"กรุงเทพจ้า" ใบตองตอบคำถามเพื่อนใหม่ขนาดที่มือก็จัดเรียงเสื้อผ้าข้าวของตรงหน้าให้เสร็จเรียบร้อยจากนั้นก็ลุกขึ้นเพื่อจะไปนั่งรอเพื่อนใหม่จัดของให้เสร็จแล้วค่อยลงไปเที่ยวหลังมอตามที่ได้นัดกันเอาไว้
"ว้าวกรุงเทพ ในชีวิตน้ำอิงเคยไปที่กรุงเทพ 1 2 อ่าสองครั้งท้วนฮ่าๆ" เพื่อนใหม่หัวเราะอย่างขัดเขินท่าทางจะอายใบตองมากตอนนี้
"ส่วนใบตองไม่เคยมาเชียงใหม่เลยสักครั้งในชีวิต นี่เป็นครั้งแรกแต่ว่าต้องอยู่ยาว4ปีเลยทีนี้ฮ่าๆ" ใบตองพูดขึ้นแล้วก็ยิงมุขให้เพื่อนใหม่ขำไปด้วย
"ไม่เป็นไรนะเพื่อนใบตองเดียวน้ำอิงจะพาเที่ยว ถึงบ้านน้ำอิงจะอยู่ต่างอำเภอแต่ว่าน้ำอิงมาเรียนที่อำเภอเมืองตั้งแต่ม.1 เชียวชาญทุกซอกทุกมุมในตัวจังหวัดแห่งนี้" น้ำอิงพูดขึ้นอย่างโออวดพร้อมจะเป็นเจ้าถิ่นที่ดีให้กับใบตองเต็มที่
"โอ้ใบตองขอฝากตัวกับเพื่อนน้ำอิงคนสวยเอาไว้ด้วยนะคะ" ใบตองรู้สึกว่าระหว่างคุยหยอกล้อของเราสองคนทำให้สนิทกันได้อย่างรวดเร็วเกินคาด
"ได้เลยจ้าว" สาวเหนือยิ้มจนตาหยีให้กับใบตอง
"น้ำอิงมีรถมอเตอร์ไซค์คันเล็กเอาไว้ขับในมอด้วยเพื่อความสะดวก ใบตองนั่งรถมอไซค์ได้ไหม" เพื่อนใหม่ถามอย่างไม่แน่ใจ ใบตองทำหน้าสงนเพราะกำลังคิดในใจว่าบุคลิกของเธอเหมือนพวกคุณหนูหรืออย่างไรเพื่อนใหม่ถึงถามแบบนั้น
"นั่งได้ตอนเรียนอยู่ที่กรุงเทพใบตองนั่งกลับบ้านเวลารีบๆ บ่อยจ้า ว่าแต่ทำไมถามแบบนั้นละน้ำอิง"
"ขอโทษนะคือว่าแวปแรกที่เข้ามาในห้องน้ำอิงดูลักษณะใบตองแล้วเหมือนลูกคุณหนูเลยกลัวว่าจะไม่เคยนั่งมอไซค์นะสิ" น้ำอิงบอกเหตุผลที่เธอต้องถามใบตองแบบนั้นด้วยความไม่แน่ใจ
"ฐานะทางบ้านใบตองธรรมดาผู้ปกครองเป็นครู ใบตองเลยเลือกที่จะเรียนศึกษาศาสตร์เพื่อเป็นเหมือนท่านที่เป็นแบบอย่างให้ใบตองเห็น ไม่ได้ร่ำรวยอะไรเลย" ใบตองเล่าให้เพื่อนใหม่ฟังตามจริงอย่างไม่อาย
"จริงดิ๊ ท่าทางใบตอเหือนพวกนักเรียนที่มาจากโรงเรียนนานาชาติค่าเทอมแพงๆ อย่างนั้นแหละ ในแวปแรกจนถึงตอนนี้ที่ใบตองเล่าเองนี่แหละน้ำอิงยังไม่ค่อยอยากจะเชื่อเลย" เพื่อนใหม่ของใบตองคนนี้ดูท่าจะเป็นคนคิดแบบไหนจะพูดออกมาเลย
"โอ้น้ำอิง! ดูแม้นยิ่งกว่าหมอดูนะเนี้ยเพื่อนใหม่ ใช่แล้วใบตองจบมัธยมจากโรงเรียนนานาชาติในกรุงเทพจริงๆ นี่บัตรนักเรียนใบตอง" ใบตองถึงขนาดเปิดกระเป๋าสตังเอาบัตรนักเรียนที่จบแล้วยื่นให้เพื่อนใหม่ดูพร้อมกับรู้สึกทึ่งกับวิธีอ่านคนเพียงไม่นานของน้ำอิง นับว่าเพื่อนใหม่คนนี้เก่งด้านดูคนและเท่าทันผู้อื่นอย่างเหลือเชื่อสำหรับคนอายุเท่านี้
"โอโหโรงเรียนนี้ติดหนึ่งในสิบที่มีค่าเทอมสูงที่สุดในประเทสเราเลยนี่ ไหนใบตองบอกว่าตัวเองฐานะธรรมดาไม่ได้ร่ำรวยเลยละ" น้ำอิงร้องขึ้นมองใบตองอย่างจับผิด
"ฮ่าๆ ไม่ต้องจ้องมองใบตองตาเป็นประกายขนาดนั้นหรอกเพื่อนใหม่ ใบตองเป็นเด็กทุนตั้งแต่เกรด7ถึงเกรด12เลยทำให้ได้เรียนฟรีจนจบมานี้แหละ ส่วนมาเรียนที่นี่เลือกที่จะไม่ขอทุนเพราะมีแต่ทุนผูกมัดใบตองอยากลองใช้ชีวิตตามใจตัวเองในอนาคตหลังเรียนจบไม่อยากกะเกณฑ์เรื่องอาชีพและสถานที่ทำงานจนเกินไปเลยเลือกใช้ทุนผู้ปกครอง ต้องอยู่หอในเพื่อประหยัดเงินอย่างไงละ" พูดจบก็ถึงกับเปิดขวดน้ำเปล่าขึ้นจิบเพราะรู้สึกคอแห้ง
"ว้าวใบตองต้องเรียนเก่งมากแน่ๆ เลยโดยเฉพาะภาษาอังกฤษ" น้ำอิงรีบขยับเข้ามาใกล้ใบตองอย่างออดอ้อน
"กะก็พอได้อยู่ แต่อะไรเนี้ยถึงกับขยับมาใกล้ใบตองขนาดนี้มีอะไรหรือเปล่า" ใบตองถึงกับผละออกจากเพื่อนใหม่ด้วยความตกใจ
