แชร์

อุ้งมือซาตาน

อ้นมาในชุดเตรียมพร้อม กางเกงขายาวเสื้อลายดอกแขนยาวพร้อมหมวก รองบูทส่วนมือก็สวมถึงมือ  และอุปกรณ์ใส่ข้าวโพดสะพายด้านหลัง อ้นรู้สึกหนักและเหนื่อยที่เดินมาที่ไร่ แต่เอก็ไม่มีท่าทีสงสารอ้นแม้แต่น้อย

       “หักข้าวโพดเดี๋ยวนี้จนกว่าจะถึงเที่ยง”เอออกคำสั่งเสียงดัง

       “ทำไมใจร้ายกับเราอย่างนี้เราไปทำอะไรให้นายเจ็บซ้ำน้ำใจ”

       “ก็กูรักมึงแต่มึงไม่รักกู เป็นอัลไซเมอร์หรือไง แต่ก็ไม่เป็นไรก็จะย้ำกับมึงทุกๆวัน”

       “ย้ำไปถึงชาติหน้าเลย เราไม่มีวันรักคนที่ทำร้ายเราหรอก”

       “ไม่เชื่อคอยดูก็แล้วกัน แต่ตอนนี้มึงหักข้าวโพดก่อน”

        เอจำใจทำตามอ้นอย่างเสียมิได้ ถึงแม้อ้นจะไม่ค่อยได้ทำงานหนักมาก่อน แต่เขาก็สามารถที่จะหักข้าวโพดได้ เพราะพื้นเพของอ้นแค่พอมีพอใช้ไม่ได้ถึงกับรวยมาก แต่ถ้าให้อ้นเลือกเขาก็อยากทำงานที่สบายไม่ต้องออกแรงขนาดนี้

       “เก็บให้มันเร็วๆหน่อยซิ ทำเป็นมือไม้อ่อนกูไม่ใช้บอสนะ จะมาอ่อยโน้นนี่ทำไม่ไหว ฝันไปเถอะว่ากูจะสงสารมึง ถ้ายังไม่เที่ยงไม่ต้องกินข้าว”

       “แค่นี้ก็เร็วแล้ว จะเอาเร็วแค่ไหน”

       “มันต้องทำอย่างนี้”เอทำให้ดูและเขาก็เดินหักข้าวโพดนำหน้าอ้นไป

       ด้วยนิสัยของเอเวลาได้ทำงานเขาจะไม่สนใจสิ่งรอบข้างเท่าไร เขาจึงเดินหักข้าวโพดนำหน้าไปเรื่อยๆ และไม่เหลียวหลังมามองอ้นแม้แต่น้อย อ้นเห็นโอกาสทองที่จะได้หนีจากเงื้อมมือของเอ อ้นจึงถอยหลังหักข้าวโพดทีละก้าวจนเกือบลับสายตาของเอ อ้นจึงวางกระบุงใส่ข้าวโพดไว้กับพื้น และหันหลังค่อยๆวิ่งก้มต่ำจนพ้นไร่ข้าวโพด

       อ้นมองไปรอบๆซึ่งมีแต่ทุ่งหญ้ากว้าง เขาไม่รู้จะไปทางไหน พลันเขาเห็นรถไถไกลๆอ้นจึงรีบวิ่งลุยทุ่งหญ้าอย่างไม่คิดชีวิต แต่ด้วยแสงแดดที่แรงกล้ากับความเหนื่อยที่ออกแรงวิ่ง ยิ่งร่างกายไม่เคยได้เจอสิ่งที่หนักขนาดนี้ อ้นเริ่มตาลายเหงื่อไหลท่วมตัว หายใจหอบเหนื่อยหน้าเริ่มมืดไม่เห็นทางเดิน และทางที่สุดอ้นล้มลงกับพื้นหมดสติในทันใด

       เพียงเวลาไม่นานเอก็ตามมาจนเจอ แค่เขาเห็นอ้นนอนเป็นลมหมดสติ ใจของเขาแท่บจะสูญสิ้น หัวใจเต้นระรัวมือสั่นระริก

       “อ้น อ้น อ้น”เอพยายามเขย่าร่างอยู่หลายครั้ง แต่ไร้เสียงไร้พลังในกายของอ้นที่จะตอบสนองให้ชื่นใจ

