อ้นนั่งครุ่นคิดเรื่องราวที่ผ่านมาตั้งแต่อดีตยันปัจจุบันบนเตียงนอน โดยเฉพาะช่วงเวลาในปัจจุบันที่เขาแสนจะกลัดกลุ้มขุ่นใจกับสองหนุ่มที่ตามตื้อไม่ห่าง จนอ้นตัดสินใจที่จะหนีจากสองคนนี้อีกครั้ง แต่อีกใจหนึ่งเขาก็รู้สึกดีตอนที่สองหนุ่มมารุมล้อม ความรู้สึกนี้พึ่งได้รับตอนนี้ที่อ้นได้นั่งทบทวนสิ่งต่างๆ แต่ปัญหาคือมีมาทีเดียวสองคน ซึ่งอ้นยังไม่รู้ใจตนเองว่าชอบใคร คนหนึ่งรักแรกคนสองรักใหม่ ต่างมีข้อดีข้อเสียและทำให้อ้นเจ็บซ้ำน้ำใจไม่น้อยไปกว่ากัน
“ในระหว่างที่อ้นกำลังนั่งคิดถึงสองหนุ่มที่ตามติดไม่ห่างอยู่นั้น เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น อ้นจึงรีบรับทันที เพราะเป็นเพื่อนสาวที่สนิทตั้งแต่สมัยเรียน
“ฮัลโหล”
“ยังไม่นอนอีกเหรอ”จีจี้ถาม
“ยังกำลังคิดอะไรเพลินๆอยู่”
“คิดเรื่องอะไร”
“ก็เรื่องบอสกับเอที่ตามมาถึงเชียงใหม่”
“อ่ะ เราไม่ได้บอกนะ”ความจริงจีจี้รู้อยู่แล้ว เพราะเอและจ๊อบโทรมาหาเธอ ต่างฝ่ายต่างให้จีจี้เชียร์
“แล้วเธอได้บอกซันกับซีไหม”
“โอ๊ยสองคนนั่นเดี๋ยวนี้ไม่เห็นหัวติดผู้ชาย ตามตั้มและตูนแจเลย”
“ซันและซีคงมีความสุขหนอ”
“แน่นอนอยู่แล้ว ว่าแต่เธอนั่นแหละมีผู้ชายตามติดตั้งสองคน”
“ความสุขบ้าอะไรล่ะ รำคาญมากกว่า แต่ละคนผู้ชายร้ายๆทั้งนั้น”
“ฉันจำได้เธอเป็นคนบอกเราเองนี่ชอบผู้ชายแนวนี้ไม่ใช่เหรอ”
“ตอนยังไม่เจอน่ะชอบ พอได้เจออยู่ด้วยกันไม่ไหวจะเคลียร์”
“แล้วเป็นไงล่ะสองคนนั่นน่ะ พูดคุยอะไรกับเธอบ้าง”
“ไม่ได้พูดอะไรหรอก เราหนีอย่างเดียว”
“เธออย่าหนีปัญหาซิ ถ้าไม่ชอบก็บอกไปตรงๆ ถ้าชอบก็วัดใจกันไปเลย เลือกเอาสักคนหรือจะเอาทีเดียวสองคนก็ได้ ให้ซันและซีอิจฉาตาร้อนไปเลย”
“บ้า ทำงั้นได้ไงแค่นี้ก็จะต่อยกันอยู่แล้ว”
“น่าสงสารเพื่อนเราจัง ไม่มีแฟนแบบเราก็เหงา มีแฟนแบบเธอก็เซ็งแต่ละคนไม่ได้เรื่อง”
“ทำไงได้เจอแต่คนแบบนี้”
“เดี๋ยวฉันมีเรื่องจะถามเธอนะ”
“ว่ามา”
“ต้องตอบตามจริงอย่าโกหกเป็นอันขาดรู้ไหม”
“จร้า”
“ระหว่างเอกับบอสเธอชอบใครมากกว่า ตัดคำว่าไม่ดีออกไปลองถามใจตัวเองดูซิ”
“คำถามง่ายแต่ตอบยากหนอ”
อ้นคิดความแตกต่างระหว่างสองหนุ่มที่ร้ายๆพอกัน แต่ส่วนดีก็มีพอๆกัน แต่ความรักที่ทั้งสองมีให้เขานั้น อ้นไม่สามารถรู้ได้เลยว่าใครให้มากกว่ากัน
“หลับไปแล้วเหรอพ่อคุณ”
“ยังกำลังคิดอยู่ แต่คิดไม่ออกไม่ชอบทั้งสองคนนั่นแหละ เพราะทำเราเจ็บทั้งคู่เลยรู้ไหม”
“เดี๋ยวถามใหม่ให้ตอบง่ายๆเอาเอก่อนก็แล้วกัน เพราะเป็นรักแรกของเธอ”
“ได้ว่ามา”
“เอดีไหม”
“เมื่อก่อนไม่ดีนะ หลอกเราให้เลี้ยงดูพอเรียนจบก็ทิ้งเราซะนี่ เจ็บนะกว่าจะหายนานมาก”
