แชร์

ผัวข้าใครอยากได้เอาไปเลย

อ้นนั่งๆนอนอยู่บ้านเฉยๆจึงเกิดความเบื่อหน่าย และเป็นช่วงเวลาใกล้เที่ยงเขาจึงตักข้าวใส่ปิ่นโต พร้อมกับข้าวสามขนมหนึ่ง หลังจากนั้นอ้นจึงเดินออกไปไร่ข้าวโพดเพื่อไปหาเอแฟนหนุ่ม อ้นพอจำทางได้บ้างเมื่อครั้งโดนเอจับมาไว้ที่บ้านปลายไร่ เขาเดินไปเรื่อยๆจนเห็นไร่ข้าวโพด อ้นมองเห็นร่างผู้ชายสองคนอยู่ใต้ต้นไม่ใหญ่ท้ายไร่ อ้นจึงเดินต่อไปเพราะเขาจำร่างของเอได้ ยิ่งอ้นเดินเข้าไปใกล้ๆ เขาค่อนข้างแน่ใจว่าเป็นเอ แต่ผู้ชายอีกคนอ้นคิดว่าไม่รู้จักแน่ๆ แต่อ้นคิดว่าน่าจะเป็นเพื่อนของเอ อ้นจึงไม่ได้ใส่ใจหรือสนใจอะไรไปมากกว่านี้ เขาจึงรีบเดินไปให้ถึงต้นไม้ใหญ่ไวๆ  เพราะแดดค่อนข้างร้อนพอสมควร ถึงเขาจะใส่หมวกมาก็ตามที ซึ่งไม่ได้ช่วยอะไรได้มากนัก

            เมื่ออ้นเดินไปถึง สิ่งที่เขาเห็น เอกำลังนั่งกินข้าวหัวเราะต่อกระซิบกับชายหนุ่ม ซึ่งเขาไม่ได้สนใจอะไรนึกแค่ว่าเพื่อน

            “คุยอะไรกันสนุกเชียว”อ้นยืนอยู่ข้างหลังเอ

            “อ้าวมาได้ไง”เอมีสีหน้าตกใจเล็กน้อย

            “ใครเหรอ”ชายหนุ่มเสียงนุ่มนิ่มเอ่ยขึ้น

            “อ้นเพื่อนกูเอง”เอหันมามองชายหนุ่ม

            “นี่นินเพื่อนกูสมัยเรียนอนุบาล”เอมองมาที่อ้นอีกครั้ง

            “โล่งอกนึกว่าแฟนอย่างนี้ยังพอมีหวัง”นินยิ้มให้อ้น

            “เอไม่ใช่แฟนราอยู่แล้วแต่เป็นผัว”อ้นโยนปิ่นโตลงกลางวงข้าว

            “มารยาททรามมากเลย เพื่อนของเอคนนี่”นินลุกขึ้นยืน

            “ก็บอกแล้วไงว่าไม่ใช่เพื่อนแต่เป็นเมีย”อ้นหันหน้าไปมองเอ ที่ยังตกตะลึงเขาไม่คาดคิดว่าจากชายหนุ่มที่เรียบร้อย เวลาโมโหจะอารมณ์รุนแรงขนาดนี้

            “ทำอะไรเกรงใจกูบ้าง”เอพูดค่อยๆใกล้อ้น

            “ทำไมต้องเกรงใจ นายทำอะไรก็น่ารู้ดีแก่ใจ”

            “ทำอะไร”

            “ยังให้พูดอีกเหรอ”อ้นมองไปที่นิน

            “เราสองเป็นเพื่อนกันสมัยอนุบาลแล้ว เรามาหาเอมันผิดตรงไหน”นินเอ่ยขึ้น

            “ไม่ผิดหรอก ถ้ามาแบบบริสุทธิใจ”

            “เราก็มาแบบบริสุทธิ์ใจไง”

            “สตอ เมื่อกี้ยังบอกมีความหวังอยู่เลย ถึงว่าเป็นเพื่อนกันได้”

            “ยอมรับก็ได้ว่าเราอยากได้เอมาเป็นแฟน”