       เอกังวลและเครียดอย่างหนัก เขาจึงรีบอุ้มอ้นและวิ่งไปที่กระท่อมปลายไร่ทันที ถึงแม้จะหนักและเหนื่อยสักเพียงใด เขาไม่เคยหยุดพักด้วยคววามเป็นห่วงอ้นอันเป็นที่รักของเขา เอหอบเหนื่อยอุ้มร่างของอ้นมาถึงกระท่อม เขารีบว่างอ้นไว้ทันทีและถอดเสื้อแขนยาวออกในทันที เอรีบเปิดพัดลมให้อ้นคลายร้อน และค้นหายาดมจนเจอแล้วนำมาจ่อที่จมูกของอ้น

       “อ้นอย่าเป็นอะไรไปนะเว้ยกูรักมึง กูสัญญาต่อไปนี้กูจะไม่แกล้งมึงแล้วนะอ้น”

       เสียงร้องไห้ของเอที่เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ และความเย็นที่ได้จากพัดลม จึงทำให้อ้นพอได้สติกลับมาทีละน้อยและค่อยๆลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ

       “อ้น มึงฟื้นแล้ว”เอรีบเช็ดน้ำตาให้เหือดแห้ง

       “อย่าทำอะไรเรานะ”อ้นพยายามพยุงร่างลุกขึ้น

       “อย่าลุกขึ้นกูไม่ทำอะไรมึงหรอก นอนนื่งๆเดี๋ยวเป็นลมไปอีก”เอดันร่างของอ้นให้นอนลงอย่างเดิม

       ถึงแม้อ้นจะพยายามลุกขึ้นแต่โดยแรงที่ลดหายจากแต่เดิม จึงไม่สามารถต้านแรงของเอได้ อ้นจึงได้แต่นอนนิ่งๆมองหน้าเอ ที่มีสีหน้าที่เศร้าสร้อยจนอ้นแปลกใจ

       “กูขอโทษมึงด้วย กูจะไม่ทำร้ายมึงอีกแล้ว มึงยกโทษให้กูด้วยนะ”

       “ไม่ต้องมาขอโทษ ไม่ต้องมาตบหัวแล้วลูบหลัง ไม่ต้องมาทำอะไรทั้งนั้น”

       “มึงจะให้กูทำอย่างไงกูพร้อมที่จะทำตามทุกอย่าง”

       “ปล่อยเราไปจากที่นี้ ให้เราได้กลับบ้านทุกอย่างก็จบ”

       “มึงจบแต่กูเจ็บ”

       “เรื่องของนายก็เพราะนายทำตัวเองตั้งแต่ต้นแล้วนี่ ทุกอย่างมันจบแล้วอย่ารื้อฟื้นมันขึ้นมาอีกเลย”

       “เรื่องนี้เอาไว้ก่อน มึงนอนพักเยอะๆ”เอพูดขึ้นด้วยความสงสารอ้น ที่เสียงพูดนั้นหอบเหนื่อย และอีกอย่างเพื่อยื้อเวลาที่จะให้อ้นอยู่ที่นี้ให้ได้นานๆ

       จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้เอได้คิดอะไรได้หลายอย่าง สิ่งที่แรกคือเขากลัวเสียอ้นไปและอีกอย่างถึงแม้เขาจะไม่ได้อยู่กับอ้น แต่อย่างน้อยอ้นก็ยังอยู่ให้เขาได้เห็นและชื่นใจ ถึงแม้อ้นจะไม่ใช่ของเขาแล้วอีกต่อไป

       “นอนซะ กูไม่ทำอะไรมึงหรอก ถ้ากูทำอะไรมึงกูไม่พามามึงมานี่หรอก”เอเดินไปนั่งที่เก้าอี้ไม้เก่าๆเพื่อให้ห่างจากอ้น

       อ้นนอนมองเอและครุ่นคิดหลายอย่าง แต่อย่างแรกที่เขาคิดได้ อ้นเห็นเออ่อนลงไปเยอะสิ่งแรกที่อ้นคิดว่าเขาควรทำ ควรอยู่นิ่งๆรอจังหวะและหาโอกาสพูดคุยกับเอตรงๆ ถ้าไม่ได้ผลค่อยหนีอีกครั้ง แต่ช่วงเวลานี้อ้นคิดว่าเขาควรที่จะพักผ่านพื่อเพิ่มแรงกายและใจ จะได้มีเวลาและสมองค่อยคิดแก้ไขสถานการณ์ต่อไปอีก