"ส่วนน้ำอิงเรียนจบมัธยมจากโรงเรียนรัฐประจำจังหวัดเชียงใหม่ พ่อแม่เป็นเจ้าของสวนผลไม้ที่เชียงดาวมีหน้าร้านตรงถนนคนเดินชื่อดังของจังหวัด ฐานะพอกินพอใช้ ถนัดภาษาจีนมากกว่าภาษาอังกฤษ อะเอ่ออืมจะพูดว่าน้ำอิงถนัดภาษาอังกฤษก็จะกระด่างปากเอาเป็นว่าพอสอบผ่านๆ แบบเกินคาบเส้นมาอย่างหวุดหวิดตลอดชีวิตก็ได้เพราะงั้นในฐานะเด็กจบโรงเรียนนานาชาติมาได้โปรดติวให้เค้าหน่อยนะเพื่อนใบตอง" น้ำอิงจับมือใบตองเขย่าด้วยความหวัง
"อะโอเคจ้าได้ๆ แต่บอกไว้ก่อนนะว่าช่วยเท่าที่ใบตองพอมีความรู้ที่จะช่วยได้นะ" ใบตองรีบบอกเพื่อไม่ให้เพื่อนใหม่คนนี้ตั้งความหวังกับตัวของเธอเอาไว้มากจนเกินไปแล้วผิดหวัง
"แค่รับปากก็ดีมากแล้วเพื่อนใบตอง" จากนั้นน้ำอิงก็รีบเก็บของให้เข้าที่อย่างไว้จนมองตามแทบไม่ทัน ใบตองได้แต่อมยิ้มกับการมีเพื่อนใหม่คนแรกในรัวมหาลัยของเธอ
"เสร็จแล้วใบตอง ขอเข้าห้องน้ำแปบแล้วค่อยออกไปเที่ยวกัน เดียวไกด์น้ำอิงพาเลาะเองจ้าว" สาวเหนือรีบเข้าไปทำธุระในห้องน้ำทันทีที่พูดจบ ส่วนใบตองเอาโทรศัพท์มาส่งข้อความตอบคุณยายและเพื่อนสนิทที่กลับถึงกรุงเทพเรียบร้อยแล้วตอนนี้
พร้อมกับบอกเล่าว่าได้เจอรูเมทแล้วเท่าที่ได้พูดคุยกันตอนนี้ดีมากแต่ว่าไม่รู้ว่าในอนาคตจะเป็นอย่างไรก็ต้องดูกันไปนานๆ ก่อนแล้วค่อยตัดสินกันอีกที
"ไปกันเถอะใบตอง น้ำอิงพร้อมแล้วลุยกันเลยจนกว่าหอจะปิดสี่ทุ่มไป๊" น้ำอิงหยิบกระเป๋าสะพายข้างใบเล็กขึ้นสะพายพร้อมกับหยิบรองเท้าผ้าใบมาใส่ดูท่าจะเขมักเขม้นน่าดู
"ไปกันเลยจ้า" ใบตองกับน้ำอิงต่างก็เดินออกจากห้องด้วยความมุ่งหมาย คนหนึ่งนำหน้า
อย่างคุ้นทาส่วนอีกคนเดินตามด้วยความตื่นเต้นกับสิ่งใหม่ที่กำลังจะได้เจอ
"เอาหมวกกันน็อกใส่ไว้เพื่อกันตำรวจเพราะตอนนี้พึ่งจะบ่ายสามตำรวจยังไม่เลิกงานเดียวโดนเรียกแล้วจะยุ่ง" น้ำอิงยื่นหมวกกันน็อกใต้เบาะรถมอไซค์ให้ใบตองใส่ใบสีดำ ส่วนตัวน้ำอิงก็หยิบหมวกกันน็อกอีกใบสีดำเช่นกันมาใส่
"เพื่อความปลอดภัยด้วยเถอะน้ำอิงอย่าลืมข้อนี้ด้วยนะเพื่อน ว่าแต่ทำไมมีแต่หมวกสีดำเป็นผู้หญิงที่ชอบสีดำเหรอ" ใบตองขึ้นนั่งรถมอไซค์ขนาดที่ใส่หมวกเรียบร้อยและน้ำอิงก็สตาร์ทรถพร้อมแล้ว
"เปล่าหรอกของแฟนน้ำอิงหน่ะใบตอง เขาทิ้งเอาไว้รถเราเลยมีแต่สีดำ" อ้าวเพื่อนใหม่ที่คิดว่าไม่น่าจะมีความรักทีก็มีแฟนไปแล้วหรือนี่
"อ่อแบบนี้นี่เอง"
"เกาะน้ำอิงแน่นอนนะจะไปแล้ว" น้ำออิงลดกระจกลงพร้อมออกตัว แรงลมปะทะเข้ามาเต็มร่างและแล้วใบตองก็ค้นพบอีกหนึ่งอย่างคือเพื่อนใหม่คนนี้ของเธอตีนผีดีๆ นี่เองขาแว่นของจริงเสียงจริงเลยยัยคนนี้ ใบตองจับบ่าน้ำอิงเอาไว้แน่นด้วยความกลัวรถล้มก่อนที่จะเปิดเรียนวันแรกเสียแล้วไหมเนี้ยชีวิตรัวมหาลัย
"น้ำอิงขับช้าหน่อย ใบตองกลัว!" ใบตองเปิดกระจกหมวกกันน็อกขึ้นพร้อมตะโกนเสียงดังแข่งกับลมที่แรงตามความเร็วสูงที่เพื่อนกำลังบิดอยู่
"อะไรนะ! ไม่ได้ยินพูดใหม่ซิ!" น้ำอิงตะโกนแข่งกับแรงลมเพื่อถามใบตอง
"น้ำอิงขับรถช้าๆ หน่อย!" ใบตองเพื่อเสียงตะโกนให้ดังขึ้นไปอีกเพื่อให้เพื่อผ่อนความเร็วลง
"ไม่ต้องกลัวน้ำอิงมีใบขับขี่รับรองปลอดภัย แยกหน้าก็ถึงร้านสุกี้ชื่อดังแล้ว!" คิดว่าเพื่อนใหม่จะผ่อนความเร็วลงแต่ไม่เลยเจ้าตัวกับบิดเต็มที่จนใบตองถึงกับปิดตาด้วยความกลัวไม่กล้ามองข้างหน้าเพราะกลัวซน
"ถึงแล้วใบตอง ปลอดภัยหายห่วงได้" น้ำอิงตบบ่าใบตองยิ้มหน้าซื่อตาใสแต่ใจคดมากในความรู้สึกของใบตอง
"ใบตองคิดว่าตัวเองจะไม่รอดซะแล้ว" ใบตองพยุงร่างกายที่แทบจะล้มลงไปนั่งกองลงบนพื้นให้ยืนตรงให้ไหว ขาสั่นจนแทบก้าวเดินออกไปไม่ไหว รู้สึกเข็ดขยายกับการนั่งรถกับเพื่อนสาวคนนี้มาก
