หลายวันมานี้เอนั้นกลุ้มใจกลัดกลุ้มไฟรักสุมทรวง เขาไม่สามารถตัดใจห้ามให้คิดถึงคะนึงหาอ้นได้ ถึงแม้จะมีเจนอยู่เคียงข้างทุกค่ำคืน รสรักและความสัมพันธ์ฉันเพื่อนก็ไม่สามารถมัดใจเอได้ แต่เขาก็ไม่ได้ทำร้ายจิตใจเจนจนเกินไป ยังให้เจนกอดหอมทำอะไรก็ได้ตามที่เจนต้องการ แต่ถ้าจะให้รับรักเจนนั้นเอไม่สามารถที่จะทำเช่นนั้นได้เลย
คืนนี้ก็ตามเดิมที่เอได้มานั่งดื่มคนเดียวอย่างเหงาใจ เพราะเจนกว่าจะมาก็ดึกพอสมควร ส่วนตั้มกับตูนนั้นแท่บหายไปจากชีวิตของเอทีเดียว เพราะกำลังคลั่งรักกับซันและซี เป็นสองคู่ชู้ชื่นที่สุขสมไร้อุปสรรคใดมาขวางกั้น ในระหว่างที่อ้นกำลังจะเดินเข้าไปยังห้องพัก หลังจากจ๊อบมาส่ง เมื่อไปพบลูกค้าที่มาจากต่างประเทศ
“ไม่ทักกันเลยนะ”เอตะโกนเสียงดังจนอ้นตัองหันมามอง แต่อ้นไม่สนเดินหน้าต่อไป
“เดี๋ยวก่อน”เอลุกขึ้นวิ่งไปจับแขนอ้นไว้
“ปล่อยนะ”อ้นแกะมือของเอให้หลุดออก แต่ไม่สามารถทำได้ในเวลาอันสั้น
“เดี๋ยวนี้ถูกเนื้อถูกตัวไม่ได้เลยนะ”
“ใช่ เรามีแฟนแล้ว นายจะมาทำตัวแบบนี้ไม่ได้”
“บอสเหรอ ยินดีด้วยนะ หนูตกถึงข้าวสาร”
“เอ หยุดสักทีเถอะ”
“ทำไมต้องหยุด”
“ถ้าไม่หยุดนายอาจจะไม่ได้ทำงานที่นี่ต่อ ด้วยสภาพอย่างนายจะไปหางานที่ไหนทำได้อีก”
“มึงจะดูถูกกูเกินไปแล้วนะไอ้อ้น”
“ไม่ได้ดูถูก แต่นายทำตัวไร้ค่าเอง”
“ใครจะมีค่าเหมือนมึงล่ะ คงได้มาหลายตังค์ใช่ไหม ไปนอนได้ครั้งละเท่าไร”
“จะได้ครั้งละเท่าไรเราก็ได้เงิน นอนกับนายไม่ฟรีแถมยังเสียเงินอีก ทำก็ไม่คุ้มค่าเงินที่เสียไป กรุณาปล่อยมือเราด้วย”
เนื่องจากเอยังไม่ได้เมามาก เขายังพอมีสติอยู่ จึงไม่กล้าทำอะไรไปมากกว่านี้เขาจึงปล่อยมือจากแขนของอ้นออก
“อ๋อ นายควรเอาใจใส่เจนให้มากกว่านี้นะ เขารักนายมากนายก็ควรรักเจนให้มากด้วยนะ”
“ไม่ต้องมายุ่ง”เอตวาด
“ไม่ได้อยากยุ่งหรอก แค่บอกไว้กลัวนายเสียคนดีดีไปอีกคน”
“อ้น”เอพูดเสียงแผ่วๆ
อ้นหันมามองเอแวบหนึ่งแล้วเดินจากไป ปล่อยให้เอยืนนิ่งด้วยความเสียใจ ซ้ำใจ ระทมใจ ที่ไม่อาจได้อ้นคืนมาได้อีกแล้ว
อีกฟากฝั่งจ๊อบเขารถตามอ้นเข้ามา เพราะเขาลืมแหวนที่จะให้อ้น จ๊อบกำกล่องแหวนและวางไว้บนหน้ารถ หลังจากนั้นเขากลับรถออกจากโรงงานไปในทันที
เช้าวันใหม่อ้นมาทำงานแต่เช้าตามเดิม ซึ่งจ๊อบก็มาตามเวลาของเขาเหมือนอย่างเช่นเคย แต่ที่แปลกไปเขามีสีหน้าที่นิ่งเฉย จนอ้นแปลกใจเขาจึงเดินเข้าไปในห้องเพื่อหาจ๊อบ
“วันนี้บอสเป็นอะไรเหรอครับสีหน้าไม่ค่อยดีเลย มีใครทำอะไรไม่ถูกใจหรือเปล่าครับ”
