แชร์

นายตัวร้ายกับหนุ่มดอกไม้
นายตัวร้ายกับหนุ่มดอกไม้
ผู้แต่ง: ต๋อง น่ะ

ครั้งแรกก็ถูกใจ

ช่วงหลังเลิกเรียนมักจะมีความวุ่นวาย ของบรรดานักศึกษาชายหญิง ยิ่งสถาบันการศึกษาที่อยู่ติดกันด้วย แต่ยังดีที่สองสถาบันนี้ไม่มีเรื่องกระทบกระทั่งกัน เพราะเป็นการแยกระหว่างชายหญิงเลยก็ว่าได้ สถาบันแห่งหนึ่งเป็นวิทยาลัยเทคโนการช่างที่ส่วนใหญ่มีแต่ผู้ชาย ส่วนอีกแห่งเป็นวิทยาลัยพาณิชย์ที่ส่วนใหญ่มีแต่ผู้หญิง ผู้ชายก็มีแต่เป็นส่วนน้อย และเป็นส่วนน้อยที่ไม่มีการทะเลาะวิวาทกับสถาบันอื่น

และการจราจรหน้าสถาบันสองแห่งนี้ ก็เริ่มติดขัด เพราะบรรดานักศึกษาเริ่มทยอยกลับบ้าน เฉกเช่นเดียวกับอ้นนักศึกษาพาณิชย์ปี3 ที่ค่อยๆขับมอเตอร์ไซค์ออกจากวิทยาลัยและขับผ่านหน้าวิทยาลัยเทคโนการช่าง ที่มีแต่กลุ่มเด็กช่างจับกลุ่มคุยกัน เสียงดังแข่งกับเสียงรถที่แล่นผ่าน

อ้นพยายามที่จะไม่มองสองฝากฝั่ง เพราะกลัวเด็กช่างหาว่ามองหน้า เดี๋ยวจะถูกรุมทำร้ายโดยไม่รู้ตัว ซึ่งบรรดาหนุ่มในอาชีวะรู้ข้อนึ้เป็นอย่างดีทุกคน

อ้นได้ขับรถมอเตอร์ไซค์เลยวิทยาลัยเทคโนการช่างมาพอสมควร เขาจึงเริ่มเบาใจแต่แล้วกลับมีสิ่งที่ทำให้เขาตระหนกตกใจจนได้ เพราะหนุ่มเทคโนวิ่งตัดหน้ารถมอเตอร์ไซค์ของเขา อ้นเบรครถกะทันหัน จึงทำให้ล้อหลังปัดจนเกือบล้ม แต่ก็ยังดีที่รีบนำขาลงยันพื้นไว้

ส่วนหนุ่มเทคโนที่วิ่งตัดหน้ารถของอ้น เขาหยุดวิ่งหันมองหน้าอ้นแว่บหนึ่ง และหันกลับไปมองข้างหลังซึ่งสิ่งที่เขาเห็น คือคู่อริห้าถึงหกคนกำลังจะวิ่งข้ามถนนมาหาเขาเพื่อทำร้ายร่ายกาย ในช่วงเวลานั้นหนุ่มเทคโนคิดหาทางหนี พอเขาหันหน้ากลับมา ก็เห็นอ้นกำลังจะเร่งเครื่องรถขับออกไป หนุ่มเทคนิคจึงรีบเดินอ้อมไปข้างรถมอเตอร์ไซค์ของอ้น และคร่อมท้ายรถทันทีส่วนสองมือจับที่บ่าอ้นไว้

"ขับออกไปเลยเร็วๆ" หนุ่มเทคโนพูดเสียงดังจนนนท์ทำอะไรไม่ถูก

"ลงไปจะขึ้นมาทำไม"อ้นไม่ยอมขับรถออกไป

"ไม่ลง พาหนีไปทีถ้าไม่พาไปกูจะบอกพวกนั้นมึงเป็นเพื่อนกู" ใจของหนุ่มเทคโนร้อนรน เพราะคู่อริใกล้ประชิดเข้ามา

ส่วนอ้นทั้งตื่นตระหนกและกลัวจนทำอะไรไม่ถูก หนุ่มเทคนิคเห็นท่าไม่ดีเพราะอ้นนิ่งเฉยไม่ยอมออกรถสักที เขาจึงตัดสินใจเขยิบร่างดันให้อ้นไปข้างหน้า ส่วนสองมือของเขาเอื่อมไปจับที่คันเร่งและบิดออกไปอย่างรวดเร็ว

