อ้นและเอใช้ชีวิตอยู่บ้านไร่มาร่วมเดือน จนพ่อแม่ของเอเกิดความสงสัย เพราะพ่อแม่ของเอแค่นึกว่าอ้นมาเที่ยวหา แต่นี่อยู่ร่วมเดือนยังไม่กลับไป ทั้งสองจึงอยากเห็นหน้าและพูดคุย ด้วย พ่อแม่ของเอไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว เขาทั้งสองไปอยู่กับพี่สาวคนโตในจังหวัดอื่น และอีกอย่างที่ทั้งสองมาเพราะคิดถึงลูกชายคนเดียวของพวกเขา
เมื่ออำพลกับบังอรมาถึงเขาก็เห็นภาพอันบาดตา เป็นภาพที่เขาทั้งสองไม่คาดคิดว่าจะได้เห็น เพราะเป็นภาพที่เอนอนบนตักของอ้น และที่หนักไปกว่านั่นเขาจับมือของอ้นมาดมและหอมอตลอดเวลา
“ไอ้เอมึงทำอะไรของมึง”กำพลเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าไม่พอใจอย่างยิ่ง
“เอ หรือว่าลูกเป็น เอ่อ”บังอรใช้มือทาบอกด้วยความตกใจ
เอรีบกระดกตัวลุกขึ้นทันที เขามีสีหน้าที่ไม่สู้ดีทันที ส่วนอ้นยังไม่เท่าไรแค่แปลกใจ ทำไมพ่อแม่ของเอมาไม่บอกล่วงหน้าแค่นั้น
“พ่อแม่”เอลุกขึ้นยืนนิ่ง
“สวัสดีครับพ่อแม่”อ้นยกมือไหว้ทันที
“พวกเอ็งเป็นอะไรกันถึงมานอนหนุนตักหอมไม้หอมมือกัน อย่างกับเป็นคู่รักกันอย่างนั้นแหละ”
“คือว่า พ่อกับแม่ คือผม เอ่อ อา อือ อู คือว่า พ่อ แม่ คือผม อ่า”เอพูดไม่ออกไม่รู้จะบอกว่าอย่างไรดี
“มึงเป็นอะไรไอ้เออยากพูดอะไรพูดมา มัวแต่อ่ำอึ้งกูจะไปรู้ได้ไงว่ามึงอยากบอกอะไรกู”กำพลผู้เป็นพ่อเริ่มหงุดหงิดและโมโหเออย่างมาก
“หรือว่าลูกเป็นแฟนกับเด็กหนุ่มนี่”บังอรยืนนิ่งจนใจเต้นระรัว
“ครับพ่อแม่ อ้นเป็นแฟนผม”
อ้นรู้สึกดีใจที่เอเปิดเผยเรื่องราวของเขากับพ่อแม่ ซึ่งก็เหลือเพียงอ้นเท่านั้นที่ยังไม่ได้เปิดเผยกับพ่อแม่ของตัวเอง ซึ่งเขาคิดว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร เพราะพ่อแม่ของอ้นก็รู้อยู่แล้วว่าอ้นเป็นอย่างไร แต่กับเอพ่อแม่ของเขายังไม่รู้ว่าเอเป็นแบบไหน อย่าว่าแต่พอแม่ของเขาเองเลย ตัวเอเองก็พึ่งรู้ตัวได้ไม่นานนี้เอง
“ไอ้เอมึงพูดอะไรออกมา”กำพลอ้าปากค้าง
“ลูกแม่ โอ๊ย”
“พ่อกับแม่เป็นอะไรไป เดี๋ยวนี้ยุคไหนแล้ว พ่อแม่ต้องรับให้ได้ซิ”
