อ้นตื่นนอนมาเขาก็ไม่เห็นเอนอนอยู่บนเตียง เขาจึงเข้าไปอาบน้ำและแต่งตัวลงมาด้านล่าง เพียงแค่ลงมาเขาก็เห็นอาหารวางไว้เต็มโต๊ะ อ้นเดินเข้าไปดูซึ่งเป็นอาหารดีๆทั้งนั้น เขายืนยิ้มในความเอาใจใส่ของเอ
“น่ากินทั้งนั้นเลย”อ้นตักข้าวใส่จานและนั่งลง
อ้นค่อยๆกินข้าวอย่างช้าๆพร้อมกับคิดถึงเอตอนทำกับข้าว เขาถึงกับหัวเราะเบาๆจากหนุ่มห่ามกลายมาเป็นพ่อบ้านพ่อเรือน อ้นกินข้าวจนอิ่มถึงสองจานเพราะรสมือของเอนั้นเลิศรสยิ่งนัก เมื่ออ้นกินข้าวอิ่มเขาจึงเดินออกไปนอกบ้าน มองไปรอบๆซึ่งมีแต่ไร้ข้าวโพด เขายังจำวันที่เอลากไปช่วยหักข้าวโพดได้ อ้นถึงกับยิ้มออกมา
“ยิ้มอะไรครับ”เพื่อนของเอที่เคยไปช่วยอ้นในป่า เดินเข้ามาใกล้ๆอ้น
“คิดอะไรเรื่อยเปื่อยเลยยิ้ม มาหาเอเหรอ สงสัยไปที่ไร่น่ะ”
“ใช่ครับมาหาเอ ผมนิกจำผมได้ไหม”นิกยิ้มจนเห็นไรฟัน
“ทำไมจะจำไม่ได้คนที่เคยใช้อ้นไว้ไงที่กลางป่า”
“ดีจังที่จำผมได้ ผมก็นึกว่าอ้นลืมผมซะแล้ว”
“จะลืมผู้มีพระคุณได้ไง”อ้นยิ้มหวานให้นิกเพื่อนของเอ
“แล้วมาหาเอมีธุระอะไรหรือเปล่า”
“มีธุระนิดหน่อย แต่ผมรอมันได้ อีกไม่กี่ชั่วโมงก็เที่ยงแล้วนี่ครับ เดี๋ยวมันก็คงจะกลับมากินข้าว”
“ทำไมไม่ไปหาที่ไร่ล่ะ”
“ขี้เกียจไปร้อน และอยากคุยกับอ้นด้วย ผมขอเรียกอ้นนะจะได้ดูสนิทกัน”
“ได้ไม่เป็นไร ถ้าอย่างงั้นเราเข้าไปรอเอข้างในกันเถอะ”
“ครับ”
อ้นนำทางนิกเข้าไปในบ้านและนั่งรอเอที่ห้องรับแขก บนโซฟาขนาดไม่ใหญ่เท่าไรนัก หลังจากนั้นเขาไปหาน้ำมาให้นิกดื่ม
“อ้นอยู่คนเดียวไม่เหงาเหรอครับ”
“ก็ไม่เหงานะ อ้นพึ่งมาอยู่วันแรก”
“อ้นเป็นเพื่อนกับเอนานหรือยังครับ”นิกยกแก้วน้ำมาดื่ม
“ตั้งแต่สมัยเรียนนั่นแหละ และนิกล่ะเป็นเพื่อนกับเอนานหรือยัง”
“ตั้งแต่เด็กแล้ว เราอยู่หมู่บ้านเดียวกันที่นี่แหละ”
“ดีจังเลยมีเพื่อนตั้งแต่วัยเด็กจนโตก็ยังคบกันอยู่ อ้นไม่มีใครเลยมีแต่เพื่อนใหม่ๆ”
“รวมทั้งผมด้วยหรือเปล่าที่เป็นเพื่อนใหม่ๆ”นิกส่งสายตาหวานให้อ้นอีกครั้ง
“ด้วยซิ เป็นเพื่อนที่ดีมากที่สุด”อ้นยังจำบรรดาเหล่าเพื่อนของเอ ที่ไปช่วยพวกเขาในป่าได้ไม่มีวันลืม
