วันสปอร์ตเดย์
วันนี้รุ่นพี่นัดกันที่คณะแล้วเดินเข้าแถวไปยังสนามกีฬากลางของมหาลัยเพื่อรวมงานสปอร์ตที่งานนี่เป็นงานรับน้องรวมทุกคณะของปีหนึ่งโดยมีรุ่นพี่ฝ่ายกิจกรรมของแต่ละคณะมาคุมน้องในคณะของตนเองเพื่อดูแลให้เป็นระเบียบเรียบร้อย
"โอ๊ะใบตองทางนี้" น้ำอิงที่เดินเข้าแถวอยู่ข้างๆ หันมาร้องทักใบตองที่เป็นรูเมทกันอย่างดีใจถึงจะนอนอยู่ห้องเดียวกันแต่แทบไม่ได้เจอกันเลยต่างคนต่างเร่งรีบไปเข้าคณะในแต่ละวันเวลาก็ไม่ค่อยจะตรงกัน
"ไงน้ำอิง ไม่คิดเลยว่าคณะเราจะได้อยู่ใกล้กันนะเนี้ย" ใบตองยิ้มทักทายเพื่อนกลับ
"ใช่ไหมดีใจจังยิ่งถ้าได้นั่งบนอัฐจันใกล้กันตอนเลิกเราก็เดินกลับพร้อมกันได้เลยนะ"
"เอาแบบนั้นเหรอน้ำอิง" ยัยเพื่อนสาวพยักหน้าบอก
"ใช่ใบตอง"
"โอเคตามนั้น แต่ถ้าหากันไม่เจอให้ไปยืนรอที่ประตูทางออกตรงนู่นนะ" ใบตองมองประตูทางออกอีกฝั่งบอกชี้บอกน้ำอิงเป็นการนัดแนะกัน
"ได้เลยรับทราบจ้า"
"น้องๆ ครับเข้าไปได้แล้วครับขยับให้เป็นช่องไฟแล้วนั่งลงได้" พี่เฮดของคณะใบตองร้องบอกทำให้เราสองคนที่อยู่คนละคณะแยกไปตามที่รุ่นพี่แรกทันที
วันนี้มีกิจกรรมขึ้นนั่งบนอัฐจันแล้วก็มีการแสดงของเชียร์รีดเดอร์ประจำมหาลัยและเห็นว่าจบท้ายด้วยการแสดงคอนเสิร์ตจากนักร้องดังประดับประเทศที่เป็นศิษเก่าได้ว่ามาทำการแสดงให้เพื่อสร้างความสุขให้กับน้องๆ ปี1ได้ร้องเต้นล่อยผีกันเลย
ระหว่างวันก็มีแจกข้าวกล่องและน้ำดื่มให้กับทุกคนจากรุ่นพี่ที่คุมกิจกรรม กว่างานจะเลิกก็กินเวลาไปกว่าสี่ทุ่ม วันนี้หอพักให้เข้าได้จนถึงเที่ยงคืนกกันเลยทีเดียวคือว่าครูเวรที่ดูแลหอในหย่อนให้เป็นวันพิเศษ
"เพลงนี้จะเป็นเพลงสุดท้ายของคำคนนี้สำหรับปีนี้แล้วนะครับน้องๆ เอ้าขอให้ช่วยกันร้องดังๆ สุดเสียงไปเลยนะครับ" นักร้องนำพูดเชิญชวนให้ผู้ชมเข้าร่วมไปกับการแสดงสร้างความสนุกให้กับวัยรุ่นไฟแรงทั้งหลายออกสเต็ปกลางสนามหญ้าได้เต็มที่
หลังจบเพลงรุ่นพี่ก็เปิดประตูให้ออกไปจากกลางสนามได้แต่ต้องเดินต่อแถวกันให้มีระเบียบไม่เบียเสียดแย้งกันจนเกิดอุบัติเหตุเหยียบกันอย่างที่มีข่าวให้เห็นในสื่อต่างประเทศซึ่งอันตรายถึงชีวิตกันเลยทีเดียว
กว่าจะเดินตามกันที่ละนิดออกมาได้ใบตองก็มองหาน้ำอิงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแต่ไม่มีสัญญาณเพราะคนเกือบหมื่นในที่นี่ใช้พร้อมกันทำให้สัญญาณมันขาดหายไป
"ใบตองทางนี้จ้า!" น้ำอิงกระโดดขึ้นหยอนๆ พร้อมกับโบกมือขึ้นสูงให้ใบตองเห็นเพราะรอบข้างต่างเต็มไปด้วยเสียงคุยกันดังจนไม่รู้เรื่องไปหมด
"โอเค" ใบตองมองเห็นพอดีแล้วก้าวไปหาเพื่อนรูเมทพร้อมกับฟ้าที่อยู่หอเดียวกัน
พอเดินมาถึงตัวน้ำอิงก็เห็นว่าเธอไม่ได้ยืนอยู่คนเดียวแต่ตอนนี้กำลังยืนอยู่กับแฟนหนุ่มรุ่นพี่ของเธอที่ใส่เสื้อคณะเศรษฐศาสตร์เหมือนกัน
"ไงกลับกันเลยไหม" ใบตองถามน้ำอิง
"ใบตองมาแล้ว เค้าไปก่อนนะพี่ภูมิ" น้ำอิงหันไปบอกลาแฟนหนุ่มของเธอ
"เดียวเดินไปส่งมีแต่ผู้หญิงดึกแล้วมันอันตราย" พี่ภูมิบอกแล้วจับมือน้ำอิงเดินนำใบตองกับฟ้าที่ได้แต่มองหน้ากันพร้อมพยักหน้าให้กันเหมือนรู้กัน
"หวานมาก" ฟ้ากระซิบใบตอง
"นั้นสิเกินไปแล้วคนมีแฟนก็แบบนี้แหลเนอะ" ใบตองก็กระซิบกับฟ้า
"ได้ยินจ้า ไม่ต้องแอบนินทากันเลยพวกเธอสองคนหน่ะ" น้ำอิงหันหลังมาชี้หน้าอย่างคาดโทษใบตองกับฟ้า
"ฮ่าๆ ได้ยินด้วยเหรอหว่าโดนจับได้เลยเนอะใบตอง" ฟ้าหันมาหาพวกกับใบตอง
"เอ้าน้องทั้งสองคนังไม่มีแฟนเหรอครับ ไม่น่าเชื่อเท่าไหร่นะครับ" พี่ภูมิที่เริ่มจะคุ้นกันแล้วพูดขึ้นบ้าง
