"อืมคือว่า..." ใบตองหยุดด้วยความเขินอายเพื่อนทั้งสองคนที่กำลังจ้องมาอย่างรอคอยคำตอบจากปากของเธอ
"ว่า!?" สองสาวต่างกดดันให้เธอรีบๆ เล่าออกมาเดียวนี้
"เอ่อๆ เล่าแล้วสรุปพี่สีครามกับพี่เมย์ไม่ได้คบกัน" ใบตองรีบตอบแบบเคลียร์ให้จบๆ แบบไม่ลงรายละเอียดจะได้กระชับเข้าใจง่ายเพราะตอนนี้คนเข้ามานั่งเยอะจนเต็มทุกโต๊ะแล้วดูท่าจะไม่เหมาะที่จะเล่าแบบลงรายละเอียดกันเดียวคนอื่นได้ยินจะเอาไปนินทาต่อ
"ว่าอยู่ทำสีผน้าดูดีขึ้นมากกว่าเดิมเยอะ" นัทตี้พูดขึ้นพยักหน้าเออออ
"แล้วใบตองนั่งเหม่อลอยอะไรตั้งนาน" เบลถามอย่างสงสัย
"เดียวบอกในแชทนะ" ใบตองหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดพิมพ์ข้อความเหล่าเรื่องและบอกเพื่อนสนิททั้งสองว่าตอนนี้เธอคบกับพี่สีครามเป็นแฟนแล้ว
"จริงดิ๊!!" สองสาวเงยหน้าจากจอขึ้นมาถามพร้อมๆ กัน สีหน้าตกใจสุดขีด
"จริงพี่เข้าพูดขอใบตองเองเมื่อกี้" เธอพูดด้วยความเขินอายจนต้องหันไปมองทางอื่นเพื่อหลบหลีกสายตาของเพื่อนทั้งสองคน
"โอ้ไม่อยากจะเชื่อ" เบลเอามือทาบอกอ้าปากค้างด้วยความตกใจ
"ไม่ๆ ต้องบอกว่ายินดีด้วยนะเพื่อน!!" เบลจับมือของใบตองเขย่าด้วยความตื่นเต้นเมื่อตั้งสติได้
"ใช่ๆ ยินดีด้วยนะใบตอง" นัทตี้ก็เข้ามาโอบกอดพวกเราสองคนด้วยความดีใจด้วย ชีวิตของใบตองมีคนรอบข้างนับนิ้วได้แต่ว่าทุกคนต่างหวังดีจริงใจให้กับใบตองมากล้นจนรู้สึกว่าเธอโชคดีมากที่ได้มีเพื่อนสนิททั้งสองเข้ามาในชีวิตตลอดสามปีที่ผ่านมา
"ขอบใจพวกแกสองคนด้วยนะที่ให้กำลังใจตลอด" พวกเราทั้งสามคนมองหน้ากันก็รู้ใจโดยไม่ต้องพูดอะไรมากความออกมาแล้ว
ก่อนที่พวกเราจะได้พูดอะไรก็ได้เวลาเข้าเรียนกันแล้ว ทุกคนต่างเก็บของถือกระเป๋าสะพายแล้วไปยังห้องเรียนคาบแรกของวันกัน
ตลอดทั้งวันเพื่อนๆ ก็ไม่ได้พูดหรือแซวเรื่องนี้อีกต่างก้มหน้าก้มตาเรียนและทำรายงานที่เร่งจะถึงวันส่งอีกไม่นาน
หลังเลิกเรียน
"ไปแล้วบ่ายๆ" พวกเราสามคนโบกมือลากันหน้าโรงเรียนแล้วแยกย้ายกลับบ้านของตนเอง
"น้องใบตองทางนี้" พี่สีครามเดินมาหาฉันที่ตอนนี้เกินแยกกับเพื่อนมาอยู่คนเดียวยืนมองหันซ้ายหันขวาเพื่อมองหาคนที่นัดเอาไว้เมื่อตอนเช้า
"พี่สีคราม" ใบตองรู้สึกว่าตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่เธอรู้สึกประมาทเมื่อต้องเผชิญหน้ากับเขาตรงๆ แบบนี้
"ไปร้านคาเฟ่นู่นกันไหม" พี่สีครามแย้งกระเป๋าผ้าที่ใบตองถืออยู่ไปถือเอาไว้ให้
"ขอบคุณค่ะ" เธอเดินเคียงข้างเขาเพื่อข้ามถนนไปร้านคาเฟ่ร้านประจำ ระหว่างที่เดินข้ามถนนพี่สีครามยื่นมือมาจับมือฉันเอาไว้ ความอบอุ่นจากมือหนาของเขาประสานกัน
ใบตองก้มลงมองมือของเราที่ประสานกันอยู่ด้วยความรู้สึกอบอุ่นขึ้นมา
"มองถนนด้วยอย่าเหม่อเดียวมันจะอันตรายรถเยอะนะ" พี่สีครามพูดเสียงเคร่งขรึม ทำให้ใบตองรีบหันมองถนนตามพอมองรอบๆ ทำให้เห็นว่านักเรียนที่ยังอยู่บริเวณหน้าโรงเรียนต่างก็มองมายังเราสองคนยิ่งเป็นกลุ่มผู้หญิงยิ่งมองแล้วหันไปคุยกัน ไม่ต้องได้ยินก็รู้ว่าใบตองกำลังถูกเพ้งเล็งก็นะแฟนใบตองออกจะฮอตในโรงเรียนใครๆ ก็ต้องรู้จักเขา
"ใบตองอยากดื่มอะไร เอาขนมด้วยไหม" พอเข้ามาในคาเฟ่พี่สีครามก็ถามขึ้น
"เอาชาพีทแล้วกันค่ะ ส่วนขนมเอามาการองนะพี่สีคราม" พี่สีครามพยักหน้าเข้าใจจดจำเมนูได้
"ได้ครับรอหน่อยนะ" พี่สีครามเดินไปเคาท์เตอร์เพื่อสั่ง พอมองตามร่างสูงของพี่สีครามก็เห็นเข้ากับสายตาของนักเรียนผู้หญิงทั้งโรงเรียนเดียวกันและต่างโรงเรียนในร้านคาเฟ่ต่างมองมายังเธอด้วยสายตาเชือดเฉือน
แล้วยังไงโชคดีที่ปกติเธอก็เป็นคนที่ไม่ค่อยจะสนใจคนอื่นอยู่แล้ว เลยเปิดกระเป๋าเอาหนังสือเคมีมาทำโจทย์รอเพื่อค่าเวลาไปไม่ให้เสียเปล่า
"มาแล้วครับ" พี่สีครามวางแก้วชาพีชเอาไว้ตรงหน้าใบตอง
"ขอบคุณนะคะ" ใบตองเงยหน้ายิ้มรับพี่สีคราม ส่วนเขาก็นั่งลงข้างใบตองมองมายังกระดาษและไอแพดที่ถูกเปิดเพื่อดูติวเตอร์อธิบายโจทย์ประกอบ
