เอนั้นได้นอนหลับไปแล้วแต่อ้นยังไม่หลับ เพราะยังรู้สึกดีใจและอิ่มใจกับรสชาติรักที่เอมอบให้ถึงจะติดขัดไปบ้างเขาก็พอใจ อ้นจึงนอนคิดเหตุการณ์ที่ผ่านมาเมื่อไม่นาน เพียงเอสัมผัสที่ริมฝีปากของเขาเพียงครั้งเดียวก็สุขใจ หลังจากเอจึงนอนหงาย
“อมให้หน่อย”เอพูดจบพร้อมถอดกางเกงออกจนหมดจนเผยเห็นท่อนเอ็นที่นอนสงบ หลังจากนั้นเขาเปิดคลิปโป๊ดู
ทีแรกอ้นกล้าๆกลัวๆ เพราะยังไม่เคยได้สัมผัสสิ่งนี้มาก่อนจนอายุยี่สิบปี แต่ก็พอรู้มาบ้างว่าต้องทำอย่างไรแต่ก็ยังรู้สึกประหม่าอยู่ดี
“เร็วๆหน่อยเดี๋ยวเปลื่ยนใจนะ”เอพูดขึ้นอีกครั้ง เพราะเขาคิดว่าเรื่องแค่นี้ไม่น่าจะเสียหายอะไร
“ก็ได้”อ้นลุกขึ้นนั่งและจับท่อนเอ็นของเอรูดส่วนปลายออกและอมทั้งที่ยังไม่แข็งตัว อ้นรูดขึ้นรูดลงจนท่อนเนื้อแล้วแข็งขึ้น
“โดนฟันระวังหน่อย”
อ้นรู้สึกเสียหน้าพอสมควรกับเหตุการณ์นี้ และกลัวเอจะไม่ให้เล่นท่อนเอ็นอีก คราวนี้อ้นจึงพยายามอย่างเต็มที่ระมัดระวังไม่ให้ฟันไปโดยท่อนเอ็น แต่แล้วความสนุกเพลิดเพลินก็มลายสิ้น เพราะเอได้พ่นน้ำในกายออกมาเต็มปากของอ้นพร้อมเสียงครางแผ่ว
“อ่า อ่า อ่าส์”เสร็จแล้วเอปิดคลิปโป๊และดึงท่อนเอ็นออกจากปากของอ้น
อ้นจึงรีบเข้าห้องน้ำไปล้างปากทำความสะอาด พออ้นออกมาจากห้องน้ำก็เห็นเอหลับไปแล้ว อ้นรู้สึกว่ายังไม่จุใจเลยแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะท่อนเอ็นเป็นของเอก็แล้วแต่เขาจะให้เล่นเมื่อไรเท่านั้น อ้นจึงล้มตัวลงนอนข้างๆเอที่หลับกรนเสียงดังพอสมควร
อ้นตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียมไปวิทยาลัย แต่ก่อนไปเขาได้เตรียมบีบยาสีฟันไว้ให้เอ และ รีดเสื้อผ้าจนเรียบวางไว้ปลายเตียง หลังจากนั้นเขาก็จัดการธุระส่วนตัวของตัวเองจนเสร็จแล้วจึงปลุกเอ
“ตื่นได้แล้วเอ”อ้นเขย่าตัวอยู่หลายครั้งกว่าเอจะตื่น
“แจ้งแล้วเหรอเนี่ยไวจังเลย”
“ก็ใช่น่ะซิ”
เอบิดขี้เกียจสองสามท่าแล้วก็ลุกขึ้นเข้าห้องน้ำไปในทันที ส่วนอ้นก็เก็บผ้าห้มพับไว้อย่างเรียบร้อยบนหัวเตียง และนั่งรอเออาบน้ำเพราะว่าต้องไปวิทยาลัยพร้อมกัน เมื่อเอออกมาจากห้องก็เช็ดเนื้อเช็ดตัวหลังจากนั้นก็หยิบเสื้อผ้าเกงมาใส่ เอรู้สึกว่าได้แฟนเป็นผู้ชายเผลอๆดีกว่าผู้หญิงอีกช่างดูแลเอาใจใส่ ไม่ขาดตกบกพร่องแม้แต่อย่างเดียว เมื่อเอแต่งกายเรียบร้อยแต่เขาก็ยังไปในทันที ต้องมีเรื่องที่จะคุยกับอ้น ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับเขา
“เรามีเรื่องที่จะรบกวนนายหน่อย”เอพยายามใข้คำพูดที่ดูสุภาพที่สุด
“อะไรเหรอ”อ้นมีสีหน้าที่สงสัย
“พูดตรงๆเลย เรายังไม่ได้จ่ายค่าเทอมเลยนะ”
“ปกติจ่ายตั้งแต่ต้นเทอมแล้วไม่ใช่เหรอ”
“ใช่ พอดีแม่เราไม่มีเงินก็เลยผ่อนไปก่อน ตอนนี้แม่เราก็ยังไม่มีเพราะต้องส่งน้องเรียนอีกสองคน”เอตีสีหน้าเศร้า
“แล้วจะทำอย่างไงดีอีกไม่กี่วันก็จะสอบปลายภาค ปีสุดท้ายด้วย”อ้นครุ่นคิด
“นั่นแหละถ้าไม่ให้ก็ไม่จบเรากลุ้มใจมากเลย”เอถอนหายใจเฮือกใหญ่และชำเลืองมองอ้น
“เท่าไรเหรอ”อ้นถาม
“ห้าพันกว่าบาทเอง”
“ห้าพันเหรอ เราก็พอมีนะเป็นเงินที่เก็บไว้เรียนต่อ”ตอนนี้อ้นเรียน ปวส พาณิชย์เทียบเท่าอนุปริญญาซึ่งบอมบอมมีเป้าหมายจะต่อปริญญาอีกสองปี
“เราขอยืมหน่อยได้ไหม จะได้ไปจ่ายค่าเทอมวันนี้ ถ้างั้นไม่ได้สอบแน่ ถ้าแม่เราโอนมาให้แล้วเราจะมาคืนนะ”เอเข้าไปโอบกอดอ้นพร้อมหอมแก้มหนึ่งฟอด
“ก็ได้ แต่นายต้องเอามาคืนเรานะ”
“คืนอยู่แล้วที่รัก”เอหอมแก้มอ้นอีกหนี่งฟอด
“หมายเลขบัญชีล่ะ”อ้นถาม
“สแกนคิวอาร์โคตก็ได้”เอคลายกอดอ้นและหยิบมือถือมาเปิดคิวอาร์โคตให้บอมบอมสแกนจ่าย
เมื่อเงินเข้าสู่ในระบบเอสเอ็มเอสเด้งขึ้นมา เอจึงกอดอ้นจากข้างหน้าพร้อมหอมแก้มหลายฟอดติดๆกันจนบอมบอมต้องเบี่ยงหน้าหนี