       ด้วยความที่อ้นอ่อนเพลียมากเขาจึงหลับตาลง และไม่คิดอะไรเพื่อที่จะได้หลับลงในทันที ซึ่งก็เป็นผลดังหวังอ้นได้หลับอย่างง่ายดายและสนิทในเวลาต่อมา เมื่อเอเห็นอ้นเงียบไปเขาจึงลุกขึ้นมาดูอ้น เมื่อเห็นอ้นหลับเขาจึงเข้ามาลูบที่ศีรษะของอ้น และลูบไล้สัมผัสแก้มใสๆของอ้น หลังจากนั้นก้มลงจูบอ้นเบาๆ แล้วเขาก็อมยิ้มด้วยความชื่นอกชื่นใจที่ได้รับสัมผัสนี้

       ก่อนที่เอจะกลับบ้านเพื่อไปเตรียมข้าวของมานอนกับอ้น เขาก้มลงหอมแก้มอ้นอีกครั้งแล้วรีบเดินออกจากบ้านจนลืมล็อคประตู เพียงแค่แง้มไว้เฉยๆซึ่งเอไม่รู้เลยว่า ทุกฝีก้าวตั้งแต่เออุ้มร่างของอ้นมาไว้ในกระท่อมหลังนี้ มีคนแอบดูอยู่ไม่คาดสายตา ซึ่งก็ไม่ใช่ใครแต่เป็นเจนเพื่อนรักและคู่นอนของเอนั่นเอง

       เมื่อเอออกไปไกลแล้ว เจนจึงเข้ามาภายในห้องที่อ้นนอนอยู่ เขายืนมองอ้นด้วยความริษยาที่ได้ใจของเอไป ซึ่งแตกต่างจากตัวของเจนเอง ที่ทุ่มทุนทั้งกายและใจเพื่อนเอ แต่สิ่งที่เขาได้รับกลับมามีแต่ความเย็นชา

       เจนใช้มือสะกิดร่างของอ้น แต่ไร้การตอบสนอง เจนจึงนั่งรอเพื่อให้อ้นนั้นตื่นเอง เพราะถ้าเขาปลุกอ้นตอนนี้ก็ไม่สามารถที่จะคุยกับอ้นให้รู้เรื่องได้ เจนอยากคุยกับอ้นตอนมีสติและร่างกายที่พร้อม เพราะเขาคิดแผนการอะไรบางอย่างได้สำเร็จ

       ซึ่งอ้นนอนหลับอยู่ร่วมชั่วโมงเขาก็ตื่นขึ้นมา และคนที่เขาเห็นคนแรกตอนตื่นนั้นคือเจน อ้นอดแปลกใจและหวาดหวั่นอย่างบอกไม่ถูก เขาจึงรีบลุกขึ้นในทันใดทันที

       “เจนนายมานี่ได้อย่างไง”

       “กูต้องถามมึงมากกว่ามั้ง เพราะที่นี่กูมาทุกวัน มึงก็น่าจะรู้ว่าทำไมกูมาได้ทุกวัน”

       “ฮือ แล้วนายมีธุระอะไรกับเรา”

       “มีสิ พูดตรงๆเลยนะ มึงอยากออกไปจากที่นี่ไหม”

       “อยากสิ”

       “มึงไม่ได้รักไอ้เอใช่ไหม”

       “จะไปรักได้ไง เอทรมานเราขนาดนี้ ถึงรักไปก็บ้าแล้ว”

       “ดี ถ้างั้นกูจะช่วยมึงเอง”

       “ช่วยพาออกจากที่นี่เหรอ”อ้นมีสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก เพราะเขายังไม่ไว้ใจเจนขนาดนั้น

       “ใช่ แต่นายต้องไปตอนนี้ก่อนที่ไอ้อ้นมันจะมา”

       “นายไม่ได้หลอกเรานะ”

       “กูจะหลอกมึงไปทำไมไอ้อ้น มึงมีอะไรให้กูน่าหลอกเหรอ”

       “ก็นายรักเอนี่ เรากลัวนายไม่ช่วยเราจริง”