“แล้วตอนนี้ล่ะ”
“ฮือ จะดีก็ดีจะว่าไม่ดีก็ใช่ เพราะมาแนว เถื่อนๆดิบๆ ซาดิสต์ด้วยชอบทำให้เราเจ็บ เพื่อที่จะให้เรารัก ส่วนที่ดียามเราเจ็บป่วยก็ดูแลเราดีอยู่นะ เราหลงป่าก็ตามหาจนเจอเป็นห่วงเรา แต่ปากกับใจไม่ค่อยตรงกันซักเท่าไร”
“คนแบบนี้อยู่ด้วยไม่เหงาแน่ ยิ่งอ้นเป็นเรียบร้อยถ้าเจอคนแบบนี้จะมีสีสันมากเลยนะ”
“โอ๊ย สีสันที่เจ็บแสบน่ะซิ แต่ก็อีกนั่นแหละเขามีเจนด้วยนี่”
“เจนเหรอเกี่ยวอะไรกับเอล่ะ”
“เขามีอะไรกันด้วยนะ”
“ว้าย น่าเกลียด เพื่อนกัน ถ้างั้นไมผ่าน แต่เอ๊ะได้ข่าวว่าเจนไปทำงานที่ภาคใต้แล้วนะ เธอมั่วหรือเปล่า”
“อ้าว แต่เขามีอะไรกันจริงๆนะ”
“เหรอ ถ้างั้นไม่ผ่าน ลองพูดถึงบอสซิเป็นไงบ้าง”
“ข้อดีรวย หล่อ อยู่ด้วยสบายไปทั้งชาติ ดูแลเราดีมากเลย แต่ทำอะไรต้องตามใจเขาตลอด และมีคนมาติดพันเยอะมาก รู้ไหมบอสเผลอใจให้เลขาคนใหม่ด้วย”
“นังบี้น่ะเหรอ ตัวนี้ร้ายมากเลยนะ แต่ได้ข่าวมาว่าบอสไม่ให้เป็นเลขาแล้ว ไปทำงานด้านธุรการในโรงงานแทน”
“เหรอ เป็นไปได้ไง”
“นั่นแสดงบอสรักเธอไง ถึงยอมทำเพื่อเธอ ว่าไปบอสน่าสนใจอยู่นะ”
“แต่ญาติพี่น้องของบอสก็ใช่ย่อย พี่สาวเขามาด่าเราถึงคอนโดเลยนะ”
“อะไรกันเนี่ย ไหนจะกิ๊กไหนจะพี่สาว คนอย่างเธอจะตั้งรับไว้เหรอ”
“นั่นนะสิมีความสุขกายแต่ต้องลำบากใจอยู่ไม่ใช่น้อย”
“ถ้างั้นขอใช้คำฮิตก็แล้วกัน ผัวที่ดีคือผัวใหม่”
“จะหนักกว่าเก่าก็ไม่ว่า”
“ถ้างั้นก็เลือกเอาซักคนซิ”
“ไม่ไหวหรอกแต่ละคน”
“ตามใจเธอก็แล้วกัน มันชีวิตเธอแต่ยังมีเวลาตัดสินใจอีกคืนน่ะรู้ไหม เราแนะนำไม่ต้องหนีไปไหน อยู่มันอย่างนี้นั่นแหละเธอจะหนีไปตลอดชีวิตเหรอ อย่างงั้นทั้งสองก็ตามเธอจนเจอนั่นแหละ เอก็บ้าดีเดือด บอสก็เก่งเป็นบ้า”
“ช่างสรรหาคำมาพูดนะเธอน่ะ”
“เอาล่ะ ไม่รบกวนแล้ว เธอจะได้มีเวลาตัดสินใจเลือกใครสักคน หรือไม่ก็เอาทั้งสองคน แต่หาใหม่ก็ดีนะ”
“แนะนำแต่ละอย่างนี่”
“เอ่อน่า ฝากให้คิดแค่นี้แหละบ่าย”จีจี้ถอนหายใจเฮือกใหญ่ เพราะก่อนหน้านี้รับโทรศัพท์จากเอและบอสให้ช่วยพูด แต่จีจี้ไม่รู้จะทำไงก็เลยแนะนำทีเดียวสองคน
อ้นกดวางมือถือปุ๊บก็มีสายเข้าทางไลน์วีดีโอคอลทันที อ้นรีบดูหน้าจอมือถือ ซึ่งไม่ใช่ใครแต่เป็นเพื่อนที่สนิทเป็นบางครั้ง
“ว่าไงจ๊ะอ้นเที่ยวเชียงใหม่สนุกไหม”ซันพูดขึ้นก่อน
“ก็ต้องสนุกซิเอตามไปด้วยนี่”ซีพูดต่อทันที
“รู้ได้ไง”อ้นอดสงสัยไม่ได้
ที่ซันและซีโทรมาหาอ้น เพราะตั้มและตูนขอร้อง ส่วนที่ตั้มและตูนที่ขอร้อง สาเหตุมาจากเอสั่งให้ตั้มและตูนเกลี่ยกล่อมซันกับซี ให้สนับสนุนเชียร์เอให้ชนะใจอ้น