“มี”จ๊อบพูดเสียงห้วน
“ใครเหรอครับ ทำให้บอสอารมณ์เสียแต่เช้าเลย”
“ไม่ใช่ตอนเช้า แต่มันเป็นตอนกลางคืน”จ๊อบมีสีหน้าที่หงุดหงิด จนอ้นไม่กล้าถามต่อ เขาจึงเดินออกจากห้อง แต่แล้วต้องหยุดชะงัก เมื่อจ๊อบพุดต่อ
“เดี๋ยวก่อน มีอะไรจะบอกผมไหม”จ๊อบอยากให้อ้นบอกความจริง กับเหตุการณ์เมื่อคืนที่เขาเห็น
“ไม่มีครับ”อ้นหันมายิ้มให้จ๊อบ แต่ไร้การตอบสนองที่จ๊อบพึงกระทำ
“ไม่มีก็ดี วันนี้คุณเลิกเป็นเลขาของผมได้แล้ว กลับไปทำงานที่สำนักงานใหญ่ตามเดิม ไปวันนี้เลยผมจะให้คนมารับกลับไป”
“บอส อ้นทำอะไรผิด”
“ลองไปคิดดู”
“แล้วใครจะทำงานช่วยบอสล่ะครับ”
“คนเก่งมีเยอะแยะที่เก่งกว่าคุณ ในโรงงานนี่มีไม่ใช่น้อย บางทีผมอาจเอาคนชี่อเอมาทำงานเป็นเลขาผมก็ได้”เมื่อคืนจ๊อบได้ให้คนสนิทสืบเรื่องของเอทันที ถึงได้รู้ข้อมูลลับ จากปากของตั้มและตูน ว่าเอเคยอยู่ร่วมห้องเดียวกับอ้นมาก่อนตอนสมัยเรียน
“บอสหมายความว่าอย่างไงครับ”
“ก็หมายความอย่างที่ผมพูดนั่นแหละครับ ผมให้โอกาสคุณพูดแล้ว แต่คุณไม่ใช้มัน ผมถือว่าคุณสละสิทธิ์คุณหมดโอกาสพูดอีกต่อไป คุณเก็บข้าวของและไปที่สำนักงานใหญ่ทันที ออกไปได้ผมไม่อยากเห็นหน้าคุณ”
คำพูดกับการกระทำของจ๊อบนั้นตรงข้ามกับใจของอย่างมาก จ๊อบโกรธอ้นมากที่โกรธไม่ใช่ภาพตรงหน้าที่เห็นเมื่อคืน แต่เป็นความจริงที่อ้นไม่ยอมบอกเรื่องเอ เพราะอ้นแค่บอกคร่าวๆแต่ไม่ได้บอกชื่ออดีตคนเคยรัก
อ้นพอเข้าใจได้ว่าจ๊อบหมายถึงอะไร แต่จ๊อบไม่ให้เขามีเวลามาอธิบายอะไรสิ้น อ้นจึงออกจากห้องของจ๊อบอย่างงงและมึน เมื่ออ้นออกมาพ้นห้องของจ๊อบแล้วเขาก็รีบเก็บข้าวของทันที เพื่อที่จะไปทำงานที่สำนักงานใหญ่
อ้นเดินเข้ามาที่สำนักงานใหญ่ ด้วยสายตาที่มีทั้งเป็นมิตรและอิจฉาปนสมนำหน้า แต่อ้นก็ทำเป็นไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น อ้นเดินมาจนถึงโต๊ะตัวเดิมที่เขาเคยทำงาน
“อ้นคิดถึงจังเลย”วีณาเพื่อนสาวเข้าทำงานพร้อมกันเข้ามาทัก
“ดูผอมไปนะ บอสคงพาตะลอนออกนอกพื้นที่จนหน้าดำไปหมดแล้ว”นมฤมลรุ่นพี่คนสนิทจับที่ไหล่ของอ้น
“อ้นมาถึงก็ดีแล้ว บอสสั่งงานไว้ให้อ้นด้วยแหละ”เสาหัวหน้าแผนกธุรการฝ่ายผลิต เดินเข้ามาหาพร้อมจิ๊บเลขาคนเก่า ที่ถือเอกมาหลายแฟ้ม ซึ่งตอนนี้เธอกำลังตั้งท้องได้ห้าเดือน
“งานอะไร”อ้นรีบลุกขึ้นไปรับเอกสาร เพราะอ้นเห็นจิ๊บนั้นกำลังตั้งท้อง
“รีบทำให้เสร็จภายในวันนี้นะ”จิ๊บพูด
“ตั้งเยอะจะเสร็จได้ไง”
