อ้นได้ขึ้นรถมาพร้อมกับเจน ที่หน้าตายังนิ่งและปูดบวม อ้นอยากจะถามแต่ก็ไม่กล้า เพราะอ้นไม่แน่ใจว่าเป็นฝีมือของเอหรือเปล่า
“หนีไอ้เอออกมาจะไปไหนเหรอ”เจนพูดขึ้น
“กลับกรุงเทพ”
“ไม่ห่วงไอ้เอมันเหรอ”เจนหันมามองอ้น
“ทำไมต้องห่วงเราไม่ได้เป็นอะไรกัน”
“แต่มันรักมึงนี่ มึงก็รู้ไม่ใช่เหรอ”
“รู้ แต่เราไม่ได้รัก”กว่าที่อ้นจะพูดคำว่านี้ออกไป เขาสะเทือนใจพอสมควร เพราะในเวลานี้เขาได้กลับมารักเออีกครั้ง แต่ก็ไม่สามารถที่จะอยู่ด้วยกันได้อีกต่อไป เพราะอีกใจหนึ่งเขาก็ยังมีความรู้สึกดีๆกับบอส
“แน่ใจ”
“แน่ใจซิ ถ้ารักเราจะหนีออกมาทำไม แล้วอีกอย่างเรามีบอสอยู่แล้ว จะไปรักคนอื่นได้อย่างไง”
“ก็ดี แล้วมึงจะให้กูไปส่งที่ไหน”
“ขนส่งก็ได้”
“กูหมายถึงในกรุงเทพ”
“นายจะไปส่งเราถึงโน้นเลยเหรอ”
“ใช่ ขืนให้มึงไปรถทัวร์ เดี๋ยวไอ้เอตามมึงจนเจออีก”
“ได้”อ้นจึงบอกที่อยู่คอนโดของเขา
“มาตัวเปล่าจะเข้าคอนโดได้อย่างไง”เจนมีท่าทีสงสัย
“ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวขอกุญแจสำรองที่นิติบุคคลก็แล้วกัน”
“แล้วมึงกับบอสล่ะยังรักกันดีอยู่ไหม”เจนถามอย่างมีเลศนัย
“รักกันดีอยู่นี่ ไม่มีอะไรที่ผิดใจกัน”
“ดี กูจะได้วางใจว่ามึงจะไม่กลับไปหาไอ้เอมันอีก”
“ที่นายช่วยเราก็เพราะเรื่องนี้เหรอ”
“ถ้าไม่ใช่เรื่องนี้กูจะช่วยมึงทำไม กูไม่ใช่คนใจดีหรอก”เจนชำเลืองมองอ้น แต่ใจหนึ่งเขาก็เริ่มเบื่อที่จะตามตื้อเอเต็มทนแล้วเหมือนกัน
“เราถามบ้างนะ แล้วเรื่องของนายกับเอล่ะ”
“คงไม่เหมือนเดิมแล้วแหละ ก็เพราะกูช่วยมึงออกมาและเจอใครที่ไหนไม่รู้ไล่เข้าป่า ความซวยเลยมาตกที่กูเต็มๆมันหาว่ากูพามึงไปในที่อันตราย”
“เราก็บอกกับเอแล้วนะ แต่เอมันไม่เชื่อ เราก็ไม่รู้จะทำอย่างไงดี”
ช่างมันเถอะ บางทีเรื่องของกูกับไอ้เออาจจะจบแล้วก็ได้ มันเจ็บปวดนะรักเข้างเดียว”เจนมีสีหน้าเศร้าลง
“ใช่ พูดตรงๆนะเมื่อก่อนนายกูรู้ว่าเรารักเอ แต่ก็เป็นรักเขาข้างเดียวเหมือนกัน แต่หนักกว่านายอีก โดยหลอกไถเงินสารพัด นายยังดีไม่ได้หนักเหมือนเรา”
“ก็ไม่แน่นะ ถ้าตอนเรียนมันรู้ว่ากูชอบมัน ไอ้เอมันก็อาจทำกับกูแบบมึงก็ได้ ไอ้นี่มันร้ายขนาดตอนนี้มันยังร้ายเลย”
“ใช่ ร้ายมาก แต่นายก็รักของนายนี่”
“ใช่ ถึงร้ายก็รัก แต่คงถึงเวลาแล้วมั้งที่จะปลดห่วงนี้ออก”
“ถ้านายคิดเช่นนั้นได้ก็ดี หน้านายที่เป็นแบบนี้ เพราะฝีมือเอใช่ไหม”
