ถึงแม้แสงอรุณสาดส่องมาถึงร่างทั้งสอง เอกับอ้นก็ยังไม่รู้สึกตัวที่จะต้องตื่น เอนั้นได้กอดร่างของอ้นไว้แน่ ส่วนอ้นก็นอนตัวขดงอให้เอได้กอด ทั้งสองนั้นหลับสนิทจนไม่รู้เลยว่าเพื่อนชายหนุ่มในหมู่บ้านได้มาถึงที่กระท่อมที่ทั้งสองนอนอยู่
“ไอ้เอ ไอ้เอ ไอ้เอ ตื่นได้แล้ว”เพื่อนร่วมหมู่บ้านปลุกสะกิดที่ร่างของเอและอมยิ้มในท่าที ส่วนเพื่อนอีกสองคนก็หัวเราะร่วน
เมื่อได้รับสัมผัสจากเพื่อนและได้ยินเสียงหัวเราะ เอจึงเริ่มตื่นจากภวังค์ เขาจึงค่อยๆลืมตาขึ้นทีละน้อยและมองไปตามเสียงที่ได้ยิน เอจึงเห็นชายหนุ่มรุ่นเดียวกับเขายืนหัวเราะกันด้วยความสนุกสนาน
“เฮ้ยเพื่อนหรือเมียว่ะกอดซะแน่นเชียว หน้าตาดูน่ารักอีกต่างหาก”
“เพื่อนซิวะ”เอคลายกอดจากอ้นทัน
“เหรอ”เพื่อนๆของเอหัวเราะกันใหญ่
เอแก้เขินโดยใช้เท้าสะกิดที่ขาของอ้น เพื่อปลุกให้อ้นได้ตื่น เพราะตอนนี้เขารู้สึกอายและเขินเพื่อนในหมู่บ้านอย่างมาก อ้นรู้สึกตัวทันทีเมื่อโดนเท้าของเอสะกิด เขาจึงลืมตาขึ้นด้วยความตกใจ และยิ่งตื่นตระหนกกันไปกันใหญ่ เมื่อเห็นชายหนุ่มสามสี่คนยืนอยู่ตรงหน้า อ้นพลางคิดไปว่าเป็นคนร้ายที่ตามหาเขาอยู่ อ้นจึงโผกอดเอไว้แน่นจนเอรู้สึกอึดอัด
“มีอะไร”เอหันมากระซิบที่อ้น
“คนร้ายที่ตามมาแน่เลย”
“ไม่ใช่เพื่อนกูเอง”
“เออ”อ้นคลายกอดเอทันที
“เพื่อนเขากอดกันอย่างนี้ด้วยเหรอ”
“ใช่ ไม่ต้องพูดมาก ไปกันเถอะ”เอพูดขึ้นเพื่อพยายามเบี่ยงเบนประเด็น
“กูพร้อมตั้งนานแล้ว รอมึงนั่นแหละไอ้เอ มัวแต่นอนกอดกันผ้าผ่อนหลุดหลุ่ยหมด”
“พูดมากไปได้ ไปก็ไป”เอลุกขึ้นยืนใส่กางเกงและลงจากกระท่อม ส่วนอ้นนั่งอยู่อย่างเดิ ม
“อ้าวไม่ไปเหรอ”เอเสียงเข้มใส่อ้น
“นายก็รู้เราได้ไม่ไหว จะให้เดินอย่างไง”อ้นมองเอตาละห้อย”
“เรื่องมากจริงเลย”เอทำท่าดุอ้น
“ถ้างั้นนายไปคนเดียวเลย ทิ้งเราไว้นี้แหละแล้วโทรไปบอกเพื่อนเราด้วยให้มารับ”อ้นทำหน้ามุ่ยและหันหน้าไปทางอื่น
“ขี้งอนซะด้วย”เพื่อนคนหนึ่งของเอพูดขึ้น
“หน้าตาน่ารักอย่างนี้เดี๋ยวกูอุ้มกลับเอง ไอ้เอมึงไม่ต้องหรอก”เพื่อนคนหนึ่งของเอเดินข้าไปหาอ้น
“ถ้าเดินไม่ไหวเดี๋ยวผมอุ้มพากลับเองครับ”เพื่อนเอยื่นมือให้อ้นจับ
“มึงไม่ต้องเลยเดี๋ยวกูให้ขี่คอไป”เอรีบเดินไปนั่งที่กระท่อม
“มีหึง” เพื่อนๆของเอหัวเรากันใหญ่
“ไม่ใช่หึงกูไม่อยากให้พวกมึงลำบาก ไอ้อ้นมันเพื่อนกูเดี๋ยวกูรับผิดชอบเอง”
“เออ ตามใจมึงก็แล้วกัน”
“ขี่คอซิ”เอหันไปมองหน้าอ้น
ส่วนอ้นก็ขยับตัวมาใกล้ๆเอและกอดคอเอไว้ ส่วนเอก็ลุกขึ้นยืนพร้อมซ้อนขาสองข้างของอ้นไว้