            “ถ้างั้นเอาไปเลย แล้วอย่าลืมไปที่บ้านด้วยนะจะแถมข้าวสารหนึ่งกระสอบ”

            อ้นมองหน้านินและหันมามองเอที่อ้าปากค้าง ด้วยความโกรธและแค้นเคืองทำให้น้ำตาของอ้นนั้นไหลออกมานองหน้า

            “กูยังเป็นผัวมึงอยู่ มึงทำไมพูดแบบนี้”เอกระซิบข้างๆหูของอ้น

            “ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว เอาไปเลย”อ้นผลักร่างของเอจนไปโดนนินล้มลง เอรีบประคองร่างของนินไว้

            “ตามสบายเลยนะ”

            “อ้น”เอกำลังจะเดินเข้าไปหาอ้น

            “โอ๊ยเจ็บข้อเท้ามากเลย สงสัยจะข้อเท้าแพลงเอช่วยด้วย เราเจ็บมากเลย”นินจับแขนของเอไว้เพื่อให้ก้มลงมาดูที่ข้อเท้าที่เจ็บปลอม

            อ้นมองค้อนและวิ่งร้องไห้ไปยังตามทางเดินแบบไร้จุดหมาย เขาวิ่งแบบไม่มองทางเดิน จนสะดุดหกล้มลงอยู่หลายครั้ง แต่เขาก็ยังไม่ยอมหยุดลุกขึ้นวิ่งต่อไป จนชนร่างที่หนาบึกจนตัวของอ้นล้มลง

            “อ้นเป็นอะไรหนีใครมา”นิกเพื่อนของเอก้มลงพยุงร่างของอ้นไว้

            “พาเราไปจากที่นี่ที”

            “ไปไหน”

            “ไปไหนก็ได้ ให้ใกลจากที่นี่”

            “เอไปไหน”

            “เราไม่สน ใครอยากได้เอาไปเลย”

            “เราไม่เข้าใจที่อ้นพูด”

            “ไม่ต้องเข้าใจหรอกพาเราไปจากที่นี่ที เราไม่อยากอยู่ที่นี่อีกแล้ว ถ้านายไม่พาเราไป เดี๋ยวเราไปเองก็ได้”อ้นลุกขึ้นยืนและกำลังจะก้าวเท้าวิ่งไปข้างหน้าต่อ

            “เดี๋ยวก่อน มันอันตรายวิ่งไปเรื่อยเดี๋ยวลงป่าอีกหรอก ไปบ้านเราก่อนไหม”

            “ก็ได้ ไปไหนก็ได้ เราไม่อยากอยู่ที่นี่อีกแล้ว”

            “ถ้างั้นตามเรามา”

            นิกหนุ่มบ้านไร่เพื่อนของเออีกคน เดินนำทางอ้นไปยังรถมอเตอร์ไซค์ของเขา เมื่อไปถึงอ้นก็ขึ้นซ้อนท้ายรถเพื่อไปบ้านของนิก

            ในส่วนของเอต้องแบกนินที่สำอ่อยบอกว่าเจ็บเท้าเดินไม่ไหว ใจหนึ่งก็ห่วงอ้นอีกใจหนึ่งก็ห่วงเพื่อนเก่าอย่างนิน ที่พึ่งกลับมาเจอกันอีกครั้ง ในช่วงเวลายี่สิบกว่าปีที่ผ่านมา ใจของเอตอนนี้พะว้าพะวงเป็นห่วงอ้นอย่างสุดใจ เขาภาวนาให้อ้นอย่าหนีเขาไปอีก

            นิกพาอ้นมายังบ้านของเขา ซึ่งก็ไม่ได้ใหญ่มาก ความกว้างของบ้านประมาณของเอ แต่จะดูสะอาดมากกว่าหลายเท่า

            “นั่งลงก่อนมีอะไรเล่าให้เราฟังได้นะ”

            “ก็ไม่มีอะไรหรอก”

            “ไม่มีอะไรแล้ววิ่งหนีเอมาทำไม”

            “ไม่อยากเห็นหน้าคนหลายใจ”

