รวมเรื่องสั้นโรมานซ์-อีโรติก ที่จะมาพร้อมกับเรื่องราวที่นำไปสู่ความสัมพันธ์ที่แสนวาบหวาม *** นิยายผู้ใหญ่และผู้ที่มีความชอบเฉพาะกลุ่ม ไม่เหมาะสำหรับเด็กและเยาวชน***
View Moreเจ้าของร่างกำยำตอนนี้คลานอยู่กับพื้น รับบทหมีตัวใหญ่ที่กำลังโดนพรานสาวอย่างเพลินพราวกำลังไล่ล่าและควบคุมหลอดน้ำผึ้งที่เธอถืออยู่ใช้หลอกล่อเจ้าหมีตัวนั้นให้ทำตามคำสั่ง“หมีอยากกินน้ำผึ้งแล้ว” ธาดาผู้รับบทเจ้าหมีผู้อาภัพพูดแล้วเลียริมฝีปากไปรอบๆหญิงสาวเดินไปนั่งที่โซฟาตัวยาวในห้องโถงรับแขก อ้าขาออกกว้างแล้วเทน้ำผึ้งราดที่กลีบกุหลาบและเม็ดคริสตัลสีชมพูใสแววตาของเขามองลุกวาว ไม่อยากเชื่อว่าเธอจะร่วมสนุกไปกับเขาได้อย่างน่าตื่นเต้นแบบนี้“มาเลียน้ำผึ้งสิเจ้าหมี เลียเสร็จแล้วฉันจะพาเล่นอะไรสนุกๆ” เธอรับบทบาทเป็นพรานสาวที่เจ้าเล่ห์และยั่วยวน และให้เขารับบทผู้ถูกกระทำอย่างที่เขาชอบธาดาค่อยๆ คลานเข้าไปหาแล้วแยกเข่าทั้งสองออกให้กว้างขึ้น จากนั้นก็มุดหน้าเลียกินน้ำผึ้งจากกลีบดอกไม้สีหวานอย่างตะกละตะกลามเพลินพราวรู้สึกเพลิดเพลินไปกับบทบาทสมมติเหล่านี้ มันทำให้เธอตื่นเต้นและชักจะติดใจกับการแสดงในบทบาทต่างๆ มันทำให้ชีวิตเซ็กส์ไม่น่าเบื่ออีกต่อไป“เลียหนักๆ สิเจ้าหมี เลียหนักๆ ซี้ด อ๊าส์ เลียให้ฉันน้ำแตกไปเลย” เธอพูดหยาบโลนเพื่อกระตุ้นอารมณ์ปรารถนาปลายลิ้นสากละเลงเลียลงไปที่จุดเสียวอย่างบ้าคลั่
สัญญาซื้อขายถูกเซ็นครบพร้อมกับวางมัดจำในจำนวนที่ตกลงกันเอาไว้ ทุกอย่างผ่านไปอย่างราบรื่นไม่มีอะไรต้องพูดคุยกันให้เสียเวลา“ต้องขอบคุณคุณธาดามากนะคะ ที่ไว้ใจให้พราวได้ดูแลบ้านหลังนี้ให้”“ครับ ถ้าผมได้ลูกค้าที่ต้องการบ้านอีก ผมก็จะแนะนำโครงการนี้ครับ ในตอนนั้นก็คงจะต้องรบกวนคุณพราวอีกอย่างแน่นอน” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ได้ดูเหมือนคนเจ้าชู้ใส่เธอ ทุกอย่างเป็นไปตามปกติดูไม่มีอะไรผิดสังเกต“ขอบคุณมากจริงๆ นะครับพี่วางใจให้เราดูแล” วาทิตพูดย้ำอีกครั้ง เขารู้สึกโล่งใจมากที่อีกฝ่ายไม่ได้มีท่าทีสนใจเพลินพราว ไม่อย่างนั้นเขาคงทนไม่ได้แน่เพราะรู้กิตติศัพท์ของเขาดี“ยินดีมากครับรับรองว่ามีหลังต่อๆ ไปแน่” เขาพูดแล้วยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู บ่งบอกเป็นนัยว่ามีเวลาไม่มาก“เดี๋ยวพราวเดินไปส่งที่รถนะคะ” พนักงานขายสาวพูดด้วยความยินดี เธอจะได้ค่าคอมมิชชั่นจากงานนี้ใหม่น้อยก็ต้องดูแลเขาให้ดีหน่อย“พราวไม่ต่อออกไปก็ได้ครับ ไม่สบายอยู่ไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวผมออกไปส่งคุณธาดาเอง” วาทิตรับอาสาที่จะเดินออกไปส่งลูกค้ารายใหญ่คนนี้แทนแต่หญิงสาวก็ไม่ได้ยินยอม “ไม่เป็นไรค่ะ ตอนออกไปดูบ้านพราวก็ยังออกไปได้ พราวไหวค่ะ” เธ
