เมื่ออ้นได้ยินเสียงเคาะประตูเขารีบเดินออกมาเปิดประตูห้องทันที เพียงได้เห็นหน้าของเอเขายิ้มอย่างอ่อนละมุนให้เอ แต่เขากลับได้รีบความนิ่งเฉยที่ใบหน้าของเอ
“เป็นอะไรเหรอ”อ้นถามด้วยความแปลกใจอย่างมาก เพราะสีหน้าและท่าทางนั้นได้แตกต่างจากเมื่อตอนหัวค่ำอย่างมาก
“กูมาเก็บเสื้อผ้าจะกลับบ้านแล้ว”เอพูดด้วยเสียงราบเรียบ
“ทำไมรีบกลับไหนบอกว่าจะอยู่อีกหลายวันล่ะ”
“ก็มึงนั่นแหละที่ทำตัวเอง”
“ทำอะไร”อ้นมีสีหน้าที่สงสัย
“มึงเอารูปที่กูถ่ายคู่กับมึงลงในโซเซียลทำไม”เอมีสีหน้าที่บึ้งตึ่ง
“ก็คือเรา”อ้นอ่ำอึ้ง
“มึงต้องพูดอะไร เรื่องราวระหว่างมันจบแล้ว”เอเดินไปเกี่ยวเสื้อผ้าใส่กระเป่าของเขา
“เอ เราขอโทษเดี๋ยวเราลบรูปก็ได้”
“มันสายเกินไป เราคงไปกันไม่ได้หรอก อีกอย่างถึงเราจะไม่จากกันวันนี้ ต่อไปเราก็ต้องจากกันอยู่ดี สู้เราจากกันตั้งแต่ตอนนี้ไม่ดีกว่าอีกเหรอ”
“เรารักนายนะ”อ้นพูดขึ้นมาจากใจจริง
“แต่เราไม่ได้รักนายนี่”
“แล้วที่นายทำดีกับเราล่ะ”
“เราขอบใจนายมากนะที่นายดีกับเรา ช่วยเหลือเราทุกอย่าง แต่เราคงไม่มีเงินใช้หนี้นายหรอก แต่เราก็ให้ตัวนายแล้วไง”
“เอนายคิดอย่างนั้นจริงๆเหรอ ทำไมนายใจร้ายกับเรามากเลย”อ้นน้ำตาร่วงทันที
“อย่าพูดอะไรเยอะเลย เราไปแล้วนะ”เอเดินไปที่ประตูกำลังจะก้าวออกไป แต่อ้นวิ่งเข้ามากอดที่ร่างของเอไว้ในทันที
“ปล่อยเราไปตามทางของเราเถอะ เราก็ไม่ใช่คนดีอะไรนี่ นายก็น่าจะรู้ดีอย่ามารักคนอย่างเราเลย”เอแกะมืออ้นออกจากเอวของเขา
เมื่อเอแกะมืออ้นออกจากเอวแล้วเขาก็รีบเดินลงไปข้างล่างทันที เพื่อลงไปหาเจนที่นั่งรออยู่ข้างล่าง
“เอ นายอย่าไปนะ”อ้นรีบลงตามไป
เอเดินอย่างเร่งรีบจนไปถึงที่รถของมอเตอร์ไซค์ของเจนจอดรออยู่ เจนก็รู้งานรีบสตาร์ทเครื่องรอทันที เมื่อเอมาถึงจึงรีบขึ้นรถในทันใด ส่วนอ้นรีบวิ่งมาแต่ไม่ทันแล้วเพราะเจนได้ขับพาอ้นออกจากหอของเขาไปไกลพอสมควร
อ้นเดินกลับห้องอย่างคอตก และใจที่ปวดร้าวสุดจะทานทน เขาพยายามปาดน้ำตาทิ้งแต่ก็ยังไหลไม่หยุด เมื่ออ้นมาถึงในห้องของเขา อ้นจึงรีบโทรหาจีจี้เพื่อนสาวของเขาในทันที
“ฮัลโหลว่าไง”
“จีจี้ เอเขาทิ้งเราไปแล้ว”
“อ้าวก็ยังเห็นดีดีกันอยู่นี่”จีจี้มีสีหน้าที่ตกใจ
“เอ โกรธเราเรื่องที่ลงรูปที่กับเขาในโซเซียลน่ะ”