“เดี๋ยวพี่ช่วย”นฤมลพูดขึ้น
“เดี๋ยวเราช่วยด้วยคน”วีณาพูดขึ้น
“หยุดเลยเธอทั้งสองคน บอสสั่งไว้ห้ามใครช่วย ไปทำอะไรให้บอสโกรธมาเหรออ้น”เสามองอ้นอย่างเอ็นดู
“พี่ก็ได้ข่าวว่าอ้นกับบอสก็ทำงานเข้าขากันดีนี่ หรือว่าเป็นเรื่องส่วนตัว”จิ๊บจ้องหน้าอ้นด้วยความอยากรู้คำตอบ รวมทั้งคนอื่นๆอีกแท่บจะหมดแผนกธุรการฝ่ายผลิต
“ไม่รู้เหมือนกันว่าบอสโกรธเรื่องอะไร”อ้นเอาแฟ้มวางบนโต๊ะ พร้อมเปิดคอมพิวเตอร์เพื่อทำงานงานต่อ
“ทนเอาหน่อยก็แล้วกัน บอสคนนี้เอาใจยาก พี่ไม่รู้ว่าเลขาคนใหม่จะถูกใจบอสหรือเปล่า”จิ๊บถอนหายใจ
“ผู้หญิงหรือผู้ชายครับ”อ้นถามด้วยความอยากรู้
“ก็ผู้ชายนั่นแหละ แต่เป็นเหมือนอ้น ไม่รู้บอสถูกใจเลขาแนวนี้เหลือเกิน”
“เหรอ”
“ฮือ แต่พี่ว่าอ้นน่ารักกว่าเยอะ พี่พึ่งเทรนเมื่อกี้นี่แหละ และส่งตัวไปทำงานกับบอสแล้วแหละ”
“ทำไมไวจัง”
“เด็กเส้นไง เป็นหลานเพื่อนคุณพ่อของบอสนั่นแหละ”
“พอแล้ว ทำงานได้แล้ว”เสาตัดบททันที เพราะเธอกลัวฝ่ายบุคคลมาเห็นมาว่าจับกลุ่มยืนคุยกัน
อ้นทำงานอย่างไม่มีความสุข เพราะเขาคิดถึงแต่จ๊อบกับเลขาคนใหม่ จะว่าด้วยที่อ้นนั้นเริ่มชอบพอจ๊อบขึ้นมาหน่อย แต่เขาก็ไม่ถึงกับเสียใจอะไรมากนัก เพราะพึ่งแค่เริ่มต้นแต่สิ่งที่เสียใจคือจ๊อบไม่ฟังคำอธิบายจากเขาเลย
อ้นพยายามที่จะหักห้ามความคิดที่เกิดขึ้น เพื่อที่จะได้ทำงานให้เสร็จอย่างรวดเร็ว ซึ่งก็กว่าที่อ้นจะทำงานเสร็จก็มืดค่ำ ซึ่งคนในสำนักงานก็ได้กลับกันไปหมดไม่มีเหลือแม้แต่คนเดียว อ้นจึงเกิดความกลัวจึงรีบออกจากออฟฟิค และเรียกแกร็ปเพื่อที่จะได้กลับไปยังที่พักในโรงงาน
เมื่ออ้นมาถึงที่โรงงานเขาจึงรีบเดินเข้าไปในโรงงานทันที เพราะมันดึกพอสมควรเขาจึงเกิดความกลัว เมื่ออ้นเดินผ่านหน้าห้องของเอ ซึ่งก็เป็นไปตามคาดหมายเอนั้นยังนั่งอยู่ แต่คืนนี้เอไม่ได้ดื่มเหล้าเบียร์แม้แต่น้อย
“จากหนูตกถึงข้าวสาร มาเป็น หนูตกกระป๋อง”เอหัวเราะ
“ถ้าพูดดีไม่ได้ก็ไม่ต้องพูด”
“พูดดีก็ได้ วันนี้บอสได้มีเลขาคนใหม่ ดูกว่ามึงเยอะ ดูซิตอนนี้ดูไม่ได้เลย”
“มันเรื่องของเรา นายอย่ามายุ่ง”
“ไม่ได้อยากยุ่งหรอก แค่มาเตือนให้ดุแลตัวเองหน่อย ชอบปล่อยเนื้อปล่อยตัว ใครที่ไหนจะมารักคนโทรมๆอย่างมึงล่ะ”
“ก็นายไม่ใช่เหรอ ที่บอกรักเราเมื่อหลายวันก่อน”
“นั่นแหละมึงเหมาะกับกูโทรมเหมือนกัน มึงจะไปเหมาะอะไรกับบอส รู้ไหมเลขาคนใหม่ขับรถราคาเป็นล้าน ส่วนมึงเดินย่ำอยู่กับที่ ไม่มีอะไรเลย ไม่รู้จักพัฒนาตัวเอง ซึ่งเหมือนกูเลย”