“คุยกับคุณอ้นสนุกดีนะครับ วันหลังต้องมาคุยด้วยบ่อยๆ”
“มาซิ อ้นจะได้ไม่เหงาตอนเอไปทำงาน”
“ขอโทษนะครับ ทำไมอ้นมาอยู่กับเอได้ล่ะ มาเที่ยวหรือว่ามาอยู่เลย”
“มาเที่ยวสักพักหลังจากนั้นค่อยว่ากันอีกที”
“ผมว่าอ้นน่าจะอยู่ที่นี่นานๆผมจะได้มาหาบ่อยๆ”
“ไม่ได้”เสียงห้วนๆของเอดังขึ้น
เอเดินเข้ามาด้วยใบหน้าที่มีอารมณ์โกรธอย่างมาก เมื่อเขาเห็นนิกกับอ้นคุยกันอย่างออกรสชาติ
“อ้าวมาเงียบๆเลยนะเพื่อน”
“ถ้าไม่มาเงียบๆจะได้เห็นแมวขโมยเหรอ”เอนั่งลงข้างๆอ้น
“ไปเอาน้ำมาให้ดื่มหน่อยซิ”เอพูดเสียงเข้มๆใส่อ้น
อ้นมองหน้าเอแวบหนึ่งเพราะรู้สึกได้ว่าเอมีท่าทีเปลื่ยนไป ยังกับคนละคนเมื่อช่วงกลางคืนที่ผ่านมา
“มองอะไรไปเอาน้ำมาหิว คนทำงานมาเหนื่อยๆ”
อ้นรู้สึกไม่พอใจที่เอพูดไม่เพราะต่อหน้าคนอื่น เขาจึงมองค้อนเอแล้วหันกลับ หลังจากนั้นรีบลุกขึ้นไปเทน้ำดื่มมาให้เอ
“ทำไมนายพูดกับอ้นไม่เพราะเลย”นิกอ่ยขึ้น
“เราก็พูดของเราแบบนี้แหละ”
“อ้นออกจะน่ารัก นายน่าจะพูดดีๆกับเขาหน่อย”
“ไม่ต้องมาบอกหรอก แล้วนายมาที่นี่ทำไม”
“จะมาคุยธุระกับนายนั่นแหละ แต่เห็นนายไม่มีความสุข ไว้คุยวันหลังก็แล้วกัน”
“ดี วันนี้อารมณ์ไม่ดีไม่อยากคุยกับใครทั้งนั้น”
อ้นเดินมาจนได้ยินคำพูดทั้งสองคุยกัน แต่อ้นทำเป็นนิ่งเฉยไม่อยากที่จะพูดจาให้ครุ่นเคืองใจกัน อ้นจึงนั่งลงและยื่นแก้วน้ำให้เอ
“ไม่เห็นเย็นเลยไปน้ำอะไรมาเนี่ย”เอกระแทกแก้วลงอย่างแรง
“เดี๋ยวไปเอามาให้ใหม่ก็ได้”อ้นลุกยืนกั้นความรู้สึกโกรธไว้
“ถ้างั้นเราขอตัวก่อนก็แล้วกัน”นิกเห็นท่าไม่ดีขืนอยู่ต่ออ้นอาจโดนอะไรมากกว่านี้
“ถ้าวันหลังมาก็บอกล่วงหน้าด้วยก็แล้วกัน”
“เอ่อ”นิกลุกขึ้นยืนและรีบออกจากบ้านของเอทันที
เมื่อนิกออกไปพ้นประตูบ้าน เอรีบลุกขึ้นยืนเข้าไปในครัวทันที เมื่อไปถึงเขาเห็นอ้นกำลังเทน้ำจากขวดแช่เย็นใส่ในแก้วน้ำ
“อ้นไม่ต้องเทน้ำแล้ว เราไม่ดื่มหรอก”
“ทำไมเมื่อกี้บอกอยากดื่ม”
“ตอนนี้อยากดื่มอ้นแทนไง”
“ออกไปเลย ไม่ต้องมาถูกตัว เมื่อกี้เป็นอะไรพูดจาไม่เพราะเลย”
“ก็เป็นเอที่รักอ้นไง”
