อ้นนั้นได้ถือโอกาสมาพักผ่อนหย่อนใจ หลีกหนีความผิดหวังและความรักที่ไม่จริงใจ การมาเชียงใหม่ในครั้งนี้เป็นความใฝ่ฝันของอ้นด้วย ในเมื่ออ้นมีเงินพอที่จะใช้จ่าย เขาจึงอยากให้รางวัลตัวเอง ด้วยการตระเวนเที่ยวโดยขึ้นมาทางเหนือก่อนเป็นอันดับแรก การมาครั้งนี้มีเพียงจีจี้คนเดียวที่รับรู้ ส่วนซันและซีอ้นได้กำชับไว้ไม่ให้บอก เพราะว่าอ้นสงสัยสองคนนั้นน่าจะเอียนเองตามแฟนมาอยู่ข้างเออย่างแน่นอน
ค่ำคืนนี้อ้นมีโครงการที่จะไปถนนคนเดิน เมื่อได้เวลาที่จะต้องไปเขาลงมาจากโรงแรม และมายืนรอรถตุ๊กๆที่หน้าโรงแรม แต่แล้วตุ๊กๆไม่ทันได้มาจอดรับ มีเพียงบิ๊กไบค์คันใหญ่จอดตรงหน้า พอคนขับเปิดกระจกหมวกกันน็อคออก ซึ่งไม่ใช่ใคร่แค่เห็นเพียงดวงตาสองคู่อ้นก็จำได้ทันที
“ขึ้นรพร็วจะไปไหนบอกมา”เอพูดขึ้นทันที พร้อมยื่นหมวกกันน็อคอีกใบให้อ้น
แต่อ้นไม่รับและมองด้วยสายตาที่ไม่สบอารมณ์ อ้นจึงเดินหนีและไม่พูดจาตอบโต้แต่อย่างใด และอ้นก็สงสัยอีกว่าเอรู้ได้อย่างไรว่าเขามาอยู่ที่เชียงใหม่ สาเหตุที่เอรู้นั้นก็เพราะว่าเขาดักรออยู่หน้าคอนโดทุกวันจนถึงวันที่อ้นออกจากคอนโด และเขาก็ได้ติดตามอ้นแบบห่างๆจนมาถึงที่เชียงใหม่
“จะไปไหนอ้น”จ๊อบยืนดักหน้าอ้น
อ้นหนักใจเป็นอย่างยิ่งหลังจากเห็นใบหน้าของจ๊อบที่ยิ้มทั้งใบหน้า ซึ่งอีกเช่นเคยอ้นสงสัยว่าจ๊อบรู้ได้อย่างไงว่าเขามาที่เชียงใหม่ แน่นอนที่จ๊อบสามารถจะตามหาใครก็ได้ ในเมื่อเขามีทั้งเงินและเพื่อนฝูงหลายแวดวง และก็ไม่ใช่ใครเลยที่ทำให้จ๊อบตามอ้นจนเจอ นั่นก็คือเอที่ดักรออ้นอยู่หลายวัน กล้องวงจรปิดจับไว้ได้หมด จึงไม่ใช่เรื่องยากที่จ๊อบจะตามหาอ้นจนเจอจากการติดตามตัวเออย่างใกล้ชิด
“ตอนนี้เราจบกันแล้วบอสไม่ใช่ซิจ๊อบ”
“คุณจบแต่ผมไม่จบ ผมจะทำให้ทุกอย่างเป็นเหมือนเดิม”จ๊อบพูดขึ้น
“โอ๊ย ไอ้หน้าด้านคนเขาบอกว่าจบยังจะตามตื้ออยู่ได้ ไม่รู้สึกอายบ้างเหรอ”เอรีบลงจากรถและเดินมาหาอ้นทันใด ที่เขาเห็นหน้าจ๊อบยืนขวางอ้นไว้
“หุบปากไปเลย แฟนเขาจะคุยกัน คนนอกอย่ามายุ่ง”
“มึงนั่นแหละคนนอกไอ้บอส กูรู้จักไอ้อ้นก่อนมึงอีกอยู่ด้วยกัน มึงต่างหากคนนอก”
“ผมก็อยู่กับอ้นเหมือนกัน อยู่นานกว่าคุณอีก ได้ข่าวว่าอยู่ไม่ถึงเดือนหลอกอ้นให้เงินค่าเทอมเลี้ยงดูปูเสื่อไม่ใช่เหรอ ใครกันน่ะที่หน้าด้านผมมีแต่ให้แต่คุณมีแต่เอาจากอ้น”จ๊อบยังจำได้ดีที่เค้นความลับนี้จากตั้มและตูน