“เพลี้ยะ”อ้นตบเอด้วยความโมโห
“ไม่ได้ดีอะไรก็ตบ ถ้ามึงตบกูอีกครั้งกูจะจูบปากมึง”
“เอ นายมันเลวมาก เมื่อไรเราจะหลุดจากวงโคจรของนายสักที”
“ไม่รู้ เพราะเรานั้นคู่กันไม่ใช่เหรอ ใจโทรมๆกับร่างโทรมๆที่ควรจะอยู่ด้วยกัน”
“เชิญนายอยู่ไปคนเดียวเถอะ”เมื่ออ้นพูดจบก็รีบเดินจากไปเอไปในทันที
ส่วนเอมองอ้นจนเดินเข้าห้องไป ส่วนตัวเขาก็เดินกลับเข้าห้อง ในขณะเดียวกันจ๊อบก็มองดูอ้นและเอคุยกันอยู่ในรถ จ๊อบนั้นเฝ้าอ้นตั้งแต่หลังเลิกงานที่หน้าบริษัท จนอ้นเลิกงานเรียกแกร็ปและเข้ามาในโรงงาน ทุกอย่างล้วนผ่านสายตาของจ๊อบทั้งสิ้น หลังจากที่เขาเห็นอ้นตบหน้าของเอ ทำให้จ๊อบมีความรู้สึกที่เปลื่ยนไป ซึ่งแตกต่างจากเมื่อคืนก่อนอย่างสิ้นเชิง จ๊อบหลับตาชั่วครู่หลังจากนั้นเขาก็ขับรถออกจากโรงงานไปในทันที
อ้นกลับมาที่ห้องด้วยความทรมานจิตใจ อ้นอยากบอกทุกเรื่องราวกับจ๊อบ แต่เขากับไม่เปิดโอกาสให้ได้พูดความจริง ในระหว่างที่อ้นกำลังทุกข์ใจกับเหตุการณ์ เมื่อช่วงเวลากลางวันที่ผ่านมา จีจี้เพื่อนสาวของเขาก็ได้โทรมาหา
“ฮัลโหล มีอะไรเหรอ”
“เป็นไงบ้าง”
“ก็ดีนะ”
“ไม่ต้องมาปิดบังเราหรอก เรารู้หมดแล้วว่าเธอโดนย้ายไปทำงานที่สำนักงานใหญ่”
“ก็ตามนั้นแหละ”อ้นถอนหายใจ
“ซันกับซีเล่าให้ฟังนะ ว่าบอสเธอเรียกตั้มกับตูนไปถามไถ่ เรื่องของเธอกับไอ้เอมันสองตัวกลัว มันเลยบอกความจริงกับบอสหมดเลย”
“ถึงว่าบอสโกรธมาก ที่เราไม่ยอมบอกเรื่องราวต่างๆให้ฟัง”
“ตอนนี้บอกก็ยังทันอยู่นะ”
“บอสไม่ยอมให้บอกหรอก เขาปฏิเสธเราทุกทางเลย”
“ลองดูสักพัก รอให้บอสเธอใจเย็นก่อน ค่อยคุยก็ยังไม่สายหรอก”
“เอ่อ แล้วซันกับซีไปสนิทตั้มกับตูนกันตอนไหน”อ้นถามด้วยความสงสัย
“แหม มัวแต่ยุ่งกับบอสจนลืมข่าวคราวเพื่อนฝูงเลยนะ”
“เราไม่รู้จริงๆ”
“จำวันที่เราไปกินข้าวกันได้ไหม วันนั้นแหละเป็นวันแรกและวันต่อๆมาเขาก็นัดกันไปเที่ยวโน้นเที่ยวนี่ ซัมติงกันทุกวี่ทุกวัน”
“ดีใจกับซันและซีด้วยเนาะ”
“ไม่ต้องไปดีใจกับเขาหรอก เอาตัวเองให้รอดก่อนเถอะ”
“จริง เครียดเลย”
“ไม่ต้องไปเครียด ถามจริงเธอรักบอสของเธอไหม”
“จะว่ารักก็รักนะ เพราะเราก็รู้สึกใจที่บอสห่างเหินกับเรา แต่ก็ไม่ได้มากมายอะไรนะ”
“อาจเป็นแค่เริ่มต้น ก็ดีเผื่อบอสทิ้งเธอ จะได้ไม่เจ็บไปกว่านี้อย่างน้อยก็เจ็บน้อยกว่าไอ้เอ”
“อย่าพูดชื่อนี้ให้ได้ยินเลย ตัวการที่ทำให้เรากับบอสผิดใจกันนั่นแหละ”
“ช่างมันเถอะอย่าไปคิดอะไรมากเลย เพราะอย่างน้อยเธอได้อยู่ห่างกับไอ้เอตั้งวัน”
“ฮือ คิดในแง่ดีเข้าไว้”
“ถ้างั้นแค่นี้นะ ถ้ามีอะไรก็โทรมาหาก็แล้ว ว่างเสมอเพื่อเพื่อนรัก”
“ขอบใจเธอมากนะ”
“จ๊ะ ไม่เป็นไรหรอก”
อ้นกดวางมือถือและล้มตัวลงนอนบนเตียง และครุ่นคิดถึงเหตุการณ์ช่วงกลางวัน ที่มีมากมายหลายเรื่องราว ที่เขาไม่สามรถจะแก้ไขสถานการณ์ได้เลย
วันนี้อ้นก็มาทำงานแต่เช้าตามเดิม แต่สิ่งที่แปลกไปเพราะจ๊อบได้กลับมาทำงานที่ออฟฟิค โดยมีเลขนุการคนใหม่เฝ้าอยู่หน้าห้อง ส่วนจิ๊บนั้นก็เป็นเทรนเนอร์อยู่ไม่ห่างกายบี้เลขนุการคนใหม่ ในระหว่างที่อ้นทำงานอยู่นั้นบี้เลขาคนใหม่ของจ๊อบก็เดินมาหา พร้อมด้วยสายตาที่เหยียดสุด มองอ้นตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า “นี่เธอ บอสให้เอางานมาให้เธอทำ หวังว่าคงจะเสร็จทันก่อนห้าโมงเย็นนะ บอสสั่งมา”บี้เอาวางไว้บนโต๊ะ “ครับ” “นี่เหรอ เลขาคนเก่า” “ครับ” “ไม่แปลกใจที่โดนปลด ลดตำแหน่ง”บี้ใช้สายตาชำเลืองมองอ้นแล้วเชิดหน้าขึ้น ต่อจากนั้นบี้ก็เดินจากไป นั่งเฝ้าหน้าห้องของจ๊อบตามเดิม “ร้ายเนาะเลขาคนใหม่”วีณาเพื่อนสาวหันมามองอ้น “อย่าพูดไป”นฤมลใช้มือจุ๊ที่ปาก “ปล่อยเขาไปเถอะ เราก็ทำงานของเราไป”อ้นพูดขึ้น “จร้า”วีณาทำเสียงประชด อ้นตั้งหน้าตั้งตาทำงานอย่างต่อเนื่อง เพราะต้องทำให้เสร็จภายในห้าโมงเย็น อ้นก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม ต้องบังคับกันขนาดนี้ ขนาดเมื่อวานยังให้เวลาจนกว่าจะทำเสร็จ อ้นจึงไม่สนใจสิ่งรอบข้าง รีบเร่งทำงานอย่างต่อเนื่องและให้รวดเร็ว ทันความต้องการของจ๊อบ ที่วันนี้นิสัยเปลื่ยน
ค่ำคืนเดียวดายสุดหรูในคอนโดที่เงียบเหงา อ้นนั่งเหม่อลอยรอคอยจ๊อบกลับมา เขาหวนคิดถึงคะนึงหาเรื่องราวในอดีตที่ผ่านมา อ้นครุ่นคิดทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้น ต่อจากนี้เขาจะยอมรับผลของการเลือกทางเดินของตัวเอง อ้นพร้อมรับรักและเป็นของจ๊อบทั้งกายและใจ ทว่าเขาก็ไม่สามารถคาดเดาในอนาคตได้ ต่อจากนี้อะไรจะเกิดขึ้น ถึงกระนั้นอ้นก็ไม่สนใจอีกต่อไป เขาขอแค่อยู่กับปัจจุบันให้มีความสุขแค่นั้นเป็นพอ ในขณะที่อ้นกำลังคิดอะไรเพลินๆจ๊อบก็เดินเข้ามายังห้องนอนของอ้น “ชอบไหม”จ๊อบมีสีหน้าที่นิ่งเฉย “ชอบครับ แต่มันคงแพงมาก อ้นว่ามันมากไปสำหรับอ้นน่ะ” “ไม่หรอก สำหรับคนที่ผมรัก และทำให้ผมเจ็บ”จ๊อบนั่งลงข้างๆอ้น “นี่เอกสาร ถ้าอ้นเซ็นคอนโดนี่ก็เป็นคนอ้นทันที”จ๊อบยื่นเอกสารให้อ้น “ไม่เอาหรอกครับ ขอแค่อ้นได้อยู่ก็พอใจแล้ว และอีกอย่างอ้นทำให้บอสเจ็บ คงไม่เหมาะที่จะรับของบอสหรอกครับ”อ้นหันหน้าไปทางอื่นด้วยความน้อยใจ “ไม่ได้ ห้ามปฏิเสธ อ้นจำเป็นต้องมีสมบัติติดตัวด้วย และนี่คือกุญแจรถ”จ๊อบยื่นให้อ้น แต่ของทั้งสองชิ้นอ้นปฏิเสธหมด “ถ้าอ้นไม่เอาเราเลิกกัน”จ๊อบวางเอกสารไว้บนหัวเตียง “ทุกวันนี้ก็เหมือนเลิกก
อ้นได้ย้ายมาอยู่ที่คอนโดของจ๊อบแฟนหนุ่มที่มั่งคั่ง ในช่วงเวลาที่อยู่กันหลายเดือนอ้นก็มีความสุขสบายอย่างที่ใจเขาต้องการ ยามว่างอ้นก็ไปร้านอ้นคาเฟ่ ที่ขายกาแฟและเครื่องดื่มพร้อมกับเบเกอรี่ ที่จ๊อบแฟนหนุ่มเจ้าของบริษัทบีเอ็มรีไซเคิลเป็นคนเปิดให้ สองสามวันมานี้จ๊อบแฟนหนุ่มของเขาไม่ได้มาหา เพราะมีลูกค้ามาจากต่างประเทศเขาจึงต้องไปพบปะพูดคุยกับลูกค้า ในค่ำคืนนี้อ้นจึงรู้สึกเหงาๆ ในระหว่างที่อ้นกำลังนั่งดูซีรี่ที่เขาชอบอยู่นั้น ก็ได้มีเสียงกริ่งดังขึ้น อ้นจึงเดินออกไปส่องดูและเขาก็แน่ใจว่าไม่รู้จัก แต่อ้นก็ใจกล้าเปิดออกมา เพราะอยากรู้ว่าคนที่มาหานั้นเป็นใคร มีธุระจนมาเกือบจะมืดค่ำอยู่แล้ว พออ้นเปิดประตูออกแค่นั้น สาววัยกลางคนก็เดินเข้ามาในห้องของเขาทันที เมื่อมาถึงก็ไม่มีความเกรงใจเดินมองไปรอบๆห้อง “คุณเป็นใครเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาต”อ้นเดินตามติดทุกฝีก้าวที่ทั้งสองเดินไปมา “ฉันต้องถามเธอมากกว่ามั้งว่าเป็นใคร”สาววัยกลางจ้องหน้าของอ้นอย่างกับกินเลือดกิ นเนื้อ “ทำไมต้องถามผม ผมต่างหากต้องถามคุณ ที่นี่มันคอนโดของผม คุณต่างหากที่บุกรุกเข้ามาในที่ส่วนบุคคล”
อ้นรีบมาที่หลายอ้นคาเฟ่แต่เช้า เพราะมีมือดีมาพ่นสีที่หน้าร้าน ด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย จนผู้คนที่เดินผ่านมาผ่านไปต้องหันมามอง และข้อสำคัญลูกค้าประจำเมื่อมาถึง แล้วเห็นคำพ่นด่าและกองอุจาระคน ที่วางอยู่หน้าประตูร้าน จึงทำให้ลูกค้าเหล่านั้นต่างแยกย้ายหนีหายไปกันหมด เมื่ออ้นมาถึงร้านของเขา อ้นถึงกับตกใจและเกิดความกลัว เพราะในข้อความนั้นเขียนถ้อยคำที่หยาบคาย อีอ้นขายตัว ไร้ยางอาย หน้าหนา ถ้ามึงยังไม่เลิกยุ่งกับผัวกู กูจะตามรังควานมึงไม่เลิก “พี่อ้น หนูมาถึงก็เป็นแบบนี้แล้ว เราจะทำอย่างไรดีล่ะ”พนักงานสาวคนหนึ่งพูดขึ้น “ปิดร้านสักพัก เรื่องเงินเดือนเดี๋ยวพี่จะจ่ายตามเดิมนะไม่ต้องห่วงหรอก” “ใครกันทำหนูอยากรู้จริงๆ” “พี่ก็ไม่รู้หรอก พี่ดูในกล้องมันปิดหน้าขับมอเตอร์ไซค์มา เห็นหน้าไม่ชัด เลยแต่พี่แจ้งความไว้แล้ว” “เอ้า นั่นใครมา”พนักงานสาวคนเดิมพูดขึ้น “ว่าไงจ๊ะ อ้น ใครช่างกล้ามาเขียนเรื่องจริง อุ๊ย เรื่องไม่จริงได้นี่”บี้เลขาของจ๊อบแฟนหนุ่มของอ้นเดินเข้ามาใกล้ๆอ้น “ก็สงสัยใครช่างกล้าทำ”อ้นนั่งนิ่งๆ “ที่มานี่ไม่ได้มาเพราะเป