วันต่อมาเพลินพราวมาทำงานตามปกติ และวันนี้เป็นวันที่ธาดานัดเอาไว้ว่าจะเข้ามาเดินดูบ้านพอเป็นพิธีและเซ็นสัญญาซื้อขายในวันนี้วาทิตเห็นว่าเธอมาถึงก็เดินเข้าไปทักทายด้วยความหวังดี “หายดีแล้วเหรอครับ”“ยังรู้สึกไม่สบายตัวนิดหน่อยค่ะ แต่วันนี้นัดคุณธาดาเอาไว้แล้วเลยมาเซ็นสัญญา พราวไม่อยากพลาดค่าคอมมิชชั่นน่ะค่ะ” หญิงสาวพูดด้วยรอยยิ้มที่สุภาพและเป็นมิตรเธอต้องออกตัวไว้ก่อน เพราะคืนนี้แน่นอนว่าธาดาจะต้องจัดหนักส่งท้ายก่อนจะยุติความสัมพันธ์ชั่วคราวในครั้งนี้ และพรุ่งนี้ก็เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์จึงต้องมีข้ออ้างในการลาที่สมเหตุสมผล“งั้นวันนี้ถ้าคุณธาดาเขาเซ็นสัญญาซื้อขายเสร็จ พราวลาพักได้เลยนะ พรุ่งนี้ไม่ไหวก็ไม่ต้องมา”“ขอบคุณค่ะผู้จัดการ” เธอรับคำพูดนั้นแล้วแอบถอนหายใจเบาๆ อย่างโล่งอกเมื่อวานนี้เขาไปรับประทานอาหารค่ำตามคำเชิญของมารดา ด้วยความที่เป็นเจ้าบ้านที่ดีเธอต้องต้อนรับเขาตามมารยาท และใช้ข้ออ้างในการป่วยขอตัวกลับเข้าไปพักผ่อนไม่ได้อยู่คุยกับเขาต่อ“ตอนเที่ยงพี่จะซื้ออาหารมาให้ พราวไม่ต้องออกไปนะ ออกจากห้องแอร์ไปเจออากาศข้างนอกร้อนๆ เดี๋ยวจะยิ่งแย่”“ค่ะ ผู้จัดการ” เธอยิ้มให้เขาบางๆ ที่ม
ในตอนเช้าสภาพของเพลินพราวดูอ่อนเพลียอย่างเห็นได้ชัดเจน เธอนั่งกินอาหารเช้าฝีมือมารดาอย่างเงียบๆ เหมือนคนกำลังใช้ความคิด“มีอะไรเล่าให้แม่ฟังไหม” นภาถามด้วยน้ำเสียงที่ห่วงใย จะดีเลวอย่างไรคนตรงหน้าก็คือลูกที่คลอดมาเองกับมือ“เปล่าหรอกค่ะ แค่คิดว่าจะลางานดีไหม” เธอตอบตามตรง เพราะว่าสภาพที่ถูกเขาจัดหนักจัดเต็มมันทำให้เธอเดินแปลกๆ เพราะแสบขัดที่น้องสาว“แม่ว่าลาก็ดี ยังไม่ได้แต่งตัวนี่ พราวคงคิดจะลาอยู่แล้วใช่ไหม” นภาถามอย่างรู้ทัน เพลินพราวจึงพยักหน้ายอมรับออกมาตามตรง เพราะเธอเทใจไปทางอยากจะลามากกว่า “ค่ะ ก็คิดว่าจะลา แต่ปัญหามันอยู่ที่นี่ล่ะคะ” เธอถอนหายใจด้วยความหนักอก หากผู้จัดการหนุ่มรู้เข้า เขาจะต้องหาเรื่องมาเยี่ยมเยียนเธอถึงบ้านแน่“ทำงานหนักมาทั้งปีแล้ว ลาหยุดไม่กี่วันคงไม่เป็นไรหรอก”“ก็คงอย่างนั้นค่ะ ครั้งนี้พราวเพลียมากเลยจริงๆ ค่ะ” เธอพูดเสียงอ่อย รู้ว่ามารดาต้องเดาออกอยู่แล้วว่าเธอไปทำอะไรเมื่อคืนนี้ เพียงแต่เธอไม่พูดออกมาเท่านั้นและแล้วก็เป็นไปตามคาด เมื่อเธอโทรศัพท์ไปลางานในช่วงเช้า พอถึงเวลาพักกลางวันสิทธาก็มาเยี่ยมเธอถึงบ้าน และเป็นการมาเยี่ยมแบบเป็นส่วนตัวไม่ได้ชวนเพื