“ไปกันได้แล้วจะได้ถึงบ้านเร็วๆ”
“แหม ทำเป็นรีบ พวกเราไป”เพื่อนคนหนึ่งพูดขึ้น
ถึงแม้เอจะรู้สึกหนักขึ้นเมื่อเดินมาเรื่อยๆแต่เขาก็แกล้งทำเป็นยังไหว ส่วนอ้นก็รู้สึกซึ้งน้ำใจของเออย่างสุดใจ ถึงแม้เมื่อก่อนเอจะเป็นคนเห็นแก่ตัวและหลอกเอาเงินของเขา แต่ในเมื่อปัจจุบันเอเปลื่ยนไปเยอะพอสมควร อ้นจึงมีความรู้สึกดีๆขึ้นมาให้เอพอสมควร ยิ่งช่วงนี้เขาห่างๆกับจ๊อบยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ทั้งสองไม่นิ่งสั่นคลอนตลอดเวลา
“นายหนักไหม ถ้าไม่ไหวพักก่อนก็ได้”อ้นพูดขึ้น
“ไม่หนักหรอกนี่ก็ใกล้ถึงทางออก”
“ถ้างั้นก็ได้”
เอพาอ้นขี่คอจนมาถึงที่บ้านของเขา หลังจากนั้นเพื่อนของเขาก็จากไป ปล่อยให้ทั้งสองอยู่กันเพียงลำพัง เอนั้นได้ไปหายานวดมาทาบริเวณที่บวมและแดงให้อ้น ซึ่งก็บรรเทาอาการปวดได้ลงพอสมควร
“ขอบใจมากนะ”
“ไม่เป็นไรหรอกมึงเป็นเมียกูแล้ว กูก็ต้องดูแลมึง”
“เป็นตอนไหน”
“อ้าว เมื่อคืนไม่ใช่เหรอ”
“จำไมได้เลย”
“ถ้าจำไม่ได้เดี๋ยวรื้อฟื้นอีกรอบนะ”เอเดินเข้าไปหาอ้น
“อย่านะ เรื่องเมื่อคืนก็ให้มันจบเมื่อคืน ถือว่าเป็นแค่ความฝัน”
“ทำไมมึงพูดอย่างนี้ล่ะอ้น”เอมีสีหน้าที่โกรธอ้นอย่างมาก
“ถ้าไม่คิดเช่นนั้นแล้วเราสองคนจะทำอย่างไร”
“ก็อยู่ด้วยกันไง”
“จะอยู่ได้อย่างไง นายมีเจนซึ่งเจนก็รักนายมาก เราก็มีบอสเหมือนกัน”
“ไอ้เจนกูไม่สนใจมันแล้ว มันนั่นแหละที่ทำให้มึงหลงป่า”
“ไม่ใช่นะ เจนเขาเป็นคนดี เขาแค่พาเราไปส่งที่ถนนแล้วให้เราขึ้นรถไปแค่นั้น ที่เหลือเป็นใครไม่รู้มาดักจับเรา”
“ก็นั่นแหละ ถ้ามันไม่พามึงไปที่นั่นก็จะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้”
“มันแก้ไขอะไรไม่ได้เรื่องมันผ่านมาแล้ว”
“กูไม่สนต่อไปนี้กูเลิกคบมันแล้ว มันทำให้มึงเจ็บกูยอมไม่ได้”
“เรื่องนี้จบ แล้วเรื่องบอสล่ะ เรายังรักบอสอยู่”
“กูไม่เชื่อมึงรักกูแล้ว ถ้างั้นมึงไม่ยอมเป็นของกูหรอก”
“เราไม่ได้ยอมแต่เราทำอะไรไม่ได้”
“ทำไมจะทำไม่ได้ก็แค่ขัดขืน”
“ถึงอย่างนั้นเรื่องของเราก็เป็นไปไม่ได้”
“เป็นไปได้มึงก็เลิกกับไอ้บอสนั่น ถ้ามึงไม่กล้าเดี๋ยวกูไปบอกมันเอง”
“บอสเขาดีกับเราเยอะ เราทำอย่างนั้นไม่ได้หรอก”
“กูรู้แล้วที่มึงไม่ยอมเลิกกับบอส เพราะมึงยังอยากสบาย ถ้ามาอยู่กับกูต้องทำไร่ใช่ไหม”เอมีสีหน้าที่ตึงเครียดและเริ่มโกรธอ้นอีกครั้ง
“มันไม่ใช่อย่างนั้น เรื่องของเรามันไม่สามารถที่จะเป็นไปได้อีกแล้ว เพราะนายนั่นแหละที่ทำมันพัง”
