ยามรุ่งอรุณวันใหม่เอได้มายืนอยู่หน้าบ้าน เพื่อส่งเจนที่กำลังจะกลับบ้านแต่เช้าตรู่ ซึ่งเจนก็ลีลาแกล้งอยากจะกลับใจจะขาด แต่ก็ยังไม่กลัวซักทีเพราะเขาอดคิดถึงเอไม่ได้ เพราะความรักของเขากำลังเริ่มก่อตัวขึ้นเรื่อยๆ จนแท่บจะหักห้ามใจไม่ได้ในช่วงเวลานี้
“มึงนี่ลีลาอยู่นั่นแหละ นั่งบนรถจนขาถ่างหมดแล้วมั้ง”
“กูคิดถึงมึงไม่อยากไปเลยวะ”
“ไอ้เจนมึงเป็นบ้าเป็นบออะไร ทีตอนเรียนมึงไม่เห็นหัวกูเลยนะ ที่ตอนนี้มาพูดนั่นพูดนี่อยู่ได้”
“กูก็เอ่อ ไม่มีอะไรหรอก”เจนอยากจะพูดว่ากูรักมึงแต่ใจก็ไม่กล้า
“ไปได้แล้วไอ้เจนมือถือก็มีเดี๋ยวค่อยคุยกัน”
“มึงสัญญากับกูแล้วนะโว้ย”
“เอ่อน่า”
“ถ้างั้นกูไปแล้วนะ”
“โชดดีเพื่อนรัก”
“เช่นกัน”
เจนตัดใจครั้งสุดท้ายโดนไม่หันมามองหน้าเอ เขาสตาร์ทรถและขับไปในทันที ส่วนเอก็ยืนมองด้วยสายตาที่ว่างตา เพราะเขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับเจน เอคิดกับเจนแค่เพื่อนเท่านั้น ไม่ได้มีอะไรเกินเลยไปกว่านี้
ในระหว่างที่เอกำลังจะกลับเข้าบ้าน ก็มีรถมอเตอร์ไซค์สองคันสี่คนมาจอดตรงหน้าเขา พอทั้งสี่เปิดหมวดกันน็อคออก เอแท่บซ็อคเพราะคนที่เขาเห็นคนแรกคืออ้น และซัน ซี จีจี้ ในส่วนของจีจี้นั้นไม่อยากมาแต่ทนคำขอร้องของอ้นไม่ไหวเธอก็เลยจำใจต้องมา ส่วนซันและซี จีจี้เป็นคนชวนมา เพราะเธอคิดว่าถ้ามากันสองคนดูน่ากลัว ถ้ามีซันและซีมาเสริมทัพทำให้เธอไว้วางใจในการเดินทางครั้งนี้
“มาทำไม”อ้นพูดขึ้น
“เรามีเรื่องอยากจะเคลียร์กับนายได้ไหม”
“เรื่องอะไร”เอมีสีหน้าที่สงสัย
“ก็เรื่องของเราสองคนไง”
“ก็ได้แต่ตรงนี้ไม่เหมาะ”
“ก็ได้ตรงไหน”
“ตามเรามา”
“ฮือ”ต้นพยักหน้าและหันไปมอง จีจี้ ซัน ซี ที่ยืนนิ่งรอฟังว่าเขาจะพูดอะไรกัน แต่ก็ผิดหวังเพราะเอกับอ้นจะไปคุยกันสองคน
“รอเราอยู่นี่นะ”
เมื่ออ้นพูดจบก็ไปกับเอที่สวนหลังบ้าน ซึ่งก็ใช้เวลาเดินไม่นานก็มาถึง ด้วยบรรยากาศร่มรื่นจนอ้นอยากจะนอนพัก แต่เขาก็ไม่ใคร่สนใจตรงนี้มากนัก
“มีอะไรพูดมา”อ้นหยุดทันทีเมื่อเห็นว่าเดินมาไกลพอสมควร
“ก็เรื่องความสัมพันธ์ของเราไง”
“ก็มันจบแล้วนี่”
“แต่เรายังไม่อยากจบนี่เอ”
“ถ้าไม่อยากจบจะให้ทำอย่างไรล่ะ”
