"ผมขอตัวกลับบ้านก่อนนะครับคุณยาย สวัสดีครับ" พี่สีครามเดินลงมาถึงชั้นล่างพร้อมกับในมือถือกล่องใส่มะเขือเทศสดที่เราช่วยกันเก็บ
"อ้าวจะไม่กินข้าวเย็นด้วยกันก่อนเหรอลูก"
"คือว่าที่บ้านผมส่งข้อความมาเร่งแล้วครับ สงสัยจะมีธุระ" พี่สีครามบอกกับคุณยายแบบนั้นแล้วท่านก็ยิ้มรับพยักหน้าเข้าใจ
"ใบตองเดินไปส่งพี่เขาไปลูก" หลังจากร่ำลาคุณยายของเธอเรียบบร้อยแล้วก็เดินออกมาหน้าบ้าน
"พี่สีครามอย่าขับรถเร็วนักนะ ถึงบ้านแล้วโทรหาใบตองด้วย" พี่สีครามถอยรถออกไปจอดหน้ารั้วบ้านเรียบร้อย เดินเข้ามาใกล้เธอแล้วยกมือขึ้นลูบหัวใบตอง
"รับทราบครับใบตอง เราก็เข้าบ้านได้แล้วล็อกประตูให้แน่นหนาเดียวพี่ยืนรอส่งเราเข้าไปในบ้านเรียบร้อยค่อยออกรถ" เขาจับตัวเธอหันหน้าเข้าไปในรั้วบ้านแล้วดันหลังให้ออกเดิน
"ก็ได้ค่ะ" ใบตองปิดประตูรั้วบ้านล็อกเรียบร้อยแล้ว หันกลับไปมองพี่สีครามที่ชี้นิ้วสั่งให้เข้าไปภายในบ้านก็พยักหน้ายิ้มโบกมือลาเขาก่อนจะแยกย้ายกัน
ไม่นานก็ได้ยินเสียงรถบิ๊กไบค์เร่งเครื่องออกไปจากภายในซอยบ้าน ใบตองพร้อมกับเจ้าชาเปาชาแปงออกวิ่งแข่งกันไปยังโต๊ะอาหาร
"ไม่ต้องรีบร้อยก็ได้ลูกไม่มีใครแย้งหรอก พวกแกด้วยชาเปาชาแปงอาหารอยู่ในครัวไปเลย" คุณยายชี้นิ้วสั่งสุนัขกับแมวให้ไปกินอาหารที่ประจำเป็นเวลาของทุกวันอย่างคุ้นชิน
"คุณยายขาว่าพี่สีครามเป็นอย่างไงบ้างโอเคไหมคะ" ระหว่างกินข้าวเธอก็ถามเรื่องพี่สีครามในสายตาของคุณยาย
"ยายก็ยังไม่แน่ใจ ต้องดูกันอีกสักพักก่อนส่วนใบตองก็ยังเด็กนะลูกต้องคอยศึกษาเรียนรู้กันไปเรื่อยๆ ก่อนก็แล้วกัน" คุณยายสั่งสอนใบตองแต่ก็ให้อิสระท่านไม่ได้ห้ามว่ายังเด็กอยู่นะไม่สมควรจะรีบมีแฟน ทั้งๆ ที่ท่านจะเอ่ยปากห้ามก็ทำได้แต่ไม่คิดจะทำหรือขัดขวางความต้องการของหลานสาว ปล่อยให้เธอเรียนรู้ไปด้วยตนเอง
"ค่ะคุณยาย ถ้ามีเรื่องอะไรใบตองจะขอคำปรึกษาคุณยายแน่นอน"
"ถึงยายจะแก่แล้ว แต่เรื่องนี้ก็ตามใจวัยรุ่นเลยลูกฮ่าๆ"
"เราสองคนก็วัยรุ่นเหมือนกันนั่นแหละค่ะ คุณยายยังสาวอยู่เลยไม่เห็นจะแก่ตรงไหน" บรรยากาศพูดคุยหยอกล้อกันของเธอกับคุณยายและเสียงหมาแมวเพื่อนชี้ต่างสายพันธุ์ดังแข่งกันทำให้บรรยากาศภายในบ้านที่อยู่เพียงสองคนไม่รู้สึกเงียบเหงาเลยสักนิด
"ชมขนาดนี้ต้องเพิ่มค่าขนมให้พรุ่งนี้แล้วมั้งพูดดีฮ่าๆ"
"จริงนะคะคุณยาย!"
"โฮ่ง!"
"เหมี่ยว!"
"อะไรกัน ยายบอกว่าจะเพิ่มให้พี่ใบตองเขาต่างหาก ไม่รวมชาเปากับชาแปงเสียหน่อยนะพวกเราสองตัวอย่างมาเนียน" เจ้าลูกหมาลูกแมวสงสัยกินอาหารอิ่มแล้วเลยวิ่งเข้ามาอ้อนอยู่ใต้โต๊ะกินข้าวอย่างนี้
ภายในห้องนอน
'ว้าวห้องนอนพี่สีครามกว้างจังเลยค่ะ' หลังจากกินข้าวเสร็จวันนี้ไม่มีละครหลังข่าวเรื่องโปรดเราสองยายหลานเลยแยกย้ายเข้านอนกันแต่หัวค่ำไม่ดึกอย่างเมื่อคืน เธอเลยตอบแชทพี่สีครามแล้วเขาก็ขอวิดีโอคลอเพราะกำลังทำการบ้านด้วย
'อยากมาเห็นด้วยตาจริงๆ ไหมล่ะครับ' ใบหน้าหล่อตี๋ขาวใสเงยหน้าจากแท็บเล็ตที่กำลังพิมพ์งานอยู่ เผยรอยยิ้มที่ดูร้ายๆ ส่งผ่านหน้าจอมาให้ดู
'นี่จะล่อลวงหนูเหรอคะ' ใบตองชี้นิ้วคาดโทษเขาเอาไว้อย่างดุ
'เปล่านะครับ พี่ไม่ได้หมายความไปทางนั้นซะหน่อยคิดไปถึงไหนเนี้ยเด็กแก่แดด' โหดูสีหน้าเจ้าเล่ห์ของเขาผ่านจอไอแพดก็รู้แล้วไหม
'ไม่ได้คิด พี่สีครามนั่นแหละจุดประเด็นเลย ใบตองไม่ได้ผิดซะหน่อยนะ!' จากที่คุยมุ้งมิ้งกันจะสองชั่วโมงไปๆ มาๆ ไหนเลยเหมือนจะกำลังชวนทะเลาะกันไปได้นี่เหรอคนเป็นแฟนกัน
'อ่าชิบ...โอเคครับพี่ผิดเองอย่าโกรธเลยนะเธอ' พี่สีครามยกนิ้วก้อยขึ้นมาง้ออ้อนเธอผ่านหน้าจอสีหน้าเจือความกังวล