“ตอนนั้นกูยังเด็กยังไม่รู้ใจตัวเอง แต่ตอนนี้กูรู้แล้วว่ากูรักมึง มึงจะให้กูทำอย่างไงถึงจะยอมอยู่กับกู”
“ทำใจ เพราะมันเป็นไปไม่ได้หรอก”
“กูจะทำให้เป็นไปได้ ไม่เชื่อคอยดูสิ แล้วอีกอย่างถ้ามึงมาอยู่กับกูไม่ต้องทำงานเหมือนกัน กูจะทำเองให้มึงอยู่แบบสบาย”
“เราไม่รู้จะอธิบายให้นายเข้าใจได้อย่างไร เอาเป็นว่าเรื่องของเรามันจบลงแล้ว ส่วนเรื่องเมื่อคืนถือว่าฝันไปซะ”
“กูไม่ยอม มึงต้องอยู่ที่นี่ตลอดไป”
“นายจะทำแบบนั้นไม่ได้นะ”
“ทำไมกูจะทำไม่ได้ มึงอยู่ในห้องนี้แหละ”เอพูดจบก็เดินออกจากห้องไปในทันที ปล่อยให้อ้นนั่งถอนหายใจ อ้นได้แต่เพียงรอให้เท้าหายแพลงแล้วค่อยคิดหาทางหนีอีกครั้ง
เมื่อเอเดินออกจากห้องก็เจอเจนที่นั่งรออยู่ที่ห้องรับแขก ทันทีที่เขาเห็นเจน เอวิ่งเข้าไปหาเจนทันทีและสาวหมัดใส่เจนไม่ยั้ง
“มึงเป็นบ้าอะไร”เจนล้มลงพร้อมกับเลือดที่เต็มปาก แต่ยังดีที่ตั้มและตูนมาทันเวลาห้ามเอาไว้
“มึงพาไอ้อ้นหนีทำไม”เอมองเจนตาขวาง
“ก็กูสงสารมันนี่”เจนไม่สามารถพูดอะไรได้มากกว่านี้ เพราะตั้มและตูนอยู่เขาจึงไม่สามารถพูดเรื่องที่เป็นส่วนตัวได้
“แน่ใจนะว่ามึงสงสารไม่ใช่หึงกูกับไอ้อ้น”เอเผลอพูดออกมาโดยลืมว่าตั้มและตูนยืนอยู่ข้างหลัง
“อะไรนะ”ตั้มและตูนพูดขึ้นพร้อมกัน
“ไม่มีอะไร”เอรีบพูดขึ้นทันทีเมื่อรู้ว่าตัวเองเผลอพูดอะไรออกไป
“ไอ้เอ อ้นมันมีแฟนแล้วมึงจะไปอะไรกับมันนักหนา”เจนพูดพร้อมลุกขึ้นยืน
“มันเรื่องของกู มึงไม่มีสิทธิ์มายุ่ง”
“กูเป็นเอ่อ เป็นเพื่อนมึงคนหนึ่งนะ”
“เพื่อนกันเขาไม่ทำกันอย่างนี้หรอก”
“ทำอย่างไง”
“ก็อย่างที่มึงทำ”
“มึงก็บอกมาซิว่ากูทำอะไรมึง”เจนโมโหเลยเริ่มท้าทายเออย่างไม่กลัวอะไรอีกต่อไป
“ก็มึง”เอหยุดพูดอยู่แค่นี้
“แค่มึงอะไร พูดมาซิ ถ้าแน่จริง อย่าพูดค้างๆคาๆ”
“กูไม่พูด มึงจะทำไม แต่จงรู้ไว้ว่าห้ามมายุ่งกับอ้นอีก”
“ก็ได้กูจะไม่ยุ่ง แต่คนอื่นไม่แน่”ก่อนที่เจนจะเดินจากไปเขาได้มองมาที่เอ
“พวกมึงสองคนเป็นอะไรกันนักหนาทะเลาะกันตั้งแต่ตอนเรียนยังตอนนี้”ตั้มส่ายหน้าแล้วนั่งที่โซฟา
“ไม่มีอะไรหรอก มึงมามีอะไร”เอพูดขึ้น
“ก็จะมาบอกว่าคนที่ทำลายร้านกาแฟของอ้นและตามทำร้ายอ้น นั่นคนเดียวกัน และเป็นคนในโรงงานนั่นแหละ”ตูนพูด
“อ้นไม่ได้ทำงานที่นั่นแล้วนี่ จะมาทำร้ายอ้นทำไมอีก”
“อ้นไม่ได้ทำร้ายพวกมันก็จริง แต่น่าจะมีคนจ้างวานมันมากว่า”
“ใครล่ะ”
“ไม่มีใครเลยนอกจากเลขาคนใหม่ เพราะมีคนในโรงงานเห็นเลขาคนใหม่ของบอส แอบคุยกับคนพวกนี้อยู่”