"โสดทั้งสองสาวเลยแหละตัวเอง แต่เค้าคิดว่าอีกไม่นานหรอกรับรองคนจีบเพียบดูหน้าเพื่อนเค้าแต่ละคนสวยขนาดนี้" น้ำอิงก็พูดเกินไปแล้วทำให้ใบตองรู้สึกเขินที่สภาพโทรมแบบนี้เพื่อนยังจะชมได้แบบไม่เกรงใจความกระเซิงที่เห็นตรงหน้ากันบ้างเลย
"เดียวชมขนาดนี้พรุ่งนี้กินอะไรจ๊ะ เดียวเจ้เลี้ยงเองเนอะฟ้า" ใบตองรีบพูดขึ้นอย่างหยอกล้อ
"โหใจปั้มมากเพื่อนสาวทั้งสองแบบนี้ต้องชมบ่อยๆ น้ำอิงจะได้อิ่มท้องจังตังอยู่ครบฮ่าๆ"
"งบประมาณมีให้ได้แค่เซเว่นกับโรงอาหารในมมอเท่านั้นนะน้ำอิง" ฟ้ารีบออกตัวเรื่องงบประมาณเลย
"ได้หมดโรงอาหารในมอก็อร่อยหลายร้านเดียวพาตะเวนกินมันทุกคณะเลย" ไกด์น้ำอิงอาสาทันทีเรื่องเที่ยวไว้ใจเธอคนนี้ได้เสมอ
"เดียวตัวเองจะเดินเลยไปไหนถึงประตูเข้าหอตัวเองแล้วนะ" พี่ภูมิที่เดินเงียบๆ พูดเพียงไม่กี่ประโยคดึงแฟนสาวตนเองเอาไว้ ทำให้ใบตองกับฟ้ารู้สึกตัวไปด้วยว่าพวกเราสามคนคุยกันเพลินจนเดินเลยหอพักไปแล้ว
"โอ้เพลินไปหน่อยเกือบต้องเดินกลับมาใหม่แล้ว" น้ำอิงพูดขึ้นคนแรกส่วนพวกเราอีกสองคนพยักหน้าเห็นด้วยเป็นไก่จิกเลย
"เดียวใบตองกับฟ้าขึ้นไปบนห้องก่อนนะ พี่ภูมิขอบคุณมากค่ะ" ใบตองกับฟ้ายกมือไหว้รุ่นพี่แฟนหนุ่มน้ำอิงแล้วพากันเดินเข้าไปในหอก่อนปล่อยให้คู่รักได้เอ่ยร่ำลากันลำพัง
ไม่รู้ว่าเพราะได้สัมผัสสิ่งแปลกใหม่ในชีวิตหรือเปล่าทำให้ใบตองไม่รู้ตัวเลยว่าตนเองทั้งทำกิจกรรมของคณะทั้งเรียนก็จะหมดหนึ่งปีการศึกษาแล้วเหลือสอบแค่หนึ่งสัปดาห์ก็จะได้ปิดเทอมแรกแล้ว
"น้ำอิงจะรอดไหมนะทำไมมันยากจังเลยใบตอง" รูเมทที่อ่านหนังสืออยู่โต๊ะข้างๆ ร้องขึ้นพร้อมกับทุบหน้าลงกับหนังสือเศรษฐศาสตร์ของเธออย่างสิ้นหวั
"เอาน่าทำเต็มทีแล้วจะกลัวอะไรคะแนนมิดเทอมน้ำอิงก็ผ่านมีนหมดทุกวิชายังไงก็รอดเอฟรอลุ้นเกรดเท่านั้นแหละสู้สิ" ใบตองปลอบและให้กำลังใจเพื่อนรูเมทของตนเอง ก้มหน้าอ่านสรุปที่ตนเองจดเอาไว้อย่างเพลินๆ
"ใช่มีใบตองขยันให้ดู น้ำอิงก็ต้องขยันให้ได้แบบใบตองสู้ค่ะ!" น้ำอิงปลุกใจตนเองแล้วก้มหน้าลงอ่านหนังสือต่อ
"เอ่อว่าจะชวนใบตองตอนเปิดเทอมขึ้นปีสองไปลองเข้าร้านเหล้าชื่อดังของจังหวัดไหม" อยู่ด้วยกันมาจะครบหนึ่งปีน้ำอิงรู้ว่าใบตองไม่ใช่สาวนักเที่ยวนักดื่มกลางคืนเหมือนวัยรุ่นทั่วไปแถมคบเพื่อนน้อยเห็นคบกันอยู่สองคนกับฟ้าตั้งแต่แรกจนปัจจุบัน
"เอ่อคือว่า..." ใบตองนิ่งคิดอย่างลังเล
"เปิดเทอมใบตองก็อายุ20ปีแล้วลองไปเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ดูกันไปนะ" น้ำอิงคนนี้เพื่อนเยอะเชียวแหละเท่าที่ใบตองรู้มา
"เอ่อก็ได้ลองไปเปิดหูเปิดตาดูบ้าง" ใบตองยอมตกลงไปเที่ยวกับเพื่อนรูเมทที่ชักชวนแกรมขอร้องเธอ
"เย้! เดียวน้ำอิงดูแลเองไม่ต้องเป็นห่วงนะใบตอง" น้ำอิงดีใจจนดูเกินหน้าเกินตาไปแล้ว
"แต่ตอนนี้เพื่อนน้ำอิงคงเป็นสาวนักท่องราตรีไม่ได้ทีเพราะต้องรีบอัดความรู้เอาไปสอบเยอะๆ แล้วนะ" ใบตองเพื่อนที่ทำสีหน้าดีดด๊าไม่เหมือนเมื่อกี้ที่ทำหน้าหมดอาลัยตายอยากบ่นไม่หยุด
"เฮ้อยัยใบตองทำไมเธอชอบดับฝันของฉันกันนะ" น้ำอิงทำหน้างอนใส่ใบตองแล้วถอดหายใจแรงใส่หนังสือเล่มโตตรงหน้าด้วยความท้อแท้อีกครั้ง
"สู้น้ำอิง" บอกตัวเองแล้วก็ก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือต่อ ท่าทางของเพื่อนรูเมททำให้ใบตองแอบขำด้วยความเอ็นดู
ในที่สุดฤดูกาลช่วงสอบของเด็กในมอก็จบลง นักศึกษาหลายคนที่พักหอในต่างทยอยขนกระเป๋าเพื่อกลับบ้านบางคนก็ขนของเยอะเพราะจะย้ายออกไปอยู่หอนอกมหาลัยในช่วงปีสอง ส่วนใครที่จะอยู่ตอแบบใบตองกับน้ำอิงก็ทำเรื่องยื่นกับครูเวรที่เฝ้าหอพักเพื่อจ่ายเงินมัดจำทำสัญญาเอาไว้จะได้ไม่ยุ่งยากตอนเปิดเทอมที่จะมีน้องปีหนึ่งมากมายเข้ามาพักรุ่นต่อไป