อ้นเจอหนุ่มเทคโนดันร่างจนเกือบตกเบาะ และแผ่นอกหนุ่มเทคโนประชิดแผ่นหลังเขา

"ก้มหัวลงหน่อย"หนุ่มเทคโนสั่งด้วยเสียงห้วน

อ้นทำตามอย่างว่าง่าย และเขาต้องบีบร่างกายให้เล็กลงอีก เพราะตัวของอ้นอยู่ในวงแขนของหนุ่มเทคโนที่โอบเขาไว้ ยิ่งหนุ่มเทคโนขับเร่งความเร็วขึ้นมากเท่าไร อ้นใจหายใจคว่ำจนเกือบจะช็อค

"ขับช้าๆหน่อยๆเดี๋ยวรถล้ม"อ้นตะโกนแข่งกับเสียงรถ

"หุบปากถ้าไม่อยากเจ็บตัว"

อ้นถึงกับหุบปากทันทีด้วยความกลัว และยิ่งมาเจอเหตุการณ์แบบนี้อีก ส่วนหนุ่มเทคโนมองดูที่กระจก และเขาไม่เห็นคู่อริแล้วจึงเริ่มผ่อนความเร็วรถลง แต่เขาก็ยังไม่วางใจซะทีเดียว และคิดว่าคืนนี้จะยังไม่กลับหอพัก เพราะกลัวคู่อริรอบดักทำร้ายตอนที่เขากลับหอพัก เขาจึงพยายามคิดหาวิถีทางเพื่อหลบซ่อนตัวสักคืน

"พวกนั้นไม่ตามมาแล้ว "อ้นพูดขึ้นหลังจากมองที่กระจกรถ และไม่เห็นคนกลุ่มนั้นตามมา

"มึงพักที่ไหนเดี๋ยวขับไปส่ง"หนุ่มเทคโนพูดโดยลดความห้วนลง

"ไม่ต้องก็ได้ จอดตรงนี้แหล่ะเดี๋ยวกลับเอง"

"กูบอกว่าจะไปส่งฟังไม่รู้เรื่องเหรอ"

อ้นคิดในใจรถก็ของเขา และหนุ่มเทคโนมีสิทธิ์อะไรจะไปส่งเขา แต่ด้วยความกลัวอ้นจึงยอมและบอกทางกลับห้องพักของเขา ในระหว่างทางหนุ่มเทคโนได้คิดไว้ ถ้าเกิดอ้นให้พักด้วยจะดีทีเดียว เขาก็จะขออาศัยสักคืนหนึ่ง รุ่งเช้าค่อยกลับ

เมื่อหนุ่มเทคโนมาถึงที่หมายตามที่อ้นบอก เขาก็รู้ได้ทันทีว่าอ้นอยู่หอพัก หนุ่มเทคโนจึงเริ่มคิดแผนการณ์ทันที่ เมื่อจอดรถหน้าหอพักของอ้น ซึ่งเป็นตึกสามชั้น มียามเฝ้าประตูและน่าจะมีคีย์การ์ด ซึ่งจะปลอดภัยมากสำหรับเขา

"ถึงแล้ว นายกลับไปเลย"อ้นรีบลงรถเพื่อออกจากอ้อมแขนของหนุ่มเทคโน

"มึงพักคนเดียวเหรอ"

"ถามทำไม"

"ก็อยากรู้นี่"หนุ่มเทคโนเริ่มเสียงอ่อนลง เพราะเขาเริ่มสังเกตุอ้นเพิ่มขึ้น และได้เห็นว่าอ้นเป็นผู้ชายสไตส์น่ารัก ผิวขาวหน้าใสๆการพูดจาเรียบร้อย และข้อสำคัญเป็นนักศึกษาพาณิชย์ที่ผู้ชายจริงๆเรียนไม่มากนัก

"จะรู้ไปทำไม ส่งเสร็จก็กลับได้แล้ว"

"ยังกลับไม่ได้ ไม่รู้ว่าพวกนั้นดักรอตรงไหนบ้าง ต้องดึกๆก่อนค่อยกลับ"ในความคิดของหนุ่มเทคโนอยากจะค้างสักคืนหนึ่ง

"แล้วแต่นาย เราจะขึ้นห้อง"อ้นรีบล็อครถและหันหลังกลับ เพื่อที่จะเข้าไปในหอพักของเขา

"เดี๋ยวก่อน"หนุ่มเทคโนเดินไปดักหน้า

"มีอะไรอีก"