“พอได้แล้วจะหอมอะไรหนักหนา”อ้นหน้าแดง
“คืนนี้จะทำมากกว่าหอมอีกคอยดู”เอจับที่ก้นของอ้น
“บ้าไปเรียนกันเถอะ”
“คือ มีตังค์ย่อยซักร้อยไหมไม่มีกินข้าวเลย”เอยิ้มฝืนๆ
“ก็ได้”อ้นควักเงินในกระเป๋าจ่ายให้เอหนึ่งร้อยบาท
หลังจากคุยธุระเรื่องเงินเสร็จทั้งสองจึงลงมาจากห้องนอน เพื่อไปเรียนหนัง ก่อนที่เอจะสตาร์ทรถออกเขาก็มีอีกเรื่องที่จะขออ้น
“วันนี้เราเลิกไวนะ ขอยืมรถมอเตอร์ไซค์หน่อยได้ไหม เดี๋ยวตอนเย็นเรามารับนายหน้าวิ ทยาลัย”
“จะไปไหนเหรอ”
“ไปกับเพื่อนไปเที่ยวน่ะ”
“จะสอบแล้วทำไมไม่กลับมาอ่านหนังสือ”
“กลับมาอ่านตอนกลางคืนก็ทัน ให้ยืมนะ”เอทำเสียงเล็กเสียงน้อย
“ก็ได้ แต่ต้องมารับให้ทันก่อนสี่โมงเย็นนะ”
“ได้ครับ อ้นใจดีจังเลยถ้าได้ใครได้เป็นแฟนนี่โชคดีเป็นบ้าเลย เราไปกันเถอะเดี๋ยวไปเรียนสาย”
เอเป็นคนขับรถให้อ้นนั่งในวันนี้เขาขับเลยหน้าวิทยาลัยตัวเองเพื่อไปส่งอ้น เมื่อถึงหน้าวิทยาลัยที่อ้นเรียนเอจึงจอดรถในทันทีส่วนอ้นก็รีบลงด้วยเช่นกัน
“เดี๋ยวตอนเย็นมารับนะรอตรงนี้แหละ”ก่อนสตาร์ทรถออกไปเอยิ้มให้อ้นด้วยสายตาหวานฉ่ำ
“มาจริงๆนะ”อ้นก็ยังระแวงอยู่เหมือนกันแต่ด้วยความรัก เขาจึงไม่สามรถที่จะปฏิ เสธคำขอได้
เมื่อเอขับรถจากไปอ้นก็เดินเข้ามาในวิทยาลัย โดยมีจีจี้ยืนรออยู่หน้าประตูวิทยาลัย พออ้นไปถึงแค่นั้นจีจี้ใส่ทันทีไม่มีการยั้งอารมณ์แต่อย่างใด
“ทำไมให้ไอ้เอขับรถไปรู้จักกันนานแค่ไหนเชียว”จีจี้จ้องมองอ้นไม่วางสายตา
“เขาเอาไปทำธุระเดี๋ยวตอนเย็นมารับ”อ้นเดินน้ำหน้าจีจี้เข้าไปในวิทยาลัย
“เชื่อได้เหรอ”
“ได้สิไม่มีปัญหาอะไรหรอก”
“โลกสวยเกินไปหน่อยมั้ง ให้เขามาอยู่ในห้องยังไม่พอยังให้รถยืมอีก ไม่รู้ว่าต่อไปจะให้อะไรอีก”จีจี้มีสีหน้าเซ็ง
“ไม่ได้โลกสวยหรอก ไปเหอะได้เวลาเรียนแล้ว”อ้นก็ยังมีความกังวลอยู่บ้าง แต่ด้วยความรักบังตาจึงไม่เห็นข้อผิดพลาดต่างๆที่จะเกิ ดขึ้น
หลังเลิกเรียนอ้นได้มารอเอที่หน้าวิทยาลัยทีแรกจีจี้ก็จะไปส่ง แต่อ้นปฏิเสธเพราะเขาค่อนข้างมั่นว่าเอจะมารับ จีจี้จึงกลับไปก่อนด้วยความโมโหในความไร้เดียงสาของเพื่อน อ้นรอจนถึงห้าโมงเย็นเอก็ยังไม่มาโทรหาก็ไม่มีสัญญาณตอบรับ อ้นเริ่มกังวลใจกลัวเอได้รับอันตราย เพราะขับรถค่อนข้างเร็วพอสมควร ซึ่งในเวลานี้รถประจำทางที่จะกลับบ้านก็ไม่มีแล้ว อ้นเริ่มคิดไม่ตกว่าจะทำอย่างไรดี ยิ่งเสียงฟ้าร้องคะนองดังขึ้นเรื่อยๆนั่นหมายความว่าฝนกำลังจะตกในเวลาไม่ช้า ใจหนึ่งอ้นอยากโทรหาจีจี้ให้มารับแต่ก็ไม่กล้า ถ้าโทรไปจีจี้มารับแน่นอนแต่เขาไม่อยากจะฟังคำด่าจากเพื่อนสาว บอมบอมคิดอยู่นานว่าจะทำอย่างไรดี เพราะถ้าเดินไปก็ยังพอได้แค่สองโลกว่าๆแต่จะเปียกฝนแน่นอน แต่ถ้ารออยู่ที่หน้ามหาวิทยาลัยถ้าเอไม่มาก็ต้องรออยู่ที่นี่ยันแจ้งอย่างแน่นอน บอมบอมจึงตัดสินใจเดินทางกลับบ้านด้วยเดินเท้า
อ้นเดินกึ่งวิ่งพร้อมกับความมืดที่เริ่มปกคลุม พร้อมฝนฟ้าร้องคะนองดังขึ้นเรื่อยๆ แต่แล้วอ้นยังไปไม่ถึงไหนฝนก็ตก อ้นจึงรีบวิ่งไปที่ศาลาข้างทางที่มีผู้คนติดฝนนั่งรออยู่หลายคน อ้นเข้าไปยืนรออยู่นานจนกว่าฝนจะหาย พอฝนเริ่มหายผู้คนต่างทยอยกลับกันจนหมด เหลือเพียงอ้นคนเดียวที่นั่งอยู่ในความมืด
อ้นตัดสินใจเดินต่อไปเรื่อยๆ เพราะขืนรอให้นานกว่านี้จะดึกไม่มีผู้คนซึ่งจะน่ากลัวกว่านี้มาก อ้นจึงเดินไปเรื่อยๆจนเริ่มปวดขาปวดหน่องและเจ็บเท้า แต่เขาก็ต้องทนเพื่อไปให้ถึงห้องเช่า ส่วนในใจก็โกรธเออยู่เหมือนกันที่ไม่ยอมมารับเขากลับห้อง และคิดไว้แล้วว่าต่อไปจะไม่ให้ยืมรถอีกต่อไป