"ใบตองทำการบ้านเหรอครับ"
"เปล่าค่ะแค่เอามาทำโจทย์รอพี่สีครามฆ่าเวลาเท่านั้นเอง" ใบตองเก็บหนังสือและไอแพดเอาไว้ในกระเป๋า
"ใบตองเรียนสายวิทย์-คณิตเหรอครับ" จริงด้วยเราสองคนยังไม่รู้แม้กระทั่งว่าเรียนอยู่ห้องไหนสายการเรียนอะไร
"ใช่ค่ะใบตองอยู่ห้องคิงวิทย์-คณิต" สีหน้าพี่สีครามดูเหมือนจะเหลือเชื่อกับสิ่งที่ได้รับรู้
"โหเด็กเนิร์ดหรือเรา แต่ก็ดูเหมือนจะเป็นแบบนั้นจริงๆ"
"ก็ต้องตั้งใจมากๆ เลยละค่ะเพราะใบตองเป็นเด็กทุนของโรงเรียนตั้งแต่เข้าเรียนม.1แล้ว" ใบตองไม่รู้สึกว่าเธอจำเป็นต้องอายที่ตนเองไม่ได้ฐานะร่ำรวยเท่าคนอื่นในโรงเรียนนานาชาติแห่งนี้
"เก่งจังเลยนะครับแฟนพี่นี่" พอเจอประโยคนั้นเข้าไปเหมือนทำให้ใบตองช็อกฟิวไม่รู้ว่าเธอควรจะพูดอะไรต่อหัวใจเต้นแรงเร็วมาก
"ขอบคุณค่ะ แต่ความจริงใบตองก็มีวิชาที่ค่อนข้างอ่อนด้วย" เกรดเฉลี่ยที่ไปไม่ถึงสี่จุดศูนย์ก็เพราะวิชานี้แหละ
"วิชาอะไรที่ใบตองอ่อนเหรอเดียวพี่ช่วยติวให้" ใบตองรู้สึกว่าเธอพลาดไม่น่าเล่าเรื่องนี้ให้เขาฟังเลยสักนิดเพราะมันน่าอายมากเลยนะสำหรับเธอ
"เอ่อคือว่า..."
"ว่ายังไงครับ" พี่สีครามเร่งจะเอาคำตอบ
"ภาษาอังกฤษค่ะโดยเฉพาะการพูดพรีเซนต์งานในห้องเรียนอาจารย์บอกว่าพอผ่านแต่ไม่ดีเท่าที่ควร" ใบตองก้มหน้างุดด้วยความเขินอายเพราะพวกเราเรียนโรงเรียนนานาชาติกันแต่เธอกับพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ดีเท่าเพื่อนคนอื่นในห้อง
"ไม่ต้องทำหน้าเครียดขนาดนั้นไปหรอกครับ" มือหนายื่นมานวดหัวคิ้วของเธอให้ผ่อนคลายออก
"พี่สีครามคนอื่นมองใหญ่แล้วนะ" ใบตองพูดออกมาเสียงเบารู้สึกถึงสายตาของคนในร้าน
"เอ้าแปลกตรงไหนก็คนคบเป็นแฟนกันนี่ครับ" พี่สีครามพูดขึ้นเสียงค่อนข้างจะดังแล้วหันไปยิ้มให้คนที่มองดูพวกเราสองคนคุยกันอย่างไม่สนใจมารยาท
"พี่สีคราม!" ใบตองตกใจเธอไม่คิดว่าผู้ชายตรงหน้าจะพูดออกไปอย่างกับต้องการประกาศให้คนรู้ถึงสถานะของพวกเราอย่างไม่คิดจะปิดบัง
"เอาล่ะครับไม่ต้องกังวลพี่ไม่ได้เป็นดาราสักหน่อยจะปิดบังเวลาคบใครทำไมเล่า"
"แต่ก็ไม่ต้องประกาศขนาดนี้ก็ได้มั้งค่ะ" นี่เป็นครั้งแรกที่เธอมีแฟนทำให้รู้สึกแคร์สายตาของคนอื่นมาก
"ส่วนเรื่องภาษาอังกฤษเดียวพี่ติวให้ไม่ต้องห่วงตอนช่วงประถมถึงมอต้นพี่เคยเรียนที่อังกฤษ รับรองติวให้ใบตองพูดคล่องแน่ครับ" ใบตองมองพี่สีครามที่พูดไทยคล่องขนาดนี้ไม่คิดว่าเขาพึ่งกลับมาใช้ชีวิตที่ไทยเพียงสามปีเองหรือเนี้ยทำไมพูดไทยชัดขนาดนี้
"ใบตองว่าเรากลับกันเถอะค่ะ" เธอมองนาฬิกาดูเหมือนว่าเราสองคนจะเข้ามานั่งในคาเฟ่ได้ไม่นานแต่ว่าเวลานี้เกือบหกโมงเย็นแล้ว เธอไม่ได้ส่งข้อความบอกคุณยายด้วยสิว่าวันนี้จะกลับดึก
"โอเคครับ" เราสองคนก็เดินออกจากร้านข้ามถนนเพื่อกลับบ้าน
"ขึ้นรถเดียวพี่ขับไปส่งที่บ้านครับ"
"ค่ะแต่พี่สีครามอย่าขับรถเร็วนักนะใบตองกลัวตก" ปกติที่ผ่านมาเธอจะไม่กล้าย้ำบอกเขาเพราะเกร็งใจ แต่ตอนนี้เราเป็นแฟนกันเธอน่าจะบอกความไม่ชอบของตัวเองได้
"ได้ครับที่จะขับช้าๆ นะหึหึ" พี่สีครามบีบจมูกใบตองด้วยความมันเขี้ยว ใบตองได้แต่อ้าปากค้างจะปัดออกก็ไม่ทันเพราะเขาเอี้ยวตัวไปเปิดเบาะเอาหมวกกันน็อคมาสวมให้เธอก่อน
"ไว้ใจได้หรือเปล่าเนี้ยพี่สีคราม" เธอได้แต่บ่นอุบอิบด้วยความไม่ค่อยไว้ใจผู้ชายที่ดูจะรักความเร็วขนาดนี้
"เอ้าน่าเดียวก็ชินเป็นแฟนพี่แล้วยังไงก็ต้องช้อนท้ายลูกรักของพี่ไปอีกนาน" พี่สีครามพูดขนาดที่สตาร์ทรถเร่งเครื่อง เมื่อใบตองขึ้นมานั่งแล้วเอาก็จับบมือทั้งสองข้างของเธอให้โอบกอดรอบเอวของเขาเอาไว้แล้วพอขับออกตัวอย่างแรงก่อนจะผ่อนลงเมื่อเธอกรี๊ดใส่หูเขา
"พี่สีคราม!" ใบตองมาดึงข้อมือออกจากเอวสอบของเขาแล้วทุบหลังเขาให้ด้วยความงอน เธอห้ามกับเหมือนยุยงเขา!