            “หลายใจอย่างไง เราไม่เห็นไอ้เอจีบใครเลย ตอนแรกเรากะจะจีบนายเหมือนกัน แต่เห็นเอหวงนักหวงหนา เราเลยรู้ว่าเป็นแฟนกัน เราถอยออกมาแล้วนี่ทะเลาะอะไรกันอีก เมื่อวานสาเหตุเพราะเราวันนี้เพราะใครอีกล่ะ”

            “นินคือใคร”

            “อ่อ นินน่ะเหรอ เพื่อนเก่าพวกเราสมัยเรียนอนุบาลยันประถมนั่นแหละ หลังจากนั้นไม่ได้เจอกันอีกเลย แต่นินนี่มีความคล้ายอ้นอยู่เหมือนกันนะ เป็นเพราะเหตุนี้หรือเปล่าที่อ้นหึงเอ”

            “ไม่ได้หึงหรอก”

            “ไม่หึงก็ไม่หึง แต่เราว่าเอไม่ได้คิดอะไรเกินเลยแบบเพื่อนหรอก”

            “ถึงเอไม่ได้คิดแต่นินนั่นคิดนิ”

            “เรื่องของนินไง แต่เอไม่ได้คิดนิ”

            “ไม่รู้แหละ คืนนี้เราจะไม่กลับบ้าน”อ้นหน้าบึ้ง

            “ถ้าไม่กลับแล้วจะนอนไหนล่ะ”

            “นอนนี่แหละได้ไหม ถ้าไม่ได้ไปส่งเราที่โรงแรมหน่อย พรุ่งนี้เราจะกลับกรุงเทพ”

            “ใจเย็นๆนอนนี่ก่อนก็ได้”

            “ถ้างั้นขอบใจนายมากนะ”

            “ไม่เป็นไรหรอก นายเป็นแฟนเอก็เหมือนเพื่อนเราด้วยนั่นแหละ”

            อ้นนั่งดูทีวีอย่างใจจดใจจ่อทางภายนอก แต่ภายในนั้นรอเอเมื่อไรจะมาง้อซะที  นั่นเป็นเพราะช่วงเวลาหลายชั่วโมงทำให้อ้นใจเย็นลง อ้นรอจนแล้วจนรอดไม่มีแม้เงาของเอ ยิ่งดึกยิ่งง่วงนอนเขาจึงเผลอหลับบนโซฟาของนิก

            อ้นรู้สึกตัวอีกทีเมื่อมีใครมาช้อนร่างของเขาขึ้น อ้นจึงลืมตาและคนตรงหน้าคือเอนั่นเอง อ้นแอบดีใจ แต่ยังแอบเคืองอยู่ เขาจึงแสดงอาการไม่พอใจออกมา

            “ปล่อยนะ”อ้นดิ้นขยับตัวให้ออกจากวงแขนของเอ

            “ใครจะปล่อยเมียตัวเองได้ลงคอล่ะ”

            “ไม่ปล่อยใช่ไหม”อ้นทุบไปที่หน้าอกของเออย่างแรงสองสามครั้ง เอจึงปล่อยอ้นลงล่วงบนพื้นโซฟา

            “นายใจร้ายมากทิ้งเราลงมาทำไม”

            “มึงทุบหน้าอกกู เจ็บนะกูไม่ใช่ต้นไม้ “

            “เมื่อก่อนนายยังทนเราได้”

            “ตอนนี้กูก็ทนมึงได้ ถ้ามึงมีเหตุผลมากกว่านี้”

            “นายนั่นแหละทำตัวน่ารังเกียจก่อน”

            “น่ารังเกียจอย่างไง”

            “หลายใจ เอาไปเรื่อย”

            “กูไปเอาใครที่ไหนล่ะ”

            “ถ้าไม่ได้ไปเอาใคร ทำไมมาดึกขนาดนี้”อ้นหันหน้าไปทางอื่น

            “แสดงว่ามึงรอกู อยากให้กูมาง้อใช่ไหม”

            “ไม่ใช่ซะหน่อย นายอย่ามาหลงตัวเองเลย”

            “กูไม่ได้หลงตัวเอง  แต่กูหลงมึงมากกว่า”

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status