'เฮ้อ...ให้อภัยก็ได้ค่ะ' พอเห็นสีหน้าหงอยๆ ของเขาทำให้เธอหลุดยิ้มออกมา
'นี่เราแกล้งงอนพี่เหรอครับ เดี๋ยวเถอะพรุ่งนี้จะโดนเอาคืนไม่ใช่หน่อย'
'พอเลยพี่สีครามไปทำงานต่อให้เสร็จแล้วเข้านอนกันเถอะ' พอเหลือบดูเวลาก็ดึกแล้วพรุ่งนี้ก็ยังต้องตื่นเช้าไปเรียนกันเลยต้องจำใจตัดบทสนทนาในคืนนี้ระหว่างเราสองคน
"เอ่อจริงด้วยเกือบจะเที่ยงคืนแล้ว ถ้าอย่างนั้นก็แยกย้ายกันครับ ฝันดีครับ'
'ฝันดีค่ะพี่สีคราม' หลังจากคุยกันเพลินเราสองคนก็แยกย้ายกันเข้านอน ใบหน้าของเธอยิ้มกว้างอย่างมีความสุขสงสัยคืนนี้ต้องฝันดีมากๆ แน่
หลังจากวันนั้นก็ผ่านเวลามาจนถึงช่วงสอบปลายภาคเพื่อจบปีการศึกษาและพี่สีครามก็จบม.6ต้องขึ้นมหาลัยแล้วพวกเราอาจจะไม่ค่อยได้เจอหน้ากันทุกวันหรืออยู่ด้วยกันทุกเย็นเหมือนที่ผ่านมาอีก เขาอาจจะไม่ว่างมารับเธอไปส่งโรงเรียนตอนเช้าอย่างเคยเหมือนที่ผ่านมาที่เราเรียนที่เดียวกันอีกแล้ว
"อ้าวเพื่อนสาวทำไมทำหน้าเศร้าจัง" นัทตี้ทักขึ้นในเช้าวันสอบวิชาสุดท้ายของพวกเราสามคนในเทอมนี้
"นั้นสิเป็นอะไรไปหรือทำข้อสอบไม่ได้ แต่ว่าไม่น่าจะใช่เหตุผลนั้นระดับท็อปหนึ่งในสามของชั้นปีแบบแกเนี้ยนะจะทำไม่ได้อมยิ้มมาพูดก็ไม่เชื่อจ้า" เบลพูดพร้อมกับทำไม้ทำมือออกท่าทางประกอบอย่างโอเว่อร์
"ก็ไม่ใช่เรื่องสอบ แต่เป็นอีกเรื่อง..." ใบตองเท้าคางกับโต๊ะม้าหินอ่อนหน้าตึกที่ต้องเข้าสอบ ย้นหน้าถอดหายใจ
"เดี๋ยวๆ เบลจ๋าเบลเพื่อนรักภาษาไทยเขาพูดว่าอมพระมาพูดไม่ใช่เหรอแก ไปเอาคำว่าอมยิ้มมาพูดจากไหนคุณหมวยอินเตอร์" เบลหันหน้าไปเวี่ยงใส่นัทตี้ที่ชอบจี้จุดเวลาเธอพูดสำนวนสุภาษิตไทยผิดหลัก
"โอ้ย!แกจะมาสนใจอะไรกับอมยิ้มมาพูดเอาอะไรกับฉันทำไมหะนัทตี้ นู้นทางซ้ายมือเพื่อนรักของเราจะเฉาตายอยู่ลอมล้อไหมนั้นเอ้าๆ ยิ่งพูดยิ่งแบะปากอย่ามาร้องไห้อยู่ตรงนี้นะ! เดียวคนได้เอาแกไปเมาส์ทั้งชั้นว่าแกทำข้อสอบไม่ได้หรอกใบตอง!" เบลจับตัวเธอให้ลุกขึ้นนั่งหลังตรงดีๆ
"ตกลงมีเรื่องอะไรไหนเล่ามาซิ" สองสาวเพื่อนรักหันมาจี้จะเอาคำตอบจากเธอ สายตาคาดคั้นว่าจะไม่ยอมปล่อย่านจนกว่าจะได้รับรู้เรื่อง
"เอ่อรู้แล้วๆ ใบตองทะเลาะกับพี่สีครามมาเหรอ" นัทตี้ถามสีหน้าเห็นใจและห่วงใยส่งมาให้เธอ
"จริงดิ๊ จะบ้าเหรอนัทตี้เมื่อตอนกลางวันพวกเราก็พึ่งกินข้าวเที่ยงพร้อมกลุ่มพี่สีครามไหม สตินัทตี้มันผ่านมาชั่วโมงกว่าๆ เองเพื่อน"
"ก็ไม่เชิงว่าทะเลาะกันหรอก แต่ก็คุยกันเริ่มไม่รู้เรื่อง..." เธอพูดขึ้นด้วยอาการเช็งและไม่รู้ว่าความจะรู้สึกอย่างไงดีกับเรื่องนี้
"เหตุเกิดจากอะไรไหนเล่ามาซิจะวิเคราะห์ช่วย" นัทตี้ท้าวค้างตั้งใจรอฟังเธอเล่า
"ก็พี่สีครามจะต้องขึ้นปีหนึ่งเราต้องห่างและเวลาไม่ตรงกัน ใบตองกลัวว่าห่างจะเป็น...เฮ้อ" เธอถอดหายใจด้วยความกลุ้มชีวิตรักของเธอกับเขามันดีมาตลอดเกือบหนึ่งปีแล้วก็พบว่าเขากำลังจะเรียนจบม.6ส่วนเธอกำลังจะขึ้นม.5ซึ่งเราสองคนต้องห่างกันแน่ๆ
"หยุด!!" เพื่อนสนิททั้งสองของเธอยกมือขึ้นเหมือนกำลังห้ามเธอ
"ห้ามคิดมากเพื่อนรัก!!" เบลกับนัทตี้ยังคงพูดพร้อมกัน
"แต่ว่ามันอดไม่ได้นี่หน่าพวกแก" ใบตองบ่นออกมาพร้อมกับถอดหายใจออกมา
"ใบตองเรื่องมันยังไม่เกิดอย่างพึ่งตีโพยตีพายไปก่อนสิ" นัทตี้ตบบ่าให้กำลังใจเธอ มองสบตาเพื่อนที่กำลังปลอบใจกันอยู่
"จริงของนัทตี้แกต้องเข้มแข็งเข้าไว้ เอาไว้เป็นเรื่องของอนาคตใบตอง" เพื่อนสนิททั้งสองพูดให้เธอฮีตใจปล่อยวางกับเรื่องที่กำลังกลุ้มใจอยู่
แจ้งเตือนข้อความจากพี่สีคราม