“ใช่ ถ้าจะว่าไปเพราะมึงนั่นแหละทำให้กูเป็นแบบนี้ ตอนนั้นกูโกรธมึงมากเลย แต่ตอนนี้กูกลับสงสารมึง”
“สงสารเรื่องอะไร”
“ถึงมึงจะหนีมันมาได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะตามมาหามึงที่กรุงเทพไม่ได้นี่”
“ใช่”
“และอีกเรื่องหนึ่ง มึงลองถามใจตัวเองดูด้วยว่ารักไอ้เอหรือเปล่า ถ้ามึงรักไอ้เอนั่นเท่ากับมึงเดินลงเหวแน่”
“ทำไม”อ้นมีท่าทีที่สงสัย
“ก็ไม่มีอะไรหรอก ถ้าง่วงก็นอนซะถึงแล้วจะบอก”
“ขอบใจนะ แต่ทำไมถึงบังเอิญจังที่มาเจอนายที่บ้านของเอ
“ปกติของเราอยู่แล้ว จะมาหามันตอนดึกนั่นแหละ”
“โดยต่อยขนาดนี้ยังจะมาหาอีก”
“แค่เห็นหลังคาบ้านก็ยังดี”เจนหัวเราะเบาๆแบบขำตัวเอง
“เราเข้าใจ”อ้นยิ้มให้เจน
อ้นไม่ได้หลับตลอดทาง และชวนเจนคุยด้วย เพราะกลัวเจนจะง่วงนอน เขาเลยนั่งคุยเป็นเรื่องเป็นราว ส่วนเจนก็เริ่มเห็นความมีน้ำใจและเป็นกันเองของอ้นมากขึ้น เขายังรู้สึกผิดที่หลายครั้งพูดจาไม่ดีกับอ้น ทั้งสองนั่งคุยกันจนมาถึงหน้าคอนโดของอ้น
“ขอบใจมากนะเจน”
“ไม่เป็นไรหรอก แต่กูอยากเตือนมึงให้ระวังคนใกล้ตัวบอสของมึงด้วย”
“ขอบใจที่เตือน เราก็พอรู้มาบ้าง บางทีเขาก็มาถึงที่คอนโดเลยนะ”
“ทำไมไม่สู้ ด่าเขาให้เข็ดลาบ เราเป็นเมียหลวงไม่ใช่เหรอ”เจนอดขำคำพูดเมียหลวงไม่ได้
“ฮือ เดี๋ยวเราทำตาม เราไปแล้วนะ”
“โชคดี”เจนพูดขึ้น
เมื่ออ้นลงจากรถเขาก็เข้าไปขอกุญแจสำรองที่เค้าท์เตอร์ทันที เพราะอ้นค่อนข้างสนิทด้วย จึงได้มาอย่างง่ายดาย หลังจากนั้นเขาจึงขั้นไปบนคอนโด เพียงเขาเปิดประตูคอนโดเข้าไป อ้นถึงกับตกใจ เพราะจ๊อบนอนนิ่งอยู่บนเตียงนอน
“มาตั้งแต่เมื่อไร”อ้นถามเสียงอ่อย
“ไม่ต้องถามผม อ้นต่างหากที่ต้องบอกผมว่าไปไหนมา”
“ก็ไปบ้านพ่อกับแม่ไง”
“อ้นไม่ได้ไปบ้านพ่อกับแม่ของอ้น รวมทั้งเพื่อนๆของอ้นด้วย”
“ไปไหนมาบอกผมมาตรงๆ”
“คือ อ้น”
“ไม่บอกก็ไม่เป็นไร แล้วทำไมผมโทรมาถึงไม่รับ”
“มือถืออ้นหาย”
“หายทำไมไม่ซื้อ เบอร์เดิมขอใหม่ก็ได้ อ้นทำแบบนี้ผมเป็นห่วงมากรู้ไหม”
“อ้นขอโทษ”
“ไม่ได้ไม่ดีก็ขอโทษ ผมรู้นะว่าคุณไปไหนมา คุณจะทำร้ายจิตใจผมไปถึงไหน”จ๊อบลุกขึ้นนั่งบนเตียง
“คืออ้น”อ้นค่อยๆเดินไปที่เตียงนอน และนั่งลงข้างเตียงนอน
“มีอะไรเล่ามาให้ผมฟังให้หมด”
“ก็ได้”
อ้นเล่าความจริงทุกอย่าง ยกเว้นเรื่องที่เอจับเขาไปกักขังไว้ และได้มีความสัมพันธ์สวาทในป่า
