แชร์

อันตรายก่อเกิดความรัก

อ้นวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต ในช่วงเวลานี้เขาไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่า ตัวของเขาจะรอดจากความเลวร้ายนี้ได้อย่างไร มีแต่เพียงวิ่งหนีไปให้ไกล ซึ่งเส้นทางที่อ้นวิ่งเข้าไปนั้นเริ่มลึกเข้าไปในป่าทืบ ถึงกระนั้นอ้นก็ยอมหันหลังไปมอง ถึงแม้คนร้ายที่วิ่งติดตามอ้นจะหยุดอยู่บริเวณรอบนอกของป่าแล้ว เพราะทั้งสามไม่กล้าเข้าไป และมีความคิดที่จะดักรออ้นอยู่ตรงนี้ เนื่องหนึ่งในสามเป็นคนในพื้นที่ เขาจึงรู้ดีว่าป่าแห่งนี้ถ้าไม่ชำนาญพื้นที่ เมื่อเข้าไปแล้วจึงหาทางออกยากมาก

       ด้วยความเมื่อยล้าอ้นจึงหยุดวิ่งและหันไปมองด้านหลัง ซึ่งอ้นก็ไม่เห็นใครเขาจึงนั่งลงพักเหนื่อย ด้วยความที่ในป่ามีความเงียบเกินเขาจึงเกิดความกลัวขึ้นกะทันหัน ในจิตใจของอ้นเวลานี้หวั่นเกรงกลัวทุกอย่าง เขาพยายามมองไปรอบๆซึ่งมีแต่ป่า และเสียงไหวๆของต้นไม้ที่โอนเอนตามแรงลม พร้อมเสียงสัตว์นานาชนิดที่อ้นได้ฟังถึงกับขนลุก เขาจึงรู้สึกกลัว 

       พออ้นได้มีเวลาพัก เขาจึงเกิดความคิดที่จะไปจากป่าแห่งนี้ แต่เขาไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นเดินไปทางไหน อ้นจึงได้แต่นั่งนิ่งๆอยู่ที่เดิม เพื่อรอใครสักคนผ่านเข้ามาทางนี้ แต่ยังไร้วี่แววด้วยแสงอาทิตย์เริ่มอ่อนแรงลง อ้นจึงลุกขขึ้นมองไปรอบๆ แล้วเขาจึงตัดสินใจเดินต่อไปเพื่อหาทางออก 

       อ้นยังพอมีสติอยู่บ้างในระหว่างที่เขาเดินไปเรื่อยๆนั้น อ้นได้ทำสัญลักษณ์โดยหักกิ่งไม้ตลอดทาง ซึ่งอ้นได้เดินมาพักใหญ่ แต่ก็ยังไม่เห็นหนทางที่จะออกจากป่านี้ได้ เขาจึงหยุดพักใต้ต้นไม้ใหญ่ เพื่อรอความหวังอันริบรี่ที่จะได้เจอทางออก

       อ้นลุกขึ้นยืนมองไปรอบๆอีกครั้งและเดินดูอาณาบริเวณรอบๆตัว ด้วยความที่ไม่ได้เชี่ยวชาญ ชำนาญเส้นทางจึงทำให้อ้นพลาดตกลงไปในหลุมดักสัตว์ป่า ซึ่งเป็นหลุมที่ไม่ลึกมาก แต่เขาก็ไม่สามารถที่จะปีนป่ายขึ้นไปได้ เพราะข้อเท้าของอ้นได้พลิก แม้แต่จะลุกขึ้นยืนยังลำบาก อ้นมีความหวังเดียวที่จะทำได้ คือตะโกนจนสุดเสียงขอความช่วยเหลือ แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผล เพราะอ้นได้ตะโกนขอความช่วยเหลือนานนับหลายสิบนาที แต่ก็ยังไร้วี่แว่วว่าจะมีคนเดินผ่านมา ให้ความช่วยเหลือแกเขา

       เอเดินเข้ามาในกระท่อมด้วยความแปลกใจ หวั่นวิตกอย่างหนักเพราะประตูกระท่อมปลายไร่ได้เปิดออก เขารีบสอดสายตามองรอบ ๆ แล้วตะโกนเรียกอ้น