#นี่คือเดทแรกของน้องใบตองกับพี่สีคราม
ความเร็วของรถชะลอตัวลงเมื่อถึงหน้าปากซอยบ้านของใบตองแล้ว วันนี้เป็นวันแรกที่สถานะของเราสองคนเปลี่ยนไปเดิม"พี่สีครามเจอตรงนี้!" ใบตองเขย่าบ่าพี่สีครามเอาไว้ให้เขาหยุดรถ"อ้าวทำไมไม่เข้าไปจอดหน้าบ้านเราล่ะ" รถบิ๊กไบค์จอดลงจุดที่ใบตอง"คือว่าหนูอยากบอกเล่าเรื่องมีแฟนคร่าวๆ ให้คุณยายได้รับรู้ก่อน ค่อยพาพี่สีครามไปหาท่าน" เรื่องมีแฟนก็เป็นเรื่องที่ตั้งค่อยๆ เล่าให้ท่านฟังจะได้ดูท่าทีของท่านก่อนว่ารับได้ไหม"เอาอย่างนั้นเหรอ" พี่สีครามทำท่าเหมือนไม่ค่อยเห็นด้วย"ค่ะของเวลาใบตองหน่อยนะ" ใบตองวางมือลงบนฝ่ามือของพี่สีคราม มือหนาจับมือของเธอกุมเอาไว้แทน"พี่เข้าใจแล้ว" พอเราสองคนตกลงกันได้แล้วใบตองก็เอ่ยลาเขาแล้วเดินเข้าซอยไปบ้านของตนเองเดินไปออกมาไม่นานพี่สีครามก็สตาร์ทรถขับออกไปจากซอยบ้านใบตอง"กลับมาแล้วค่ะคุณยาย" เปิดประตูเข้ามาในบ้านก็ร้องบอกคุณยายที่นั่งคุยโทรศัพท์กับเพื่อนครูวัยเกษียณอย่างออกรสอยู่"จ้า ยายขอคุยกับเพื่อนอีกแป๊บใบตองขึ้นไปอาบน้ำบนห้องเลยลูก" คุณยายโบกมือไล่ให้ใบตองขึ้นไปบนห้องคนแก่ก็กลัวเสียจังหวะเมาส์กับเพื่อนเหมือนกันนะเนี้ยเอาไว้กินข้าวเย็นเสร็จค่อยเล่าให้คุณยายฟั
โรงเรียนนานาชาติเราสองคนเดินเคียงคู่กันหลังจากที่เอารถไปจอดเอาไว้ในที่ประจำของพี่สีครามพอดีกับที่เพื่อนในกลุ่มของเขาสามคนนั่งคล่อมบิ๊กไบค์คุยกันอยู่ทำให้ใบตองรู้สึกเขินอายกับสายตาทั้งสามคู่ที่มองพวกเราสองคนอย่างตั้งคำถามและล้อเลียน"อะไรยังไงครับไอ้คราม ไหงน้องใบตองถึงซ้อนท้ายมาได้วันนี้" พี่ลีเป็นคนเปิดประเด็นถามคนแรก"ก็ไม่มีอะไรมากแค่คบเป็นแฟนกันแล้วเลยาโรงเรียนพร้อมกัน" พี่สีครามรับเอาหมวกกันน็อคของฉันไปเก็บไว้ใต้เบาะรถของเขาแล้วเงยหน้ามาตอบเพื่อนๆ กลุ่มเขา"จริงดิ๊" ทั้งสามคนทำท่าตกใจแล้วมองใบตองสลับกับพี่สีครามอย่างคนที่ไม่อยากจะเชื่อ"มึงเนี้ยนะมีแฟนไอ้คราม" พี่กรที่ปกติเป็นคนพูดน้อยที่สุดก็อดที่จะถามพี่สีครามไม่ได้เหมือนกัน"ก็กูเนี้ยแหละมีแฟนแม้งแปลกตรงไหนวะพวกมึงเลิกถามได้แล้วรำคาญวะ" พี่สีครามผลักเพื่อนให้เปิดทางให้เขาเดินออกไป"แล้วนั้นมึงจะไปไหนอีกเป็นชั่วโมงจะถึงเวลาเข้าเรียนคาบแรก" พี่บีมร้องตะโกนถามพี่สีครามที่ตอนนี้เขาจับมือพาใบตองออกเดินห่างจากกลุ่มของเขาแล้ว"ขอเวลาอยู่ส่วนตัวกับแฟนสองคนครับเพื่อนไม่ต้องตามมานะเว้ย" พี่สีครามโบกมือลาเพื่อนๆ ของเขาแล้วพาใบตองเดินต่อ
"เอ่อ...ก็" เอ้าจะพูดแล้วทำท่าอึกอักทำไมเนี้ยพี่สีคราม ใบตองมองเขาด้วยความหงุดงงสงสัยอย่างไม่เข้าใจ"ก็อะไรอ่ะพี่สีคราม" ใบตองมองเขาอย่างรอคอยคำตอบ"ก็ไม่มีอะไรพี่แค่หวง..." พี่สีครามพูดเสียงเบาจนแทบไม่ได้ยินว่าเขาพูดอะไรออกมา"คะ? หวงเหรอเปล่า พูดใหม่ชิเสียงเบาใบตองได้ยินไม่ค่อยชัดเลยค่ะ" พี่สีครามหยิบหมวกกันน็อคออกมาสวมใส่หัวของใบตองอย่างไม่ได้ทันตั้งตัว"ก็ตามนั้นช่างมันเถอะครับ ขึ้นมาได้แล้วเราจะได้ไปกันสักที" พี่สีครามดันตัวใบตองให้ปีนขึ้นรถนั่งบนรถบิ๊กไบค์"ก็ได้ค่ะ" เธอตอบรับคำสั่งของเขาอย่างว่าง่ายอย่างเชื่อฟัง ขยับหน้าเข้าไปใกล้ใบหูของเขาแล้วกระซิบให้ได้ยิน"แค่หวงหนูทำไมต้องพูดเสียงเบาด้วย เขินเหรอคะ" เท่านั้นแหละร่างสูงแข็งทื่อมือหนากำแน่น ใบหูสีแดงระรื่นขึ้นมา"บะใบตอง!" เสียงสั่นตั้งสติหลายวินาทีแล้วเอี้ยวตัวกลับมามองหน้าใบตองคิ้วขมวดชนกันอย่างดุๆ"อย่าทำแบบนี้อีกมันอันตรายเข้าใจไหม!" มือหน้าตบหน้าผากของเธอเบาๆ พร้อมชี้นิ้วสั่งอย่างจริงจัง"รู้แล้วหน่า" ใบตองยิ้มกว้างล้อเลียนพี่สีครามที่ท่าจะเขินหนักแล้วนะเนี้ย"ซนจริงเราอ่ะ" พี่สีครามบ่นเธอขนาดที่ออกรถไม่นานก็มาถึงหน้าบ
