อ้นนอนอยู่คอนโดอย่างเดียวดาย ซึ่งเขาก็แอบดีใจที่จ๊อบไม่มา เพราะอ้นก็ทำตัวไม่ถูก ถ้าเกิดจ๊อบอยากมีความสัมพันธ์ทางกายกับเขา เพราะตอนนี้ใจของอ้นเอียงเอนไปทางเอมากกว่า
จ๊อบ
อ้นนั่งๆนอนอยู่ที่คอนโด ดูซีรี่เล่นมือถือคุยกับเพื่อน และทำอีกหลายสิ่งหลายอย่าง ที่อ้นทำเช่นนั้นเพื่อที่จะได้ลืมความทุกข์ที่เริ่มเกาะกินใจเขาขึ้นมาเรื่อยๆ ในระหว่างที่อ้นกำลังคิดอะไรเพลินๆก็ได้ยินเสียงกดกริ่ง เขาจึงรีบไปเปิดประตู เพระคิดว่าน่าจะเป็นจ๊อบที่มาหาเขา แต่แล้วคนที่ยืนอยู่ตรงหน้านั้น ไม่ใช่คนที่เขาคิดไว้เมื่อครู่
“คุณบี้มีอะไรเหรอ”อ้นพูดขั้นเมื่อเห็นหน้าของบี้ แต่บี้ไม่พูดอะไรเดินเข้ามาในห้องทันที
“ห้องโทรมไปเยอะเนอะเหมือนเจ้าของห้องเลย”
“ถ้าคุณมาพูดแค่นี้ก็กลับไปซะ อ้นไม่มีเวลาที่จะมาคุยเรื่องไร้สาระ”
“ฉันไม่ได้มาคุยเรื่องไร้สาระ แต่ฉันมีเรื่องที่น่าตื่นเต้นให้เธอดูมากกว่า”บี้ยิ้มอย่างมีเลศนัย
“อ้นไม่อยากรู้อยากเห็นอะไรทั้งนั้น เชิญคุณกลับไปได้แล้ว”
“ฉันจะยังไม่กลับ ถ้าเธอยังไม่ดูอะไรที่ฉันอยากให้ดู”
“ถ้างั้นก็เอามาให้ดูซิ จะได้กลับๆไปสักที”
“ได้”อ้นหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาและเปิดคลิปที่เขากำลังระเริงสวาทกับจ๊อบ
“นี่ไง หนังสดถึงใจ”บี้หัวเราะ
เมื่ออ้นเปิดดูสิ่งแรกที่เห็นคือบี้กำลังอมท่อนเอ็นของจ๊อบ และตัดมาเป็นจ๊อบกำลังกระแทกบั้นท้ายบี้อย่างหนักหน่วงจนเสร็จสิ้นภาระกิจ แต่ที่อ้นตกใจมากกว่านั้นคือคำพูดของ
จ๊อบ
“ลีลาของบี้กับอ้นใครดีกว่ากัน”บี้ถามในขณะที่จ๊อบนอนพลิกหงายหลับตาพริ้ม
“ก็บี้ไง”
“อ้นไม่ดีเหรอ”
“นอนกับอ้นเหมือนท่อนไม้”
อ้นปิดมือถือทันที และส่งคืนให้บี้ อ้นพยายามกลั้นน้ำตาไว้ เพื่อไม่ให้ไหลออกมาให้บี้เห็น
“เป็นไงบ้าง”บี้อมยิ้มแล้วหัวเราะ คลิปนี้บี้ได้ตัดมาแค่บางส่วนคำพูดหลังจากนี้บี้ตัดทิ้งไปหมด เมื่อบี้ยิงคำถามต่อไป
“แล้วบอสรักบี้บ้างไหม”
“ไม่ ผมยังรักอ้นอยู่ คุณก็บอกกับผมเองไม่ใช่เหรอเราแค่สนุกกัน ถึงอ้นจะนอนเป็นท่อนไม้ผมก็รักนะ รักที่นิสัยตัวตนของอ้น”
บี้ยิ่งคิดยิ่งเจ็บใจในคำพูดนี้เป็นที่สุด เขาจึงต้องมาเอาคืนกับอ้น และใส่ร้ายป้ายสีปนความจริงของจ๊อบให้อ้นได้ฟัง
“แล้วไงอ้นไม่สน คุณกลับไปได้แล้ว”อ้นพยายามกลั้นน้ำตาอีกครั้ง ถึงแม้อ้นจะรักจ๊อบน้อยลงแต่เขาก็รู้สึกเสียใจในภาพที่เห็น แต่ที่เจ็บที่สุดคือคำพูดของจ๊อบที่เขาได้ยิน
“ปากกับใจไม่ตรงกันนี่”บี้ย้ำอีกครั้ง
“คุณออกไปได้แล้ว ถ้าไม่ออกอ้นจะเรียกยามมาลากตัวคุณออกไป”
“ก่อนที่ฉันจะไป ฉันจะบอกว่าฉันรู้หมดแล้วว่าเธอกับเอคนรักเก่าไปอยู่ด้วยกันมา”
“ใครๆก็รู้บอสกูรู้ อยากฟ้องก็เชิญไปบอกเลย แต่อ้นก็จะบอกเหมือนกัน ว่าคนที่ตามทำร้ายอ้นน่าจะเป็นคนใกล้ตัวบอสนั่นแหละ”
“อ้น พูดแบบนี้ใส่ร้ายกันนะ”บี้มีสีหน้าที่กังวัลอย่างเห็นได้ชัด
“อ้นพูดลอยๆไม่ได้เอ่ยชื่อซักหน่อย ถ้าคุณไม่ได้ทำอย่างร้อนตัวสิ”
“ก็ได้ เรื่องนั้นช่างมัน แต่ฉันกำลังจะไปต่างจังหวัดกับบอสสองวัน”