“ตั้มกับตูนบอกใช่ไหม”
“ก็ประมาณนั้นแหละ”ซันพูด
“แล้วโทรมาทำไมมีเรื่องอะไร”
“ก็ไม่มีอะไรหรอก เธอรู้ไหมเจนน่ะไปทำงานภาคใต้แล้วนะ”
“รู้ จีจี้พึ่งบอก”
“ตัดหน้าเฉยนางจีจี้”ซันพูดความหมั่นไส้
“แล้วมาบอกเราทำไม”
“มีคนฝากให้บอก”
“ทำไมเขาไม่มาพูดเอง”
“ก็เธอไม่ยอมพูดกับเขานี่ แต่ฉันว่าเอเปลื่ยนไปเยอะนะ ขยันทำงานไม่เจ้าชู้ ช่วยเธอตอนหลงป่า หายยากนะผู้ชายแบบนี้น่ะ”
“มีเยอะแยะผู้ชายแบบนี้หาไม่ได้ยากหรอก”
“ยาก คนอย่างนี้มีคนเดียวในโลก”ซันพูด
“ได้เท่าไรบอกมา”
“เรื่องแบบนี้ทำด้วยใจจร้า เราอยากให้เพื่อนเจอคนดีๆไง เรื่องในอดีตก็ปล่อยมันผ่านไปเถอะ คนเรามันก็มีทั้งดีและไม่ดีปนกันไปเธอว่าไหม”
“จร้า คนโลกสวย แต่ฉันไม่โลกสวยกับเธอหรอก”
“เอาน่าฝากให้คิด ยามเธอลำบากในป่าใครล่ะดูแลเธอ ถึงบางครั้งจะโหดไปบ้าง แต่ก็มีโหมดน่ารักนะ”
“ไม่เคยเห็นโหมดน่ารัก”
“ถ้าเธอเปิดใจจะได้เห็น”
“ไม่เปิดหรอกแค่นี้แหละ”อ้นกดวางทันที
อ้นยังไม่ได้คิดอะไรต่อเลยแม้แต่น้อย เสียงโทรศัพท์ก็ดังขี้นอีกครั้ง ซึ่งในครั้งนี้เป็นวีณาเพื่อนสาวที่ทำงาน ก่อนที่อ้นจะลาออกทั้งสองสนิทกันพอสมควร แต่พักหลังนานๆจะโทรหากันที อ้นเลยแปลกใจไม่ได้ว่าวีณาโทรมาทำไม
“ฮัลโหล”
“อยู่ไหนเนี่ย”
“อยู่เชียงใหม่ ไมได้โทรหาเราตั้งนานแล้วจูจู่โทรมามีอะไรเหรอ”
“มีข่าวมาบอก”
“ข่าวอะไร”
“เธอรู้ไหม บี้เลขาของบอสน่ะโดนย้ายงานไปทำที่โรงงาน ไม่ได้เป็นเลขาของบอสแล้ว”
“ก็พอรู้”
“อ้าว ใครบอกเธอ บอสเหรอ”
“เปล่า”
“ก็นั่นแหละ บอสทำเพื่อเธอนะ บอสเกรงใจเธอมากเลยรู้ไหม ปกติบอสจะไม่ยอมเอาใจใครขนาดนี้เลยนะ เธอเป็นคนแรกของบอสที่เขาทำตามใจเธอ แสดงว่าบอสรักเธอมากเลย ถ้าบอสรักเรานะไม่มีวันปล่อยให้หลุดมือไปหรอก”
“ที่โทรมาเรื่องแค่นี้เหรอ”
“มีอีก ได้ข่าวคราวมาว่า บี้น่ะเป็นคนทำร้ายเธอ บอสโกรธมากเลย ไล่ไปทำงานที่โรงงาน ทีแรกจะไล่ออกและแจ้งความจับ แต่พ่อแม่ของบอสกับพ่อแม่ของบี้เขารู้จักกัน บอสเลยทำได้แค่นี้แหละ แต่ก็ถือว่าดีนะที่กล้าขัดคำสั่งพ่อกับแม่และพี่สาว นั่นแสดงว่าบอสเห็นความสำคัญของเธอมากเลย”
“นึกว่าอะไรมาอวยบอสนี่เอง”
“ไม่ได้อวยบอสเขาดีจริงๆเห็นชัดๆเธอก็น่าจะให้โอกาสบอสสักครั้ง เพราะไม่มีใครไม่เคยทำผิดหรอก ทุกคนล้วนเคยทำผิดพลาดมาด้วยกันทั้งนั้น แต่เมื่อรู้ตัวแล้วแก้ไขเธอก็ควรให้โอกาสเขานะ”
“เราง่วงนอนแล้วแหละ วันหลังค่อยคุยกันนะ”
“เดี๋ยวก่อนอีกนิดหนึ่ง วันรืนบอสจะต้องไปทำงานที่ต่างประเทศน่ะ สั่งให้เราจองตั๋วไว้สองใบ น่าจะจองไว้ให้เธอด้วยแหละ ถ้าเป็นเราดีใจตายชักเลยได้ไปเที่ยวกับบอส”
