน “อืม ล้านนาย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้วค่ะ นึกอย่างไรคะถึงได้มาเดินลงบันไดหนีไฟแบบนี้” “คนรออีกเพียบเดินออกกำลังกายดีกว่า วัน ๆ ทำงานก็นั่งอยู่แต่กับเก้าอี้จะได้ยืดเส้นยืดสายด้วย” รุ่นพี่ทำงานทำท่าทางประกอบให้รู้ว่าเขาต้องการออกกำลังกายจริง ๆ “ข้างนอกฝนตกแรงแบบนี้ ล้านนาให้พี่ไปส่งไหมหรือไม่ก็ไปลงตรงไหนที่ใกล้ที่พักแล้วค่อยต่อรถไปอีกทีก็ได้ถ้ารออยู่หน้าบริษัทแบบนี้พี่ว
ตอนที่ 6รู้แค่วันนี้ฉันยังมีเธอ “ล้านนาหายไปไหนมา งานที่พี่ให้เธอทำไม่มีอะไรใช่ไหม” ยุพารีบเข้ามาประกบลูกน้องทันทีที่ล้านนามาถึงที่บริษัท “ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ พี่ยุพาสบายใจได้ไม่มีใครรู้ว่าพี่เอางานมาให้หนูทำ” ยุพาค่อยสบายใจขึ้นมาหน่อยเพราะการที่ลูกน้องของเธอลางานสองวันติดแถมยังเป็นการหายไปพร้อมเจ้านายอีก ยุพาแอบกลัวว่าจะเกี่ยวกับงานที่เธอจ้างให้ทำ การทำงานยังคงเป็นไปอย่างปกติแต่ที่ทุกคนในแผนกกำลังให้ความสนใจคือยุพาถูกท่านรองประธานบริษัทเรียกเข้าไปคุยเกือบชั่วโมงยังไม่ออกมา “ล้านนาจะเกี่ยวกับเราสองคนไหม” ส้มโอ
ตอนที่ 9ความรักชนะทุกอย่าง ล้านนายังคงมีอาการแพ้ท้อง ภูเบศจึงไม่ยอมให้เธอไปทำงานให้นอนพักอยู่ที่บ้าน ส่วนตัวเขาเองรีบเข้าบริษัทอย่างรีบร้อนแต่ไม่ใช่เพราะมีงานเร่งด่วนแต่เขามีธุระสำคัญต้องคุยกับบิดา ประจักษ์ไม่ค่อยได้กลับบ้านเพราะกลับไปทีไรก็ต้องได้มีเรื่องทะเลาะกับราตรีทุกที “คุณพ่อครับผมมีเรื่องสำคัญจะปรึกษา” คนเป็นลูกมองไม่เห็นใครแล้วที่จะช่วยคุยกับมารดาของเขาได้นอกจากบิดาเพียงคนเดียว ภูเบศเล่าเรื่องราวระหว่างเขากับล้านนาให้กับประจักษ์ฟังตั้งแต่เริ่มต้นและสุดท้ายก็จบลงด้วยเรื่องของทรายแก้วอดีตคนรักที่มารดาต้องการจะให้เขาแต่งงานด้วย “ลูกทำไมปล่อยให้ทุกอย่างเลยเถิดมาถึงขั้นนี้แต่ก็ยังดีนะที่ไม่ปล่อยให้ทุกอย่างเกินเลยไปจนเกินแก้ไข” ประจักษ์เข้าใจและพร้อมจะอยู่ข้างเขาแต่ก็อดที่จะตำหนิไม่ได้ที่ภูเบศปล่อยให้ทุกอย่างมาไกลจนล้านนาท้อง “ผมแค่คิดว่ายังไม่พร้อมจะสละชีวิตโสดแต่พอมารู้ว่าผมกำลังจะได้เป็นพ่อคนและล้านนาจะไปจากผม ทุกอย่างรอไม่ได้อีกแล้ว” “ชีวิตคนเรามันสั้นนัก อย่าทำอะไรผิดพลาดแล้วไม่รีบแก้ไขเหมือนพ่อก
ตอนที่ 5สถานะที่ไม่ได้เลือก “คุณพาฉันมาที่นี่ทำไม” ล้านนายังไม่ยอมลงจากรถเมื่อมาถึงหน้าบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ที่อยู่ส่วนในสุดของหมู่บ้านที่ดูสะอาด สงบน่าอยู่มาก ๆ “บ้านหลังนี้คือบ้านที่คุณต้องอยู่จนกว่าผมจะเบื่อ” ภูเบศลงจากรถมาเปิดประตูให้หญิงสาวที่ยังคงนั่งสับสนทำอะไรไม่ถูก “ลงมาเถอะยังมีอีกหลายอย่างที่เราต้องจัดการภายในวันนี้ให้เสร็จ” เจ้าของบ้านเดินนำเข้าบ้านไปพร้อมกระเป๋าหลายใบในมือที่เป็นข้าวของที่หญิงสาวขนมาจากห้องพักเดิม “คุณให้ฉันมาอยู่ที่บ้านใคร” ล้านนารู้สึกไม่ไว้ใจ “บ้านผม บ้านหลังนี้ผมซื้อไว้ขายแต่ตอนนี้คงไม่ขายแล้ว อย่าเสียเวลาถามอะไรอยู่เลย ลองมองดูว่าขาดเหลืออะไรจะได้พาไปซื้อ ทางร้านจะได้มาส่งวันนี้ทัน” เจ้าของบ้านเดินออกไปขนของในรถมาวางกองรวมกันไว้ในขณะที่คนมาใหม่ก็เดินสำรวจไปรอบ ๆ บ้านหลังนี้เป็นบ้านชั้นเดียวมีเนื้อที่รอบบ้าน ห้องนอนสี่ห้องทำให้ล้านนารู้สึกว่าที่นี่มันใหญ่เกินไปสำหรับการที่เธอต้องอยู่อาศัยเพียงคนเดียว “บ้านมันใหญ่เกินไป ฉันไปอยู่ห้องเช่าเหมือนเดิมดีแล้ว”