“ว่าแล้วเชียว”
“ก็คงงั้นแหละ น้องอ้นของมึงน่ารักขนาดนั้น บอสก็รักมากซะด้วย ขนาดกูยังเห็นว่าอ้นน่ารัก”ตั้มแกล้งแซวเอ
“มึงหยุดพูดเลย อ้นไม่ใช่ของใครทั้งนั้นนอกจากของกู”
“เหรอที่เมื่อก่อนนี้หอบผ้าหอบผ่อนหนีเขา มาถึงเวลานี้มาบอกเป็นของตัวเอง ฝันไปเถอะว่าอ้นจะยอมเป็นของมึง”ตูนพูด
“มันก็ไม่แน่หรอก”
“ฮ่ะ หรือว่าเมื่อคืนที่กลางป่าอ้นเสร็จมึงแล้ว”ตูนมีท่าทีตกใจ
“ไม่บอกคิดเอาเอง แต่เรื่องนี้เอาไว้ก่อนเหอะ เราจะทำอย่างไงดีกับเลขาบอสที่จ้องทำร้ายอ้น”
“ก็ต้องบอกให้บอสรู้สิ ไม่ใช่เรื่องยาก”
“ไม่ได้ ถ้าบอกบอส กูก็เสียคะแนนให้บอสหมดนะสิ”
“ไอ้นี่มึงจะอะไรนักหนา”
“ก็พวกมึงมีความสุขดีกับซันและซีนี่ กูต้องอยู่คนเดียว”
“แน่ใจว่าอยู่คนเดียว”ตูนมองเออย่างมีเลศนัย
“ใช่ มึงเห็นกูอยู่กับใคร”
“ไม่มีอะไรหรอก ก็เห็นไอ้ เจนมาหามึงบ่อยๆ ก็เลยสงสัยมึงอยู่คนเดียวได้อย่างไง”
“ไอ้เจนมันเพื่อนไม่เหมือนกันหรอก”
“เพื่อนกันจริงๆนะ”ตั้มมองเออย่างอยากรู้คำตอบ
“ก็เพื่อนน่ะซิ ถ้าไม่ใช่เพื่อนแล้วเป็นอะไร”
“เพื่อนก็เพื่อนใครไปว่าอะไร ทำไมต้องโกรธขนาดนั้น
“พอเถอะ พูดเรื่องของอ้นต่อ เราจะช่วยอ้นอย่างไรดี เพื่อให้รอดพ้นเงื้อมมือของเลขาคนใหม่ของบอส”เอพูดด้วยความเป็นห่วงอ้นจากใจจริง
“ก็ไม่เห็นต้องทำอะไร มึงก็แค่ส่งตัวอ้นคืนบอสก็แค่นั้น ขืนอยู่กับมึงเดี๋ยวพวกนั้นก็ตามมาทำร้ายอีก และอีกอย่างอ้นเขาต้องมีชีวิตอีกต่อไป เขามีเพื่อนมีพ่อมีแม่ มึงจะให้เขาอยู่อย่างนี้ไม่ได้หรอก”
“ทำไมจะไม่ได้”
“มึงจะให้ไอ้อ้นอยู่ในห้องกับมึงทั้งวันทั้งคืนทั้งปีทั้งชาติ มึงจะเห็นแก่ตัวไปหน่อยมั้งอ้นเขามีชีวิตจิตใจเหมือนกับพวกเรานะ อ้นเขาก็อยากไปโน้นไปนี่ไปนั่นมึงจะกักขังเขาไว้อย่างนี้ตลอดไปไมได้หรอกนะ”
“กูก็ไม่อยากจะทำแบบนี้หรอก แต่อ้นไม่ยอมอยู่กับกู จะกลับไปหาบอสท่าเดียว แล้วมึงจะให้กูทำอย่างไง”
“ทำใจ”ตั้มพูดขึ้น
“กูทำใจไม่ได้หรอก กูต้องการอยู่กับอ้นกูรักของกู เหมือนพวกมึงนั่นแหละที่รักซันกับซี”
“ไม่เหมือนซันและซีมีเวลาเป็นของตัวเอง อยากทำอะไรก็ได้ทำอยากไปไหนก็ได้ไป แต่อ้นของมึงต้องเป็นนางห้องอยู่อย่างนี้ ใครที่ไหนเขาจะชอบ ขืนมึงทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ อ้นจะเกลียดมึงมากขึ้นมากกว่า และอีกอย่างถ้าบอสกลับมาเขาก็ต้องมาทวงคืน มึงคิดเหรอว่าเรื่องแค่นี้บอสเขาจะหาอ้นไม่เจอ”
“เจอแล้วไง กูจะทำให้ไอ้อ้นไม่ยอมไปกับบอส”