หลังจากทำสัญญาเช่าหอพักต่อีกหนึ่งปีเสร็จแล้วใบตองก็เลือกรถไปสนามบินเพื่อกลับกรุงเทพ"ไม่ให้ไปส่งจริงๆ เหรอใบตอง ของไม่เยอะน้ำอิงขับได้" ใบตองรีบส่ายหน้ารัวปฏิเสธรูเมทตีนผีของเธอเด็ดขาด"ไม่รบกวนน้ำอิงจะได้ไปหาพี่ภูมิไวๆ ไง ใบตองเรียกรถมาแล้วเดียวก็มาถ้ายกเลิกเดียวจะโดนคนขับโวยวายใส่เอาสิไม่ดีมั้ง" ใบตองรีบปฏิเสธน้ำอิงอย่างไม่ยอมแพ้"เฮ้อไม่ไปก็ไม่ไปถ้าอย่างนั้นน้ำอิงไปก่อนนะบายบ่ายเปิดเทอมเจอกันเพื่อน" น้ำอิงสะพายกระเป๋าเป้ใบเล็กเพราะเอารถยนต์ของที่้านมาขนของที่จำเป็นต้องนำกลับไปหมดแล้ว"อืมขับรถดีๆ บายบ่ายนะน้ำอิง" น้ำอิงเดินไปแล้วแต่ยังยกมือขึ้นโบกลาเธอส่วนฟ้าแม่มารับตั้งแต่เมื่อวานตอนเย็นแล้วเห็นว่าที่บ้านมีงานบุญต้องกลับไปช่วยงานเลยรีบกลับเลยหลังสอบเสร็จตัวสุดท้ายรอไม่นานนักรถที่เรียกผ่านแอปก็มาขับถึงหน้าหอ ใบตองขึ้นรถแล้วตรงไปยังสนามบินพอจ่ายเงินแล้วดูเวลายังเหลืออยู่ ใบตองคิดว่าควรไปหาซื้อของฝากไปฝากคุณยายและเพื่อนสนิททั้งสองที่อยู่กรุงเทพหน่อยดีกว่า"ระหว่างที่ก้มเลือกของกินในโซนโอท็อปของจังหวัดเชียงใหม่จังหวะที่เงยหน้าขึ้นเธอก็ได้สบตากับผู้ชายที่ไม่ได้เจอกันเกือบสี่ปียืนจ้อ
"แล้วหาเวลามีเจอกันใหม่ปิดเทอมหน้านะใบตอง" นัตตี้โบกมือลาเป็นคนแรกแล้วขึ้นรถที่คนขับรถมารับตามสบัดคุณหนู"อือบายนัตตี้แล้วเจอกันใหม่""รถเบลก็มาแล้วไปก่อนนะใบตอง ขับรถกลับดีๆ ละ" คนขับรถของเบลมาจอดเทียบหลังรถที่บ้านนัตตี้ขับออกไปแล้ว"เข้าใจแล้ว" ใบตองพยักหน้ายกมือโบกลาเพื่อนอีกคนหลังจากเพื่อนทั้งสองคนต่างแยกย้ายกันกลับใบตองเดินไปหารถที่ตนเองขับออกมาร้านคาเฟ่เองพอกลับถึงงบ้านก็เล่นกับเจ้าซาเปาซาแปงที่วิ่งมาหาเมื่อได้ยินเสียงใบตองเปิดประตูเข้ามาในบ้านพ่อแม่ยายของเธอคงจะอยู่สวนบนดาลฟ้านั้นแหละช่วงปิดเทอมนี้ใบตองก็มีนัดกับนัตตี้และเบลอีกสองสามครั้งและส่วนใหญ่ก็ใช้เวลากับครอบครัวกันจนเปิดเทอมได้เวลากลับเข้าสู่โหมดนักศึกษาอีกครั้ง"ตามสัญญาที่เราทำด้วยกันไว้ช่วงสอบลืมหรือยังใบตอง" น้ำอิงเอ่ยทวงสัญญาขึ้นมาดื้อๆ ในตอนเช้าของสัปดาห์ที่สองที่กลับมาเรียนปี2"สัญญาอะไรเหรอ" ใบตองรู้สึกว่าตนเองลืมเรื่องที่พูดกำลังทวงจริงๆ นั้นแหละ"อ้าวนี่ลืมจริงเหรอใบตอง!" น้ำอิงเดินเข้ามาใกล้โวยวายด้วยความฉุดจัดอย่างมีน้ำโห"กะก็ลืม..." ใบตองผงะถอยห่างเพื่อนรูเมทมาเกือบคืบด้วยความผิดที่เธอดันลืมเรื่องอะไรก็ไ
"มาแล้วๆ" รถยุโรปรุ่นใหม่ล่าสุดก็ขับเคลื่อนมาจอดข้างหน้าพวกเราสามคนที่ยืนรออยู่ โดยที่แฟนของน้ำอิงเปิดประตูลงมาเรียกพวกเราให้ขึ้นรถคันนี้"เดินครับน้องๆ" พวกเราสามสาวก็พากันเดินไปเปิดประตูด้านหลังส่วนพี่ภูมิเขานั่งคู่กับคนขับ"โอเคครบแล้วออกรถเลยไอ้คราม" พออได้ยินชื่อของเพื่อนพี่ภูมิทำให้ใบตองเงยหน้ามองไปยังคนขับอย่างแปลกใจและไม่คาดคิด"น้ำอิงหิวไหมจจะให้ไอ้ครามแวะซื้อให้" พี่ภูมิถามน้ำอิงพอถูกถามเพื่อนก็่งสายตามาถามใบตองกับฟ้าว่าอยากจะกินมื้อดึกกันไหม พอพวกเราพยักหน้าเพราะรู้สึกถึงท้องที่ร้องก็รู้สึกหิวมื้อดึกขึ้นมากันเลย"ข้าวต้มหน้าปากซอยคอนโดแล้วกัน รบกวนพี่สีครามด้วยนะคะ" น้ำอิงเลือกร้านให้เสร็จสับ"ได้ครับ" ใบตองที่มองตรงไปด้านหน้าดันสบตาเข้ากับคนที่กำลังมองกระจกหลังพอดีโดยที่คนอื่นภายในรถต่างเงียบเหมือนจะหลับกันรอถึงร้านข้าวต้ม เขาจ้องตาฉันผ่านกระจกอยู่นานจนเป็นตัวฉันเองที่เบี่ยงเบนสายตาไปมองยังนอกรถเพื่อหลบสายตาของเขาวิวคูเมืองตอนกลางคืนก็สวยพาให้เพลิดเพลินไปเรื่อยกลบเกลื่อนอาการที่ตัวเองแสดงออกมาต่อหน้าเขา"ถึงแล้วไอ้ภูมิตื่น!" เสียงพี่สีครามช่วยปลุกทุกคนในรถให้รู้สึกตัวกัน
