อ้นนั่งๆนอนอยู่บ้านเฉยๆจึงเกิดความเบื่อหน่าย และเป็นช่วงเวลาใกล้เที่ยงเขาจึงตักข้าวใส่ปิ่นโต พร้อมกับข้าวสามขนมหนึ่ง หลังจากนั้นอ้นจึงเดินออกไปไร่ข้าวโพดเพื่อไปหาเอแฟนหนุ่ม อ้นพอจำทางได้บ้างเมื่อครั้งโดนเอจับมาไว้ที่บ้านปลายไร่ เขาเดินไปเรื่อยๆจนเห็นไร่ข้าวโพด อ้นมองเห็นร่างผู้ชายสองคนอยู่ใต้ต้นไม่ใหญ่ท้ายไร่ อ้นจึงเดินต่อไปเพราะเขาจำร่างของเอได้ ยิ่งอ้นเดินเข้าไปใกล้ๆ เขาค่อนข้างแน่ใจว่าเป็นเอ แต่ผู้ชายอีกคนอ้นคิดว่าไม่รู้จักแน่ๆ แต่อ้นคิดว่าน่าจะเป็นเพื่อนของเอ อ้นจึงไม่ได้ใส่ใจหรือสนใจอะไรไปมากกว่านี้ เขาจึงรีบเดินไปให้ถึงต้นไม้ใหญ่ไวๆ เพราะแดดค่อนข้างร้อนพอสมควร ถึงเขาจะใส่หมวกมาก็ตามที ซึ่งไม่ได้ช่วยอะไรได้มากนัก
เมื่ออ้นเดินไปถึง สิ่งที่เขาเห็น เอกำลังนั่งกินข้าวหัวเราะต่อกระซิบกับชายหนุ่ม ซึ่งเขาไม่ได้สนใจอะไรนึกแค่ว่าเพื่อน
“คุยอะไรกันสนุกเชียว”อ้นยืนอยู่ข้างหลังเอ
“อ้าวมาได้ไง”เอมีสีหน้าตกใจเล็กน้อย
“ใครเหรอ”ชายหนุ่มเสียงนุ่มนิ่มเอ่ยขึ้น
“อ้นเพื่อนกูเอง”เอหันมามองชายหนุ่ม
“นี่นินเพื่อนกูสมัยเรียนอนุบาล”เอมองมาที่อ้นอีกครั้ง
“โล่งอกนึกว่าแฟนอย่างนี้ยังพอมีหวัง”นินยิ้มให้อ้น
“เอไม่ใช่แฟนราอยู่แล้วแต่เป็นผัว”อ้นโยนปิ่นโตลงกลางวงข้าว
“มารยาททรามมากเลย เพื่อนของเอคนนี่”นินลุกขึ้นยืน
“ก็บอกแล้วไงว่าไม่ใช่เพื่อนแต่เป็นเมีย”อ้นหันหน้าไปมองเอ ที่ยังตกตะลึงเขาไม่คาดคิดว่าจากชายหนุ่มที่เรียบร้อย เวลาโมโหจะอารมณ์รุนแรงขนาดนี้
“ทำอะไรเกรงใจกูบ้าง”เอพูดค่อยๆใกล้อ้น
“ทำไมต้องเกรงใจ นายทำอะไรก็น่ารู้ดีแก่ใจ”
“ทำอะไร”
“ยังให้พูดอีกเหรอ”อ้นมองไปที่นิน
“เราสองเป็นเพื่อนกันสมัยอนุบาลแล้ว เรามาหาเอมันผิดตรงไหน”นินเอ่ยขึ้น
“ไม่ผิดหรอก ถ้ามาแบบบริสุทธิใจ”
“เราก็มาแบบบริสุทธิ์ใจไง”
“สตอ เมื่อกี้ยังบอกมีความหวังอยู่เลย ถึงว่าเป็นเพื่อนกันได้”
“ยอมรับก็ได้ว่าเราอยากได้เอมาเป็นแฟน”
“ถ้างั้นเอาไปเลย แล้วอย่าลืมไปที่บ้านด้วยนะจะแถมข้าวสารหนึ่งกระสอบ”
อ้นมองหน้านินและหันมามองเอที่อ้าปากค้าง ด้วยความโกรธและแค้นเคืองทำให้น้ำตาของอ้นนั้นไหลออกมานองหน้า
“กูยังเป็นผัวมึงอยู่ มึงทำไมพูดแบบนี้”เอกระซิบข้างๆหูของอ้น
“ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว เอาไปเลย”อ้นผลักร่างของเอจนไปโดนนินล้มลง เอรีบประคองร่างของนินไว้
“ตามสบายเลยนะ”
“อ้น”เอกำลังจะเดินเข้าไปหาอ้น
“โอ๊ยเจ็บข้อเท้ามากเลย สงสัยจะข้อเท้าแพลงเอช่วยด้วย เราเจ็บมากเลย”นินจับแขนของเอไว้เพื่อให้ก้มลงมาดูที่ข้อเท้าที่เจ็บปลอม
อ้นมองค้อนและวิ่งร้องไห้ไปยังตามทางเดินแบบไร้จุดหมาย เขาวิ่งแบบไม่มองทางเดิน จนสะดุดหกล้มลงอยู่หลายครั้ง แต่เขาก็ยังไม่ยอมหยุดลุกขึ้นวิ่งต่อไป จนชนร่างที่หนาบึกจนตัวของอ้นล้มลง
“อ้นเป็นอะไรหนีใครมา”นิกเพื่อนของเอก้มลงพยุงร่างของอ้นไว้
“พาเราไปจากที่นี่ที”
“ไปไหน”
“ไปไหนก็ได้ ให้ใกลจากที่นี่”
“เอไปไหน”
“เราไม่สน ใครอยากได้เอาไปเลย”
“เราไม่เข้าใจที่อ้นพูด”
“ไม่ต้องเข้าใจหรอกพาเราไปจากที่นี่ที เราไม่อยากอยู่ที่นี่อีกแล้ว ถ้านายไม่พาเราไป เดี๋ยวเราไปเองก็ได้”อ้นลุกขึ้นยืนและกำลังจะก้าวเท้าวิ่งไปข้างหน้าต่อ
“เดี๋ยวก่อน มันอันตรายวิ่งไปเรื่อยเดี๋ยวลงป่าอีกหรอก ไปบ้านเราก่อนไหม”
“ก็ได้ ไปไหนก็ได้ เราไม่อยากอยู่ที่นี่อีกแล้ว”
“ถ้างั้นตามเรามา”
นิกหนุ่มบ้านไร่เพื่อนของเออีกคน เดินนำทางอ้นไปยังรถมอเตอร์ไซค์ของเขา เมื่อไปถึงอ้นก็ขึ้นซ้อนท้ายรถเพื่อไปบ้านของนิก
ในส่วนของเอต้องแบกนินที่สำอ่อยบอกว่าเจ็บเท้าเดินไม่ไหว ใจหนึ่งก็ห่วงอ้นอีกใจหนึ่งก็ห่วงเพื่อนเก่าอย่างนิน ที่พึ่งกลับมาเจอกันอีกครั้ง ในช่วงเวลายี่สิบกว่าปีที่ผ่านมา ใจของเอตอนนี้พะว้าพะวงเป็นห่วงอ้นอย่างสุดใจ เขาภาวนาให้อ้นอย่าหนีเขาไปอีก
นิกพาอ้นมายังบ้านของเขา ซึ่งก็ไม่ได้ใหญ่มาก ความกว้างของบ้านประมาณของเอ แต่จะดูสะอาดมากกว่าหลายเท่า
“นั่งลงก่อนมีอะไรเล่าให้เราฟังได้นะ”
“ก็ไม่มีอะไรหรอก”
“ไม่มีอะไรแล้ววิ่งหนีเอมาทำไม”
“ไม่อยากเห็นหน้าคนหลายใจ”
“หลายใจอย่างไง เราไม่เห็นไอ้เอจีบใครเลย ตอนแรกเรากะจะจีบนายเหมือนกัน แต่เห็นเอหวงนักหวงหนา เราเลยรู้ว่าเป็นแฟนกัน เราถอยออกมาแล้วนี่ทะเลาะอะไรกันอีก เมื่อวานสาเหตุเพราะเราวันนี้เพราะใครอีกล่ะ”
“นินคือใคร”
“อ่อ นินน่ะเหรอ เพื่อนเก่าพวกเราสมัยเรียนอนุบาลยันประถมนั่นแหละ หลังจากนั้นไม่ได้เจอกันอีกเลย แต่นินนี่มีความคล้ายอ้นอยู่เหมือนกันนะ เป็นเพราะเหตุนี้หรือเปล่าที่อ้นหึงเอ”