“ฮือ ถ้าไม่มีอะไรแค่นี้นะง่วงมากเลย”อ้นกดวางมือถือทันที
อ้นเข้าใจทันทีที่บรรดาเพื่อนโทรมาหาเขาไม่หยุดหย่อนก็เพราะสองหนุ่มนี่เอง อ้นทั้งรำคาญและแอบดีใจเล็กๆ แต่ก็ดีใจเล็กๆได้ไม่นาน แต่ครั้งนี้ไม่ใช่เสียงโทรศัพท์แต่เป็นเสียงเคาะประตูห้อง อ้นจึงรีบไปเปิดทันทีโดยไม่ทันได้คิดว่าเป็นใคร
“อ้นขอเข้าไปหน่อยนะ”บอสยืนนิ่งอยู่หน้าห้อง เพราะจ๊อบนั่งรถตุ๊กๆไปถนนคนเดิน เขาจึงกลับมาไวกว่าเอที่ขับบิ๊กไบค์ไป เพราะต้องเดินไปยังที่จอดรถก็ใช้เวลาพอสมควร
“มีอะไรเหรอบอส”
“ผมมีเรื่องจะคุยด้วย ให้ผมเข้าไปน่ะผมคุยไม่นานหรอก”
“ก็ได้”
อ้นเดินนำหน้าบอสมานั่งที่โซฟา ส่วนบอสก็นั่งข้างๆอ้น และจ้องมองหน้าอ้นด้วยสีหน้าสำนึกผิด
“ผมรู้ว่าทำให้อ้นเสียใจ ผิดหวังในตัวผม และผมก็ทำตัวไม่ดีจริงๆ”
“บอสเป็นบอสจะทำอะไรก็ได้”
“นั่นมันฐานะบอส แต่ที่ผมมานี่คุยกับอ้นในฐานะคนรัก”
“อ้นไม่อยากเชื่อ”
“ผมไม่รู้หรอกนะว่าบี้พูดอะไรกับอ้นไว้บ้าง แต่มันไม่สำคัญหรอกเพราะผมได้แก้ไขทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว รับรองจะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้อีก”
“หมดจากบี้ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีคนอื่นอีกนี่ เพราะแต่ละคนจะมาแนวที่ไม่ซ้ำกัน”
“ผมจะไม่ยุ่งกับใครอีก มันจะเกิดขึ้นได้อย่างไง”
“ได้สิ ถ้าคนคนนั้นเขาแอบรักบอส อยากได้บอสไว้ครอบครอง โดยที่เราสองคนไม่รู้ อ้นไม่อยากที่จะต่อสู้กับใครอีกแล้ว”
“อ้นไม่ต้องต่อสู้กับใคร ผมจะไม่ให้ใครมาทำร้ายอ้นอีกเด็ดขาด และผมจะระวังตัวไม่ให้เกิดอะไรขึ้นกับตัวผมด้วย กรณีของบี้ถือว่าเป็นบทเรียน ผมจะจำไว้และคอยเตือนตัวเองตลอด”
“บอสทำไม่ได้อย่างที่พูดหรอก”
“อ้นยังไม่ได้เปิดใจให้ผมอีกครั้งเลย อ้นจะรู้ได้ไงว่าผมทำไม่ได้”
“อ้นเหนื่อย อ้นบอกตรงๆ”
“ผมจะไม่ทำให้อ้นเหนื่อยอีกแล้วผมจะปรับปรุงตัวทุกอย่าง ผมจะตามใจอ้นทุกอย่าง อ้นไม่ต้องตามใจผมก็ได้”
“จะทำอย่างนั้นได้อย่างไร บอสเป็นถึงประธานบริษัท บอสจะมาทำอะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก บอสต้องเป็นตัวของตัวเองนั่นแหละดีแล้ว”
“ถ้าอ้นอยากผมเป็นแบบเดิมผมก็ทำได้ ขอให้อ้นยกโทษให้ผมและเรากลับมาอยู่ด้วยกันเหมือนเดิม เมื่อเหตุการณ์ของบี้ได้จบลง มันทำให้ผมได้รู้ใจตัวเองมากขึ้น ผมไม่สามารถที่จะรักใครได้นอกจากอ้น ที่บางครั้งผมเผลอไผลไปผมไม่แก้ตัว ผมยอมรับผิดแต่โดยดี แต่ก็หวังว่าอ้นจะให้อภัยผม เห็นแก่ความสัมพันธ์ที่เราเคยอยู่ด้วยกันมา”