“มึงก็เหมือนกันนั่นแหละคบชู้มีความสัมพันธ์กับเลขาคนตัวเอง”เอได้ตามจ๊อบหลังจากที่เขาออกจากคอนโดอ้นและก็ได้เห็นจ๊อบเข้าโรงแรมกับบี้เลขาคนสนิท
“เลวทั้งคู่ อีกคนนอกใจ อีกคนหลอกลวง หาดีไม่ได้ซักคน ไม่ต้องตามมาอ้นจะไปตามทางของอ้น”
“จะไปไหนมาขึ้นรถของผมดีกว่า ผมอุตส่าห์เช่ามาเพื่ออ้นโดยเฉพาะ”เอ จับมือข้างขวาอ้นไว้
“ขึ้นบิ๊กไบค์อันตรายขึ้นรถเก๋งของผมดีกว่าปลอดภัย”จ๊อบจับมือข้างซ้ายของอ้นไว้
“ไม่ไปไหนทั้งนั้นอ้นจะไปเอง” อ้นสลัดมือจากสองหนุ่มจนหลุด และเป็นจังหวะเดียวที่รถตุ๊กๆมาอ้นจึงรีบวิ่งขึ้นตุ๊กๆทันที
“พี่ไปไหนก็ได้”
“น้องรถพี่กินน้ำมันนะ น้องจะไปไหนก็ต้องมีจุดหมาย”คนขับรถตุ๊กๆพูดขึ้น
“ถ้างั้นไปถนนคนเดินไปส่งที่คนเยอะรกเยอะ”
“ได้ครับ”คนขับรถตุ๊กๆรีบเร่งเครื่องไปทันที
จ๊อบอาจเสียเปรียบเพราะรอตุ๊กๆอีกคันให้ขับตามไป ส่วนเอได้เปรียบเพราะบิ๊กไบค์ของเขาจอดข้างๆ เอจึงรีบไปที่รถและขับตามไปอย่างช้าๆ
อ้นหันหลังมองเขาก็เห็นเอตามหลังมาติดๆ ถัดไปก็เป็นจ๊อบที่นั่งตุ๊กๆตามหลังบิ๊กไบค์มาอย่างกระชั้นชิด อ้นถอนหายใจเฮือกใหญ่ไม่รู้ว่าจะจัดการนายตัวร้ายสองคนนี้อย่างไรดี แต่เมื่อตุ๊กตุ๊กจอดติดไฟแดงอ้นจึงรีบจ่ายเงิน และลงข้างทางวิ่งๆเข้าไปทางเดินในถนนคนเดินทันที จ๊อบเห็นเช่นนั้นจึงทำตามอ้นอย่างไม่ลังเล ซึ่งในครั้งนี้จ๊อบได้เปรียบเพราะเอไม่สามารถที่จะทิ้งรถไว้ได้ เขาจึงต้องขับไปเรื่อยและหาที่จอดรถ
ด้วยคนหลายร้อยที่เดินในถนนคนเดิน และความคล่องตัวของอ้นเขาจึงเดินหลบหลีกหนีจ๊อบที่เชื่องช้า เพราะไม่คุ้นเคยสิ่งแบบนี้แม้แต่น้อย เขาจึงเดินตามอย่างไร้จุดหมาย รอแค่เพียงโชคชะตาให้เจอกันแค่นั้น
เมื่ออ้นคิดว่าเดินมาไกลจากจ๊อบแล้วเขาจึงค่อยๆเดินดูของต่างๆที่มาวางขาย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นของชำร่วยน่ารักๆ ซึ่งเป็นอะไรที่อ้นชอบมากเขาจึงซื้อหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นพวงกุญแจจากแผ่นไม้เล็กๆและเขียนชื่อของเขาติดไว้ แม้แต่กรอบรูปเล็กๆที่แกะสลักอย่างสวยงามเขาก็ซื้อหลายอัน ยิ่งสร้อยเงิน แหวนเงิน กำไลเงิน ต่างหูเงิน ข้อเท้าเงิน อ้นซื้อครบเซ็ตไม่มีขาดแม้แต่ชิ้นเดียว อ้นเพลิดเพลินกับการจับจ่ายใช้สอยเงินอย่างสบายมือ