“ไม่ได้หึงหรอก”
“ไม่หึงก็ไม่หึง แต่เราว่าเอไม่ได้คิดอะไรเกินเลยแบบเพื่อนหรอก”
“ถึงเอไม่ได้คิดแต่นินนั่นคิดนิ”
“เรื่องของนินไง แต่เอไม่ได้คิดนิ”
“ไม่รู้แหละ คืนนี้เราจะไม่กลับบ้าน”อ้นหน้าบึ้ง
“ถ้าไม่กลับแล้วจะนอนไหนล่ะ”
“นอนนี่แหละได้ไหม ถ้าไม่ได้ไปส่งเราที่โรงแรมหน่อย พรุ่งนี้เราจะกลับกรุงเทพ”
“ใจเย็นๆนอนนี่ก่อนก็ได้”
“ถ้างั้นขอบใจนายมากนะ”
“ไม่เป็นไรหรอก นายเป็นแฟนเอก็เหมือนเพื่อนเราด้วยนั่นแหละ”
อ้นนั่งดูทีวีอย่างใจจดใจจ่อทางภายนอก แต่ภายในนั้นรอเอเมื่อไรจะมาง้อซะที นั่นเป็นเพราะช่วงเวลาหลายชั่วโมงทำให้อ้นใจเย็นลง อ้นรอจนแล้วจนรอดไม่มีแม้เงาของเอ ยิ่งดึกยิ่งง่วงนอนเขาจึงเผลอหลับบนโซฟาของนิก
อ้นรู้สึกตัวอีกทีเมื่อมีใครมาช้อนร่างของเขาขึ้น อ้นจึงลืมตาและคนตรงหน้าคือเอนั่นเอง อ้นแอบดีใจ แต่ยังแอบเคืองอยู่ เขาจึงแสดงอาการไม่พอใจออกมา
“ปล่อยนะ”อ้นดิ้นขยับตัวให้ออกจากวงแขนของเอ
“ใครจะปล่อยเมียตัวเองได้ลงคอล่ะ”
“ไม่ปล่อยใช่ไหม”อ้นทุบไปที่หน้าอกของเออย่างแรงสองสามครั้ง เอจึงปล่อยอ้นลงล่วงบนพื้นโซฟา
“นายใจร้ายมากทิ้งเราลงมาทำไม”
“มึงทุบหน้าอกกู เจ็บนะกูไม่ใช่ต้นไม้ “
“เมื่อก่อนนายยังทนเราได้”
“ตอนนี้กูก็ทนมึงได้ ถ้ามึงมีเหตุผลมากกว่านี้”
“นายนั่นแหละทำตัวน่ารังเกียจก่อน”
“น่ารังเกียจอย่างไง”
“หลายใจ เอาไปเรื่อย”
“กูไปเอาใครที่ไหนล่ะ”
“ถ้าไม่ได้ไปเอาใคร ทำไมมาดึกขนาดนี้”อ้นหันหน้าไปทางอื่น
“แสดงว่ามึงรอกู อยากให้กูมาง้อใช่ไหม”
“ไม่ใช่ซะหน่อย นายอย่ามาหลงตัวเองเลย”
“กูไม่ได้หลงตัวเอง แต่กูหลงมึงมากกว่า”
เอรีบเข้าไปอุ้มร่างของอ้นทันที ส่วนอ้นยังทุบหน้าอกของเอไม่ยั้ง แต่แบบออมแรงไม่ทุบแรงอย่างครั้งแรก และก็ดิ้นให้น้อยลงนิดหน่อย เออดทนรีบพาอ้นเข้าไปในรถยนต์ของเขา เมื่ออ้นเข้าไปในรถแล้ว เขาก็นั่งนิ่งๆไม่มีท่าทีจะไปไหน พอเอขึ้นรถมาเท่านั้นแหละ อ้นหันหน้าไปทางอื่นแล้วอมยิ้ม แต่อ้นอารมร์ดีได้ไม่นานเพราะเสียงโทรศัพท์มือถือของเอดังขึ้น เอจึงรีบควักโทรศัพท์มือถือออกมารับทันที “ว่าไง” “ตามอ้นเจอไหม” “เจอแล้วอยู่บ้านนิก” “เราขอโทษนายด้วยนะที่ทำให้ผิดใจกับอ้น”น้ำเสียงของนินบ่งบอกถึงความผิดหวัง “ไม่เป็นไรแค่นี้นะ” “ฮือ” เอกดวางมือถือแล้วหันมามองหน้าอ้น ที่กำลังบึ้งตึงอีกครั้ง เพราะอ้นคาดเดาได้ว่าเป็นเสียงของนินโทรมา “เป็นอะไรอีกล่ะ” “ไปส่งเราที่ขนส่งด้วยเราจะกลับกรุงเทพ” “กลับไปหาไอ้บอสของมึงเหรอ”เอเริ่มรู้สึกโมโหที่อ้นเอาแต่ใจมากขึ้น “ใช่” “ไอ้อ้น มึงอยากโดนอีกใช่ไหม” “โดนอะไร” “กระท่อมปลายไร่ ไปอยู่ในนั้นอีกครั้งไหม”
วันนี้อ้นแกล้งตื่นสาย เพราะอยากรู้ว่าเอจะอยู่บ้านหรือว่าแอบไปไหนหรือเปล่า เมื่อเขาแต่งตัวเสร็จจึงลงมาข้างล่าง แล้วสิ่งที่อ้นเห็นนั้นทำให้เขาปวดใจยิ่งนัก เพราะภาพตรงหน้าเอกำลังนั่งโซฟาคุยกับนิน มีรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของทั้งสอง อ้นถึงกับของขึ้นอารมณ์ฉุนเฉียวมาทันที เขารีบเดินลงบันไดแล้วเดินไปหาเอ “คุยอะไรกัน”อ้นเอ่ยขึ้น “คุยเรื่องสมัยเรียนตอนมัธยม คิดถึงวันนั้นมากเลย เอชอบแกล้งเรานะ ไม่คิดเลยว่าโตมาจะเป็นคนละคน”นินยิ้มให้เอ “ใช่ โตแล้ว มีแฟนแล้วด้วย ยืนอยู่ตรงนี้”อ้นยืนกอดอก “เหรอ แฟนเอใช่ไหม” “เอ่อ ใช่ แฟนเราเอง”เอตอบอย่างหนักแน่น “เอ”นินอ้าปากค้างตาโต เพราะเขาไม่อยากได้ยินคำนี้ ถึงแม้เขาจะรู้ระแคะระคายมาบ้างนิดหน่อย แต่นินยังไม่เชื่อจนได้ยินจากปากของเอ เขาถึงกับอึ้งทำอะไรไม่ถูก “ได้ยินชัดแล้วใช่ไหม”อ้นนั่งลงข้างๆเอพร้อมยิ้มให้นิน “ได้ยินแล้ว แต่เราเป็นเพื่อนเอนี่ จะไปหามาหาสู่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก” “แปลกซิ ถ้านายเป็นแบบนิก เราไม่ว่าอะไรหรอก แต่นี่นายเหมือนเรา อย่าคิดว่าเราไม่รู้น
อ้นและเอใช้ชีวิตอยู่บ้านไร่มาร่วมเดือน จนพ่อแม่ของเอเกิดความสงสัย เพราะพ่อแม่ของเอแค่นึกว่าอ้นมาเที่ยวหา แต่นี่อยู่ร่วมเดือนยังไม่กลับไป ทั้งสองจึงอยากเห็นหน้าและพูดคุย ด้วย พ่อแม่ของเอไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว เขาทั้งสองไปอยู่กับพี่สาวคนโตในจังหวัดอื่น และอีกอย่างที่ทั้งสองมาเพราะคิดถึงลูกชายคนเดียวของพวกเขา เมื่ออำพลกับบังอรมาถึงเขาก็เห็นภาพอันบาดตา เป็นภาพที่เขาทั้งสองไม่คาดคิดว่าจะได้เห็น เพราะเป็นภาพที่เอนอนบนตักของอ้น และที่หนักไปกว่านั่นเขาจับมือของอ้นมาดมและหอมอตลอดเวลา “ไอ้เอมึงทำอะไรของมึง”กำพลเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าไม่พอใจอย่างยิ่ง “เอ หรือว่าลูกเป็น เอ่อ”บังอรใช้มือทาบอกด้วยความตกใจ เอรีบกระดกตัวลุกขึ้นทันที เขามีสีหน้าที่ไม่สู้ดีทันที ส่วนอ้นยังไม่เท่าไรแค่แปลกใจ ทำไมพ่อแม่ของเอมาไม่บอกล่วงหน้าแค่นั้น “พ่อแม่”เอลุกขึ้นยืนนิ่ง “สวัสดีครับพ่อแม่”อ้นยกมือไหว้ทันที “พวกเอ็งเป็นอะไรกันถึงมานอนหนุนตักหอมไม้หอมมือกัน อย่างกับเป็นคู่รักกันอย่างนั้นแหละ” “คือว่า พ่อกับแม่ คือผม เอ่อ อา อือ อู คือ
พงศกรมองหน้าเอด้วยความไม่พอใจยิ่งนัก เพราะเอดูไม่เรียบร้อยห่ามเถื่อนจนเกินไป เขาชอบผู้ชายที่ดูสุภาพอย่างจ๊อบ “ไอ้อ้น มึงพาแฟนกลับไปด้วยเลย กูไม่อยากเห็นหน้ามัน” “พ่อแฟนอ้นนะ” “กูรู้แล้วว่าแฟนมึงกูก็ไม่ได้ห้ามว่ามึงอย่ามีแฟนนี่ แต่ให้หาที่ดีกว่านี้หน่อยไม่ไม่เหรอ เอาผีบ้าผีบอจากที่ไหนมาเนี่ย” “ผมไม่ใช่ผีบ้าผีบอนะครับ ผมเป็นคนเหมือนพ่อนั่นแหละ วันนี้เดี๋ยวผมจะทำกับข้าว ซักผ้าถูกบ้านให้เอง เอ่อ เดี๋ยวจะไปถางหญ้าหวดทีทำทุกอย่างให้สะอาดเลย พ่อรออยู่นี่แหล่ะ” “อ้นคุยกับพ่อแม่ไปนะ เดี๋ยวเราจะไปทำงานบ้านและนอกบ้าน” เมื่ออ้นพูดเสร็จเขาก็เข้าไปในครัวทำกับข้าว ที่เขาซื้อเตรียมพร้อมไว้ เพราะเขาตั้งใจไว้ว่าจะต้องชนะใจพ่อตาให้ได้ ส่วนแม่ยายเอ้นคิดว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร “ไอ้อ้น แฟนเองมันเพี้ยนแม่ว่า” “แม่ เอก็แบบนี้แหละ แต่เขาดูแลอ้นดีมากเลย ข้อสำคัญเขามีเวลาอยู่กับอ้นตลอด” “มีเวลาไม่มีประโยชน์ดูมึงดำไปมากเลย ไปอยู่กลางไร่กลางนามาแน่เลย” “ครับพ่อ” “นั่นไง กูเลี้ยงของกูไม
ช่วงหลังเลิกเรียนมักจะมีความวุ่นวาย ของบรรดานักศึกษาชายหญิง ยิ่งสถาบันการศึกษาที่อยู่ติดกันด้วย แต่ยังดีที่สองสถาบันนี้ไม่มีเรื่องกระทบกระทั่งกัน เพราะเป็นการแยกระหว่างชายหญิงเลยก็ว่าได้ สถาบันแห่งหนึ่งเป็นวิทยาลัยเทคโนการช่างที่ส่วนใหญ่มีแต่ผู้ชาย ส่วนอีกแห่งเป็นวิทยาลัยพาณิชย์ที่ส่วนใหญ่มีแต่ผู้หญิง ผู้ชายก็มีแต่เป็นส่วนน้อย