ธาดายื่นกุญแจมือให้เธอจับเขาล็อกเอาไว้กับหัวเตียงทั้งสองข้าง จากนั้นก็รับบทเป็นทาสหนุ่มที่ร้องขอชีวิตจากเธอหญิงสาวกำลังขย่มเขาอย่างเมามันแล้วทิ้งตัวลงไปบดขยี้เต็มแรงสะโพก“นายหญิง อ๊าส์ อย่าทำผม ซี้ด ผมยอมแล้ว” เธอไม่อยากเชื่อเลยว่าเขาจะมีรสนิยมแปลกๆ รับบททาสหนุ่มที่อ่อนแอให้เธอจัดการเขา“หุบปาก นี่แน่ะ...อ๊าส์” เธอด่าเขาแล้วเร่งขย่มลงไปอย่างเต็มแรงใบหน้าหวานโน้มหน้าลงไปแล้วดูดเม้มที่เนินอกกำยำจนเกิดจ้ำสีแดงช้ำ ดูดขบไปตามเนื้อที่อยู่ในร่มผาตามที่เขาบอกเอาไว้ก่อนหน้านี้ ทำให้เขายิ่งร้องครางอย่างสะใจแล้วรับบทผู้ถูกกระทำได้อย่างสมบทบาท“นายหญิง อย่าทำรอย อ๊าส์ อย่าทำรอย ซี้ด...”ยิ่งเขาร้องครางเท่าไรเธอก็ยิ่งมีอารมณ์ร่วมกับเขาเท่านั้น“ไม่ไหวแล้ว ซี้ด” หญิงสาวทนต่อการกระตุ้นที่แปลกใหม่ไม่ไหว เอถึงจุดหมายไปแล้วขมิบรัดท่อนลำนั้นจนธาดาก็ปลดปล่อยออกมาแทบจะพร้อมกันเธอมองเขาที่ยิ้มอย่างพออกพอใจ จากนั้นก็ไขกุญแจมือให้พร้อมกับออกคำสั่ง“ฉันเหนื่อยแล้ว แกต้องทำให้ฉันมีความสุข” เธอรับบทบาทนายหญิงได้อย่างไม่มีที่ติ เป็นครั้งแรกที่ทำแบบนี้มันตื่นเต้นและเร้าใจดีเป็นอย่างมาก“แต่ว่าผมไม่อยากทำ” เขา
ธาดามีฉลาดพอที่จะยังไม่ตกลงซื้อบ้านในตอนนี้ เพราะตราบใดที่เขายังไม่ได้เชยชมเพลินพราวสมใจ ก็ยังไม่วางใจอะไรทั้งสิ้น“คุณธาดามีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับ ติดขัดตรงไหนบอกผมได้นะครับ” ผู้จัดการโครงการถามอย่างร้อนใจ กลัวว่าจะเสียลูกค้ารายใหญ่ไปเพราะปกติหากเขาสนใจก็จะซื้อโดยไม่ต่อรอง“ผมลังเลใจระหว่างหลังแรกกับหลังที่สอง ขอกลับไปปรึกษาที่บ้านก่อนดีกว่าครับ” เขาบอกเหตุผลที่ทำให้ผู้จัดการหนุ่มโล่งใจธาดาเป็นนายหน้าซื้อขายบ้าน เขาหาบ้านที่เหมาะสมให้แก่ลูกค้าต่างชาติที่มีภรรยาคนไทยและต้องการที่พักภายในประเทศเป็นที่รู้กันดีว่าธาดามีหัวด้านธุรกิจอสังหาฯ และร่ำรวยขึ้นมาได้ด้วยตนเอง การตัดสินใจซื้อขายก็มีความเด็ดขาด เขาไปดูบ้านโครงการไหนอย่างน้อยก็มีสองถึงสามหลังที่เขาจะซื้อเพื่อนำไปปรับปรุงและขายต่อเอากำไรหลักล้าน“ผมคิดว่าคุณธาดาไม่พอใจพนักงานขายของเราเสียอีก” ผู้จัดการหนุ่มยังรู้มาอีกด้วยว่าเขาเป็นเสือผู้หญิง ชอบฉวยโอกาสสาวสวยรอบตัวอยู่เสมอ จึงคิดว่าถูกเพลินพราวปฏิเสธจึงยังไม่เซ็นสัญญา“ไม่เลยครับ คุณพราวเธอดูแลผมดีมาก อธิบายรายละเอียดได้ดีจนผมลังเลเลยว่าจะเลือกซื้อหลังไหน” เขาพูดชื่นชมเธอแล้วมองด้