“เรายังอยากอยู่กับนายเหมือนเดิมนะ หรือไม่ก็ยังติดต่อกันอยู่ นายไปทำงานส่วนเราก็เรียน ถ้าว่างๆเราค่อยมาเจอกันแบบนี้ก็ได้”
“ไม่ได้หรอกเรื่องของเรามันจบลงแล้ว ข้อสำคัญเราสองคนจะอยู่ด้วยกันได้อย่างไร ก็อย่างที่รู้ๆกันอยู่ นายน่าจะรู้ดีที่สุด”
“เหรอ แต่เราไม่สนใจ”
“แต่เราสน”
“แล้วที่นายมามีความสัมพันธ์กับเรานี่นายไม่ได้รักเราเลยใช่ไหม”
“ใช่ เราไม่ได้รักนายหรอก”
“ถ้างั้น นายมาอยู่กับเราทำไมและมาพูดจากับเราให้หลงคิดไปเอง”
“เราต้องพูดอีกเหรอ แค่นี้นายยังไม่เข้าใจอีกหรืออย่างไง”
“เราเข้าใจแต่เราไม่เชื่อ”
“ตามใจนาย”
“นายโกรธที่เราลงรูปคู่กับนายในโซเซียลเหรอ”
“นั่นก็ใช่ แต่ส่วนใหญ่เราไม่ได้รักนาย ขืนอยู่ด้วยกันต่อไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร”
“แต่เรารักนายน่ะเอ”
“จะให้เราทำไงก็เราไม่ได้นายนี่ จะฝืนบอกว่ารักอย่างงั้นเหรอ”
“ที่ผ่านมานั้นนายฝืนใช่ไหม”
“ใช่ รู้แบบนี้ก็ทำใจซะ เราสองคนไปด้วยกันไม่ได้หรอก พอแค่นี้เถอะคนที่เจ็บไม่ใช่เราแต่เป็นนาย”
“ที่ผ่านมาเราทำให้นายทุกอย่าง นายไม่คิดที่จะเห็นความดีของเราบ้างเลยเหรอ”
“เห็นซิ และเราต้องขอบใจนายมากด้วยนะที่ดีกับเรา แต่เรื่องความรักไม่สามารถบังคับจิตใจใครได้หรอก”
“จริงของนาย ถ้างั้นเราก็จะไม่ตามตื้อนายอีกต่อไป”
“คิดได้แบบนั้นก็ดีแล้วนี่นายจะได้มีความสุข”
“แน่นอนเรามีความสุขอยู่แล้ว แต่นายนั่นแหละจะหาความสุขที่แท้จริงได้หรือเปล่า”
“ไม่ต้องห่วงเราหรอก ห่วงตัวเองดีกว่ามั้ง”
“ได้ คนหลอกลวงเราจะจำนายไว้จนขึ้นใจเลย”
“ไม่ต้องจำเราหรอก เราไม่ได้มีอะไรน่าจดจำขนาดนั้น”
“รู้ตัวก็ดีแล้วนี่ คนอย่างนายไม่มีวันเจริญหรอก”
“มันจะมากเกินไปแล้วนะ มีสิทธิ์อะไรมาว่าเราอย่างนี้”
“สิทธิ์ไม่มีแต่อยากจะว่า เพราะคนอย่างนายมันช่างไร้ค่าไร้ราคา”
“จะมากเกินไปแล้วนะไอ้อ้น เห็นไม่ทำอะไรเข้าหน่อยพูดจาไม่น่าฟังเลย”
“เพลี้ยะ”อ้นตบหน้าของเอ
“มึงจะมากไปแล้วนะ”เอง้างมือจะต่อยอ้นแต่เขาก็ลดมือลง เพราะเขาไม่อยากที่จะทำร้ายอ้น เพราะเขารู้ว่าอย่างไงอ้นก็ไม่มีทางสู้เขาได้
“นี่คือคำว่า จบ ต่อไปนี้ไม่ต้องมาพบเจอกันอีกต่อไป”
อ้นหันหลังกลับเดินไปที่ประตูหน้าบ้าน โดยมีเพื่อนของเขารออยู่ ส่วนเอก็เดินตามหลังอ้นไปอย่างช้าๆ เมื่ออ้นไปถึงที่หน้าประตู เพื่อนของเขาก็ถามไภ่ทันที