“มึงนี่เห็นแก่ตัวจริงๆ ตามใจมึง สุดท้ายคนที่เจ็บที่สุดก็คือมึง กูเป็นเพื่อนมึงก็อยากจะเตือนมึงด้วยความหวังดี ถ้ามึงอยากมีใครสักคน ไม่ใช่เรื่องอยากเลย เพื่อนซันและซีมีตั้งเยอะ”
“กูไม่ได้ชอบแบบนั้นกูชอบอ้นที่เป็นอ้น”
“ตามใจมึงพวกกูก็เตือนมึงได้แค่นี้แหละ”
“ขอบใจที่เตือน แต่กูขอไม่เชื่อมึงก็แล้วกัน”
“ให้มันได้อย่างนี้ซิไอ้เอ”ตูนถึงกับส่ายหน้า เพราะเขาหมดหนทางที่จะเกลี่ยกล่อมเอแล้ว “พอเถอะเรื่องนี้ เดี๋ยวกูจะไปทำกับข้าวให้ไออ้นกินมึงจะกินกับพวกกูไหม”เอพูดขึ้น
“กินซิ ถือว่าเป็นลาภปากอันประเสริฐที่ได้กินกับข้าวฝีมือของมึง เดี๋ยวกูจะเล่นมือถือรออยู่ตรงนี้”
“หยุดเลย ถ้าอยากกินต้องช่วยกันทำ”
“ทีไอ้อ้นนี่ทำให้กิน ที่พวกกูต้องช่วย ไม่ยุติธรรม”ตูนพูด
“พวกมึงดันเกิดมาเป็นผู้ชายเอง มึงไม่น่ารักเหมือนอ้นของกู พวกมึงก็ต้องทำงานแลกข้าวอย่างนี้แหละ”เอหัวเราะ
“ไอ้นี่ท่าจะเป็นเอามาก”ตูนหันมามองหน้าตั้ม
“คนมันรักของมันนี่ จะทำไงได้ล่ะยอมทำทุกอย่างเพื่อได้ไอ้อ้นมาครอบครอง”
ตั้มและตูนมองหน้ากันอีกครั้งก่อนที่จะเดินเข้าไปในครัว เพื่อช่วยเอทำกับข้าวให้อ้นกินรวมทั้งพวกเขาทั้งสองคนด้วย ซึ่งเอมีความสุขมากที่ได้ทำอาหารให้อ้นได้กินในมื้อนี้ ส่วนตั้มและตูนก็อมยิ้มที่เห็นเอมีความสุขอีกครั้ง หลังจากที่เขาเศร้าสร้อยมานานแสนนาน จากการตามหารักแท้จากอ้น
เอพร้อมกับตั้มและตูนเมื่อทำกับข้าวเสร็จ เอให้ตูนและตั้มกินกันสองห้องในครัว ถ้ากินเสร็จก็ให้กลับบ้านไปเลย ที่สำคัญฝากล็อกบ้านไว้ด้วย เพราะเวลานี้ก็ช่วงเย็นแล้ว เอจึงอยากจะอยู่กับอ้นเพียงสองคน เขาจึงนำอาหารไปให้อ้นกินในห้องนอน “กินซะ”เอวางอาหารไว้บนโต๊ะหลังจากที่อุ้มเอมานั่งบนเก้าอี้แล้ว “ทำเองเหรอ ดูหน้าตาแปลกๆ”อ้นมองกระเพาะไก่ไข่ดาวเกรียมๆนิดหน่อย “ทำมาให้กินก็กินซะ กินไม่ได้ก็ต้องกิน” “ยังไม่ได้บอกว่ากินไม่ได้เลย แค่ถามเฉยๆจะพูดดีๆบ้างไม่ได้เหรอ” “คนอย่างมึงพูดดีไม่ได้หรอก ต้องเจอคนแบบกูที่อารมณ์ขึ้นๆลงๆถึงจะอยู่กันได้” “คิดไปคนเดียว” “มัวแต่พูดกินเข้าไป นี่ก็จะมืดแล้ว คืนนี้เราต้องทำอะไรกันอีกเยอะ” “ทำอะไรก็มีแต่นอน”อ้นมีสีหน้าทีสงสัย “ก็นอนไงนอนแบบเมื่อคืนนี้ แต่คราวนี้มิดชิดหน่อย”เอหัวเราะ “ไม่ตลกด้วยนะ”อ้นตักผัดกระเพาะมาที่จานข้าวและตักใส่ปาก ซึ่งเขาสัมผัสรสได้ว่าอร่อยมาก “อร่อยใช่ไหม” “ไม่น่าเชื่อว่าจะทำได้อร่อยขนาดนี้” “กูทำ