"ไหวไหมเนี้ยใบตอง" น้ำอิงเปิดกระเป๋าสะพายของเธอค้นยาดมยี้ห้อดังยื่นมาตรงหน้าใบตองด้วยความเห็นใจ
"ไม่อยากโกหกว่าไหวเลยน้ำอิง เธอขับรถได้น่ากลัวมากที่สุดตั้งแต่ฉันเคยนั่งมาเลยเฮ้อ" ใบตองถึงกับถอดหายใจ แต่เมื่อคิดถึงบุคคลที่ชอบขับมอไซค์และขับได้น่ากลัวพอกันกับเพื่อนใหม่ใบหน้าของเขาที่ไม่ได้เจอมานานกว่าสามปีก็ลอยเข้ามาให้เห็นทันที
"เค้าขอโทษนะเพื่อนใหม่ น้ำอิงไม่คิดว่าอาการจะหนักขนาดนี้" น้ำอิงหน้าซีดอย่างรู้สึกผิด พอเธอเห็นเพื่อนสลดขึ้นมาเลยยิ้มบางๆ ให้"ฮึบ! เอาข้าไปหาโต๊ะนั่งกันเถอะ" ใบตองยืดตัวใ้หลังตรงแล้วมองสำรวดเพื่อหาโต๊ะที่ว่างพอจะให้เราสองคนนั่งกินสุกี้ชื่อดังของจังหวัดเชียงใหม่"แน่ใจนะใบตอง" น้ำอิงมองใบตองอย่างรู้สึกผิดไม่เลิก"แน่ใจจ้าเข้าไปหาโต๊ะนั่งกันเถอะ" ใบตองบอกพร้อมกับฉุดแขนน้ำอิงให้เดินเข้าไปภายในร้านสุกี้ชื่อดังเพราะถ้ายังมัวแต่ยืนโอเอ้อยู่ตรงนี้มีหวังไม่มีโต๊ะให้นั่งกินแน่นอนดูจากจำนวนคนที่มุ่งเข้ามาร้านมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว"โอเคไปกันเถอะ" น้ำอิงมีสีหน้าโล่งอกแล้วเดินตามกันไปหาโตธนั่งที่พอยังว่างอยู่"ไหนมีเมนูอะไรเด็ดๆ แนะนำมาคุณไกด์สาว" ใบตองถามขึ้นขนาดที่ไล่สายตามองสมุดเมนูที่พนักงานเสิร์ฟเอามาว่างไว้ให้พร้อมกระดาษจดเองเพื่อนำไปสั่งตามคิว"สุกี้แห้งหมูชิ้นหมี่กรอบ" เจ้าถิ่นเสนอพร้อมกับเขียนเมนูของตนเองไปด้วย"เอางั้นตามแนะนำด้วย" ใบตองปิดเมนูเล่มนั้นพับไว้ตามเดิมแล้วแอบมองสำรวจผู้คนไปทั่วร้านอย่างสนใจ"ใบตองจะดื่มน้ำอะไร น้ำอิงว่าจะไปซื้อน้ำปั้นร้านข้างๆ ด้วยระหว่างเอาเมนูไปให้เถ้าแก่ ใ
วันสปอร์ตเดย์วันนี้รุ่นพี่นัดกันที่คณะแล้วเดินเข้าแถวไปยังสนามกีฬากลางของมหาลัยเพื่อรวมงานสปอร์ตที่งานนี่เป็นงานรับน้องรวมทุกคณะของปีหนึ่งโดยมีรุ่นพี่ฝ่ายกิจกรรมของแต่ละคณะมาคุมน้องในคณะของตนเองเพื่อดูแลให้เป็นระเบียบเรียบร้อย"โอ๊ะใบตองทางนี้" น้ำอิงที่เดินเข้าแถวอยู่ข้างๆ หันมาร้องทักใบตองที่เป็นรูเมทกันอย่างดีใจถึงจะนอนอยู่ห้องเดียวกันแต่แทบไม่ได้เจอกันเลยต่างคนต่างเร่งรีบไปเข้าคณะในแต่ละวันเวลาก็ไม่ค่อยจะตรงกัน"ไงน้ำอิง ไม่คิดเลยว่าคณะเราจะได้อยู่ใกล้กันนะเนี้ย" ใบตองยิ้มทักทายเพื่อนกลับ"ใช่ไหมดีใจจังยิ่งถ้าได้นั่งบนอัฐจันใกล้กันตอนเลิกเราก็เดินกลับพร้อมกันได้เลยนะ""เอาแบบนั้นเหรอน้ำอิง" ยัยเพื่อนสาวพยักหน้าบอก"ใช่ใบตอง""โอเคตามนั้น แต่ถ้าหากันไม่เจอให้ไปยืนรอที่ประตูทางออกตรงนู่นนะ" ใบตองมองประตูทางออกอีกฝั่งบอกชี้บอกน้ำอิงเป็นการนัดแนะกัน"ได้เลยรับทราบจ้า""น้องๆ ครับเข้าไปได้แล้วครับขยับให้เป็นช่องไฟแล้วนั่งลงได้" พี่เฮดของคณะใบตองร้องบอกทำให้เราสองคนที่อยู่คนละคณะแยกไปตามที่รุ่นพี่แรกทันทีวันนี้มีกิจกรรมขึ้นนั่งบนอัฐจันแล้วก็มีการแสดงของเชียร์รีดเดอร์ประจำมหาลัยและเห็น
หลังจากทำสัญญาเช่าหอพักต่อีกหนึ่งปีเสร็จแล้วใบตองก็เลือกรถไปสนามบินเพื่อกลับกรุงเทพ"ไม่ให้ไปส่งจริงๆ เหรอใบตอง ของไม่เยอะน้ำอิงขับได้" ใบตองรีบส่ายหน้ารัวปฏิเสธรูเมทตีนผีของเธอเด็ดขาด"ไม่รบกวนน้ำอิงจะได้ไปหาพี่ภูมิไวๆ ไง ใบตองเรียกรถมาแล้วเดียวก็มาถ้ายกเลิกเดียวจะโดนคนขับโวยวายใส่เอาสิไม่ดีมั้ง" ใบตองรีบปฏิเสธน้ำอิงอย่างไม่ยอมแพ้"เฮ้อไม่ไปก็ไม่ไปถ้าอย่างนั้นน้ำอิงไปก่อนนะบายบ่ายเปิดเทอมเจอกันเพื่อน" น้ำอิงสะพายกระเป๋าเป้ใบเล็กเพราะเอารถยนต์ของที่้านมาขนของที่จำเป็นต้องนำกลับไปหมดแล้ว"อืมขับรถดีๆ บายบ่ายนะน้ำอิง" น้ำอิงเดินไปแล้วแต่ยังยกมือขึ้นโบกลาเธอส่วนฟ้าแม่มารับตั้งแต่เมื่อวานตอนเย็นแล้วเห็นว่าที่บ้านมีงานบุญต้องกลับไปช่วยงานเลยรีบกลับเลยหลังสอบเสร็จตัวสุดท้ายรอไม่นานนักรถที่เรียกผ่านแอปก็มาขับถึงหน้าหอ ใบตองขึ้นรถแล้วตรงไปยังสนามบินพอจ่ายเงินแล้วดูเวลายังเหลืออยู่ ใบตองคิดว่าควรไปหาซื้อของฝากไปฝากคุณยายและเพื่อนสนิททั้งสองที่อยู่กรุงเทพหน่อยดีกว่า"ระหว่างที่ก้มเลือกของกินในโซนโอท็อปของจังหวัดเชียงใหม่จังหวะที่เงยหน้าขึ้นเธอก็ได้สบตากับผู้ชายที่ไม่ได้เจอกันเกือบสี่ปียืนจ้อ