"ตกลงว่าอนุญาตไหมคะ" พี่ผู้หญิงที่เดินเข้มาให้เร่งให้ใบตองรีบตอบเธอ"เก้าอี้ยังว่างอยู่ก็เชิญนั่งเลยค่ะ" พอดีกับที่พนักงานเอาไว้ที่เธอกับพี่สีครามสั่งมาให้ เลยก้มหน้าก้มตากินข้าวอย่างตั้งใจโดยไม่ให้ความสนใจกับเพื่อนร่วมโต๊ะทั้งสองคนเห็นเป็นเพียงคนแปลกหน้าสำหรับเธอรีบกินแล้วออกจากบรรยากาศน่าอึดอัดตรงหน้าดีกว่า"ฮึกอ๊วก!" ไม่รู้ว่ารีบมากไปหน่อยหรือเปล่าทำให้ฉันสำลักอาหารที่กำลังกินอยู่"ใจเย็นใบตอง จะรีบอะไรขนาดนั้นไม่มีใครแย้งกินหรอก" เสียงดุปนขบขำของพี่สีครามทำเอาใบตองรู้สึกเขินอายขึ้นมาทันที เขายังมีน้ำใจย่นมือข้ามมาลูบหลังให้ฉันด้วย"ไม่ได้รีบ""ยังจะเถียงมาได้อาการชัดเจนขนาดนี้" พี่สีครามส่ายหน้าท่าทางอ่อนอกอ่อนใจกับใบตอง"สีครามพอดีกว่าพริมพึ่งคิดได้ว่ามีธุระต้องรีบไปทำตอนนี้เลย ขอตัวก่อนหน้าพรุ่งนี้เจอกัน" พี่ผู้หญิงที่มองใบตองอย่างขะหยักขะแหยงแสดงควมรังเกียงออกมาอย่างไม่เกร็งใจรีบลุกขึ้นพร้อมบอกลาพี่สีครามแล้วเดินออกไปทันที"อ้าวทีแรกทำท่าจะนั่งด้วยให้ได้ไหงรีบไปไม่กินอะไรก่อนเหรอ" พี่สีครามถามพี่ผู้หญิงคนนั้นอย่างหงุดงงไม่เข้าใจ"ไม่แล้ว" มองแล้วคาดการว่าเป็นเพราะฉันสำลักอาหาร
"นี่คือเหตุผลที่แม้กระทั้งโซเซียลพี่สีครามก็ไม่อัพเดรสอะไรเลยตลอดหลายปีที่ผ่านมา..." พอคิดว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาเจอกับความยากลำบากของชีวิตที่ถาโถมเอาใสคงไม่ใช่ว่าจุดเริ่มต้นของเขาเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่โดนฉันบอกเลิกหรอกนะ"นั้นก็ใช่ แต่ว่ามันมีอีกเหตุผลนึงที่ไม่อยากเล่นโซเซียล" พี่สีครามที่ได้ยินฉันพึมพำกับตัวเองก็เฉลยออกมา"อีกเหตุผลนึงคืออะไรพอบกได้ไหมคะ" เราสองคนมองสบตากันนิ่ง ฉันมองเขาอย่างรอคอยคำตอบส่วนเขาก็กระตุกยิ้มมุมปากก่อนจะเอ่ยบอก"เพราะใบตองยังไงล่ะ" พอได้รับคำตอบที่คาดการเอาไวว้ในใจก็ถึงกับหน้าเสียเพราะตนเองคนเป็นสิ่งที่เขาอยากจะลบออกไปแม้กระทั้งโลกโซเซียลก็ไม่เล่นเพราะไม่อยากจะเห็นแม้กระทั้งรูปถ่าย"ไม่ต้องทำหน้าเศร้าขนาดนั้นเลยครับ พี่ไม่ได้จะหมายความแบบที่ใบตองกำลังคิดอยู่แน่" สติเริ่มกับมาเมื่อเขาบอกว่าไม่ใช่เพราะตัวเองใบตองก็มีความโล่งใจเกินขึ้น"แล้วทำไม""เพราะคิดถึง" จากที่หน้าซีดฉันรู้สึกว่าใบหน้าเริ่มรู้สึกร้อนพร่าวและขึ้นสีแดงระรื่นแน่นอนตอนนี้"..." หาคำพูดมาต่อบทสนทนาของเราได้อีกต่อไปเลยทีนี้"เอ้าเงียบเลย แล้วใบตองไม่คิดถึงพี่บ้างเลยเหรอครับ" คำถามของเขาเหมือ
ข้อความถูกส่งเข้ามาหลายครั้ง ทำให้ฉันจำต้องวางปากกาที่จดสรุปลงไว้แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอ่านข้อความที่ถูกส่งเข้ามา"พี่มาถึงแล้ว" พร้อมทั้งรูปถ่ายใบหน้าหล่อเหลายิ้มแฉ่งนับสิบรูปถูกส่งเข้ามาในไลน์ไม่หยุด"โอเคค่ะเดียวใบตองลงไปนะ" เธอบอกเขาแล้วหยิบโทรศัพท์กับกระเป๋าสะตังค์เพราะว่าคิดจะแวะไปเซเว่นเพื่อซื้อของกินมาตุนเอาไว้ในตู้เย็นที่ของกินกำลังจะหมดลง"มาแล้วค่ะ รอนานไหม" ใบตองยิ้มให้คนตัวสูงที่เล่นเกมส์ในโทรศัพท์เช่นเดิมเพราะเขาวางเครื่องลงก็เห็นเกมส์ในหน้าจอแสดงอยู่ฉันถึงรู้"ไม่นานครับ พี่ซื้อทั้งข้าวทั้งขนมและของกินเล่นมาให้เราหลายอย่างเลยกินกันเถอะ" พี่สีครามเปิดข้าวกล่องให้ฉันแล้วเลื่อนมาตรงหน้า"ขอบคุณพี่สีครามมากนะคะ" ฉันยกมือไหว้ขอบคุณน้ำใจของเขา"ไม่เป็นไรครับ" เขาพยักหน้ารับ"แล้วค่าข้าวพวกนี้เท่าไหร่คะเดียวใบตองออกเงินช่วย""ไม่ต้องหรอกครับ ถือว่าพี่เลี้ยงแล้วกันมื้อนี้" พอเขาพูดมาแบบนี้ทำให้ฉันรู้สึกเกรงใจขึ้นมาเลย"ไม่เอาค่ะ ใบตองเกรงใจขอจ่ายตังค์ช่วยนะ" ฉันไม่ยอมแพ้และไม่อยากเอาเปรียบเอามากนัก"แต่พี่ไม่เอาครับเต็มใจเลี้ยง กินเถอะจะได้รีบขึ้นไปทำรายงานต่อยังไงล่ะ" เอาส่ายห