“แล้วไง มาบอกทำไม”
“ก็ในสองวันนี้เธอมีโอกาสที่จะหนีไปไหนก็ได้นี่”
“หนีไปไหนบอสก็ตามจนเจอ หนีไปทำไม แล้วทำไมอ้นต้องหนีในเมื่ออยู่ที่นี่ก็สบายดี”
“สบายตัวแต่ไม่สบายใจมากว่านั้น ฉันรู้ว่าเธอไม่ได้รักบอสหรอกรักเงินต่างหาก ที่ทนอยู่นี่ก็เพราะเงินตัวเดียวเท่านั้น”
“ถ้าคุณคิดอย่างนั้นแล้วสบายใจก็ตามที่คิดนั่นแหละ”
“เถียงไม่ออกแล้วซินะ จะบอกให้คืนนี้ฉันมีนัดกับบอสไปเที่ยวกัน แล้วจากนั้นเราก็จะไปต่อกันอีก หลายวันที่เขาไม่มาหาเธอ เพราะว่าเขาติดใจฉันยังกับอะไรดี เธอควรทำใจซะ หนูตกกระป๋อง จากหนูตกถังข้าวสารตกกระป๋องไวจริงๆ”บี้หัวเราะ
“ไม่ต้องมาพูดให้มากความกลับไปซะ”
“กลับแน่ แต่ฝากให้คิดนะ เธอจะอยู่ทำไมในเมื่อบอสไม่รักเธอแล้ว อยู่เพื่อ”
“นั่นมันคุณ”อ้นมองหน้าของเอ
“ฉันอยากจะแนะนำเธอสักอย่างหนึ่ง คือย่างไงแล้วสักวันบอสก็ต้องบอกเลิกเธออยู่วันยังค่ำ แค่รอโอกาสที่เหมาะสมแค่นั้น ทำไมเธอไม่ชิงเลิกก่อนล่ะ ฉันว่าตอนนี้เธอก็ไม่ค่อยได้รักบอสเท่าไร ดูจากกิริยาที่ดูคลิป ทำไมไม่ไปจากบอสเดี๋ยวฉันจะช่วยเธอเอง เธอก็แค่ไปจากที่นี่เธอจะไปอยู่ไหนก็ตามใจ เดี๋ยวฉันจัดการเรื่องของบอสเอง”
“กลับไปเถอะ”
“เธอมีเวลาสองวันที่เธอต้องตัดสินใจว่าจะเอาอย่างไรดี”
“กลับไป ถ้าไม่ไปฉันจะเรียกยามแล้วนะ”
“ไปก็ได้ฝากให้คิด”บี้ยิ้มเยาะก่อนออกจากห้องไป
ส่วนอ้นนั่งคิดทุกเรื่องราวที่บี้ได้พูดขึ้นมา และพฤติกรรมของจ๊อบที่เปลื่ยนไปมากกว่าแต่ก่อน อ้นครุ่นคิดอย่างหนักว่าจะเอาอย่างไรดีกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น และอีกอย่างหนึ่งอ้นก็มีความผิดเช่นเดียวกับจ๊อบ เนื่องด้วยอ้นก็ได้มีความสัมพันธ์กับเอ นี่จึงเป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้อ้นคิดไม่ตกว่าจะทำอย่างไรดี เพราะในใจได้รู้สึกผิดตลอดเวลา
หลังจากที่จ๊อบพาอ้นไปซื้อมือถือ ตั้งแต่วันนั้นจ๊อบก็หายไปจากอ้น จนทำให้เขารู้สึกน้อยใจและเข้าใจว่าจ๊อบหมดรักเขาบอก ยิ่งบี้ได้ส่งภาพต่างๆระหว่างที่ไปดูงานในต่างจังหวัด ซึ่งภาพเหล่านั้นเหมือนอ้นในอดีต สิ่งที่จ๊อบและบี้ได้ทำกับอ้น ส่งผลให้อ้นได้ตัดสินใจเด็ดขาดว่าจะไปจากที่นี่ เขาหยิบโฉนดคอนโดพร้อมสมุดทะเบียนรถรถเก๋งคันงาม และพวงกุญแจวางไว้บนโต๊ะ ยังมีหนังสือยกทุกสิ่งทุกอย่างคืนให้จ๊อบ เพราะอ้นคิดว่าเพียงเงินในบัญชี ทองรูปพรรณและทองคำแท่งในธนาคาร รวมทั้งกองทุนต่างๆที่จ๊อบซื้อไว้ให้อ้น ซึ่งแค่เงินปันผลก็สามารถใช้ได้ไปตลอดชีวิต
ก่อนที่อ้นจะออกจากคอนโดหรูซึ่งเป็นรังรักของเขากับจ๊อบ ความรู้สึกทางใจของอ้นนั้นหวั่นไหวและปั่นป่วนพอสมควร ถึงรักที่มีต่อจ๊อบจะจืดจางแต่ก็ยังมีความผูกพันบางๆที่หลงเหลืออยู่ อ้นหลับตาสูดลมหายใจเงยหน้าขึ้นก่อนที่จะถอนหายใจออก แล้วอ้นก็ลืมตาขึ้นหลังจากนั้นเขาก็เดินออกจากห้องทันที โดยไม่เหลียวหลังมองให้เจ็บใจไปมากกว่านี้
