อ้นได้ย้ายมาอยู่ที่คอนโดของจ๊อบแฟนหนุ่มที่มั่งคั่ง ในช่วงเวลาที่อยู่กันหลายเดือนอ้นก็มีความสุขสบายอย่างที่ใจเขาต้องการ ยามว่างอ้นก็ไปร้านอ้นคาเฟ่ ที่ขายกาแฟและเครื่องดื่มพร้อมกับเบเกอรี่ ที่จ๊อบแฟนหนุ่มเจ้าของบริษัทบีเอ็มรีไซเคิลเป็นคนเปิดให้
สองสามวันมานี้จ๊อบแฟนหนุ่มของเขาไม่ได้มาหา เพราะมีลูกค้ามาจากต่างประเทศเขาจึงต้องไปพบปะพูดคุยกับลูกค้า ในค่ำคืนนี้อ้นจึงรู้สึกเหงาๆ ในระหว่างที่อ้นกำลังนั่งดูซีรี่ที่เขาชอบอยู่นั้น ก็ได้มีเสียงกริ่งดังขึ้น อ้นจึงเดินออกไปส่องดูและเขาก็แน่ใจว่าไม่รู้จัก แต่อ้นก็ใจกล้าเปิดออกมา เพราะอยากรู้ว่าคนที่มาหานั้นเป็นใคร มีธุระจนมาเกือบจะมืดค่ำอยู่แล้ว
พออ้นเปิดประตูออกแค่นั้น สาววัยกลางคนก็เดินเข้ามาในห้องของเขาทันที เมื่อมาถึงก็ไม่มีความเกรงใจเดินมองไปรอบๆห้อง
“คุณเป็นใครเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาต”อ้นเดินตามติดทุกฝีก้าวที่ทั้งสองเดินไปมา
“ฉันต้องถามเธอมากกว่ามั้งว่าเป็นใคร”สาววัยกลางจ้องหน้าของอ้นอย่างกับกินเลือดกิ นเนื้อ
“ทำไมต้องถามผม ผมต่างหากต้องถามคุณ ที่นี่มันคอนโดของผม คุณต่างหากที่บุกรุกเข้ามาในที่ส่วนบุคคล”
“เหรอ คอนโดของเธอเหรอ”
“ก็ใช่น่ะสิ ถ้าไม่ใช่ของผมจะมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรกัน”
“ก็ใช้มารยาหลอกล่อน้องชายของฉันซื้อให้น่ะสิ”จีน่ามองอ้นตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า พร้อมเบ้ปากค้อนทางสายตา
“ผมไม่ได้ใช้มารยา บอสเขาซื้อให้ผมเอง ผมไม่ได้ร้องขอ ถ้าคุณเป็นพี่ของบอส ผมก็ขอโทษด้วย”อ้นยกมือไหว้
“กองไว้ตรงนั้นแหละ ไหนๆน้องชายฉันก็ซื้อคอนโดให้แล้ว ฉันก็ทำอะไรไม่ได้ แต่ฉันมีข้อเสนอให้เธอ ซึ่งมันน่าสนใจอย่างมาก ถ้าเธอต้องการมัน และเธอก็จะไม่ลำบาก”
“ข้อเสนออะไร”อ้นมีสีหน้างงอยู่พอประมาณ
“ฉันอยากให้เธอเลิกกับน้องชายของฉัน เธอต้องการเท่าไรก็บอกมาได้เลย”
“ผมไม่ต้องการเงินของคุณหรอก เพราะที่บอสให้ไว้ใช้มันก็มีมากพอทีผมจะใช้ชีวิตอยู่แล้ว”
“เธอไม่ต้องการเพิ่มอีกเหรอ เงินสดๆหลายล้านนะ ฉันรู้จ๊อบให้เธอแค่รายเดือนแค่ไม่กี่หมื่น กับคอนโดห้องนี้ก็ไม่กี่ล้าน รถที่เธอขับก็ไม่ถึงล้าน ร้านคาเฟ่ของเธอใช่ว่าจะขายดี กำไรนิดๆหน่อย ไม่พอใช้หรอก ถ้าเธอได้เงินจากฉันสักก้อนประมาณแปดหลัก แลกกับตัวจ๊อบฉันว่ามันคุ้มกว่านะ”