'เย็นนี้พี่ต้องไปฉลองสอบเสร็จกับเพื่อนในห้องนะ คงไม่ได้ไปส่งใบตองนะขอโทษด้วยครับ' เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพิมพ์ตอบเขาสั้นๆ แล้ววางลงมองเพื่อนทั้งสองที่คนหนึ่งบีบบ่าส่วนอีกคนบีบมือพยักหน้าสื่อสารกันโดยไม่พูดอะไรออกมาอีก
เสียงเรียกโทรเข้ามากลางดึกขนาดที่เธอกำลังนอนมองเบอร์ที่โทรเข้ามาตอนนี้"ฮัลโหลค่ะ" เสียงอู้อี้เพราะยังไม่ตื่นดี"ออกมาเปิดประตูให้พี่หน่อยครับ" เสียงต้นสายบอกมาทำให้เธอต้องยกโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลา ตอนนี้เกือบตีสองครึ่งแล้ว"มันดึกมากแล้วทำไมพี่สีครามไม่กลับบ้านค่ะ" ตอนนี้ตาของเธอสว่างมาก ทีแรกนึกว่าพึ่งจะสี่ห้าทุ่มเองแต่มันไม่ใช่แล้วตอนนี้มันดึกมาก"พี่รู้ว่าเราไม่พอใจเลยมาเคลียร์กันไง ส่งข้อความหาเธอก็ไม่ตอบแชทพี่เลย" เสียงแหบยานเหมือนคนเมาของพี่สีคราม"เฮ้อ...ค่ะเดียวใบตองจะไปเปิดประตูให้พี่" เธอลุกขึ้นจากเตียงเดินลงไปข้างล่าง เปิดประตูออกเห็นเงาร่างสูงยืนพิงประตูก้มหน้าดูจอโทรศัพท์ของเขาอยู่"พี่สีครามขับบิ๊กไบค์มาเหรอ" เพราะไฟหน้าบ้านเสียทำให้มองไม่เห็นว่ามีรถคันคุ้นเคยจอดอยู่ข้างรั้วบ้านไหม"เปล่าคราบ รถที่บ้านไอ้กรมาส่งพี่" ฟังเสียงคนเมาตอบมาแบบนั้นก็ทำให้เธอถอดหายใจด้วยความโล่ง ถ้าเขาเมาแล้วขับเธอไม่อยากคิดเลยว่าถ้าเกิดอุบัติเหตุต้องแย่แน่"ก็ยังดีที่ไม่ได้ขับบิ๊กไบค์มาเอง" เธอเปิดประตูให้พี่สีครามเข้ามา"อย่าพึ่งบ่นสิครับใบตอง" พี่สีครามเดินเข้ามาแล้วยืนรอใบตองล็อกประตูรั้วบ้าน
“ใบตองติดทุนคณะศึกษาศาสตร์ตามเป้าหมาย” ใบตองตื่นเต้นดีใจที่ทำตามความหวังได้สำเร็จ“ฮื่อ ฮื่อ ใบตองเพื่อนรักกกกก” สองสาวเพื่อนสนิทของเธอทำหน้าเศร้าหมองขึ้นมาเมื่อคิดว่าพวกเราต้องแยกย้ายไปเรียนกันต่างที่แล้วก็ใจหาย“นัตตี้! เบล! อย่าร้องสิหยุดเลยนะ” ใบตองพยายามห้ามไม่ให้เพื่อนสนิททั้งสองคนที่กำลังดึงดราม่าอยู่ตอนนี้ให้หยุดทำลายบรรยากาศดีใจที่ประกาศผลสอบเข้ามหาลัย“พวกเราสองคนติดบริหารอินเตอร์ที่เดียวกันแต่แกใบตองทำไมต้องสมัครอันดับหนึ่งไปไกลถึงภาคเหนือของประเทศอย่างนี้พวกเราชั้นสองคนกว่าจะได้เจอใบตองก็คงต้องนานๆ ครั้งเลยสิฮื่อเบลไอ้ใบมันทิ้งเราสองคนแล้วฮื่ออออ” นัทตี้ตาแดงสั้นระริกน้ำตาจะไหลออกมาจริงๆ ฉันมองเพื่อนสนิททั้งสองคนที่กำลังแข่งกันร้องไห้งอแงเพราะฉันจะต้องไปเรียนต่อไกลกว่าเพื่อน“ใบตองก็ใจหายเหมือนกันนั้นแหละ ก็พวกเราสามคนคบกันมาตั้งแต่มอหนึ่งจนจบมอหกพอต้องห่างกันไป มันก็อดจะใจหายเหมือนกันนั้นแหละฮึก” เธอพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ให้ไหลออกมา สองคนนี้คงคิดว่าเธอมันเป็นพวกใจแข็งไม่รู้สึกเสียใจล่ะสิคิดผิดแล้ว ภายในใจของเธอตอนนี้มีทั้งความหวาดกลัวที่ต้องไปเริ่มต้นใหม่คนเดียวโดยไม่ม
เชียงใหม่พอเครื่องลงก็ยืนรอเช่ารถเพื่อไปส่งยังโรงแรมยังไม่ได้เข้าไปที่หอพักเลยเพราะพวกเรามาก่อนวันเปิดเข้าหอสองวันเพื่อเที่ยวกันก่อน“ฮัลโหลเชียงใหม่นัตตี้มาแล้วจ้า!” แม่เพื่อนสาวมั่นของใบตองร้องขึ้นขนาดที่ยืนรอคุณยายไปเช่ารถกับเบลเพื่อใช้ในสามวันที่จะอยู่ในเชียงใหม่กันด้วยเสียงที่ดังแสดงออกถึงความตื่นเต้นของนัตตี้เรียกสายตาของคนที่ยืนรอรถต่างหันมามองทางเราสองคนด้วยแววตาส่อแววตำหนิ ทำให้ใบตองต้องก้มหัวยกมือข้อโทษพร้อมกับนัตตี้ที่รีบทำตามแล้วก็แอบขำกับความป่วนของตัวเองจนได้เรื่อง“คุณยายขับรถมาแล้วรีบขึ้นรถกันเถอะ” พวกเราสองคนรีบเปิดประตูเพื่อขึ้นรถกันเหมือนต้องการหลบหนีคำตำหนิของคนรอบข้าง“ไปทำอะไรผิดมากันล่ะเด็กหน้าซีดมาเชียว” คุณยายมองผ่านกระจกมองหลังแล้วพูดขึ้น“คือว่าหนูเสียงดังรบกวนคนอื่นค่ะคุณยายใบตอง” นัตตี้สภาพด้วยใบหน้าสำนึกผิดและเขินอายจากเหตุการณ์เมื่อครู่ที่ผ่านมา“ดีใจที่สำนึกผิด คราวหน้าจะได้ระวังมากขึ้นนะหนูนัตตี้” คุณยายพูดขึ้นเพื่อสังสอนวัยรุ่นอย่างพวกเรา“ค่ะหนูไม่กล้าทำแบบนั้นอีกแล้ว” นัตตี้ยิ้มแห้งๆ ให้กับคุณยายผู้อวุธโสที่นับถือขับรถไม่นานพวกเราก็มาจากโรงแรมที่