“นั่นก็เหตุผลหนึ่งที่ทำให้เขามีเหตุผลรองรับ เพราะแท้ที่จริงแล้วเขาก็คงอยากจะเลิกกันอ้นนั่นแหละ”
“พูดอะไรไม่เข้าใจเลย”
“แหมทีเรื่องฉลาดแต่พอเรื่องนี้ช่างไร้เดียงสา”
“ก็เอไม่ได้ชอบอ้นหรอก เขาแค่มาหลอกให้อ้นเลี้ยงดูเขาแค่นั้นแหละ พอหมดประโยชน์ก็จากไป ส่วนรุปถ่ายก็แค่ส่วนประกอบให้มีเหตุผลในการจากไหแค่นั้นเอง”
“ไม่จริง”
“จะโง่ไปถึงไหน ฉันไม่ปลอบเธอหรอกนะ ฉันจะตอกย้ำให้เธอหลาบจำ”
“จีจี้เธอต้องปลอบใจเราซิ”
“ถึงเวลาที่เธอต้องเข้มแข็งแล้วนะอ้น หลังจากนี้ลืมเขาซะตั้งหน้าตั้งตาเรียนต่อจนจบปริญญา หลังจากนั้นหางานทำเดี๋ยวผู้ชายก็เข้ามาหาเองนั่นแหละ รับรองมีให้เลือกมากมายก่ายกอง”
“จีจี้”
“เรียกทำไมเตือนแล้วไม่ฟังก็ต้องรับผลของมันนี่แหละ”
“ก็ได้พรุ่งนี้เราจะกลับบ้าน”
“ดีมากแล้วค่อยเจอที่มหาวิทยาลัยนะ”
“ฮือ”
อ้นกดวางมือถือแล้วล้มตัวลงนอนอย่างใจสลาย ค่ำคืนที่เขาได้วาดฝันได้พังทลายจนหมดสิ้น ไม่มีเหลือแม้แต่ความหวังนิดหน่อยให้ชโลมใจ เพราะเอได้ไปแบบขาดเยื่อใยไร้ให้สานสัมพันธ์ต่อในอนาคต
เมื่อเจนพาเอมาถึงที่ห้องเช่าของเขา ซึ่งใหญ่กว่าอ้นมากนักเพราะบ้านของเจนค่อนข้างมีฐานะพอสมควร
“ห้องนายใหญ่มากเลยนะ”เอนั่งลงบนเก้าอี้ข้างๆเตียงนอน
“ไม่ใหญ่หรอก ว่าแต่นายพรุ่งนี้กลับบ้านแน่ใช่ไหม”
“แน่ กลับไปบ้านสักพักหลังจากนั้นก็ไปหางานทำ นายคงไปเรียนใช่ไหม”
“ใช่พ่อเราหาที่เรียนไว้ให้แล้วแหละ”
“ที่ไหนล่ะ”
“กรุงเทพ”
พอเอได้ยินว่าไปเรียนกรุงเทพเขาก็คิดถึงอ้นในทันที เพราะหลังจากนี้อ้นก็จะไปเรียนที่กรุงเทพเหมือนกัน แต่เขาก็สลัดความคิดนั้นทิ้งไป เพราะเอไม่อยากจะคิดอะไรเกี่ยวกับอ้นอีกไม่อยากให้ความคิดนั้นมากวนจิตใจของเขาที่กำลังห่อเหี่ยว ที่อ้นได้เผยแพร่รูปภาพของเขาให้สาธารณชนได้เห็นกันหมดเมื่อชั่วเวลาที่ผ่านมา
“นายเป็นอะไรนิ่งไปเลย หรือว่าคิดถึงน้องอ้น ถ้าคิดถึงกูไปส่งมึงได้นะ”เจนปากกับใจไม่ตรงกัน เพราะเขาอยากหยุดเวลาค่ำคืนนี้ไว้ให้นานที่สุด เท่าที่จะนานได้ไม่ว่าจะทำด้วยวิธีใดก็ตามที
“ปากมึงยังเหมือนเดิมนะ เลิกพูดเรื่องคนอื่นได้แล้ว จะพูดดีดีกับกูไม่ได้เลยเหรอวะ”
“กูขอโทษ ก็ได้กูจะไม่พูดถึงน้องอ้นของมึงแล้วก เพราะถ้าพูดถึงน้องอ้นของมึงเดี๋ยวมึงจะไม่สบายใจ กูจะไม่พูดถึงน้องอ้นอีก น้องอ้นก็เหลือเกินทำอะไรไม่รู้จักคิด ทำให้เอได้ไม่สบอารมณ์ ใช้ไม่ได้จริงๆน้องอ้นคนนี้นี่”
