อ้นมองหน้าเอด้วยความโกรธที่เขามาพูดจาไม่ดี และข่มขู่เขาซึ่งอ้นก็ไม่เข้าใจว่าเอจะแค้นเคืองเขาอะไรหนักหนา ในเมื่อจุดเริ่มต้นเอไปฝ่ายทิ้งเขาไปก่อน และเมื่อเจอกันอีกครั้งก่อนหน้านี้ ก็เป็นเรื่องปกติที่อ้นเลือกคนอื่น เพราะในเมื่อเอทำให้เขาเจ็บตั้งแต่แรก
“นายนี่มันหมาบ้ากัดไปเรื่อย เรื่องของเรามันจบไปนานแล้ว”
“กูไม่จบ”
“ไม่จบอะไร”เจนรีบเดินมาถามเมื่อเห็นสองคนคุยกันนานพอสมควร
“เรื่องรถ ไม่มีอะไรหรอก”เอพูดขึ้น
“ก็ไม่เห็นมีอะไรนี่ ก็แค่เรียกประกันมาแค่นั้นก็จบ จะมายืนคุยอะไรกันให้มากความ เดี๋ยวพวกเราต้องไปซื้อของกันอีกไม่ใช่เหรอ ตอนเย็นก็ต้องไปหาไอ้ตั้มกับไอ้ตูน”
“ฮือ ตามนั้น”เอจำในพยักหน้าให้เจน
“ใช่ นายจะมาพูดเรื่องไร้สาระอะไรให้มากความ”อ้นมองปราดเดียวทั้งสองคน
เมื่อทุกอย่างจบอ้นก็รีบไปโรงพยาบาล เพราะศีรษะของเขาเริ่มคล้ำเขียวจากการโดนกระแทก หลังจากหาหมอเสร็จเขาก็รีบกลับมาที่ห้องในทันที
หลายวันต่อมาอ้นไม่ได้ออกไปไหน เพราะเขายังเจ็บรอยซ้ำที่ศีรษะ และเหตุการณ์ในครั้งนี้เขาก็ไม่ได้บอกใครแม้แต่คนเดียว รวมทั้งจ๊อบแฟนหนุ่มของเขา เพราะอ้นไม่อยากให้ทุกคนเป็นห่วง ซึ่งหลายวันที่ผ่านมาจ๊อบก็ห่างหายหน้าไป เพราะเขาต้องไปต่างจังหวัดกับบี้เลขาของเขา
ในความรู้สึกของอ้นก็หึงหวงอยู่เหมือนกัน แต่เขาก็ไม่กล้าพูดอะไรมาก ด้วยกลัวจ๊อบว่า เพราะพักหลังจ๊อบนั้นเปลื่ยนไปเยอะ เชื่อคนอื่นมากกว่าอ้น และไม่ค่อยมาหาเขาเหมือนดั่งแต่ก่อน
อ้นนั่งดูซีรี่จนเกือบสามทุ่ม เพื่อที่จะรอว่าจ๊อบจะมาหาเขาบ้างในคืนนี้ ซึ่งความหวังของเขาก็เป็นจริง เมื่อเสียงกริ่งดังขึ้นเขาจึงรีบไปเปิดประตู และคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาก็คือจ๊อบ ซึ่งอ้นถึงกับเข้าไปกอดในทันที เพราะเขาคิดถึงจ๊อบมาก และในช่วงนี้มีปัญหาหลายอย่าง เขาจึงอยากที่จะอยู่ใกล้ๆคนที่เขารัก
“เป็นอะไรวันนี้ ทุกทีไม่เคยเข้ามากอดผมแบบนี้นี่ ผมรู้สึกดีใจมากเลยนะ แต่ก่อนอื่นให้ผมเข้าไปในห้องก่อนไม่ดีกว่าเหรอ”
“ได้ อ้นลืมตัว อ้นคิดถึงบอสมาก บอสไปต่างจังหวัดหลายวัน น่าจะพาอ้นไปด้วย”
ทั้งอ้นละจ๊อบได้เดินเข้ามในห้อง และจ๊อบนั่งบนเก้าอี้ส่วนอ้นก็ไปรินน้ำมาให้จ๊อบได้ดื่ม เมื่อจ๊อบดื่มน้ำเสร็จเขาวางแก้วลง และดึงตัวอ้นมานั่งที่ตักและกอดรัด พร้อมกับหอมแก้มซ้ายขวาด้วยความคิดถึงเช่นกัน
“ผมก็คิดถึงคุณมากนะ แต่ทำไงได้ล่ะช่วงนี้ผมกำลังขยายสาขา ต้องไปต่างจังหวัดบ่อยหน่อย”
“ทำไมไม่เอาอ้นไปด้วย อ้นก็เคยช่วยบอสทำงาน อ้นรู้เรื่องทุกอย่างนะ”
“จะทำอย่างนั้นได้ไง อ้นเป็นแฟนผมแล้ว แฟนผมต้องไม่ทำงาน แค่ดูแลผมก็พอ”