“เท้าไปโดนอะไรมา”จ๊อบสังเกตเห็นตั้งแต่อ้นเดินเข้ามาแล้ว แต่โดยความโกรธจึงปล่อยผ่าน
“หกล้มหนีพวกโจร”
“จำหน้ามันได้ไหมว่าเป็นใคร”
“จำไม่ได้”อ้นก้มหน้าลงต่ำ
“ชีวิตนี้จำอะไรได้บ้าง ทำไมผมต้องมาเจอคนอย่างอ้นด้วยไม่รู้ ชอบทำตัวอ่อนแอไม่เข้มแข็งเหมือนบี้เลย”
จ๊อบยังจำความสัมพันธ์ที่มีอะไรกับบี้ได้ นอกจากถึงใจไม่นอนเป็นท่อนไม้เหมือนอ้น แล้วยังใจกว้างไม่เรื่องมาก เมื่อเขาหันมามองอ้นแล้วได้แต่ถอนหายใจ
“ไม่ไปเป็นไรเดี๋ยวผมจะให้เพื่อนที่เป็นตำรวจสืบให้ก็ได้”
“ฮือ”
“ส่วนเรื่องของคนชื่อเอขอให้มันจบแค่นี้ ถ้ามีครั้งต่อไปผมไม่เอามันไว้แน่”
“ฮือ”
“อะไรก็ฮือ พูดอย่างอื่นไม่เป็นหรืออย่างไง”
“อ้นไม่รู้จะพูดอะไร”
“ทำตัวน่ารำคาญขึ้นทุกวัน เดี๋ยวผมไปแล้วนะ ผมจะไปนอนที่บ้าน พรุ่งนี้ผมจะให้พยาบาลมาดูเท้าที่บวม”
“ได้”
“หัดทำตัวให้มีชีวิตมีชีวาบ้าง ผมทำงานเหนื่อยๆก็อยากเห็นอะไรที่มันเจริญหูเจริญตา มันใช่ปล่อยตัวให้โทรมอย่างนี้”
“ก็อ้น”อ้นหยุดพูดทันที ที่เขาปล่อยตัวอย่างนี้เพราะไปอยู่ที่ไร่ของเอมา
“ดี วันหลังเดี๋ยวผมมาใหม่ พรุ่งนี้ก็ไปซื้อมือถือจัดการอะไรให้เสร็จเรียบร้อย เดี๋ยวผมจะให้คนขับรถมารับ”
“ครับ”
“ไปแล้วนะ”จ๊อบแม้แต่มองหน้าอ้นก่อนกลับก็ยังไม่แล เพราะเขายังคลางแคลงใจเรื่องของเอกับอ้นที่ไปอยู่ด้วยกันหลายวัน เขาพยายามที่จะทำใจเย็นๆคุยกันอ้น และปล่อยผ่านเรื่องนี้
อีกสาเหตุหนึ่งที่จ๊อบไม่ใคร่สนใจอ้นมากนัก เพราะตั้งแต่เขามีความสัมพันธ์กับบี้ จ๊อบนั้นติดใจรสชาติรักที่บี้มอบให้ ถึงแม้เขาจะรู้ว่าโดนบี้วางยากำหนัดให้ แต่จ๊อบกลับชอบรสรักที่บี้มอบให้อย่างเต็มที่จนสุขเต็มอุรา
อ้นนั่งมองรูปถ่ายที่เขาถ่ายคู่กับจ๊อบที่วางไว้บนหัวเตียง อ้นถึงกับเศร้าที่จ๊อบเปลื่ยนไปไม่รักใครเขาเช่นเดิม แต่อ้นก็พอเข้าใจได้เป็นใครก็ต้องโกรธเป็นธรรมดา ดีเท่าไรที่จ๊อบพยายามไม่พูดเรื่องของเอ ให้อ้นตอบคำถามได้ยากยิ่งขึ้น แต่ที่อ้นหนักใจยิ่งขึ้น ถึงจะกลับมาหาจ๊อบแล้วแต่ความอิสระก็ไมได้มีมากไปกว่าที่อยู่กับเอ เพราะต่อแต่นี้อ้นคาดเดาไว้ว่าจ๊อบคงไม่เขาห่างสายตาเป็นอย่างแน่นอน ที่สำคัญการจะไปไหนมาไหนกับเพื่อนคงเป็นไปไม่ได้อีกแล้ว