อ้นเดินไปเรื่อยๆจนถึงการแสดงของเด็กที่มาร้องรำทำเพลงพื้นเมือง เมื่ออ้นได้ฟังแล้วเกิดความประทับใจเขาจึงหยุดและไปนั่งดูอยู่หน้าเวทีทีเดียว ในระหว่างที่อารมณ์ของอ้นกำลังอยู่ห้วงสุนทรีย์ แต่ก็มีคนมาขัดจังหวะนั่งข้างฝั่งซ้าย
“เด็กพวกนี้เก่งหนอ”จ๊อบเดินมาเรื่อยๆและบังเอิญเห็นอ้นนั่งอยู่ เขาจึงไม่รีรอที่จะมานั่งข้างๆเพราะอีกฝั่งขวามีคนนั่งอยู่
“จะตามมาทำไมบอส อ้นไม่อยากจะเจอบอสแล้ว”
“แต่ผมอยากเจอคุณอยากเจอทุกวันทุกคืนทุกเวลาทุกวินาที สิ่งที่ผมกล่าวมาสำคัญมากสำหรับผมมาก”
อ้นไม่ได้พูดอะไรต่อเพราะเป็นสถานที่ไม่ค่อยเหมาะที่จะมาคุยเรื่องส่วนตัว อ้นจึงไม่คิดที่จะพูดอะไรไปมากกว่านี้อีก
“ป้าๆไม่ง่วงนอนเหรอดึกแล้วนะ”เอนั่งข้างๆป้าวัยห้าสิบที่นั่งข้างๆอ้นฝั่งขวา
“มายุ่งอะไรกับป้าลูกหลานก็ไม่ใช่”คุณป้ามองค้อนเอ
“ป้ามานั่งที่ผมไหม ผมจะไม่รบกวนป้าเลย เรามาสลับที่กัน”
“ประสาท”คุณป้าลุกขึ้นยืนแต่ไม่ได้สลับที่กับเอ คุณป้านั้นเดินไปทางอื่นทันที เพราะป้าคิดว่าเอน่าจะเป็นคนบ้า จึงไม่อยากที่จะนั่งใกล้ด้วย เอจึงถือโอกาสนี้ขยับมานั่งใกล้อ้นทันที
“นี่ก็อีกคนจะตามมาทำไม”อ้นมองค้อน
“มาตามเมียผิดด้วยเหรอ “เอพูดเสียงดัง
“บ้าทั้งสองคน”อ้นลุกขึ้นทันทีและรีบเดินไปทางอื่น เพราะเขาไม่อยากจะเห็นหน้าทั้งสองคนที่ใจร้ายกับเขาคนละอย่าง
“อ้นจะไปไหน”จ๊อบเดินขนาบข้างซ้าย
“อ้นไม่ต้องไปบอกมันบอกเราก็ได้จะพาไป”เอเดินขนาบข้างขวา
“ไปหาผู้ชาย”อ้นมองทั้งซ้ายขวาและรีบเดินอย่างไวเพื่อที่จะหลบหลีกให้พันสายตาทั้งสอง
ทั้งจ๊อบและเอจะไม่ยอมพลาดอีกเป็นเด็ดขาด เขาจึงตามอ้นแท่บจะเป็นเงาตามตัว และไม่สนใจคำพูดของอ้นแม้แต่น้อย เพราะทั้งสองคิดว่าอ้นพูดประชดไม่กล้าทำจริงหรอก แต่ทั้งสองเข้าใจอ้นผิดถนัด เพราะเขาจะไปจริงด้วยว่าจะประชดเอและจ๊อบ และกะว่าจะออฟเด็กมาสองสามคน อ้นจึงมองมาซอยทางออกและเขาก็เจอ อ้นจึงรีบออกไปทันที
“อ้นจะกลับแล้วเหรอยังไม่ดึกเลย”จ๊อบถาม
“ยัง”อ้นพูดห้วนๆ
“ถ้ายังแล้วจะไปไหน”เอถาม
“บาร์โฮสต์”
“ผมไม่ให้ไป”จ๊อบเสียงเข้ม
“มีผมทั้งคนจะไปทำไม ผมหล่อกว่าตั้งเยอะ ไม่งั้นอ้นไม่ติดใจผมหรอก ยังจำได้ตอนเรียน ผมจำไม่ลืมเลยนะ”เอยิ้มให้อ้น