“อ้นก็อยากดูแลบอสนั่นแหละ แต่บอสไม่ค่อยมาให้อ้นดูแลสักเท่าไร”
“ก็ผมงานยุ่งนี่ วันนี้ผมก็มาแล้ว อ้นดูแลผมได้เต็มที่เลยนะ เพราะวันพรุ่งนี้ผมต้องต่างประเทศสองอาทิตย์”
“อะไรนะ มาอยู่กับอ้นคืนเดียวแล้วก็ไปต่างประเทศตั้งสองอาทิตย์”อ้นมีน้ำเสียงที่น้อยใจอย่างเห็นได้ชัด
“ผมสัญญาหลังจากกลับจากต่างประเทศ ผมจะให้เวลาอ้นเต็มที่ ผมจะพักร้อนสักอาทิตย์ เราจะไปเที่ยวกันดีไหม ตั้งแต่อ้นมาอยู่กับผมยังไม่เคยได้ไปไหนเลยนี่”
“กลัวไม่จริงน่ะสิ แต่ก็ได้อ้นจะรอ”
“ดีมาก อ้นช่างรู้ใจผม เพราะผมไม่ชอบคนขัดใจ”
“เอาล่ะ บอสไปอาบน้ำได้แล้ว เดี๋ยวอ้นจะขัดหลังให้”
อ้นลุกขึ้นจากตักของจ๊อบและหันหน้ามาหาจ๊อบ เมื่อจ๊อบเห็นใบหน้าของอ้น เขาถึงกับตกใจ เพราะรอยฟกซ้ำยังไม่จางหาย ยังพอเห็นร่องลอยอยู่พอสมควร
“หน้าอ้นไปโดนอะไรมา”จ๊อบลุกขึ้นทันทีและใช้มือลูบคลำ บริเวณรอยฟกซ้ำดำเขียวที่จางลงบ้าง
“พอดีมีอุบัติเหตุนิดหน่อย มีรถปาดหน้าและชนท้าย”
“ทำไมอ้นไม่บอกผม มีเรื่องอะไรผมเคยสั่งไว้แล้วว่าต้องบอก ไม่ใช่มานิ่งเงียบแบบนี้ ต่อไปผมจะไว้ใจอ้นได้อย่างไร อนาคตข้างหน้าอ้นอาจจะปิดบังเรื่องบางอย่างกับผมก็ได้ อย่างเช่นเมื่อก่อนอ้นยังปิดบังเรื่องแฟนเก่าเลย”
“ถ้าเรื่องอื่นอ้นไม่ปิดบังบอสหรอก แต่นี่เรื่องเล็กน้อยและอ้นไม่อยากให้บอสเป็นห่วงน่ะ”
“รู้ไหมอ้นทำให้ผมผิดหวังอีกครั้งแล้วนะ ช่วงนี้อ้นเป็นอะไรชอบทำให้ผมผิดหวังในตัวอ้นตลอด แต่ครั้งนี้ผมจะให้อภัยเพราะอ้นเจ็บ แต่ครั้งหน้าอ้นมีอะไรปิดบังผมอีก ผมจะไม่มีวันให้อภัยอ้นเลยนะ”
“ครับ ต่อไปอ้นจะไม่ปิดบังอะไรบอสอีกแล้ว”
“ดีมาก แล้วเจ็บมากไหม”
“ไม่เจ็บหรอกบอส แค่บอสมาหาอ้นแค่นี้ก็หายเจ็บแล้ว”
“ไม่ต้องมาปากหวานกลบเกลื่อนความผิดเลย”
“บอส”อ้นน้อยใจจริงๆหันหลังให้จ๊อบ
“ผมขอโทษนะ อย่างอนผมเลย”จ๊อบเข้าไปกอดอ้นอีกครั้ง เพราะเขาก็รู้สึกไม่ค่อยดี ที่พักหลังเขาพูดจาไม่ดีกับอ้นหลายอย่าง แต่ด้วยช่วงนี้จ๊อบทำงานหนักและถูกเป่าหูจากสารพัดทิศทาง จนทำให้เขาเป้ไปบ้างอยู่หลายครั้ง
“อ้นไม่ได้น้อยใจหรอก บอสไปอาบน้ำเถอะ”ปากกับใจของอ้นไม่ตรงกัน เพราะเขาก็รู้สึกน้อยใจจ๊อบพอสมควร ที่พักหลังชอบว่าเขาตลอดและเข้าข้างคนอื่นอยู่เป็นประจำ
“ก็ได้เดี๋ยวเราอาบน้ำพร้อมกัน”
“เดี๋ยวอ้นจะไปเตรียมของก่อนนะ เอ่อแล้วบอสไปต่างประเทศกับใครเหรอ”
“จะใครล่ะบี้ไง”
อ้นรีบหันมามองจ๊อบทันที เพียงได้ยินว่าจ๊อบจะไปต่างประเทศกับบี้ อ้นถึงกับใจสั่นและหวั่นไหวหึงหวง กลัวสารพัดอย่างที่อาจเกิดเหตุไม่คาดฝัน
“ไปกันสองคนเหรอ”อ้นมีสีหน้าที่บึ้งตึง
“ใช่ หึงผมเหรอ”จ๊อบอมยิ้ม
“ไม่หึงหรอกอยากพาใครก็พาไปเลย”