"กรุงเทพจ้า" ใบตองตอบคำถามเพื่อนใหม่ขนาดที่มือก็จัดเรียงเสื้อผ้าข้าวของตรงหน้าให้เสร็จเรียบร้อยจากนั้นก็ลุกขึ้นเพื่อจะไปนั่งรอเพื่อนใหม่จัดของให้เสร็จแล้วค่อยลงไปเที่ยวหลังมอตามที่ได้นัดกันเอาไว้"ว้าวกรุงเทพ ในชีวิตน้ำอิงเคยไปที่กรุงเทพ 1 2 อ่าสองครั้งท้วนฮ่าๆ" เพื่อนใหม่หัวเราะอย่างขัดเขินท่าทางจะอายใบตองมากตอนนี้"ส่วนใบตองไม่เคยมาเชียงใหม่เลยสักครั้งในชีวิต นี่เป็นครั้งแรกแต่ว่าต้องอยู่ยาว4ปีเลยทีนี้ฮ่าๆ" ใบตองพูดขึ้นแล้วก็ยิงมุขให้เพื่อนใหม่ขำไปด้วย"ไม่เป็นไรนะเพื่อนใบตองเดียวน้ำอิงจะพาเที่ยว ถึงบ้านน้ำอิงจะอยู่ต่างอำเภอแต่ว่าน้ำอิงมาเรียนที่อำเภอเมืองตั้งแต่ม.1 เชียวชาญทุกซอกทุกมุมในตัวจังหวัดแห่งนี้" น้ำอิงพูดขึ้นอย่างโออวดพร้อมจะเป็นเจ้าถิ่นที่ดีให้กับใบตองเต็มที่"โอ้ใบตองขอฝากตัวกับเพื่อนน้ำอิงคนสวยเอาไว้ด้วยนะคะ" ใบตองรู้สึกว่าระหว่างคุยหยอกล้อของเราสองคนทำให้สนิทกันได้อย่างรวดเร็วเกินคาด"ได้เลยจ้าว" สาวเหนือยิ้มจนตาหยีให้กับใบตอง"น้ำอิงมีรถมอเตอร์ไซค์คันเล็กเอาไว้ขับในมอด้วยเพื่อความสะดวก ใบตองนั่งรถมอไซค์ได้ไหม" เพื่อนใหม่ถามอย่างไม่แน่ใจ ใบตองทำหน้าสงนเพราะกำลังคิดในใ
"เค้าขอโทษนะเพื่อนใหม่ น้ำอิงไม่คิดว่าอาการจะหนักขนาดนี้" น้ำอิงหน้าซีดอย่างรู้สึกผิด พอเธอเห็นเพื่อนสลดขึ้นมาเลยยิ้มบางๆ ให้"ฮึบ! เอาข้าไปหาโต๊ะนั่งกันเถอะ" ใบตองยืดตัวใ้หลังตรงแล้วมองสำรวดเพื่อหาโต๊ะที่ว่างพอจะให้เราสองคนนั่งกินสุกี้ชื่อดังของจังหวัดเชียงใหม่"แน่ใจนะใบตอง" น้ำอิงมองใบตองอย่างรู้สึกผิดไม่เลิก"แน่ใจจ้าเข้าไปหาโต๊ะนั่งกันเถอะ" ใบตองบอกพร้อมกับฉุดแขนน้ำอิงให้เดินเข้าไปภายในร้านสุกี้ชื่อดังเพราะถ้ายังมัวแต่ยืนโอเอ้อยู่ตรงนี้มีหวังไม่มีโต๊ะให้นั่งกินแน่นอนดูจากจำนวนคนที่มุ่งเข้ามาร้านมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว"โอเคไปกันเถอะ" น้ำอิงมีสีหน้าโล่งอกแล้วเดินตามกันไปหาโตธนั่งที่พอยังว่างอยู่"ไหนมีเมนูอะไรเด็ดๆ แนะนำมาคุณไกด์สาว" ใบตองถามขึ้นขนาดที่ไล่สายตามองสมุดเมนูที่พนักงานเสิร์ฟเอามาว่างไว้ให้พร้อมกระดาษจดเองเพื่อนำไปสั่งตามคิว"สุกี้แห้งหมูชิ้นหมี่กรอบ" เจ้าถิ่นเสนอพร้อมกับเขียนเมนูของตนเองไปด้วย"เอางั้นตามแนะนำด้วย" ใบตองปิดเมนูเล่มนั้นพับไว้ตามเดิมแล้วแอบมองสำรวจผู้คนไปทั่วร้านอย่างสนใจ"ใบตองจะดื่มน้ำอะไร น้ำอิงว่าจะไปซื้อน้ำปั้นร้านข้างๆ ด้วยระหว่างเอาเมนูไปให้เถ้าแก่ ใ
วันสปอร์ตเดย์วันนี้รุ่นพี่นัดกันที่คณะแล้วเดินเข้าแถวไปยังสนามกีฬากลางของมหาลัยเพื่อรวมงานสปอร์ตที่งานนี่เป็นงานรับน้องรวมทุกคณะของปีหนึ่งโดยมีรุ่นพี่ฝ่ายกิจกรรมของแต่ละคณะมาคุมน้องในคณะของตนเองเพื่อดูแลให้เป็นระเบียบเรียบร้อย"โอ๊ะใบตองทางนี้" น้ำอิงที่เดินเข้าแถวอยู่ข้างๆ หันมาร้องทักใบตองที่เป็นรูเมทกันอย่างดีใจถึงจะนอนอยู่ห้องเดียวกันแต่แทบไม่ได้เจอกันเลยต่างคนต่างเร่งรีบไปเข้าคณะในแต่ละวันเวลาก็ไม่ค่อยจะตรงกัน"ไงน้ำอิง