ค่ำคืนสุขสันต์ระเริงสวาทระหว่างจ๊อบและบี้ได้ผ่านไปอย่างดุเดือด ต่างฝ่ายต่างมอบรสสวาทอย่างถึงพริกถึงขิงอยู่หลายรอบ จนเหนื่อยกายและอ่อนเพลียหลับไปจนถึงรุ่งสาง จ๊อบรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาและเหลือบตามองบี้ ที่กำลังนอนกอดเขา ซึ่งจ๊อบไม่ได้รู้สึกว่าอยากจะโอบกอดสัมผัสดั่งเช่นคนรักเลย เขามองบี้อย่างเย็นชาเมื่อความใคร่ได้ผ่านไป ซึ่งแตกต่างจากอ้นถึงแม้ลีลาของอ้นเหมือนท่อนไม้ แต่เขาอยากจะโอบกอดเมื่อเสร็จภารกิจ ถึงแม้ความรักของเขาที่มีต่ออ้นจะจืดจางไปบ้าง แต่ยามใดที่ห่างกันไปนานๆเขาก็อดคิดถึงใบหน้าที่ดูซื่อๆไร้เดียงสา น่าทะนุถนอมไมได้
จ๊อบยกแขนของบี้ออกจากเนินอกของเขา หลังจากนั้นหยิบมือถือขึ้นมาดู ซึ่งมีข้อความความทางไลน์อยู่หลายข้อความ เขาจึงเปิดดูในทันทีเพราะเป็นข้อความจากเพื่อนของเขาที่เป็นตำรวจ ได้ส่งภาพและหลักฐานต่างๆที่อ้นถูกทำร้าย และมีอยู่คลิปหนึ่งที่คนงานในโรงงานของเขาสารภาพว่า บี้เป็นว่าจ้างให้ไปทำร้ายอ้นและรังควานที่ร้านกาแฟ
หลังจากจ๊อบอ่านข้อความจบใจของเขานั้นสั่นหวั่นไหว เขาอยากที่จะปลุกบี้ขึ้นมาเพื่อสอบถามว่าทำไมต้องทำอย่างนั้น แต่เขาก็ยังไม่กล้าพอเพราะไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นพูดอย่างไร จ๊อบมองหน้าบี้ที่แต่เดิมเขาก็เฉยๆ แต่ในปัจจุบันนี้เขาเริ่มรู้สึกไม่ดีต่อบี้ และไม่อยากจะมองหน้าด้วยซ้ำ ซึ่งในขณะนั้นบี้เริ่มรู้สึกตัวและจะโอบกอดจ๊อบ แต่จ๊อบในขณะนี้อารมรณ์ของเขาไม่อยากใคร่มีอะไรทั้งสิ้น เขาจึงจับมือของบี้ออกอย่างไม่ใยดี จนบี้รู้สึกตัวเขาจึงลืมตาขึ้นมองจ๊อบอย่างงงงวย เพราะจ๊อบไม่เคยเป็นเช่นนี้มาก่อน
“เป็นอะไรเหรอ”
จ๊อบมองหน้าบี้อย่างดูแคลนและไม่อยากสบตาอีกต่อไป เขาเห็นสายตาของบี้ที่มองด้วยความใคร่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จ๊อบถึงกับรังเกียจอยากที่จะหนีห่างไปให้ไกล จ๊อบจึงลุกขึ้นไปหยิบกางเกงมาใส่และเริ่มแต่งตัว
“บอสจะไปไหนเราพบลูกค้าหมดแล้วนี่ มีเวลาอยู่เรามาทำอะไรกันดีกว่าไหม หรือว่าบอสอยากไปเที่ยวก่อนกลับกรุงเทพ”บี้ลุกขึ้นนั่งแต่เอาผ้าห่มคลุมท่อนล่างไว้
“ผมไม่ไปไหนทั้งนั้น ผมจะกลับบ้านไปหาอ้น”
“อ่อ คิดถึงอ้นเหรอ มาแค่สองวันเอง”บี้หน้าเสีย เพราะเขาอุตส่าห์จัดเต็มรสความใคร่ให้จ๊อบอย่างเต็มที่
“ใช่ ผมรักอ้นมาก เขาเป็นคนดีมากคนหนึ่ง ผมกลัวเสียเขาไป”
“ถ้างั้นก็ได้ เรากลับกันเลย”บี้รีบลุกขึ้นแต่งตัวทันที
จ๊อบพยายามอดกลั้นอารมณ์ที่เกรียวกราดไว้ เพราะเขายังไม่อยากทำลายความสัมพันธ์ให้มันขาดสะบั้น เพราะถึงอย่างไรพ่อแม่ของบี้กับของเขาก็สนิทกัน จ๊อบจึงทำได้แต่เพียงเย็นชาและใส่คำพูดกระแทกกระทั้นใส่บี้ให้เจ็บใจเป็นบางครั้ง
ในระหว่างทางขับรถกลับกรุงเทพ จ๊อบนิ่งเงียบบี้ถามคำตอบคำ บางทีก็เงียบไม่พูดไม่จาโต้กลับ จนทำให้บี้รู้สึกอึดอัดตันใจจึงอยากให้จ๊อบพูดออกมาตรงๆ
“บอสมีอะไรถึงเปลื่ยนไปไม่พูดไม่จา”
“ก็ไม่มีอะไร แค่อยากรู้ว่าคุณมีอะไรจะสารภาพกับผมไหม”
“สารภาพอะไร บี้ไม่ได้ทำผิดอะไรนี่”
“ไม่เคยทำผิดอะไรอย่างนั้นเลยเหรอ”จ๊อบหันมามองหน้าด้วยสายตาที่เย็นชา จนบี้สังเกตเห็นได้อย่างเด่นชัด
“บอสมีอะไรก็พูดมาตรงๆก็ได้อย่าอ้อมค้อมบี้ไม่เข้าใจ”
จ๊อบยังไม่อยากบอกในตอนนี้เพราะยังอยู่บนถนน เขาจึงขับรถไปถึงหน้าบ้านของบี้
ซึ่งจ๊อบจะบอกและคุยเรื่องราวที่เกิดขึ้นและรู้มา
“อย่าพึ่งลง”จ๊อบพูดขึ้นทันทีเมื่อเห็นบี้กำลังจะเปิดประตูลงจากรถ
“มีอะไรหรือบอส”
“ผมให้โอกาสคุณอีกครั้ง มีอะไรจะบอกกับผมไหม”
“ไม่มี บอสบอกมาตรงๆเลยว่าเรื่องอะไร”บี้ยิ่งงงหนักขึ้น
“ทำไมคุณต้องไปทำลายร้านกาแฟของอ้น และทำไมคุณจ้างคนงานในโรงงานตามไปทำร้ายอ้น”จ๊อบหันหน้ามามองบี้ด้วยสายที่แค้นเคือง ซึ่งเป็นสายตาที่บี้ไม่เคยเห็นมาก่อน
“บี้ไม่ได้ทำ”บี้ใจต้นระรัวกลัวความผิด
“ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ผมให้เพื่อนที่เป็นตำรวจช่วยสืบอย่างลับๆ เขาบอกผมหมดทุกอย่างและมีพยานพร้อมเอาผิดคุณได้”
“บี้โดนใส่ร้าย บี้จะไปทำอย่างงั้นทำไม บี้ก็เอ็นดูอ้นเหมือนน้องนุ่งคนหนึ่ง”
“เอ็นดูเหรอ ก่อนมาก็ไปหาอ้นมานี่ ไปทำไม”
“อ้นบอกเหรอ”
“อ้นเขาดีกว่าที่เธอคิด เขาไม่เคยบอกอะไรกับผมสักคำ ในสิ่งที่คุณทำกับเขา”
“บี้ไปหาอ้นเฉยๆไม่ได้ไปทำอะไรอ้นซักหน่อย”
“คุณรู้ดีแกใจ เพื่อนของอ้นได้บอกทุกอย่างหมดแล้ว”
“บอสโกหกก็บอสอยู่กับบี้ตลอด จะเอาเวลาที่ไหนไปคุยกับเพื่อนของอ้น”
“ผมไม่ได้คุยกับเพื่อนของอ้นก็จริง แต่เพื่อนผมคุยกับเพื่อนของอ้นได้นี่”
“เพื่อนอ้นโกหก บอสอย่าไปเชื่อ พวกนี้ทำงานกันเป็นขบวนการ เพื่อหวังทรัพย์สมบัติจากบอส”บี้มีสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก แต่เขาก็ยังไม่ยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น
“หยุดเถอะ ทุกอย่างมันได้เปิดเผยมาหมดแล้ว คุณไม่สามารถที่จะแก้ตัวได้อีก”
“บี้ไม่ได้ทำ บี้ไม่ยอมรับหรอก”
“คนงานที่คุณจ้างเขาแอบถ่ายและบันทึกเสียงของคุณไว้ ยังไม่รู้ตัวอีกเหรอคนงานเหล่านั้นเขาเอาไว้แบล็คเมล์คุณ”
“ไม่จริง”บี้ยังไม่ยอมหยุด
“ถ้าคุณยอมรับกับผมทุกอย่างจบแค่นี้ ถ้าคุณไม่ยอมรับอะไรจะเกิดขึ้นคุณก็น่าจะรู้ดี”
“บอส”
“ว่าไงจะเอาแบบไหน”
“ก็ได้บี้ยอมรับว่าบี้ทำ แต่ที่บี้ทำก็เพราะว่าบี้รักบอส ยอมทำทุกอย่างให้บอส ทั้งงานที่บริษัททั้งเรื่องของเรา”
“รักก็ส่วนใคร แต่มันผิดที่คุณไปทำร้ายอ้น”
“ใช่มันผิด บี้ยอมรับแต่บี้รักคุณมาตั้งแต่มัทธยมจึงถึงมหาวิทยาลัย ถึงแม้เรียนจบบี้ก็ยังรักบอสเหมือนเดิม บอสไม่คิดที่จะรับรักบี้บ้างเหรอ”
“คุณอย่าเอามาปนกันมันคนละเรื่อง”
“มันก็เหมือนกันนั่นแหละ บี้รักบอสบี้ก็ต้องทำทุกอย่างให้บอสรักบี้”
“ผมไม่ได้รักคุณถึงแม้คุณจะดีปานใด แต่ที่ผมยอมมีอะไรกับคุณผมบอกตรงๆก็แค่เรื่องเซ็กส์แค่นั้น และอีกเรื่องตอนอยู่ต่างประเทศคุณเอายาปลุกเซ็กส์ให้ผมกิน ทำไมผมจะไม่รู้ผมผ่านอะไรมาตั้งเยอะตั้งแยะ เพียงแต่ผมไม่พูดแค่นั้น”
“ก็เมื่อรู้อยู่แล้วทำไมยังไม่มีอะไรกับบี้ ทำให้บี้คิดไปเองว่าบอสรักบี้”
“ผมบอกกับคุณแล้วว่าเรื่องของเราแค่เรื่องเซ็กส์แค่นั้น มันไม่มีอะไรเกินเลยไปกว่านี้”