กว่าอ้นจะมาถึงห้องเช้าก็สองทุ่มกว่า เมื่อมาถึงก็ไม่เห็นเออยู่ภายในห้องเขาจึงโทรหาเออีกหลายรอบแต่ก็ไม่รับโทรศัพท์ อ้นใจคอไม่ดีรีบเปิดตู้เสื้อผ้าซึ่งเสื้อผ้าของเอกยังอยู่ครบไม่ขาดหายไปไหน อ้นจึงรีบอาบน้ำเพราะร่างกายเปียกโซก
เมื่ออ้นอาบน้ำเสร็จก็นั่งรอการกลับมาของเอ อ้นทั้งนั่งรอนอนรออยู่นานจนทนไม่ไหว เขาจึงล้มตัวลงนอนและหลับอย่างง่ายดาย มารู้สึกตัวอีกทีเพราะได้ยินเสียงเคาะปรตูห้อง อ้นแน่ใจว่าต้องเป็นเออย่างแน่อนเขาจึงรีบไปเปิดประตู และเป็นจริงอย่างที่อ้นคิดไว้ไม่ผิดเพี้ยน
“ไปไหนมาทำไมไม่มารับเราด้วยปล่อยให้รออยู่ตั้งนาน”อ้นมองค้อน
“เราขอโทษรถอ้นยางรั่วกว่าเราจะหาที่ปะยางได้ก็นานมาก ฝนตกอีกทำให้เรามาช้า เมื่อกี้เราไปดูที่หน้าวิทยาลัยไม่เห็นนายใจคอเราไม่ดีเลย เราวนอยู่หลายรอบก็ไม่เห็นอ้นก็เลยลองมาดูที่ห้อง แล้วก็เจอจริงๆเราดีใจมากเลย”
“พรุ่งนี้ไม่ต้องเอารถไปแล้วนะ วันนี้เราลำบากมากเราต้องเดินกลับเพราะรอนายจนเย็นไม่มีรถคิดแล้ว”
“เราขอโทษอีกครั้งนะอ้น “เอโผกอดอ้นด้านหลังพร้อมพรหมจูบแก้มทั้งสองข้าง เพราะเมื่อเช้าเขาทำได้ผลคืนนี้เขาเลยลองทำอีกครั้ง
“ไม่ต้องมากอดมาหอม”อ้นพยายามดิ้นให้หลุด
“โกรธเราจริงๆด้วยจะให้ทำอย่างไงให้หายโกรธ”เอกอดอ้นรัดแน่นขึ้น
“ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น”อ้นหยุดดิ้นและยืนนิ่ง
ในส่วนของเอพยายามคิดค้นหาวิธีง้อให้อ้นคืนดีให้ได้ เพราะถ้าอ้นโกรธเอกลัวจะไม่มีที่อยู่ เอจึงคิดเรื่องเมื่อคืนที่อ้นอมของท่อนเอ็นของเขาดูเหมือนจะชอบมาก วันนี้เขาเลยจะให้อ้นทำให้อีกครั้งและข้อสำคัญเขาก็สนุกกับตรงนั้นด้วย
“ถ้างั้นเรามามีความสุขคนกันเหมือนเมื่อคืน”เอพูดขึ้น
“เราไม่ทำ ไม่ต้องการเราจะให้นายออกไปจาก”อ้นยังไม่พูดจบ
เอพอคาดเดาได้ว่าอ้นจะพูดดอะไรเขาจึงคลายกอดและจับร่างของอ้นหันหน้ามาทางเขา เอรีบจับศีรษะของอ้นไว้ หลังจากนั้นประกบริมฝีปากอ้นและสอดลิ้นใส่ไปข้างในทันที อ้นพยายามดิ้นและผลักร่างของเอให้ห่างออกไป แต่ก็ไม่สำเร็จอ้นจึงปล่อยเลยตามเลย หลังจากนั้นเมื่อเห็นอ้นนิ่งลงเขาจึงถอนปากจากอ้นและช้อนร่างอ้นอุ้มขึ้นไว้ใต้วงแขน
เออุ้มร่างของอ้นมาที่เตียงและวางลงอย่างทะนุถนอม หลังจากนั้นพรหมจูบทั่วใบหน้าและไซร้ซอกคอของอ้นอย่างเราร้อน แต่อ้นทนกลิ่นเหงื่อและเหล้าไม่ไหวเขาจึงผลักร่างขอเอให้ถอยห่าง
“เหม็นไปอาบน้ำก่อน”
เอหยุดไซร้ซอกคอของอ้นและอมยิ้มมองอ้นด้วยสายตาหวานฉ่ำ เพราะเขาคิดว่าอ้นคงหายโกรธแล้วเป็นแน่
“หายโกรธเราแล้วใช่ไหม”
“ยัง”บอมบอมหันหน้าหันตัวตะแครงให้เอ
“หันหลังให้นี่หมายความว่าอย่างไงหน่า หรือว่าอยากให้เราทำอะไรด้านหลัง”
อ้นไม่พูดอะไรและไม่ได้คิดเช่นนั้นก่อนหน้านี้ พอเอพูดขึ้นเขาเลยอยากลองขึ้นมาแต่ก็ไม่พูดอะไร
“อยากลองไหมอ้น”เอใช้มือลูบที่ก้นอวบอิ่มของอ้น ซึ่งเอก็อยากลองเช่นกัน เพราะเได้ยินแต่เพื่อนบางคนที่เคยลองบอกเด็ด ส่วนอ้นนั้นไม่อยากปฏิเสธเพราะเขาก็อยากรับรู้รสชาตินี้เหมือนกัน แต่เขาก็กลัวเจ็บเพราะขนาดท่อนเอ็นของเอใหญ่ยาวพอสมควร “นายยังไม่บอกเราเลยว่าต้องการไหม”เอใช้มือล้วงเขาไปในกางเกงของอ้น โดยที่อ้นยังไม่อนุญาตแต่อย่างใด แต่ท่าทางที่นิ่งเงียบของอ้นก็บอกเป็นนัยๆว่าไม่ปฏิเสธ “ถ้านายไม่พูดเราถือว่านายโอเคนะ”เอดึงกางเกงของอ้นออก ซึ่งทีแรกอ้นก็นิ่งเฉยแต่เอมีปัญหาถอดกางเกงของอ้นเขาจึงช่วยขยับร่างให้ดึงออกง่ายขึ้น เมื่อเอถอดกางเกงของอ้นออกจนหมด และเผยเห็นก้นที่ขาวอวบอิ่มไร้ริ้วรอย จนทำให้เอมีอารมณ์ใคร่พิศวาสขึ้นมาทันที จึงทำให้ท่อนเอ็นของเขาขยายใหญ่เต็มที่ เอจึงถอดกางเกงของเขาออกอย่างรวดเร็ว เพราะตอนนี้อารมณ์ใครพิศวาสร้อนจนทนไม่ไหว ส่วนอ้นนอนนิ่งแต่ในไม่ได้นิ่งตามไปด้วย เพราะเขารู้สึกตื่นเต้นและกลัวในคราเดียวกัน เอทนไม่ไหวอีกต่อไปจึงจับท่อนเอ็นของเขาจ่อไปที่ช่องทางรักของอ้น ซึ่งเอได้แค่จ่อเพราะช่องทางรักของอ้นเล็กและแคบ เอตัดสินใจอยู่พักหนึ่งว่าจะเอาอย่างไงดี จึงถามความสมัคร