ไม่คิดเลยว่าคณะเราจะได้อยู่ใกล้กันนะเนี้ย" ใบตองยิ้มทักทายเพื่อนกลับ"ใช่ไหมดีใจจังยิ่งถ้าได้นั่งบนอัฐจันใกล้กันตอนเลิกเราก็เดินกลับพร้อมกันได้เลยนะ""เอาแบบนั้นเหรอน้ำอิง" ยัยเพื่อนสาวพยักหน้าบอก"ใช่ใบตอง""โอเคตามนั้น แต่ถ้าหากันไม่เจอให้ไปยืนรอที่ประตูทางออกตรงนู่นนะ" ใบตองมองประตูทางออกอีกฝั่งบอกชี้บอกน้ำอิงเป็นการนัดแนะกัน"ได้เลยรับทราบจ้า""น้องๆ ครับเข้าไปได้แล้วครับขยับให้เป็นช่องไฟแล้วนั่งลงได้" พี่เฮดของคณะใบตองร้องบอกทำให้เราสองคนที่อยู่คนละคณะแยกไปตามที่รุ่นพี่แรกทันทีวันนี้มีกิจกรรมขึ้นนั่งบนอัฐจันแล้วก็มีการแสดงของเชียร์รีดเดอร์ประจำมหาลัยและเห็น
หลังจากทำสัญญาเช่าหอพักต่อีกหนึ่งปีเสร็จแล้วใบตองก็เลือกรถไปสนามบินเพื่อกลับกรุงเทพ"ไม่ให้ไปส่งจริงๆ เหรอใบตอง ของไม่เยอะน้ำอิงขับได้" ใบตองรีบส่ายหน้ารัวปฏิเสธรูเมทตีนผีของเธอเด็ดขาด"ไม่รบกวนน้ำอิงจะได้ไปหาพี่ภูมิไวๆ ไง ใบตองเรียกรถมาแล้วเดียวก็มาถ้ายกเลิกเดียวจะโดนคนขับโวยวายใส่เอาสิไม่ดีมั้ง" ใบตองรีบปฏิเสธน้ำอิงอย่างไม่ยอมแพ้"เฮ้อไม่ไปก็ไม่ไปถ้าอย่างนั้นน้ำอิงไปก่อนนะบายบ่ายเปิดเทอมเจอกันเพื่อน" น้ำอิงสะพายกระเป๋าเป้ใบเล็กเพราะเอารถยนต์ของที่้านมาขนของที่จำเป็นต้องนำกลับไปหมดแล้ว"อืมขับรถดีๆ บายบ่ายนะน้ำอิง" น้ำอิงเดินไปแล้วแต่ยังยกมือขึ้นโบกลาเธอส่วนฟ้าแม่มารับตั้งแต่เมื่อวานตอนเย็นแล้วเห็นว่าที่บ้านมีงานบุญต้องกลับไปช่วยงานเลยรีบกลับเลยหลังสอบเสร็จตัวสุดท้ายรอไม่นานนักรถที่เรียกผ่านแอปก็มาขับถึงหน้าหอ ใบตองขึ้นรถแล้วตรงไปยังสนามบินพอจ่ายเงินแล้วดูเวลายังเหลืออยู่ ใบตองคิดว่าควรไปหาซื้อของฝากไปฝากคุณยายและเพื่อนสนิททั้งสองที่อยู่กรุงเทพหน่อยดีกว่า"ระหว่างที่ก้มเลือกของกินในโซนโอท็อปของจังหวัดเชียงใหม่จังหวะที่เงยหน้าขึ้นเธอก็ได้สบตากับผู้ชายที่ไม่ได้เจอกันเกือบสี่ปียืนจ้อ
"แล้วหาเวลามีเจอกันใหม่ปิดเทอมหน้านะใบตอง" นัตตี้โบกมือลาเป็นคนแรกแล้วขึ้นรถที่คนขับรถมารับตามสบัดคุณหนู"อือบายนัตตี้แล้วเจอกันใหม่""รถเบลก็มาแล้วไปก่อนนะใบตอง ขับรถกลับดีๆ ละ" คนขับรถของเบลมาจอดเทียบหลังรถที่บ้านนัตตี้ขับออกไปแล้ว"เข้าใจแล้ว" ใบตองพยักหน้ายกมือโบกลาเพื่อนอีกคนหลังจากเพื่อนทั้งสองคนต่างแยกย้ายกันกลับใบตองเดินไปหารถที่ตนเองขับออกมาร้านคาเฟ่เองพอกลับถึงงบ้านก็เล่นกับเจ้าซาเปาซาแปงที่วิ่งมาหาเมื่อได้ยินเสียงใบตองเปิดประตูเข้ามาในบ้านพ่อแม่ยายของเธอคงจะอยู่สวนบนดาลฟ้านั้นแหละช่วงปิดเทอมนี้ใบตองก็มีนัดกับนัตตี้และเบลอีกสองสามครั้งและส่วนใหญ่ก็ใช้เวลากับครอบครัวกันจนเปิดเทอมได้เวลากลับเข้าสู่โหมดนักศึกษาอีกครั้ง"ตามสัญญาที่เราทำด้วยกันไว้ช่วงสอบลืมหรือยังใบตอง" น้ำอิงเอ่ยทวงสัญญาขึ้นมาดื้อๆ ในตอนเช้าของสัปดาห์ที่สองที่กลับมาเรียนปี2"สัญญาอะไรเหรอ" ใบตองรู้สึกว่าตนเองลืมเรื่องที่พูดกำลังทวงจริงๆ นั้นแหละ"อ้าวนี่ลืมจริงเหรอใบตอง!" น้ำอิงเดินเข้ามาใกล้โวยวายด้วยความฉุดจัดอย่างมีน้ำโห"กะก็ลืม..." ใบตองผงะถอยห่างเพื่อนรูเมทมาเกือบคืบด้วยความผิดที่เธอดันลืมเรื่องอะไรก็ไ