“อ้นเข้าใจที่บอสพูด แต่อ้นยังไม่พร้อมมันไวเกินไปที่จะให้อ้นตัดสินใจทำอะไรสักอย่าง บอสต้องให้เวลาอ้นด้วย อ้นยอมรับนะอ้นโกรธบอสแต่อ้นก็ไม่ได้เกลียดบอส แต่เรื่องราวที่เกิดขึ้นมันทำให้อ้นบอบซ้ำพอสมควร อ้นต้องการเวลาบอสต้องเข้าใจอ้นด้วย”
“ผมเข้าใจอ้น ผมสามารถที่จะยกเลิกการเดินทางไปต่างประเทศได้ในวันมะรืน”
“บอสอย่าทำให้เรื่องเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่เลย อย่าเอาเรื่องงานมาปนกับเรื่องส่วนตัวซิบอส ถ้าทำแบบนั้นผลเสียตามมามหาศาลนะ”
“ผมไม่สน ผมสนแต่อ้น”
“บอส”
“อ้นเรากลับมาเป็นเหมือนเดิมนะ”
“ทำไมเดี๋ยวนี้บอสเข้าใจอะไรอยากจัง”
“ไม่ยากหรอกถ้าอ้นให้โอกาสผมอีกครั้ง”
“คืออ้น”อ้นคิดไม่ตกและไม่อยากที่จะให้บอสเสียงานเพราะตัวเอง แต่ถึงอย่างนั้นอ้นก็ยังตัดสินใจอะไรไม่ได้
“อะไรอ้น”
“ก็ได้”
“อ้นให้โอกาสผมใช่ไหม”จ๊อบดีใจยิ้มอย่างเบิกว้าง
“ไม่ใช่ อ้นขอเวลาคิดสักหนึ่งคืนจะได้ไหม”
“ก็ได้”จ๊อบมีสีหน้าที่ผิดหวัง แต่เขาก็ยังถือว่าอ้นยังไม่ได้ปฏิเสธนั่นแสดงว่าเขายังมีความหวัง
“อ้นง่วงนอนแล้ว”อ้นแกล้งหาวนอน
“ผมไม่รบกวนอ้นแล้วนะ พรุ่งนี้ผมจะรอคำตอบจากอ้น”
“ฮือ”อ้นพยักหน้า ที่อ้นพูดแบบนั้นเพราะมีแผนที่จะหนีไปจากที่นี่แต่เช้ามืด
จ๊อบเดินออกจากห้องของอ้น ด้วยใจที่ยังมีความหวังอยู่พอสมควร แต่อ้นนั้นยิ่งเครียดหนักไปใหญ่ เขาทั้งสงสารและเห็นใจจ๊อบ แต่อีกใจก็กลัวคนรอบกายของจ๊อบ ที่ล้วนจะทำลายและทำร้ายอ้นได้ทุกเมื่อเชื่อวัน
จ๊อบออกจากห้องของอ้นไปได้ไม่นาน เสียงเคาะประตูรัวๆก็ดังขี้นไม่หยุด ด้วยความรำคาญอ้นจึงเปิดออกดูว่าเป็นใคร เพียงแง้มประตูเท่านั้นแหละ เอก็ผลักประตูเข้ามาทันทีและเดินนำหน้าอ้นไปนั่งที่โซฟา อ้นถึงกับยืนงงด้วยพฤติกรรมของเอ “มานั่งใกล้ๆนี่ มีเรื่องจะคุยด้วย” อ้นเดินอย่างช้าๆและนั่งลงข้างๆเอที่มีสีหน้าดูเคร่งเครียดพอสมควร ก่อนที่เอจะพูดอะไรออกมาเขาได้กัดริมฝีปากตัวเองเบาๆ “กูมีเรื่องจะคุยกับมึง” “มีอะไร” “ตอนนี้กูไม่มีพันธะ ไอ้เจนมันไปทำงานที่ภาคใต้แล้ว” “รู้แล้ว” “รู้แล้วก็ดีมึงจะได้สบายใจ” “เจนจะไปไหนอยู่ไหนมันก็ไม่เกี่ยวกับเรานี่” “เกี่ยวซิ ถ้าไอ้เจนมันยังพัวพันกับกู ถึงกูจะไม่ได้รักมัน แต่มึงก็จะคาใจกูอยู่” “เราจะคาใจนายทำไม ในเมื่อเราไมได้เป็นอะไรกันนี่” “มึงก็รู้ดีแกใจ มึงกับกูมีอะไรกันตั้งสองครั้ง ในป่าครั้งหนึ่ง ที่บ้านกูอีกครั้งหนึ่ง” “จะพูดทำไม เรื่องมันผ่านมาแล้ว”อ้นรู้สึกกระดากใจพอสมควรที่ได้ยินคำพูดนี้จากปากของเอ “ยังไม่รวมต