“ใช่ เงินที่คุณให้อาจมากกว่าที่บอสให้หลายเท่า แต่นั้นไม่ใช่ประเด็นหลักที่ผมอยู่กับบอส ที่เราอยู่ด้วยกันเหตุผลหลักคือเรารักกัน”
“รักกัน ขอขำหน่อยนะ”จีน่าหัวเราร่วน
“ฉันไม่เชื่อหรอกว่าพวกเธอจะรักกัน อ๋อน้องชายฉันอาจรักเธอจริงๆก็ได้ แต่เธอฉันไม่มีวันเชื่อ จากพนักงานธุรการต๊อกต๋อย ใช้ตัวเข้าแลกเพื่อที่จะได้อยู่สบายไม่ต้องทำงาน”
“งานผมก็จะทำแต่บอสไม่ให้ทำ”
“ฉันไม่เชื่อหรอก เข้าเรื่องเลยก็แล้วกัน”
“เรื่องอะไร”
“ก็เรื่องของเธอกับน้องชายของฉันไง จ๊อบเขาไม่เหมาะกับเธอหรอก ฉันเข้าใจในตัวของน้องฉัน น้องฉันเป็นแบบไหนฉันรับได้หมด แต่ที่ฉันรับไม่ได้ก็คนที่เข้ามาหาน้องฉันหวังแค่เงินทอง ฐานะดั้งเดิมของเธอใช่ว่าจะดีซะที่ไหน คอนเนคชั่นต่างๆก็ไม่มี ได้แต่มาเกาะน้องชายของฉัน คนที่จะมาเป็นแฟนน้องชายฉัน ต้องมีฐานะทีดีกว่าเธอและสามารถพาน้องชายของฉันให้รุ่งโรจน์ พร้อมที่จะผลักดันให้น้องชายของฉันไปได้ไกลกว่านี้ แต่เท่าที่ฉันดูเธอมันตัวถ่วงน้องชายฉันมากกว่า”
“ผมไม่ใช่ตัวถ่วง ผมพร้อมที่จะช่วยบอสทำงานทุกอย่าง”
“ถึงเธอพร้อม ความสามารถพร้อม แต่ฐานะของเธอไม่พร้อม น้องชายฉันเป็นคนมีหน้ามีตาในสังคม การที่จะได้ใครสักคนมาเป็นคู่ชีวิต ควรที่จะได้คนที่พร้อมทุกอย่าง แต่ไม่ใช่เธอแน่นอน”
“ถึงผมจะไม่สามารถช่วยบอสได้ทุกเรื่อง ความพร้อมอาจไม่สมบูรณ์อย่างที่คุณต้องการ แต่ผมรักบอสจากใจจริง ไม่ได้หวังสิ่งตอบแทนอะไรที่มากไปกว่านี้เลย”
“ฉันเข้าใจเธอตรงนี้นะ แต่เธอไม่เข้าใจฉันต่างหาก เธอฟังนะ เธอไม่เหมาะกับน้องชายของฉัน โดยเฉพาะฐานะ ฉันอยากได้คนที่พร้อมมากว่าเธอ ซี่งฉันก็เจอแล้วฉันจึงมาขอให้เธอเลิกยุ่งกับน้องชายของฉันไง น้องชายของฉันจะได้เจอคนที่เพียบพร้อมทุกอย่าง”
“ผมเข้าใจ แต่เรารักกันเรื่องนั้นมันไม่ใช่ประเด็น”
“ทำไมจะไม่ใช่ เธอไม่ได้อยู่ในสังคมชั้นสูง เธอไม่มีวันเข้าใจความต้องการของพวกเราหรอก”
“ใช่ พวกคุณอยู่ในสังคมชั้นสูง แต่ดูแล้วจิตใจไม่ได้สูงส่งตามด้วยแน่นอน”
“ปากคอเลาะร้ายนะ”
“ไม่ใช่ปากร้ายหรอกครับ แค่ป้องกันตัวไม่มีใครชอบโดนด่าหรอกนะ ให้โดนด่าอยู่ฝ่ายเดียวได้ไง”
“ก็ได้ วันนี้ฉันพอแค่นี้ วันหน้าฉันจะมาใหม่ ฉันให้เวลาเธอหนึ่งอาทิตย์ เดี๋ยวฉันจะมาหาเธออีกครั้งหลังจากอาทิตย์นี้”พูดจบจีน่าก็เชิดคอ ตั้งและเดินออกจากห้องไป