"แล้วหาเวลามีเจอกันใหม่ปิดเทอมหน้านะใบตอง" นัตตี้โบกมือลาเป็นคนแรกแล้วขึ้นรถที่คนขับรถมารับตามสบัดคุณหนู"อือบายนัตตี้แล้วเจอกันใหม่""รถเบลก็มาแล้วไปก่อนนะใบตอง ขับรถกลับดีๆ ละ" คนขับรถของเบลมาจอดเทียบหลังรถที่บ้านนัตตี้ขับออกไปแล้ว"เข้าใจแล้ว" ใบตองพยักหน้ายกมือโบกลาเพื่อนอีกคนหลังจากเพื่อนทั้งสองคนต่างแยกย้ายกันกลับใบตองเดินไปหารถที่ตนเองขับออกมาร้านคาเฟ่เองพอกลับถึงงบ้านก็เล่นกับเจ้าซาเปาซาแปงที่วิ่งมาหาเมื่อได้ยินเสียงใบตองเปิดประตูเข้ามาในบ้านพ่อแม่ยายของเธอคงจะอยู่สวนบนดาลฟ้านั้นแหละช่วงปิดเทอมนี้ใบตองก็มีนัดกับนัตตี้และเบลอีกสองสามครั้งและส่วนใหญ่ก็ใช้เวลากับครอบครัวกันจนเปิดเทอมได้เวลากลับเข้าสู่โหมดนักศึกษาอีกครั้ง"ตามสัญญาที่เราทำด้วยกันไว้ช่วงสอบลืมหรือยังใบตอง" น้ำอิงเอ่ยทวงสัญญาขึ้นมาดื้อๆ ในตอนเช้าของสัปดาห์ที่สองที่กลับมาเรียนปี2"สัญญาอะไรเหรอ" ใบตองรู้สึกว่าตนเองลืมเรื่องที่พูดกำลังทวงจริงๆ นั้นแหละ"อ้าวนี่ลืมจริงเหรอใบตอง!" น้ำอิงเดินเข้ามาใกล้โวยวายด้วยความฉุดจัดอย่างมีน้ำโห"กะก็ลืม..." ใบตองผงะถอยห่างเพื่อนรูเมทมาเกือบคืบด้วยความผิดที่เธอดันลืมเรื่องอะไรก็ไ
"มาแล้วๆ" รถยุโรปรุ่นใหม่ล่าสุดก็ขับเคลื่อนมาจอดข้างหน้าพวกเราสามคนที่ยืนรออยู่ โดยที่แฟนของน้ำอิงเปิดประตูลงมาเรียกพวกเราให้ขึ้นรถคันนี้"เดินครับน้องๆ" พวกเราสามสาวก็พากันเดินไปเปิดประตูด้านหลังส่วนพี่ภูมิเขานั่งคู่กับคนขับ"โอเคครบแล้วออกรถเลยไอ้คราม" พออได้ยินชื่อของเพื่อนพี่ภูมิทำให้ใบตองเงยหน้ามองไปยังคนขับอย่างแปลกใจและไม่คาดคิด"น้ำอิงหิวไหมจจะให้ไอ้ครามแวะซื้อให้" พี่ภูมิถามน้ำอิงพอถูกถามเพื่อนก็่งสายตามาถามใบตองกับฟ้าว่าอยากจะกินมื้อดึกกันไหม พอพวกเราพยักหน้าเพราะรู้สึกถึงท้องที่ร้องก็รู้สึกหิวมื้อดึกขึ้นมากันเลย"ข้าวต้มหน้าปากซอยคอนโดแล้วกัน รบกวนพี่สีครามด้วยนะคะ" น้ำอิงเลือกร้านให้เสร็จสับ"ได้ครับ" ใบตองที่มองตรงไปด้านหน้าดันสบตาเข้ากับคนที่กำลังมองกระจกหลังพอดีโดยที่คนอื่นภายในรถต่างเงียบเหมือนจะหลับกันรอถึงร้านข้าวต้ม เขาจ้องตาฉันผ่านกระจกอยู่นานจนเป็นตัวฉันเองที่เบี่ยงเบนสายตาไปมองยังนอกรถเพื่อหลบสายตาของเขาวิวคูเมืองตอนกลางคืนก็สวยพาให้เพลิดเพลินไปเรื่อยกลบเกลื่อนอาการที่ตัวเองแสดงออกมาต่อหน้าเขา"ถึงแล้วไอ้ภูมิตื่น!" เสียงพี่สีครามช่วยปลุกทุกคนในรถให้รู้สึกตัวกัน
"ตกลงว่าอนุญาตไหมคะ" พี่ผู้หญิงที่เดินเข้มาให้เร่งให้ใบตองรีบตอบเธอ"เก้าอี้ยังว่างอยู่ก็เชิญนั่งเลยค่ะ" พอดีกับที่พนักงานเอาไว้ที่เธอกับพี่สีครามสั่งมาให้ เลยก้มหน้าก้มตากินข้าวอย่างตั้งใจโดยไม่ให้ความสนใจกับเพื่อนร่วมโต๊ะทั้งสองคนเห็นเป็นเพียงคนแปลกหน้าสำหรับเธอรีบกินแล้วออกจากบรรยากาศน่าอึดอัดตรงหน้าดีกว่า"ฮึกอ๊วก!" ไม่รู้ว่ารีบมากไปหน่อยหรือเปล่าทำให้ฉันสำลักอาหารที่กำลังกินอยู่"ใจเย็นใบตอง จะรีบอะไรขนาดนั้นไม่มีใครแย้งกินหรอก" เสียงดุปนขบขำของพี่สีครามทำเอาใบตองรู้สึกเขินอายขึ้นมาทันที