“ไม่ต้องมาพูดจาแบบนี้หรอก เมื่อกี้ทำแบบนั้นทำไม”
“ก็กูหึงมึงไง เห็นนั่งคุยกันนิกอย่างออกรสชาติ”
“เพื่อนนายนะ ยังจะมาหึงอีก”
“กูหึงผู้ชายทั้งโลกหมดแหละ ไม่อยากให้ใครใกลชิดมึง”
“เอเราต้องมีชีวิตของเรา นายจะมาตีกรอบเราไม่ได้หรอก”
อ้นรู้สึกโกรธเออย่างมากเขาจึงหันหน้าไปทางอื่น ด้วยท่ายืนกอดอกและถอนหายใจเฮือกใหญ่
“กูขอโทษก็แล้วกัน”
อ้นยังนิ่งเฉย
“มึงจะให้กูทำอะไรกูทำได้หมดนะ”
อ้นยังนิ่งเฉย
“น่ะ น่ะ น่ะเมียจ๋า”
อ้นยังนิ่งเฉย
เอนั่งลงคุกเข่ากับพื้นและกอดขาของอ้นไว้แน่น เพราะเขารู้สึกผิดที่แสดงพฤติกรรมหยาบคายกับอ้น
“ปล่อยนะจะมานั่งกอดขาอยู่อย่างนี้ไม่ได้”
“ได้สิกูจะกอดมึงทั้งวันก็ยังได้”
“นายต้องทำงานหาเลี้ยงเรา จะมานั่งกอดขาแบบนี้ไม่ได้นะ”
“มึงต้องบอกว่ายกโทษให้กูก่อน”
“ก็ได้”
“ขอบคุณมากเมียจ๋า”เอลุกขึ้นยืนยิ้มต่อหน้าอ้น
“ไปกินข้าวได้แล้ว จะได้ไปทำงานต่อ”อ้นเอ่ยขึ้น
“ได้เลย แต่คืนนี้ต่ออีกนะ”เออมยิ้ม
“มีแรงก็ทำไปซิ ใครไปว่าอะไร”
“เมียใจดีจังเลย”เอกระโดดหอมแก้มของอ้น
เอโอบกอดด้านหลังของอ้น และดันร่างให้อ้นเดินนำหน้า ไปยังโต๊ะอาหารที่ไม่หรูแต่เต็มไปด้วยความรักที่เหลือล้น
อ้นนั่งๆนอนอยู่บ้านเฉยๆจึงเกิดความเบื่อหน่าย และเป็นช่วงเวลาใกล้เที่ยงเขาจึงตักข้าวใส่ปิ่นโต พร้อมกับข้าวสามขนมหนึ่ง หลังจากนั้นอ้นจึงเดินออกไปไร่ข้าวโพดเพื่อไปหาเอแฟนหนุ่ม อ้นพอจำทางได้บ้างเมื่อครั้งโดนเอจับมาไว้ที่บ้านปลายไร่ เขาเดินไปเรื่อยๆจนเห็นไร่ข้าวโพด อ้นมองเห็นร่างผู้ชายสองคนอยู่ใต้ต้นไม่ใหญ่ท้ายไร่ อ้นจึงเดินต่อไปเพราะเขาจำร่างของเอได้ ยิ่งอ้นเดินเข้าไปใกล้ๆ เขาค่อนข้างแน่ใจว่าเป็นเอ แต่ผู้ชายอีกคนอ้นคิดว่าไม่รู้จักแน่ๆ แต่อ้นคิดว่าน่าจะเป็นเพื่อนของเอ อ้นจึงไม่ได้ใส่ใจหรือสนใจอะไรไปมากกว่านี้ เขาจึงรีบเดินไปให้ถึงต้นไม้ใหญ่ไวๆ เพราะแดดค่อนข้างร้อนพอสมควร ถึงเขาจะใส่หมวกมาก็ตามที ซึ่งไม่ได้ช่วยอะไรได้มากนัก เมื่ออ้นเดินไปถึง สิ่งที่เขาเห็น เอกำลังนั่งกินข้าวหัวเราะต่อกระซิบกับชายหนุ่ม ซึ่งเขาไม่ได้สนใจอะไรนึกแค่ว่าเพื่อน “คุยอะไรกันสนุกเชียว”อ้นยืนอยู่ข้างหลังเอ “อ้าวมาได้ไง”เอมีสีหน้าตกใจเล็กน้อย “ใครเหรอ”ชายหนุ่มเสียงนุ่มนิ่มเอ่ยขึ้น “อ้นเพื่อนกูเอง”เอหันมามองชายหนุ่ม “นี่นินเพื่อนกูสมัยเรียนอนุบาล”เ