“ไอ้เจนมึงหยุดซะทีได้ไหม ไอ้นี่มึงจะเอาอย่างไงกับกูวะ บอกมาเลยอย่ามาพูดจาประชดประชันแดกดันกูอยู่ได้”
“กูล้อเล่น กูรักมึงเลยหยอกหน่อยนะ เพื่อที่มึงจะได้ไม่คิดอะไรมาก”
“มึงเล่นแบบนี้กูไม่ชอบเลย พอเหอะกูจะนอนมึนๆอยู่เหมือนกัน มึงก็เหมือนกันนอนได้แล้ว ปากจะได้หุบซะทีมีปากก็สักแต่พูดไม่รู้จักไว้ทำอย่างอื่นบ้าง”
“เอ่อก็ได้นอนก็นอน”
ด้วยที่เอนั้นง่วงนอนอย่างมากเขาเลยหลับสนิททันที เมื่อเอได้ล้มตัวลงนอนบนที่นอนของเจน ซึ่งห้องของเจนนั้นเย็นสบาย เพราะมีแอร์ที่เจนเปิดทิ้งไว้ให้อ้นจะได้หลับสบาย ซึ่งเจนก็เช่นเดียวกันด้วยความเมาจึงทำให้เขาหลับลงไปอย่างง่ายดาย
ยามเช้าตรู่เจนได้ตื่นก่อนเอ เมื่อเขาลืมตาขึ้นก็หันร่างตะแครงไปที่เอที่กำลังหลับอย่างสบายใต้ผาห่มผืนใหญ่ ด้วยใจที่ชอบเอเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เจนจึงตัดสินใจกระทำบางอย่างที่ใจของเขาปราถนา เจนค่อยๆเปิดผ้าห่มออกจนถึงปลายเท้า และเขาได้เห็นส่วนกลางลำตัวของเอพองนูน เขาจึงอยากสัมผัสสิ่งนั้น ที่เขาเคยเฝ้าปรารถนามานานตั้งแต่เขาเรียนวันแรก
เอค่อยดึงกางเกงบ๊อกเซอร์ออกทีละน้อยจนเผยเห็นท่อนเอ็นของเอ ที่ชูชันผงาดชี้ฟ้าเจนเห็นแล้วอดใจไม่ไหวเขาจึงเผลอใจลิ้มรส เพียงชั่วอึดใจท่อนเอ็นของเอก็เข้าไปภายในปากพาเลินของเจน หลังจากนั้นเจนตวัดลิ้นรูดขึ้นรูดลง ในห้วงความรู้สึกตอนนี้เอได้รู้สึกตัว แต่เขาไม่ลืมตาเพราะในใจนั้นคิดว่าเป็นอ้น เขาจึงปล่อยกายปล่อยใจให้เพลิดเพลินซ่านสยืวกับรสสัมผัสของเจน
ด้วยเวลาไม่นานนักเอก็ใกล้ถึงจุดหมายปลายทางที่สุขสม เพียงชั่วอึดใจแค่นั้นเอก็พ่นน้ำในกายออกมาอย่างทะลัก จนเจนตั้งรับไม่ทันเขาจึงคายท่อนเอ็นออกในทันใด ในความรู้สึกของเอนั้นคิดว่าอ้นเปลื่ยนไป เพราะถ้าอ้นจะกลืนกินจนหมดไม่เหลือคราบ แต่เหตุไฉนในครั้งนี้ เอจึงลืมตาขึ้นและสิ่งที่เขาเห็นคือเจนกำลังเช็ดริมฝืปากที่เปื้อนคราบสวาท เมื่อเขาเห็นเช่นนั้นจึงลุกขึ้นถีบเจนจนตกเตียง
“ไอ้เจนมึงเป็นบ้าอะไรของมึงมาอมของกูทำไม”
“คือกู ลองดู มึงก็ไม่ขัดขืนนี่หว่าจะโทษกูฝ่ายเดียวก็ไม่ได้”
“มึงพูดมาได้อย่างไงก็มึงลักหลับกูนี่หว่า ถ้ากูรู้กูยันมึงตกเตียงก่อนหน้านี้แล้ว”
“ทีน้องอ้นมึงยังให้อมได้เลยนี่หว่าไอ้เอ”