เขายังมีน้ำใจย่นมือข้ามมาลูบหลังให้ฉันด้วย"ไม่ได้รีบ""ยังจะเถียงมาได้อาการชัดเจนขนาดนี้" พี่สีครามส่ายหน้าท่าทางอ่อนอกอ่อนใจกับใบตอง"สีครามพอดีกว่าพริมพึ่งคิดได้ว่ามีธุระต้องรีบไปทำตอนนี้เลย ขอตัวก่อนหน้าพรุ่งนี้เจอกัน" พี่ผู้หญิงที่มองใบตองอย่างขะหยักขะแหยงแสดงควมรังเกียงออกมาอย่างไม่เกร็งใจรีบลุกขึ้นพร้อมบอกลาพี่สีครามแล้วเดินออกไปทันที"อ้าวทีแรกทำท่าจะนั่งด้วยให้ได้ไหงรีบไปไม่กินอะไรก่อนเหรอ" พี่สีครามถามพี่ผู้หญิงคนนั้นอย่างหงุดงงไม่เข้าใจ"ไม่แล้ว" มองแล้วคาดการว่าเป็นเพราะฉันสำลักอาหาร
"นี่คือเหตุผลที่แม้กระทั้งโซเซียลพี่สีครามก็ไม่อัพเดรสอะไรเลยตลอดหลายปีที่ผ่านมา..." พอคิดว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาเจอกับความยากลำบากของชีวิตที่ถาโถมเอาใสคงไม่ใช่ว่าจุดเริ่มต้นของเขาเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่โดนฉันบอกเลิกหรอกนะ"นั้นก็ใช่ แต่ว่ามันมีอีกเหตุผลนึงที่ไม่อยากเล่นโซเซียล" พี่สีครามที่ได้ยินฉันพึมพำกับตัวเองก็เฉลยออกมา"อีกเหตุผลนึงคืออะไรพอบกได้ไหมคะ" เราสองคนมองสบตากันนิ่ง ฉันมองเขาอย่างรอคอยคำตอบส่วนเขาก็กระตุกยิ้มมุมปากก่อนจะเอ่ยบอก"เพราะใบตองยังไงล่ะ" พอได้รับคำตอบที่คาดการเอาไวว้ในใจก็ถึงกับหน้าเสียเพราะตนเองคนเป็นสิ่งที่เขาอยากจะลบออกไปแม้กระทั้งโลกโซเซียลก็ไม่เล่นเพราะไม่อยากจะเห็นแม้กระทั้งรูปถ่าย"ไม่ต้องทำหน้าเศร้าขนาดนั้นเลยครับ พี่ไม่ได้จะหมายความแบบที่ใบตองกำลังคิดอยู่แน่" สติเริ่มกับมาเมื่อเขาบอกว่าไม่ใช่เพราะตัวเองใบตองก็มีความโล่งใจเกินขึ้น"แล้วทำไม""เพราะคิดถึง" จากที่หน้าซีดฉันรู้สึกว่าใบหน้าเริ่มรู้สึกร้อนพร่าวและขึ้นสีแดงระรื่นแน่นอนตอนนี้"..." หาคำพูดมาต่อบทสนทนาของเราได้อีกต่อไปเลยทีนี้"เอ้าเงียบเลย แล้วใบตองไม่คิดถึงพี่บ้างเลยเหรอครับ" คำถามของเขาเหมือ
ข้อความถูกส่งเข้ามาหลายครั้ง ทำให้ฉันจำต้องวางปากกาที่จดสรุปลงไว้แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอ่านข้อความที่ถูกส่งเข้ามา"พี่มาถึงแล้ว" พร้อมทั้งรูปถ่ายใบหน้าหล่อเหลายิ้มแฉ่งนับสิบรูปถูกส่งเข้ามาในไลน์ไม่หยุด"โอเคค่ะเดียวใบตองลงไปนะ" เธอบอกเขาแล้วหยิบโทรศัพท์กับกระเป๋าสะตังค์เพราะว่าคิดจะแวะไปเซเว่นเพื่อซื้อของกินมาตุนเอาไว้ในตู้เย็นที่ของกินกำลังจะหมดลง"มาแล้วค่ะ รอนานไหม" ใบตองยิ้มให้คนตัวสูงที่เล่นเกมส์ในโทรศัพท์เช่นเดิมเพราะเขาวางเครื่องลงก็เห็นเกมส์ในหน้าจอแสดงอยู่ฉันถึงรู้"ไม่นานครับ พี่ซื้อทั้งข้าวทั้งขนมและของกินเล่นมาให้เราหลายอย่างเลยกินกันเถอะ" พี่สีครามเปิดข้าวกล่องให้ฉันแล้วเลื่อนมาตรงหน้า"ขอบคุณพี่สีครามมากนะคะ" ฉันยกมือไหว้ขอบคุณน้ำใจของเขา"ไม่เป็นไรครับ" เขาพยักหน้ารับ"แล้วค่าข้าวพวกนี้เท่าไหร่คะเดียวใบตองออกเงินช่วย""ไม่ต้องหรอกครับ ถือว่าพี่เลี้ยงแล้วกันมื้อนี้" พอเขาพูดมาแบบนี้ทำให้ฉันรู้สึกเกรงใจขึ้นมาเลย"ไม่เอาค่ะ ใบตองเกรงใจขอจ่ายตังค์ช่วยนะ" ฉันไม่ยอมแพ้และไม่อยากเอาเปรียบเอามากนัก"แต่พี่ไม่เอาครับเต็มใจเลี้ยง กินเถอะจะได้รีบขึ้นไปทำรายงานต่อยังไงล่ะ" เอาส่ายห