       “ก็เพราะกูรักไอ้เอไง กูอยากอยู่กับมันทั้งตัวและใจ”

       “ก็ได้”อ้นคิดเอาเสียว่าเสี่ยงดวง

       “ดีนายหายเหนื่อยหรือยัง เดินทางไปไหวไหม”

       “ไหว เราฟื้นตัวแล้วนะ”

       “ถ้างั้นเราไปก่อนเลย ก่อนที่ไอ้เอมันจะมาถึง”

       อ้นรีบลุกขึ้นยืน ซึ่งเขาก็พอยืนไหว และรู้สึกได้ว่ากำลังได้กลับมาแล้ว อ้นจึงรีบเดินตามเจนที่เดินน้ำหน้าพาเขาไปตามเส้นทางเดิน ที่ถูกถางไว้อย่างดี เมื่ออ้นเห็นเช่นนี้เขาก็รู้สึกโล่งใจที่เจนไม่พาเข้าในเขตที่อันตราย

       “กูส่งมึงแค่นี้แหละ ไปส่งมึงถึงถนนใหญ่ไม่ได้หรอก เดี๋ยวไอ้เอมันสงสัยได้ เพราะต่อจากนี้ไปจะมีคนแล้ว ถ้าเกิดมีใครเห็นกูเดินไปกับมึง แล้วบอกไอ้อ้นกูจะเดือนร้อน

       “แค่นี้ก็ดีแล้วเราเข้าใจ”อ้นยิ้มให้เจนอย่างจริงใจ

       “มึงต้องสัญญากับกูนะว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นอีก มึงห้ามยุ่งกับไอ้เอ ถ้ามึงยุ่งคราวนี้มึงเดือดร้อนแน่”

       “เราไม่ยุ่งหรอก ขอบใจนายมาก”

       “มึงไปได้แล้ว เดี๋ยวมืด มึงเดินไปเรื่อยๆเดี๋ยวก็ถึงถนนใหญ่ มีรถประจำทางอยู่เข้าไปในตัวเมือง”เอยื่นเงินให้อ้นสองพันกว่าบาท

       “ขอบใจนายอีกครั้ง”

       “ไม่ต้องขอบใจหรอก นี่เป็นค่ารถโดยสารเข้าเมือง ที่เหลือเอาไว้กินข้าวและขึ้นรถกลับกรุงเทพไปซะ”

       “ฮือ”

       “กูไปแล้ว”เจนเดินหันหลังกลับและไม่เหลียวหลังมามอง ถึงเจนจะรักอ้นสักปานใด แต่เขาก็ไม่สามารถที่จะทำร้ายอ้นได้ ด้วยกลัวว่าถ้าเอรู้จะโกรธเขาจนไม่อยากเจอหน้า แต่ถ้าช่วยให้หนีกลับบ้านอาจแค่โกรธเฉยๆ

       ในส่วนของอ้นก็รีบเดินอย่างไวและท้ายที่สุด เขาก็เจอถนนใหญ่ซึ่งพอเห็น อ้นรีบวิ่งขึ้นไปบนไหล่ทางในทันที แต่แล้วเขาต้องหยุดชะงัก เพราะเขาได้เจอชายหนุ่มสามคนยืนอยู่ตรงมอเตอร์ไซค์ และหนึ่งในนั้นเขาจำได้นั่นคือวินมอเตอร์ไซค์ที่ไล่จับอ้น แต่ครั้งที่ผ่านอ้นจึงค่อยๆเดินถอยหลัง แต่เป็นจังหวะเดียวกันที่หนึ่งในชายหนุ่มหันมาหน้ามาพอดี

       “นั่นไง”ชายหนุ่มชี้มือมาที่อ้น สาเหตุที่สามหนุ่มรู้ว่าอ้นจะมาทางนี้ เพราะพวกเขาสะกดรอยตามเพื่อนของเอทุกคน

       เมื่ออ้นเห็นชายหนุ่มสามคนวิ่งมาที่ เขา อ้นจึงหันหลังกลับวิ่งไม่คิดชึวิต  ซึ่งอ้นไม่ได้วิ่งไปตามทางเดิน แต่เขาวิ่งเข้าในป่าที่ไม่คุ้นเคย โดยมีชายหนุ่มทั้งสามนั้นวิ่งตามมาติดๆ

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status