“ตอนนั้นเอยังไม่ยี่สิบตอนนี้เท่าไรแล้วจะไปสู้เด็กๆได้ไง”อ้นแท่บจะกลั้นขำไม่อยู่
“พูดไม่ดูหนังหน้าตัวเองเลย”จ๊อบพูดขึ้นลอยๆ
“แต่ก็ยังน้อยกว่ามึงเลขสามแล้วนี่”เอหัวเราะ
“ไม่ต้องพูดมาก แก่ทั้งคู่”
“ยี่สิบปลายๆนี่แก่เหรอ ถ้างั้นมึงก็แก่เพราะอายุเท่ากู”
อ้นหันไปมองหน้าเอด้วยสายตาที่ขวางและค้อนกลับ อ้นนิ่งไปทันทีเพราะไม่สบอารมณ์ที่เอชอบพูดอะไรตรงๆ
“สมน้ำหน้า ปากไม่มีหูรูด”จ๊อบได้ที่ซ้ำเติมเข้าทันใด
อ้นเริ่มคิดหนักที่จะไปบาร์โฮสต์ เพราะถ้าไปจริงสองคนนี้คงไปป่วนจนทำไห้เขาอับอาย อ้นจึงตัดสินใจที่จะกลับโรงแรม และคาดว่าจะเช็คเอ้าท์หนีแต่เช้ามืด เมื่อรถตุ๊กๆผ่านมาอ้นจึงรีบขึ้นทันที และสั่งให้ตุ๊กๆขับไปเรื่อยๆก่อน ปล่อยให้สองคนมองตาละห้อย
“เป็นเพราะมึงที่ทำให้อ้นหนีมาถึงนี่”เอพูดขึ้นด้วยความโมโห
“คุณนั่นแหละหลอกอ้นมาตั้งแต่ต้น และยังจะมาเอาอะไรอ้นอีก”
“กูมาเอาใจอ้น เพราะเมื่อก่อนอ้นเอาใจกูไป ทำไมกูจะมาเอาคืนไมได้”เอมองหน้าจ๊อบอย่างเย้ยหยัน
“อ้นเอาใจคุณทิ้งไปนานแล้ว ถ้ายังมีใจให้คุณ อ้นคงมาอยู่กับผมหรอก”จ๊อบยิ้มอย่างผู้กำชัยชนะ
“เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า ที่อ้นอยู่กับคุณก็เพราะเงินต่างหาก ถ้าคุณไม่มีเงินอ้นก็ไม่อยู่กับคุณหรอก”ใจจริงเอไม่ได้คิดเช่นนั้น แต่ที่พูดไปเพื่อที่จะให้จ๊อบโกรธ และมีอคติกับอ้นบ้าง
“แมนมากเลยเนาะ ใช้ทุกวิธีการที่จะเอาชนะ โดยที่ไม่สนว่าอ้นจะเสียหาย เดี๋ยวผมจะเอาคำนี้ไปบอกอ้น รับรองคุณแพ้ยับเยิน”
“มึงอยากบอกอะไรก็บอกไปเลย เพราะกูในสายตาอ้นก็ไม่ได้ดีอยู่แล้ว ถึงอย่างไงอ้นก็รับตัวตนของกูได้”
“ฝันไปเถอะผมจะไม่ให้มีวันนั้นเด็ดขาดไม่ว่าคุณหรือใครก็ตามที”
“มาลองดูกันก็ได้ว่าใครจะมัดใจอ้นได้ก่อนกัน”
“โอเค แต่ถ้ามัดใจได้แล้วคนนั้นก็ต้องจบ”
“แน่อน ลูกผู้ชายพูดแล้วไม่คืนคำ ถ้าอ้นเลือกมึงกูจะจบไม่ยุ่งกับอ้นอีก”
“เหมือนกันถ้าอ้นเลือกนายผมก็จบ จะไม่ยุ่งกับอ้นอีกเลย”
“แต่ถ้าคุณชนะแล้วคุณมีชู้อีกผมยุ่งกับอ้นแน่นอน”
“ไม่มีวันนั้นหรอก”
“มีแน่นอน เพราะถ้าอ้นไปอยู่กับมึงปัญหาตามมาไม่จบไม่สิ้นหรอก”
“ปัญหามีไว้แก้ไม่ได้มีไว้เฉยๆ”