ที่บริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่เพลินพราวทำงานอยู่ เธอได้รับมอบหมายให้พาลูกค้าเข้าไปเดินชมบ้านในโครงการตั้งแต่ที่ธาดามาถึง เขาก็มองเธอตาเป็นมันด้วยความพอใจ“สวัสดีค่ะคุณธาดา ฉันชื่อพราวนะคะ” หญิงสาวไหว้ทักทายพร้อมกับแนะนำตัวด้วยน้ำเสียงที่อ่อนหวานและเต็มไปด้วยความมั่นใจ“พนักงานขายโครงการสวยแบบนี้ทุกคนหรือเปล่าครับ” ประโยคแรกที่ทักทายกลับมาก็ทำเอาเธอรู้สึกถึงรังสีของเสือร้ายในตัวของเขาเสียแล้ว“ขอบคุณที่ชมพราวนะคะ”“เราไปกันเลยไหมครับ” เขาถามเธอแล้วมองกระโปรงสั้นเลยเข่าที่ไม่ได้โป๊มาก แต่ว่ากลับดูมีเสน่ห์น่าค้นหา“เชิญด้านนี้ค่ะ” เธอผายมือเชิญเขาไปยังรถไฟฟ้าคันเล็กที่ใช้ขับชมโครงการแววตาที่หญิงสาวมองกลับมาดูมีความเป็นตัวของตัวเองสูง เธอไม่ได้แสดงความอึดอัดใจกับคำพูดของเขาเลย มันยิ่งทำให้ชายหนุ่มรู้สึกอยากทำความรู้จักให้มากขึ้นธาดาเดินตามเธอไป มองเรียวขาขาวเนียนนั้นอย่างชื่นชม สะโพกที่บิดส่ายเดินอย่างเป็นธรรมชาติกระตุ้นให้เกิดความปรารถนาโดยที่อีกฝ่ายไม่ได้พยายาม“สะโพกคุณสวยมากเลยนะครับ”เขาพูดชื่นชมตรงๆ อย่างจาบจ้วง แต่หญิงสาวก็ไม่ได้สะทกสะท้าน“คุณธาดาชมพราวเกินไปแล้วค่ะ แบบนี้ก็เขินแย
เรือนร่างสมส่วนที่โยกตัวอยู่ด้านบนด้วยลีลาที่เร่าร้อน ทำให้ชายหนุ่มร้องคำรามในลำคอด้วยความสุขเต็มอารมณ์หวาม“ไม่ไหวแล้ว” เขาร้องออกมาเสียงดังลั่นจากนั้นก็ถึงจุดหมาย พ่นน้ำรักออกมาเต็มเครื่องป้องกัน แล้วสิ่งที่เคยแข็งแกร่งก็ค่อยๆ อ่อนตัวลงไปเพลินพราวขยับออกจากสะโพกหนาอย่างเสียอารมณ์ แค่ขย่มสองนาทีผู้ชายคนนี้ก็ทนไม่ไหวแล้ว“ผมขอโทษ อีกรอบนะ” เขาบอกเธอแล้วลูบไล้ที่สะโพกกลมกลึงสายตาที่บ่งบอกถึงความไม่พอใจจ้องมองเขาโดยไม่พูดจา เธอนอนลงไปแล้วให้โอกาสเขาได้แก้มือ นี่ไม่ใช่ผู้ชายคนแรกที่เสร็จก่อนเธอเสียเมื่อไหร่กัน ของแบบนี้มันเกิดขึ้นได้เสมอ‘ช่วยไม่ได้นี่ ก็ลีลาฉันมันเด็ด’ หญิงสาวชื่นชมตัวเองพร้อมกับแยกขาออกกว้างเขาเดินไปหยิบถุงยางอนามัยมาวางไว้ข้างลำตัวเธอ จากนั้นก็คร่อมทับแล้วจูบแลกลิ้นเกี่ยวจูบกันอย่างดูดดื่มจูบของเขาไม่เลวเลยทีเดียว ลิ้นก็ตวัดต้อนจูบอย่างชำนาญ มือก็บีบเคล้นทรวงอกอิ่มอย่างเต็มมือ ในขณะที่ท่อนเนื้ออุ่นเบียดถูที่เนินสวาทจากภายนอกชายแปลกหน้าที่เพิ่งทำความรู้จักกันในร้านเหล้า เลื่อนริมฝีปากลงไปพรมจูบที่ซอกคอระหง ใช้ลิ้นไล้เลียอย่างมูมมามจากลำคอลงไปจนถึงเนินอกริมฝีปากอุ