"อือเริ่มรู้สึกดีแล้ว" ใบตองรับยาดมมาดมเองพอมือว่างจากการจับยาดมแล้วน้ำอิงก็ไม่อยู่เฉยมีการบีบนวดตามต้นคอบ่าไหล่ให้กับใบตอง"เอาดื่มน้ำหวานจะได้สดชื่น" พี่สีครามหายปแล้วกลับมาพร้อมน้ำหวานหนึ่งขวดให้ฉันดื่ม"ขอบคุณค่ะ" เขาพยักหน้ารับ"เอานี้กุญแจห้องพวกมึงส่วนค่าห้องจ่ายคนล่ะห้าสิบเปอร์เซ็นต์ตามที่ตกลงกันไว้นะโว้ย" พี่สีครามพูดขึ้นพร้อมกับแจกจ่ายให้กุญแจห้องพักให้กับเพื่อนของเขา"เอ่อขอบใจมากเพื่อน" มองดูแล้วก็นับคร่าวทั้งเพื่อนผู้ชายและผู้หญิงสิบคนได้ก็รถตั้งสี่คันคนย่อมเยอะเป็นธรรมดาแล้วคือเธอดันมาเมารถอยู่คนเดียวน่าขายหน้านัก ใบตองได้แต่ยิ้มเจือนตอบรับการทักทายของรุ่นพี่เพื่อนพี่สีคราม"ให้น้องไปพักเถอะสีครามดูหน้าไม่ค่อยจะไหวแล้วนะมึง" เพื่อนครหนึ่งของเขามองมายังฉันอย่างเห็นใจส่วนคนอื่นๆ ก็มีมองมาแต่หลากหลายอารมณ์ตามปะสาคนที่ไม่คุ้นเคยกันสักเท่าไหร่"เอ่อๆ พวกมึงแยกย้ายกันไปพักผ่อนแล้วถ้าอยากทำกิจกรรมอะไรก็มาบอกที่เคาท์เตอร์เดียวพวกเขาจัดโปรแกรมให้อันนี้กูสั่งไว้แล้วฟรีได้เลย""ขอบใจมากเสี่ยคราม" เพื่อนอีกคนของพี่สีครามแซวเขา ส่วนเจ้าตัวก็หยักไหล่แบบยอมรับแล้วพากันเดินไปยังห้องพักต
"กว่าจะมาได้นะครับเสี่ยคราม!" พี่สีครามเดินเข้ามาในชุดเดิมตอนออกไปทำงานเมื่อตอนบ่าย"โทษทีนะพวกมึงกว่าจะเสร็จมีปัญหานิดหน่อยดีที่แก้ไขแล้วเสร็จเร็ว" พวกเพื่อนของเขาพยักหน้ารับ"พวกกูแค่แซวมึงเฉยๆ เข้าใจมึงไปทำงานไม่ได้มาเที่ยวอย่างเดียวเหมือนพวกกูเป็นกำลังใจให้โว้ยเพื่อน!" เพื่อนคนหนึ่งของเขาตบบ่าให้กำลังใจขนาดที่เดินไปนั่งลงวงเหล้าของพวกผู้ชาย"เออๆ ขอบใจ มาๆ ตั้งเตากินดื่มกันได้เต็มที่เลย" เมื่อเจ้าภาพที่เป็นเจ้าของสถานที่พูดเปิดกลุ่มวัยรุ่นทั้งหลายก็เริ่มเปิดเหล้าพร้อมกับปิ้งย่างกันควันไฟลอยคลุ้งไปทั่วเพราะถูกจุดพร้อมๆ กันหลายเตาจากทีแรกที่เตาของพวกผู้หญิงมีแต่น้ำหวานก็ถูกแทนที่ด้วยแอลกอฮอร์จากต่างประเทศอย่างเช่นโซจูที่กำลังเป็นที่นิยมสำหรับคอซีรี่ย์เกาหลีมีให้เห็นจนอดไม่ได้ที่จะไปซื้อมาลิ้มลองกันอย่างแพร่หลาย"เอ้าชน!!!" เสียงเฮฮาของกลุ่มวัยรุ่นดังขึ้นจากทีแรกที่ใบตองและเพื่อนอีกสองคนแอบเกร็งเพราะอายุน้องที่สุดและไม่ได้เป็นเพื่อนร่วมคณะกันเหมือนพวกพี่เขาก็เริ่มคุ้นชินจนเข้ากันได้ดีทำให้เกิดบรรยากาศที่เต็มไปด้วยเสียงพูดคุยหัวเราะกัน"ฮึก!ไม่ไหวแล้วค่ะพี่มินพอก่อน" ใบตองยกมือขึ้นห้
"อีกไม่นานก็จะได้รู้แล้วครับอดทนหน่อยนะ" พี่สีครามจับมือใบตองกระชับแล้วปล่อยกลับไปขับรถมองมือเหมือนเดิมเมื่อถึงแยกที่ต้องเลี้ยว"ตื่นเต้นจังเลยพี่สีคราม" บอกแฟนตัวเองเสียงสั้นอย่างควบคุมเอาไว้ไม่อยู่ไม่ต้องปล่อยให้ใบตองต้องตื่นเต้นนานเกินไปเพราะบ้านของคุณยายพี่สีครามที่เป็นมรดกให้กับคุณแม่ของเขาอยู่ไม่ไกลจากอำเภอเมืองนักถือว่าเข้าเมืองสะดวกไม่ได้ไกลเหมือนรีสอร์ทและไร่ของเขาที่เป็นธุรกิจของครอบครัวตอนนี้"ถึงแล้วครับใบตอง" พี่สีครามกดรีโมทเปิดรั้วบ้านแล้วเคลื่อนรถเข้าไปในรั้วบ้านจอดรถเอาไว้โรงรถที่มีรถยนต์สองคันสองเอาไว้อยู่ก่อนแล้ว"ค่ะ" ใบตองเอาแต่แอบแหล่ตามองสำรวจบ้านสองชั้นสไตล์ล้านนาประยุกต์ปรับปรุงขึ้นใหม่แต่ยังเหลือเค้าโครงเอกลักษณ์ให้ได้เห็นอยู่"เอ้าใบตองลงมาได้แล้วเรา" แฟนหนุ่มฉถดแขนดึงให้เธอลงจากรถ"ค่ะ" ใบตองเกรงเดินตามหลังพี่สีครามรู้สึกว่าตนเองขาสั้นจนเดินแทบไม่ไหว"คุณพ่อคุณแม่ครับ ผมพาแฟนมาแนะนำครับ" พี่สีครามจูงมือใบตองเดินเข้ามาในห้องรับแขกที่มีชายหญิงวัยกลางคนท่าทางน่าเกรงขามนั่งคุยกันรออยู่ในห้องรับแขก"อืม!" คุณพ่อหันมายิ้มบางๆ พร้อมพยักหน้ารับ"..." ส่วนคุณแม่เพี
เมื่อตอนเย็นพี่สีครามพาฉันไปหาข้าวเย็นกินในห้างดังในเมืองพอกินเสร็จก็เดินซื้อของก่อนที่เขาจะมาส่งที่หอ"พี่สีครามขับรถกลับคอนโดดีๆ นะคะ""ครับ แต่ว่าคืนนี้พี่มีนัดกับเพื่อนออกไปเที่ยวร้านเหล้านะ" ฉันไม่ได้บังคับให้เขารายงายอะไรตัวเอง ให้อิสระในการใช้ชีวิตเหมือนก่อนที่เราจะกลับมาเป็นแฟนกันได้ตามสบาย"ค่ะ พี่สีครามก็จะดื่มเยอะมากถ้าขับรถไม่ไหมก็เรียกรถจากแอปให้ไปรับนะมันอันตรายใบตองเป็นห่วง" พี่สีครามยิ้มรั้นฉันเข้าไปกอดแต่ไม่ต้องห่วงว่าจะดูประเจิดประเจ้อจนคนเอาไปนินทาเพราะว่าคนของเขาติดฟิล์มดำมืดมองเขามมาไม่เห็นข้างใน"ครับ แต่หอมแก้มพี่หน่อยสิ" เขาอ้อนฉันพร้อมกับยื่นแก้มเข้ามารอ"ฟอดฟอด""พอใจยังคะ" พอหอมเสร็จฉันก็ดันตัวออกจากออ้อมกอดของเขา"พอใจแล้วครับ" พี่สีครามยิ้มหน้าบานที่ได้สมใจเขาแล้ว"ถ้าอย่างนั้นใบตองไปแล้วนะบายบ่ายค่ะ" พอลากันแล้วเธอก็ออกจากในรถเดินเข้าหอตามปกติแต่ว่าอยู่ๆ เจมส์ก็เข้ามายืนขวางหน้าเอาไว้เสียก่อน"เจมส์!" ถึงเราจะไม่ได้คบกันแต่ก็ยังคุยๆ กันแต่ฉันดันลืมเขาไปได้หลังจากตกลงคบกับพี่สีครามเมื่อคืนไม่น่าเลยยัยใบตองสมองทึบเอ้ยเธอทำอะไรลงไปเนี้ย"ขอเจมส์คุยด้วยได้ไหม
"พอแล้วใบตองไม่ไหวแล้ว" หลังจากเสร็จสมกันแล้วอยู่ๆ สิ่งแปลกปลอมที่อยู่ในตัวเธอก็แข็งตัวขึ้นมาอีกครั้ง จากประสบการณ์เมื่อครู่สอนให้เธอรู้ว่าเขาต้องการมันอีกครั้ง"แต่พี่ยังไม่พอ" พี่สีครามซุกไซร์ดูดสองเต้าอย่างหลงไหลสร้างความเสียวให้กับฉันไม่หยุด"แต่ว่านี่เป็นครั้งแรกของใบตองมันไม่ไหวแล้วพี่สีคราม" ฉันจับหน้าหล่อหน่าที่เงยขึ้นมาสบตากันของเรา"อืมก็ได้ครับ" พอเห็นสีหน้าอ่อนล้าซีดเชียวของเธอทำให้เขายอมผละตัวออกแม้จะเสียดายก็ตาม"ไปอาบน้ำอุ่นล้างตัวแล้วเข้าไปนอนพักบนเตียงนุ่มๆ ดีกว่าครับ" พี่สีครามอุ้มใบตองเดินเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำแล้วพามานอนบนเตียงของเขาทำเพียงนอนกอดเอาไว้"นอนสักตื่นแล้วเดียวพี่สั่งอาหารเย็นมาให้กินรอบดึก" เขาจูบหน้าผากของฉัน ที่พยักหน้ารับไม่มีแรงแม้จะพูดคุยกับเขารู้สึกว่าครั้งแรกใช้พลังงานไปมากจนเกินไปแล้ว"ใบตองครับลุกขึ้นมากินอะไรหน่อยค่อยหลับต่อ" แรงเขย่าให้รู้สึกตัวจากเจ้าของเสียงอันคุ้นเคยปลุกให้เธอรู้สึกตัวตื่น"อื่อกี่โมงแล้วค่ะพี่สีคราม" พอตื่นเต็มตาเรื่องราวตั้งแต่ตอนเย็นจนถึงตอนี้ก็ไหลเข้ามาจนรู้สึกเขินอายที่เรามีอะไรกันครั้งแรก"สี่ทุ่มครับ ตอนเย็นกินน้อยล