“ผมจะคอยดู สัญญาลูกผู้ชาย”เอชูมือให้จ๊อบจับ ซึงจ๊อบก็จับแล้วกำแน่น
จ๊อบและเอได้สัญญาลูกผู้ชายกันไว้ ซึ่งทั้งคู่ก็มีความคิดตรงกันว่า ถ้าอ้นเลือกคนใดคนหนึ่ง อีกฝ่ายก็จะถอยทันทีโดยไม่มีข้อแม้แต่อย่างใด
อ้นนั่งครุ่นคิดเรื่องราวที่ผ่านมาตั้งแต่อดีตยันปัจจุบันบนเตียงนอน โดยเฉพาะช่วงเวลาในปัจจุบันที่เขาแสนจะกลัดกลุ้มขุ่นใจกับสองหนุ่มที่ตามตื้อไม่ห่าง จนอ้นตัดสินใจที่จะหนีจากสองคนนี้อีกครั้ง แต่อีกใจหนึ่งเขาก็รู้สึกดีตอนที่สองหนุ่มมารุมล้อม ความรู้สึกนี้พึ่งได้รับตอนนี้ที่อ้นได้นั่งทบทวนสิ่งต่างๆ แต่ปัญหาคือมีมาทีเดียวสองคน ซึ่งอ้นยังไม่รู้ใจตนเองว่าชอบใคร คนหนึ่งรักแรกคนสองรักใหม่ ต่างมีข้อดีข้อเสียและทำให้อ้นเจ็บซ้ำน้ำใจไม่น้อยไปกว่ากัน “ในระหว่างที่อ้นกำลังนั่งคิดถึงสองหนุ่มที่ตามติดไม่ห่างอยู่นั้น เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น อ้นจึงรีบรับทันที เพราะเป็นเพื่อนสาวที่สนิทตั้งแต่สมัยเรียน “ฮัลโหล” “ยังไม่นอนอีกเหรอ”จีจี้ถาม “ยังกำลังคิดอะไรเพลินๆอยู่” “คิดเรื่องอะไร” “ก็เรื่องบอสกับเอที่ตามมาถึงเชียงใหม่” “อ่ะ เราไม่ได้บอกนะ”ความจริงจีจี้รู้อยู่แล้ว เพราะเอและจ๊อบโทรมาหาเธอ ต่างฝ่ายต่างให้จีจี้เชียร์ “แล้วเธอได้บอกซันกับซีไหม” “โอ๊ยสองคนนั่นเดี๋ยวนี้ไม่เห็นหัวติดผู้ชาย ตามตั้มและตู
จ๊อบออกจากห้องของอ้นไปได้ไม่นาน เสียงเคาะประตูรัวๆก็ดังขี้นไม่หยุด ด้วยความรำคาญอ้นจึงเปิดออกดูว่าเป็นใคร เพียงแง้มประตูเท่านั้นแหละ เอก็ผลักประตูเข้ามาทันทีและเดินนำหน้าอ้นไปนั่งที่โซฟา อ้นถึงกับยืนงงด้วยพฤติกรรมของเอ “มานั่งใกล้ๆนี่ มีเรื่องจะคุยด้วย” อ้นเดินอย่างช้าๆและนั่งลงข้างๆเอที่มีสีหน้าดูเคร่งเครียดพอสมควร ก่อนที่เอจะพูดอะไรออกมาเขาได้กัดริมฝีปากตัวเองเบาๆ “กูมีเรื่องจะคุยกับมึง” “มีอะไร” “ตอนนี้กูไม่มีพันธะ ไอ้เจนมันไปทำงานที่ภาคใต้แล้ว” “รู้แล้ว” “รู้แล้วก็ดีมึงจะได้สบายใจ” “เจนจะไปไหนอยู่ไหนมันก็ไม่เกี่ยวกับเรานี่” “เกี่ยวซิ ถ้าไอ้เจนมันยังพัวพันกับกู ถึงกูจะไม่ได้รักมัน แต่มึงก็จะคาใจกูอยู่” “เราจะคาใจนายทำไม ในเมื่อเราไมได้เป็นอะไรกันนี่” “มึงก็รู้ดีแกใจ มึงกับกูมีอะไรกันตั้งสองครั้ง ในป่าครั้งหนึ่ง ที่บ้านกูอีกครั้งหนึ่ง” “จะพูดทำไม เรื่องมันผ่านมาแล้ว”อ้นรู้สึกกระดากใจพอสมควรที่ได้ยินคำพูดนี้จากปากของเอ “ยังไม่รวมต