"อีกไม่นานก็จะได้รู้แล้วครับอดทนหน่อยนะ" พี่สีครามจับมือใบตองกระชับแล้วปล่อยกลับไปขับรถมองมือเหมือนเดิมเมื่อถึงแยกที่ต้องเลี้ยว"ตื่นเต้นจังเลยพี่สีคราม" บอกแฟนตัวเองเสียงสั้นอย่างควบคุมเอาไว้ไม่อยู่ไม่ต้องปล่อยให้ใบตองต้องตื่นเต้นนานเกินไปเพราะบ้านของคุณยายพี่สีครามที่เป็นมรดกให้กับคุณแม่ของเขาอยู่ไม่ไกลจากอำเภอเมืองนักถือว่าเข้าเมืองสะดวกไม่ได้ไกลเหมือนรีสอร์ทและไร่ของเขาที่เป็นธุรกิจของครอบครัวตอนนี้"ถึงแล้วครับใบตอง" พี่สีครามกดรีโมทเปิดรั้วบ้านแล้วเคลื่อนรถเข้าไปในรั้วบ้านจอดรถเอาไว้โรงรถที่มีรถยนต์สองคันสองเอาไว้อยู่ก่อนแล้ว"ค่ะ" ใบตองเอาแต่แอบแหล่ตามองสำรวจบ้านสองชั้นสไตล์ล้านนาประยุกต์ปรับปรุงขึ้นใหม่แต่ยังเหลือเค้าโครงเอกลักษณ์ให้ได้เห็นอยู่"เอ้าใบตองลงมาได้แล้วเรา" แฟนหนุ่มฉถดแขนดึงให้เธอลงจากรถ"ค่ะ" ใบตองเกรงเดินตามหลังพี่สีครามรู้สึกว่าตนเองขาสั้นจนเดินแทบไม่ไหว"คุณพ่อคุณแม่ครับ ผมพาแฟนมาแนะนำครับ" พี่สีครามจูงมือใบตองเดินเข้ามาในห้องรับแขกที่มีชายหญิงวัยกลางคนท่าทางน่าเกรงขามนั่งคุยกันรออยู่ในห้องรับแขก"อืม!" คุณพ่อหันมายิ้มบางๆ พร้อมพยักหน้ารับ"..." ส่วนคุณแม่เพี
เมื่อตอนเย็นพี่สีครามพาฉันไปหาข้าวเย็นกินในห้างดังในเมืองพอกินเสร็จก็เดินซื้อของก่อนที่เขาจะมาส่งที่หอ"พี่สีครามขับรถกลับคอนโดดีๆ นะคะ""ครับ แต่ว่าคืนนี้พี่มีนัดกับเพื่อนออกไปเที่ยวร้านเหล้านะ" ฉันไม่ได้บังคับให้เขารายงายอะไรตัวเอง ให้อิสระในการใช้ชีวิตเหมือนก่อนที่เราจะกลับมาเป็นแฟนกันได้ตามสบาย"ค่ะ พี่สีครามก็จะดื่มเยอะมากถ้าขับรถไม่ไหมก็เรียกรถจากแอปให้ไปรับนะมันอันตรายใบตองเป็นห่วง" พี่สีครามยิ้มรั้นฉันเข้าไปกอดแต่ไม่ต้องห่วงว่าจะดูประเจิดประเจ้อจนคนเอาไปนินทาเพราะว่าคนของเขาติดฟิล์มดำมืดมองเขามมาไม่เห็นข้างใน"ครับ แต่หอมแก้มพี่หน่อยสิ" เขาอ้อนฉันพร้อมกับยื่นแก้มเข้ามารอ"ฟอดฟอด""พอใจยังคะ" พอหอมเสร็จฉันก็ดันตัวออกจากออ้อมกอดของเขา"พอใจแล้วครับ" พี่สีครามยิ้มหน้าบานที่ได้สมใจเขาแล้ว"ถ้าอย่างนั้นใบตองไปแล้วนะบายบ่ายค่ะ" พอลากันแล้วเธอก็ออกจากในรถเดินเข้าหอตามปกติแต่ว่าอยู่ๆ เจมส์ก็เข้ามายืนขวางหน้าเอาไว้เสียก่อน"เจมส์!" ถึงเราจะไม่ได้คบกันแต่ก็ยังคุยๆ กันแต่ฉันดันลืมเขาไปได้หลังจากตกลงคบกับพี่สีครามเมื่อคืนไม่น่าเลยยัยใบตองสมองทึบเอ้ยเธอทำอะไรลงไปเนี้ย"ขอเจมส์คุยด้วยได้ไหม
"พอแล้วใบตองไม่ไหวแล้ว" หลังจากเสร็จสมกันแล้วอยู่ๆ สิ่งแปลกปลอมที่อยู่ในตัวเธอก็แข็งตัวขึ้นมาอีกครั้ง จากประสบการณ์เมื่อครู่สอนให้เธอรู้ว่าเขาต้องการมันอีกครั้ง"แต่พี่ยังไม่พอ" พี่สีครามซุกไซร์ดูดสองเต้าอย่างหลงไหลสร้างความเสียวให้กับฉันไม่หยุด"แต่ว่านี่เป็นครั้งแรกของใบตองมันไม่ไหวแล้วพี่สีคราม" ฉันจับหน้าหล่อหน่าที่เงยขึ้นมาสบตากันของเรา"อืมก็ได้ครับ" พอเห็นสีหน้าอ่อนล้าซีดเชียวของเธอทำให้เขายอมผละตัวออกแม้จะเสียดายก็ตาม"ไปอาบน้ำอุ่นล้างตัวแล้วเข้าไปนอนพักบนเตียงนุ่มๆ ดีกว่าครับ" พี่สีครามอุ้มใบตองเดินเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำแล้วพามานอนบนเตียงของเขาทำเพียงนอนกอดเอาไว้"นอนสักตื่นแล้วเดียวพี่สั่งอาหารเย็นมาให้กินรอบดึก" เขาจูบหน้าผากของฉัน ที่พยักหน้ารับไม่มีแรงแม้จะพูดคุยกับเขารู้สึกว่าครั้งแรกใช้พลังงานไปมากจนเกินไปแล้ว"ใบตองครับลุกขึ้นมากินอะไรหน่อยค่อยหลับต่อ" แรงเขย่าให้รู้สึกตัวจากเจ้าของเสียงอันคุ้นเคยปลุกให้เธอรู้สึกตัวตื่น"อื่อกี่โมงแล้วค่ะพี่สีคราม" พอตื่นเต็มตาเรื่องราวตั้งแต่ตอนเย็นจนถึงตอนี้ก็ไหลเข้ามาจนรู้สึกเขินอายที่เรามีอะไรกันครั้งแรก"สี่ทุ่มครับ ตอนเย็นกินน้อยล
"ใบตองคุยกับใครเหรอ" ตอนนี้ฉันกำลังนั่งกินสุกี้เป็นมื้อเย็นกับพี่สีครามหลังจากกลับมาจากเที่ยวร่วมเดือนแล้ววันนี้แรกว่าเป็นวันแรกในรอบเดือนที่ฉันได้เจอหน้าเขา"อ่อคนคุยค่ะ" ก็ในเมื่อฉันกับพี่สีครามเป็นแค่รุ่นพี่รุ่นน้องกันจะเลือกว่าคนคุยก็ไม่ชัดเจนขนาดเจมส์ที่เข้ามาจีบฉันตลอดเดือนกว่าๆ ที่ผ่านมาเลยด้วยซ้ำ"เดียวนะมีคนมาจีบใบตองเหรอ?" พี่สีครามถามเสียงขรึมมองมายังฉันดุๆ แต่ตัวฉันที่คิดว่าตนเองไม่ได้ทำอะไรผิดเลยไม่จำเป็นต้องเป็นฝ่ายหลบสายตาเขาเลยจ้องกับพร้อมพยักหน้าตอบรับ"ใช่ค่ะ เขาเรียนวิดวะปี2อายุเท่ากันจีบใบตองมาเดือนกว่าแล้วแต่เรายังไม่ได้ตกลงคบกันหรอกนะคะตอนนี้""แล้วเรื่องของเราละ" สีหน้าพี่สีครามแสดงออกว่าเขากำลังโกรธไม่พอใจกับสิ่งที่ฉันกำลังบอกเล่าให้เขาฟังด้วยท่าทีไม่เดือดร้อนอะไรเลยแบบนี้"อ่อเราสองคนก็เป็นรุ่นพี่รุ่นน้องตามที่พี่สีครามบอกอย่างไงละค่ะ""เลิกคุยกับมันซะ!" ใบตองสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ วางซ้อนรวบไว้ชามสุกี้แล้ว"ก็ใบตองโสดมีสิทธ์คุยกับใครก็ได้ไม่ได้ทำอะไรผิดชักหน่อย" พี่สีครามเหมือนคนกำลังระงับอารมณ์ที่กำลังเดือดดาลขึ้น"ไม่ผิดแต่ไม่ได้!" เขาจ้องเขม็งเหมือนจะเอาเรื
"แหม่ๆ กักเหรอเปล่าวะไอ้คราม" เพื่อนคนแรกของเขาแซวออกมา"ไอ้ครามแม้งตรงโว้ย!" เสียงเพื่อนคนที่สองของเขาพูดขึ้นตามมา"กูแม้งเดาถูกว่ะ" เพื่อนคนที่สามหันไปชกมือกับเพื่อนอีกคนของเขาพวกพี่ๆ ผู้ชายต่างเอ่ยปากแซวไม่หยุดกันอย่างคึกครื่นขึ้นมา แต่คนที่มีส่สนเกี่ยวข้องอย่างฉันกับรู้สึกอึดอัดขึ้นมาบ้าง"พวกมึงพอๆ ได้แล้วแยกย้ายไปทำกิจกรรมที่จองเอาไว้กันได้แล้ว" พี่สีครามบอกพร้อมกับผลักเพื่อนให้เลิกพูดแซวแล้วแยกย้ายกัน"เอ่อๆ ดูมันไล่พวกเราโว้ย" เพื่อนของพี่สีครามต่างโวยวายเสียงดังเหมือนกำลังแกล้งเขามากกว่าแล้วต่างแยกย้ายออกไปจากห้องอาหาร"ไปกันเถอะใบตอง" ฟ้าจับแขนฉันเขย่าเพื่อตามพวกพี่ๆ ไปเที่ยวในโปรแกรมต่อ"อือไปก็ไป" น้ำอิงกับฟ้าเดินไปพร้อมกับใบตองโดยไม่ได้พูดแซวแต่ก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไม่หยุดกิจกรรมแอดเวิร์นเจอร์ต่างๆ ที่มีให้ทำเช่นโหนสะลิงค์ลงจากที่สูง เป็นกิจกรรมที่ต้องใช้ความกล้าให้ความรู้สึกหวาดเสียวแต่ก็สนุกมากเช่นกันหลังจากเล่น พวกเรานอนค้างอีกหนึ่งคืนแล้วก็กลับไปยังมหาลัยแต่เช้าเพื่อให้ได้พักก่อนจะต้องกลับไปเรียนหอพัก"นั่งลงตั้งหลายชั่วโมงสุดท้ายก็ถึงห้องสักที" น้ำอิงพูดขึ้นพร้อมจะทิ
"กว่าจะมาได้นะครับเสี่ยคราม!" พี่สีครามเดินเข้ามาในชุดเดิมตอนออกไปทำงานเมื่อตอนบ่าย"โทษทีนะพวกมึงกว่าจะเสร็จมีปัญหานิดหน่อยดีที่แก้ไขแล้วเสร็จเร็ว" พวกเพื่อนของเขาพยักหน้ารับ"พวกกูแค่แซวมึงเฉยๆ เข้าใจมึงไปทำงานไม่ได้มาเที่ยวอย่างเดียวเหมือนพวกกูเป็นกำลังใจให้โว้ยเพื่อน!" เพื่อนคนหนึ่งของเขาตบบ่าให้กำลังใจขนาดที่เดินไปนั่งลงวงเหล้าของพวกผู้ชาย"เออๆ ขอบใจ มาๆ ตั้งเตากินดื่มกันได้เต็มที่เลย" เมื่อเจ้าภาพที่เป็นเจ้าของสถานที่พูดเปิดกลุ่มวัยรุ่นทั้งหลายก็เริ่มเปิดเหล้าพร้อมกับปิ้งย่างกันควันไฟลอยคลุ้งไปทั่วเพราะถูกจุดพร้อมๆ กันหลายเตาจากทีแรกที่เตาของพวกผู้หญิงมีแต่น้ำหวานก็ถูกแทนที่ด้วยแอลกอฮอร์จากต่างประเทศอย่างเช่นโซจูที่กำลังเป็นที่นิยมสำหรับคอซีรี่ย์เกาหลีมีให้เห็นจนอดไม่ได้ที่จะไปซื้อมาลิ้มลองกันอย่างแพร่หลาย"เอ้าชน!!!" เสียงเฮฮาของกลุ่มวัยรุ่นดังขึ้นจากทีแรกที่ใบตองและเพื่อนอีกสองคนแอบเกร็งเพราะอายุน้องที่สุดและไม่ได้เป็นเพื่อนร่วมคณะกันเหมือนพวกพี่เขาก็เริ่มคุ้นชินจนเข้ากันได้ดีทำให้เกิดบรรยากาศที่เต็มไปด้วยเสียงพูดคุยหัวเราะกัน"ฮึก!ไม่ไหวแล้วค่ะพี่มินพอก่อน" ใบตองยกมือขึ้นห้