       “อ้น อ้น อ้น”

       เอวิ่งออกไปนอกกระท่อมและเรียกหาอีกหลายครั้งแต่ยังไร้วี่แวว เขาจึงวิ่งออกห่างจากกระท่อมไปไกลพอสมควร จนมาเจอชายแก่ๆคนหนึ่ง

       “ลุง เห็นเพื่อนผมคนตัวเล็กๆผิวขาวๆไหมครับ”

       “ลุงไม่แน่ใจ แต่คนที่ลุงเห็นก็ไอ้เจนเพื่อนเองที่เดินมากับใครไม่รู้ ลุงเห็นทั้งสองเดินไปทางถนนใหญ่”

       “ขอบคุณลุงมากครับ”

       เอรีบวิ่งไปบนถนนทางเดินที่แสนจะขรุขระ เขาวิ่งอย่างรีบร้อนจนเกือบจะล้มหลายครั้ง จนมาถึงปลายทางที่ติดถนนใหญ่ เขาขึ้นไปบนบริเวณถนน แล้วมองซ้ายมองขวาแต่ไม่เห็นใคร แม้แต่รถก็น้อยคันมากที่วิ่งผ่าน เมื่อเอไม่เจออ้นเขาจึงหยิบโทรศัพท์โทรหาเจนตัวการที่พาอ้นมาตรงนี้

       “ฮัลโหล มีไร”

       “มึงเอาไอ้อ้นไว้ไหน”เอมีเสียงที่ดุดัน

       “กูจะไปรู้ได้ไงวะ”

       “มึงอย่ามาโกหกมีคนเห็นมึงพาอ้นมาที่ถนนใหญ่”

       “คงตาฟาดกูอยู่ที่ทำงาน แล้วกูจะไปที่ไร่ของมึงได้อย่างไง”

       “มึงอย่ามาโกหกไอ้เจน บอกกูมาซะดีๆว่าไอ้อ้นอยู่ไหน”

       “กูจะไปรู้ได้ไง แล้วไอ้อ้นมันมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไง”

       “มึงก็รู้ดีแก่ใจ ยังจะมาถามอีก”

       “กูไม่รู้จริงๆ ต่อให้มึงฆ่ากูให้ตาย กูก็ไม่รู้”

       “ไอ้เจน”

       “ไอ้เอ”เสียงชายหนุ่มดึงขึ้นอยู่ด้านหลัง

       เอรีบหันไปในทันที และปิดโทรศัพท์มือถือ และมองหน้าชายหนุ่มที่เป็นเพื่อนในหมู่บ้านของเขา

“มีอะไร”

“กูมีเรื่องจะบอกมึงว่ะ เมื่อกี้กูเห็นไอ้เจนพาใครมาไว้ที่ถนนตรงนี้แหละ หลังจากนั้นก็มีผู้ชายสามคนวิ่งไล่จับผู้ชายที่ไอ้เจนพามา”

“แล้วผู้ชายคนนั้นไปไหน”เอมีน้ำเสียงที่ตื่นเต้น

“วิ่งเข้าป่าไปแล้วจนป่านนี้ยังไม่ออกมาเลย กูว่ามันหลงเข้าไปในป่าแล้วแหละ ส่วนไอ้สามคนก็ดักรออยู่ เมื่อไม่เห็นใครออกมามันก็กลับไปหมดแล้ว”

“ต้องเป็นอ้นแน่”เอบ่นพึมพัม

“แล้วมึงจะเอาไงต่อวะ นี่ก็ใกล้จะมืดแล้ว”

“เอ๋อ เอาอย่างนี้มึงไปตามพวกเพื่อนๆมาช่วยตามหาเพื่อนกูหน่อย เดี๋ยวกูจะล่วงหน้าไปก่อนฝากมึงด้วยนะ”

“เอ่อได้ เดี๋ยวก่อนมึงเอามีดไปด้วย แล้วทำสัญลักษณ์ไว้พวกกูจะได้ตามไปถูก พอดีกูมีไฟแช็คเอาไว้เผื่อมืดค่ำหาทางออกไม่ได้”ชายหนุ่มยื่นมืดพกและไฟแช็คให้เอ 