“กูรับได้ แต่มันเร็วเกินไปหรือเปล่าว่ะ มึงอย่างเถื่อนห่าม ไล่ตีแทงฟันเขามาตั้งแต่วัยรุ่น จู่ๆมึงมาชอบผู้ชาย ใครจะไปทันตั้งตัวได้วะไอ้เอ”
“แม่ก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่ลูก แต่ทำไมไม่บอกแม่ ปล่อยให้แม่เป็นคนโง่”
“กะว่าอีกสักพักก็จะบอกพ่อกับแม่ล่ะครับ แต่ช่วงนี้ไม่มีเวลาเลย”
“เวลาอะไรของมึงว่ะ กูเห็นมึงนอนอยู่ด้วยกันเมื่อกี้นี่เอง”
“อันนี้เป็นเวลาส่วนตัว ผมหมายถึงเวลาว่างระยะยาวกะจะไปหาพ่อกับแม่ แต่ก็ดีแล้วที่พ่อกับแม่มาหาผมถึงบ้าน”เอยิ้มอย่างเอาใจ
“เอ็งเป็นคนที่ไหน”กำพลหันหน้ามาถามอ้น
“อ้นเขาเป็นต่างจังหวัด ทำงานอยู่ที่กรุงเทพ ตอนนี้อ้นจะมาอยู่กับผมมาเป็นเมีย”
“ไอ้เอ มึงพูดอะไรเกรงใจกูบ้าง เมื่อก่อนกูก็กลัวมึงจะไปทำผู้หญิงท้อง ที่ผ่านมากูคิดผิดหมดเลยเหรอเนี่ย”
“ธรรมดาพ่อ ของอย่างนี้กว่าจะรู้ใจตัวเองต้องอาศัยระยะเวลา”
“หนูกะว่าจะอยู่ที่นี่ตลอดหรือว่าจะไปๆกลับๆล่ะ”บังอรผู้เป็นแม่หันมายิ้มนิดๆกับลูกสะใภ้
“อ้นเขาเป็นเมียผมแล้ว ก็ต้องอยู่นี่แหละ ผมไม่ให้ไปไหนหรอก ถ้าหนีไปอีกผมจะล่ามโซ่ไว้”
“ไอ้เอ กูจะเป็นลม”กำพลถึงกับนั่งกุมขมับ หลังจากลูกชายเปลื่ยนไป
“ไปพาลูกเขามาพ่อแม่เขารู้หรือยัง”บังอรเอ่ยขึ้น
“ยัง กะว่าจะให้พ่อแม่ไปสู่ขอ แต่ยังไม่มีสินสอดพ่อแม่พอมีเงินบ้างไหม ขอยืมสักสองแสน”
“ไอ้เอ กูจะไปเอาเงินจากที่ไหนมาให้มึง ถ้าอยากแต่งก็ต้องหาเงินแต่เองซิว่ะ”
“พ่อ ผมพูดเล่น ไม่ตงไม่แต่งหรอก พาหนีมาอยู่นี่แล้วชาวบ้านชาวช่องเขารู้กันไปทั่ว ก็เหมือนกับแต่งเมียไปแล้วไม่ต้องกลัวหรอกพ่อกับแม่”
“แม่ หมายถึงพ่อแม่ของเขา”
“ไม่ต้องห่วงหรอก พ่อแม่ของอ้นเขารู้ว่าอ้นเป็นอะไรตั้งแต่เด็ก”
“อ้น ลูกคิดดีแล้วเหรอที่จะมาอยู่กับไอ้เอมันน่ะ”บังอรหันหน้ามามองอ้นอย่างอ่อนโยน
“อ้นเขาคิดดีแล้วครับแม่ ถ้ายังไม่คิดดีคงไม่มาอยู่กับผมหรอก”
“มึงรู้ได้ไงว่าเขายินดีกับมึง ดูสีหน้าแล้วมึงน่าจะไปฉุดเขามามากกว่ามั้ง”
“พ่อรู้ได้ไง ผมฉุดมาจากกรุงเทพ แล้วอ้นหนีผมไปเชียงใหม่ ผมไปตามลงมาเนี่ยกว่าจะได้มาเหนื่อยมาก”
“ไอ้เอ ให้แฟนเอ็งพูดบ้างไม่ใช่พูดแทนซะหมดเลย”กำพลมองเอตาขวาง