"ผมขอตัวกลับบ้านก่อนนะครับคุณยาย สวัสดีครับ" พี่สีครามเดินลงมาถึงชั้นล่างพร้อมกับในมือถือกล่องใส่มะเขือเทศสดที่เราช่วยกันเก็บ"อ้าวจะไม่กินข้าวเย็นด้วยกันก่อนเหรอลูก""คือว่าที่บ้านผมส่งข้อความมาเร่งแล้วครับ สงสัยจะมีธุระ" พี่สีครามบอกกับคุณยายแบบนั้นแล้วท่านก็ยิ้มรับพยักหน้าเข้าใจ"ใบตองเดินไปส่งพี่เขาไปลูก" หลังจากร่ำลาคุณยายของเธอเรียบบร้อยแล้วก็เดินออกมาหน้าบ้าน"พี่สีครามอย่าขับรถเร็วนักนะ ถึงบ้านแล้วโทรหาใบตองด้วย" พี่สีครามถอยรถออกไปจอดหน้ารั้วบ้านเรียบร้อย เดินเข้ามาใกล้เธอแล้วยกมือขึ้นลูบหัวใบตอง"รับทราบครับใบตอง เราก็เข้าบ้านได้แล้วล็อกประตูให้แน่นหนาเดียวพี่ยืนรอส่งเราเข้าไปในบ้านเรียบร้อยค่อยออกรถ" เขาจับตัวเธอหันหน้าเข้าไปในรั้วบ้านแล้วดันหลังให้ออกเดิน"ก็ได้ค่ะ" ใบตองปิดประตูรั้วบ้านล็อกเรียบร้อยแล้ว หันกลับไปมองพี่สีครามที่ชี้นิ้วสั่งให้เข้าไปภายในบ้านก็พยักหน้ายิ้มโบกมือลาเขาก่อนจะแยกย้ายกันไม่นานก็ได้ยินเสียงรถบิ๊กไบค์เร่งเครื่องออกไปจากภายในซอยบ้าน ใบตองพร้อมกับเจ้าชาเปาชาแปงออกวิ่งแข่งกันไปยังโต๊ะอาหาร"ไม่ต้องรีบร้อยก็ได้ลูกไม่มีใครแย้งหรอก พวกแกด้วยชาเปาชาแปงอา
เสียงเรียกโทรเข้ามากลางดึกขนาดที่เธอกำลังนอนมองเบอร์ที่โทรเข้ามาตอนนี้"ฮัลโหลค่ะ" เสียงอู้อี้เพราะยังไม่ตื่นดี"ออกมาเปิดประตูให้พี่หน่อยครับ" เสียงต้นสายบอกมาทำให้เธอต้องยกโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลา ตอนนี้เกือบตีสองครึ่งแล้ว"มันดึกมากแล้วทำไมพี่สีครามไม่กลับบ้านค่ะ" ตอนนี้ตาของเธอสว่างมาก ทีแรกนึกว่าพึ่งจะสี่ห้าทุ่มเองแต่มันไม่ใช่แล้วตอนนี้มันดึกมาก"พี่รู้ว่าเราไม่พอใจเลยมาเคลียร์กันไง ส่งข้อความหาเธอก็ไม่ตอบแชทพี่เลย" เสียงแหบยานเหมือนคนเมาของพี่สีคราม"เฮ้อ...ค่ะเดียวใบตองจะไปเปิดประตูให้พี่" เธอลุกขึ้นจากเตียงเดินลงไปข้างล่าง เปิดประตูออกเห็นเงาร่างสูงยืนพิงประตูก้มหน้าดูจอโทรศัพท์ของเขาอยู่"พี่สีครามขับบิ๊กไบค์มาเหรอ" เพราะไฟหน้าบ้านเสียทำให้มองไม่เห็นว่ามีรถคันคุ้นเคยจอดอยู่ข้างรั้วบ้านไหม"เปล่าคราบ รถที่บ้านไอ้กรมาส่งพี่" ฟังเสียงคนเมาตอบมาแบบนั้นก็ทำให้เธอถอดหายใจด้วยความโล่ง ถ้าเขาเมาแล้วขับเธอไม่อยากคิดเลยว่าถ้าเกิดอุบัติเหตุต้องแย่แน่"ก็ยังดีที่ไม่ได้ขับบิ๊กไบค์มาเอง" เธอเปิดประตูให้พี่สีครามเข้ามา"อย่าพึ่งบ่นสิครับใบตอง" พี่สีครามเดินเข้ามาแล้วยืนรอใบตองล็อกประตูรั้วบ้าน
“ใบตองติดทุนคณะศึกษาศาสตร์ตามเป้าหมาย” ใบตองตื่นเต้นดีใจที่ทำตามความหวังได้สำเร็จ“ฮื่อ ฮื่อ ใบตองเพื่อนรักกกกก” สองสาวเพื่อนสนิทของเธอทำหน้าเศร้าหมองขึ้นมาเมื่อคิดว่าพวกเราต้องแยกย้ายไปเรียนกันต่างที่แล้วก็ใจหาย“นัตตี้! เบล! อย่าร้องสิหยุดเลยนะ” ใบตองพยายามห้ามไม่ให้เพื่อนสนิททั้งสองคนที่กำลังดึงดราม่าอยู่ตอนนี้ให้หยุดทำลายบรรยากาศดีใจที่ประกาศผลสอบเข้ามหาลัย“พวกเราสองคนติดบริหารอินเตอร์ที่เดียวกันแต่แกใบตองทำไมต้องสมัครอันดับหนึ่งไปไกลถึงภาคเหนือของประเทศอย่างนี้พวกเราชั้นสองคนกว่าจะได้เจอใบตองก็คงต้องนานๆ ครั้งเลยสิฮื่อเบลไอ้ใบมันทิ้งเราสองคนแล้วฮื่ออออ” นัทตี้ตาแดงสั้นระริกน้ำตาจะไหลออกมาจริงๆ ฉันมองเพื่อนสนิททั้งสองคนที่กำลังแข่งกันร้องไห้งอแงเพราะฉันจะต้องไปเรียนต่อไกลกว่าเพื่อน“ใบตองก็ใจหายเหมือนกันนั้นแหละ ก็พวกเราสามคนคบกันมาตั้งแต่มอหนึ่งจนจบมอหกพอต้องห่างกันไป มันก็อดจะใจหายเหมือนกันนั้นแหละฮึก” เธอพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ให้ไหลออกมา สองคนนี้คงคิดว่าเธอมันเป็นพวกใจแข็งไม่รู้สึกเสียใจล่ะสิคิดผิดแล้ว ภายในใจของเธอตอนนี้มีทั้งความหวาดกลัวที่ต้องไปเริ่มต้นใหม่คนเดียวโดยไม่ม