“ขอบใจมาก”เมื่อเอรับของไว้แล้ว เขาจึงรีบวิ่งเข้าไปในป่าทันที

เอวิ่งพร้อมตะโกนเรียนอ้นอย่างไม่หยุดหย่อน แต่ไร้วี่แว่วเสียงตอบรับ มีเพียงเสียงที่สะท้อนกลับมาก ซึ่งเอก็รอบคอบเขาทำสัญลักษณ์ตามต้นไม้ตลอดทางที่เขาเดินเข้าไปในป่า ยิ่งเอเดินเข้าไปลึกเท่าไร ความเงียบสงัดเริ่มเพื่มขึ้นทวีคูณ 

เอเดินได้มาพักใหญ่เขาจึงหยุดเดินต่อ เพราะเอคิดว่าอ้นคงไม่สามารถที่จะเดินไปไกลมากกว่านี้อย่างแน่นอน เขาจึงตะโกนเรียกอ้นอยู่หลายครั้งแต่ยังไร้วี่แววเสียงตอบรับ เอหยุดเรียกขานเดินไปรอบบริเวณ และเขาก็สังกตุเห็นต้นหญ้าเหมือนโดนเหยียบ ปลายกิ่งไมหักตลอดทาง เอเห็นอย่างนั้นถึงกับดีใจ เขาจึงตะโกนเรียกอีกครั้ง พร้อมเดินตามรอยหญ้าที่เป็นรอยเหยียบ เอเดินไปเรื่อยๆจนสิ้นสุดรอยเหยียบ 

“อ้น อ้น อ้น”เอเรียกขานอีกครั้ง

อ้นที่นอนนิ่งอยู่ในหลุมดักสัตว์ได้ยินเสียงเรียกชื่อของเขา อ้นจึงตะโกนขานรับทันที

“อยู่ในหลุม อยู่นี้ ช่วยด้วย”

เมื่อเสียงอ้นดังขึ้นเอตื่นเต้นและดีใจอย่างยวดยิ่ง เขาวิ่งไปตามเสียงที่ได้ยิน และไปสิ้นสุดที่หลุมดักสัตว์ เอชโงกหน้าลงไปมอง

“อ้น”เอยิ้มทั้งใบหน้าด้วยความดี

“เอ”อ้นดีใจที่เจอเอแต่เขาไม่สามารถที่จะยิ้มได้ทั้งใบหน้าเหมือนอย่างกับเอ

“ลุกขึ้นยืนไหวไหม”เอถามด้วยน้ำเสียงที่เป็นห่วง

“พอได้นะ”อ้นพยายามพยุงร่างลุกขึ้นยืน ถึงแม้จะเจ็บปวดสักปานใดเขาก็ไม่ท้อและอดทน

เมื่ออ้นยืนได้สำเร็จเอได้ยื่นมือลงไป เพื่ออ้นได้จับมือของเขาไว้

“จับมือกูไว้นะเดี๋ยวกูจะดึงมือขึ้นมา”

“ดึงไหวเหรอ เดี๋ยวนายจะตกลงมาอีกคน”

“กูบอกให้มึงทำอะไรก็ทำตามที่กูบอก ขืนพูดมากกูจะให้มึงอยู่ตรงนี้แหละ”

อ้นนิ่งเงียบทันทีและรีบจับมือของเอไว้ หลังจากนั้นเอก็ดึงร่างขึ้นอ้นขึ้นมาอย่างทุลักทุเล ท้ายที่สุดเอก็ดึงร่างของอ้นพ้นเหนือหลุมดักสัตว์ขึ้นมาได้

“เป็นไงล่ะ อยากหนีดีนัก น่าปล่อยให้อยู่ตรงนี้แหละ”

“ก็นายจับเรามาทำไม เราไม่มีอิสระก็ต้องหนีสิ”

“กูไม่เชื่อ อยากไปหาผัวมึงมากกว่า”

“ผัวใครใครก็รัก จะคิดถึงไม่ได้เหรอ”