“ผัวเมียกันก็เหมือนคนเดียวกันนั่นแหละพ่อ ใครพูดก็เหมือนกันไม่ต้องให้อ้นพูดหรอก อ้นเขาพูดไม่เก่งเท่าผม”
“ตอนแรกกูก็นึกว่าแฟนมึงเป็นใบ้เสียอีกไอ้นี่มันทำอะไรแต่ละอย่าง”
“เอาน่าพ่อกับแม่ไม่ต้องกังวัลหรอก ผมจะใช้ชีวิตอยู่กับอ้นที่นี่ไปจนตาย”
“เอ่อ เอาที่เอ็งสบายใจ แต่มึงอย่าพูดอะไร กูกับแม่มึงจะพูดกับไอ้หนูนิซะหน่อย”
“ครับพ่อ”เอหอมแก้มอ้นทันทีหนึ่งฟอด
“ไอ้นี่ มึงทำอะไรเกรงใจกูบ้างซิว่ะ”
“เกรงใจทำไมคนรักกันทำอะไรกันก็ไม่ผิดหรอกครับ”
“เอ่อ หุบปากได้แล้วไอ้เอ”กำพลอดโมโหไม่ได้
“หนู คิดอย่างไงมาอยู่กับไอ้เอมัน ถ้ามันบังคับเองบอกแม่ได้นะ เดี๋ยวแม่จะจัดการมันให้”
“แม่ยอมรับอ้นเป็นลูกสะใภ้แล้วเหรอครับ”
“ลูกรักใครแม่ก็รักคนนั้นด้วย แต่ว่ามึงไม่ต้องพูด แม่จะพูดกับแฟนเองเงียบไปซะ”
“ก็ได้ ยังไม่ทันไรเห็นลูกสะใก้ดีกว่าลูกตัวเองซะแล้ว”
“กูบอกให้มึงหุบปากไอ้เอ”
“ก็ได้ครับ”
“บอกแม่มาซิทำไมมาอยู่กับไอ้เอผีบ้าเนี่ยได้”
“ไม่มีอะไรหรอกครับ แค่เอหลอกอ้น”
“หลอกอะไร”กำพลกับบังอรเสียงดังพร้อมกัน
“หลอกให้อ้นหลงรัก อ้นเลยจำเป็นต้องตามมาอยู่กับเอครับ”
“มึงสองคนนี่พอกันเลยนะ คำพูดคำจาเนี่ย”กำพลเกาหัวด้วยความหงุดหงิดอย่างมาก
“พ่อจะกลับหรือยังเดี๋ยวผมจะไปส่ง”เอพูดขี้น
“ยัง กูจะนอนที่นี่หนึ่งคืน”
“อ้าว”
“ไม่ต้องอ้าว”กำพลเสียงดังอีกตามเคย
กำพลกับบังอรได้อยู่พักที่บ้านของเอหนึ่งคืนก่อนที่จะกลับไปบ้านพี่สาวของเอ ถึงแม้ทั้งสองไม่อยากให้เอชอบผู้ชายแต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากทำใจยอมรับความจริงที่เกิดขึ้น และพร้อมที่จะอยู่เคียงทั้งสองคน
หลังจากพ่อแม่ของเอมารับรู้ความจริงแล้ว ก็ถึงเวลาที่อ้นจะต้องพาเอไปพบพ่อแม่ของเขา ซึ่งเอไม่ได้กังวัลเรื่องพ่อแม่ของเขาเลย เพียงแต่สิ่งที่กังวลคือนิสัยของเอ ที่ตรงมาตรงไปเพี้ยนๆเป็นบางครั้ง
“เมื่อถึงบ้านเราแล้วทำตัวเรียบร้อยหน่อยนะ อย่าทะลึ่งพูดจาไม่ดูกาลเทศะ”
“พูดเป็นครั้งที่แสนแปดแล้ว คนนะพูดครั้งเดียวก็เข้าใจ จะทำตัวเงียบๆทำตัวเรียบร้อยไม่พูดมากอย่างแน่นอน”