และเป็นส่วนน้อยที่ไม่มีการทะเลาะวิวาทกับสถาบันอื่นและการจราจรหน้าสถาบันสองแห่งนี้ ก็เริ่มติดขัด เพราะบรรดานักศึกษาเริ่มทยอยกลับบ้าน เฉกเช่นเดียวกับอ้นนักศึกษาพาณิชย์ปี3 ที่ค่อยๆขับมอเตอร์ไซค์ออกจากวิทยาลัยและขับผ่านหน้าวิทยาลัยเทคโนการช่าง ที่มีแต่กลุ่มเด็กช่างจับกลุ่มคุยกัน เสียงดังแข่งกับเสียงรถที่แล่นผ่านอ้นพยายามที่จะไม่มองสองฝากฝั่ง เพราะกลัวเด็กช่างหาว่ามองหน้า เดี๋ยวจะถูกรุมทำร้ายโดยไม่รู้ตัว ซึ่งบรรดาหนุ่มในอาชีวะรู้ข้อนึ้เป็นอย่างดีทุกคนอ้นได้ขับรถมอเตอร์ไซค์เลยวิทยาลัยเทคโนการช่างมาพอสมควร เขาจึงเริ่มเบาใจแต่แล้วกลับมีสิ่งที่ทำให้เขาตระหนกตกใจจนได้ เพราะหนุ่มเทคโนวิ่งตัดหน้ารถมอเตอร์ไซค์ของเขา อ้นเบรครถกะทันหัน จึงทำให้ล้อหลังปัดจนเกือบล้ม แต่ก็ยังด
เมื่ออ้นเข้ามาในห้องก็เห็นสภาพเปลือยเปล่าท่อนบน ของเอที่นอนแผ่หราหมดสภาพหนุ่มเทคนิค อ้นยืนจ้องมองเอและอมยิ้มสักพัก หลังจากนั้นเขาก็สลัดความคิดนั้นทิ้งไป และ อ้นก็ออกไปตากผ้าที่ระเบียง แต่ใจก็ยังมีความรู้สึกแว้บๆ ให้เห็นใบหน้าอันคมเข้มของเอ อ้นจึงายามสลัดความคิดนั้นทิ้งไป แล้วรีบตากผ้าให้เสร็จโดยเร็วไวหลังจากที่อ้นตากผ้าเสร็จเขาก็เข้ามาภายในห้องอีก และเดินไปที่บริเวณเตียงนอนเพื่อปลุกเอมากินข้าว"นายตื่นได้แล้ว"อ้นเขย่าร่างของเอเอลืมตาขึ้นก็เห็นใบหน้าของอ้นอยู่ตรงหน้า เขาจึงขยับร่างลุกขึ้นนั่งในสภาพสะลึมสะลือ"กินข้าวได้แล้ว" อ้นชี้ไปที่กล่องข้าวที่วางไว้บนโต๊ะเอจึงลุกขึ้นเดินไปที่โต๊ะทันที และรีบเปิดกล่องข้าวซึ่งเป็นกระเพราไก่ไข่ดาว ด้วยความหิวต้นจึงไม่รอช้ารีบกินทันที โดยมีอ้นนั่งมองด้วยความขบขัน เพราะเอกินข้าวแบบหิวกระหายมาหลายเดือน"ค่อยๆกินก็ได้เดี๋ยวติดคอหรอก"เอหยุดกินและเงยมองหน้าอ้น แต่เขาก็ไม่ได้พูออะไร หลังจากนั้นก็ก้มหน้าก้มตากินข้าวต่อ อ้นซึ่งมองเออยู่จึงลุกขึ้นไปนำน้ำในตู้เย็นมาให้เอดื่ม'เอ้าน้ำ"อ้นวางน้ำไว้บนโต๊ะ แล้วเขาก็เดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่ออาบน้ำเพราะเหนียวตัวเต