เชียงใหม่พอเครื่องลงก็ยืนรอเช่ารถเพื่อไปส่งยังโรงแรมยังไม่ได้เข้าไปที่หอพักเลยเพราะพวกเรามาก่อนวันเปิดเข้าหอสองวันเพื่อเที่ยวกันก่อน“ฮัลโหลเชียงใหม่นัตตี้มาแล้วจ้า!” แม่เพื่อนสาวมั่นของใบตองร้องขึ้นขนาดที่ยืนรอคุณยายไปเช่ารถกับเบลเพื่อใช้ในสามวันที่จะอยู่ในเชียงใหม่กันด้วยเสียงที่ดังแสดงออกถึงความตื่นเต้นของนัตตี้เรียกสายตาของคนที่ยืนรอรถต่างหันมามองทางเราสองคนด้วยแววตาส่อแววตำหนิ ทำให้ใบตองต้องก้มหัวยกมือข้อโทษพร้อมกับนัตตี้ที่รีบทำตามแล้วก็แอบขำกับความป่วนของตัวเองจนได้เรื่อง“คุณยายขับรถมาแล้วรีบขึ้นรถกันเถอะ” พวกเราสองคนรีบเปิดประตูเพื่อขึ้นรถกันเหมือนต้องการหลบหนีคำตำหนิของคนรอบข้าง“ไปทำอะไรผิดมากันล่ะเด็กหน้าซีดมาเชียว” คุณยายมองผ่านกระจกมองหลังแล้วพูดขึ้น“คือว่าหนูเสียงดังรบกวนคนอื่นค่ะคุณยายใบตอง” นัตตี้สภาพด้วยใบหน้าสำนึกผิดและเขินอายจากเหตุการณ์เมื่อครู่ที่ผ่านมา“ดีใจที่สำนึกผิด คราวหน้าจะได้ระวังมากขึ้นนะหนูนัตตี้” คุณยายพูดขึ้นเพื่อสังสอนวัยรุ่นอย่างพวกเรา“ค่ะหนูไม่กล้าทำแบบนั้นอีกแล้ว” นัตตี้ยิ้มแห้งๆ ให้กับคุณยายผู้อวุธโสที่นับถือขับรถไม่นานพวกเราก็มาจากโรงแรมที่
"กรุงเทพจ้า" ใบตองตอบคำถามเพื่อนใหม่ขนาดที่มือก็จัดเรียงเสื้อผ้าข้าวของตรงหน้าให้เสร็จเรียบร้อยจากนั้นก็ลุกขึ้นเพื่อจะไปนั่งรอเพื่อนใหม่จัดของให้เสร็จแล้วค่อยลงไปเที่ยวหลังมอตามที่ได้นัดกันเอาไว้"ว้าวกรุงเทพ ในชีวิตน้ำอิงเคยไปที่กรุงเทพ 1 2 อ่าสองครั้งท้วนฮ่าๆ" เพื่อนใหม่หัวเราะอย่างขัดเขินท่าทางจะอายใบตองมากตอนนี้"ส่วนใบตองไม่เคยมาเชียงใหม่เลยสักครั้งในชีวิต นี่เป็นครั้งแรกแต่ว่าต้องอยู่ยาว4ปีเลยทีนี้ฮ่าๆ" ใบตองพูดขึ้นแล้วก็ยิงมุขให้เพื่อนใหม่ขำไปด้วย"ไม่เป็นไรนะเพื่อนใบตองเดียวน้ำอิงจะพาเที่ยว ถึงบ้านน้ำอิงจะอยู่ต่างอำเภอแต่ว่าน้ำอิงมาเรียนที่อำเภอเมืองตั้งแต่ม.1 เชียวชาญทุกซอกทุกมุมในตัวจังหวัดแห่งนี้" น้ำอิงพูดขึ้นอย่างโออวดพร้อมจะเป็นเจ้าถิ่นที่ดีให้กับใบตองเต็มที่"โอ้ใบตองขอฝากตัวกับเพื่อนน้ำอิงคนสวยเอาไว้ด้วยนะคะ" ใบตองรู้สึกว่าระหว่างคุยหยอกล้อของเราสองคนทำให้สนิทกันได้อย่างรวดเร็วเกินคาด"ได้เลยจ้าว" สาวเหนือยิ้มจนตาหยีให้กับใบตอง"น้ำอิงมีรถมอเตอร์ไซค์คันเล็กเอาไว้ขับในมอด้วยเพื่อความสะดวก ใบตองนั่งรถมอไซค์ได้ไหม" เพื่อนใหม่ถามอย่างไม่แน่ใจ ใบตองทำหน้าสงนเพราะกำลังคิดในใ
"อีกไม่นานก็จะได้รู้แล้วครับอดทนหน่อยนะ" พี่สีครามจับมือใบตองกระชับแล้วปล่อยกลับไปขับรถมองมือเหมือนเดิมเมื่อถึงแยกที่ต้องเลี้ยว"ตื่นเต้นจังเลยพี่สีคราม" บอกแฟนตัวเองเสียงสั้นอย่างควบคุมเอาไว้ไม่อยู่ไม่ต้องปล่อยให้ใบตองต้องตื่นเต้นนานเกินไปเพราะบ้านของคุณยายพี่สีครามที่เป็นมรดกให้กับคุณแม่ของเขาอยู่ไม่ไกลจากอำเภอเมืองนักถือว่าเข้าเมืองสะดวกไม่ได้ไกลเหมือนรีสอร์ทและไร่ของเขาที่เป็นธุรกิจของครอบครัวตอนนี้"ถึงแล้วครับใบตอง" พี่สีครามกดรีโมทเปิดรั้วบ้านแล้วเคลื่อนรถเข้าไปในรั้วบ้านจอดรถเอาไว้โรงรถที่มีรถยนต์สองคันสองเอาไว้อยู่ก่อนแล้ว"ค่ะ" ใบตองเอาแต่แอบแหล่ตามองสำรวจบ้านสองชั้นสไตล์ล้านนาประยุกต์ปรับปรุงขึ้นใหม่แต่ยังเหลือเค้าโครงเอกลักษณ์ให้ได้เห็นอยู่"เอ้าใบตองลงมาได้แล้วเรา" แฟนหนุ่มฉถดแขนดึงให้เธอลงจากรถ"ค่ะ" ใบตองเกรงเดินตามหลังพี่สีครามรู้สึกว่าตนเองขาสั้นจนเดินแทบไม่ไหว"คุณพ่อคุณแม่ครับ ผมพาแฟนมาแนะนำครับ" พี่สีครามจูงมือใบตองเดินเข้ามาในห้องรับแขกที่มีชายหญิงวัยกลางคนท่าทางน่าเกรงขามนั่งคุยกันรออยู่ในห้องรับแขก"อืม!" คุณพ่อหันมายิ้มบางๆ พร้อมพยักหน้ารับ"..." ส่วนคุณแม่เพี
เมื่อตอนเย็นพี่สีครามพาฉันไปหาข้าวเย็นกินในห้างดังในเมืองพอกินเสร็จก็เดินซื้อของก่อนที่เขาจะมาส่งที่หอ"พี่สีครามขับรถกลับคอนโดดีๆ นะคะ""ครับ แต่ว่าคืนนี้พี่มีนัดกับเพื่อนออกไปเที่ยวร้านเหล้านะ" ฉันไม่ได้บังคับให้เขารายงายอะไรตัวเอง ให้อิสระในการใช้ชีวิตเหมือนก่อนที่เราจะกลับมาเป็นแฟนกันได้ตามสบาย"ค่ะ พี่สีครามก็จะดื่มเยอะมากถ้าขับรถไม่ไหมก็เรียกรถจากแอปให้ไปรับนะมันอันตรายใบตองเป็นห่วง" พี่สีครามยิ้มรั้นฉันเข้าไปกอดแต่ไม่ต้องห่วงว่าจะดูประเจิดประเจ้อจนคนเอาไปนินทาเพราะว่าคนของเขาติดฟิล์มดำมืดมองเขามมาไม่เห็นข้างใน"ครับ แต่หอมแก้มพี่หน่อยสิ" เขาอ้อนฉันพร้อมกับยื่นแก้มเข้ามารอ"ฟอดฟอด""พอใจยังคะ" พอหอมเสร็จฉันก็ดันตัวออกจากออ้อมกอดของเขา"พอใจแล้วครับ" พี่สีครามยิ้มหน้าบานที่ได้สมใจเขาแล้ว"ถ้าอย่างนั้นใบตองไปแล้วนะบายบ่ายค่ะ" พอลากันแล้วเธอก็ออกจากในรถเดินเข้าหอตามปกติแต่ว่าอยู่ๆ เจมส์ก็เข้ามายืนขวางหน้าเอาไว้เสียก่อน"เจมส์!" ถึงเราจะไม่ได้คบกันแต่ก็ยังคุยๆ กันแต่ฉันดันลืมเขาไปได้หลังจากตกลงคบกับพี่สีครามเมื่อคืนไม่น่าเลยยัยใบตองสมองทึบเอ้ยเธอทำอะไรลงไปเนี้ย"ขอเจมส์คุยด้วยได้ไหม
"พอแล้วใบตองไม่ไหวแล้ว" หลังจากเสร็จสมกันแล้วอยู่ๆ สิ่งแปลกปลอมที่อยู่ในตัวเธอก็แข็งตัวขึ้นมาอีกครั้ง จากประสบการณ์เมื่อครู่สอนให้เธอรู้ว่าเขาต้องการมันอีกครั้ง"แต่พี่ยังไม่พอ" พี่สีครามซุกไซร์ดูดสองเต้าอย่างหลงไหลสร้างความเสียวให้กับฉันไม่หยุด"แต่ว่านี่เป็นครั้งแรกของใบตองมันไม่ไหวแล้วพี่สีคราม" ฉันจับหน้าหล่อหน่าที่เงยขึ้นมาสบตากันของเรา"อืมก็ได้ครับ" พอเห็นสีหน้าอ่อนล้าซีดเชียวของเธอทำให้เขายอมผละตัวออกแม้จะเสียดายก็ตาม"ไปอาบน้ำอุ่นล้างตัวแล้วเข้าไปนอนพักบนเตียงนุ่มๆ ดีกว่าครับ" พี่สีครามอุ้มใบตองเดินเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำแล้วพามานอนบนเตียงของเขาทำเพียงนอนกอดเอาไว้"นอนสักตื่นแล้วเดียวพี่สั่งอาหารเย็นมาให้กินรอบดึก" เขาจูบหน้าผากของฉัน ที่พยักหน้ารับไม่มีแรงแม้จะพูดคุยกับเขารู้สึกว่าครั้งแรกใช้พลังงานไปมากจนเกินไปแล้ว"ใบตองครับลุกขึ้นมากินอะไรหน่อยค่อยหลับต่อ" แรงเขย่าให้รู้สึกตัวจากเจ้าของเสียงอันคุ้นเคยปลุกให้เธอรู้สึกตัวตื่น"อื่อกี่โมงแล้วค่ะพี่สีคราม" พอตื่นเต็มตาเรื่องราวตั้งแต่ตอนเย็นจนถึงตอนี้ก็ไหลเข้ามาจนรู้สึกเขินอายที่เรามีอะไรกันครั้งแรก"สี่ทุ่มครับ ตอนเย็นกินน้อยล