“ให้มันจริงอย่างที่นายพูดเหอะ นี่ก็ถึงแล้วเตรียมตัวนะ”
เอกับอ้นเดินลงจากรถเข้าไปในบ้าน ซึ่งมี่พ่อแม่ของอ้นนั่งรออยู่ เพราะอ้นบอกล่วงหน้าไปแล้วว่าจะมาหา เมื่ออ้นและเอข้าไปถึงในบ้าน เขาก็เห็นพ่อแม่ของอ้นนั่งยิ้มให้ทั้งสอง
“สวัสดีครับพ่อแม่”อ้นยกมือไหว้พงศกรกับนันทิดา
“หวัดดีครับพ่อแม่ผมเป็นแฟนอ้นครับ”เอยิ้มให้ทั้งสอง
“อะไรนะ พูดใหม่อีกทีซิ”พงศกรอึ้งกับคำพูดของเอ
“พ่อตาครับ ผมเป็นแฟนอ้น”
“ไอ้นี่กูไม่ใช่เพื่อนเล่นมึงนะ ไอ้อ้นมึงไปพาผีบ้าที่ไหนมา”
“ไม่ใช่ผีบ้าหรอกพ่อ แฟนอ้นเองครับ”
“ผัวมึงเหรอ”นันทิดาตกใจชั่วครู่ หลังจากนั้นมองเอแล้วอมยิ้ม
“ทำไมมึงไม่หาดีๆหน่อย แล้วไอ้บอสนั่นไม่ใช่แฟนมึงเหรอ”พงศกรหายใจถี่ขึ้นด้วยความโกรธ
“ไอ้นั้นผัวเก่า แต่นี่ผัวใหม่ อ้นเขาเลือกผมแล้วครับพ่อ ไอ้บอสนั่นเป็นอดีตไปแล้ว ถึงมันจะรวยแต่ไม่มีเวลาดูแลอ้น ถึงผมจนกว่า แต่ผมมีเวลาดูแลอ้น พ่อรู้ไหม อ้นไม่ต้องทำกับข้าวถูบ้านซักผ้าอะไรซักอย่างผมทำให้หมด ทั้งงานบ้านงานนอก อ้นแค่นอนเฉยๆเอง”
“พอแล้วจะสารธยายอะไรถึงขนาดนั้น”
“ไม่ได้เดี๋ยวพ่อตาไม่ชอบ”
“ใช่แล้วกูไม่ชอบมึง”
พงศกรหัวใจเต้นแรงด้วยความโมโห และขัดใจในความพูดมาก ไม่รู้จักกาละเทศะพูดไปเรื่อยจนเขาสุดจะทน
พงศกรมองหน้าเอด้วยความไม่พอใจยิ่งนัก เพราะเอดูไม่เรียบร้อยห่ามเถื่อนจนเกินไป เขาชอบผู้ชายที่ดูสุภาพอย่างจ๊อบ “ไอ้อ้น มึงพาแฟนกลับไปด้วยเลย กูไม่อยากเห็นหน้ามัน” “พ่อแฟนอ้นนะ” “กูรู้แล้วว่าแฟนมึงกูก็ไม่ได้ห้ามว่ามึงอย่ามีแฟนนี่ แต่ให้หาที่ดีกว่านี้หน่อยไม่ไม่เหรอ เอาผีบ้าผีบอจากที่ไหนมาเนี่ย” “ผมไม่ใช่ผีบ้าผีบอนะครับ ผมเป็นคนเหมือนพ่อนั่นแหละ วันนี้เดี๋ยวผมจะทำกับข้าว ซักผ้าถูกบ้านให้เอง เอ่อ เดี๋ยวจะไปถางหญ้าหวดทีทำทุกอย่างให้สะอาดเลย พ่อรออยู่นี่แหล่ะ” “อ้นคุยกับพ่อแม่ไปนะ เดี๋ยวเราจะไปทำงานบ้านและนอกบ้าน” เมื่ออ้นพูดเสร็จเขาก็เข้าไปในครัวทำกับข้าว ที่เขาซื้อเตรียมพร้อมไว้ เพราะเขาตั้งใจไว้ว่าจะต้องชนะใจพ่อตาให้ได้ ส่วนแม่ยายเอ้นคิดว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร “ไอ้อ้น แฟนเองมันเพี้ยนแม่ว่า” “แม่ เอก็แบบนี้แหละ แต่เขาดูแลอ้นดีมากเลย ข้อสำคัญเขามีเวลาอยู่กับอ้นตลอด” “มีเวลาไม่มีประโยชน์ดูมึงดำไปมากเลย ไปอยู่กลางไร่กลางนามาแน่เลย” “ครับพ่อ” “นั่นไง กูเลี้ยงของกูไม