เมื่อถึงเวลาตอนเย็นอ้นก็มารับเอกลับบ้าน ซึ่งเอก็มายืนรอหน้าวิทยาลัยหลังเลิกเรียน เพราะ ช่วงนี้ใกล้สอบเอจึงไม่คิดที่จะไปไหนถึงอย่างไรเขาก็ยังอยากเรียนจบ เอจึงคิดที่จะกลับไปอ่านหนังสือที่ห้อง “นายขี่นะ”อ้นจอดรถตรงหน้าเอที่ยืนรออยู่ ในระหว่างที่เอกำลังจะขึ้นจะเปลื่ยนมานั่งขับรถนั้น เจนก็ขับรถมาจอดข้างๆรถของอ้น “ว่าไงจะไปไหนเหรอ”เจนถามโดยหันมามองหน้าเอ “จะไปไหนมันก็เรื่องของกู มึงมายุ่งอะไรด้วยเจน” “ไม่ได้อยากยุ่งหรอก แต่อยากรู้ว่าจะไปไหนกันก็แค่นั้น” “ก็นั่นแหละมันกี่ยวอะไรกับมึงไอ้เจน”เอเริ่มมีอารมณ์โกรธพอสมควร “กลับห้อง”อ้นพูดขึ้น “กูไม่ได้ถามมึงไอ้หน้าอ่อน อยากเสือกเรื่องของคนอื่น”เจนหันหน้ามามองอ้นด้วยสายตาที่ไม่สมอารมณ์ “เฮ้ย ไอ้เจนมึงนี่มันจริงๆเลือกของแท้ชอบยุ่งเรื่องของกูจัง” “กูไม่ได้ยุ่งกับมึงซะหน่อย” “ไม่ได้ยุ่งก็ถอยไปกูจะกลับห้องแล้ว”เอพูดขึ้น “อุ๊ย ห้องใครเอย” “จะห้องใครก็ไม่เกี่ยวกับมึงไปกันเถอะอ้น” เอขึ้นรถทันทีที่พูดจบ ส่วนอ้นก็รีบขึ้นซ้อนท้าย “หวานแหวนเหลือเกินคู่รัก”
หลังจากสอบเสร็จอ้นก็รีบกลับมาที่ห้องทันทีเพื่อรอเอ เพราะอ้นได้ไปหาเอที่ในวิทยาลัยแต่ไม่เจอ ซึ่งอ้นคาดว่าเอน่าจะไปเลี้ยงฉลองตอนก่อนจบการศึกษา ซึ่งในความคิดที่อ้นคาดไว้นั้นผิดถนัดเพราะเอได้กลับมาในสภาพที่ปกติที่สุด “ทำอะไรกินจ๊ะ”เอพูดจาอย่างน่าฟัง “ก็หลายอย่างนะ”อ้นหันมายิ้มให้เอ “แต่วันนี้ไม่อยากกินเราอยากไปดูหนังมากกว่า” “กินก่อนค่อยไปดูก็ได้”เอพูดขึ้น “เสียดายของน่ะ” “ไม่ต้องเสียดายหรอก เพราะวันนี้เราสอบเสร็จกันแล้ว หลังจากนี้เรายังไม่รู้เลยว่าจะไปกันทางไหน” “ใช่”อ้นมีสีหน้าซึมลงนิดหน่อย “ก็นั่นไงเราควรใช้เวลาที่เหลืออยู่หาความสุขใส่ตัวให้มากที่สุด” “เหรอ แล้วนายจะเรียนต่อไหม” “ยังไม่รู้เลย แล้วนายล่ะ” “เรียนซิ แต่ก็ต้องไปเรียนกรุงเทพ” “เราคงไม่ได้เจอกันแล้วซิเนาะ”เอก็ไมได้คิดอะไรมาก เพราะเขาก็ไม่คาดหวังว่าจะอยู่กับอ้นต่อไปหรอก “ใช่ เราคงคิดถึงนายมาก แต่ก็ดีเหมือนกันที่เราจะไปดูหนังด้วยกัน จะได้เก็บความรู้สึกดีดีไว้เนาะ แต่ก็ยังเหลืออีกหลายวันที่เราจะยังอยู่ด้วยกันไม่ใช่เหรอ และอีกอย่างโ
เมื่ออ้นได้ยินเสียงเคาะประตูเขารีบเดินออกมาเปิดประตูห้องทันที เพียงได้เห็นหน้าของเอเขายิ้มอย่างอ่อนละมุนให้เอ แต่เขากลับได้รีบความนิ่งเฉยที่ใบหน้าของเอ “เป็นอะไรเหรอ”อ้นถามด้วยความแปลกใจอย่างมาก เพราะสีหน้าและท่าทางนั้นได้แตกต่างจากเมื่อตอนหัวค่ำอย่างมาก “กูมาเก็บเสื้อผ้าจะกลับบ้านแล้ว”เอพูดด้วยเสียงราบเรียบ “ทำไมรีบกลับไหนบอกว่าจะอยู่อีกหลายวันล่ะ” “ก็มึงนั่นแหละที่ทำตัวเอง” “ทำอะไร”อ้นมีสีหน้าที่สงสัย “มึงเอารูปที่กูถ่ายคู่กับมึงลงในโซเซียลทำไม”เอมีสีหน้าที่บึ้งตึ่ง “ก็คือเรา”อ้นอ่ำอึ้ง “มึงต้องพูดอะไร เรื่องราวระหว่างมันจบแล้ว”เอเดินไปเกี่ยวเสื้อผ้าใส่กระเป่าของเขา “เอ เราขอโทษเดี๋ยวเราลบรูปก็ได้” “มันสายเกินไป เราคงไปกันไม่ได้หรอก อีกอย่างถึงเราจะไม่จากกันวันนี้ ต่อไปเราก็ต้องจากกันอยู่ดี สู้เราจากกันตั้งแต่ตอนนี้ไม่ดีกว่าอีกเหรอ” “เรารักนายนะ”อ้นพูดขึ้นมาจากใจจริง “แต่เราไม่ได้รักนายนี่” “แล้วที่นายทำดีกับเราล่ะ” “เราขอบใจนายมากนะที่นายดีกับเรา ช่วยเหลือเราทุกอย่าง แต่เราค