อ้นได้ขึ้นรถมาพร้อมกับเจน ที่หน้าตายังนิ่งและปูดบวม อ้นอยากจะถามแต่ก็ไม่กล้า เพราะอ้นไม่แน่ใจว่าเป็นฝีมือของเอหรือเปล่า “หนีไอ้เอออกมาจะไปไหนเหรอ”เจนพูดขึ้น “กลับกรุงเทพ” “ไม่ห่วงไอ้เอมันเหรอ”เจนหันมามองอ้น “ทำไมต้องห่วงเราไม่ได้เป็นอะไรกัน” “แต่มันรักมึงนี่ มึงก็รู้ไม่ใช่เหรอ” “รู้ แต่เราไม่ได้รัก”กว่าที่อ้นจะพูดคำว่านี้ออกไป เขาสะเทือนใจพอสมควร เพราะในเวลานี้เขาได้กลับมารักเออีกครั้ง แต่ก็ไม่สามารถที่จะอยู่ด้วยกันได้อีกต่อไป เพราะอีกใจหนึ่งเขาก็ยังมีความรู้สึกดีๆกับบอส “แน่ใจ” “แน่ใจซิ ถ้ารักเราจะหนีออกมาทำไม แล้วอีกอย่างเรามีบอสอยู่แล้ว จะไปรักคนอื่นได้อย่างไง” “ก็ดี แล้วมึงจะให้กูไปส่งที่ไหน” “ขนส่งก็ได้” “กูหมายถึงในกรุงเทพ” “นายจะไปส่งเราถึงโน้นเลยเหรอ” “ใช่ ขืนให้มึงไปรถทัวร์ เดี๋ยวไอ้เอตามมึงจนเจออีก” “ได้”อ้นจึงบอกที่
จ๊อบกับบี้เดินเข้ามาในโรงแรมสุดหรูที่ห่างไกลผู้คน มิคกี้เข้าไปอาบน้ำก่อนแล้วออกมานอนบนเตียง ส่วนบี้อาบทีหลังและตามออกมานอนข้างๆจ๊อบ “สิ่งที่เราจะทำวันนี้มันผิดมากไหม”จ๊อบยังลังเล เพราะลึกๆเขายังรักอ้นอยู่ แต่ด้วยความคลางแคลงใจในตัวอ้น และโดนวางยาจากครั้งเก่าก่อน ทำให้จ๊อบมีนิสัยด้านความรักที่เปลื่ยนไปพอสมควร “อย่าพูดถูกผิดเลย ในเมื่อใจเราต้องการก็ควรปล่อยมันไปเป็นตามธรรมชาติ” “ผมไม่สบายใจเลยที่ต้องทำแบบนี้” “เอาน่า ความสุขเล็กๆน้อยๆของเรา หยุดพูดเถอะเดี๋ยวบี้จะจัดการให้ทุกอย่าง” บี้โอบกอดร่างของจ๊อบไว้หลวมๆและคลายออกมาลูบไล้ที่แผ่นอก ลูบคลำสัมผัสหัวนมของจ๊อบเล่นอย่างมันมือ จึงทำให้จ๊อบเสียวซ่านไปทั้งตัว เพราะเขาไม่เคยได้สัมผัสนี้จากอ้นมาก่อนเลย บี้เริ่มใช้ริมฝีปากประกบปากของจ๊อบ หลังจากนั้นใช้ลิ้นตวัดสัมผัสซึ่งกันและกัน จ๊อบตอบสนองบี้อย่างไม่อิดออด ส่วนมือของบี้จับหัวนมของจ๊อบขยำขยี้อย่างอ่อนโยน บี้ยังไม่หยุดอยู่แค่นั้น เขาเลื่อนไปสัมผัสที่ซอกหูและติ่งหูอย่างออกรสชาติ บี้ไล่ลงมาส่วนรักแร้ที่มีขนดกดำ บี้ดอมดมอย่างใ
อ้นนอนอยู่คอนโดอย่างเดียวดาย ซึ่งเขาก็แอบดีใจที่จ๊อบไม่มา เพราะอ้นก็ทำตัวไม่ถูก ถ้าเกิดจ๊อบอยากมีความสัมพันธ์ทางกายกับเขา เพราะตอนนี้ใจของอ้นเอียงเอนไปทางเอมากกว่าจ๊อบ อ้นนั่งๆนอนอยู่ที่คอนโด ดูซีรี่เล่นมือถือคุยกับเพื่อน และทำอีกหลายสิ่งหลายอย่าง ที่อ้นทำเช่นนั้นเพื่อที่จะได้ลืมความทุกข์ที่เริ่มเกาะกินใจเขาขึ้นมาเรื่อยๆ ในระหว่างที่อ้นกำลังคิดอะไรเพลินๆก็ได้ยินเสียงกดกริ่ง เขาจึงรีบไปเปิดประตู เพระคิดว่าน่าจะเป็นจ๊อบที่มาหาเขา แต่แล้วคนที่ยืนอยู่ตรงหน้านั้น