เมื่อจีน่าพี่สาวของจ๊อบได้ออกไปจากห้องของอ้นแล้ว อ้นก็นั่งลงคิดถึงคำพูดของจีน่า ซึ่งบางอย่างมันก็จริงอย่างที่จีน่าบอก ซึ่งข้อนั้นที่อ้นไม่สามารถปฏิเสธได้เลย เรื่องฐานะอ้นไม่ได้คิดข้อนี้เท่าไร แต่สิ่งที่อ้นคิดก็เรื่องของจ๊อบไปทำงานพบปะลูกค้า ถ้าจ๊อบได้คนที่มีคอนนกชั่น เก่งปราดเปรียว จ๊อบก็คงไปได้ไกลกว่านี้ แต่จ๊อบในวันนั้นเลือกอ้นจึงเป็นอย่างทุกวันนี้ ที่จ๊อบต้องทำงานคนเดียวหามรุ่งหามค่ำโดยที่เขาไม่สามารถที่ช่วยอะไรได้แม้แต่น้อย มีแค่กำลังใจให้กับมีความสัมพันธ์ทางกายแค่นั้น
ค่ำคืนนี้เป็นอีกค่ำคืนที่อ้นรอจ๊อบอย่างใจจดใจจ่อว่าเขาจะกลับมาไหม อ้นนั่งรอจ๊อบจวบจนเที่ยงคืนจนเขาเริ่มรู้สึกง่วงนอนและเผลอหลับไปในทันที และมารู้สึกตัวอีกทีเพราะรู้สึกมีใครมาสัมผัสที่ใบหน้าของเขา อ้นจึงค่อยๆลืมตาขึ้นเพราะเขาก็คิดว่าน่าจะเป็นจ๊อบแน่นอน
“บอส มาตั้งแต่เมื่อไร”อ้นพยุงร่างลุกขึ้นนั่ง
“ไม่ต้องนั่งหรอกนอนอยู่อย่างนั้นแหละ ผมมานานแล้วจนอาบน้ำเสร็จผมยังเห็นคุณหลับอยู่จึงไม่อยากปลุก”
“บอสน่ะทำไมไม่ปลุกอ้นล่ะ”
“ผมอยากให้อ้นหลับอย่างมีความสุข แต่ก็ไม่ได้คิดเลย แค่หอมแก้มนิดเดียวดันตื่นซะนี่ สัมผัสไวจังนะเรื่องแบบนี้ หรือว่านอนรอผมมาทำอะไรให้หรือเปล่า”
“บอส ทะลึ่ง อ้นไม่ได้คิดอย่างงั้นซะหน่อย”
“อ้นไม่ได้คิด แต่ผมคิดนะตอนแรกคิดว่าจะอดเสียแล้วเพราะอ้นนอนหลับ แต่ตอนนี้อ้นตื่นแล้วเราก็มาทำอะไรกันดีกว่า”
“ไม่เอาหรอกอ้นง่วงนอน”
“อ้นไม่ต้องทำอะไรเดี๋ยวผมทำให้เอง อ้นแค่นอนเฉยๆหรือหลับเลยก็ได้”
“ใครจะไปหลับได้ล่ะบอส”
“ทำไมสนุกใช่ไหม”
“ไม่ใช่หรอก เจ็บ” อ้นหัวเราะ
“เจ็บอะไรจะเป็นร้อยครั้งแล้วยังจะเจ็บอยู่อีกหรอ เอ๊ะ แต่ผมไม่เคยเห็นอ้นร้องว่าเจ็บเลยนี่ โกหกหน้าตาย”จ๊อบหยิกที่แก้มของอ้น
“อ้นเจ็บนะ”
“เจ็บแก้มเชื่อแต่เจ็บตรงนี้ไม่เชื่อ”จ๊อบตีไปที่ก้นของอ้น
“บอสจะทำอะไรก็ทำอย่างเล่นแบบนี้เลย”
“เสียวเหรอเล่นไมได้เลยตรงนี้นะ”
“บอสไม่ต้องพูดเล่นแล้ว”
“ไม่พูดเล่นแล้วทำเลยก็แล้วกัน”
เมื่อจ๊อบพูดจบก็ประกบของอ้นทันที เขาตวัดลิ้นไปมาดูดดื่มอย่างหิวกระหาย เพราะเขาไม่ได้มีความสัมพันธ์ทางกายกับอ้นมาหลายวัน จ๊อบหยุดดูดปากกับอ้นและหันมาไล้เลียซอกคอทุกส่วน ใช้ริมฝีปากดอมดมดูดคอ และใช้ปลายคางที่มีตอหนวดคลึงทั่วบริเวณ จนอ้นต้องร้องครางเสียงแผ่วเบา