“เป็นไงบ้าง”จีจี้ถาม
“มันจบแล้ว”
“ดีมากอ้นเรารอวันที่เธอจะได้สติกลับคืนมาซักที”
“หล่อกินไม่ได้ ผู้ชายมีเยอะแยะอย่าไปแคร์”ซันพูดขึ้น
“ใช่ มีหล่อกว่านี้อีกตั้งหลายเท่า เราว่าเธอเอาเวลาไปตั้งใจเรียนดีกว่า”ซีพูดเตือนสติ
“ขอบใจทุกคนมากน่ะที่ปลอบใจ และมาเป็นเพื่อนเราจากใจจริง”
“ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ในเมื่อทุกอย่างมันจบเราก็กลับกันเถอะ”จีจี้พูดขึ้น
เมื่ออ้นตัดความสัมพันธ์ขั้นเด็ดขาดกับเอได้ เขาก็ไม่หันหลังกลับมามองอีกเลย และในใจคิดว่าถ้าวันใดเจอกันอีกก็จะทำเหมือนคนที่ไม่รู้จักกัน แต่อ้นก็กลับไปด้วยดวงใจที่ร้าวรานไร้คนเยียวยารักษา แผลทางใจที่โดนกระทำซ้ำซากอยู่หลายหน จนอ้นอดรนทนต่อไปไม่ได้อีกแล้ว เขาคิดว่าจะไม่มีวันห้วนคืนกลับมาที่นี้อีกแน่นอน
ส่วนเอยืนมองอ้นกลับพรรคพวกขับรถจากไป ด้วยท่าทีที่นิ่งเฉยเหมือนไม่ได้คิดอะไร แต่เขาก็รู้สึกผิดที่พูดกับอ้นแรงเกินไป สาเหตุที่เขาพูดกับอ้นแรงเพราะเขาอยากให้อ้นเลิกรักเขา ส่วนตัวของเอเองนั้นเขายังไม่พร้อมที่จะมีใคร เพราะสิ่งที่เขาปราถนาที่สุดในตอนนี้คือทำงานหางานเลี้ยงตัวเองและครอบครัวของเขา เมื่อรถของอ้นแล่นจนลับตา เอค่อยๆหันหลังกลับเข้าไปในบ้านด้วยท่าทีเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแม้แต่น้อย
วันนี้เป็นแรกที่บอสคนใหม่จะเข้ามาทำงานในบริษัทบีเอ็มรีไซเคิล ซึ่งเป็นลูกชายคนเดียวของผู้ก่อตั้งบริษัท ที่ได้วางมือ เพราะสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง เลยให้ลูกชายมาสานต่อธุรกิจ ทางพนักงานบริษัทเลยตื่นเต้นกันยกใหญ่ เพราะบอสคนใหม่อายุแค่สามสิบกว่าๆแถมโสด หล่อ รวย จึงทำให้พนักงานสาวๆในบริษัทแห่งนี้ดูตื่นเต้นกันยกใหญ่ ซึ่งรวมอ้นพนักงานธุรการมาใหม่ยังไม่ผ่านช่วงโปรด้วย “มาแล้วบอสคนใหม่”นฤมลรุ่นพี่สาวสายดี้ด๊าเป็นพิเศษ และตีที่หลังอ้นอยู่หลายครั้ง” “ก็หล่อดีนะ”อ้นพูดขึ้น “ไม่ใช่แค่หล่อดี แต่หล่อมากๆ แต่ก็คงได้แต่มอง ไปทำงานกันเถอะ”เมื่อนฤมลคิดได้ว่าโลกความจริง คงไม่มีทางเป็นไปได้ เธอจึงปลงกะทันหัน อ้นยืนมองร่วมกับเพื่อนพนักงานสาวๆที่ยืนอยู่ข้างๆและยิ้มให้บอสคนใหม่ ระหว่างเดินผ่าน ซึ่งบอสคนใหม่ก็ไม่ได้มีสีหน้าทิ่ยิ้มแย้มอะไร มีเพียงใบหน้าที่นิ่งเฉยจนเดินผ่านมาตรงที่อ้นยืนอยู่ เขาหันมามองแวบหนึ่ง แล้วหันกลับไป เพราะเขาสะดุดตา เนื่องด้วยมีอ้นคนเดียวที่เป็นผู้ชายที่ยืนล้อมวงด้วยผู้หญิงนับสิบ อ้นสบตาชั่ววินาทีแค่นั้น ใจของเขาก็เต้นระรัวไม่เป็นจังหวะ เพราะบอสคนใหม่หล่อมากในสายตาของอ้น แต
อ้นรีบมาทำงานแต่เช้าเพื่อเตรียมงาน ให้บอสของเขาที่บอกว่าตัวเองไม่เรื่องเยอะ แต่พฤติกรรมนั้นตรงข้ามกับคำพูดอย่างสิ้นเชิง เมื่ออ้นมาถึงออฟฟิคในโรงงานบีเอ็มรีไซเคิล เขารีบจัดแจงเรียงแฟ้มเอกสารเข้าชั้นอย่างเร่งรีบ และเปิดคอมพิวเตอร์ทิ้งไว้เพื่อให้บอสได้ทำงานได้ในทันที ตามคำบอกกล่าวของจิ๊บเลขาคนเก่า หลังจากที่อ้นทำงานเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาจึงออกมานั่งที่หน้าห้องรอการมาของบอส ซึ่งอ้นก็รอได้ไม่นานบอสคนใหม่ของเขาก็มาถึง เมื่อบอสเดินผ่านมาเขาก็หันมามองอ้นไม่กี่วิแล้วหันหน้ากลับเดินเข้าห้องไป ปล่อยให้อ้นไม่ทันได้ยิ้มแม้แต่นิด อ้นจึงไม่รอช้าเดินตามเข้าไปในห้องทันที “บอสดื่มกาแฟกี่ช้อนครับ”เมื่อวานอ้นลืมถามจิ๊บว่าบอสดื่มกาแฟกี่ช้อน เขาเลยไม่กล้าชงให้บอสได้ดื่ม “สามช้อนไม่ต้องใส่อะไรทั้งนั้น”จ๊อบบอสของอ้นยังมีสีหน้าที่นิ่งเฉย “ครับ” อ้นจึงรีบไปชงกาแฟตามที่จ๊อบต้องการ เพราะตอนนี้จ๊อบได้เปิดดูเอกสารการผลิตในคอมพิวเตอร์ เมื่ออ้นชงเสร็จจึงรีบนำมาให้บอสทันที ด้วยความประหม่าและเกร็งในความนิ่งของจ๊อบ อ้นถือถ้วยกาแฟที่สั่นจนเสียงดัง “แก็ก แก็ก แก็ก” เมื่อจ๊อบได้ยินเสียงถ้วยกาแฟสั่น
หลังจากเลิกงานอ้นนั้นได้เดินตามจ๊อบ ไปพบลูกค้าที่นัดไว้ ในระหว่างที่เดินไปที่รถของจ๊อบที่จอดรอหน้าโรงงาน อ้นได้เดินผ่านหน้าเอและตั้มกับตูน ซึ่งอ้นก็เห็นทั้งสามแต่อ้นแลเป็นไม่เห็น เพราะไม่อยากเห็นหน้าเอที่ทำให้เขาเจ็บซ้ำน้ำใจในอดีต เมื่ออ้นเดินผ่านทั้งสามหนุ่ม ในส่วนของตั้มและตูนก็มองตามหลังจากนั้นก็หันหน้ามามองกันเอง “ไอ้อ้นนี่มันร้ายนะ เดินตามบอสต้อยๆเลย”ตั้มพูดขึ้น “โอ้โห ไอ้อ้นขึ้นรถไปกับบอสเห็นไหมไอ้เอ”ตูนหันมามองหน้าเอแวบหนึ่งแล้วหันไปมองอ้น “มึงเสียดายไหมไอ้เอ ที่ทิ้งเขาไปแต่ตอนนี้เขากับได้ดีกว่ามึงอีก”ตั้มหัวเราะ “ไอ้ตั้มถ้าไม่หยุดพูดเจอกูต่อยแน่”ในความรู้สึกของเอตอนนี้ เหมือนมีอะไรมาทิ่มแทงหัวใจอย่างที่เขาไม่เคยเป็นมาก่อน “พูดแค่นี้ทำเป็นโมโหหรือว่าพูดแทงใจดำมึงวะ” “กูไม่ได้รู้สึกอะไรกับไอ้อ้น กูจะไปเสียดายมันทำไม” “แล้วมึงรู้สึกกับใครบ้างวะ”ตูนหันมาถามเอ “กูไม่รู้สึกกับใครทั้งนั้นแหละ”เอพูดเสียงเข้ม “เลิกพูดเรื่องไอ้อ้นดีกว่า เรามาคิดกันว่าเย็นนี้จะไปกินเบียร์ที่ไหนดีกว่าไหม”ตั้มเอ่ยขึ้น “จริงด้วยพูดแล้วเปรี้ยวปาก”ตูนถึงกับเลียริมฝีปากทีเดียว
ในวันหยุดสุดสัปดาห์อ้นก็ได้ย้ายมาที่ห้องพักในโรงงาน ซึ่งเป็นห้องที่ใหญ่กว่าพนักงานคนอื่น เพราะจ๊อบได้สั่งไว้ให้จัดหาอย่างโดยด่วน เมื่ออ้นจัดห้องเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาก็ได้ออกจากห้องเพื่อที่จะไปหาอาหารรับประทานในตอนเย็น เพราะวันนี้เขาจัดห้องมาทั้งวัน มีเพียงขนมกับนมเท่านั้นที่ถึงท้อง ทางที่จะออกจากโรงงานไปตลาด ต้องผ่านห้องพักคนงาน อ้นจึงเดินไปเรื่อยโดยไม่หันมันข้างทางหรือแม้แต่เหลียวมอง จนมาสะดุดกับคำทักทายที่ไม่เป็นมิตรสักเท่าไร “หยิ่งเนาะ ตั้งแต่เป็นเลขาบอส” อ้นหันไปมองทันที ที่เมื่อเขาได้ยินเสียงที่คุ้นหู และนั่นเองที่ทำให้อ้นต้องรีบหันหน้ากลับ พร้อมที่จะเดินหนี ด้วยไม่อยากจะคุยให้เสียเวลา “จะไปไหน”เอเดินตามจับแขนของอ้นไว้ให้หยุดเดิน “ปล่อยนะ อย่าทำตัวไม่มีมารยาทแถวนี้”อ้นเหล่ตามองตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า “จับไม่ได้เลยเหรอ ที่เมื่อก่อนนี้จับทั้งจับทั้งกอดทั้งเอา ไม่เห็นว่าสักคำ” “เมื่อก่อนก็ส่วนเมื่อก่อน แต่เดี๋ยวนี้มันไม่ใช่” “เอ่อใช่สิ เป็นเลขานี่ใหญ่โตเหลือเกิน” “ไม่ได้ใหญ่โตหรอก แค่ไม่อยากคุยกับนายคนไร้ค่า เราไม่ให้ราคาที่จะคุยด้วยหรอก อ๋อ ใช่สิ นายมีราค
อ้นได้ตามจ๊อบพบปะลูกค้าตั้งแต่เช้ายันเย็น ไม่ได้พักทั้งกายและใจเหนื่อยจนอยากจะพัก แต่ก็ฝืนทนสู้อุตส่าห์ทำงานจนเสร็จสิ้น หลังจากนั้นจ๊อบก็พาอ้นไปรับประทานข้าวที่ริมน้ำบรรยากาศสุดหรู จึงส่งผลให้อ้นนั้นคลายเหนื่อยกายและใจอย่างหมดสิ้น “เป็นไงบ้างชอบไหมบรรยากาศแบบนี้ โรแมนติกดีนะผมว่า” “ครับ เป็นครั้งแรกที่อ้นได้มาในบรรยากาศแบบนี้” “บรรยากาศใต้แสงเทียนริมน้ำ ถ้ามากับแฟนนี่คงจะโรแมนติกน่าดูเลย แต่น่าเสียดายเราสองคนต่างไม่มีแฟน ถ้ามีแฟนจะได้พามาทั้งคู่ ถึงเวลาที่เราสองคนต้องหาแฟนแล้วมั้ง” “อ้นยังเด็กอยู่ยังไม่อยากมีแฟนหรอกครับ” “แสดงว่าผมแก่ใช่ไหม แค่จะสามสิบเอง ห่างจากอ้นเจ็ดแปดปีแค่นั้น” “ยังไม่แก่เลยครับ หน้าตาบอสเหมือนยี่สิบต้นๆเอง” “พูดแบบนี้ต้องเพิ่มเงินเดือนให้แล้วมั้ง” “ได้ก็ดีครับ อ้นจะได้เก็บไว้ซื้อบ้าน” “ผมว่าอ้นซื้อคอนโดดีกว่า เพราะอยู่คนเดียวไม่ใช่เหรอ ถ้าเกิดผมเหงาๆจะได้ไปหาสะดวก” “อ่า”อ้นอ้าปากค้าง เพราะบอสของเขาเปลื่ยนไปอีกแล้ว ยังกับคนละคนเมื่อช่วงกลางวันที่ผ่านมา “พูดไม่ออกเลยเหรอ แสดงว่ายังอยากมีแฟนอยู่ใช่ไหม กลัวผมไปขัดจังหวะแน่เลย”
ช่วงเย็นที่เงียบเหงาสำหรับเอ เพราะตั้มและตูนได้หายไปจากชีวิตของเอมาหลายวัน เพราะช่วงเวลานี้ตั้มและตูนกำลังติดพันซันและซีเพื่อนของอ้น ส่วนเจนงานยุ่งจนต้องทำโอที จึงไม่มีเวลามาเอช่วงค่ำ เขาจึงนั่นดื่มเบียร์อยู่หน้าห้องอย่างเดียวดาย ช่วงแรกยังมีคนงานเดินผ่านมาผ่านไป พอเริ่มค่ำคนงานเริ่มเข้าห้องใครห้องมัน จึงเหลือเพียงแต่เอที่นั่งเหม่อมองท้องฟ้าที่มีแต่ดวงดาวลอยระยิบระยับ แต่ก็ไม่สามารถทำลายความเหงาในใจของเอได้ เอนั้นดื่มเบียร์ขวดต่อขวดจนเมา เขาแค่พยุงตัวได้ไปได้แค่ที่ประตู พอควักกุญแจออกมาไขประตูแค่นั้น เขาก็ทำล่วงล่นและอาเจียนเต็มหน้าห้อง หลังจากนั้นเขาก็นอนฟุบอยู่หน้าห้องอ้นกำลังจะเดินกลับเข้าห้อง หลังจากไปดูงานกับจ๊อบจนได้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกัน จ๊อบนั้นจะมาส่งอ้นแค่ที่หน้าโรงงานเท่านั้น ความจริงเขาอยากจะมาส่งอ้นในโรงงานด้วยซ้ำ แต่ด้วยความเป็นนายจ้างกับลูกจ้าง จึงต้องเว้นระยะห่างไว้กันคำครหา เพราะในปัจจุบันหลายคนต่างมองอ้นกับจ๊อบในแง่ไม่ดีอยู่พอสมควรเมื่ออ้นเดินมาถึงหน้าห้องของเอ เขาก็เห็นเอนอนนิ่งอยู่หน้าห้อง อ้นตกใจมากและเป็นห่วงจึงรีบเข้าไปดู ซึ่งสิ่งที่อ้นเห็นคือเศษอาหารเต็มตัว