“กูไม่ได้ให้อมเลย”เสียงของเอแผ่วลง
“อมอะไรมาพูดก็ไม่เชื่อ”
“แต่มึงก็ไม่มีสิทธิ์มีลักหลับกู”
“กูขอโทษก็แล้วกัน มึงก็ไม่เสียหายอะไรนี่หว่า ก็สนุกกันทั้งสองฝ่ายนี่”เจนลุกขึ้นยืน
“มึงนี่มันเกินคนจริงๆ มันเป็นอะไรของมึงทำไมมาทำกับกูอย่างนี้”
“ก็กูอยากลองดูอย่างที่บอกเมื่อกี้นี้แหละ”
“มึงจะมาลองกับกูทำไมผู้ชายเหมือนกันหรือว่ามึงเป็นแบบไอ้อ้น”
“ไหนบอกว่าไม่มีอะไรกันนี่ แล้วไอ้อ้นเป็นแบบไหนล่ะ”
“ก็แบบมึงนั่นแหละ”เอรู้สึกเครียดกับเจนที่มาลักหลับเขา
“เอ่อน่า ฟิวเพื่อนกันมันก็สนุกดี ทำให้นายคลายความอัดอั้นด้วยนี่ไม่ใช่เหรอ”เจนนั่งลงบนเตียงนอน
เอนั่งคิดหนักกับพฤติกรรมของเจน เขาก็โกรธเจนมากแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะเป็นห้องนอนของเจน และเอก็ไม่ชอบพฤติกรรมแบบนี้ที่เอทำกับเขา กับอ้นเขาไม่ได้รู้สึกอะไรแบบนี้ถึงจะไม่ชอบอ้น แต่เขาก็ชอบความสัมพันธ์ทางกายที่มีอะไรกัน แต่กับเจนเขาไม่สามารถที่จะยอมรับมันได้ในทันทีทันใด
“ก็ได้ ครั้งนี้กูให้อภัยมึงแต่อย่าให้มีอีกนะโว้ย เพราะกูอยากรักษาความเป็นเพื่อนไว้ให้เหมือนเดิม”
“มึงก็อย่าคิดมากซิวะเรื่องแค่นี้เอง ทำตัวเหมือนไม่มีอไรเกิดขึ้นแค่นี้ก็จบ”
“มึงไม่ใช่คนเสียหายก็พูดได้น่ะซิ”
“เอาน่าอย่าไปซีเรียล ว่าแต่ทำไมมึงเสร็จเร็วจังวะ”เจนอมยิ้ม
“ไอ้เจน มึงอยากโดนถีบอีกครั้งเหรอวะ ไอ้นี่พูดไม่รู้จักจบจักสิ้น”
“ก็อยากจบนั่นแหละ แต่มันยังไม่จบนะซิ”เจนอมยิ้ม
“มึงต้องการอะไรพูดมาตรงๆเลย อย่ามาอ้อมค้อมให้กูรำคาญ”
“มึงไม่อยากต่อให้จบเหรอวะ”
“มึงไม่ต้องมาพูดเลยแค่นี้แหละถือว่าค่าห้องหนึ่งคืนก็แล้วกัน”
“ก็ได้”เจนรู้สึกผิดหวังนิดหน่อย
เอนั้นนั่งมองหน้าเจนอยู่พัก เขาก็ไม่เข้าใจในตัวเจนเหมือนกันทำไมถึงทำเช่นนี้ แต่เขาก็ไม่อยากถามอะไรให้
ในที่สุดก็ถึงห้วงเวลาที่เอจะต้องกลับบ้าน จิตใจตอนนี้ของเจนรู้สึกเสียดายอยากให้ยืดเวลาออกไปอีกนานเท่านาน แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ไปมากกว่านี้ เพราะในส่วนตัวของเขาเองก็ต้องกลับบ้านเช่นกัน จึงเป็นความห่วงหาอาลัยยามจาก เพราะก่อนหน้านี้ไมได้ญาติดีคุ้นเคยกันเท่าไรนัก พอเริ่มสนิทมีความสัมพันธ์เกินเพื่อนก็จำใจต้องจากลา “คิดแล้วเศร้าหนอต้องจากกันจริงแล้วเหรอเนี่ย”เจนพูดขึ้น “อะไรของมีงจะคร่ำครวญอะไรนักหนา ทำอย่างกูเป็นผัวมึงอย่างนั้น”เอมีสีหน้าที่ไม่เข้าใจในตัวเจน “ก็ใช่ไม่ใช่เหรอ”เจนยิ้ม “ไอ้เจนมึงพูดดีดีนะเว้ย เรื่องนี้ต้องความลับมีแค่เราสองคนเท่านั้นที่รู้” “เอ่อน่า กูไม่บอกใครหรอก มึงทำอย่างกับกูกล้าบอกคนอื่นอย่างนั้น กูไม่ใช่น้องอ้นของมึงที่ประกาศให้โลก” “หุบปากไปเลย เลิกเอ่ยชื่อนี้ได้แล้วกูไม่อยากได้ยิน” “ดีหนอได้เขาแล้วก็ทิ้งขวางไม่ใยดี” “ถ้ามึงไม่หยุดพูดกูกลับรถประจำทางก็ได้”เอเริ่มมีอารมณ์โกรธในความแซะของเจนที่ไม่หยุดหย่อน “เอ่อน่า พูดเล่นแค่นี้ก็ไม่ได้ทำเป็นขี้โมโหน้อยใจไปได้” “ไม่ต้องพูดมากเดี๋ยวกูลงไปรอข้างล่างร
ยามรุ่งอรุณวันใหม่เอได้มายืนอยู่หน้าบ้าน เพื่อส่งเจนที่กำลังจะกลับบ้านแต่เช้าตรู่ ซึ่งเจนก็ลีลาแกล้งอยากจะกลับใจจะขาด แต่ก็ยังไม่กลัวซักทีเพราะเขาอดคิดถึงเอไม่ได้ เพราะความรักของเขากำลังเริ่มก่อตัวขึ้นเรื่อยๆ จนแท่บจะหักห้ามใจไม่ได้ในช่วงเวลานี้ “มึงนี่ลีลาอยู่นั่นแหละ นั่งบนรถจนขาถ่างหมดแล้วมั้ง” “กูคิดถึงมึงไม่อยากไปเลยวะ” “ไอ้เจนมึงเป็นบ้าเป็นบออะไร ทีตอนเรียนมึงไม่เห็นหัวกูเลยนะ ที่ตอนนี้มาพูดนั่นพูดนี่อยู่ได้” “กูก็เอ่อ ไม่มีอะไรหรอก”เจนอยากจะพูดว่ากูรักมึงแต่ใจก็ไม่กล้า “ไปได้แล้วไอ้เจนมือถือก็มีเดี๋ยวค่อยคุยกัน” “มึงสัญญากับกูแล้วนะโว้ย” “เอ่อน่า” “ถ้างั้นกูไปแล้วนะ” “โชดดีเพื่อนรัก” “เช่นกัน” เจนตัดใจครั้งสุดท้ายโดนไม่หันมามองหน้าเอ เขาสตาร์ทรถและขับไปในทันที ส่วนเอก็ยืนมองด้วยสายตาที่ว่างตา เพราะเขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับเจน เอคิดกับเจนแค่เพื่อนเท่านั้น ไม่ได้มีอะไรเกินเลยไปกว่านี้ ในระหว่างที่เอกำลังจะกลับเข้าบ้าน ก็มีรถมอเตอร์ไซค์สองคันสี่คนมาจอดตรงหน้าเขา พอทั้งสี่เปิดหมวดกันน็อคออก เอแท่บซ็อคเ
วันนี้เป็นแรกที่บอสคนใหม่จะเข้ามาทำงานในบริษัทบีเอ็มรีไซเคิล ซึ่งเป็นลูกชายคนเดียวของผู้ก่อตั้งบริษัท ที่ได้วางมือ เพราะสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง เลยให้ลูกชายมาสานต่อธุรกิจ ทางพนักงานบริษัทเลยตื่นเต้นกันยกใหญ่ เพราะบอสคนใหม่อายุแค่สามสิบกว่าๆแถมโสด หล่อ รวย จึงทำให้พนักงานสาวๆในบริษัทแห่งนี้ดูตื่นเต้นกันยกใหญ่ ซึ่งรวมอ้นพนักงานธุรการมาใหม่ยังไม่ผ่านช่วงโปรด้วย “มาแล้วบอสคนใหม่”นฤมลรุ่นพี่สาวสายดี้ด๊าเป็นพิเศษ และตีที่หลังอ้นอยู่หลายครั้ง” “ก็หล่อดีนะ”อ้นพูดขึ้น “ไม่ใช่แค่หล่อดี แต่หล่อมากๆ แต่ก็คงได้แต่มอง ไปทำงานกันเถอะ”เมื่อนฤมลคิดได้ว่าโลกความจริง คงไม่มีทางเป็นไปได้ เธอจึงปลงกะทันหัน อ้นยืนมองร่วมกับเพื่อนพนักงานสาวๆที่ยืนอยู่ข้างๆและยิ้มให้บอสคนใหม่ ระหว่างเดินผ่าน ซึ่งบอสคนใหม่ก็ไม่ได้มีสีหน้าทิ่ยิ้มแย้มอะไร มีเพียงใบหน้าที่นิ่งเฉยจนเดินผ่านมาตรงที่อ้นยืนอยู่ เขาหันมามองแวบหนึ่ง แล้วหันกลับไป เพราะเขาสะดุดตา เนื่องด้วยมีอ้นคนเดียวที่เป็นผู้ชายที่ยืนล้อมวงด้วยผู้หญิงนับสิบ อ้นสบตาชั่ววินาทีแค่นั้น ใจของเขาก็เต้นระรัวไม่เป็นจังหวะ เพราะบอสคนใหม่หล่อมากในสายตาของอ้น แต
อ้นรีบมาทำงานแต่เช้าเพื่อเตรียมงาน ให้บอสของเขาที่บอกว่าตัวเองไม่เรื่องเยอะ แต่พฤติกรรมนั้นตรงข้ามกับคำพูดอย่างสิ้นเชิง เมื่ออ้นมาถึงออฟฟิคในโรงงานบีเอ็มรีไซเคิล เขารีบจัดแจงเรียงแฟ้มเอกสารเข้าชั้นอย่างเร่งรีบ และเปิดคอมพิวเตอร์ทิ้งไว้เพื่อให้บอสได้ทำงานได้ในทันที ตามคำบอกกล่าวของจิ๊บเลขาคนเก่า หลังจากที่อ้นทำงานเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาจึงออกมานั่งที่หน้าห้องรอการมาของบอส ซึ่งอ้นก็รอได้ไม่นานบอสคนใหม่ของเขาก็มาถึง เมื่อบอสเดินผ่านมาเขาก็หันมามองอ้นไม่กี่วิแล้วหันหน้ากลับเดินเข้าห้องไป ปล่อยให้อ้นไม่ทันได้ยิ้มแม้แต่นิด อ้นจึงไม่รอช้าเดินตามเข้าไปในห้องทันที “บอสดื่มกาแฟกี่ช้อนครับ”เมื่อวานอ้นลืมถามจิ๊บว่าบอสดื่มกาแฟกี่ช้อน เขาเลยไม่กล้าชงให้บอสได้ดื่ม “สามช้อนไม่ต้องใส่อะไรทั้งนั้น”จ๊อบบอสของอ้นยังมีสีหน้าที่นิ่งเฉย “ครับ” อ้นจึงรีบไปชงกาแฟตามที่จ๊อบต้องการ เพราะตอนนี้จ๊อบได้เปิดดูเอกสารการผลิตในคอมพิวเตอร์ เมื่ออ้นชงเสร็จจึงรีบนำมาให้บอสทันที ด้วยความประหม่าและเกร็งในความนิ่งของจ๊อบ อ้นถือถ้วยกาแฟที่สั่นจนเสียงดัง “แก็ก แก็ก แก็ก” เมื่อจ๊อบได้ยินเสียงถ้วยกาแฟสั่น