ไม่ใช่คนที่เขาคิดไว้เมื่อครู่ “คุณบี้มีอะไรเหรอ”อ้นพูดขั้นเมื่อเห็นหน้าของบี้ แต่บี้ไม่พูดอะไรเดินเข้ามาในห้องทันที “ห้องโทรมไปเยอะเนอะเหมือนเจ้าของห้องเลย” “ถ้าคุณมาพูดแค่นี้ก็กลับไปซะ อ้นไม่มีเวลาที่จะมาคุยเรื่องไร้สาระ” “ฉันไม่ได้มาคุยเรื่องไร้สาระ แต่ฉันมีเรื่องที่น่าตื่นเต้นให้เธอดูมากกว่า”บี้ยิ้มอย่างมีเลศนัย “อ้นไม่อยากรู้อยากเห็นอะไรทั้งนั้น เชิญคุณกลับไปได้แล้ว” “ฉันจะยังไม่กลับ ถ้าเธอยังไม่ดูอะไรที่ฉันอยากให้ดู” “ถ้างั้นก็เอา
อ้นนั้นได้ถือโอกาสมาพักผ่อนหย่อนใจ หลีกหนีความผิดหวังและความรักที่ไม่จริงใจ การมาเชียงใหม่ในครั้งนี้เป็นความใฝ่ฝันของอ้นด้วย ในเมื่ออ้นมีเงินพอที่จะใช้จ่าย เขาจึงอยากให้รางวัลตัวเอง ด้วยการตระเวนเที่ยวโดยขึ้นมาทางเหนือก่อนเป็นอันดับแรก การมาครั้งนี้มีเพียงจีจี้คนเดียวที่รับรู้ ส่วนซันและซีอ้นได้กำชับไว้ไม่ให้บอก เพราะว่าอ้นสงสัยสองคนนั้นน่าจะเอียนเองตามแฟนมาอยู่ข้างเออย่างแน่นอน ค่ำคืนนี้อ้นมีโครงการที่จะไปถนนคนเดิน เมื่อได้เวลาที่จะต้องไปเขาลงมาจากโรงแรม และมายืนรอรถตุ๊กๆที่หน้าโรงแรม แต่แล้วตุ๊กๆไม่ทันได้มาจอดรับ มีเพียงบิ๊กไบค์คันใหญ่จอดตรงหน้า พอคนขับเปิดกระจกหมวกกันน็อคออก ซึ่งไม่ใช่ใคร่แค่เห็นเพียงดวงตาสองคู่อ้นก็จำได้ทันที “ขึ้นรพร็วจะไปไหนบอกมา”เอพูดขึ้นทันที พร้อมยื่นหมวกกันน็อคอีกใบให้อ้น แต่อ้นไม่รับและมองด้วยสายตาที่ไม่สบอารมณ์ อ้นจึงเดินหนีและไม่พูดจาตอบโต้แต่อย่างใด และอ้นก็สงสัยอีกว่าเอรู้ได้อย่างไรว่าเขามาอยู่ที่เชียงใหม่ สาเหตุที่เอรู้นั้นก็เพราะว่าเขาดักรออยู่หน้าคอนโดทุกวันจนถึงวันที่อ้นออกจากคอนโด และเขาก็ได้ติดตามอ้นแบบห่างๆจนมา
อ้นนั่งครุ่นคิดเรื่องราวที่ผ่านมาตั้งแต่อดีตยันปัจจุบันบนเตียงนอน โดยเฉพาะช่วงเวลาในปัจจุบันที่เขาแสนจะกลัดกลุ้มขุ่นใจกับสองหนุ่มที่ตามตื้อไม่ห่าง จนอ้นตัดสินใจที่จะหนีจากสองคนนี้อีกครั้ง แต่อีกใจหนึ่งเขาก็รู้สึกดีตอนที่สองหนุ่มมารุมล้อม ความรู้สึกนี้พึ่งได้รับตอนนี้ที่อ้นได้นั่งทบทวนสิ่งต่างๆ แต่ปัญหาคือมีมาทีเดียวสองคน ซึ่งอ้นยังไม่รู้ใจตนเองว่าชอบใคร คนหนึ่งรักแรกคนสองรักใหม่ ต่างมีข้อดีข้อเสียและทำให้อ้นเจ็บซ้ำน้ำใจไม่น้อยไปกว่ากัน “ในระหว่างที่อ้นกำลังนั่งคิดถึงสองหนุ่มที่ตามติดไม่ห่างอยู่นั้น เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น อ้นจึงรีบรับทันที เพราะเป็นเพื่อนสาวที่สนิทตั้งแต่สมัยเรียน “ฮัลโหล” “ยังไม่นอนอีกเหรอ”จีจี้ถาม “ยังกำลังคิดอะไรเพลินๆอยู่” “คิดเรื่องอะไร” “ก็เรื่องบอสกับเอที่ตามมาถึงเชียงใหม่” “อ่ะ เราไม่ได้บอกนะ”ความจริงจีจี้รู้อยู่แล้ว เพราะเอและจ๊อบโทรมาหาเธอ ต่างฝ่ายต่างให้จีจี้เชียร์ “แล้วเธอได้บอกซันกับซีไหม” “โอ๊ยสองคนนั่นเดี๋ยวนี้ไม่เห็นหัวติดผู้ชาย ตามตั้มและตู