“บอสใจร้าย ก็ได้ไอ้อ้นมันก็ไม่ได้วิเศษมาจากไหน มันก็คงได้กับไอ้เอแฟนเก่ามันนั่นแหละ”
“ผมไม่เชื่อหรอก ต้องเห็นกับตาผมถึงจะเชื่อ บทเรียนได้สอนผมแล้ว”
“โดนสวมเขายังไม่รู้อีก ไม่เชื่อลองไปดูที่คอนโดได้เลย ปานนี้อาจไม่อยู่แล้วก็ได้ คงไปอยู่กับไอ้เอแฟนเก่าของมัน ที่กำลังจะเป็นผัวใหม่”
“ไม่อยากเชื่อเลยว่าจะได้ยินคำพูดแบบนี้จากปากของคุณ”
“ทำไมบี้จะพูดแบบนี้แหละ”
“เผยธาตุแท้มาก็ดี ผมจะได้ตัดสินใจอะไรได้ง่าย”
“ตัดสินใจอะไร”
“ให้คุณลาออกจากบริษัท ส่วนเรื่องราวต่างๆถือไม่ว่าเกิดขึ้น นี่เป็นการตอบแทนที่คุณดีกับผม”
“บี้ไม่ลาออกบี้จะไปทำงานกับบอสเหมือนเดิม”
“มันจบแล้ว ถ้าไม่ลาออกผมจะไล่คุณออกนะ ให้เลือกเอาว่าจะอย่างไหน”
“บอส บี้ขอโทษ ได้เห็นความสัมพันธ์เก่าของเราด้วย อย่าให้บี้ออกจากงานเลย จะให้บี้ทำอะไรก็ยอม บี้ยอมทำทุกอย่าง ขอให้บี้ได้ทำงานกับบอสด้วย”
“คุณพูดเองนะ”
“ใช่”
“ก็ได้ แต่ไม่ใช่ตำแหน่งเลขาผม เลขาของผม จะเป็นอ้นคนเดียวเท่านั้น ส่วนคุณไปทำงานด้านธุรการ”
“ไม่เอา บี้อยากทำงานกับบอส”
“ถ้าไม่ทำก็ลาออกไปซะ ผมให้โอกาสคุณครั้งสุดท้าย ถ้าคุณไม่ทำทุกอย่างจบ อ่อ อย่าคิดที่จะมาทำร้ายอ้นอีก ถ้ามีอีกครั้งผมไม่เอาคุณไว้แน่นอน”
“ก็ได้”บี้น้ำตาไหลพรากด้วยความเจ็บปวดรวดร้าวจิตใจอย่างหนัก แต่เขาไม่สามารถจะทำอะไรนอกจากยอมอย่างเดียว
“ลงไปจากรถของผมได้แล้ว”
“จำคำบี้ไวนะ บี้รักบอสมากกว่าอ้นอีก”
“อาจจะใช่ผมไม่เถียง แต่ผมรักอ้นไม่ได้บี้ นี่น่าจะเป็นคำตอบที่คุณควรรู้ไว้ ลงไปได้แล้วผมจะไปหาอ้นแฟนของผม”
“ได้ ขอให้เจอ”บี้รีบลงจากรถไปในทันที พร้อมเช็ดน้ำตาให้เหือดแห้งก่อนที่จะเข้าไปในบ้าน
จ๊อบขับรถอย่างไวเพื่อที่จะไปหาอ้น และรีบโทรหาอ้นแต่ไม่มีสัญญาณตอบรับ ไม่ว่าจะส่งไปทางไหน ไร้การตอบกลับทุกทางในโซเซียลมีเดีย จึงทำให้จิตใจของเขาตอนนี้หวั่นไหวมากกลัวไม่เจออ้น ด้วยคำพูดของบี้ที่พูดทิ้งท้ายไว้ให้เขาคาใจ เมื่อจ๊อบมาถึงคอนโดสุดหรู เขารีบขึ้นไปทันทีและเปิดห้องอย่างรวดเร็ว สิ่งแรกที่เขาเห็นคือความมืดมิดสนิท จ๊อบจึงรีบเปิดไฟให้สว่างเพราะกลัวว่าอ้นจะเป็นอะไรไป แต่แล้วความสว่างของไฟไม่ได้ทำให้บอสมีความรู้สึกที่ดี เพราะเขาเห็นแต่ความว่างเปล่า
ใจคอของจ๊อบไม่ค่อยดีเขาจึงรีบไปเปิดประตูห้องนอนของอ้น และนั่นก็ไม่ได้สร้างความพอใจในตัวของจ๊อบเลย เพราะมีแต่เตียงนอนที่ว่างเปล่า เขาจึงไปเปิดตู้เสื้อผ้านั้นทำให้เขาถึงกับพงะ เพราะในตู้มีเพียงเสื้อผ้าของเขาหามีเสื้อผ้าของอ้นไม่ จ๊อบจึงวิ่งออกไปนอกห้องอีกครั้ง
“อ้น อ้น อ้น”ไร้เสียงที่ตอบสนองกลับมา ใจของจ๊อบหล่นหายไปในทันที จ๊อบมองรอบห้องอีกทีและเขาก็พบกับเอกสารกองอยู่บนโต๊ะ จ๊อบจึงรีบไปเปิดดู
เพียงจ๊อบเปิดดูเขาแท่บจะล้งลมกับพื้น เพราะเป็นใบโอนคอนโดคืนให้เขาพร้อมรถคนหรูที่มีกุญแจวางไว้บนสมุดทะเบียนรถ
“อ้น คุณทำอะไรลงไป คุณไม่รักผมแล้วเหรอ”จ๊อบพึมพับออกมา