เอรีบเข้าไปอุ้มร่างของอ้นทันที ส่วนอ้นยังทุบหน้าอกของเอไม่ยั้ง แต่แบบออมแรงไม่ทุบแรงอย่างครั้งแรก และก็ดิ้นให้น้อยลงนิดหน่อย เออดทนรีบพาอ้นเข้าไปในรถยนต์ของเขา เมื่ออ้นเข้าไปในรถแล้ว เขาก็นั่งนิ่งๆไม่มีท่าทีจะไปไหน พอเอขึ้นรถมาเท่านั้นแหละ อ้นหันหน้าไปทางอื่นแล้วอมยิ้ม แต่อ้นอารมร์ดีได้ไม่นานเพราะเสียงโทรศัพท์มือถือของเอดังขึ้น เอจึงรีบควักโทรศัพท์มือถือออกมารับทันที “ว่าไง” “ตามอ้นเจอไหม” “เจอแล้วอยู่บ้านนิก” “เราขอโทษนายด้วยนะที่ทำให้ผิดใจกับอ้น”น้ำเสียงของนินบ่งบอกถึงความผิดหวัง “ไม่เป็นไรแค่นี้นะ” “ฮือ” เอกดวางมือถือแล้วหันมามองหน้าอ้น ที่กำลังบึ้งตึงอีกครั้ง เพราะอ้นคาดเดาได้ว่าเป็นเสียงของนินโทรมา “เป็นอะไรอีกล่ะ” “ไปส่งเราที่ขนส่งด้วยเราจะกลับกรุงเทพ” “กลับไปหาไอ้บอสของมึงเหรอ”เอเริ่มรู้สึกโมโหที่อ้นเอาแต่ใจมากขึ้น “ใช่” “ไอ้อ้น มึงอยากโดนอีกใช่ไหม” “โดนอะไร” “กระท่อมปลายไร่ ไปอยู่ในนั้นอีกครั้งไหม”
วันนี้อ้นแกล้งตื่นสาย เพราะอยากรู้ว่าเอจะอยู่บ้านหรือว่าแอบไปไหนหรือเปล่า เมื่อเขาแต่งตัวเสร็จจึงลงมาข้างล่าง แล้วสิ่งที่อ้นเห็นนั้นทำให้เขาปวดใจยิ่งนัก เพราะภาพตรงหน้าเอกำลังนั่งโซฟาคุยกับนิน มีรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของทั้งสอง อ้นถึงกับของขึ้นอารมณ์ฉุนเฉียวมาทันที เขารีบเดินลงบันไดแล้วเดินไปหาเอ “คุยอะไรกัน”อ้นเอ่ยขึ้น “คุยเรื่องสมัยเรียนตอนมัธยม คิดถึงวันนั้นมากเลย เอชอบแกล้งเรานะ ไม่คิดเลยว่าโตมาจะเป็นคนละคน”นินยิ้มให้เอ “ใช่ โตแล้ว มีแฟนแล้วด้วย ยืนอยู่ตรงนี้”อ้นยืนกอดอก “เหรอ แฟนเอใช่ไหม” “เอ่อ ใช่ แฟนเราเอง”เอตอบอย่างหนักแน่น “เอ”นินอ้าปากค้างตาโต เพราะเขาไม่อยากได้ยินคำนี้ ถึงแม้เขาจะรู้ระแคะระคายมาบ้างนิดหน่อย แต่นินยังไม่เชื่อจนได้ยินจากปากของเอ เขาถึงกับอึ้งทำอะไรไม่ถูก “ได้ยินชัดแล้วใช่ไหม”อ้นนั่งลงข้างๆเอพร้อมยิ้มให้นิน “ได้ยินแล้ว แต่เราเป็นเพื่อนเอนี่ จะไปหามาหาสู่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก” “แปลกซิ ถ้านายเป็นแบบนิก เราไม่ว่าอะไรหรอก แต่นี่นายเหมือนเรา อย่าคิดว่าเราไม่รู้น