ในที่สุดก็ถึงห้วงเวลาที่เอจะต้องกลับบ้าน จิตใจตอนนี้ของเจนรู้สึกเสียดายอยากให้ยืดเวลาออกไปอีกนานเท่านาน แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ไปมากกว่านี้ เพราะในส่วนตัวของเขาเองก็ต้องกลับบ้านเช่นกัน จึงเป็นความห่วงหาอาลัยยามจาก เพราะก่อนหน้านี้ไมได้ญาติดีคุ้นเคยกันเท่าไรนัก พอเริ่มสนิทมีความสัมพันธ์เกินเพื่อนก็จำใจต้องจากลา “คิดแล้วเศร้าหนอต้องจากกันจริงแล้วเหรอเนี่ย”เจนพูดขึ้น “อะไรของมีงจะคร่ำครวญอะไรนักหนา ทำอย่างกูเป็นผัวมึงอย่างนั้น”เอมีสีหน้าที่ไม่เข้าใจในตัวเจน “ก็ใช่ไม่ใช่เหรอ”เจนยิ้ม “ไอ้เจนมึงพูดดีดีนะเว้ย เรื่องนี้ต้องความลับมีแค่เราสองคนเท่านั้นที่รู้” “เอ่อน่า กูไม่บอกใครหรอก มึงทำอย่างกับกูกล้าบอกคนอื่นอย่างนั้น กูไม่ใช่น้องอ้นของมึงที่ประกาศให้โลก” “หุบปากไปเลย เลิกเอ่ยชื่อนี้ได้แล้วกูไม่อยากได้ยิน” “ดีหนอได้เขาแล้วก็ทิ้งขวางไม่ใยดี” “ถ้ามึงไม่หยุดพูดกูกลับรถประจำทางก็ได้”เอเริ่มมีอารมณ์โกรธในความแซะของเจนที่ไม่หยุดหย่อน “เอ่อน่า พูดเล่นแค่นี้ก็ไม่ได้ทำเป็นขี้โมโหน้อยใจไปได้” “ไม่ต้องพูดมากเดี๋ยวกูลงไปรอข้างล่างร
ยามรุ่งอรุณวันใหม่เอได้มายืนอยู่หน้าบ้าน เพื่อส่งเจนที่กำลังจะกลับบ้านแต่เช้าตรู่ ซึ่งเจนก็ลีลาแกล้งอยากจะกลับใจจะขาด แต่ก็ยังไม่กลัวซักทีเพราะเขาอดคิดถึงเอไม่ได้ เพราะความรักของเขากำลังเริ่มก่อตัวขึ้นเรื่อยๆ จนแท่บจะหักห้ามใจไม่ได้ในช่วงเวลานี้ “มึงนี่ลีลาอยู่นั่นแหละ นั่งบนรถจนขาถ่างหมดแล้วมั้ง” “กูคิดถึงมึงไม่อยากไปเลยวะ” “ไอ้เจนมึงเป็นบ้าเป็นบออะไร ทีตอนเรียนมึงไม่เห็นหัวกูเลยนะ ที่ตอนนี้มาพูดนั่นพูดนี่อยู่ได้” “กูก็เอ่อ ไม่มีอะไรหรอก”เจนอยากจะพูดว่ากูรักมึงแต่ใจก็ไม่กล้า “ไปได้แล้วไอ้เจนมือถือก็มีเดี๋ยวค่อยคุยกัน” “มึงสัญญากับกูแล้วนะโว้ย” “เอ่อน่า” “ถ้างั้นกูไปแล้วนะ” “โชดดีเพื่อนรัก” “เช่นกัน” เจนตัดใจครั้งสุดท้ายโดนไม่หันมามองหน้าเอ เขาสตาร์ทรถและขับไปในทันที ส่วนเอก็ยืนมองด้วยสายตาที่ว่างตา เพราะเขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับเจน เอคิดกับเจนแค่เพื่อนเท่านั้น ไม่ได้มีอะไรเกินเลยไปกว่านี้ ในระหว่างที่เอกำลังจะกลับเข้าบ้าน ก็มีรถมอเตอร์ไซค์สองคันสี่คนมาจอดตรงหน้าเขา พอทั้งสี่เปิดหมวดกันน็อคออก เอแท่บซ็อคเ
วันนี้เป็นแรกที่บอสคนใหม่จะเข้ามาทำงานในบริษัทบีเอ็มรีไซเคิล ซึ่งเป็นลูกชายคนเดียวของผู้ก่อตั้งบริษัท ที่ได้วางมือ เพราะสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง เลยให้ลูกชายมาสานต่อธุรกิจ ทางพนักงานบริษัทเลยตื่นเต้นกันยกใหญ่ เพราะบอสคนใหม่อายุแค่สามสิบกว่าๆแถมโสด หล่อ รวย จึงทำให้พนักงานสาวๆในบริษัทแห่งนี้ดูตื่นเต้นกันยกใหญ่ ซึ่งรวมอ้นพนักงานธุรการมาใหม่ยังไม่ผ่านช่วงโปรด้วย “มาแล้วบอสคนใหม่”นฤมลรุ่นพี่สาวสายดี้ด๊าเป็นพิเศษ และตีที่หลังอ้นอยู่หลายครั้ง” “ก็หล่อดีนะ”อ้นพูดขึ้น “ไม่ใช่แค่หล่อดี แต่หล่อมากๆ แต่ก็คงได้แต่มอง ไปทำงานกันเถอะ”เมื่อนฤมลคิดได้ว่าโลกความจริง คงไม่มีทางเป็นไปได้ เธอจึงปลงกะทันหัน อ้นยืนมองร่วมกับเพื่อนพนักงานสาวๆที่ยืนอยู่ข้างๆและยิ้มให้บอสคนใหม่ ระหว่างเดินผ่าน ซึ่งบอสคนใหม่ก็ไม่ได้มีสีหน้าทิ่ยิ้มแย้มอะไร มีเพียงใบหน้าที่นิ่งเฉยจนเดินผ่านมาตรงที่อ้นยืนอยู่ เขาหันมามองแวบหนึ่ง แล้วหันกลับไป เพราะเขาสะดุดตา เนื่องด้วยมีอ้นคนเดียวที่เป็นผู้ชายที่ยืนล้อมวงด้วยผู้หญิงนับสิบ อ้นสบตาชั่ววินาทีแค่นั้น ใจของเขาก็เต้นระรัวไม่เป็นจังหวะ เพราะบอสคนใหม่หล่อมากในสายตาของอ้น แต