จ๊อบออกจากห้องของอ้นไปได้ไม่นาน เสียงเคาะประตูรัวๆก็ดังขี้นไม่หยุด ด้วยความรำคาญอ้นจึงเปิดออกดูว่าเป็นใคร เพียงแง้มประตูเท่านั้นแหละ เอก็ผลักประตูเข้ามาทันทีและเดินนำหน้าอ้นไปนั่งที่โซฟา อ้นถึงกับยืนงงด้วยพฤติกรรมของเอ “มานั่งใกล้ๆนี่ มีเรื่องจะคุยด้วย” อ้นเดินอย่างช้าๆและนั่งลงข้างๆเอที่มีสีหน้าดูเคร่งเครียดพอสมควร ก่อนที่เอจะพูดอะไรออกมาเขาได้กัดริมฝีปากตัวเองเบาๆ “กูมีเรื่องจะคุยกับมึง” “มีอะไร” “ตอนนี้กูไม่มีพันธะ ไอ้เจนมันไปทำงานที่ภาคใต้แล้ว” “รู้แล้ว” “รู้แล้วก็ดีมึงจะได้สบายใจ” “เจนจะไปไหนอยู่ไหนมันก็ไม่เกี่ยวกับเรานี่” “เกี่ยวซิ ถ้าไอ้เจนมันยังพัวพันกับกู ถึงกูจะไม่ได้รักมัน แต่มึงก็จะคาใจกูอยู่” “เราจะคาใจนายทำไม ในเมื่อเราไมได้เป็นอะไรกันนี่” “มึงก็รู้ดีแกใจ มึงกับกูมีอะไรกันตั้งสองครั้ง ในป่าครั้งหนึ่ง ที่บ้านกูอีกครั้งหนึ่ง” “จะพูดทำไม เรื่องมันผ่านมาแล้ว”อ้นรู้สึกกระดากใจพอสมควรที่ได้ยินคำพูดนี้จากปากของเอ “ยังไม่รวมต
ช่วงเวลาแห่งความสุขบนดอยอินทนนท์ผ่านเป็นอย่างรวดเร็ว เอได้พาอ้นมาที่บ้านไร่ที่เขาอาศัยอยู่ ในนาทีนี้ที่เขาอยู่กันเพียงสองคนในห้องไม่ใหญ่มาก แต่เต็มไปด้วยความรักที่ยิ่งใหญ่ อ้นนั้นแสนดีใจหาใดเปรียบ การตัดสินใจในครั้งนี้ของอ้นก็เหมือนกับเสี่ยงดวงเหมือนกัน เพราะเขาก็ยังไม่แน่ใจว่าเอจะดีอย่างปากพูดไว้หรือเปล่า ในห้องนอนวันแรกที่มาอยู่บ้านไร่ของเอ อ้นนอนเล่นโทรศัพท์มือถือคุยกับเพื่อนรักอย่างจีจี้ เมื่อเอเดินออกมาจากห้องน้ำ เขารู้สึกไม่พอใจอ้นเล็กน้อย เพราะไม่ยอมสนใจเขาอย่างที่ควร เอจึงขึ้นไปบนเตียงและนอนข้างๆอ้น มีท่าทีที่กระฟัดกระเฟียด “ผัวนอนอยู่ทั้งคนยังคุยกับคนอื่นอีก” “ไม่ใช่คนอื่นเพื่อนเราเองจีจี้ไง นายจำไม่ได้เหรอ”อ้นเลิกกดส่งไลน์จีจี้ทันที “จำได้ แต่มันใช่เวลาไหมที่จะคุยกัน ตอนนี้เราต้องทำอะไรบางอย่าง” “ทำอะไรล่ะ” “ก็อย่างนี้ไง” เอพลิกร่างตะแครงก้มลงจูบที่ริมฝีปากของอ้น เขาใช้ปลายลิ้นซอนไซร้เข้าไปภายใน ส่วนอ้นก็สมยอมแต่โดยดีโอบกอดผิวเรือนกาย ไร้อาภรณ์ของเออย่างเร่าร้อน เอถอนริมฝีปากออกมาไซร้ซอกคอทุกมุม ตอห