ช่วงเวลาแห่งความสุขบนดอยอินทนนท์ผ่านเป็นอย่างรวดเร็ว เอได้พาอ้นมาที่บ้านไร่ที่เขาอาศัยอยู่ ในนาทีนี้ที่เขาอยู่กันเพียงสองคนในห้องไม่ใหญ่มาก แต่เต็มไปด้วยความรักที่ยิ่งใหญ่ อ้นนั้นแสนดีใจหาใดเปรียบ การตัดสินใจในครั้งนี้ของอ้นก็เหมือนกับเสี่ยงดวงเหมือนกัน เพราะเขาก็ยังไม่แน่ใจว่าเอจะดีอย่างปากพูดไว้หรือเปล่า ในห้องนอนวันแรกที่มาอยู่บ้านไร่ของเอ อ้นนอนเล่นโทรศัพท์มือถือคุยกับเพื่อนรักอย่างจีจี้ เมื่อเอเดินออกมาจากห้องน้ำ เขารู้สึกไม่พอใจอ้นเล็กน้อย เพราะไม่ยอมสนใจเขาอย่างที่ควร เอจึงขึ้นไปบนเตียงและนอนข้างๆอ้น มีท่าทีที่กระฟัดกระเฟียด “ผัวนอนอยู่ทั้งคนยังคุยกับคนอื่นอีก” “ไม่ใช่คนอื่นเพื่อนเราเองจีจี้ไง นายจำไม่ได้เหรอ”อ้นเลิกกดส่งไลน์จีจี้ทันที “จำได้ แต่มันใช่เวลาไหมที่จะคุยกัน ตอนนี้เราต้องทำอะไรบางอย่าง” “ทำอะไรล่ะ” “ก็อย่างนี้ไง” เอพลิกร่างตะแครงก้มลงจูบที่ริมฝีปากของอ้น เขาใช้ปลายลิ้นซอนไซร้เข้าไปภายใน ส่วนอ้นก็สมยอมแต่โดยดีโอบกอดผิวเรือนกาย ไร้อาภรณ์ของเออย่างเร่าร้อน เอถอนริมฝีปากออกมาไซร้ซอกคอทุกมุม ตอห
อ้นตื่นนอนมาเขาก็ไม่เห็นเอนอนอยู่บนเตียง เขาจึงเข้าไปอาบน้ำและแต่งตัวลงมาด้านล่าง เพียงแค่ลงมาเขาก็เห็นอาหารวางไว้เต็มโต๊ะ อ้นเดินเข้าไปดูซึ่งเป็นอาหารดีๆทั้งนั้น เขายืนยิ้มในความเอาใจใส่ของเอ “น่ากินทั้งนั้นเลย”อ้นตักข้าวใส่จานและนั่งลง อ้นค่อยๆกินข้าวอย่างช้าๆพร้อมกับคิดถึงเอตอนทำกับข้าว เขาถึงกับหัวเราะเบาๆจากหนุ่มห่ามกลายมาเป็นพ่อบ้านพ่อเรือน อ้นกินข้าวจนอิ่มถึงสองจานเพราะรสมือของเอนั้นเลิศรสยิ่งนัก เมื่ออ้นกินข้าวอิ่มเขาจึงเดินออกไปนอกบ้าน มองไปรอบๆซึ่งมีแต่ไร้ข้าวโพด เขายังจำวันที่เอลากไปช่วยหักข้าวโพดได้ อ้นถึงกับยิ้มออกมา “ยิ้มอะไรครับ”เพื่อนของเอที่เคยไปช่วยอ้นในป่า เดินเข้ามาใกล้ๆอ้น “คิดอะไรเรื่อยเปื่อยเลยยิ้ม มาหาเอเหรอ สงสัยไปที่ไร่น่ะ” “ใช่ครับมาหาเอ ผมนิกจำผมได้ไหม”นิกยิ้มจนเห็นไรฟัน “ทำไมจะจำไม่ได้คนที่เคยใช้อ้นไว้ไงที่กลางป่า” “ดีจังที่จำผมได้ ผมก็นึกว่าอ้นลืมผมซะแล้ว” “จะลืมผู้มีพระคุณได้ไง”อ้นยิ้มหวานให้นิกเพื่อนของเอ “แล้วมาหาเอมีธุระอะไรหรือเปล่า”