จ๊อบรีบโทรหาเพื่อนของเขาช่วยจัดการตามหาอ้น หลังจากนั้นเขาโทรหาเพื่อนสนิทของอ้นทุกคน ไมว่าจะเป็นจีจี้ ซันและซี ซึ่งทุกคนบอกไม่รู้เป็นคำเดียวเท่านั้นที่จ๊อบได้รับรู้
อ้นนั้นได้ถือโอกาสมาพักผ่อนหย่อนใจ หลีกหนีความผิดหวังและความรักที่ไม่จริงใจ การมาเชียงใหม่ในครั้งนี้เป็นความใฝ่ฝันของอ้นด้วย ในเมื่ออ้นมีเงินพอที่จะใช้จ่าย เขาจึงอยากให้รางวัลตัวเอง ด้วยการตระเวนเที่ยวโดยขึ้นมาทางเหนือก่อนเป็นอันดับแรก การมาครั้งนี้มีเพียงจีจี้คนเดียวที่รับรู้ ส่วนซันและซีอ้นได้กำชับไว้ไม่ให้บอก เพราะว่าอ้นสงสัยสองคนนั้นน่าจะเอียนเองตามแฟนมาอยู่ข้างเออย่างแน่นอน ค่ำคืนนี้อ้นมีโครงการที่จะไปถนนคนเดิน เมื่อได้เวลาที่จะต้องไปเขาลงมาจากโรงแรม และมายืนรอรถตุ๊กๆที่หน้าโรงแรม แต่แล้วตุ๊กๆไม่ทันได้มาจอดรับ มีเพียงบิ๊กไบค์คันใหญ่จอดตรงหน้า พอคนขับเปิดกระจกหมวกกันน็อคออก ซึ่งไม่ใช่ใคร่แค่เห็นเพียงดวงตาสองคู่อ้นก็จำได้ทันที “ขึ้นรพร็วจะไปไหนบอกมา”เอพูดขึ้นทันที พร้อมยื่นหมวกกันน็อคอีกใบให้อ้น แต่อ้นไม่รับและมองด้วยสายตาที่ไม่สบอารมณ์ อ้นจึงเดินหนีและไม่พูดจาตอบโต้แต่อย่างใด และอ้นก็สงสัยอีกว่าเอรู้ได้อย่างไรว่าเขามาอยู่ที่เชียงใหม่ สาเหตุที่เอรู้นั้นก็เพราะว่าเขาดักรออยู่หน้าคอนโดทุกวันจนถึงวันที่อ้นออกจากคอนโด และเขาก็ได้ติดตามอ้นแบบห่างๆจนมา
อ้นนั่งครุ่นคิดเรื่องราวที่ผ่านมาตั้งแต่อดีตยันปัจจุบันบนเตียงนอน โดยเฉพาะช่วงเวลาในปัจจุบันที่เขาแสนจะกลัดกลุ้มขุ่นใจกับสองหนุ่มที่ตามตื้อไม่ห่าง จนอ้นตัดสินใจที่จะหนีจากสองคนนี้อีกครั้ง แต่อีกใจหนึ่งเขาก็รู้สึกดีตอนที่สองหนุ่มมารุมล้อม ความรู้สึกนี้พึ่งได้รับตอนนี้ที่อ้นได้นั่งทบทวนสิ่งต่างๆ แต่ปัญหาคือมีมาทีเดียวสองคน ซึ่งอ้นยังไม่รู้ใจตนเองว่าชอบใคร คนหนึ่งรักแรกคนสองรักใหม่ ต่างมีข้อดีข้อเสียและทำให้อ้นเจ็บซ้ำน้ำใจไม่น้อยไปกว่ากัน “ในระหว่างที่อ้นกำลังนั่งคิดถึงสองหนุ่มที่ตามติดไม่ห่างอยู่นั้น เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น อ้นจึงรีบรับทันที เพราะเป็นเพื่อนสาวที่สนิทตั้งแต่สมัยเรียน “ฮัลโหล” “ยังไม่นอนอีกเหรอ”จีจี้ถาม “ยังกำลังคิดอะไรเพลินๆอยู่” “คิดเรื่องอะไร” “ก็เรื่องบอสกับเอที่ตามมาถึงเชียงใหม่” “อ่ะ เราไม่ได้บอกนะ”ความจริงจีจี้รู้อยู่แล้ว เพราะเอและจ๊อบโทรมาหาเธอ ต่างฝ่ายต่างให้จีจี้เชียร์ “แล้วเธอได้บอกซันกับซีไหม” “โอ๊ยสองคนนั่นเดี๋ยวนี้ไม่เห็นหัวติดผู้ชาย ตามตั้มและตู
จ๊อบออกจากห้องของอ้นไปได้ไม่นาน เสียงเคาะประตูรัวๆก็ดังขี้นไม่หยุด ด้วยความรำคาญอ้นจึงเปิดออกดูว่าเป็นใคร เพียงแง้มประตูเท่านั้นแหละ เอก็ผลักประตูเข้ามาทันทีและเดินนำหน้าอ้นไปนั่งที่โซฟา อ้นถึงกับยืนงงด้วยพฤติกรรมของเอ “มานั่งใกล้ๆนี่ มีเรื่องจะคุยด้วย” อ้นเดินอย่างช้าๆและนั่งลงข้างๆเอที่มีสีหน้าดูเคร่งเครียดพอสมควร ก่อนที่เอจะพูดอะไรออกมาเขาได้กัดริมฝีปากตัวเองเบาๆ “กูมีเรื่องจะคุยกับมึง” “มีอะไร” “ตอนนี้กูไม่มีพันธะ ไอ้เจนมันไปทำงานที่ภาคใต้แล้ว” “รู้แล้ว” “รู้แล้วก็ดีมึงจะได้สบายใจ” “เจนจะไปไหนอยู่ไหนมันก็ไม่เกี่ยวกับเรานี่” “เกี่ยวซิ ถ้าไอ้เจนมันยังพัวพันกับกู ถึงกูจะไม่ได้รักมัน แต่มึงก็จะคาใจกูอยู่” “เราจะคาใจนายทำไม ในเมื่อเราไมได้เป็นอะไรกันนี่” “มึงก็รู้ดีแกใจ มึงกับกูมีอะไรกันตั้งสองครั้ง ในป่าครั้งหนึ่ง ที่บ้านกูอีกครั้งหนึ่ง” “จะพูดทำไม เรื่องมันผ่านมาแล้ว”อ้นรู้สึกกระดากใจพอสมควรที่ได้ยินคำพูดนี้จากปากของเอ “ยังไม่รวมต
ช่วงเวลาแห่งความสุขบนดอยอินทนนท์ผ่านเป็นอย่างรวดเร็ว เอได้พาอ้นมาที่บ้านไร่ที่เขาอาศัยอยู่ ในนาทีนี้ที่เขาอยู่กันเพียงสองคนในห้องไม่ใหญ่มาก แต่เต็มไปด้วยความรักที่ยิ่งใหญ่ อ้นนั้นแสนดีใจหาใดเปรียบ การตัดสินใจในครั้งนี้ของอ้นก็เหมือนกับเสี่ยงดวงเหมือนกัน เพราะเขาก็ยังไม่แน่ใจว่าเอจะดีอย่างปากพูดไว้หรือเปล่า ในห้องนอนวันแรกที่มาอยู่บ้านไร่ของเอ อ้นนอนเล่นโทรศัพท์มือถือคุยกับเพื่อนรักอย่างจีจี้ เมื่อเอเดินออกมาจากห้องน้ำ เขารู้สึกไม่พอใจอ้นเล็กน้อย เพราะไม่ยอมสนใจเขาอย่างที่ควร เอจึงขึ้นไปบนเตียงและนอนข้างๆอ้น มีท่าทีที่กระฟัดกระเฟียด “ผัวนอนอยู่ทั้งคนยังคุยกับคนอื่นอีก” “ไม่ใช่คนอื่นเพื่อนเราเองจีจี้ไง นายจำไม่ได้เหรอ”อ้นเลิกกดส่งไลน์จีจี้ทันที “จำได้ แต่มันใช่เวลาไหมที่จะคุยกัน ตอนนี้เราต้องทำอะไรบางอย่าง” “ทำอะไรล่ะ” “ก็อย่างนี้ไง” เอพลิกร่างตะแครงก้มลงจูบที่ริมฝีปากของอ้น เขาใช้ปลายลิ้นซอนไซร้เข้าไปภายใน ส่วนอ้นก็สมยอมแต่โดยดีโอบกอดผิวเรือนกาย ไร้อาภรณ์ของเออย่างเร่าร้อน เอถอนริมฝีปากออกมาไซร้ซอกคอทุกมุม ตอห
อ้นตื่นนอนมาเขาก็ไม่เห็นเอนอนอยู่บนเตียง เขาจึงเข้าไปอาบน้ำและแต่งตัวลงมาด้านล่าง เพียงแค่ลงมาเขาก็เห็นอาหารวางไว้เต็มโต๊ะ อ้นเดินเข้าไปดูซึ่งเป็นอาหารดีๆทั้งนั้น เขายืนยิ้มในความเอาใจใส่ของเอ “น่ากินทั้งนั้นเลย”อ้นตักข้าวใส่จานและนั่งลง อ้นค่อยๆกินข้าวอย่างช้าๆพร้อมกับคิดถึงเอตอนทำกับข้าว เขาถึงกับหัวเราะเบาๆจากหนุ่มห่ามกลายมาเป็นพ่อบ้านพ่อเรือน อ้นกินข้าวจนอิ่มถึงสองจานเพราะรสมือของเอนั้นเลิศรสยิ่งนัก เมื่ออ้นกินข้าวอิ่มเขาจึงเดินออกไปนอกบ้าน มองไปรอบๆซึ่งมีแต่ไร้ข้าวโพด เขายังจำวันที่เอลากไปช่วยหักข้าวโพดได้ อ้นถึงกับยิ้มออกมา “ยิ้มอะไรครับ”เพื่อนของเอที่เคยไปช่วยอ้นในป่า เดินเข้ามาใกล้ๆอ้น “คิดอะไรเรื่อยเปื่อยเลยยิ้ม มาหาเอเหรอ สงสัยไปที่ไร่น่ะ” “ใช่ครับมาหาเอ ผมนิกจำผมได้ไหม”นิกยิ้มจนเห็นไรฟัน “ทำไมจะจำไม่ได้คนที่เคยใช้อ้นไว้ไงที่กลางป่า” “ดีจังที่จำผมได้ ผมก็นึกว่าอ้นลืมผมซะแล้ว” “จะลืมผู้มีพระคุณได้ไง”อ้นยิ้มหวานให้นิกเพื่อนของเอ “แล้วมาหาเอมีธุระอะไรหรือเปล่า”