"อยากรู้จักชื่อ"หนุ่มเทคโนแกล้งยิ้ม

"อ้น"อ้นคิดในใจว่าจะถามทำไมเดี๋ยวก็ไม่ได้เจอกันแล้ว แต่ที่ตอบไปเพื่อตัดความรำคาญ

"เราชื่อเอ ขอบใจมากนะที่ช่วยไว้"

"ฮือ"อ้นพยักหน้าแล้วเบี่ยงตัวเดินหลบเอหนุ่มเทคโน และรีบเร่งฝีเท้าเพื่อเข้าหอพัก

ส่วนต้นก็กำลังใช้ความคิดอย่างหนักที่จะใช้วิธี ที่จะขอนอนค้างกับอ้นสักคืน เพราะเขาต้องใช้วิธีหว่านล้อมจะมาใช้การขู่บังคับก็ไม่ได้ เพราะเป็นถิ่นของอ้น แค่ตะโกนคำเดียวยามก็พร้อมวิ่งมาช่วยอ้น

"อ้น"เอ ตะโกนเรียกพร้อมวิ่งตาม ส่วนอ้นก็หันหน้ามาพร้อมความรำคาญ

"อะไรอีก"

"คือเรา"เขาหยุดใช้ความคิดและรีบเปลื่ยนสรรพนาม เพราะถ้าใช้มึงกู อ้นคงยากที่จะให้พักด้วย

"มีอะไรก็พูดมา"อ้นรู้สึกแปลกใจกับน้ำเสียงที่เปลื่ยนไป เพราะมีนนุ่มขึ้นและการแทนตัวเองก็น่าฟัง

"คือเราอยากหลบที่นี่สักพัก พอดึกๆเดี๋ยวเราก็กลับ"เอพยายามพูดให้น้ำเสียงอ่อนหวานให้มากที่สุด

"ไม่ได้ เราไม่เคยรู้จักกัน จะมาขออยู่ได้อย่างไง"อ้นรีบปฎิเสธทันที เพราะกลัวจะมีปัญหาตามมา

"ถ้านายไม่ให้เราหลบอยู่ที่นี่ เราไปก็ได้แต่ถ้าเราโดนพวกนั้นทำร้ายจนบาดเจ็บหรือตาย นายก็มีส่วนด้วยแหล่ะ "อ้นแกล้งหันหลังกลับและค่อยๆเดิน ในใจก็คิดว่าเมื่อไรจะเรียกซะที

ส่วนอ้นยืนครุ่นคิด ถ้าเกิดเอเป็นอะไรไป เขาก็จะรู้สึกผิดทันที ที่ไม่ช่วยต้นให้ตลอดรอดฝั่ง และข้อสำคัญเขาเป็นคนพาต้นขึ้นรถมา ถ้าเกิดเหตุอะไรขึ้นเรื่องวุ่นๆก็จะตามมา

"เอ"อ้นตะโกนเรียกและเดินไปหาเอ

"อะไร"เอหยุดเดินและอมยิ้ม หลังจากนั้นเขาก็หันหน้ามาอย่างช้าๆ พร้อมตีหน้าเศร้าหงอยเหงา

"คืนนี้พักกับเราก็ได้ พรุ่งนี้เช้าค่อยไป"อ้นฝืนพูดและไม่มีรอยยิ้มใดๆเกิดขึ้นบนใบหน้า ถึงแม้ต้นจะเปลื่ยนตีหน้าเศร้าเป็นยิ้มหวานก็ตาม

ถึงอ้นจะไม่ยิ้มตอบแต่เอก็ไม่สน เพราะคืนนี้มีที่หลบคู่อริแล้ว เขาจึงรีบเดินไปข้างๆอ้น และพยายามชวนอ้นคุยแต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับจนกระทั้งเข้าไปในห้องจึงได้ยินเสียงของอ้น

"ตามสบายนะ"อ้นพูดขึ้น

"ขอบใจมากนะ"เอมองไปรอบๆห้องที่ดูสะอาดตา ที่มีเตียงนอนพอนอนได้สองคน มีตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งพร้อม ส่วนทีวีอยู่ปลายเตียง ตู้เย็นอยู่ตรงข้างประตูทางเข้า และมีระเบียงไว้ตากผ้าหรือนั่งเล่นก็ได้ ซึ่งแตกต่างจากห้องของเขาที่อยู่กับเพื่อนสามคน แต่ในห้องไม่มีอะไรเลยนอกจากพัดลมขนาดเล็กตัวเดียว