เอนั้นได้นอนหลับไปแล้วแต่อ้นยังไม่หลับ เพราะยังรู้สึกดีใจและอิ่มใจกับรสชาติรักที่เอมอบให้ถึงจะติดขัดไปบ้างเขาก็พอใจ อ้นจึงนอนคิดเหตุการณ์ที่ผ่านมาเมื่อไม่นาน เพียงเอสัมผัสที่ริมฝีปากของเขาเพียงครั้งเดียวก็สุขใจ หลังจากเอจึงนอนหงาย “อมให้หน่อย”เอพูดจบพร้อมถอดกางเกงออกจนหมดจนเผยเห็นท่อนเอ็นที่นอนสงบ หลังจากนั้นเขาเปิดคลิปโป๊ดู ทีแรกอ้นกล้าๆกลัวๆ เพราะยังไม่เคยได้สัมผัสสิ่งนี้มาก่อนจนอายุยี่สิบปี แต่ก็พอรู้มาบ้างว่าต้องทำอย่างไรแต่ก็ยังรู้สึกประหม่าอยู่ดี “เร็วๆหน่อยเดี๋ยวเปลื่ยนใจนะ”เอพูดขึ้นอีกครั้ง เพราะเขาคิดว่าเรื่องแค่นี้ไม่น่าจะเสียหายอะไร “ก็ได้”อ้นลุกขึ้นนั่งและจับท่อนเอ็นของเอรูดส่วนปลายออกและอมทั้งที่ยังไม่แข็งตัว อ้นรูดขึ้นรูดลงจนท่อนเนื้อแล้วแข็งขึ้น “โดนฟันระวังหน่อย” อ้นรู้สึกเสียหน้าพอสมควรกับเหตุการณ์นี้ และกลัวเอจะไม่ให้เล่นท่อนเอ็นอีก คราวนี้อ้นจึงพยายามอย่างเต็มที่ระมัดระวังไม่ให้ฟันไปโดยท่อนเอ็น แต่แล้วความสนุกเพลิดเพลินก็มลายสิ้น เพราะเอได้พ่นน้ำในกายออกมาเต็มปากของอ้นพร้อมเสียงครางแผ่ว “อ่า อ่า อ่าส์”เสร็จแล้วเอปิดคลิปโป๊และดึงท่อนเอ็นออกจ
“อยากลองไหมอ้น”เอใช้มือลูบที่ก้นอวบอิ่มของอ้น ซึ่งเอก็อยากลองเช่นกัน เพราะเได้ยินแต่เพื่อนบางคนที่เคยลองบอกเด็ด ส่วนอ้นนั้นไม่อยากปฏิเสธเพราะเขาก็อยากรับรู้รสชาตินี้เหมือนกัน แต่เขาก็กลัวเจ็บเพราะขนาดท่อนเอ็นของเอใหญ่ยาวพอสมควร “นายยังไม่บอกเราเลยว่าต้องการไหม”เอใช้มือล้วงเขาไปในกางเกงของอ้น โดยที่อ้นยังไม่อนุญาตแต่อย่างใด แต่ท่าทางที่นิ่งเงียบของอ้นก็บอกเป็นนัยๆว่าไม่ปฏิเสธ “ถ้านายไม่พูดเราถือว่านายโอเคนะ”เอดึงกางเกงของอ้นออก ซึ่งทีแรกอ้นก็นิ่งเฉยแต่เอมีปัญหาถอดกางเกงของอ้นเขาจึงช่วยขยับร่างให้ดึงออกง่ายขึ้น เมื่อเอถอดกางเกงของอ้นออกจนหมด และเผยเห็นก้นที่ขาวอวบอิ่มไร้ริ้วรอย จนทำให้เอมีอารมณ์ใคร่พิศวาสขึ้นมาทันที จึงทำให้ท่อนเอ็นของเขาขยายใหญ่เต็มที่ เอจึงถอดกางเกงของเขาออกอย่างรวดเร็ว เพราะตอนนี้อารมณ์ใครพิศวาสร้อนจนทนไม่ไหว ส่วนอ้นนอนนิ่งแต่ในไม่ได้นิ่งตามไปด้วย เพราะเขารู้สึกตื่นเต้นและกลัวในคราเดียวกัน เอทนไม่ไหวอีกต่อไปจึงจับท่อนเอ็นของเขาจ่อไปที่ช่องทางรักของอ้น ซึ่งเอได้แค่จ่อเพราะช่องทางรักของอ้นเล็กและแคบ เอตัดสินใจอยู่พักหนึ่งว่าจะเอาอย่างไงดี จึงถามความสมัคร