"ใบตองคุยกับใครเหรอ" ตอนนี้ฉันกำลังนั่งกินสุกี้เป็นมื้อเย็นกับพี่สีครามหลังจากกลับมาจากเที่ยวร่วมเดือนแล้ววันนี้แรกว่าเป็นวันแรกในรอบเดือนที่ฉันได้เจอหน้าเขา"อ่อคนคุยค่ะ" ก็ในเมื่อฉันกับพี่สีครามเป็นแค่รุ่นพี่รุ่นน้องกันจะเลือกว่าคนคุยก็ไม่ชัดเจนขนาดเจมส์ที่เข้ามาจีบฉันตลอดเดือนกว่าๆ ที่ผ่านมาเลยด้วยซ้ำ"เดียวนะมีคนมาจีบใบตองเหรอ?" พี่สีครามถามเสียงขรึมมองมายังฉันดุๆ แต่ตัวฉันที่คิดว่าตนเองไม่ได้ทำอะไรผิดเลยไม่จำเป็นต้องเป็นฝ่ายหลบสายตาเขาเลยจ้องกับพร้อมพยักหน้าตอบรับ"ใช่ค่ะ เขาเรียนวิดวะปี2อายุเท่ากันจีบใบตองมาเดือนกว่าแล้วแต่เรายังไม่ได้ตกลงคบกันหรอกนะคะตอนนี้""แล้วเรื่องของเราละ" สีหน้าพี่สีครามแสดงออกว่าเขากำลังโกรธไม่พอใจกับสิ่งที่ฉันกำลังบอกเล่าให้เขาฟังด้วยท่าทีไม่เดือดร้อนอะไรเลยแบบนี้"อ่อเราสองคนก็เป็นรุ่นพี่รุ่นน้องตามที่พี่สีครามบอกอย่างไงละค่ะ""เลิกคุยกับมันซะ!" ใบตองสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ วางซ้อนรวบไว้ชามสุกี้แล้ว"ก็ใบตองโสดมีสิทธ์คุยกับใครก็ได้ไม่ได้ทำอะไรผิดชักหน่อย" พี่สีครามเหมือนคนกำลังระงับอารมณ์ที่กำลังเดือดดาลขึ้น"ไม่ผิดแต่ไม่ได้!" เขาจ้องเขม็งเหมือนจะเอาเรื
"แหม่ๆ กักเหรอเปล่าวะไอ้คราม" เพื่อนคนแรกของเขาแซวออกมา"ไอ้ครามแม้งตรงโว้ย!" เสียงเพื่อนคนที่สองของเขาพูดขึ้นตามมา"กูแม้งเดาถูกว่ะ" เพื่อนคนที่สามหันไปชกมือกับเพื่อนอีกคนของเขาพวกพี่ๆ ผู้ชายต่างเอ่ยปากแซวไม่หยุดกันอย่างคึกครื่นขึ้นมา แต่คนที่มีส่สนเกี่ยวข้องอย่างฉันกับรู้สึกอึดอัดขึ้นมาบ้าง"พวกมึงพอๆ ได้แล้วแยกย้ายไปทำกิจกรรมที่จองเอาไว้กันได้แล้ว" พี่สีครามบอกพร้อมกับผลักเพื่อนให้เลิกพูดแซวแล้วแยกย้ายกัน"เอ่อๆ ดูมันไล่พวกเราโว้ย" เพื่อนของพี่สีครามต่างโวยวายเสียงดังเหมือนกำลังแกล้งเขามากกว่าแล้วต่างแยกย้ายออกไปจากห้องอาหาร"ไปกันเถอะใบตอง" ฟ้าจับแขนฉันเขย่าเพื่อตามพวกพี่ๆ ไปเที่ยวในโปรแกรมต่อ"อือไปก็ไป" น้ำอิงกับฟ้าเดินไปพร้อมกับใบตองโดยไม่ได้พูดแซวแต่ก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไม่หยุดกิจกรรมแอดเวิร์นเจอร์ต่างๆ ที่มีให้ทำเช่นโหนสะลิงค์ลงจากที่สูง เป็นกิจกรรมที่ต้องใช้ความกล้าให้ความรู้สึกหวาดเสียวแต่ก็สนุกมากเช่นกันหลังจากเล่น พวกเรานอนค้างอีกหนึ่งคืนแล้วก็กลับไปยังมหาลัยแต่เช้าเพื่อให้ได้พักก่อนจะต้องกลับไปเรียนหอพัก"นั่งลงตั้งหลายชั่วโมงสุดท้ายก็ถึงห้องสักที" น้ำอิงพูดขึ้นพร้อมจะทิ
"กว่าจะมาได้นะครับเสี่ยคราม!" พี่สีครามเดินเข้ามาในชุดเดิมตอนออกไปทำงานเมื่อตอนบ่าย"โทษทีนะพวกมึงกว่าจะเสร็จมีปัญหานิดหน่อยดีที่แก้ไขแล้วเสร็จเร็ว" พวกเพื่อนของเขาพยักหน้ารับ"พวกกูแค่แซวมึงเฉยๆ เข้าใจมึงไปทำงานไม่ได้มาเที่ยวอย่างเดียวเหมือนพวกกูเป็นกำลังใจให้โว้ยเพื่อน!" เพื่อนคนหนึ่งของเขาตบบ่าให้กำลังใจขนาดที่เดินไปนั่งลงวงเหล้าของพวกผู้ชาย"เออๆ ขอบใจ มาๆ ตั้งเตากินดื่มกันได้เต็มที่เลย" เมื่อเจ้าภาพที่เป็นเจ้าของสถานที่พูดเปิดกลุ่มวัยรุ่นทั้งหลายก็เริ่มเปิดเหล้าพร้อมกับปิ้งย่างกันควันไฟลอยคลุ้งไปทั่วเพราะถูกจุดพร้อมๆ กันหลายเตาจากทีแรกที่เตาของพวกผู้หญิงมีแต่น้ำหวานก็ถูกแทนที่ด้วยแอลกอฮอร์จากต่างประเทศอย่างเช่นโซจูที่กำลังเป็นที่นิยมสำหรับคอซีรี่ย์เกาหลีมีให้เห็นจนอดไม่ได้ที่จะไปซื้อมาลิ้มลองกันอย่างแพร่หลาย"เอ้าชน!!!" เสียงเฮฮาของกลุ่มวัยรุ่นดังขึ้นจากทีแรกที่ใบตองและเพื่อนอีกสองคนแอบเกร็งเพราะอายุน้องที่สุดและไม่ได้เป็นเพื่อนร่วมคณะกันเหมือนพวกพี่เขาก็เริ่มคุ้นชินจนเข้ากันได้ดีทำให้เกิดบรรยากาศที่เต็มไปด้วยเสียงพูดคุยหัวเราะกัน"ฮึก!ไม่ไหวแล้วค่ะพี่มินพอก่อน" ใบตองยกมือขึ้นห้