"อีกไม่นานก็จะได้รู้แล้วครับอดทนหน่อยนะ" พี่สีครามจับมือใบตองกระชับแล้วปล่อยกลับไปขับรถมองมือเหมือนเดิมเมื่อถึงแยกที่ต้องเลี้ยว"ตื่นเต้นจังเลยพี่สีคราม" บอกแฟนตัวเองเสียงสั้นอย่างควบคุมเอาไว้ไม่อยู่ไม่ต้องปล่อยให้ใบตองต้องตื่นเต้นนานเกินไปเพราะบ้านของคุณยายพี่สีครามที่เป็นมรดกให้กับคุณแม่ของเขาอยู่ไม่ไกลจากอำเภอเมืองนักถือว่าเข้าเมืองสะดวกไม่ได้ไกลเหมือนรีสอร์ทและไร่ของเขาที่เป็นธุรกิจของครอบครัวตอนนี้"ถึงแล้วครับใบตอง" พี่สีครามกดรีโมทเปิดรั้วบ้านแล้วเคลื่อนรถเข้าไปในรั้วบ้านจอดรถเอาไว้โรงรถที่มีรถยนต์สองคันสองเอาไว้อยู่ก่อนแล้ว"ค่ะ" ใบตองเอาแต่แอบแหล่ตามองสำรวจบ้านสองชั้นสไตล์ล้านนาประยุกต์ปรับปรุงขึ้นใหม่แต่ยังเหลือเค้าโครงเอกลักษณ์ให้ได้เห็นอยู่"เอ้าใบตองลงมาได้แล้วเรา" แฟนหนุ่มฉถดแขนดึงให้เธอลงจากรถ"ค่ะ" ใบตองเกรงเดินตามหลังพี่สีครามรู้สึกว่าตนเองขาสั้นจนเดินแทบไม่ไหว"คุณพ่อคุณแม่ครับ ผมพาแฟนมาแนะนำครับ" พี่สีครามจูงมือใบตองเดินเข้ามาในห้องรับแขกที่มีชายหญิงวัยกลางคนท่าทางน่าเกรงขามนั่งคุยกันรออยู่ในห้องรับแขก"อืม!" คุณพ่อหันมายิ้มบางๆ พร้อมพยักหน้ารับ"..." ส่วนคุณแม่เพี
เมื่อตอนเย็นพี่สีครามพาฉันไปหาข้าวเย็นกินในห้างดังในเมืองพอกินเสร็จก็เดินซื้อของก่อนที่เขาจะมาส่งที่หอ"พี่สีครามขับรถกลับคอนโดดีๆ นะคะ""ครับ แต่ว่าคืนนี้พี่มีนัดกับเพื่อนออกไปเที่ยวร้านเหล้านะ" ฉันไม่ได้บังคับให้เขารายงายอะไรตัวเอง ให้อิสระในการใช้ชีวิตเหมือนก่อนที่เราจะกลับมาเป็นแฟนกันได้ตามสบาย"ค่ะ พี่สีครามก็จะดื่มเยอะมากถ้าขับรถไม่ไหมก็เรียกรถจากแอปให้ไปรับนะมันอันตรายใบตองเป็นห่วง" พี่สีครามยิ้มรั้นฉันเข้าไปกอดแต่ไม่ต้องห่วงว่าจะดูประเจิดประเจ้อจนคนเอาไปนินทาเพราะว่าคนของเขาติดฟิล์มดำมืดมองเขามมาไม่เห็นข้างใน"ครับ แต่หอมแก้มพี่หน่อยสิ" เขาอ้อนฉันพร้อมกับยื่นแก้มเข้ามารอ"ฟอดฟอด""พอใจยังคะ" พอหอมเสร็จฉันก็ดันตัวออกจากออ้อมกอดของเขา"พอใจแล้วครับ" พี่สีครามยิ้มหน้าบานที่ได้สมใจเขาแล้ว"ถ้าอย่างนั้นใบตองไปแล้วนะบายบ่ายค่ะ" พอลากันแล้วเธอก็ออกจากในรถเดินเข้าหอตามปกติแต่ว่าอยู่ๆ เจมส์ก็เข้ามายืนขวางหน้าเอาไว้เสียก่อน"เจมส์!" ถึงเราจะไม่ได้คบกันแต่ก็ยังคุยๆ กันแต่ฉันดันลืมเขาไปได้หลังจากตกลงคบกับพี่สีครามเมื่อคืนไม่น่าเลยยัยใบตองสมองทึบเอ้ยเธอทำอะไรลงไปเนี้ย"ขอเจมส์คุยด้วยได้ไหม
"พอแล้วใบตองไม่ไหวแล้ว" หลังจากเสร็จสมกันแล้วอยู่ๆ สิ่งแปลกปลอมที่อยู่ในตัวเธอก็แข็งตัวขึ้นมาอีกครั้ง จากประสบการณ์เมื่อครู่สอนให้เธอรู้ว่าเขาต้องการมันอีกครั้ง"แต่พี่ยังไม่พอ" พี่สีครามซุกไซร์ดูดสองเต้าอย่างหลงไหลสร้างความเสียวให้กับฉันไม่หยุด"แต่ว่านี่เป็นครั้งแรกของใบตองมันไม่ไหวแล้วพี่สีคราม" ฉันจับหน้าหล่อหน่าที่เงยขึ้นมาสบตากันของเรา"อืมก็ได้ครับ" พอเห็นสีหน้าอ่อนล้าซีดเชียวของเธอทำให้เขายอมผละตัวออกแม้จะเสียดายก็ตาม"ไปอาบน้ำอุ่นล้างตัวแล้วเข้าไปนอนพักบนเตียงนุ่มๆ ดีกว่าครับ" พี่สีครามอุ้มใบตองเดินเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำแล้วพามานอนบนเตียงของเขาทำเพียงนอนกอดเอาไว้"นอนสักตื่นแล้วเดียวพี่สั่งอาหารเย็นมาให้กินรอบดึก" เขาจูบหน้าผากของฉัน ที่พยักหน้ารับไม่มีแรงแม้จะพูดคุยกับเขารู้สึกว่าครั้งแรกใช้พลังงานไปมากจนเกินไปแล้ว"ใบตองครับลุกขึ้นมากินอะไรหน่อยค่อยหลับต่อ" แรงเขย่าให้รู้สึกตัวจากเจ้าของเสียงอันคุ้นเคยปลุกให้เธอรู้สึกตัวตื่น"อื่อกี่โมงแล้วค่ะพี่สีคราม" พอตื่นเต็มตาเรื่องราวตั้งแต่ตอนเย็นจนถึงตอนี้ก็ไหลเข้ามาจนรู้สึกเขินอายที่เรามีอะไรกันครั้งแรก"สี่ทุ่มครับ ตอนเย็นกินน้อยล