หลายวันผ่านไปแล้วฉันสอนงานคุมเดม ให้เขาเรียนรู้ระบบงานต่างๆ ได้รวดเร็วกว่าที่คิด เพราะความสัมพันธ์ของเราก่อนหน้านี้ทำให้เราสองคนเข้ากันได้ดีและทำให้เปิดใจยอมรับความคิดเห็นและการเรียนรู้ใหม่ๆ“จิน เป็นไงบ้างลูกชายผม”“คุณเดมเรียนรู้งานไวมากค่ะบอส ดูเหมือนจะวิเคราะห์ปัญหาขาดด้วย”“พี่จินเก่งครับ สอนงานผมให้เข้าใจได้เร็ว ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าพ่อจะโชคดีได้เลขาเก่งๆ แบบนี้มาร่วมงานด้วย” เขาพูดชื่นชมฉันกับบอสโดยตรง“ไม่เก่งจริงจะมาเป็นเลขาของพ่อได้ยังไงล่ะ” คุณดนัยหัวเราะอย่างชอบใจ ความสุขของคนเป็นพ่อคงไม่มีอะไรมากไปกว่าการได้เห็นลูกชายตนเองเติบโตและพร้อมที่จะรับช่วงต่อกิจการของตนได้“เรื่องระบบก็เข้าใจคร่าวๆ แล้ว ถ้าอย่างนั้นวันนี้เข้าไปเดินดูสาขาด้วยกันนะ”“ครับพ่อ” เขารับปากบอสแล้วหันมายิ้มให้กับฉันฉันติดตามคุณดนัยและเดมไปดูงานที่ไนต์คลับทั้งสามสาขาที่เขาดูแลอยู่ในสาขาที่สองคุณเดมดูเหมือนจะดูออกว่าปัญหาการสต๊อกสินค้า เกิดมาจากการที่ พนักงานเบิกของแล้วไม่ลงในสต๊อกการ์ดอย่างทันทีนั่นก็เพราะว่าสาขานี้ภายใต้การดูแลของผู้จัดการที่เอาเครือญาติเข้ามาทำงาน จึงบอกกล่าวตักเตือนกันไม่ได้ พนักงานเ
ฉันมองไปยังบ้านข้างๆ ที่ติดประกาศขาย ตอนนี้มีคนมาซื้อแล้วปลดป้ายประกาศขายออกแล้วและมีการเข้ามาทำความสะอาดโดยรถของบริษัททำความสะอาดโดยตรง“เจ้าของคนใหม่จะนิสัยเสียอย่างลุงรงค์ที่ย้ายออกไปรึเปล่านะ” ฉันพึมพำออกมาเสียงเบาเมื่อนึกถึงลุงข้างบ้านที่ย้ายออกไปอยู่ที่บ้านเกิดกับลูกหลานแล้วแปดปีที่ทนกับเสียงตะโกนด่าคนนั้นคนนี้ เอาขยะเปียกมาทิ้งบ้านคนอื่นแต่บ้านตัวเองทิ้งแค่ขยะทั่วไป จอดรถขวางทางเข้าบ้านฝั่งตรงข้ามทั้งที่โรงจอดรถตัวเองก็ว่าง และปัญหาอีกสารพัดที่แกก่อขึ้นมาในที่สุดแกก็ย้ายกลับไปอยู่กับลูกหลานที่บ้านเกิดเพราะทนต่อการร้องเรียนของคนในหมู่บ้านไม่ไหว“บ้านหลังเล็กๆ แต่ลงทุนจ้างบริษัททำความสะอาดมาทำสงสัยเป็นคนประเภทชอบใช้เงินแก้ปัญหา” ฉันวิเคราะห์พฤติกรรมของเพื่อนบ้านคนใหม่ได้แต่หวังว่าเขาจะไม่ทำให้ผิดหวังอย่างเพื่อนบ้านคนก่อนที่สร้างแต่ปัญหาไม่หยุดหย่อน“ซอเก็บผ้าให้หน่อยฝนจะตกแล้ว” เสียงจากพระมารดาของฉันเรียกให้ช่วยเก็บผ้า“จ้าแม่” ฉันร้องตอบรับแล้วเดินนวยนาดเข้าไปในชุดสายเดี่ยวเอวลอยและกางเกงขาสั้นที่แม่ไม่ค่อยชอบใจนัก“ใส่ชุดแบบนี้อีกแล้ว ทุกวันเลยนะพอได้แล้วแฟชั่นวายทูคงวายทูเค...
Comments