"ห้องน่าอยู่มากเลย"เอพร้อมกับนั่งลงบนเก้าอี้โต๊ะเครื่องแป้ง ซึ่งในระหว่างนั้นอ้นก็นำน้ำเปล่ามาให้เอดื่ม ส่วนตัวของเขาก็นั่งลงบนเตียงนอน

"ขอบใจมากนะ"เอยิ้มหวานให้อีกครั้ง แต่ก็ยังไร้รอยยิ้มตอบกลับ

"นายกับพวกนั้นไปมีเรื่องอะไรกัน"อ้นชำเลืองมองต้น

"เราไม่ได้มีเรื่องกับมันหรอก แต่พวกมันมีเรื่องกับเพื่อนเรา และพวกมันตามมาหาเรื่อง"

"เพื่อนนายหายไปไหน"อ้นถามด้วยความสงสัย

"ก็ไม่รู้ต่างคนต่างหนี"

"ดีหนอ"อ้นทำน้ำเสียงประชด

"แหม ลูกผู้ชายก็แบบนี้แหล่ะ"

"ไม่จำเป็น ต้องทำแบบนี้หรอกลูกผู้ชายน่ะ"

"แล้วจะให้ทำแบบไหนล่ะเอจ้องมองอ้นด้วยสายตาฉ่ำวาว

"มองอะไร"อ้นรู้สึกแปลกๆที่เจอสายตาของต้นจ้องมองเป็นเวลานาน

"มองคนน่ารัก"

อ้นรู้สึกเขินนิดหน่อยที่ถูกชมต่อหน้า แต่เขาก็แสร้งแก้เขินโดยการลุกขึ้นยืน

"เราจะซักผ้าแล้วนะ นายจะซักไหมพรุ่งนี้จะได้มีเสื้อผ้าใส่ไปเรียน"นนท์เดินไปที่ตู้เสื้อผ้า เพื่อนำเสื้อผ้าและผ้าเช็ดมาให้ต้นเปลื่ยน

"เอ้า เสื้อกับกางเกงเอาไว้เปลื่ยน แล้วก็ไปอาบน้ำเราจะซักผ้า" อ้นยื่นเสื้อผ้าให้เอ

"ไม่ต้องเปลื่ยนก็ได้ อยู่ห้องเราก็แก้ผ้านอนทุกคืนอยู่แล้ว"เอยิ้ม

"นั้นมันห้องนายนี่มันห้องเราถ้าไม่ใส่ก็กลับไป"ในใจของอ้นตอนนี้รู้สึกว้าวุ่นอย่างบอกไม่ถูก ลึกๆของเขาแล้วก็อยากเห็นผู้ชายแก้ผ้าต่อหน้าเหมือนกัน

"ได้สิ แล้วแต่คำสั่ง"เมื่ออ้นรับเสื้อกางเกงมาก็นำมาวางไว้ บนเก้าอี้โต๊ะเครื่องแป้งส่วนนนท์ก็วุ่นเก็บเสื้อผ้าที่ใส่แล้วเพื่อที่จะนำไปปั่นเครื่องหยอดเหรียญ ที่อยู่ชั้นล่างของหอพัก

เมื่ออ้นเก็บเสื้อผ้าใส่ตะกร้าเรียบร้อยแล้ว ก็จะหันมาบอกเอว่า ที่เขาจะลงไปซักผ้าชั้นล่างของหอพัก แต่ก็ต้องสะดุดตาสะดุดใจ กับร่างกายเปลือยท่อนบนที่มีมัดกล้ามพอประมาณ ส่วนท่อนล่างมีเพียงกางเกงในตัวจิ๋วห่อหุ้มอยู่ อ้นรีบหันข้างและชำเลืองมองบริเวณส่วนที่พองนูน ส่วนเอพอสังเกตเห็นอากัปกิริยาของอ้น เขาจึงแกล้งเดินมาตรงหน้าของอ้น

"ซักกางเกงในให้ด้วยไหมเราจะถอดให้"

*ไม่ต้องนายซักเองซิ"อ้นรีบเดินไปหยิบเสื้อกางเกงที่ต้นกองไว้กับพื้น นำมาใส่ไว้ในตะกร้า

"เราจะไปซักผ้าข้างล่างนะ แล้วเราจะไปซื้อข้าวด้วย "อ้นพูดจบก็รีบเดินไปเปิดประตู และออกจากห้องไปในทันที ส่วนเอก็ยืนกอดอกอมยิ้มพร้อมกับเดินเข้าไปในห้องน้ำ

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status