"ใบตองคุยกับใครเหรอ" ตอนนี้ฉันกำลังนั่งกินสุกี้เป็นมื้อเย็นกับพี่สีครามหลังจากกลับมาจากเที่ยวร่วมเดือนแล้ววันนี้แรกว่าเป็นวันแรกในรอบเดือนที่ฉันได้เจอหน้าเขา"อ่อคนคุยค่ะ" ก็ในเมื่อฉันกับพี่สีครามเป็นแค่รุ่นพี่รุ่นน้องกันจะเลือกว่าคนคุยก็ไม่ชัดเจนขนาดเจมส์ที่เข้ามาจีบฉันตลอดเดือนกว่าๆ ที่ผ่านมาเลยด้วยซ้ำ"เดียวนะมีคนมาจีบใบตองเหรอ?" พี่สีครามถามเสียงขรึมมองมายังฉันดุๆ แต่ตัวฉันที่คิดว่าตนเองไม่ได้ทำอะไรผิดเลยไม่จำเป็นต้องเป็นฝ่ายหลบสายตาเขาเลยจ้องกับพร้อมพยักหน้าตอบรับ"ใช่ค่ะ เขาเรียนวิดวะปี2อายุเท่ากันจีบใบตองมาเดือนกว่าแล้วแต่เรายังไม่ได้ตกลงคบกันหรอกนะคะตอนนี้""แล้วเรื่องของเราละ" สีหน้าพี่สีครามแสดงออกว่าเขากำลังโกรธไม่พอใจกับสิ่งที่ฉันกำลังบอกเล่าให้เขาฟังด้วยท่าทีไม่เดือดร้อนอะไรเลยแบบนี้"อ่อเราสองคนก็เป็นรุ่นพี่รุ่นน้องตามที่พี่สีครามบอกอย่างไงละค่ะ""เลิกคุยกับมันซะ!" ใบตองสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ วางซ้อนรวบไว้ชามสุกี้แล้ว"ก็ใบตองโสดมีสิทธ์คุยกับใครก็ได้ไม่ได้ทำอะไรผิดชักหน่อย" พี่สีครามเหมือนคนกำลังระงับอารมณ์ที่กำลังเดือดดาลขึ้น"ไม่ผิดแต่ไม่ได้!" เขาจ้องเขม็งเหมือนจะเอาเรื
"แหม่ๆ กักเหรอเปล่าวะไอ้คราม" เพื่อนคนแรกของเขาแซวออกมา"ไอ้ครามแม้งตรงโว้ย!" เสียงเพื่อนคนที่สองของเขาพูดขึ้นตามมา"กูแม้งเดาถูกว่ะ" เพื่อนคนที่สามหันไปชกมือกับเพื่อนอีกคนของเขาพวกพี่ๆ ผู้ชายต่างเอ่ยปากแซวไม่หยุดกันอย่างคึกครื่นขึ้นมา แต่คนที่มีส่สนเกี่ยวข้องอย่างฉันกับรู้สึกอึดอัดขึ้นมาบ้าง"พวกมึงพอๆ ได้แล้วแยกย้ายไปทำกิจกรรมที่จองเอาไว้กันได้แล้ว" พี่สีครามบอกพร้อมกับผลักเพื่อนให้เลิกพูดแซวแล้วแยกย้ายกัน"เอ่อๆ ดูมันไล่พวกเราโว้ย" เพื่อนของพี่สีครามต่างโวยวายเสียงดังเหมือนกำลังแกล้งเขามากกว่าแล้วต่างแยกย้ายออกไปจากห้องอาหาร"ไปกันเถอะใบตอง" ฟ้าจับแขนฉันเขย่าเพื่อตามพวกพี่ๆ ไปเที่ยวในโปรแกรมต่อ"อือไปก็ไป" น้ำอิงกับฟ้าเดินไปพร้อมกับใบตองโดยไม่ได้พูดแซวแต่ก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไม่หยุดกิจกรรมแอดเวิร์นเจอร์ต่างๆ ที่มีให้ทำเช่นโหนสะลิงค์ลงจากที่สูง เป็นกิจกรรมที่ต้องใช้ความกล้าให้ความรู้สึกหวาดเสียวแต่ก็สนุกมากเช่นกันหลังจากเล่น พวกเรานอนค้างอีกหนึ่งคืนแล้วก็กลับไปยังมหาลัยแต่เช้าเพื่อให้ได้พักก่อนจะต้องกลับไปเรียนหอพัก"นั่งลงตั้งหลายชั่วโมงสุดท้ายก็ถึงห้องสักที" น้ำอิงพูดขึ้นพร้อมจะทิ
"กว่าจะมาได้นะครับเสี่ยคราม!" พี่สีครามเดินเข้ามาในชุดเดิมตอนออกไปทำงานเมื่อตอนบ่าย"โทษทีนะพวกมึงกว่าจะเสร็จมีปัญหานิดหน่อยดีที่แก้ไขแล้วเสร็จเร็ว" พวกเพื่อนของเขาพยักหน้ารับ"พวกกูแค่แซวมึงเฉยๆ เข้าใจมึงไปทำงานไม่ได้มาเที่ยวอย่างเดียวเหมือนพวกกูเป็นกำลังใจให้โว้ยเพื่อน!" เพื่อนคนหนึ่งของเขาตบบ่าให้กำลังใจขนาดที่เดินไปนั่งลงวงเหล้าของพวกผู้ชาย"เออๆ ขอบใจ มาๆ ตั้งเตากินดื่มกันได้เต็มที่เลย" เมื่อเจ้าภาพที่เป็นเจ้าของสถานที่พูดเปิดกลุ่มวัยรุ่นทั้งหลายก็เริ่มเปิดเหล้าพร้อมกับปิ้งย่างกันควันไฟลอยคลุ้งไปทั่วเพราะถูกจุดพร้อมๆ กันหลายเตาจากทีแรกที่เตาของพวกผู้หญิงมีแต่น้ำหวานก็ถูกแทนที่ด้วยแอลกอฮอร์จากต่างประเทศอย่างเช่นโซจูที่กำลังเป็นที่นิยมสำหรับคอซีรี่ย์เกาหลีมีให้เห็นจนอดไม่ได้ที่จะไปซื้อมาลิ้มลองกันอย่างแพร่หลาย"เอ้าชน!!!" เสียงเฮฮาของกลุ่มวัยรุ่นดังขึ้นจากทีแรกที่ใบตองและเพื่อนอีกสองคนแอบเกร็งเพราะอายุน้องที่สุดและไม่ได้เป็นเพื่อนร่วมคณะกันเหมือนพวกพี่เขาก็เริ่มคุ้นชินจนเข้ากันได้ดีทำให้เกิดบรรยากาศที่เต็มไปด้วยเสียงพูดคุยหัวเราะกัน"ฮึก!ไม่ไหวแล้วค่ะพี่มินพอก่อน" ใบตองยกมือขึ้นห้