จ๊อบแกะกระดุมเสื้อของอ้นออกจนเผยเห็นนมชมพู จ๊อบรีบขบไล้เลียวนรอบดูดเบาๆ ส่วนอีกข้างก็ใช้มือขย้ำอย่างนิ่มนวล จ๊อบสลับไปมาทั้งสองข้างอย่างอ่อนโยนละมุน มีแต่ความเสียวซ่านไร้ความเจ็บแต่อย่างใด เพราะจ๊อบบรรจงรังสรรค์ให้อ้นสุดฝีมือ
จ๊อบใช้ริมฝีปากดอมดมลงไล่ลงจนถึงหน้าท้อง หลังจากนั้นเขาก็ดึงกางเกงของอ้นออก จนเผยเห็นหนอนน้อยที่กำลังโตเต็มตัว เขาจึงจับเล่นและใช้ปากอมจนหมดไม่มีเหลือ จ๊อบตวัดลิ้นไปมารูดขึ้นลงพร้อมๆกัน เมื่ออิ่มเอมกับหนอนน้อย จ๊อบจึงยกขาของอ้นสูงขึ้น ส่วนอ้นก็รู้งานจับขาไว้กลางอากาศ
ในส่วนของจ๊อบถอดเสื้อคุมออกจนเผยเห็นร่างกายที่กำยำ และท่อนเอ็นที่แข็งใหญ่ยาวพร้อมสู้รบ จ๊อบจับท่อนเอ็นจ่อที่ช่องทางรักของอ้น และดันทีเดียวเข้าไปลึกจนสุดโคน อ้นสะดุ้งเพียงนิดเดียว เพราะผ่านสนามรบของจ๊อบมานับครั้งไม่ถ้วน ครั้งแรกอาจมีอุปสรรคแต่นานเข้าไร้ปัญหาเช่นนั้นอีกต่อไป
เมื่อท่อนเอ็นเข้าลึกสุดโคน จ๊อบจึงเรี่มโยกตัวดันท่อนเอ็นเข้าออกอย่างช้าๆ และค่อยๆเริ่มแรงและเร็วขึ้นเป็นจังหวะ จนเสียงเนื้อกระทบเนื้อดังไม่ขาดสาย
“ปั๊บ ปั๊บ ปั๊บ”
แรงกระแทกท่อนเอ็นเข้าช่องทางรักนั้น ทำให้อ้นเสียวสยิวซ่านไปทั่วเรือนร่างที่เปลือยเปล่า ยิ่งจ๊อบกระแทกแรงหนักขึ้นเท่าไร ความเสียวยิ่งทวีคูณเพิ่มเป็นเท่าตัว จนอ้นครางอย่างต่อเนื่องและเสียงดังกว่าเมื่อครู่นี้ ส่วนมือของอ้นก็สาวหนอนน้อยของตัวเองเพื่อปลดปล่อยความใคร่สวาท
จ๊อบโหมซอยต่อเนื่องไม่ยอมหยุดพัก จนหยุดเมื่อเปลื่ยนท่าเขาพลิกร่างของอ้นนอนตะแครง แต่ยังคงไว้ไม่ให้ท่อนเอ็นหลุดจากช่องทางรัก ส่วนตัวของเขานั่งคร่อมขาข้างหนึ่งของอ้น และกระแทกท่อนเอ็นเข้าช่องทางรักอย่างต่อเนื่อง แต่ไมได้แรงมากเช่นเดิม เน้นพอดีเป็นจังหวะเพื่ออรรถรสในความซ่านอารมณ์ ยิ่งจ๊อบกระแทกท่อเนอ็นถี่เท่าไรใจของอ้นแท่บขาดดิ้น เพราะเสียวซ่านไปทั่วเรือนร่างที่นอนตะแครงให้จ๊อบโหมกระหน่ำ แทงท่อนเอ็นเข้าช่องทางรักอย่างต่อเนื่องและยาวนาน
ความเสียวซ่านท่อนเอ็นของจ๊อบเริ่มจะสิ้นสุดใจไม่ช้านี้ เพราะเขารู้ตัวว่าน้ำในกายจะหลังออกมาในไม่ช้านี้อย่างแน่นอน เขาจึงโหมกระหนำครั้งสุดท้ายเพื่อปลดปล่อยความใคร่ในกายออกมา ซึ่งก็ใช้เวลาไม่นานจ๊อบก็ปล่อยน้ำในกายพุ่งกระฉูด ไหลเข้าสู่ช่องทางรักอย่างต่อเนื่อง จนเริ่มเหือดแห้งจ๊อบจึงถอนท่อนเอ็นออกจากช่องทางรัก และนอนอย่างหอบเหนื่อยแต่ไม่หมดแรง ส่วนอ้นก็สาวหนอนน้อยไม่กี่ครั้งน้ำในกายก็ไหลทะลักออกมาจนหมดสิ้น