“ปากดีหนอ ขึ้นมาได้แล้วนี่”

“ก็นายมาว่าเราก่อนนี้ ถ้านายไม่ว่าเราใครจะไปปากดีกับนายล่ะ”

“อยู่ในป่าอย่างนี้ยังจะปากดีอีก เดี๋ยวจะปล่อยให้อยู่คนเดียว หาทางกลับเองได้หรือเปล่า หัดพูดดีๆกับคนที่ช่วยเหลือบ้าง”

อ้นนิ่งไปในทันทีเพราะเขาเริ่มได้สติ ถึงอย่างไงเขาก็ต้องให้เอช่วยพาออกจากไปแห่งนี้ 

“เงียบเลยสิที่นี้”เอมองหน้าอ้นด้วยความความเอ็นดู และในใจอยากจะโอบกอดปลอบประโลม

“ก็ได้เราขอโทษ”เอนั่งนิ่งๆ

“มันต้องพูดแบบนี้ไม่ใช่มาต่อปากต่อคำ แล้วเท้าเป็นอะไรนะ”

“หล่นไปในหลุมมันเลยแพลง”

“ไหนดูสิ”

“ไม่ต้องหรอก”

“ยังจะมาอวดดีอีก”เอจับเท้าของอ้นมาดู

“โอ๊ย เจ็บ”

“บวมแดงเลยแล้วจะเดินไหวไหมเนี้ย”

“ไหวไม่ต้องห่วงหรอก”อ้นลุกขึ้นยืนทันที แต่ด้วยความเจ็บปวดที่ข้อเท้า จนทำให้เขาเซล้มลง แต่เอรีบรับร่างของอ้นไว้ หลังจากนั้นประคองนั่งลง

“อย่าอวดดีเจ็บขนาดนี้จะเดินไปไหนได้ นี่ก็จะมืดแล้วด้วย” เอมองไปรอบบริเวณในป่า

“แล้วเราจะกลับออกไปได้ไหม”อ้นถาม

“ได้ถ้ากูกลับคนเดียว ถ้าเอามึงไปด้วยคงกลับไม่ทันหรอกมืดซะก่อน เพราะมึงตัวหนักกูต้องอุ้มมึงกลับ”

“ไม่เป็นไรหรอกทิ้งเราไว้นี่แหละ นายก็กลับไปเหอะ เราไม่อย่างเป็นตัวถ่วงนาย”

“ก็ดีอยู่ในป่าผีก็เยอะ เสือก็มี ถ้างั้นมึงรอกูอยู่นี่นะ เดี๋ยวกูกลับมารับพรุ่งนี้เช้า อยู่ได้ไหมคนเดียว”

“ได้ ไม่ต้องห่วงหรอก”อ้นกลั้นใจพูด 

“ถ้างั้นกูไปแล้วนะ มึงนอนตรงนี้ก็แล้วกัน เดี๋ยวตอนเช้ากูจะมารีบมารับมึง”เอลุกขึ้นยืนมองหน้าอ้นพร้อมยิ้มที่มุมปาก หลังจากนั้นเขาก็เดินจากไป อ้นมองเอเดินไปจับลับตา

“ไอ้เอบ้า”อ้นโมโหที่เอไปจริงๆเขาจึงหยิบกิ่งไม้หักเป็นท่อนๆด้วยความโมโห

“รู้แบบนี้พูดดีๆก็ได้”อ้นตบหน้าตัวเองสองสามทีด้วยความโมโหตัวเอง ที่ปากแข็งและต้องการประชดประชัน

“ที่นี่จะทำไงดีล่ะเนี้ย”อ้นสุดหนทางที่จะคิดต่อ เพราะถ้ารอถึงพรุ่งนี้ แล้วคืนนี้เขาจะผ่านไปได้อย่างไร เพราะมีแต่ความมืด และหลายสิ่งหลายอย่างที่อยู่รอบตัวของเขามันช่างน่ากลัวเหลือเกิน