อ้นนั่งๆนอนอยู่บ้านเฉยๆจึงเกิดความเบื่อหน่าย และเป็นช่วงเวลาใกล้เที่ยงเขาจึงตักข้าวใส่ปิ่นโต พร้อมกับข้าวสามขนมหนึ่ง หลังจากนั้นอ้นจึงเดินออกไปไร่ข้าวโพดเพื่อไปหาเอแฟนหนุ่ม อ้นพอจำทางได้บ้างเมื่อครั้งโดนเอจับมาไว้ที่บ้านปลายไร่ เขาเดินไปเรื่อยๆจนเห็นไร่ข้าวโพด อ้นมองเห็นร่างผู้ชายสองคนอยู่ใต้ต้นไม่ใหญ่ท้ายไร่ อ้นจึงเดินต่อไปเพราะเขาจำร่างของเอได้ ยิ่งอ้นเดินเข้าไปใกล้ๆ เขาค่อนข้างแน่ใจว่าเป็นเอ แต่ผู้ชายอีกคนอ้นคิดว่าไม่รู้จักแน่ๆ แต่อ้นคิดว่าน่าจะเป็นเพื่อนของเอ อ้นจึงไม่ได้ใส่ใจหรือสนใจอะไรไปมากกว่านี้ เขาจึงรีบเดินไปให้ถึงต้นไม้ใหญ่ไวๆ เพราะแดดค่อนข้างร้อนพอสมควร ถึงเขาจะใส่หมวกมาก็ตามที ซึ่งไม่ได้ช่วยอะไรได้มากนัก เมื่ออ้นเดินไปถึง สิ่งที่เขาเห็น เอกำลังนั่งกินข้าวหัวเราะต่อกระซิบกับชายหนุ่ม ซึ่งเขาไม่ได้สนใจอะไรนึกแค่ว่าเพื่อน “คุยอะไรกันสนุกเชียว”อ้นยืนอยู่ข้างหลังเอ “อ้าวมาได้ไง”เอมีสีหน้าตกใจเล็กน้อย “ใครเหรอ”ชายหนุ่มเสียงนุ่มนิ่มเอ่ยขึ้น “อ้นเพื่อนกูเอง”เอหันมามองชายหนุ่ม “นี่นินเพื่อนกูสมัยเรียนอนุบาล”เ
เอรีบเข้าไปอุ้มร่างของอ้นทันที ส่วนอ้นยังทุบหน้าอกของเอไม่ยั้ง แต่แบบออมแรงไม่ทุบแรงอย่างครั้งแรก และก็ดิ้นให้น้อยลงนิดหน่อย เออดทนรีบพาอ้นเข้าไปในรถยนต์ของเขา เมื่ออ้นเข้าไปในรถแล้ว เขาก็นั่งนิ่งๆไม่มีท่าทีจะไปไหน พอเอขึ้นรถมาเท่านั้นแหละ อ้นหันหน้าไปทางอื่นแล้วอมยิ้ม แต่อ้นอารมร์ดีได้ไม่นานเพราะเสียงโทรศัพท์มือถือของเอดังขึ้น เอจึงรีบควักโทรศัพท์มือถือออกมารับทันที “ว่าไง” “ตามอ้นเจอไหม” “เจอแล้วอยู่บ้านนิก” “เราขอโทษนายด้วยนะที่ทำให้ผิดใจกับอ้น”น้ำเสียงของนินบ่งบอกถึงความผิดหวัง “ไม่เป็นไรแค่นี้นะ” “ฮือ” เอกดวางมือถือแล้วหันมามองหน้าอ้น ที่กำลังบึ้งตึงอีกครั้ง เพราะอ้นคาดเดาได้ว่าเป็นเสียงของนินโทรมา “เป็นอะไรอีกล่ะ” “ไปส่งเราที่ขนส่งด้วยเราจะกลับกรุงเทพ” “กลับไปหาไอ้บอสของมึงเหรอ”เอเริ่มรู้สึกโมโหที่อ้นเอาแต่ใจมากขึ้น “ใช่” “ไอ้อ้น มึงอยากโดนอีกใช่ไหม” “โดนอะไร” “กระท่อมปลายไร่ ไปอยู่ในนั้นอีกครั้งไหม”