อ้นรีบมาที่หลายอ้นคาเฟ่แต่เช้า เพราะมีมือดีมาพ่นสีที่หน้าร้าน ด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย จนผู้คนที่เดินผ่านมาผ่านไปต้องหันมามอง และข้อสำคัญลูกค้าประจำเมื่อมาถึง แล้วเห็นคำพ่นด่าและกองอุจาระคน ที่วางอยู่หน้าประตูร้าน จึงทำให้ลูกค้าเหล่านั้นต่างแยกย้ายหนีหายไปกันหมด เมื่ออ้นมาถึงร้านของเขา อ้นถึงกับตกใจและเกิดความกลัว เพราะในข้อความนั้นเขียนถ้อยคำที่หยาบคาย อีอ้นขายตัว ไร้ยางอาย หน้าหนา ถ้ามึงยังไม่เลิกยุ่งกับผัวกู กูจะตามรังควานมึงไม่เลิก “พี่อ้น หนูมาถึงก็เป็นแบบนี้แล้ว เราจะทำอย่างไรดีล่ะ”พนักงานสาวคนหนึ่งพูดขึ้น “ปิดร้านสักพัก เรื่องเงินเดือนเดี๋ยวพี่จะจ่ายตามเดิมนะไม่ต้องห่วงหรอก” “ใครกันทำหนูอยากรู้จริงๆ” “พี่ก็ไม่รู้หรอก พี่ดูในกล้องมันปิดหน้าขับมอเตอร์ไซค์มา เห็นหน้าไม่ชัด เลยแต่พี่แจ้งความไว้แล้ว” “เอ้า นั่นใครมา”พนักงานสาวคนเดิมพูดขึ้น “ว่าไงจ๊ะ อ้น ใครช่างกล้ามาเขียนเรื่องจริง อุ๊ย เรื่องไม่จริงได้นี่”บี้เลขาของจ๊อบแฟนหนุ่มของอ้นเดินเข้ามาใกล้ๆอ้น “ก็สงสัยใครช่างกล้าทำ”อ้นนั่งนิ่งๆ “ที่มานี่ไม่ได้มาเพราะเป
อ้นมองหน้าเอด้วยความโกรธที่เขามาพูดจาไม่ดี และข่มขู่เขาซึ่งอ้นก็ไม่เข้าใจว่าเอจะแค้นเคืองเขาอะไรหนักหนา ในเมื่อจุดเริ่มต้นเอไปฝ่ายทิ้งเขาไปก่อน และเมื่อเจอกันอีกครั้งก่อนหน้านี้ ก็เป็นเรื่องปกติที่อ้นเลือกคนอื่น เพราะในเมื่อเอทำให้เขาเจ็บตั้งแต่แรก “นายนี่มันหมาบ้ากัดไปเรื่อย เรื่องของเรามันจบไปนานแล้ว” “กูไม่จบ” “ไม่จบอะไร”เจนรีบเดินมาถามเมื่อเห็นสองคนคุยกันนานพอสมควร “เรื่องรถ ไม่มีอะไรหรอก”เอพูดขึ้น “ก็ไม่เห็นมีอะไรนี่ ก็แค่เรียกประกันมาแค่นั้นก็จบ จะมายืนคุยอะไรกันให้มากความ เดี๋ยวพวกเราต้องไปซื้อของกันอีกไม่ใช่เหรอ ตอนเย็นก็ต้องไปหาไอ้ตั้มกับไอ้ตูน” “ฮือ ตามนั้น”เอจำในพยักหน้าให้เจน “ใช่ นายจะมาพูดเรื่องไร้สาระอะไรให้มากความ”อ้นมองปราดเดียวทั้งสองคน เมื่อทุกอย่างจบอ้นก็รีบไปโรงพยาบาล เพราะศีรษะของเขาเริ่มคล้ำเขียวจากการโดนกระแทก หลังจากหาหมอเสร็จเขาก็รีบกลับมาที่ห้องในทันที หลายวันต่อมาอ้นไม่ได้ออกไปไหน เพราะเขายังเจ็บรอยซ้ำที่ศีรษะ และเหตุการณ์ในครั้งนี้เขาก็ไม่ได้บอกใครแม้แต่คนเดียว รวมทั้งจ๊อบแฟนหนุ่มของเขา เพราะอ้