อ้นอัดอั้นตันใจน้ำตาไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว เขารู้สึกเสียใจเสียดายที่ปากแข็ง ไม่ขอร้องให้เอช่วยพาเขาออกไป แต่ก็อีกใจหนึ่งใครที่ไหนเขาจะเอาชีวิตมาเสี่ยงด้วย อ้นยิ่งคิดเขายิ่งเศร้าน้ำตาไหลออกมาอย่างไม่ขาดสาย

“ไอ้คนใจดำ ใจร้าย ได้เอบ้า อย่าให้ออกไปได้นะ จะเอาคืนนับร้อยนับพันเท่าเลย”

“มึงจะเอาคืนกูเรื่องอะไร”

อ้นตกใจรีบหันไปข้างหลังทันที และเขาก็เห็นอ้นยืนนิ่งด้วยสีหน้าที่ราบเรียบ

“กลับมาทำไม”อ้นหันหน้ากลับ

“กลับมาเอาของ”

“หาเจอหรือยัง”

“เจอแล้ว”

“เจอแล้วทำไมยังไม่กลับไปอีก”

“ก็กำลังจะกลับ”

อ้นหันหน้ามามองเอแล้วน้ำตาก็ไหลพรากออกมาอย่างไม่ขาดสาย เพียงเอเห็นน้ำตาของอ้นที่ไหลเขาแท่บจะขาดใจ เขาจึงไม่อยากที่จะแกล้งอ้นอีกต่อไปแล้ว

“ก็กลับไปซิมา แล้วของอยู่ไหนล่ะ ลืมอะไร”อ้นพูดขึ้น

“ของก็อยู่ตรงนี้ไง”เมื่อเอพูดจบก็ย่อตัวลงอุ้มอ้นไว้ใต้วงแขนแทนทันที

“ปล่อยนะนายจะมาอุ้มเราทำไม”อ้นทุบไปที่อกของเอ

“ก็นี่ไงของที่กูลืมไว้”

“นาย”อ้นมองตาเอแวบหนึ่งแล้วหันกลับ และหยุดทุบที่หน้าอกของเอ

“ทุบอีกซิ ชอบเจ็บดี”

“ปล่อยเราลงได้แล้ว ไม่ต้องอุ้มเดินไปเองได้ หรือไม่ก็ทิ้งไว้ที่นี่แหละ ไม่อยากเป็นหนี้บุญคุณใคร”

“มึงไม่อยากเป็นหนี้บุญคุณใคร แต่ก็กูอยากให้มึงเป็นหนี้บุญคุณกู ต่อไปกูจะทวงมึงทุกๆวัน”

“นายมันบ้าไม่คุยด้วยแล้ว”

“คุยอีกซิ กูชอบให้มึงด่ากู”

“ไอ้โรคจิต”

“ด่าแค่เนี้ยอยากโดนอีก”

“ยังจะมาพูดเล่นอีกจะมืดแล้ว”

“ไม่ต้องกลัวหรอก เมื่อกี้กูไปหาดูกระท่อมในป่ามาแล้ว ในเมื่อมีที่ดักสัตว์ก็ต้องมีกระท่อม”

“แล้วเจอไหม”

“เจอซิ”

“เจ้าของเขาให้อยู่เหรอ”

“ไม่รู้ เพราะไม่เจอเจ้าของ กูคิดว่าเขาคงกลับบ้านไปแล้วมั้ง คืนนี้พวกเราจำเป็นต้องนอนที่นี่”

“ก็ดีนายจะได้ไม่ต้องอุ้มเราอีก”

“แต่กูอยากอุ้มมึงนานๆจะได้ไหม”

“นายมันบ้าไม่หนักเหรอ”

“หนักก็ทนได้เพื่อมึง”

อ้นไม่อยากต่อปากต่อคำเขาจึงนิ่งสงบ ส่วนเอก็รีบเดินเพื่อที่จะไปให้ถึงกระท่อมให้โดยไวที่สุด เพราะแสงสว่างเริ่มจางหายความมืดเข้ามาเยือนขึ้น 

เมื่อเอพาอ้นมาถึงกระท่อมกลางป่า ที่มีแต่หลังคาไม่มีข้างฝา หลังจากเอวางอ้นบนพื้นไม้ไผ่ เขาก็รีบเดินออกห่างจากกระท่อม

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status