วันนี้อ้นแกล้งตื่นสาย เพราะอยากรู้ว่าเอจะอยู่บ้านหรือว่าแอบไปไหนหรือเปล่า เมื่อเขาแต่งตัวเสร็จจึงลงมาข้างล่าง แล้วสิ่งที่อ้นเห็นนั้นทำให้เขาปวดใจยิ่งนัก เพราะภาพตรงหน้าเอกำลังนั่งโซฟาคุยกับนิน มีรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของทั้งสอง อ้นถึงกับของขึ้นอารมณ์ฉุนเฉียวมาทันที เขารีบเดินลงบันไดแล้วเดินไปหาเอ “คุยอะไรกัน”อ้นเอ่ยขึ้น “คุยเรื่องสมัยเรียนตอนมัธยม คิดถึงวันนั้นมากเลย เอชอบแกล้งเรานะ ไม่คิดเลยว่าโตมาจะเป็นคนละคน”นินยิ้มให้เอ “ใช่ โตแล้ว มีแฟนแล้วด้วย ยืนอยู่ตรงนี้”อ้นยืนกอดอก “เหรอ แฟนเอใช่ไหม” “เอ่อ ใช่ แฟนเราเอง”เอตอบอย่างหนักแน่น “เอ”นินอ้าปากค้างตาโต เพราะเขาไม่อยากได้ยินคำนี้ ถึงแม้เขาจะรู้ระแคะระคายมาบ้างนิดหน่อย แต่นินยังไม่เชื่อจนได้ยินจากปากของเอ เขาถึงกับอึ้งทำอะไรไม่ถูก “ได้ยินชัดแล้วใช่ไหม”อ้นนั่งลงข้างๆเอพร้อมยิ้มให้นิน “ได้ยินแล้ว แต่เราเป็นเพื่อนเอนี่ จะไปหามาหาสู่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก” “แปลกซิ ถ้านายเป็นแบบนิก เราไม่ว่าอะไรหรอก แต่นี่นายเหมือนเรา อย่าคิดว่าเราไม่รู้น
อ้นและเอใช้ชีวิตอยู่บ้านไร่มาร่วมเดือน จนพ่อแม่ของเอเกิดความสงสัย เพราะพ่อแม่ของเอแค่นึกว่าอ้นมาเที่ยวหา แต่นี่อยู่ร่วมเดือนยังไม่กลับไป ทั้งสองจึงอยากเห็นหน้าและพูดคุย ด้วย พ่อแม่ของเอไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว เขาทั้งสองไปอยู่กับพี่สาวคนโตในจังหวัดอื่น และอีกอย่างที่ทั้งสองมาเพราะคิดถึงลูกชายคนเดียวของพวกเขา เมื่ออำพลกับบังอรมาถึงเขาก็เห็นภาพอันบาดตา เป็นภาพที่เขาทั้งสองไม่คาดคิดว่าจะได้เห็น เพราะเป็นภาพที่เอนอนบนตักของอ้น และที่หนักไปกว่านั่นเขาจับมือของอ้นมาดมและหอมอตลอดเวลา “ไอ้เอมึงทำอะไรของมึง”กำพลเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าไม่พอใจอย่างยิ่ง “เอ หรือว่าลูกเป็น เอ่อ”บังอรใช้มือทาบอกด้วยความตกใจ เอรีบกระดกตัวลุกขึ้นทันที เขามีสีหน้าที่ไม่สู้ดีทันที ส่วนอ้นยังไม่เท่าไรแค่แปลกใจ ทำไมพ่อแม่ของเอมาไม่บอกล่วงหน้าแค่นั้น “พ่อแม่”เอลุกขึ้นยืนนิ่ง “สวัสดีครับพ่อแม่”อ้นยกมือไหว้ทันที “พวกเอ็งเป็นอะไรกันถึงมานอนหนุนตักหอมไม้หอมมือกัน อย่างกับเป็นคู่รักกันอย่างนั้นแหละ” “คือว่า พ่อกับแม่ คือผม เอ่อ อา อือ อู คือ