"อือเริ่มรู้สึกดีแล้ว" ใบตองรับยาดมมาดมเองพอมือว่างจากการจับยาดมแล้วน้ำอิงก็ไม่อยู่เฉยมีการบีบนวดตามต้นคอบ่าไหล่ให้กับใบตอง"เอาดื่มน้ำหวานจะได้สดชื่น" พี่สีครามหายปแล้วกลับมาพร้อมน้ำหวานหนึ่งขวดให้ฉันดื่ม"ขอบคุณค่ะ" เขาพยักหน้ารับ"เอานี้กุญแจห้องพวกมึงส่วนค่าห้องจ่ายคนล่ะห้าสิบเปอร์เซ็นต์ตามที่ตกลงกันไว้นะโว้ย" พี่สีครามพูดขึ้นพร้อมกับแจกจ่ายให้กุญแจห้องพักให้กับเพื่อนของเขา"เอ่อขอบใจมากเพื่อน" มองดูแล้วก็นับคร่าวทั้งเพื่อนผู้ชายและผู้หญิงสิบคนได้ก็รถตั้งสี่คันคนย่อมเยอะเป็นธรรมดาแล้วคือเธอดันมาเมารถอยู่คนเดียวน่าขายหน้านัก ใบตองได้แต่ยิ้มเจือนตอบรับการทักทายของรุ่นพี่เพื่อนพี่สีคราม"ให้น้องไปพักเถอะสีครามดูหน้าไม่ค่อยจะไหวแล้วนะมึง" เพื่อนครหนึ่งของเขามองมายังฉันอย่างเห็นใจส่วนคนอื่นๆ ก็มีมองมาแต่หลากหลายอารมณ์ตามปะสาคนที่ไม่คุ้นเคยกันสักเท่าไหร่"เอ่อๆ พวกมึงแยกย้ายกันไปพักผ่อนแล้วถ้าอยากทำกิจกรรมอะไรก็มาบอกที่เคาท์เตอร์เดียวพวกเขาจัดโปรแกรมให้อันนี้กูสั่งไว้แล้วฟรีได้เลย""ขอบใจมากเสี่ยคราม" เพื่อนอีกคนของพี่สีครามแซวเขา ส่วนเจ้าตัวก็หยักไหล่แบบยอมรับแล้วพากันเดินไปยังห้องพักต
ข้อความถูกส่งเข้ามาหลายครั้ง ทำให้ฉันจำต้องวางปากกาที่จดสรุปลงไว้แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอ่านข้อความที่ถูกส่งเข้ามา"พี่มาถึงแล้ว" พร้อมทั้งรูปถ่ายใบหน้าหล่อเหลายิ้มแฉ่งนับสิบรูปถูกส่งเข้ามาในไลน์ไม่หยุด"โอเคค่ะเดียวใบตองลงไปนะ" เธอบอกเขาแล้วหยิบโทรศัพท์กับกระเป๋าสะตังค์เพราะว่าคิดจะแวะไปเซเว่นเพื่อซื้อของกินมาตุนเอาไว้ในตู้เย็นที่ของกินกำลังจะหมดลง"มาแล้วค่ะ รอนานไหม" ใบตองยิ้มให้คนตัวสูงที่เล่นเกมส์ในโทรศัพท์เช่นเดิมเพราะเขาวางเครื่องลงก็เห็นเกมส์ในหน้าจอแสดงอยู่ฉันถึงรู้"ไม่นานครับ พี่ซื้อทั้งข้าวทั้งขนมและของกินเล่นมาให้เราหลายอย่างเลยกินกันเถอะ" พี่สีครามเปิดข้าวกล่องให้ฉันแล้วเลื่อนมาตรงหน้า"ขอบคุณพี่สีครามมากนะคะ" ฉันยกมือไหว้ขอบคุณน้ำใจของเขา"ไม่เป็นไรครับ" เขาพยักหน้ารับ"แล้วค่าข้าวพวกนี้เท่าไหร่คะเดียวใบตองออกเงินช่วย""ไม่ต้องหรอกครับ ถือว่าพี่เลี้ยงแล้วกันมื้อนี้" พอเขาพูดมาแบบนี้ทำให้ฉันรู้สึกเกรงใจขึ้นมาเลย"ไม่เอาค่ะ ใบตองเกรงใจขอจ่ายตังค์ช่วยนะ" ฉันไม่ยอมแพ้และไม่อยากเอาเปรียบเอามากนัก"แต่พี่ไม่เอาครับเต็มใจเลี้ยง กินเถอะจะได้รีบขึ้นไปทำรายงานต่อยังไงล่ะ" เอาส่ายห
"นี่คือเหตุผลที่แม้กระทั้งโซเซียลพี่สีครามก็ไม่อัพเดรสอะไรเลยตลอดหลายปีที่ผ่านมา..." พอคิดว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาเจอกับความยากลำบากของชีวิตที่ถาโถมเอาใสคงไม่ใช่ว่าจุดเริ่มต้นของเขาเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่โดนฉันบอกเลิกหรอกนะ"นั้นก็ใช่ แต่ว่ามันมีอีกเหตุผลนึงที่ไม่อยากเล่นโซเซียล" พี่สีครามที่ได้ยินฉันพึมพำกับตัวเองก็เฉลยออกมา"อีกเหตุผลนึงคืออะไรพอบกได้ไหมคะ" เราสองคนมองสบตากันนิ่ง ฉันมองเขาอย่างรอคอยคำตอบส่วนเขาก็กระตุกยิ้มมุมปากก่อนจะเอ่ยบอก"เพราะใบตองยังไงล่ะ" พอได้รับคำตอบที่คาดการเอาไวว้ในใจก็ถึงกับหน้าเสียเพราะตนเองคนเป็นสิ่งที่เขาอยากจะลบออกไปแม้กระทั้งโลกโซเซียลก็ไม่เล่นเพราะไม่อยากจะเห็นแม้กระทั้งรูปถ่าย"ไม่ต้องทำหน้าเศร้าขนาดนั้นเลยครับ พี่ไม่ได้จะหมายความแบบที่ใบตองกำลังคิดอยู่แน่" สติเริ่มกับมาเมื่อเขาบอกว่าไม่ใช่เพราะตัวเองใบตองก็มีความโล่งใจเกินขึ้น"แล้วทำไม""เพราะคิดถึง" จากที่หน้าซีดฉันรู้สึกว่าใบหน้าเริ่มรู้สึกร้อนพร่าวและขึ้นสีแดงระรื่นแน่นอนตอนนี้"..." หาคำพูดมาต่อบทสนทนาของเราได้อีกต่อไปเลยทีนี้"เอ้าเงียบเลย แล้วใบตองไม่คิดถึงพี่บ้างเลยเหรอครับ" คำถามของเขาเหมือ