ช่วงเวลาแห่งความสุขบนดอยอินทนนท์ผ่านเป็นอย่างรวดเร็ว เอได้พาอ้นมาที่บ้านไร่ที่เขาอาศัยอยู่ ในนาทีนี้ที่เขาอยู่กันเพียงสองคนในห้องไม่ใหญ่มาก แต่เต็มไปด้วยความรักที่ยิ่งใหญ่ อ้นนั้นแสนดีใจหาใดเปรียบ การตัดสินใจในครั้งนี้ของอ้นก็เหมือนกับเสี่ยงดวงเหมือนกัน เพราะเขาก็ยังไม่แน่ใจว่าเอจะดีอย่างปากพูดไว้หรือเปล่า ในห้องนอนวันแรกที่มาอยู่บ้านไร่ของเอ อ้นนอนเล่นโทรศัพท์มือถือคุยกับเพื่อนรักอย่างจีจี้ เมื่อเอเดินออกมาจากห้องน้ำ เขารู้สึกไม่พอใจอ้นเล็กน้อย เพราะไม่ยอมสนใจเขาอย่างที่ควร เอจึงขึ้นไปบนเตียงและนอนข้างๆอ้น มีท่าทีที่กระฟัดกระเฟียด “ผัวนอนอยู่ทั้งคนยังคุยกับคนอื่นอีก” “ไม่ใช่คนอื่นเพื่อนเราเองจีจี้ไง นายจำไม่ได้เหรอ”อ้นเลิกกดส่งไลน์จีจี้ทันที “จำได้ แต่มันใช่เวลาไหมที่จะคุยกัน ตอนนี้เราต้องทำอะไรบางอย่าง” “ทำอะไรล่ะ” “ก็อย่างนี้ไง” เอพลิกร่างตะแครงก้มลงจูบที่ริมฝีปากของอ้น เขาใช้ปลายลิ้นซอนไซร้เข้าไปภายใน ส่วนอ้นก็สมยอมแต่โดยดีโอบกอดผิวเรือนกาย ไร้อาภรณ์ของเออย่างเร่าร้อน เอถอนริมฝีปากออกมาไซร้ซอกคอทุกมุม ตอห
อ้นตื่นนอนมาเขาก็ไม่เห็นเอนอนอยู่บนเตียง เขาจึงเข้าไปอาบน้ำและแต่งตัวลงมาด้านล่าง เพียงแค่ลงมาเขาก็เห็นอาหารวางไว้เต็มโต๊ะ อ้นเดินเข้าไปดูซึ่งเป็นอาหารดีๆทั้งนั้น เขายืนยิ้มในความเอาใจใส่ของเอ “น่ากินทั้งนั้นเลย”อ้นตักข้าวใส่จานและนั่งลง อ้นค่อยๆกินข้าวอย่างช้าๆพร้อมกับคิดถึงเอตอนทำกับข้าว เขาถึงกับหัวเราะเบาๆจากหนุ่มห่ามกลายมาเป็นพ่อบ้านพ่อเรือน อ้นกินข้าวจนอิ่มถึงสองจานเพราะรสมือของเอนั้นเลิศรสยิ่งนัก เมื่ออ้นกินข้าวอิ่มเขาจึงเดินออกไปนอกบ้าน มองไปรอบๆซึ่งมีแต่ไร้ข้าวโพด เขายังจำวันที่เอลากไปช่วยหักข้าวโพดได้ อ้นถึงกับยิ้มออกมา “ยิ้มอะไรครับ”เพื่อนของเอที่เคยไปช่วยอ้นในป่า เดินเข้ามาใกล้ๆอ้น “คิดอะไรเรื่อยเปื่อยเลยยิ้ม มาหาเอเหรอ สงสัยไปที่ไร่น่ะ” “ใช่ครับมาหาเอ ผมนิกจำผมได้ไหม”นิกยิ้มจนเห็นไรฟัน “ทำไมจะจำไม่ได้คนที่เคยใช้อ้นไว้ไงที่กลางป่า” “ดีจังที่จำผมได้ ผมก็นึกว่าอ้นลืมผมซะแล้ว” “จะลืมผู้มีพระคุณได้ไง”อ้นยิ้มหวานให้นิกเพื่อนของเอ “แล้วมาหาเอมีธุระอะไรหรือเปล่า”
อ้นนั่งๆนอนอยู่บ้านเฉยๆจึงเกิดความเบื่อหน่าย และเป็นช่วงเวลาใกล้เที่ยงเขาจึงตักข้าวใส่ปิ่นโต พร้อมกับข้าวสามขนมหนึ่ง หลังจากนั้นอ้นจึงเดินออกไปไร่ข้าวโพดเพื่อไปหาเอแฟนหนุ่ม อ้นพอจำทางได้บ้างเมื่อครั้งโดนเอจับมาไว้ที่บ้านปลายไร่ เขาเดินไปเรื่อยๆจนเห็นไร่ข้าวโพด อ้นมองเห็นร่างผู้ชายสองคนอยู่ใต้ต้นไม่ใหญ่ท้ายไร่ อ้นจึงเดินต่อไปเพราะเขาจำร่างของเอได้ ยิ่งอ้นเดินเข้าไปใกล้ๆ เขาค่อนข้างแน่ใจว่าเป็นเอ แต่ผู้ชายอีกคนอ้นคิดว่าไม่รู้จักแน่ๆ แต่อ้นคิดว่าน่าจะเป็นเพื่อนของเอ อ้นจึงไม่ได้ใส่ใจหรือสนใจอะไรไปมากกว่านี้ เขาจึงรีบเดินไปให้ถึงต้นไม้ใหญ่ไวๆ เพราะแดดค่อนข้างร้อนพอสมควร ถึงเขาจะใส่หมวกมาก็ตามที ซึ่งไม่ได้ช่วยอะไรได้มากนัก เมื่ออ้นเดินไปถึง สิ่งที่เขาเห็น เอกำลังนั่งกินข้าวหัวเราะต่อกระซิบกับชายหนุ่ม ซึ่งเขาไม่ได้สนใจอะไรนึกแค่ว่าเพื่อน “คุยอะไรกันสนุกเชียว”อ้นยืนอยู่ข้างหลังเอ “อ้าวมาได้ไง”เอมีสีหน้าตกใจเล็กน้อย “ใครเหรอ”ชายหนุ่มเสียงนุ่มนิ่มเอ่ยขึ้น “อ้นเพื่อนกูเอง”เอหันมามองชายหนุ่ม “นี่นินเพื่อนกูสมัยเรียนอนุบาล”เ
เอรีบเข้าไปอุ้มร่างของอ้นทันที ส่วนอ้นยังทุบหน้าอกของเอไม่ยั้ง แต่แบบออมแรงไม่ทุบแรงอย่างครั้งแรก และก็ดิ้นให้น้อยลงนิดหน่อย เออดทนรีบพาอ้นเข้าไปในรถยนต์ของเขา เมื่ออ้นเข้าไปในรถแล้ว เขาก็นั่งนิ่งๆไม่มีท่าทีจะไปไหน พอเอขึ้นรถมาเท่านั้นแหละ อ้นหันหน้าไปทางอื่นแล้วอมยิ้ม แต่อ้นอารมร์ดีได้ไม่นานเพราะเสียงโทรศัพท์มือถือของเอดังขึ้น เอจึงรีบควักโทรศัพท์มือถือออกมารับทันที “ว่าไง” “ตามอ้นเจอไหม” “เจอแล้วอยู่บ้านนิก” “เราขอโทษนายด้วยนะที่ทำให้ผิดใจกับอ้น”น้ำเสียงของนินบ่งบอกถึงความผิดหวัง “ไม่เป็นไรแค่นี้นะ” “ฮือ” เอกดวางมือถือแล้วหันมามองหน้าอ้น ที่กำลังบึ้งตึงอีกครั้ง เพราะอ้นคาดเดาได้ว่าเป็นเสียงของนินโทรมา “เป็นอะไรอีกล่ะ” “ไปส่งเราที่ขนส่งด้วยเราจะกลับกรุงเทพ” “กลับไปหาไอ้บอสของมึงเหรอ”เอเริ่มรู้สึกโมโหที่อ้นเอาแต่ใจมากขึ้น “ใช่” “ไอ้อ้น มึงอยากโดนอีกใช่ไหม” “โดนอะไร” “กระท่อมปลายไร่ ไปอยู่ในนั้นอีกครั้งไหม”
วันนี้อ้นแกล้งตื่นสาย เพราะอยากรู้ว่าเอจะอยู่บ้านหรือว่าแอบไปไหนหรือเปล่า เมื่อเขาแต่งตัวเสร็จจึงลงมาข้างล่าง แล้วสิ่งที่อ้นเห็นนั้นทำให้เขาปวดใจยิ่งนัก เพราะภาพตรงหน้าเอกำลังนั่งโซฟาคุยกับนิน มีรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของทั้งสอง อ้นถึงกับของขึ้นอารมณ์ฉุนเฉียวมาทันที เขารีบเดินลงบันไดแล้วเดินไปหาเอ “คุยอะไรกัน”อ้นเอ่ยขึ้น “คุยเรื่องสมัยเรียนตอนมัธยม คิดถึงวันนั้นมากเลย เอชอบแกล้งเรานะ ไม่คิดเลยว่าโตมาจะเป็นคนละคน”นินยิ้มให้เอ “ใช่ โตแล้ว มีแฟนแล้วด้วย ยืนอยู่ตรงนี้”อ้นยืนกอดอก “เหรอ แฟนเอใช่ไหม” “เอ่อ ใช่ แฟนเราเอง”เอตอบอย่างหนักแน่น “เอ”นินอ้าปากค้างตาโต เพราะเขาไม่อยากได้ยินคำนี้ ถึงแม้เขาจะรู้ระแคะระคายมาบ้างนิดหน่อย แต่นินยังไม่เชื่อจนได้ยินจากปากของเอ เขาถึงกับอึ้งทำอะไรไม่ถูก “ได้ยินชัดแล้วใช่ไหม”อ้นนั่งลงข้างๆเอพร้อมยิ้มให้นิน “ได้ยินแล้ว แต่เราเป็นเพื่อนเอนี่ จะไปหามาหาสู่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก” “แปลกซิ ถ้านายเป็นแบบนิก เราไม่ว่าอะไรหรอก แต่นี่นายเหมือนเรา อย่าคิดว่าเราไม่รู้น