“แน่นะไม่หึง ถ้าไม่หึงก็ดีแล้ว ผมจะได้สบายใจ”
“ไหนเมื่อก่อนชอบให้อ้นหึง พออ้นหึงจริงๆกลับเฉย”
“ก็ดีใจอยู่ทีอ้นหึงผม อย่างอนอีกเลยนะ เรามาอาบน้ำกันและทำอะไรบางอย่างดีกว่า”
“ที่มาหาอ้นก็เรื่องนี้เรื่องเดียวมั้ง”
“ไม่ใช่ ผมคิดถึงอ้นด้วยนั่นแหละ”
“กริ่งๆๆๆ”เสียงโทรศัพท์ของจ๊อบดังขึ้น
จ๊อบเลิกคุยกับอ้นทันที และเดินไปหยิบโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะ ซึ่งพี่สาวของเขาโทรมา จ๊อบจึงกดรับในทันที
“พี่มีอะไรเหรอ”
“พรุ่งนี้จะไปต่างประเทศแล้วนี่ พ่อกับแม่เขาอยากเจอหน้าหน่อย กลับมาหาท่านด้วย นี่ก็สามทุ่มกว่าแล้ว เดี๋ยวสักพักท่านก็จะนอน ท่านทั้งสองบ่นถึงจ๊อบทุกวันเลย ช่วงนี้จ๊อบงานยุ่งเลยไม่ค่อยได้มาหาท่าน มาหาสักหน่อยได้ไหม”
“ได้ครับ เดี๋ยวผมจะรีบไป ผมก็ลืมไปเลยว่าไม่ได้เจอพ่อกับแม่หลายวันแล้ว”
“มาเร็วๆนะท่านทั้งสองรออยู่”
“ครับ”
อ้นยืนฟังตลอดเวลา เมื่อเขาได้ยินว่าจ๊อบจะกลับไปที่บ้าน น้ำตาของเขาก็หลั่งไหลออกมาในทันที เพราะช่วงนี้เขาเหงาและกลัว บวกกับมีเรื่องราวที่ชวนให้คิดมากหลายอย่าง เขาจึงอยากที่จะมีใครสักคนอยู่ใกล้ๆ ขืนให้เขาอยู่คนเดียวอีกสองอาทิตย์ เพื่อรอจ๊อบกลับมาเขายากที่จะทำใจรับได้
“คือพี่โทรมา อยากให้ผมไปหาพ่อกับแม่”
“ไม่เป็นไร บอสไปหาท่านทั้งสองเถอะ เพราะท่านคงคิดถึงบอส”
“เสียดายวันนี้เป็นวันสุดท้ายด้วย พรุ่งนี้เช้าผมต้องไปต่างประเทศอีก เสียดายจริงๆเลย ไม่ได้เจออ้นตั้งหลายวัน คืนนี้อยากนอนกอดอ้นทั้งคืนเลย”
“กลับมาค่อยกอดก็ได้ อ้นไม่ได้หายไปไหน”
“แต่ผมก็อดเป็นห่วงอ้นไม่ได้เลย เพราะช่วงนี้อ้นโดนนั่นโดนนี่บ่อย”
“ไม่ต้องห่วงอ้นหรอก อ้นอยู่ได้ อ้นคิดว่าถ้าบอสไปต่างประเทศ อ้นก็จะกลับไปอยู่บ้านกับพ่อและแม่สักสิบวันดีไหม”
“ดีเลย ผมจะได้หมดห่วง ตั้งแต่มาอยู่กับผม อ้นยังไม่ได้กลับบ้านเลย ถ้างั้นอ้นอยู่นั่นรอผมด้วยก็แล้วกัน ถ้าผมกลับจากต่างประเทศ ผมจะไปหาที่บ้านอ้น ไปรับอ้นและไปทำความรู้จักพ่อตาแม่ยาย”จ๊อบยิ้ม”
“บอสพูดไปเรื่อย พ่อแม่ของอ้นยังไม่รู้เลยว่าอ้นมีแฟนแล้ว”
“อ้าว อ้นไม่ได้บอกเหรอ”
“ไม่ได้บอกหรอก แต่พ่อกับแม่อ้นก็รู้อยู่แล้วว่าอ้นไม่ได้ชอบผู้หญิง”
“ไม่เป็นไร ถ้าผมไปหาพ่อกับแม่อ้น ผมจะบอกเรื่องนี้เอง ว่าจะดูแลลูกชายพ่อกับแม่ของอ้นอย่างดี”
“อย่างงั้นก็ได้ รีบไปเถอะ ให้คนแก่รอนานเดี๋ยวท่านจะหลับไปซะก่อน ไมได้เจอลูกชายสุดที่รักหรอก”
“มาให้ผมกอดก่อนไป”
อ้นเดินเข้ามาใกล้ๆให้จ๊อบกอด และหลังจากนั้นเขาก็หอมแก้มของอ้นทั้งสองข้าง พร้อมกับจูบที่ริมฝีปากของอ้น”
“พอแค่นี้ก่อน เดี๋ยวอดไจไม่ไหวไม่ได้กลับบ้าน”