ช่วงหลังเลิกเรียนมักจะมีความวุ่นวาย ของบรรดานักศึกษาชายหญิง ยิ่งสถาบันการศึกษาที่อยู่ติดกันด้วย แต่ยังดีที่สองสถาบันนี้ไม่มีเรื่องกระทบกระทั่งกัน เพราะเป็นการแยกระหว่างชายหญิงเลยก็ว่าได้ สถาบันแห่งหนึ่งเป็นวิทยาลัยเทคโนการช่างที่ส่วนใหญ่มีแต่ผู้ชาย ส่วนอีกแห่งเป็นวิทยาลัยพาณิชย์ที่ส่วนใหญ่มีแต่ผู้หญิง ผู้ชายก็มีแต่เป็นส่วนน้อย และเป็นส่วนน้อยที่ไม่มีการทะเลาะวิวาทกับสถาบันอื่นและการจราจรหน้าสถาบันสองแห่งนี้ ก็เริ่มติดขัด เพราะบรรดานักศึกษาเริ่มทยอยกลับบ้าน เฉกเช่นเดียวกับอ้นนักศึกษาพาณิชย์ปี3 ที่ค่อยๆขับมอเตอร์ไซค์ออกจากวิทยาลัยและขับผ่านหน้าวิทยาลัยเทคโนการช่าง ที่มีแต่กลุ่มเด็กช่างจับกลุ่มคุยกัน เสียงดังแข่งกับเสียงรถที่แล่นผ่านอ้นพยายามที่จะไม่มองสองฝากฝั่ง เพราะกลัวเด็กช่างหาว่ามองหน้า เดี๋ยวจะถูกรุมทำร้ายโดยไม่รู้ตัว ซึ่งบรรดาหนุ่มในอาชีวะรู้ข้อนึ้เป็นอย่างดีทุกคนอ้นได้ขับรถมอเตอร์ไซค์เลยวิทยาลัยเทคโนการช่างมาพอสมควร เขาจึงเริ่มเบาใจแต่แล้วกลับมีสิ่งที่ทำให้เขาตระหนกตกใจจนได้ เพราะหนุ่มเทคโนวิ่งตัดหน้ารถมอเตอร์ไซค์ของเขา อ้นเบรครถกะทันหัน จึงทำให้ล้อหลังปัดจนเกือบล้ม แต่ก็ยังด
เมื่ออ้นเข้ามาในห้องก็เห็นสภาพเปลือยเปล่าท่อนบน ของเอที่นอนแผ่หราหมดสภาพหนุ่มเทคนิค อ้นยืนจ้องมองเอและอมยิ้มสักพัก หลังจากนั้นเขาก็สลัดความคิดนั้นทิ้งไป และ อ้นก็ออกไปตากผ้าที่ระเบียง แต่ใจก็ยังมีความรู้สึกแว้บๆ ให้เห็นใบหน้าอันคมเข้มของเอ อ้นจึงายามสลัดความคิดนั้นทิ้งไป แล้วรีบตากผ้าให้เสร็จโดยเร็วไวหลังจากที่อ้นตากผ้าเสร็จเขาก็เข้ามาภายในห้องอีก และเดินไปที่บริเวณเตียงนอนเพื่อปลุกเอมากินข้าว"นายตื่นได้แล้ว"อ้นเขย่าร่างของเอเอลืมตาขึ้นก็เห็นใบหน้าของอ้นอยู่ตรงหน้า