อ้นรีบมาทำงานแต่เช้าเพื่อเตรียมงาน ให้บอสของเขาที่บอกว่าตัวเองไม่เรื่องเยอะ แต่พฤติกรรมนั้นตรงข้ามกับคำพูดอย่างสิ้นเชิง เมื่ออ้นมาถึงออฟฟิคในโรงงานบีเอ็มรีไซเคิล เขารีบจัดแจงเรียงแฟ้มเอกสารเข้าชั้นอย่างเร่งรีบ และเปิดคอมพิวเตอร์ทิ้งไว้เพื่อให้บอสได้ทำงานได้ในทันที ตามคำบอกกล่าวของจิ๊บเลขาคนเก่า หลังจากที่อ้นทำงานเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาจึงออกมานั่งที่หน้าห้องรอการมาของบอส ซึ่งอ้นก็รอได้ไม่นานบอสคนใหม่ของเขาก็มาถึง เมื่อบอสเดินผ่านมาเขาก็หันมามองอ้นไม่กี่วิแล้วหันหน้ากลับเดินเข้าห้องไป ปล่อยให้อ้นไม่ทันได้ยิ้มแม้แต่นิด อ้นจึงไม่รอช้าเดินตามเข้าไปในห้องทันที “บอสดื่มกาแฟกี่ช้อนครับ”เมื่อวานอ้นลืมถามจิ๊บว่าบอสดื่มกาแฟกี่ช้อน เขาเลยไม่กล้าชงให้บอสได้ดื่ม “สามช้อนไม่ต้องใส่อะไรทั้งนั้น”จ๊อบบอสของอ้นยังมีสีหน้าที่นิ่งเฉย “ครับ” อ้นจึงรีบไปชงกาแฟตามที่จ๊อบต้องการ เพราะตอนนี้จ๊อบได้เปิดดูเอกสารการผลิตในคอมพิวเตอร์ เมื่ออ้นชงเสร็จจึงรีบนำมาให้บอสทันที ด้วยความประหม่าและเกร็งในความนิ่งของจ๊อบ อ้นถือถ้วยกาแฟที่สั่นจนเสียงดัง “แก็ก แก็ก แก็ก” เมื่อจ๊อบได้ยินเสียงถ้วยกาแฟสั่น
พงศกรมองหน้าเอด้วยความไม่พอใจยิ่งนัก เพราะเอดูไม่เรียบร้อยห่ามเถื่อนจนเกินไป เขาชอบผู้ชายที่ดูสุภาพอย่างจ๊อบ “ไอ้อ้น มึงพาแฟนกลับไปด้วยเลย กูไม่อยากเห็นหน้ามัน” “พ่อแฟนอ้นนะ” “กูรู้แล้วว่าแฟนมึงกูก็ไม่ได้ห้ามว่ามึงอย่ามีแฟนนี่ แต่ให้หาที่ดีกว่านี้หน่อยไม่ไม่เหรอ เอาผีบ้าผีบอจากที่ไหนมาเนี่ย” “ผมไม่ใช่ผีบ้าผีบอนะครับ ผมเป็นคนเหมือนพ่อนั่นแหละ วันนี้เดี๋ยวผมจะทำกับข้าว ซักผ้าถูกบ้านให้เอง เอ่อ เดี๋ยวจะไปถางหญ้าหวดทีทำทุกอย่างให้สะอาดเลย พ่อรออยู่นี่แหล่ะ” “อ้นคุยกับพ่อแม่ไปนะ เดี๋ยวเราจะไปทำงานบ้านและนอกบ้าน” เมื่ออ้นพูดเสร็จเขาก็เข้าไปในครัวทำกับข้าว ที่เขาซื้อเตรียมพร้อมไว้ เพราะเขาตั้งใจไว้ว่าจะต้องชนะใจพ่อตาให้ได้ ส่วนแม่ยายเอ้นคิดว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร “ไอ้อ้น แฟนเองมันเพี้ยนแม่ว่า” “แม่ เอก็แบบนี้แหละ แต่เขาดูแลอ้นดีมากเลย ข้อสำคัญเขามีเวลาอยู่กับอ้นตลอด” “มีเวลาไม่มีประโยชน์ดูมึงดำไปมากเลย ไปอยู่กลางไร่กลางนามาแน่เลย” “ครับพ่อ” “นั่นไง กูเลี้ยงของกูไม
อ้นและเอใช้ชีวิตอยู่บ้านไร่มาร่วมเดือน จนพ่อแม่ของเอเกิดความสงสัย เพราะพ่อแม่ของเอแค่นึกว่าอ้นมาเที่ยวหา แต่นี่อยู่ร่วมเดือนยังไม่กลับไป ทั้งสองจึงอยากเห็นหน้าและพูดคุย ด้วย พ่อแม่ของเอไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว เขาทั้งสองไปอยู่กับพี่สาวคนโตในจังหวัดอื่น และอีกอย่างที่ทั้งสองมาเพราะคิดถึงลูกชายคนเดียวของพวกเขา เมื่ออำพลกับบังอรมาถึงเขาก็เห็นภาพอันบาดตา เป็นภาพที่เขาทั้งสองไม่คาดคิดว่าจะได้เห็น เพราะเป็นภาพที่เอนอนบนตักของอ้น และที่หนักไปกว่านั่นเขาจับมือของอ้นมาดมและหอมอตลอดเวลา “ไอ้เอมึงทำอะไรของมึง”กำพลเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าไม่พอใจอย่างยิ่ง “เอ หรือว่าลูกเป็น เอ่อ”บังอรใช้มือทาบอกด้วยความตกใจ เอรีบกระดกตัวลุกขึ้นทันที เขามีสีหน้าที่ไม่สู้ดีทันที ส่วนอ้นยังไม่เท่าไรแค่แปลกใจ ทำไมพ่อแม่ของเอมาไม่บอกล่วงหน้าแค่นั้น “พ่อแม่”เอลุกขึ้นยืนนิ่ง “สวัสดีครับพ่อแม่”อ้นยกมือไหว้ทันที “พวกเอ็งเป็นอะไรกันถึงมานอนหนุนตักหอมไม้หอมมือกัน อย่างกับเป็นคู่รักกันอย่างนั้นแหละ” “คือว่า พ่อกับแม่ คือผม เอ่อ อา อือ อู คือ