อ้นนั่งๆนอนอยู่บ้านเฉยๆจึงเกิดความเบื่อหน่าย และเป็นช่วงเวลาใกล้เที่ยงเขาจึงตักข้าวใส่ปิ่นโต พร้อมกับข้าวสามขนมหนึ่ง หลังจากนั้นอ้นจึงเดินออกไปไร่ข้าวโพดเพื่อไปหาเอแฟนหนุ่ม อ้นพอจำทางได้บ้างเมื่อครั้งโดนเอจับมาไว้ที่บ้านปลายไร่ เขาเดินไปเรื่อยๆจนเห็นไร่ข้าวโพด อ้นมองเห็นร่างผู้ชายสองคนอยู่ใต้ต้นไม่ใหญ่ท้ายไร่ อ้นจึงเดินต่อไปเพราะเขาจำร่างของเอได้ ยิ่งอ้นเดินเข้าไปใกล้ๆ เขาค่อนข้างแน่ใจว่าเป็นเอ แต่ผู้ชายอีกคนอ้นคิดว่าไม่รู้จักแน่ๆ แต่อ้นคิดว่าน่าจะเป็นเพื่อนของเอ อ้นจึงไม่ได้ใส่ใจหรือสนใจอะไรไปมากกว่านี้ เขาจึงรีบเดินไปให้ถึงต้นไม้ใหญ่ไวๆ เพราะแดดค่อนข้างร้อนพอสมควร ถึงเขาจะใส่หมวกมาก็ตามที ซึ่งไม่ได้ช่วยอะไรได้มากนัก เมื่ออ้นเดินไปถึง สิ่งที่เขาเห็น เอกำลังนั่งกินข้าวหัวเราะต่อกระซิบกับชายหนุ่ม ซึ่งเขาไม่ได้สนใจอะไรนึกแค่ว่าเพื่อน “คุยอะไรกันสนุกเชียว”อ้นยืนอยู่ข้างหลังเอ “อ้าวมาได้ไง”เอมีสีหน้าตกใจเล็กน้อย “ใครเหรอ”ชายหนุ่มเสียงนุ่มนิ่มเอ่ยขึ้น “อ้นเพื่อนกูเอง”เอหันมามองชายหนุ่ม “นี่นินเพื่อนกูสมัยเรียนอนุบาล”เ
เอรีบเข้าไปอุ้มร่างของอ้นทันที ส่วนอ้นยังทุบหน้าอกของเอไม่ยั้ง แต่แบบออมแรงไม่ทุบแรงอย่างครั้งแรก และก็ดิ้นให้น้อยลงนิดหน่อย เออดทนรีบพาอ้นเข้าไปในรถยนต์ของเขา เมื่ออ้นเข้าไปในรถแล้ว เขาก็นั่งนิ่งๆไม่มีท่าทีจะไปไหน พอเอขึ้นรถมาเท่านั้นแหละ อ้นหันหน้าไปทางอื่นแล้วอมยิ้ม แต่อ้นอารมร์ดีได้ไม่นานเพราะเสียงโทรศัพท์มือถือของเอดังขึ้น เอจึงรีบควักโทรศัพท์มือถือออกมารับทันที “ว่าไง” “ตามอ้นเจอไหม” “เจอแล้วอยู่บ้านนิก” “เราขอโทษนายด้วยนะที่ทำให้ผิดใจกับอ้น”น้ำเสียงของนินบ่งบอกถึงความผิดหวัง “ไม่เป็นไรแค่นี้นะ” “ฮือ” เอกดวางมือถือแล้วหันมามองหน้าอ้น ที่กำลังบึ้งตึงอีกครั้ง เพราะอ้นคาดเดาได้ว่าเป็นเสียงของนินโทรมา “เป็นอะไรอีกล่ะ” “ไปส่งเราที่ขนส่งด้วยเราจะกลับกรุงเทพ” “กลับไปหาไอ้บอสของมึงเหรอ”เอเริ่มรู้สึกโมโหที่อ้นเอาแต่ใจมากขึ้น “ใช่” “ไอ้อ้น มึงอยากโดนอีกใช่ไหม” “โดนอะไร” “กระท่อมปลายไร่ ไปอยู่ในนั้นอีกครั้งไหม”
วันนี้อ้นแกล้งตื่นสาย เพราะอยากรู้ว่าเอจะอยู่บ้านหรือว่าแอบไปไหนหรือเปล่า เมื่อเขาแต่งตัวเสร็จจึงลงมาข้างล่าง แล้วสิ่งที่อ้นเห็นนั้นทำให้เขาปวดใจยิ่งนัก เพราะภาพตรงหน้าเอกำลังนั่งโซฟาคุยกับนิน มีรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของทั้งสอง อ้นถึงกับของขึ้นอารมณ์ฉุนเฉียวมาทันที เขารีบเดินลงบันไดแล้วเดินไปหาเอ “คุยอะไรกัน”อ้นเอ่ยขึ้น “คุยเรื่องสมัยเรียนตอนมัธยม คิดถึงวันนั้นมากเลย เอชอบแกล้งเรานะ ไม่คิดเลยว่าโตมาจะเป็นคนละคน”นินยิ้มให้เอ “ใช่ โตแล้ว มีแฟนแล้วด้วย ยืนอยู่ตรงนี้”อ้นยืนกอดอก “เหรอ แฟนเอใช่ไหม” “เอ่อ ใช่ แฟนเราเอง”เอตอบอย่างหนักแน่น “เอ”นินอ้าปากค้างตาโต เพราะเขาไม่อยากได้ยินคำนี้ ถึงแม้เขาจะรู้ระแคะระคายมาบ้างนิดหน่อย แต่นินยังไม่เชื่อจนได้ยินจากปากของเอ เขาถึงกับอึ้งทำอะไรไม่ถูก “ได้ยินชัดแล้วใช่ไหม”อ้นนั่งลงข้างๆเอพร้อมยิ้มให้นิน “ได้ยินแล้ว แต่เราเป็นเพื่อนเอนี่ จะไปหามาหาสู่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก” “แปลกซิ ถ้านายเป็นแบบนิก เราไม่ว่าอะไรหรอก แต่นี่นายเหมือนเรา อย่าคิดว่าเราไม่รู้น