"ใบตองคุยกับใครเหรอ" ตอนนี้ฉันกำลังนั่งกินสุกี้เป็นมื้อเย็นกับพี่สีครามหลังจากกลับมาจากเที่ยวร่วมเดือนแล้ววันนี้แรกว่าเป็นวันแรกในรอบเดือนที่ฉันได้เจอหน้าเขา"อ่อคนคุยค่ะ" ก็ในเมื่อฉันกับพี่สีครามเป็นแค่รุ่นพี่รุ่นน้องกันจะเลือกว่าคนคุยก็ไม่ชัดเจนขนาดเจมส์ที่เข้ามาจีบฉันตลอดเดือนกว่าๆ ที่ผ่านมาเลยด้วยซ้ำ"เดียวนะมีคนมาจีบใบตองเหรอ?" พี่สีครามถามเสียงขรึมมองมายังฉันดุๆ แต่ตัวฉันที่คิดว่าตนเองไม่ได้ทำอะไรผิดเลยไม่จำเป็นต้องเป็นฝ่ายหลบสายตาเขาเลยจ้องกับพร้อมพยักหน้าตอบรับ"ใช่ค่ะ เขาเรียนวิดวะปี2อายุเท่ากันจีบใบตองมาเดือนกว่าแล้วแต่เรายังไม่ได้ตกลงคบกันหรอกนะคะตอนนี้""แล้วเรื่องของเราละ" สีหน้าพี่สีครามแสดงออกว่าเขากำลังโกรธไม่พอใจกับสิ่งที่ฉันกำลังบอกเล่าให้เขาฟังด้วยท่าทีไม่เดือดร้อนอะไรเลยแบบนี้"อ่อเราสองคนก็เป็นรุ่นพี่รุ่นน้องตามที่พี่สีครามบอกอย่างไงละค่ะ""เลิกคุยกับมันซะ!" ใบตองสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ วางซ้อนรวบไว้ชามสุกี้แล้ว"ก็ใบตองโสดมีสิทธ์คุยกับใครก็ได้ไม่ได้ทำอะไรผิดชักหน่อย" พี่สีครามเหมือนคนกำลังระงับอารมณ์ที่กำลังเดือดดาลขึ้น"ไม่ผิดแต่ไม่ได้!" เขาจ้องเขม็งเหมือนจะเอาเรื
"แหม่ๆ กักเหรอเปล่าวะไอ้คราม" เพื่อนคนแรกของเขาแซวออกมา"ไอ้ครามแม้งตรงโว้ย!" เสียงเพื่อนคนที่สองของเขาพูดขึ้นตามมา"กูแม้งเดาถูกว่ะ" เพื่อนคนที่สามหันไปชกมือกับเพื่อนอีกคนของเขาพวกพี่ๆ ผู้ชายต่างเอ่ยปากแซวไม่หยุดกันอย่างคึกครื่นขึ้นมา แต่คนที่มีส่สนเกี่ยวข้องอย่างฉันกับรู้สึกอึดอัดขึ้นมาบ้าง"พวกมึงพอๆ ได้แล้วแยกย้ายไปทำกิจกรรมที่จองเอาไว้กันได้แล้ว" พี่สีครามบอกพร้อมกับผลักเพื่อนให้เลิกพูดแซวแล้วแยกย้ายกัน"เอ่อๆ ดูมันไล่พวกเราโว้ย" เพื่อนของพี่สีครามต่างโวยวายเสียงดังเหมือนกำลังแกล้งเขามากกว่าแล้วต่างแยกย้ายออกไปจากห้องอาหาร"ไปกันเถอะใบตอง" ฟ้าจับแขนฉันเขย่าเพื่อตามพวกพี่ๆ ไปเที่ยวในโปรแกรมต่อ"อือไปก็ไป" น้ำอิงกับฟ้าเดินไปพร้อมกับใบตองโดยไม่ได้พูดแซวแต่ก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไม่หยุดกิจกรรมแอดเวิร์นเจอร์ต่างๆ ที่มีให้ทำเช่นโหนสะลิงค์ลงจากที่สูง เป็นกิจกรรมที่ต้องใช้ความกล้าให้ความรู้สึกหวาดเสียวแต่ก็สนุกมากเช่นกันหลังจากเล่น พวกเรานอนค้างอีกหนึ่งคืนแล้วก็กลับไปยังมหาลัยแต่เช้าเพื่อให้ได้พักก่อนจะต้องกลับไปเรียนหอพัก"นั่งลงตั้งหลายชั่วโมงสุดท้ายก็ถึงห้องสักที" น้ำอิงพูดขึ้นพร้อมจะทิ
"กว่าจะมาได้นะครับเสี่ยคราม!" พี่สีครามเดินเข้ามาในชุดเดิมตอนออกไปทำงานเมื่อตอนบ่าย"โทษทีนะพวกมึงกว่าจะเสร็จมีปัญหานิดหน่อยดีที่แก้ไขแล้วเสร็จเร็ว" พวกเพื่อนของเขาพยักหน้ารับ"พวกกูแค่แซวมึงเฉยๆ เข้าใจมึงไปทำงานไม่ได้มาเที่ยวอย่างเดียวเหมือนพวกกูเป็นกำลังใจให้โว้ยเพื่อน!" เพื่อนคนหนึ่งของเขาตบบ่าให้กำลังใจขนาดที่เดินไปนั่งลงวงเหล้าของพวกผู้ชาย"เออๆ ขอบใจ มาๆ ตั้งเตากินดื่มกันได้เต็มที่เลย" เมื่อเจ้าภาพที่เป็นเจ้าของสถานที่พูดเปิดกลุ่มวัยรุ่นทั้งหลายก็เริ่มเปิดเหล้าพร้อมกับปิ้งย่างกันควันไฟลอยคลุ้งไปทั่วเพราะถูกจุดพร้อมๆ กันหลายเตาจากทีแรกที่เตาของพวกผู้หญิงมีแต่น้ำหวานก็ถูกแทนที่ด้วยแอลกอฮอร์จากต่างประเทศอย่างเช่นโซจูที่กำลังเป็นที่นิยมสำหรับคอซีรี่ย์เกาหลีมีให้เห็นจนอดไม่ได้ที่จะไปซื้อมาลิ้มลองกันอย่างแพร่หลาย"เอ้าชน!!!" เสียงเฮฮาของกลุ่มวัยรุ่นดังขึ้นจากทีแรกที่ใบตองและเพื่อนอีกสองคนแอบเกร็งเพราะอายุน้องที่สุดและไม่ได้เป็นเพื่อนร่วมคณะกันเหมือนพวกพี่เขาก็เริ่มคุ้นชินจนเข้ากันได้ดีทำให้เกิดบรรยากาศที่เต็มไปด้วยเสียงพูดคุยหัวเราะกัน"ฮึก!ไม่ไหวแล้วค่ะพี่มินพอก่อน" ใบตองยกมือขึ้นห้
"อือเริ่มรู้สึกดีแล้ว" ใบตองรับยาดมมาดมเองพอมือว่างจากการจับยาดมแล้วน้ำอิงก็ไม่อยู่เฉยมีการบีบนวดตามต้นคอบ่าไหล่ให้กับใบตอง"เอาดื่มน้ำหวานจะได้สดชื่น" พี่สีครามหายปแล้วกลับมาพร้อมน้ำหวานหนึ่งขวดให้ฉันดื่ม"ขอบคุณค่ะ" เขาพยักหน้ารับ"เอานี้กุญแจห้องพวกมึงส่วนค่าห้องจ่ายคนล่ะห้าสิบเปอร์เซ็นต์ตามที่ตกลงกันไว้นะโว้ย" พี่สีครามพูดขึ้นพร้อมกับแจกจ่ายให้กุญแจห้องพักให้กับเพื่อนของเขา"เอ่อขอบใจมากเพื่อน" มองดูแล้วก็นับคร่าวทั้งเพื่อนผู้ชายและผู้หญิงสิบคนได้ก็รถตั้งสี่คันคนย่อมเยอะเป็นธรรมดาแล้วคือเธอดันมาเมารถอยู่คนเดียวน่าขายหน้านัก ใบตองได้แต่ยิ้มเจือนตอบรับการทักทายของรุ่นพี่เพื่อนพี่สีคราม"ให้น้องไปพักเถอะสีครามดูหน้าไม่ค่อยจะไหวแล้วนะมึง" เพื่อนครหนึ่งของเขามองมายังฉันอย่างเห็นใจส่วนคนอื่นๆ ก็มีมองมาแต่หลากหลายอารมณ์ตามปะสาคนที่ไม่คุ้นเคยกันสักเท่าไหร่"เอ่อๆ พวกมึงแยกย้ายกันไปพักผ่อนแล้วถ้าอยากทำกิจกรรมอะไรก็มาบอกที่เคาท์เตอร์เดียวพวกเขาจัดโปรแกรมให้อันนี้กูสั่งไว้แล้วฟรีได้เลย""ขอบใจมากเสี่ยคราม" เพื่อนอีกคนของพี่สีครามแซวเขา ส่วนเจ้าตัวก็หยักไหล่แบบยอมรับแล้วพากันเดินไปยังห้องพักต
ข้อความถูกส่งเข้ามาหลายครั้ง ทำให้ฉันจำต้องวางปากกาที่จดสรุปลงไว้แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอ่านข้อความที่ถูกส่งเข้ามา"พี่มาถึงแล้ว" พร้อมทั้งรูปถ่ายใบหน้าหล่อเหลายิ้มแฉ่งนับสิบรูปถูกส่งเข้ามาในไลน์ไม่หยุด"โอเคค่ะเดียวใบตองลงไปนะ" เธอบอกเขาแล้วหยิบโทรศัพท์กับกระเป๋าสะตังค์เพราะว่าคิดจะแวะไปเซเว่นเพื่อซื้อของกินมาตุนเอาไว้ในตู้เย็นที่ของกินกำลังจะหมดลง"มาแล้วค่ะ รอนานไหม" ใบตองยิ้มให้คนตัวสูงที่เล่นเกมส์ในโทรศัพท์เช่นเดิมเพราะเขาวางเครื่องลงก็เห็นเกมส์ในหน้าจอแสดงอยู่ฉันถึงรู้"ไม่นานครับ พี่ซื้อทั้งข้าวทั้งขนมและของกินเล่นมาให้เราหลายอย่างเลยกินกันเถอะ" พี่สีครามเปิดข้าวกล่องให้ฉันแล้วเลื่อนมาตรงหน้า"ขอบคุณพี่สีครามมากนะคะ" ฉันยกมือไหว้ขอบคุณน้ำใจของเขา"ไม่เป็นไรครับ" เขาพยักหน้ารับ"แล้วค่าข้าวพวกนี้เท่าไหร่คะเดียวใบตองออกเงินช่วย""ไม่ต้องหรอกครับ ถือว่าพี่เลี้ยงแล้วกันมื้อนี้" พอเขาพูดมาแบบนี้ทำให้ฉันรู้สึกเกรงใจขึ้นมาเลย"ไม่เอาค่ะ ใบตองเกรงใจขอจ่ายตังค์ช่วยนะ" ฉันไม่ยอมแพ้และไม่อยากเอาเปรียบเอามากนัก"แต่พี่ไม่เอาครับเต็มใจเลี้ยง กินเถอะจะได้รีบขึ้นไปทำรายงานต่อยังไงล่ะ" เอาส่ายห
"นี่คือเหตุผลที่แม้กระทั้งโซเซียลพี่สีครามก็ไม่อัพเดรสอะไรเลยตลอดหลายปีที่ผ่านมา..." พอคิดว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาเจอกับความยากลำบากของชีวิตที่ถาโถมเอาใสคงไม่ใช่ว่าจุดเริ่มต้นของเขาเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่โดนฉันบอกเลิกหรอกนะ"นั้นก็ใช่ แต่ว่ามันมีอีกเหตุผลนึงที่ไม่อยากเล่นโซเซียล" พี่สีครามที่ได้ยินฉันพึมพำกับตัวเองก็เฉลยออกมา"อีกเหตุผลนึงคืออะไรพอบกได้ไหมคะ" เราสองคนมองสบตากันนิ่ง ฉันมองเขาอย่างรอคอยคำตอบส่วนเขาก็กระตุกยิ้มมุมปากก่อนจะเอ่ยบอก"เพราะใบตองยังไงล่ะ" พอได้รับคำตอบที่คาดการเอาไวว้ในใจก็ถึงกับหน้าเสียเพราะตนเองคนเป็นสิ่งที่เขาอยากจะลบออกไปแม้กระทั้งโลกโซเซียลก็ไม่เล่นเพราะไม่อยากจะเห็นแม้กระทั้งรูปถ่าย"ไม่ต้องทำหน้าเศร้าขนาดนั้นเลยครับ พี่ไม่ได้จะหมายความแบบที่ใบตองกำลังคิดอยู่แน่" สติเริ่มกับมาเมื่อเขาบอกว่าไม่ใช่เพราะตัวเองใบตองก็มีความโล่งใจเกินขึ้น"แล้วทำไม""เพราะคิดถึง" จากที่หน้าซีดฉันรู้สึกว่าใบหน้าเริ่มรู้สึกร้อนพร่าวและขึ้นสีแดงระรื่นแน่นอนตอนนี้"..." หาคำพูดมาต่อบทสนทนาของเราได้อีกต่อไปเลยทีนี้"เอ้าเงียบเลย แล้วใบตองไม่คิดถึงพี่บ้างเลยเหรอครับ" คำถามของเขาเหมือ