การกลับบ้านของอ้นในครั้งนี้ เขาไมได้ขับรถกลับเพราะยังไม่สามารถทำใจได้ เพราะก่อนหน้านี้ที่เขาโดนรถชน และมีคนมาขู่อาฆาตเขา อ้นจึงตัดสินใจขึ้นรถประจำทางมา เพื่อความปลอดภัยกับตัวเอง เมื่อรถประจำทางมาถึงที่ขนส่ง เพียงอ้นลงจากรถแค่นั้นวินมอเตอร์ไซค์ก็เข้ามาหาอ้นทันที “ไปไหนครับ” อ้นจึงบอกที่อยู่ที่เขาจะไปและตกลงราคากัน อ้นจึงตัดสินใจไปกับวินมอเตอร์ไซค์หนุ่ม ที่รุ่นเดียวกับเขาแต่พูดจาไพเราะ เขาจึงรู้สึกไว้ใจและคาดว่าน่าจะไม่เกิดอะไรขึ้นกับเขา เมื่อวินเตอร์ไซค์ขับมาถึงกลางทางบ้านของเขา วินมอเตอร์ไซค์ก็เปลื่ยนทิศทางทันที อ้นผิดสังเกตจึงบอกให้วินมอเตอร์ไซค์จอดรถ แต่ไม่เป็นผลเพราะวินมอเตอร์ไซค์ขับเร็วยิ่งขึ้นกว่าเดิม “จอดรถเดี๋ยวนี้ นายจะพาเราไปที่ไหน” ไร้เสียงตอบกลับจากวินมอเตอร์ไซค์ อ้นเกิดความกลัวและคิดไม่ตกว่าจะทำเช่นไร เพราะหลายเหตุการณ์ที่ผ่านมานั้นทำให้เขาคิดไปต่างๆนาๆ “ถ้านายไม่จอดรถเราจะกระโดดลงแล้วนะ”อ้นขู่ไปอย่างงั้นเพราะอย่างไงเขาก็ไม่กล้าที่จะกระโดดลงรถอย่างแน่นอน อ้นพลันคิดได้เขาจึงหยิบมือถือออกมา พร้อมที่จะโทรขอความช่วยเหลือ วินมอเตอร์ไซค
เอเดินทางกลับมายังบ้านของเขาซึ่งปลูกห่างจากบ้านพ่อแม่ของเขาพอสมควร ส่วนกระท่อมน้อยปลายไร่นั้นไกลจากบ้านเขาไม่มากนัก ที่เขาไม่พักที่เดียวกับอ้น เพราะเขาแค้นเคืองอ้นที่ไม่รับรักเขา จึงอยากที่จะแกล้งสักระยะหลังจากนั้นจะปล่อยอ้นไป เพราะเอนั้นรู้ข่าวจากตั้มและตูนเพื่อนของเขาที่เป็นแฟนซันและซีเพื่อนของอ้น ว่าอ้นจะกลับบ้านเวลาไหนและนั่นเป็นเหตุให้เอได้มาช่วยอ้นได้ทันเวลา แต่เขาก็ยังแปลกใจไม่หายใครที่จ้องทำร้ายอ้น ซึ่งเอเป็นห่วงอ้นมากเขาจึงจะพยายามหาคนร้ายที่อยู่ข้างหลังให้ได้ โดยมีตั้มตูนและซันซีร่วมด้วยช่วยอยู่เบื้องหลัง เหตุการณ์ที่อ้นได้มาอยู่กับเอทั้งสี่คนก็รู้ ยกเว้นแต่จีจี้ที่ซันและซีไม่ยอมบอก เพราะจีจี้ไม่ค่อยชอบเออย่างมาก เมื่อเอมาถึงบ้านของเขาก็เห็นเจนนั่งรอเขาอยู่ในบ้าน เพราะเจนสามารถเข้านอกออกในบ้านของอ้นได้ตามต้องการ เพราะเอนั้นไม่สามารถที่จะห้ามเจนมาหาเขาได้ เพื่อตัดปัญหาเอจึงให้กุญแจบ้านกับเจนไว้อย่างถาวรเลย “ไปไหนมากลับมาซะมืดค่ำเลย”เจนถามทันทีที่เอเข้ามาภายในบ้าน “ไปทำธุระ”เอนั่งลงบนโซฟาเก่าๆในห้องโถงขนาดเล็ก “ธุระที่ไหน” “กูจะไปไหนมาไหนต้อง