“กลับมาค่อยว่ากันก็ได้”อ้นอมยิ้ม
“ใช่จะจัดหนักทุกคืนเลย”
“เอางั้นเชียว”
“แน่นอน ผมต้องไปแล้ว อีกสองอาทิตย์เจอกัน”
“ครับบอส”
หลังจากที่จ๊อบออกไปจากห้องแล้ว อ้นนั่งลงบนเตียงนอน ด้วยความรู้สึกผิดหวังและหดหู่ ถึงแม้จะมีทุกอย่างพร้อม แต่เขาก็ไม่ค่อยมีความสุขเท่าที่ควร เพราะจ๊อบเหินห่างเขาไปทีละน้อย รวมทั้งต้องเผชิญหลายสิ่งหลายอย่างเพียงลำพัง โดยเรื่องบางอย่างที่เขาไม่สามรถที่จะบอกให้จ๊อบช่วยได้
ในระหว่างที่เขากำลังคิดอะไรเพลินๆ เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นอีกครั้ง อ้นก็คิดไปว่าเป็นจ๊อบเพราะอาจลืมอะไรไว้ แต่ก็อดแปลกใจทำไมไม่โทรมาหาเขาก่อน พออ้นไปเปิดประตูเขาถึงกับตกใจ
“เห็นเราถึงกับตกใจเลยเหรออ้น”บี้ปราดสายตามองอ้นและเดินเข้ามาในห้องทันที
“มีอะไรมาทำไม”
“ก็จะมามีอะไรไหม แค่อยากจะรู้ว่ารังรักของเธอเป็นไงบ้าง”
“เห็นแล้วก็กลับไปซะ”
“ยังไม่กลับ”บี้เดินเข้ามาใกล้ๆอ้น
“จะทำอะไรน่ะ”อ้นมีสีหน้าวิตกกังวล
“จะมาย้ำเตือนเรื่องเธอกับบอส”
“เตือนอะไร”
“เตือนอย่าริอาจเป็นคู่แข่งกับฉันเรื่องบอส”
“เรื่องบอสมันจบแล้ว บอสเขาเลือกเรา และข้อสำคัญเรามาก่อนเธอ”
“เรามาก่อนเธอตั้งนาน จะก่อนหลังมันไม่สำคัญ ถ้าเราต้องการ เราต้องได้ไม่มีใครห้ามเราได้หรอก”
บี้เดินเข้ามาใกล้ๆพร้อมจับข้อมือของอ้น ใช้สายตามองด้วยความอาฆาตมาดร้าย จนอ้นเกิดความกลัวจึงเดินถอยหลังทีละก้าว
“จะไปไหน เราไม่ทำอะไรเธอหรอก แต่แค่อยากเตือนไว้ ถ้ายังอยากอยู่แบบสงบสุขออกไปจากชีวิตจ๊อบซะ”
“เธอมันบ้าไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี เราไม่รู้หรอกนะว่าเธอทำอะไรเราไว้บ้าง แต่อยากบอกให้รู้ว่าสักวันหนึ่ง ความจริงจะเปิดเผยว่าเธอเป็นคนเช่นไร”
“ไม่มีวันนั้นหรอก เพราะเธออาจจะไม่มีวันได้พูด”
“เธอจะทำอะไร”อ้นมีน้ำเสียงที่สั่นเครือ
“ไม่บอก ใครจะบอกเธอให้โง่ล่ะ”
“ถ้าเธอทำอะไรเรา เราจะบอกบอสให้จัดการเธอ”
“เหรอ จะตกกระป๋องอยู่วันสองวันแล้ว ยังมีหน้ามาขู่อีก เด็กน้อย อ่อนแอก็แพ้ไป”
“ถึงอย่างไงบอสก็รักเรา ไม่ได้รักเธอ อาจจะโกรธเราบ้าง แต่ก็ไม่นานหรอก เมื่อกี้เขายังมาหาฉันเลย”
“มาแล้วรีบกลับนี่นะ ถ้าเขายังรักเธอเขาจะไม่รีบกลับขนาดนั้นหรอก”
“เขามีธุระไปหาพ่อกับแม่เขา”
“ก็นั่นไงทำไมเขาไม่พาเธอไปหาพ่อแม่ของเขา ส่วนเราน่ะเข้านอกออกในเวลาไหนก็ได้”
“นั่นมันเรื่องของเธอ”
“เรื่องของเราเหรอ”บี้บีบข้อมือของอ้นจนเขารู้สึกเจ็บ
“ปล่อยนะ”
“เจ็บเหรอปล่อยมือก็ได้ แต่ฉันจะไม่มีวันปล่อยให้เธอเสวยสุขกับบอสหรอก ฉันจะมาเอาบอสของฉันคืน เธอคงรู้แล้วใช่ไหมว่าบอสจะไปต่างประเทศ และจะเอาเราไปด้วยส่วนเธอ ก็นอนเหงาอยู่ที่คอนโด ให้หิวตายคาห้องไปเลย”