อ้นมองหน้าเอด้วยความโกรธที่เขามาพูดจาไม่ดี และข่มขู่เขาซึ่งอ้นก็ไม่เข้าใจว่าเอจะแค้นเคืองเขาอะไรหนักหนา ในเมื่อจุดเริ่มต้นเอไปฝ่ายทิ้งเขาไปก่อน และเมื่อเจอกันอีกครั้งก่อนหน้านี้ ก็เป็นเรื่องปกติที่อ้นเลือกคนอื่น เพราะในเมื่อเอทำให้เขาเจ็บตั้งแต่แรก “นายนี่มันหมาบ้ากัดไปเรื่อย เรื่องของเรามันจบไปนานแล้ว” “กูไม่จบ” “ไม่จบอะไร”เจนรีบเดินมาถามเมื่อเห็นสองคนคุยกันนานพอสมควร “เรื่องรถ ไม่มีอะไรหรอก”เอพูดขึ้น “ก็ไม่เห็นมีอะไรนี่ ก็แค่เรียกประกันมาแค่นั้นก็จบ จะมายืนคุยอะไรกันให้มากความ เดี๋ยวพวกเราต้องไปซื้อของกันอีกไม่ใช่เหรอ ตอนเย็นก็ต้องไปหาไอ้ตั้มกับไอ้ตูน” “ฮือ ตามนั้น”เอจำในพยักหน้าให้เจน “ใช่ นายจะมาพูดเรื่องไร้สาระอะไรให้มากความ”อ้นมองปราดเดียวทั้งสองคน เมื่อทุกอย่างจบอ้นก็รีบไปโรงพยาบาล เพราะศีรษะของเขาเริ่มคล้ำเขียวจากการโดนกระแทก หลังจากหาหมอเสร็จเขาก็รีบกลับมาที่ห้องในทันที หลายวันต่อมาอ้นไม่ได้ออกไปไหน เพราะเขายังเจ็บรอยซ้ำที่ศีรษะ และเหตุการณ์ในครั้งนี้เขาก็ไม่ได้บอกใครแม้แต่คนเดียว รวมทั้งจ๊อบแฟนหนุ่มของเขา เพราะอ้
การกลับบ้านของอ้นในครั้งนี้ เขาไมได้ขับรถกลับเพราะยังไม่สามารถทำใจได้ เพราะก่อนหน้านี้ที่เขาโดนรถชน และมีคนมาขู่อาฆาตเขา อ้นจึงตัดสินใจขึ้นรถประจำทางมา เพื่อความปลอดภัยกับตัวเอง เมื่อรถประจำทางมาถึงที่ขนส่ง เพียงอ้นลงจากรถแค่นั้นวินมอเตอร์ไซค์ก็เข้ามาหาอ้นทันที “ไปไหนครับ” อ้นจึงบอกที่อยู่ที่เขาจะไปและตกลงราคากัน อ้นจึงตัดสินใจไปกับวินมอเตอร์ไซค์หนุ่ม ที่รุ่นเดียวกับเขาแต่พูดจาไพเราะ เขาจึงรู้สึกไว้ใจและคาดว่าน่าจะไม่เกิดอะไรขึ้นกับเขา เมื่อวินเตอร์ไซค์ขับมาถึงกลางทางบ้านของเขา วินมอเตอร์ไซค์ก็เปลื่ยนทิศทางทันที อ้นผิดสังเกตจึงบอกให้วินมอเตอร์ไซค์จอดรถ แต่ไม่เป็นผลเพราะวินมอเตอร์ไซค์ขับเร็วยิ่งขึ้นกว่าเดิม “จอดรถเดี๋ยวนี้ นายจะพาเราไปที่ไหน” ไร้เสียงตอบกลับจากวินมอเตอร์ไซค์ อ้นเกิดความกลัวและคิดไม่ตกว่าจะทำเช่นไร เพราะหลายเหตุการณ์ที่ผ่านมานั้นทำให้เขาคิดไปต่างๆนาๆ “ถ้านายไม่จอดรถเราจะกระโดดลงแล้วนะ”อ้นขู่ไปอย่างงั้นเพราะอย่างไงเขาก็ไม่กล้าที่จะกระโดดลงรถอย่างแน่นอน อ้นพลันคิดได้เขาจึงหยิบมือถือออกมา พร้อมที่จะโทรขอความช่วยเหลือ วินมอเตอร์ไซค