"อือเริ่มรู้สึกดีแล้ว" ใบตองรับยาดมมาดมเองพอมือว่างจากการจับยาดมแล้วน้ำอิงก็ไม่อยู่เฉยมีการบีบนวดตามต้นคอบ่าไหล่ให้กับใบตอง"เอาดื่มน้ำหวานจะได้สดชื่น" พี่สีครามหายปแล้วกลับมาพร้อมน้ำหวานหนึ่งขวดให้ฉันดื่ม"ขอบคุณค่ะ" เขาพยักหน้ารับ"เอานี้กุญแจห้องพวกมึงส่วนค่าห้องจ่ายคนล่ะห้าสิบเปอร์เซ็นต์ตามที่ตกลงกันไว้นะโว้ย" พี่สีครามพูดขึ้นพร้อมกับแจกจ่ายให้กุญแจห้องพักให้กับเพื่อนของเขา"เอ่อขอบใจมากเพื่อน" มองดูแล้วก็นับคร่าวทั้งเพื่อนผู้ชายและผู้หญิงสิบคนได้ก็รถตั้งสี่คันคนย่อมเยอะเป็นธรรมดาแล้วคือเธอดันมาเมารถอยู่คนเดียวน่าขายหน้านัก ใบตองได้แต่ยิ้มเจือนตอบรับการทักทายของรุ่นพี่เพื่อนพี่สีคราม"ให้น้องไปพักเถอะสีครามดูหน้าไม่ค่อยจะไหวแล้วนะมึง" เพื่อนครหนึ่งของเขามองมายังฉันอย่างเห็นใจส่วนคนอื่นๆ ก็มีมองมาแต่หลากหลายอารมณ์ตามปะสาคนที่ไม่คุ้นเคยกันสักเท่าไหร่"เอ่อๆ พวกมึงแยกย้ายกันไปพักผ่อนแล้วถ้าอยากทำกิจกรรมอะไรก็มาบอกที่เคาท์เตอร์เดียวพวกเขาจัดโปรแกรมให้อันนี้กูสั่งไว้แล้วฟรีได้เลย""ขอบใจมากเสี่ยคราม" เพื่อนอีกคนของพี่สีครามแซวเขา ส่วนเจ้าตัวก็หยักไหล่แบบยอมรับแล้วพากันเดินไปยังห้องพักต
ข้อความถูกส่งเข้ามาหลายครั้ง ทำให้ฉันจำต้องวางปากกาที่จดสรุปลงไว้แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอ่านข้อความที่ถูกส่งเข้ามา"พี่มาถึงแล้ว" พร้อมทั้งรูปถ่ายใบหน้าหล่อเหลายิ้มแฉ่งนับสิบรูปถูกส่งเข้ามาในไลน์ไม่หยุด"โอเคค่ะเดียวใบตองลงไปนะ" เธอบอกเขาแล้วหยิบโทรศัพท์กับกระเป๋าสะตังค์เพราะว่าคิดจะแวะไปเซเว่นเพื่อซื้อของกินมาตุนเอาไว้ในตู้เย็นที่ของกินกำลังจะหมดลง"มาแล้วค่ะ รอนานไหม" ใบตองยิ้มให้คนตัวสูงที่เล่นเกมส์ในโทรศัพท์เช่นเดิมเพราะเขาวางเครื่องลงก็เห็นเกมส์ในหน้าจอแสดงอยู่ฉันถึงรู้"ไม่นานครับ พี่ซื้อทั้งข้าวทั้งขนมและของกินเล่นมาให้เราหลายอย่างเลยกินกันเถอะ" พี่สีครามเปิดข้าวกล่องให้ฉันแล้วเลื่อนมาตรงหน้า"ขอบคุณพี่สีครามมากนะคะ" ฉันยกมือไหว้ขอบคุณน้ำใจของเขา"ไม่เป็นไรครับ" เขาพยักหน้ารับ"แล้วค่าข้าวพวกนี้เท่าไหร่คะเดียวใบตองออกเงินช่วย""ไม่ต้องหรอกครับ ถือว่าพี่เลี้ยงแล้วกันมื้อนี้" พอเขาพูดมาแบบนี้ทำให้ฉันรู้สึกเกรงใจขึ้นมาเลย"ไม่เอาค่ะ ใบตองเกรงใจขอจ่ายตังค์ช่วยนะ" ฉันไม่ยอมแพ้และไม่อยากเอาเปรียบเอามากนัก"แต่พี่ไม่เอาครับเต็มใจเลี้ยง กินเถอะจะได้รีบขึ้นไปทำรายงานต่อยังไงล่ะ" เอาส่ายห
"นี่คือเหตุผลที่แม้กระทั้งโซเซียลพี่สีครามก็ไม่อัพเดรสอะไรเลยตลอดหลายปีที่ผ่านมา..." พอคิดว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาเจอกับความยากลำบากของชีวิตที่ถาโถมเอาใสคงไม่ใช่ว่าจุดเริ่มต้นของเขาเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่โดนฉันบอกเลิกหรอกนะ"นั้นก็ใช่ แต่ว่ามันมีอีกเหตุผลนึงที่ไม่อยากเล่นโซเซียล" พี่สีครามที่ได้ยินฉันพึมพำกับตัวเองก็เฉลยออกมา"อีกเหตุผลนึงคืออะไรพอบกได้ไหมคะ" เราสองคนมองสบตากันนิ่ง ฉันมองเขาอย่างรอคอยคำตอบส่วนเขาก็กระตุกยิ้มมุมปากก่อนจะเอ่ยบอก"เพราะใบตองยังไงล่ะ" พอได้รับคำตอบที่คาดการเอาไวว้ในใจก็ถึงกับหน้าเสียเพราะตนเองคนเป็นสิ่งที่เขาอยากจะลบออกไปแม้กระทั้งโลกโซเซียลก็ไม่เล่นเพราะไม่อยากจะเห็นแม้กระทั้งรูปถ่าย"ไม่ต้องทำหน้าเศร้าขนาดนั้นเลยครับ พี่ไม่ได้จะหมายความแบบที่ใบตองกำลังคิดอยู่แน่" สติเริ่มกับมาเมื่อเขาบอกว่าไม่ใช่เพราะตัวเองใบตองก็มีความโล่งใจเกินขึ้น"แล้วทำไม""เพราะคิดถึง" จากที่หน้าซีดฉันรู้สึกว่าใบหน้าเริ่มรู้สึกร้อนพร่าวและขึ้นสีแดงระรื่นแน่นอนตอนนี้"..." หาคำพูดมาต่อบทสนทนาของเราได้อีกต่อไปเลยทีนี้"เอ้าเงียบเลย แล้วใบตองไม่คิดถึงพี่บ้างเลยเหรอครับ" คำถามของเขาเหมือ