เขาจึงขยับร่างลุกขึ้นนั่งในสภาพสะลึมสะลือ"กินข้าวได้แล้ว" อ้นชี้ไปที่กล่องข้าวที่วางไว้บนโต๊ะเอจึงลุกขึ้นเดินไปที่โต๊ะทันที และรีบเปิดกล่องข้าวซึ่งเป็นกระเพราไก่ไข่ดาว ด้วยความหิวต้นจึงไม่รอช้ารีบกินทันที โดยมีอ้นนั่งมองด้วยความขบขัน เพราะเอกินข้าวแบบหิวกระหายมาหลายเดือน"ค่อยๆกินก็ได้เดี๋ยวติดคอหรอก"เอหยุดกินและเงยมองหน้าอ้น แต่เขาก็ไม่ได้พูออะไร หลังจากนั้นก็ก้มหน้าก้มตากินข้าวต่อ อ้นซึ่งมองเออยู่จึงลุกขึ้นไปนำน้ำในตู้เย็นมาให้เอดื่ม'เอ้าน้ำ"อ้นวางน้ำไว้บนโต๊ะ แล้วเขาก็เดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่ออาบน้ำเพราะเหนียวตัวเต
เอนั้นได้นอนหลับไปแล้วแต่อ้นยังไม่หลับ เพราะยังรู้สึกดีใจและอิ่มใจกับรสชาติรักที่เอมอบให้ถึงจะติดขัดไปบ้างเขาก็พอใจ อ้นจึงนอนคิดเหตุการณ์ที่ผ่านมาเมื่อไม่นาน เพียงเอสัมผัสที่ริมฝีปากของเขาเพียงครั้งเดียวก็สุขใจ หลังจากเอจึงนอนหงาย “อมให้หน่อย”เอพูดจบพร้อมถอดกางเกงออกจนหมดจนเผยเห็นท่อนเอ็นที่นอนสงบ หลังจากนั้นเขาเปิดคลิปโป๊ดู ทีแรกอ้นกล้าๆกลัวๆ เพราะยังไม่เคยได้สัมผัสสิ่งนี้มาก่อนจนอายุยี่สิบปี แต่ก็พอรู้มาบ้างว่าต้องทำอย่างไรแต่ก็ยังรู้สึกประหม่าอยู่ดี “เร็วๆหน่อยเดี๋ยวเปลื่ยนใจนะ”เอพูดขึ้นอีกครั้ง เพราะเขาคิดว่าเรื่องแค่นี้ไม่น่าจะเสียหายอะไร “ก็ได้”อ้นลุกขึ้นนั่งและจับท่อนเอ็นของเอรูดส่วนปลายออกและอมทั้งที่ยังไม่แข็งตัว อ้นรูดขึ้นรูดลงจนท่อนเนื้อแล้วแข็งขึ้น “โดนฟันระวังหน่อย” อ้นรู้สึกเสียหน้าพอสมควรกับเหตุการณ์นี้ และกลัวเอจะไม่ให้เล่นท่อนเอ็นอีก คราวนี้อ้นจึงพยายามอย่างเต็มที่ระมัดระวังไม่ให้ฟันไปโดยท่อนเอ็น แต่แล้วความสนุกเพลิดเพลินก็มลายสิ้น เพราะเอได้พ่นน้ำในกายออกมาเต็มปากของอ้นพร้อมเสียงครางแผ่ว “อ่า อ่า อ่าส์”เสร็จแล้วเอปิดคลิปโป๊และดึงท่อนเอ็นออกจ
“อยากลองไหมอ้น”เอใช้มือลูบที่ก้นอวบอิ่มของอ้น ซึ่งเอก็อยากลองเช่นกัน เพราะเได้ยินแต่เพื่อนบางคนที่เคยลองบอกเด็ด ส่วนอ้นนั้นไม่อยากปฏิเสธเพราะเขาก็อยากรับรู้รสชาตินี้เหมือนกัน แต่เขาก็กลัวเจ็บเพราะขนาดท่อนเอ็นของเอใหญ่ยาวพอสมควร “นายยังไม่บอกเราเลยว่าต้องการไหม”เอใช้มือล้วงเขาไปในกางเกงของอ้น โดยที่อ้นยังไม่อนุญาตแต่อย่างใด แต่ท่าทางที่นิ่งเงียบของอ้นก็บอกเป็นนัยๆว่าไม่ปฏิเสธ “ถ้านายไม่พูดเราถือว่านายโอเคนะ”เอดึงกางเกงของอ้นออก ซึ่งทีแรกอ้นก็นิ่งเฉยแต่เอมีปัญหาถอดกางเกงของอ้นเขาจึงช่วยขยับร่างให้ดึงออกง่ายขึ้น เมื่อเอถอดกางเกงของอ้นออกจนหมด และเผยเห็นก้นที่ขาวอวบอิ่มไร้ริ้วรอย จนทำให้เอมีอารมณ์ใคร่พิศวาสขึ้นมาทันที จึงทำให้ท่อนเอ็นของเขาขยายใหญ่เต็มที่ เอจึงถอดกางเกงของเขาออกอย่างรวดเร็ว เพราะตอนนี้อารมณ์ใครพิศวาสร้อนจนทนไม่ไหว ส่วนอ้นนอนนิ่งแต่ในไม่ได้นิ่งตามไปด้วย เพราะเขารู้สึกตื่นเต้นและกลัวในคราเดียวกัน เอทนไม่ไหวอีกต่อไปจึงจับท่อนเอ็นของเขาจ่อไปที่ช่องทางรักของอ้น ซึ่งเอได้แค่จ่อเพราะช่องทางรักของอ้นเล็กและแคบ เอตัดสินใจอยู่พักหนึ่งว่าจะเอาอย่างไงดี จึงถามความสมัคร
เมื่อถึงเวลาตอนเย็นอ้นก็มารับเอกลับบ้าน ซึ่งเอก็มายืนรอหน้าวิทยาลัยหลังเลิกเรียน เพราะ ช่วงนี้ใกล้สอบเอจึงไม่คิดที่จะไปไหนถึงอย่างไรเขาก็ยังอยากเรียนจบ เอจึงคิดที่จะกลับไปอ่านหนังสือที่ห้อง “นายขี่นะ”อ้นจอดรถตรงหน้าเอที่ยืนรออยู่ ในระหว่างที่เอกำลังจะขึ้นจะเปลื่ยนมานั่งขับรถนั้น เจนก็ขับรถมาจอดข้างๆรถของอ้น “ว่าไงจะไปไหนเหรอ”เจนถามโดยหันมามองหน้าเอ “จะไปไหนมันก็เรื่องของกู มึงมายุ่งอะไรด้วยเจน” “ไม่ได้อยากยุ่งหรอก แต่อยากรู้ว่าจะไปไหนกันก็แค่นั้น” “ก็นั่นแหละมันกี่ยวอะไรกับมึงไอ้เจน”เอเริ่มมีอารมณ์โกรธพอสมควร “กลับห้อง”อ้นพูดขึ้น “กูไม่ได้ถามมึงไอ้หน้าอ่อน อยากเสือกเรื่องของคนอื่น”เจนหันหน้ามามองอ้นด้วยสายตาที่ไม่สมอารมณ์ “เฮ้ย ไอ้เจนมึงนี่มันจริงๆเลือกของแท้ชอบยุ่งเรื่องของกูจัง” “กูไม่ได้ยุ่งกับมึงซะหน่อย” “ไม่ได้ยุ่งก็ถอยไปกูจะกลับห้องแล้ว”เอพูดขึ้น “อุ๊ย ห้องใครเอย” “จะห้องใครก็ไม่เกี่ยวกับมึงไปกันเถอะอ้น” เอขึ้นรถทันทีที่พูดจบ ส่วนอ้นก็รีบขึ้นซ้อนท้าย “หวานแหวนเหลือเกินคู่รัก”