อ้นมาในชุดเตรียมพร้อม กางเกงขายาวเสื้อลายดอกแขนยาวพร้อมหมวก รองบูทส่วนมือก็สวมถึงมือ และอุปกรณ์ใส่ข้าวโพดสะพายด้านหลัง อ้นรู้สึกหนักและเหนื่อยที่เดินมาที่ไร่ แต่เอก็ไม่มีท่าทีสงสารอ้นแม้แต่น้อย “หักข้าวโพดเดี๋ยวนี้จนกว่าจะถึงเที่ยง”เอออกคำสั่งเสียงดัง “ทำไมใจร้ายกับเราอย่างนี้เราไปทำอะไรให้นายเจ็บซ้ำน้ำใจ” “ก็กูรักมึงแต่มึงไม่รักกู เป็นอัลไซเมอร์หรือไง แต่ก็ไม่เป็นไรก็จะย้ำกับมึงทุกๆวัน” “ย้ำไปถึงชาติหน้าเลย เราไม่มีวันรักคนที่ทำร้ายเราหรอก” “ไม่เชื่อคอยดูก็แล้วกัน แต่ตอนนี้มึงหักข้าวโพดก่อน” เอจำใจทำตามอ้นอย่างเสียมิได้ ถึงแม้อ้นจะไม่ค่อยได้ทำงานหนักมาก่อน แต่เขาก็สามารถที่จะหักข้าวโพดได้ เพราะพื้นเพของอ้นแค่พอมีพอใช้ไม่ได้ถึงกับรวยมาก แต่ถ้าให้อ้นเลือกเขาก็อยากทำงานที่สบายไม่ต้องออกแรงขนาดนี้ “เก็บให้มันเร็วๆหน่อยซิ ทำเป็นมือไม้อ่อนกูไม่ใช้บอสนะ จะมาอ่อยโน้นนี่ทำไม่ไหว ฝันไปเถอะว่ากูจะสงสารมึง ถ้ายังไม่เที่ยงไม่ต้องกินข้าว” “แค่นี้ก็เร็วแล้ว จะเอาเร็วแค่ไหน” “มันต้องทำอย่างนี้”เอทำให้ดูและเขาก็เดินหักข้าวโพดนำหน้าอ้นไป
อ้นวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต ในช่วงเวลานี้เขาไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่า ตัวของเขาจะรอดจากความเลวร้ายนี้ได้อย่างไร มีแต่เพียงวิ่งหนีไปให้ไกล ซึ่งเส้นทางที่อ้นวิ่งเข้าไปนั้นเริ่มลึกเข้าไปในป่าทืบ ถึงกระนั้นอ้นก็ยอมหันหลังไปมอง ถึงแม้คนร้ายที่วิ่งติดตามอ้นจะหยุดอยู่บริเวณรอบนอกของป่าแล้ว เพราะทั้งสามไม่กล้าเข้าไป และมีความคิดที่จะดักรออ้นอยู่ตรงนี้ เนื่องหนึ่งในสามเป็นคนในพื้นที่ เขาจึงรู้ดีว่าป่าแห่งนี้ถ้าไม่ชำนาญพื้นที่ เมื่อเข้าไปแล้วจึงหาทางออกยากมาก ด้วยความเมื่อยล้าอ้นจึงหยุดวิ่งและหันไปมองด้านหลัง ซึ่งอ้นก็ไม่เห็นใครเขาจึงนั่งลงพักเหนื่อย ด้วยความที่ในป่ามีความเงียบเกินเขาจึงเกิดความกลัวขึ้นกะทันหัน ในจิตใจของอ้นเวลานี้หวั่นเกรงกลัวทุกอย่าง เขาพยายามมองไปรอบๆซึ่งมีแต่ป่า และเสียงไหวๆของต้นไม้ที่โอนเอนตามแรงลม พร้อมเสียงสัตว์นานาชนิดที่อ้นได้ฟังถึงกับขนลุก เขาจึงรู้สึกกลัว พออ้นได้มีเวลาพัก เขาจึงเกิดความคิดที่จะไปจากป่าแห่งนี้ แต่เขาไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นเดินไปทางไหน อ้นจึงได้แต่นั่งนิ่งๆอยู่ที่เดิม เพื่อรอใครสักคนผ่านเข้ามาทางนี้ แต่ยังไร้วี่แววด้วยแสงอาทิตย์เริ่มอ่อนแรงล