วันนี้อ้นแกล้งตื่นสาย เพราะอยากรู้ว่าเอจะอยู่บ้านหรือว่าแอบไปไหนหรือเปล่า เมื่อเขาแต่งตัวเสร็จจึงลงมาข้างล่าง แล้วสิ่งที่อ้นเห็นนั้นทำให้เขาปวดใจยิ่งนัก เพราะภาพตรงหน้าเอกำลังนั่งโซฟาคุยกับนิน มีรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของทั้งสอง อ้นถึงกับของขึ้นอารมณ์ฉุนเฉียวมาทันที เขารีบเดินลงบันไดแล้วเดินไปหาเอ “คุยอะไรกัน”อ้นเอ่ยขึ้น “คุยเรื่องสมัยเรียนตอนมัธยม คิดถึงวันนั้นมากเลย เอชอบแกล้งเรานะ ไม่คิดเลยว่าโตมาจะเป็นคนละคน”นินยิ้มให้เอ “ใช่ โตแล้ว มีแฟนแล้วด้วย ยืนอยู่ตรงนี้”อ้นยืนกอดอก “เหรอ แฟนเอใช่ไหม” “เอ่อ ใช่ แฟนเราเอง”เอตอบอย่างหนักแน่น “เอ”นินอ้าปากค้างตาโต เพราะเขาไม่อยากได้ยินคำนี้ ถึงแม้เขาจะรู้ระแคะระคายมาบ้างนิดหน่อย แต่นินยังไม่เชื่อจนได้ยินจากปากของเอ เขาถึงกับอึ้งทำอะไรไม่ถูก “ได้ยินชัดแล้วใช่ไหม”อ้นนั่งลงข้างๆเอพร้อมยิ้มให้นิน “ได้ยินแล้ว แต่เราเป็นเพื่อนเอนี่ จะไปหามาหาสู่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก” “แปลกซิ ถ้านายเป็นแบบนิก เราไม่ว่าอะไรหรอก แต่นี่นายเหมือนเรา อย่าคิดว่าเราไม่รู้น
เอรีบเข้าไปอุ้มร่างของอ้นทันที ส่วนอ้นยังทุบหน้าอกของเอไม่ยั้ง แต่แบบออมแรงไม่ทุบแรงอย่างครั้งแรก และก็ดิ้นให้น้อยลงนิดหน่อย เออดทนรีบพาอ้นเข้าไปในรถยนต์ของเขา เมื่ออ้นเข้าไปในรถแล้ว เขาก็นั่งนิ่งๆไม่มีท่าทีจะไปไหน พอเอขึ้นรถมาเท่านั้นแหละ อ้นหันหน้าไปทางอื่นแล้วอมยิ้ม แต่อ้นอารมร์ดีได้ไม่นานเพราะเสียงโทรศัพท์มือถือของเอดังขึ้น เอจึงรีบควักโทรศัพท์มือถือออกมารับทันที “ว่าไง” “ตามอ้นเจอไหม” “เจอแล้วอยู่บ้านนิก” “เราขอโทษนายด้วยนะที่ทำให้ผิดใจกับอ้น”น้ำเสียงของนินบ่งบอกถึงความผิดหวัง “ไม่เป็นไรแค่นี้นะ” “ฮือ” เอกดวางมือถือแล้วหันมามองหน้าอ้น ที่กำลังบึ้งตึงอีกครั้ง เพราะอ้นคาดเดาได้ว่าเป็นเสียงของนินโทรมา “เป็นอะไรอีกล่ะ” “ไปส่งเราที่ขนส่งด้วยเราจะกลับกรุงเทพ” “กลับไปหาไอ้บอสของมึงเหรอ”เอเริ่มรู้สึกโมโหที่อ้นเอาแต่ใจมากขึ้น “ใช่” “ไอ้อ้น มึงอยากโดนอีกใช่ไหม” “โดนอะไร” “กระท่อมปลายไร่ ไปอยู่ในนั้นอีกครั้งไหม”
อ้นนั่งๆนอนอยู่บ้านเฉยๆจึงเกิดความเบื่อหน่าย และเป็นช่วงเวลาใกล้เที่ยงเขาจึงตักข้าวใส่ปิ่นโต พร้อมกับข้าวสามขนมหนึ่ง หลังจากนั้นอ้นจึงเดินออกไปไร่ข้าวโพดเพื่อไปหาเอแฟนหนุ่ม อ้นพอจำทางได้บ้างเมื่อครั้งโดนเอจับมาไว้ที่บ้านปลายไร่ เขาเดินไปเรื่อยๆจนเห็นไร่ข้าวโพด อ้นมองเห็นร่างผู้ชายสองคนอยู่ใต้ต้นไม่ใหญ่ท้ายไร่ อ้นจึงเดินต่อไปเพราะเขาจำร่างของเอได้ ยิ่งอ้นเดินเข้าไปใกล้ๆ เขาค่อนข้างแน่ใจว่าเป็นเอ แต่ผู้ชายอีกคนอ้นคิดว่าไม่รู้จักแน่ๆ แต่อ้นคิดว่าน่าจะเป็นเพื่อนของเอ อ้นจึงไม่ได้ใส่ใจหรือสนใจอะไรไปมากกว่านี้ เขาจึงรีบเดินไปให้ถึงต้นไม้ใหญ่ไวๆ เพราะแดดค่อนข้างร้อนพอสมควร ถึงเขาจะใส่หมวกมาก็ตามที ซึ่งไม่ได้ช่วยอะไรได้มากนัก เมื่ออ้นเดินไปถึง สิ่งที่เขาเห็น เอกำลังนั่งกินข้าวหัวเราะต่อกระซิบกับชายหนุ่ม ซึ่งเขาไม่ได้สนใจอะไรนึกแค่ว่าเพื่อน “คุยอะไรกันสนุกเชียว”อ้นยืนอยู่ข้างหลังเอ “อ้าวมาได้ไง”เอมีสีหน้าตกใจเล็กน้อย “ใครเหรอ”ชายหนุ่มเสียงนุ่มนิ่มเอ่ยขึ้น “อ้นเพื่อนกูเอง”เอหันมามองชายหนุ่ม “นี่นินเพื่อนกูสมัยเรียนอนุบาล”เ
อ้นตื่นนอนมาเขาก็ไม่เห็นเอนอนอยู่บนเตียง เขาจึงเข้าไปอาบน้ำและแต่งตัวลงมาด้านล่าง เพียงแค่ลงมาเขาก็เห็นอาหารวางไว้เต็มโต๊ะ อ้นเดินเข้าไปดูซึ่งเป็นอาหารดีๆทั้งนั้น เขายืนยิ้มในความเอาใจใส่ของเอ “น่ากินทั้งนั้นเลย”อ้นตักข้าวใส่จานและนั่งลง อ้นค่อยๆกินข้าวอย่างช้าๆพร้อมกับคิดถึงเอตอนทำกับข้าว เขาถึงกับหัวเราะเบาๆจากหนุ่มห่ามกลายมาเป็นพ่อบ้านพ่อเรือน อ้นกินข้าวจนอิ่มถึงสองจานเพราะรสมือของเอนั้นเลิศรสยิ่งนัก เมื่ออ้นกินข้าวอิ่มเขาจึงเดินออกไปนอกบ้าน มองไปรอบๆซึ่งมีแต่ไร้ข้าวโพด เขายังจำวันที่เอลากไปช่วยหักข้าวโพดได้ อ้นถึงกับยิ้มออกมา “ยิ้มอะไรครับ”เพื่อนของเอที่เคยไปช่วยอ้นในป่า เดินเข้ามาใกล้ๆอ้น “คิดอะไรเรื่อยเปื่อยเลยยิ้ม มาหาเอเหรอ สงสัยไปที่ไร่น่ะ” “ใช่ครับมาหาเอ ผมนิกจำผมได้ไหม”นิกยิ้มจนเห็นไรฟัน “ทำไมจะจำไม่ได้คนที่เคยใช้อ้นไว้ไงที่กลางป่า” “ดีจังที่จำผมได้ ผมก็นึกว่าอ้นลืมผมซะแล้ว” “จะลืมผู้มีพระคุณได้ไง”อ้นยิ้มหวานให้นิกเพื่อนของเอ “แล้วมาหาเอมีธุระอะไรหรือเปล่า”