หลังจากสอบเสร็จอ้นก็รีบกลับมาที่ห้องทันทีเพื่อรอเอ เพราะอ้นได้ไปหาเอที่ในวิทยาลัยแต่ไม่เจอ ซึ่งอ้นคาดว่าเอน่าจะไปเลี้ยงฉลองตอนก่อนจบการศึกษา ซึ่งในความคิดที่อ้นคาดไว้นั้นผิดถนัดเพราะเอได้กลับมาในสภาพที่ปกติที่สุด “ทำอะไรกินจ๊ะ”เอพูดจาอย่างน่าฟัง “ก็หลายอย่างนะ”อ้นหันมายิ้มให้เอ “แต่วันนี้ไม่อยากกินเราอยากไปดูหนังมากกว่า” “กินก่อนค่อยไปดูก็ได้”เอพูดขึ้น “เสียดายของน่ะ” “ไม่ต้องเสียดายหรอก เพราะวันนี้เราสอบเสร็จกันแล้ว หลังจากนี้เรายังไม่รู้เลยว่าจะไปกันทางไหน” “ใช่”อ้นมีสีหน้าซึมลงนิดหน่อย “ก็นั่นไงเราควรใช้เวลาที่เหลืออยู่หาความสุขใส่ตัวให้มากที่สุด” “เหรอ แล้วนายจะเรียนต่อไหม” “ยังไม่รู้เลย แล้วนายล่ะ” “เรียนซิ แต่ก็ต้องไปเรียนกรุงเทพ” “เราคงไม่ได้เจอกันแล้วซิเนาะ”เอก็ไมได้คิดอะไรมาก เพราะเขาก็ไม่คาดหวังว่าจะอยู่กับอ้นต่อไปหรอก “ใช่ เราคงคิดถึงนายมาก แต่ก็ดีเหมือนกันที่เราจะไปดูหนังด้วยกัน จะได้เก็บความรู้สึกดีดีไว้เนาะ แต่ก็ยังเหลืออีกหลายวันที่เราจะยังอยู่ด้วยกันไม่ใช่เหรอ และอีกอย่างโ
เมื่ออ้นได้ยินเสียงเคาะประตูเขารีบเดินออกมาเปิดประตูห้องทันที เพียงได้เห็นหน้าของเอเขายิ้มอย่างอ่อนละมุนให้เอ แต่เขากลับได้รีบความนิ่งเฉยที่ใบหน้าของเอ “เป็นอะไรเหรอ”อ้นถามด้วยความแปลกใจอย่างมาก เพราะสีหน้าและท่าทางนั้นได้แตกต่างจากเมื่อตอนหัวค่ำอย่างมาก “กูมาเก็บเสื้อผ้าจะกลับบ้านแล้ว”เอพูดด้วยเสียงราบเรียบ “ทำไมรีบกลับไหนบอกว่าจะอยู่อีกหลายวันล่ะ” “ก็มึงนั่นแหละที่ทำตัวเอง” “ทำอะไร”อ้นมีสีหน้าที่สงสัย “มึงเอารูปที่กูถ่ายคู่กับมึงลงในโซเซียลทำไม”เอมีสีหน้าที่บึ้งตึ่ง “ก็คือเรา”อ้นอ่ำอึ้ง “มึงต้องพูดอะไร เรื่องราวระหว่างมันจบแล้ว”เอเดินไปเกี่ยวเสื้อผ้าใส่กระเป่าของเขา “เอ เราขอโทษเดี๋ยวเราลบรูปก็ได้” “มันสายเกินไป เราคงไปกันไม่ได้หรอก อีกอย่างถึงเราจะไม่จากกันวันนี้ ต่อไปเราก็ต้องจากกันอยู่ดี สู้เราจากกันตั้งแต่ตอนนี้ไม่ดีกว่าอีกเหรอ” “เรารักนายนะ”อ้นพูดขึ้นมาจากใจจริง “แต่เราไม่ได้รักนายนี่” “แล้วที่นายทำดีกับเราล่ะ” “เราขอบใจนายมากนะที่นายดีกับเรา ช่วยเหลือเราทุกอย่าง แต่เราค