อ้นและเอใช้ชีวิตอยู่บ้านไร่มาร่วมเดือน จนพ่อแม่ของเอเกิดความสงสัย เพราะพ่อแม่ของเอแค่นึกว่าอ้นมาเที่ยวหา แต่นี่อยู่ร่วมเดือนยังไม่กลับไป ทั้งสองจึงอยากเห็นหน้าและพูดคุย ด้วย พ่อแม่ของเอไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว เขาทั้งสองไปอยู่กับพี่สาวคนโตในจังหวัดอื่น และอีกอย่างที่ทั้งสองมาเพราะคิดถึงลูกชายคนเดียวของพวกเขา เมื่ออำพลกับบังอรมาถึงเขาก็เห็นภาพอันบาดตา เป็นภาพที่เขาทั้งสองไม่คาดคิดว่าจะได้เห็น เพราะเป็นภาพที่เอนอนบนตักของอ้น และที่หนักไปกว่านั่นเขาจับมือของอ้นมาดมและหอมอตลอดเวลา “ไอ้เอมึงทำอะไรของมึง”กำพลเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าไม่พอใจอย่างยิ่ง “เอ หรือว่าลูกเป็น เอ่อ”บังอรใช้มือทาบอกด้วยความตกใจ เอรีบกระดกตัวลุกขึ้นทันที เขามีสีหน้าที่ไม่สู้ดีทันที ส่วนอ้นยังไม่เท่าไรแค่แปลกใจ ทำไมพ่อแม่ของเอมาไม่บอกล่วงหน้าแค่นั้น “พ่อแม่”เอลุกขึ้นยืนนิ่ง “สวัสดีครับพ่อแม่”อ้นยกมือไหว้ทันที “พวกเอ็งเป็นอะไรกันถึงมานอนหนุนตักหอมไม้หอมมือกัน อย่างกับเป็นคู่รักกันอย่างนั้นแหละ” “คือว่า พ่อกับแม่ คือผม เอ่อ อา อือ อู คือ
พงศกรมองหน้าเอด้วยความไม่พอใจยิ่งนัก เพราะเอดูไม่เรียบร้อยห่ามเถื่อนจนเกินไป เขาชอบผู้ชายที่ดูสุภาพอย่างจ๊อบ “ไอ้อ้น มึงพาแฟนกลับไปด้วยเลย กูไม่อยากเห็นหน้ามัน” “พ่อแฟนอ้นนะ” “กูรู้แล้วว่าแฟนมึงกูก็ไม่ได้ห้ามว่ามึงอย่ามีแฟนนี่ แต่ให้หาที่ดีกว่านี้หน่อยไม่ไม่เหรอ เอาผีบ้าผีบอจากที่ไหนมาเนี่ย” “ผมไม่ใช่ผีบ้าผีบอนะครับ ผมเป็นคนเหมือนพ่อนั่นแหละ วันนี้เดี๋ยวผมจะทำกับข้าว ซักผ้าถูกบ้านให้เอง เอ่อ เดี๋ยวจะไปถางหญ้าหวดทีทำทุกอย่างให้สะอาดเลย พ่อรออยู่นี่แหล่ะ” “อ้นคุยกับพ่อแม่ไปนะ เดี๋ยวเราจะไปทำงานบ้านและนอกบ้าน” เมื่ออ้นพูดเสร็จเขาก็เข้าไปในครัวทำกับข้าว ที่เขาซื้อเตรียมพร้อมไว้ เพราะเขาตั้งใจไว้ว่าจะต้องชนะใจพ่อตาให้ได้ ส่วนแม่ยายเอ้นคิดว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร “ไอ้อ้น แฟนเองมันเพี้ยนแม่ว่า” “แม่ เอก็แบบนี้แหละ แต่เขาดูแลอ้นดีมากเลย ข้อสำคัญเขามีเวลาอยู่กับอ้นตลอด” “มีเวลาไม่มีประโยชน์ดูมึงดำไปมากเลย ไปอยู่กลางไร่กลางนามาแน่เลย” “ครับพ่อ” “นั่นไง กูเลี้ยงของกูไม
ช่วงหลังเลิกเรียนมักจะมีความวุ่นวาย ของบรรดานักศึกษาชายหญิง ยิ่งสถาบันการศึกษาที่อยู่ติดกันด้วย แต่ยังดีที่สองสถาบันนี้ไม่มีเรื่องกระทบกระทั่งกัน เพราะเป็นการแยกระหว่างชายหญิงเลยก็ว่าได้ สถาบันแห่งหนึ่งเป็นวิทยาลัยเทคโนการช่างที่ส่วนใหญ่มีแต่ผู้ชาย ส่วนอีกแห่งเป็นวิทยาลัยพาณิชย์ที่ส่วนใหญ่มีแต่ผู้หญิง ผู้ชายก็มีแต่เป็นส่วนน้อย และเป็นส่วนน้อยที่ไม่มีการทะเลาะวิวาทกับสถาบันอื่นและการจราจรหน้าสถาบันสองแห่งนี้ ก็เริ่มติดขัด เพราะบรรดานักศึกษาเริ่มทยอยกลับบ้าน เฉกเช่นเดียวกับอ้นนักศึกษาพาณิชย์ปี3 ที่ค่อยๆขับมอเตอร์ไซค์ออกจากวิทยาลัยและขับผ่านหน้าวิทยาลัยเทคโนการช่าง ที่มีแต่กลุ่มเด็กช่างจับกลุ่มคุยกัน เสียงดังแข่งกับเสียงรถที่แล่นผ่านอ้นพยายามที่จะไม่มองสองฝากฝั่ง เพราะกลัวเด็กช่างหาว่ามองหน้า เดี๋ยวจะถูกรุมทำร้ายโดยไม่รู้ตัว ซึ่งบรรดาหนุ่มในอาชีวะรู้ข้อนึ้เป็นอย่างดีทุกคนอ้นได้ขับรถมอเตอร์ไซค์เลยวิทยาลัยเทคโนการช่างมาพอสมควร เขาจึงเริ่มเบาใจแต่แล้วกลับมีสิ่งที่ทำให้เขาตระหนกตกใจจนได้ เพราะหนุ่มเทคโนวิ่งตัดหน้ารถมอเตอร์ไซค์ของเขา อ้นเบรครถกะทันหัน จึงทำให้ล้อหลังปัดจนเกือบล้ม แต่ก็ยังด
เมื่ออ้นเข้ามาในห้องก็เห็นสภาพเปลือยเปล่าท่อนบน ของเอที่นอนแผ่หราหมดสภาพหนุ่มเทคนิค อ้นยืนจ้องมองเอและอมยิ้มสักพัก หลังจากนั้นเขาก็สลัดความคิดนั้นทิ้งไป และ อ้นก็ออกไปตากผ้าที่ระเบียง แต่ใจก็ยังมีความรู้สึกแว้บๆ ให้เห็นใบหน้าอันคมเข้มของเอ อ้นจึงายามสลัดความคิดนั้นทิ้งไป