ช่วงเวลาไม่นานเอก็เดินออกมาจากในป่าทึบ ที่มือถือกล้วยป่าเดินเข้ามาใกล้ๆอ้นที่นั่งอยู่ในกระท่อมอย่างเหงาๆ และหวาดกลัวสิ่งต่างๆที่เขาคิดว่าอาจจะเข้ามาทำร้าย“กินซะเดี๋ยวจะหิวตายไปซะก่อน”“ขอบใจ”อ้นรีบบิดกล้วยสุกออกมากินอย่างเร่งรีบ“ไม่มีน้ำเหรอ”อ้นถาม“ได้คืบจะเอาศอก แต่ก็มีนะ”“เอ้านี้ กินนิดเดียวพอนะ มืดแล้วไปเอาน้ำลำบาก เอยื่นกระบอกไม่ไผ่ที่มีน้ำเต็มกระบอก“ไปเอากระบอกไม้ไผ่มาจากไหน”อ้นถาม “ก็ในกระท่อมนี่แหละ คนหาของป่าคงลืมไว้” “โชคดีจัง ถ้าไม่มีท่าจะแย่เลย” “ไม่แย่หรอก ถ้าหิวมากน้ำของกูก็มีคืนนี้เดี๋ยวให้กิน”เออมยิ้ม “ไอ้โรคจิตในป่ายังคิดเรื่องอกุศลอีก” “กูพูดเรื่องจริง แค่นี้ทำเป็นรับไม่ได้ ทีกินของบอสนี่รับได้” “ความสะอาดต่างกัน” “ปากดี ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องกิน”เอคว้ากระบอกไม่ไผ่จากมือของอ้น แล้วเขาก็ดื่มเองจนครึ่งกระบอก อ้นทำอะไรไม่ได้เขาได้แต่มองเอด้วยความแค้นเคือง เมื่อเอดื่มน้ำเสร็จสิ้นเขาก็ไปนำฟืนเพื่อที่จะมาก่อไฟ และบรรเทาความหนาวกับยุง ไหนจากพวกบรรดาสัตว์ต่างๆกันอีก เอใช้เวลาไม่นานในการรีบก่อไฟจนติด หลังจากนั้นเขาก็ขึ้นมาที่กระท่อม และนั่งข้างๆอ้น ที่ยังมีสีหน้าที
จ๊อบเริ่มไม่สบายใจเพราะหลายวันที่ผ่านมา เขาไม่สามารถติดต่ออ้นได้เลย ยิ่งรู้ข่าวว่าอ้นไม่ได้กลับบ้าน เขาพยายามถามบรรดาเพื่อนของอ้น แต่ก็ไม่มีใครรู้แม้แต่สักคน จ๊อบจึบเร่งทำงานอย่างเริ่งรีบ และตัดนัดที่ไม่สำคัญออกไปให้หมด จ็อบนั่งบนเตียงนอนด้วยผ้าเช็ดตัวผืนเดียวหลังจากอาบน้ำเสร็จ และเขาก็นั่งครุ่นคิดถึงอ้นคู่รักของเขา ถึงที่ผ่านมาเขาอาจละเลยอ้นไปบ้าง แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาหมดรักอ้นแต่อย่างใด ตอนนี้เขากลับเครียดหนักมาก จนจ๊อบได้ยินเสียงเคาะประตูซึ่งเขาก็แน่ใจว่าเป็นบี้เลขาของเขาหรือเปล่า จ๊อบไปเปิดประตูเพื่อให้บี้เข้ามาภายในห้อง “มีอะไรเหรอ”จ๊อบนั่งลงตามเดิม “พรุ่งนี้บอสจะกลับไทยจริงๆเหรอ”สายตาของบี้ไม่ได้มองหน้าของจ๊อบ แต่มองต่ำลงตรงหว่างขาของจ๊อบที่นั่งไม่ได้ระวัง จนเผยเห็นของสงวนแต่จ๊อบไม่ได้สนใจและสังเกตสายตาของบี้ “ใช่ เป็นห่วงอ้น ติดต่อไมได้เป็นอะไรหรือเปล่าก็ไม่รู้” “ใช่น่าเป็นห่วงมาก บี้ก็ยังอดสงสัยไม่ได้ว่าอ้นไปอยู่ที่ไหน” “ถามเพื่อนๆแล้วไม่มีใครรู้เลย” “ไม่มีใครรู้หรือไม่มีใครบอก”บี้เดินไปท