หลังจากเลิกงานอ้นนั้นได้เดินตามจ๊อบ ไปพบลูกค้าที่นัดไว้ ในระหว่างที่เดินไปที่รถของจ๊อบที่จอดรอหน้าโรงงาน อ้นได้เดินผ่านหน้าเอและตั้มกับตูน ซึ่งอ้นก็เห็นทั้งสามแต่อ้นแลเป็นไม่เห็น เพราะไม่อยากเห็นหน้าเอที่ทำให้เขาเจ็บซ้ำน้ำใจในอดีต เมื่ออ้นเดินผ่านทั้งสามหนุ่ม ในส่วนของตั้มและตูนก็มองตามหลังจากนั้นก็หันหน้ามามองกันเอง “ไอ้อ้นนี่มันร้ายนะ เดินตามบอสต้อยๆเลย”ตั้มพูดขึ้น “โอ้โห ไอ้อ้นขึ้นรถไปกับบอสเห็นไหมไอ้เอ”ตูนหันมามองหน้าเอแวบหนึ่งแล้วหันไปมองอ้น “มึงเสียดายไหมไอ้เอ ที่ทิ้งเขาไปแต่ตอนนี้เขากับได้ดีกว่ามึงอีก”ตั้มหัวเราะ “ไอ้ตั้มถ้าไม่หยุดพูดเจอกูต่อยแน่”ในความรู้สึกของเอตอนนี้ เหมือนมีอะไรมาทิ่มแทงหัวใจอย่างที่เขาไม่เคยเป็นมาก่อน “พูดแค่นี้ทำเป็นโมโหหรือว่าพูดแทงใจดำมึงวะ” “กูไม่ได้รู้สึกอะไรกับไอ้อ้น กูจะไปเสียดายมันทำไม” “แล้วมึงรู้สึกกับใครบ้างวะ”ตูนหันมาถามเอ “กูไม่รู้สึกกับใครทั้งนั้นแหละ”เอพูดเสียงเข้ม “เลิกพูดเรื่องไอ้อ้นดีกว่า เรามาคิดกันว่าเย็นนี้จะไปกินเบียร์ที่ไหนดีกว่าไหม”ตั้มเอ่ยขึ้น “จริงด้วยพูดแล้วเปรี้ยวปาก”ตูนถึงกับเลียริมฝีปากทีเดียว
ในวันหยุดสุดสัปดาห์อ้นก็ได้ย้ายมาที่ห้องพักในโรงงาน ซึ่งเป็นห้องที่ใหญ่กว่าพนักงานคนอื่น เพราะจ๊อบได้สั่งไว้ให้จัดหาอย่างโดยด่วน เมื่ออ้นจัดห้องเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาก็ได้ออกจากห้องเพื่อที่จะไปหาอาหารรับประทานในตอนเย็น เพราะวันนี้เขาจัดห้องมาทั้งวัน มีเพียงขนมกับนมเท่านั้นที่ถึงท้อง ทางที่จะออกจากโรงงานไปตลาด ต้องผ่านห้องพักคนงาน อ้นจึงเดินไปเรื่อยโดยไม่หันมันข้างทางหรือแม้แต่เหลียวมอง จนมาสะดุดกับคำทักทายที่ไม่เป็นมิตรสักเท่าไร “หยิ่งเนาะ ตั้งแต่เป็นเลขาบอส” อ้นหันไปมองทันที ที่เมื่อเขาได้ยินเสียงที่คุ้นหู และนั่นเองที่ทำให้อ้นต้องรีบหันหน้ากลับ พร้อมที่จะเดินหนี ด้วยไม่อยากจะคุยให้เสียเวลา “จะไปไหน”เอเดินตามจับแขนของอ้นไว้ให้หยุดเดิน “ปล่อยนะ อย่าทำตัวไม่มีมารยาทแถวนี้”อ้นเหล่ตามองตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า “จับไม่ได้เลยเหรอ ที่เมื่อก่อนนี้จับทั้งจับทั้งกอดทั้งเอา ไม่เห็นว่าสักคำ” “เมื่อก่อนก็ส่วนเมื่อก่อน แต่เดี๋ยวนี้มันไม่ใช่” “เอ่อใช่สิ เป็นเลขานี่ใหญ่โตเหลือเกิน” “ไม่ได้ใหญ่โตหรอก แค่ไม่อยากคุยกับนายคนไร้ค่า เราไม่ให้ราคาที่จะคุยด้วยหรอก อ๋อ ใช่สิ นายมีราค