แล้วรีบตากผ้าให้เสร็จโดยเร็วไวหลังจากที่อ้นตากผ้าเสร็จเขาก็เข้ามาภายในห้องอีก และเดินไปที่บริเวณเตียงนอนเพื่อปลุกเอมากินข้าว"นายตื่นได้แล้ว"อ้นเขย่าร่างของเอเอลืมตาขึ้นก็เห็นใบหน้าของอ้นอยู่ตรงหน้า เขาจึงขยับร่างลุกขึ้นนั่งในสภาพสะลึมสะลือ"กินข้าวได้แล้ว" อ้นชี้ไปที่กล่องข้าวที่วางไว้บนโต๊ะเอจึงลุกขึ้นเดินไปที่โต๊ะทันที และรีบเปิดกล่องข้าวซึ่งเป็นกระเพราไก่ไข่ดาว ด้วยความหิวต้นจึงไม่รอช้ารีบกินทันที โดยมีอ้นนั่งมองด้วยความขบขัน เพราะเอกินข้าวแบบหิวกระหายมาหลายเดือน"ค่อยๆกินก็ได้เดี๋ยวติดคอหรอก"เอหยุดกินและเงยมองหน้าอ้น แต่เขาก็ไม่ได้พูออะไร หลังจากนั้นก็ก้มหน้าก้มตากินข้าวต่อ อ้นซึ่งมองเออยู่จึงลุกขึ้นไปนำน้ำในตู้เย็นมาให้เอดื่ม'เอ้าน้ำ"อ้นวางน้ำไว้บนโต๊ะ แล้วเขาก็เดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่ออาบน้ำเพราะเหนียวตัวเต
เอนั้นได้นอนหลับไปแล้วแต่อ้นยังไม่หลับ เพราะยังรู้สึกดีใจและอิ่มใจกับรสชาติรักที่เอมอบให้ถึงจะติดขัดไปบ้างเขาก็พอใจ อ้นจึงนอนคิดเหตุการณ์ที่ผ่านมาเมื่อไม่นาน เพียงเอสัมผัสที่ริมฝีปากของเขาเพียงครั้งเดียวก็สุขใจ หลังจากเอจึงนอนหงาย “อมให้หน่อย”เอพูดจบพร้อมถอดกางเกงออกจนหมดจนเผยเห็นท่อนเอ็นที่นอนสงบ หลังจากนั้นเขาเปิดคลิปโป๊ดู ทีแรกอ้นกล้าๆกลัวๆ เพราะยังไม่เคยได้สัมผัสสิ่งนี้มาก่อนจนอายุยี่สิบปี แต่ก็พอรู้มาบ้างว่าต้องทำอย่างไรแต่ก็ยังรู้สึกประหม่าอยู่ดี “เร็วๆหน่อยเดี๋ยวเปลื่ยนใจนะ”เอพูดขึ้นอีกครั้ง เพราะเขาคิดว่าเรื่องแค่นี้ไม่น่าจะเสียหายอะไร “ก็ได้”อ้นลุกขึ้นนั่งและจับท่อนเอ็นของเอรูดส่วนปลายออกและอมทั้งที่ยังไม่แข็งตัว อ้นรูดขึ้นรูดลงจนท่อนเนื้อแล้วแข็งขึ้น “โดนฟันระวังหน่อย” อ้นรู้สึกเสียหน้าพอสมควรกับเหตุการณ์นี้ และกลัวเอจะไม่ให้เล่นท่อนเอ็นอีก คราวนี้อ้นจึงพยายามอย่างเต็มที่ระมัดระวังไม่ให้ฟันไปโดยท่อนเอ็น แต่แล้วความสนุกเพลิดเพลินก็มลายสิ้น เพราะเอได้พ่นน้ำในกายออกมาเต็มปากของอ้นพร้อมเสียงครางแผ่ว “อ่า อ่า อ่าส์”เสร็จแล้วเอปิดคลิปโป๊และดึงท่อนเอ็นออกจ