เอเดินทางกลับมายังบ้านของเขาซึ่งปลูกห่างจากบ้านพ่อแม่ของเขาพอสมควร ส่วนกระท่อมน้อยปลายไร่นั้นไกลจากบ้านเขาไม่มากนัก ที่เขาไม่พักที่เดียวกับอ้น เพราะเขาแค้นเคืองอ้นที่ไม่รับรักเขา จึงอยากที่จะแกล้งสักระยะหลังจากนั้นจะปล่อยอ้นไป เพราะเอนั้นรู้ข่าวจากตั้มและตูนเพื่อนของเขาที่เป็นแฟนซันและซีเพื่อนของอ้น ว่าอ้นจะกลับบ้านเวลาไหนและนั่นเป็นเหตุให้เอได้มาช่วยอ้นได้ทันเวลา แต่เขาก็ยังแปลกใจไม่หายใครที่จ้องทำร้ายอ้น ซึ่งเอเป็นห่วงอ้นมากเขาจึงจะพยายามหาคนร้ายที่อยู่ข้างหลังให้ได้ โดยมีตั้มตูนและซันซีร่วมด้วยช่วยอยู่เบื้องหลัง เหตุการณ์ที่อ้นได้มาอยู่กับเอทั้งสี่คนก็รู้ ยกเว้นแต่จีจี้ที่ซันและซีไม่ยอมบอก เพราะจีจี้ไม่ค่อยชอบเออย่างมาก เมื่อเอมาถึงบ้านของเขาก็เห็นเจนนั่งรอเขาอยู่ในบ้าน เพราะเจนสามารถเข้านอกออกในบ้านของอ้นได้ตามต้องการ เพราะเอนั้นไม่สามารถที่จะห้ามเจนมาหาเขาได้ เพื่อตัดปัญหาเอจึงให้กุญแจบ้านกับเจนไว้อย่างถาวรเลย “ไปไหนมากลับมาซะมืดค่ำเลย”เจนถามทันทีที่เอเข้ามาภายในบ้าน “ไปทำธุระ”เอนั่งลงบนโซฟาเก่าๆในห้องโถงขนาดเล็ก “ธุระที่ไหน” “กูจะไปไหนมาไหนต้อง
อ้นมาในชุดเตรียมพร้อม กางเกงขายาวเสื้อลายดอกแขนยาวพร้อมหมวก รองบูทส่วนมือก็สวมถึงมือ และอุปกรณ์ใส่ข้าวโพดสะพายด้านหลัง อ้นรู้สึกหนักและเหนื่อยที่เดินมาที่ไร่ แต่เอก็ไม่มีท่าทีสงสารอ้นแม้แต่น้อย “หักข้าวโพดเดี๋ยวนี้จนกว่าจะถึงเที่ยง”เอออกคำสั่งเสียงดัง “ทำไมใจร้ายกับเราอย่างนี้เราไปทำอะไรให้นายเจ็บซ้ำน้ำใจ” “ก็กูรักมึงแต่มึงไม่รักกู เป็นอัลไซเมอร์หรือไง แต่ก็ไม่เป็นไรก็จะย้ำกับมึงทุกๆวัน” “ย้ำไปถึงชาติหน้าเลย เราไม่มีวันรักคนที่ทำร้ายเราหรอก” “ไม่เชื่อคอยดูก็แล้วกัน แต่ตอนนี้มึงหักข้าวโพดก่อน” เอจำใจทำตามอ้นอย่างเสียมิได้ ถึงแม้อ้นจะไม่ค่อยได้ทำงานหนักมาก่อน แต่เขาก็สามารถที่จะหักข้าวโพดได้ เพราะพื้นเพของอ้นแค่พอมีพอใช้ไม่ได้ถึงกับรวยมาก แต่ถ้าให้อ้นเลือกเขาก็อยากทำงานที่สบายไม่ต้องออกแรงขนาดนี้ “เก็บให้มันเร็วๆหน่อยซิ ทำเป็นมือไม้อ่อนกูไม่ใช้บอสนะ จะมาอ่อยโน้นนี่ทำไม่ไหว ฝันไปเถอะว่ากูจะสงสารมึง ถ้ายังไม่เที่ยงไม่ต้องกินข้าว” “แค่นี้ก็เร็วแล้ว จะเอาเร็วแค่ไหน” “มันต้องทำอย่างนี้”เอทำให้ดูและเขาก็เดินหักข้าวโพดนำหน้าอ้นไป