ช่วงเวลาแห่งความสุขบนดอยอินทนนท์ผ่านเป็นอย่างรวดเร็ว เอได้พาอ้นมาที่บ้านไร่ที่เขาอาศัยอยู่ ในนาทีนี้ที่เขาอยู่กันเพียงสองคนในห้องไม่ใหญ่มาก แต่เต็มไปด้วยความรักที่ยิ่งใหญ่ อ้นนั้นแสนดีใจหาใดเปรียบ การตัดสินใจในครั้งนี้ของอ้นก็เหมือนกับเสี่ยงดวงเหมือนกัน เพราะเขาก็ยังไม่แน่ใจว่าเอจะดีอย่างปากพูดไว้หรือเปล่า ในห้องนอนวันแรกที่มาอยู่บ้านไร่ของเอ อ้นนอนเล่นโทรศัพท์มือถือคุยกับเพื่อนรักอย่างจีจี้ เมื่อเอเดินออกมาจากห้องน้ำ เขารู้สึกไม่พอใจอ้นเล็กน้อย เพราะไม่ยอมสนใจเขาอย่างที่ควร เอจึงขึ้นไปบนเตียงและนอนข้างๆอ้น มีท่าทีที่กระฟัดกระเฟียด “ผัวนอนอยู่ทั้งคนยังคุยกับคนอื่นอีก” “ไม่ใช่คนอื่นเพื่อนเราเองจีจี้ไง นายจำไม่ได้เหรอ”อ้นเลิกกดส่งไลน์จีจี้ทันที “จำได้ แต่มันใช่เวลาไหมที่จะคุยกัน ตอนนี้เราต้องทำอะไรบางอย่าง” “ทำอะไรล่ะ” “ก็อย่างนี้ไง” เอพลิกร่างตะแครงก้มลงจูบที่ริมฝีปากของอ้น เขาใช้ปลายลิ้นซอนไซร้เข้าไปภายใน ส่วนอ้นก็สมยอมแต่โดยดีโอบกอดผิวเรือนกาย ไร้อาภรณ์ของเออย่างเร่าร้อน เอถอนริมฝีปากออกมาไซร้ซอกคอทุกมุม ตอห
จ๊อบออกจากห้องของอ้นไปได้ไม่นาน เสียงเคาะประตูรัวๆก็ดังขี้นไม่หยุด ด้วยความรำคาญอ้นจึงเปิดออกดูว่าเป็นใคร เพียงแง้มประตูเท่านั้นแหละ เอก็ผลักประตูเข้ามาทันทีและเดินนำหน้าอ้นไปนั่งที่โซฟา อ้นถึงกับยืนงงด้วยพฤติกรรมของเอ “มานั่งใกล้ๆนี่ มีเรื่องจะคุยด้วย” อ้นเดินอย่างช้าๆและนั่งลงข้างๆเอที่มีสีหน้าดูเคร่งเครียดพอสมควร ก่อนที่เอจะพูดอะไรออกมาเขาได้กัดริมฝีปากตัวเองเบาๆ “กูมีเรื่องจะคุยกับมึง” “มีอะไร” “ตอนนี้กูไม่มีพันธะ ไอ้เจนมันไปทำงานที่ภาคใต้แล้ว” “รู้แล้ว” “รู้แล้วก็ดีมึงจะได้สบายใจ” “เจนจะไปไหนอยู่ไหนมันก็ไม่เกี่ยวกับเรานี่” “เกี่ยวซิ ถ้าไอ้เจนมันยังพัวพันกับกู ถึงกูจะไม่ได้รักมัน แต่มึงก็จะคาใจกูอยู่” “เราจะคาใจนายทำไม ในเมื่อเราไมได้เป็นอะไรกันนี่” “มึงก็รู้ดีแกใจ มึงกับกูมีอะไรกันตั้งสองครั้ง ในป่าครั้งหนึ่ง ที่บ้านกูอีกครั้งหนึ่ง” “จะพูดทำไม เรื่องมันผ่านมาแล้ว”อ้นรู้สึกกระดากใจพอสมควรที่ได้ยินคำพูดนี้จากปากของเอ “ยังไม่รวมต
อ้นนั่งครุ่นคิดเรื่องราวที่ผ่านมาตั้งแต่อดีตยันปัจจุบันบนเตียงนอน โดยเฉพาะช่วงเวลาในปัจจุบันที่เขาแสนจะกลัดกลุ้มขุ่นใจกับสองหนุ่มที่ตามตื้อไม่ห่าง จนอ้นตัดสินใจที่จะหนีจากสองคนนี้อีกครั้ง แต่อีกใจหนึ่งเขาก็รู้สึกดีตอนที่สองหนุ่มมารุมล้อม ความรู้สึกนี้พึ่งได้รับตอนนี้ที่อ้นได้นั่งทบทวนสิ่งต่างๆ แต่ปัญหาคือมีมาทีเดียวสองคน ซึ่งอ้นยังไม่รู้ใจตนเองว่าชอบใคร คนหนึ่งรักแรกคนสองรักใหม่ ต่างมีข้อดีข้อเสียและทำให้อ้นเจ็บซ้ำน้ำใจไม่น้อยไปกว่ากัน “ในระหว่างที่อ้นกำลังนั่งคิดถึงสองหนุ่มที่ตามติดไม่ห่างอยู่นั้น เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น อ้นจึงรีบรับทันที เพราะเป็นเพื่อนสาวที่สนิทตั้งแต่สมัยเรียน “ฮัลโหล” “ยังไม่นอนอีกเหรอ”จีจี้ถาม “ยังกำลังคิดอะไรเพลินๆอยู่” “คิดเรื่องอะไร” “ก็เรื่องบอสกับเอที่ตามมาถึงเชียงใหม่” “อ่ะ เราไม่ได้บอกนะ”ความจริงจีจี้รู้อยู่แล้ว เพราะเอและจ๊อบโทรมาหาเธอ ต่างฝ่ายต่างให้จีจี้เชียร์ “แล้วเธอได้บอกซันกับซีไหม” “โอ๊ยสองคนนั่นเดี๋ยวนี้ไม่เห็นหัวติดผู้ชาย ตามตั้มและตู