“เธอมันบ้าไปแล้ว”
“ใช่ ฉันบ้าไปแล้ว คนบ้าทำอะไรก็ได้ใช่ไหม”
“ขืนเธอทำอะไรเรา เราจะแจ้งตำรวจ”
“ฉันไม่ทำอะไรเธอหรอก ใครจะกล้าทำร้ายคนของบอส ที่กำลังจะตกกระป๋อง”
“เธอออกไปจากห้องของฉันได้แล้ว”
“ห้องฉัน พูดไม่อายปาก ฉันออกไปก็ได้ แต่นี่เป็นแค่เริ่มต้น ฉันจะเอาบอสมาเป็นของฉันให้ได้ เราไปล่ะ ในไม่ช้าห้องนี้ก็จะเป็นห้องของเรา เตรียมตัวหาที่อยู่ใหม่ได้เลย เพราะตอนไปต่างประเทศฉันจะจัดการบอสให้เด็ดขาด”
บี้หัวเราลั่นและเดินออกจากห้องไป สาเหตุที่บี้ตามราวีอ้นไม่หยุดหย่อน เพราะเขาแอบชอบจ๊อบมาตั้งแต่เริ่มตั้งแต่วัยรุ่น เพราะเคยเรียนมัธยมด้วยกัน และพ่อแม่ของทั้งสองก็รู้จักกันเป็นการส่วนตัว แต่จ๊อบนั้นเห็นบี้เป็นแค่เพื่อน เขามีคู่รักมานับสิบแต่ก็ไม่เคยแลบี้แม้แต่ครั้งเดียว แต่ผิดกับบี้ที่ไม่เคยมีใคร เขารักจ๊อบคนเดียว พอจ๊อบขาดเลขาบี้จึงให้พ่อของเขา ช่วยฝากงานนี้ให้ จ๊อบจึงไม่สามารถปฏิเสธได้ และข้อสำคัญบี้ทำงานดี คล่องตัว เก่ง รู้จักคนเยอะ จ๊อบจึงค่อนข้างพอใจ แต่ความรู้สึกทางด้านความรักนั้น จ๊อบไม่เคยมีใจให้บี้แม้แต่น้อยนิด
การกลับบ้านของอ้นในครั้งนี้ เขาไมได้ขับรถกลับเพราะยังไม่สามารถทำใจได้ เพราะก่อนหน้านี้ที่เขาโดนรถชน และมีคนมาขู่อาฆาตเขา อ้นจึงตัดสินใจขึ้นรถประจำทางมา เพื่อความปลอดภัยกับตัวเอง เมื่อรถประจำทางมาถึงที่ขนส่ง เพียงอ้นลงจากรถแค่นั้นวินมอเตอร์ไซค์ก็เข้ามาหาอ้นทันที “ไปไหนครับ” อ้นจึงบอกที่อยู่ที่เขาจะไปและตกลงราคากัน อ้นจึงตัดสินใจไปกับวินมอเตอร์ไซค์หนุ่ม ที่รุ่นเดียวกับเขาแต่พูดจาไพเราะ เขาจึงรู้สึกไว้ใจและคาดว่าน่าจะไม่เกิดอะไรขึ้นกับเขา เมื่อวินเตอร์ไซค์ขับมาถึงกลางทางบ้านของเขา วินมอเตอร์ไซค์ก็เปลื่ยนทิศทางทันที อ้นผิดสังเกตจึงบอกให้วินมอเตอร์ไซค์จอดรถ แต่ไม่เป็นผลเพราะวินมอเตอร์ไซค์ขับเร็วยิ่งขึ้นกว่าเดิม “จอดรถเดี๋ยวนี้ นายจะพาเราไปที่ไหน” ไร้เสียงตอบกลับจากวินมอเตอร์ไซค์ อ้นเกิดความกลัวและคิดไม่ตกว่าจะทำเช่นไร เพราะหลายเหตุการณ์ที่ผ่านมานั้นทำให้เขาคิดไปต่างๆนาๆ “ถ้านายไม่จอดรถเราจะกระโดดลงแล้วนะ”อ้นขู่ไปอย่างงั้นเพราะอย่างไงเขาก็ไม่กล้าที่จะกระโดดลงรถอย่างแน่นอน อ้นพลันคิดได้เขาจึงหยิบมือถือออกมา พร้อมที่จะโทรขอความช่วยเหลือ วินมอเตอร์ไซค
เอเดินทางกลับมายังบ้านของเขาซึ่งปลูกห่างจากบ้านพ่อแม่ของเขาพอสมควร ส่วนกระท่อมน้อยปลายไร่นั้นไกลจากบ้านเขาไม่มากนัก ที่เขาไม่พักที่เดียวกับอ้น เพราะเขาแค้นเคืองอ้นที่ไม่รับรักเขา จึงอยากที่จะแกล้งสักระยะหลังจากนั้นจะปล่อยอ้นไป เพราะเอนั้นรู้ข่าวจากตั้มและตูนเพื่อนของเขาที่เป็นแฟนซันและซีเพื่อนของอ้น ว่าอ้นจะกลับบ้านเวลาไหนและนั่นเป็นเหตุให้เอได้มาช่วยอ้นได้ทันเวลา แต่เขาก็ยังแปลกใจไม่หายใครที่จ้องทำร้ายอ้น ซึ่งเอเป็นห่วงอ้นมากเขาจึงจะพยายามหาคนร้ายที่อยู่ข้างหลังให้ได้ โดยมีตั้มตูนและซันซีร่วมด้วยช่วยอยู่เบื้องหลัง เหตุการณ์ที่อ้นได้มาอยู่กับเอทั้งสี่คนก็รู้ ยกเว้นแต่จีจี้ที่ซันและซีไม่ยอมบอก เพราะจีจี้ไม่ค่อยชอบเออย่างมาก เมื่อเอมาถึงบ้านของเขาก็เห็นเจนนั่งรอเขาอยู่ในบ้าน เพราะเจนสามารถเข้านอกออกในบ้านของอ้นได้ตามต้องการ เพราะเอนั้นไม่สามารถที่จะห้ามเจนมาหาเขาได้ เพื่อตัดปัญหาเอจึงให้กุญแจบ้านกับเจนไว้อย่างถาวรเลย “ไปไหนมากลับมาซะมืดค่ำเลย”เจนถามทันทีที่เอเข้ามาภายในบ้าน “ไปทำธุระ”เอนั่งลงบนโซฟาเก่าๆในห้องโถงขนาดเล็ก “ธุระที่ไหน” “กูจะไปไหนมาไหนต้อง
อ้นมาในชุดเตรียมพร้อม กางเกงขายาวเสื้อลายดอกแขนยาวพร้อมหมวก รองบูทส่วนมือก็สวมถึงมือ และอุปกรณ์ใส่ข้าวโพดสะพายด้านหลัง อ้นรู้สึกหนักและเหนื่อยที่เดินมาที่ไร่ แต่เอก็ไม่มีท่าทีสงสารอ้นแม้แต่น้อย “หักข้าวโพดเดี๋ยวนี้จนกว่าจะถึงเที่ยง”เอออกคำสั่งเสียงดัง “ทำไมใจร้ายกับเราอย่างนี้เราไปทำอะไรให้นายเจ็บซ้ำน้ำใจ” “ก็กูรักมึงแต่มึงไม่รักกู เป็นอัลไซเมอร์หรือไง แต่ก็ไม่เป็นไรก็จะย้ำกับมึงทุกๆวัน” “ย้ำไปถึงชาติหน้าเลย เราไม่มีวันรักคนที่ทำร้ายเราหรอก” “ไม่เชื่อคอยดูก็แล้วกัน แต่ตอนนี้มึงหักข้าวโพดก่อน” เอจำใจทำตามอ้นอย่างเสียมิได้ ถึงแม้อ้นจะไม่ค่อยได้ทำงานหนักมาก่อน แต่เขาก็สามารถที่จะหักข้าวโพดได้ เพราะพื้นเพของอ้นแค่พอมีพอใช้ไม่ได้ถึงกับรวยมาก แต่ถ้าให้อ้นเลือกเขาก็อยากทำงานที่สบายไม่ต้องออกแรงขนาดนี้ “เก็บให้มันเร็วๆหน่อยซิ ทำเป็นมือไม้อ่อนกูไม่ใช้บอสนะ จะมาอ่อยโน้นนี่ทำไม่ไหว ฝันไปเถอะว่ากูจะสงสารมึง ถ้ายังไม่เที่ยงไม่ต้องกินข้าว” “แค่นี้ก็เร็วแล้ว จะเอาเร็วแค่ไหน” “มันต้องทำอย่างนี้”เอทำให้ดูและเขาก็เดินหักข้าวโพดนำหน้าอ้นไป
อ้นวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต ในช่วงเวลานี้เขาไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่า ตัวของเขาจะรอดจากความเลวร้ายนี้ได้อย่างไร มีแต่เพียงวิ่งหนีไปให้ไกล ซึ่งเส้นทางที่อ้นวิ่งเข้าไปนั้นเริ่มลึกเข้าไปในป่าทืบ ถึงกระนั้นอ้นก็ยอมหันหลังไปมอง ถึงแม้คนร้ายที่วิ่งติดตามอ้นจะหยุดอยู่บริเวณรอบนอกของป่าแล้ว เพราะทั้งสามไม่กล้าเข้าไป และมีความคิดที่จะดักรออ้นอยู่ตรงนี้ เนื่องหนึ่งในสามเป็นคนในพื้นที่ เขาจึงรู้ดีว่าป่าแห่งนี้ถ้าไม่ชำนาญพื้นที่ เมื่อเข้าไปแล้วจึงหาทางออกยากมาก ด้วยความเมื่อยล้าอ้นจึงหยุดวิ่งและหันไปมองด้านหลัง ซึ่งอ้นก็ไม่เห็นใครเขาจึงนั่งลงพักเหนื่อย ด้วยความที่ในป่ามีความเงียบเกินเขาจึงเกิดความกลัวขึ้นกะทันหัน ในจิตใจของอ้นเวลานี้หวั่นเกรงกลัวทุกอย่าง เขาพยายามมองไปรอบๆซึ่งมีแต่ป่า และเสียงไหวๆของต้นไม้ที่โอนเอนตามแรงลม พร้อมเสียงสัตว์นานาชนิดที่อ้นได้ฟังถึงกับขนลุก เขาจึงรู้สึกกลัว พออ้นได้มีเวลาพัก เขาจึงเกิดความคิดที่จะไปจากป่าแห่งนี้ แต่เขาไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นเดินไปทางไหน อ้นจึงได้แต่นั่งนิ่งๆอยู่ที่เดิม เพื่อรอใครสักคนผ่านเข้ามาทางนี้ แต่ยังไร้วี่แววด้วยแสงอาทิตย์เริ่มอ่อนแรงล
ช่วงเวลาไม่นานเอก็เดินออกมาจากในป่าทึบ ที่มือถือกล้วยป่าเดินเข้ามาใกล้ๆอ้นที่นั่งอยู่ในกระท่อมอย่างเหงาๆ และหวาดกลัวสิ่งต่างๆที่เขาคิดว่าอาจจะเข้ามาทำร้าย“กินซะเดี๋ยวจะหิวตายไปซะก่อน”“ขอบใจ”อ้นรีบบิดกล้วยสุกออกมากินอย่างเร่งรีบ“ไม่มีน้ำเหรอ”อ้นถาม“ได้คืบจะเอาศอก แต่ก็มีนะ”“เอ้านี้ กินนิดเดียวพอนะ มืดแล้วไปเอาน้ำลำบาก เอยื่นกระบอกไม่ไผ่ที่มีน้ำเต็มกระบอก“ไปเอากระบอกไม้ไผ่มาจากไหน”อ้นถาม “ก็ในกระท่อมนี่แหละ คนหาของป่าคงลืมไว้” “โชคดีจัง ถ้าไม่มีท่าจะแย่เลย” “ไม่แย่หรอก ถ้าหิวมากน้ำของกูก็มีคืนนี้เดี๋ยวให้กิน”เออมยิ้ม “ไอ้โรคจิตในป่ายังคิดเรื่องอกุศลอีก” “กูพูดเรื่องจริง แค่นี้ทำเป็นรับไม่ได้ ทีกินของบอสนี่รับได้” “ความสะอาดต่างกัน” “ปากดี ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องกิน”เอคว้ากระบอกไม่ไผ่จากมือของอ้น แล้วเขาก็ดื่มเองจนครึ่งกระบอก อ้นทำอะไรไม่ได้เขาได้แต่มองเอด้วยความแค้นเคือง เมื่อเอดื่มน้ำเสร็จสิ้นเขาก็ไปนำฟืนเพื่อที่จะมาก่อไฟ และบรรเทาความหนาวกับยุง ไหนจากพวกบรรดาสัตว์ต่างๆกันอีก เอใช้เวลาไม่นานในการรีบก่อไฟจนติด หลังจากนั้นเขาก็ขึ้นมาที่กระท่อม และนั่งข้างๆอ้น ที่ยังมีสีหน้าที
จ๊อบเริ่มไม่สบายใจเพราะหลายวันที่ผ่านมา เขาไม่สามารถติดต่ออ้นได้เลย ยิ่งรู้ข่าวว่าอ้นไม่ได้กลับบ้าน เขาพยายามถามบรรดาเพื่อนของอ้น แต่ก็ไม่มีใครรู้แม้แต่สักคน จ๊อบจึบเร่งทำงานอย่างเริ่งรีบ และตัดนัดที่ไม่สำคัญออกไปให้หมด จ็อบนั่งบนเตียงนอนด้วยผ้าเช็ดตัวผืนเดียวหลังจากอาบน้ำเสร็จ และเขาก็นั่งครุ่นคิดถึงอ้นคู่รักของเขา ถึงที่ผ่านมาเขาอาจละเลยอ้นไปบ้าง แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาหมดรักอ้นแต่อย่างใด ตอนนี้เขากลับเครียดหนักมาก จนจ๊อบได้ยินเสียงเคาะประตูซึ่งเขาก็แน่ใจว่าเป็นบี้เลขาของเขาหรือเปล่า จ๊อบไปเปิดประตูเพื่อให้บี้เข้ามาภายในห้อง “มีอะไรเหรอ”จ๊อบนั่งลงตามเดิม “พรุ่งนี้บอสจะกลับไทยจริงๆเหรอ”สายตาของบี้ไม่ได้มองหน้าของจ๊อบ แต่มองต่ำลงตรงหว่างขาของจ๊อบที่นั่งไม่ได้ระวัง จนเผยเห็นของสงวนแต่จ๊อบไม่ได้สนใจและสังเกตสายตาของบี้ “ใช่ เป็นห่วงอ้น ติดต่อไมได้เป็นอะไรหรือเปล่าก็ไม่รู้” “ใช่น่าเป็นห่วงมาก บี้ก็ยังอดสงสัยไม่ได้ว่าอ้นไปอยู่ที่ไหน” “ถามเพื่อนๆแล้วไม่มีใครรู้เลย” “ไม่มีใครรู้หรือไม่มีใครบอก”บี้เดินไปท
ถึงแม้แสงอรุณสาดส่องมาถึงร่างทั้งสอง เอกับอ้นก็ยังไม่รู้สึกตัวที่จะต้องตื่น เอนั้นได้กอดร่างของอ้นไว้แน่ ส่วนอ้นก็นอนตัวขดงอให้เอได้กอด ทั้งสองนั้นหลับสนิทจนไม่รู้เลยว่าเพื่อนชายหนุ่มในหมู่บ้านได้มาถึงที่กระท่อมที่ทั้งสองนอนอยู่ “ไอ้เอ ไอ้เอ ไอ้เอ ตื่นได้แล้ว”เพื่อนร่วมหมู่บ้านปลุกสะกิดที่ร่างของเอและอมยิ้มในท่าที ส่วนเพื่อนอีกสองคนก็หัวเราะร่วน เมื่อได้รับสัมผัสจากเพื่อนและได้ยินเสียงหัวเราะ เอจึงเริ่มตื่นจากภวังค์ เขาจึงค่อยๆลืมตาขึ้นทีละน้อยและมองไปตามเสียงที่ได้ยิน เอจึงเห็นชายหนุ่มรุ่นเดียวกับเขายืนหัวเราะกันด้วยความสนุกสนาน “เฮ้ยเพื่อนหรือเมียว่ะกอดซะแน่นเชียว หน้าตาดูน่ารักอีกต่างหาก” “เพื่อนซิวะ”เอคลายกอดจากอ้นทัน “เหรอ”เพื่อนๆของเอหัวเราะกันใหญ่ เอแก้เขินโดยใช้เท้าสะกิดที่ขาของอ้น เพื่อปลุกให้อ้นได้ตื่น เพราะตอนนี้เขารู้สึกอายและเขินเพื่อนในหมู่บ้านอย่างมาก อ้นรู้สึกตัวทันทีเมื่อโดนเท้าของเอสะกิด เขาจึงลืมตาขึ้นด้วยความตกใจ และยิ่งตื่นตระหนกกันไปกันใหญ่ เมื่อเห็นชายหนุ่มสามสี่คนยืนอยู่ตรงหน้า อ้นพลางคิด
เอพร้อมกับตั้มและตูนเมื่อทำกับข้าวเสร็จ เอให้ตูนและตั้มกินกันสองห้องในครัว ถ้ากินเสร็จก็ให้กลับบ้านไปเลย ที่สำคัญฝากล็อกบ้านไว้ด้วย เพราะเวลานี้ก็ช่วงเย็นแล้ว เอจึงอยากจะอยู่กับอ้นเพียงสองคน เขาจึงนำอาหารไปให้อ้นกินในห้องนอน “กินซะ”เอวางอาหารไว้บนโต๊ะหลังจากที่อุ้มเอมานั่งบนเก้าอี้แล้ว “ทำเองเหรอ ดูหน้าตาแปลกๆ”อ้นมองกระเพาะไก่ไข่ดาวเกรียมๆนิดหน่อย “ทำมาให้กินก็กินซะ กินไม่ได้ก็ต้องกิน” “ยังไม่ได้บอกว่ากินไม่ได้เลย แค่ถามเฉยๆจะพูดดีๆบ้างไม่ได้เหรอ” “คนอย่างมึงพูดดีไม่ได้หรอก ต้องเจอคนแบบกูที่อารมณ์ขึ้นๆลงๆถึงจะอยู่กันได้” “คิดไปคนเดียว” “มัวแต่พูดกินเข้าไป นี่ก็จะมืดแล้ว คืนนี้เราต้องทำอะไรกันอีกเยอะ” “ทำอะไรก็มีแต่นอน”อ้นมีสีหน้าทีสงสัย “ก็นอนไงนอนแบบเมื่อคืนนี้ แต่คราวนี้มิดชิดหน่อย”เอหัวเราะ “ไม่ตลกด้วยนะ”อ้นตักผัดกระเพาะมาที่จานข้าวและตักใส่ปาก ซึ่งเขาสัมผัสรสได้ว่าอร่อยมาก “อร่อยใช่ไหม” “ไม่น่าเชื่อว่าจะทำได้อร่อยขนาดนี้” “กูทำ