อ้นและเอใช้ชีวิตอยู่บ้านไร่มาร่วมเดือน จนพ่อแม่ของเอเกิดความสงสัย เพราะพ่อแม่ของเอแค่นึกว่าอ้นมาเที่ยวหา แต่นี่อยู่ร่วมเดือนยังไม่กลับไป ทั้งสองจึงอยากเห็นหน้าและพูดคุย ด้วย พ่อแม่ของเอไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว เขาทั้งสองไปอยู่กับพี่สาวคนโตในจังหวัดอื่น และอีกอย่างที่ทั้งสองมาเพราะคิดถึงลูกชายคนเดียวของพวกเขา เมื่ออำพลกับบังอรมาถึงเขาก็เห็นภาพอันบาดตา เป็นภาพที่เขาทั้งสองไม่คาดคิดว่าจะได้เห็น เพราะเป็นภาพที่เอนอนบนตักของอ้น และที่หนักไปกว่านั่นเขาจับมือของอ้นมาดมและหอมอตลอดเวลา “ไอ้เอมึงทำอะไรของมึง”กำพลเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าไม่พอใจอย่างยิ่ง “เอ หรือว่าลูกเป็น เอ่อ”บังอรใช้มือทาบอกด้วยความตกใจ เอรีบกระดกตัวลุกขึ้นทันที เขามีสีหน้าที่ไม่สู้ดีทันที ส่วนอ้นยังไม่เท่าไรแค่แปลกใจ ทำไมพ่อแม่ของเอมาไม่บอกล่วงหน้าแค่นั้น “พ่อแม่”เอลุกขึ้นยืนนิ่ง “สวัสดีครับพ่อแม่”อ้นยกมือไหว้ทันที “พวกเอ็งเป็นอะไรกันถึงมานอนหนุนตักหอมไม้หอมมือกัน อย่างกับเป็นคู่รักกันอย่างนั้นแหละ” “คือว่า พ่อกับแม่ คือผม เอ่อ อา อือ อู คือ
พงศกรมองหน้าเอด้วยความไม่พอใจยิ่งนัก เพราะเอดูไม่เรียบร้อยห่ามเถื่อนจนเกินไป เขาชอบผู้ชายที่ดูสุภาพอย่างจ๊อบ “ไอ้อ้น มึงพาแฟนกลับไปด้วยเลย กูไม่อยากเห็นหน้ามัน” “พ่อแฟนอ้นนะ” “กูรู้แล้วว่าแฟนมึงกูก็ไม่ได้ห้ามว่ามึงอย่ามีแฟนนี่ แต่ให้หาที่ดีกว่านี้หน่อยไม่ไม่เหรอ เอาผีบ้าผีบอจากที่ไหนมาเนี่ย” “ผมไม่ใช่ผีบ้าผีบอนะครับ ผมเป็นคนเหมือนพ่อนั่นแหละ วันนี้เดี๋ยวผมจะทำกับข้าว ซักผ้าถูกบ้านให้เอง เอ่อ เดี๋ยวจะไปถางหญ้าหวดทีทำทุกอย่างให้สะอาดเลย พ่อรออยู่นี่แหล่ะ” “อ้นคุยกับพ่อแม่ไปนะ เดี๋ยวเราจะไปทำงานบ้านและนอกบ้าน” เมื่ออ้นพูดเสร็จเขาก็เข้าไปในครัวทำกับข้าว ที่เขาซื้อเตรียมพร้อมไว้ เพราะเขาตั้งใจไว้ว่าจะต้องชนะใจพ่อตาให้ได้ ส่วนแม่ยายเอ้นคิดว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร “ไอ้อ้น แฟนเองมันเพี้ยนแม่ว่า” “แม่ เอก็แบบนี้แหละ แต่เขาดูแลอ้นดีมากเลย ข้อสำคัญเขามีเวลาอยู่กับอ้นตลอด” “มีเวลาไม่มีประโยชน์ดูมึงดำไปมากเลย ไปอยู่กลางไร่กลางนามาแน่เลย” “ครับพ่อ” “นั่นไง กูเลี้ยงของกูไม