หลายวันมานี้เอนั้นกลุ้มใจกลัดกลุ้มไฟรักสุมทรวง เขาไม่สามารถตัดใจห้ามให้คิดถึงคะนึงหาอ้นได้ ถึงแม้จะมีเจนอยู่เคียงข้างทุกค่ำคืน รสรักและความสัมพันธ์ฉันเพื่อนก็ไม่สามารถมัดใจเอได้ แต่เขาก็ไม่ได้ทำร้ายจิตใจเจนจนเกินไป ยังให้เจนกอดหอมทำอะไรก็ได้ตามที่เจนต้องการ แต่ถ้าจะให้รับรักเจนนั้นเอไม่สามารถที่จะทำเช่นนั้นได้เลย คืนนี้ก็ตามเดิมที่เอได้มานั่งดื่มคนเดียวอย่างเหงาใจ เพราะเจนกว่าจะมาก็ดึกพอสมควร ส่วนตั้มกับตูนนั้นแท่บหายไปจากชีวิตของเอทีเดียว เพราะกำลังคลั่งรักกับซันและซี เป็นสองคู่ชู้ชื่นที่สุขสมไร้อุปสรรคใดมาขวางกั้น ในระหว่างที่อ้นกำลังจะเดินเข้าไปยังห้องพัก หลังจากจ๊อบมาส่ง เมื่อไปพบลูกค้าที่มาจากต่างประเทศ “ไม่ทักกันเลยนะ”เอตะโกนเสียงดังจนอ้นตัองหันมามอง แต่อ้นไม่สนเดินหน้าต่อไป “เดี๋ยวก่อน”เอลุกขึ้นวิ่งไปจับแขนอ้นไว้ “ปล่อยนะ”อ้นแกะมือของเอให้หลุดออก แต่ไม่สามารถทำได้ในเวลาอันสั้น “เดี๋ยวนี้ถูกเนื้อถูกตัวไม่ได้เลยนะ” “ใช่ เรามีแฟนแล้ว นายจะมาทำตัวแบบนี้ไม่ได้” “บอสเหรอ ยินดีด้วยนะ หนูตกถึงข้าวสาร” “เอ หยุดสักทีเถอะ” “ทำไมต้องหยุด” “ถ้าไม่หยุดนายอาจจะไ
วันนี้อ้นก็มาทำงานแต่เช้าตามเดิม แต่สิ่งที่แปลกไปเพราะจ๊อบได้กลับมาทำงานที่ออฟฟิค โดยมีเลขนุการคนใหม่เฝ้าอยู่หน้าห้อง ส่วนจิ๊บนั้นก็เป็นเทรนเนอร์อยู่ไม่ห่างกายบี้เลขนุการคนใหม่ ในระหว่างที่อ้นทำงานอยู่นั้นบี้เลขาคนใหม่ของจ๊อบก็เดินมาหา พร้อมด้วยสายตาที่เหยียดสุด มองอ้นตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า “นี่เธอ บอสให้เอางานมาให้เธอทำ หวังว่าคงจะเสร็จทันก่อนห้าโมงเย็นนะ บอสสั่งมา”บี้เอาวางไว้บนโต๊ะ “ครับ” “นี่เหรอ เลขาคนเก่า” “ครับ” “ไม่แปลกใจที่โดนปลด ลดตำแหน่ง”บี้ใช้สายตาชำเลืองมองอ้นแล้วเชิดหน้าขึ้น ต่อจากนั้นบี้ก็เดินจากไป นั่งเฝ้าหน้าห้องของจ๊อบตามเดิม “ร้ายเนาะเลขาคนใหม่”วีณาเพื่อนสาวหันมามองอ้น “อย่าพูดไป”นฤมลใช้มือจุ๊ที่ปาก “ปล่อยเขาไปเถอะ เราก็ทำงานของเราไป”อ้นพูดขึ้น “จร้า”วีณาทำเสียงประชด อ้นตั้งหน้าตั้งตาทำงานอย่างต่อเนื่อง เพราะต้องทำให้เสร็จภายในห้าโมงเย็น อ้นก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม ต้องบังคับกันขนาดนี้ ขนาดเมื่อวานยังให้เวลาจนกว่าจะทำเสร็จ อ้นจึงไม่สนใจสิ่งรอบข้าง รีบเร่งทำงานอย่างต่อเนื่องและให้รวดเร็ว ทันความต้องการของจ๊อบ ที่วันนี้นิสัยเปลื่ยน