อ้นได้ตามจ๊อบพบปะลูกค้าตั้งแต่เช้ายันเย็น ไม่ได้พักทั้งกายและใจเหนื่อยจนอยากจะพัก แต่ก็ฝืนทนสู้อุตส่าห์ทำงานจนเสร็จสิ้น หลังจากนั้นจ๊อบก็พาอ้นไปรับประทานข้าวที่ริมน้ำบรรยากาศสุดหรู จึงส่งผลให้อ้นนั้นคลายเหนื่อยกายและใจอย่างหมดสิ้น “เป็นไงบ้างชอบไหมบรรยากาศแบบนี้ โรแมนติกดีนะผมว่า” “ครับ เป็นครั้งแรกที่อ้นได้มาในบรรยากาศแบบนี้” “บรรยากาศใต้แสงเทียนริมน้ำ ถ้ามากับแฟนนี่คงจะโรแมนติกน่าดูเลย แต่น่าเสียดายเราสองคนต่างไม่มีแฟน ถ้ามีแฟนจะได้พามาทั้งคู่ ถึงเวลาที่เราสองคนต้องหาแฟนแล้วมั้ง” “อ้นยังเด็กอยู่ยังไม่อยากมีแฟนหรอกครับ” “แสดงว่าผมแก่ใช่ไหม แค่จะสามสิบเอง ห่างจากอ้นเจ็ดแปดปีแค่นั้น” “ยังไม่แก่เลยครับ หน้าตาบอสเหมือนยี่สิบต้นๆเอง” “พูดแบบนี้ต้องเพิ่มเงินเดือนให้แล้วมั้ง” “ได้ก็ดีครับ อ้นจะได้เก็บไว้ซื้อบ้าน” “ผมว่าอ้นซื้อคอนโดดีกว่า เพราะอยู่คนเดียวไม่ใช่เหรอ ถ้าเกิดผมเหงาๆจะได้ไปหาสะดวก” “อ่า”อ้นอ้าปากค้าง เพราะบอสของเขาเปลื่ยนไปอีกแล้ว ยังกับคนละคนเมื่อช่วงกลางวันที่ผ่านมา “พูดไม่ออกเลยเหรอ แสดงว่ายังอยากมีแฟนอยู่ใช่ไหม กลัวผมไปขัดจังหวะแน่เลย”
ช่วงเย็นที่เงียบเหงาสำหรับเอ เพราะตั้มและตูนได้หายไปจากชีวิตของเอมาหลายวัน เพราะช่วงเวลานี้ตั้มและตูนกำลังติดพันซันและซีเพื่อนของอ้น ส่วนเจนงานยุ่งจนต้องทำโอที จึงไม่มีเวลามาเอช่วงค่ำ เขาจึงนั่นดื่มเบียร์อยู่หน้าห้องอย่างเดียวดาย ช่วงแรกยังมีคนงานเดินผ่านมาผ่านไป พอเริ่มค่ำคนงานเริ่มเข้าห้องใครห้องมัน จึงเหลือเพียงแต่เอที่นั่งเหม่อมองท้องฟ้าที่มีแต่ดวงดาวลอยระยิบระยับ แต่ก็ไม่สามารถทำลายความเหงาในใจของเอได้ เอนั้นดื่มเบียร์ขวดต่อขวดจนเมา เขาแค่พยุงตัวได้ไปได้แค่ที่ประตู พอควักกุญแจออกมาไขประตูแค่นั้น เขาก็ทำล่วงล่นและอาเจียนเต็มหน้าห้อง หลังจากนั้นเขาก็นอนฟุบอยู่หน้าห้องอ้นกำลังจะเดินกลับเข้าห้อง หลังจากไปดูงานกับจ๊อบจนได้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกัน จ๊อบนั้นจะมาส่งอ้นแค่ที่หน้าโรงงานเท่านั้น ความจริงเขาอยากจะมาส่งอ้นในโรงงานด้วยซ้ำ แต่ด้วยความเป็นนายจ้างกับลูกจ้าง จึงต้องเว้นระยะห่างไว้กันคำครหา เพราะในปัจจุบันหลายคนต่างมองอ้นกับจ๊อบในแง่ไม่ดีอยู่พอสมควรเมื่ออ้นเดินมาถึงหน้าห้องของเอ เขาก็เห็นเอนอนนิ่งอยู่หน้าห้อง อ้นตกใจมากและเป็นห่วงจึงรีบเข้าไปดู ซึ่งสิ่งที่อ้นเห็นคือเศษอาหารเต็มตัว