ตอนที่ 10ถ้าไม่ใช่เธอ..ใครก็ไม่เอา ลิตาทำอะไรไม่ถูก เธอรู้ว่าคงไม่มีทางปฎิเสธได้ จึงเปลี่ยนเป็น ยกมือไหว้อ้อนวอนอีกฝ่ายแทน “ที่ลิตาทำไปเพราะอยากได้เข้ามาดูแลลูกและคุณกับลิลก็ไม่ได้เป็นสามีภรรยากันจริง ๆ ลิตาก็คิดว่าไม่น่าจะมีอะไรแค่อยากได้มีโอกาสดูแลลูกบ้าง” วายุเห็นท่าทางของพี่สาวภรรยานอกจากมันจะไม่ทำให้เขาสงสารแล้ว มันยังทำให้เขารู้สึกโมโหมากกว่าเดิม “หยุดตอแหล ก่อนที่ผมจะไม่เห็นความเป็นคนในตัวคุณ คุณลิตาคุณรู้ไว้เลยนะ ว่าผมกับลิลเราเป็นสามีภรรยากันอย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้วก็ทางปฎิบัติด้วย ถ้าคุณทำแบบนี้อีก ผมจะให้คุณชดใช้เงินสิบห้าล้านคืนผม เพราะสัญญาที่คุณเซ็นมันคือสัญญาการกู้ยืมเงิน” ลิตาอยากได้เงินจนไม่ได้อ่านว่าตัวเอ
ตอนที่ 9 ทวง อนุสรณ์สังเกตสีหน้าท่าทางของลูกชาย เช้านี้วายุทำหน้าเหมือนคนยิ้มแบบเขินตลอดเวลา พอหันมาที่ลูกสะใภ้คนเล็กก็ไม่ต่างกัน “พระพายวันนี้คุณอาหนูเขาไปแอบมีความสุขอะไรกันมา ปู่เห็นตั้งแต่เดินลงมาก็เอาแต่ยิ้มอายไปอายมา” วายุหันมาสบตาภรรยา คราวนี้ลลิลถึงขั้นทำของเล่นลูกสาวหลุดจากมือ “ถ้าอย่างนั้นปู่ไม่แซวแล้ว ดูมือไม้สั่นไปหมด” การได้เป็นสามีภรรยากันอย่างสมบูรณ์ในคืนที่ผ่านมา ยังทำให้หญิงสาวรู้สึกอาย ๆ ไม่กล้าสู้หน้าคนเป็นสามีเท่าไหร่ วายุพยายามทำทุกอย่างให้เป็นปกติเพราะไม่อยากให้ภรรยาของเขาต้องรู้สึกเขินอาย เพราะเรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่
ตอนที่ 8แพ้ใจ ทริปแรกจบไปอย่างสวยงามพระพายมีของฝากมาให้ทุกคนตามที่คุณปู่สั่ง คุณปู่เองก็หอมหลานสาวทั้งคู่เหมือนกับไม่ได้เจอหน้ากันหลายเดือน จนตอนนี้ลลิลเลยทิ้งแก้มใสให้คุณปู่เลี้ยงให้หายคิดถึง บ้านที่ตกแต่งเสร็จแล้วหลายเดือน แต่ลลิลยังไม่มีเวลาที่จะจัดตกแต่ง “ตกลงเฟอร์นิเจอร์เราซื้อใหม่หมดใช่ไหมคะ คือลิลคิดว่าบางอย่างมันก็เอาไปจากห้องเดิมได้ จะได้ประหยัด” วายุส่ายหัวเพราะเขาไม่ได้เป็นคนจ่าย คนที่สั่งให้ซื้อใหม่หมดคือพ่อของเขา ดังนั้นก็มีคนจ่ายเงินให้โดยที่ไม่ต้องกลัวเปลือง “อย่าขัดใจคุณปู่ พรุ่งนี้ไปสั่งกันเลย จะได้ย้ายห้องสักที ตอนนี้ยายหนูก็โตแล้วกลิ้งไปทั่วผมล่ะกลัวสักวันจะตกเตียง”&n
ตอนที่ 7ภรรยาตามกฎหมาย วันนี้แก้มใสแต่งตัวสวยกว่าทุกวัน เพราะวันนี้คุณพ่อกับคุณแม่และพี่พระพายจะพาแก้มใสไปเที่ยวสวนสัตว์ “เอามาให้ปู่อุ้มก่อน พ่อกับแม่จะได้ไปเตรียมของ อย่าลืมนมล่ะวายุเดี๋ยวร้องตายเลย” วายุวุ่นกับการเตรียมของให้หลานสาว ส่วนลลิลก็เตรียมของให้ลูก เพราะหลังจากเที่ยวที่สวนสัตว์ บริเวณนั้นมีอ่างเก็บน้ำและมีรีสอร์ต วายุจะพาเด็ก ๆ และภรรยาไปนอนเล่นสักคืน “คุณพ่อไม่ไปกับเราแน่เหรอครับ นาน ๆ เราจะได้ไปกันที” วายุยังไม่เคยไปเที่ยวพร้อมหน้าครอบครัวแบบนี้เลยสักครั้งแต่เขาก็ไม่เคยเห็นพ่อของเขาไปไหนเหมือนกัน “พ่อจะอยู่เป็นเพื่อนอร เอาไว้ถึงฤดูหนาวเราไปเชียงใหม่กัน ไ