"อือเริ่มรู้สึกดีแล้ว" ใบตองรับยาดมมาดมเองพอมือว่างจากการจับยาดมแล้วน้ำอิงก็ไม่อยู่เฉยมีการบีบนวดตามต้นคอบ่าไหล่ให้กับใบตอง"เอาดื่มน้ำหวานจะได้สดชื่น" พี่สีครามหายปแล้วกลับมาพร้อมน้ำหวานหนึ่งขวดให้ฉันดื่ม"ขอบคุณค่ะ" เขาพยักหน้ารับ"เอานี้กุญแจห้องพวกมึงส่วนค่าห้องจ่ายคนล่ะห้าสิบเปอร์เซ็นต์ตามที่ตกลงกันไว้นะโว้ย" พี่สีครามพูดขึ้นพร้อมกับแจกจ่ายให้กุญแจห้องพักให้กับเพื่อนของเขา"เอ่อขอบใจมากเพื่อน" มองดูแล้วก็นับคร่าวทั้งเพื่อนผู้ชายและผู้หญิงสิบคนได้ก็รถตั้งสี่คันคนย่อมเยอะเป็นธรรมดาแล้วคือเธอดันมาเมารถอยู่คนเดียวน่าขายหน้านัก ใบตองได้แต่ยิ้มเจือนตอบรับการทักทายของรุ่นพี่เพื่อนพี่สีคราม"ให้น้องไปพักเถอะสีครามดูหน้าไม่ค่อยจะไหวแล้วนะมึง" เพื่อนครหนึ่งของเขามองมายังฉันอย่างเห็นใจส่วนคนอื่นๆ ก็มีมองมาแต่หลากหลายอารมณ์ตามปะสาคนที่ไม่คุ้นเคยกันสักเท่าไหร่"เอ่อๆ พวกมึงแยกย้ายกันไปพักผ่อนแล้วถ้าอยากทำกิจกรรมอะไรก็มาบอกที่เคาท์เตอร์เดียวพวกเขาจัดโปรแกรมให้อันนี้กูสั่งไว้แล้วฟรีได้เลย""ขอบใจมากเสี่ยคราม" เพื่อนอีกคนของพี่สีครามแซวเขา ส่วนเจ้าตัวก็หยักไหล่แบบยอมรับแล้วพากันเดินไปยังห้องพักต
ข้อความถูกส่งเข้ามาหลายครั้ง ทำให้ฉันจำต้องวางปากกาที่จดสรุปลงไว้แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอ่านข้อความที่ถูกส่งเข้ามา"พี่มาถึงแล้ว" พร้อมทั้งรูปถ่ายใบหน้าหล่อเหลายิ้มแฉ่งนับสิบรูปถูกส่งเข้ามาในไลน์ไม่หยุด"โอเคค่ะเดียวใบตองลงไปนะ" เธอบอกเขาแล้วหยิบโทรศัพท์กับกระเป๋าสะตังค์เพราะว่าคิดจะแวะไปเซเว่นเพื่อซื้อของกินมาตุนเอาไว้ในตู้เย็นที่ของกินกำลังจะหมดลง"มาแล้วค่ะ รอนานไหม" ใบตองยิ้มให้คนตัวสูงที่เล่นเกมส์ในโทรศัพท์เช่นเดิมเพราะเขาวางเครื่องลงก็เห็นเกมส์ในหน้าจอแสดงอยู่ฉันถึงรู้"ไม่นานครับ พี่ซื้อทั้งข้าวทั้งขนมและของกินเล่นมาให้เราหลายอย่างเลยกินกันเถอะ" พี่สีครามเปิดข้าวกล่องให้ฉันแล้วเลื่อนมาตรงหน้า"ขอบคุณพี่สีครามมากนะคะ" ฉันยกมือไหว้ขอบคุณน้ำใจของเขา"ไม่เป็นไรครับ" เขาพยักหน้ารับ"แล้วค่าข้าวพวกนี้เท่าไหร่คะเดียวใบตองออกเงินช่วย""ไม่ต้องหรอกครับ ถือว่าพี่เลี้ยงแล้วกันมื้อนี้" พอเขาพูดมาแบบนี้ทำให้ฉันรู้สึกเกรงใจขึ้นมาเลย"ไม่เอาค่ะ ใบตองเกรงใจขอจ่ายตังค์ช่วยนะ" ฉันไม่ยอมแพ้และไม่อยากเอาเปรียบเอามากนัก"แต่พี่ไม่เอาครับเต็มใจเลี้ยง กินเถอะจะได้รีบขึ้นไปทำรายงานต่อยังไงล่ะ" เอาส่ายห
"นี่คือเหตุผลที่แม้กระทั้งโซเซียลพี่สีครามก็ไม่อัพเดรสอะไรเลยตลอดหลายปีที่ผ่านมา..." พอคิดว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาเจอกับความยากลำบากของชีวิตที่ถาโถมเอาใสคงไม่ใช่ว่าจุดเริ่มต้นของเขาเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่โดนฉันบอกเลิกหรอกนะ"นั้นก็ใช่ แต่ว่ามันมีอีกเหตุผลนึงที่ไม่อยากเล่นโซเซียล" พี่สีครามที่ได้ยินฉันพึมพำกับตัวเองก็เฉลยออกมา"อีกเหตุผลนึงคืออะไรพอบกได้ไหมคะ" เราสองคนมองสบตากันนิ่ง ฉันมองเขาอย่างรอคอยคำตอบส่วนเขาก็กระตุกยิ้มมุมปากก่อนจะเอ่ยบอก"เพราะใบตองยังไงล่ะ" พอได้รับคำตอบที่คาดการเอาไวว้ในใจก็ถึงกับหน้าเสียเพราะตนเองคนเป็นสิ่งที่เขาอยากจะลบออกไปแม้กระทั้งโลกโซเซียลก็ไม่เล่นเพราะไม่อยากจะเห็นแม้กระทั้งรูปถ่าย"ไม่ต้องทำหน้าเศร้าขนาดนั้นเลยครับ พี่ไม่ได้จะหมายความแบบที่ใบตองกำลังคิดอยู่แน่" สติเริ่มกับมาเมื่อเขาบอกว่าไม่ใช่เพราะตัวเองใบตองก็มีความโล่งใจเกินขึ้น"แล้วทำไม""เพราะคิดถึง" จากที่หน้าซีดฉันรู้สึกว่าใบหน้าเริ่มรู้สึกร้อนพร่าวและขึ้นสีแดงระรื่นแน่นอนตอนนี้"..." หาคำพูดมาต่อบทสนทนาของเราได้อีกต่อไปเลยทีนี้"เอ้าเงียบเลย แล้วใบตองไม่คิดถึงพี่บ้างเลยเหรอครับ" คำถามของเขาเหมือ