จ๊อบขับรถกลับบ้านอย่างใจที่กระวนกระวาย เพราะเขายังรักอ้นอยู่แต่เขาก็ทำใจไม่ไดที่อ้นนั้นได้หายไปอยู่กับเออดีตคนเคยรักคนเก่า เขาจึงไม่พยายามถามหรือพูดเรื่องของเอต่อหน้าอ้น เพราะจ๊อบยังรับความจริงข้อนี้ไม่ได้ อีกอย่างเขาไม่สามารถรู้ได้เลยว่าอ้นกับเอได้มีอะไรกันไหม แต่มีอีกสิ่งหนึ่งที่จ๊อบแค้นเคืองที่สุด นั่นคือใครกันที่ตามรังควานอ้นได้ตลอดเวลา แต่ก็อีกไม่นานนักเขาก็จะรู้แล้วว่าเป็นใคร ถ้าถึงวันนั้นจ๊อบจะจัดการให้เด็ดขาดเลยทีเดียว
ในระหว่างที่จ๊อบกำลังขับรถกัลับ้าน และครุ่นคิดใคร่ครวญสิ่งต่างๆ ว่าจะทำอย่างไรกับอ้นดี แต่แล้ว เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นจ๊อบจึงใส่บูลทูธ
“ฮัลโหล มีอะไรบี้”
“อ้นกลับมาหรือยัง บี้เลยโทรมาถามด้วยความเป็นห่วง”
“กลับมาแล้วตอนนี้อยู่ที่คอนโด ผมกำลังขับรถกลับบ้าน”
“อ้าว ไม่ได้อยู่ด้วยกันเหรอ ทำไมไม่อยู่เป็นเพื่อนอ้นล่ะ”
“ไม่มีอารมณ์ แล้วตอนนี้บี้อยู่ไหนเสียงเพลงดังเชียว”
“มานั่งฟังเพลงแถวสีลม”
“ไปกลับใคร”
“คนเดียว เหงาๆนะ ไม่มีเพื่อนเลยมาฟังเพลงดื่มเบียร์ซิลๆ”
“ร้านไหน เดี๋ยวผมจะไปหา ส่งโลเคชั่นมาก็ได้”
“มันจะดีเหรอ”
“ดีสิ”
“ถ้างั้นมาเลยเดี๋ยวบี้จะรอบอสนะ”
ช่วงเวลานี้จ๊อบยิ่งเหงาและกลัดกลุ้มในเรื่องของอ้น เขาจึงอยากจะไปผ่อนคลายอารมณ์ ให้คลายความตรึงเครียด ซึ่งจ๊อบก็ใช้เวลาไม่นานก็ไปถึงที่ผับที่บี้นั่งฟังเพลง
จ๊อบเดินเข้าไปในร้าน ซึ่งมีผู้คนมากมาย ซึ่งส่วนใหญ่จะมีแต่ผู้ชาย เป็นครั้งแรกที่เขาเคยมา ปกติจ๊อบจะไปเที่ยวร้านชายหญิงทั่วไป
“บอสทางนี้”บี้กวักมือเรียก
จ๊อบหันไปมองและเดินเข้าไปหาบี้ทันที ที่กำลังนั่งดื่มเบียร์อยู่คนเดียว เมื่อเขาไปถึงบี้ก็สั่งเพิ่มอีกเพื่อให้จ๊อบ
“มาที่นี่บ่อยเหรอ”
“ไม่ค่อยบ่อยหรอก บี้จะเปลื่ยนร้านไปเรื่อยๆทุกอาทิตย์ วนมาวนไปเรื่อยๆแบบนี้แหละ ถ้ามาร้านเดิมติดๆกันน่าเบี่อตายชัก”
“ผมพึ่งรู้นะเนี่ยว่าบี้ขาเที่ยว รู้จักกันมาตั้งนาน”
“แค่รู้จักไม่ได้สนิท รู้จักกันตั้งแต่มัทธยม แต่บอสทำเป็นเมินเฉยบี้เอง”
“ถ้ารู้จักกันตั้งแต่มัธยมไม่ต้องเรียกบอสก็ได้มั้ง”จ๊อบอมยิ้มและยกเบียร์ดื่ม
“ไม่ได้หรอกมันชินไปแล้ว”
“ใช้ชีวิตแบบบี้ก็ดีเหมือนกันอิสระ”
“ไม่ดีหรอก บี้ยังอยากใช้ชีวิตแบบบอสเลย มีคนทีรักอยู่เคียงข้างกัน คอยเอาใจใส่ซึ่งกันและกัน ช่วยกันทำมาหากิน ไม่สร้างเรื่องสร้างราวให้ซึ่งกันและกัน ชีวิตแบบนี้แหละที่บี้ต้องการ”
“เมื่อก่อนผมก็คิดแบบบี้นะ แต่เดี๋ยวนี้มันไม่ใช่อย่างงั้นแล้ว”
“มันอย่างไง เล่าให้บี้ฟังหน่อยได้ไหม เพื่อระบายความในใจ เผื่อบี้จะช่วยแก้ปัญหานี้ไอ้บอสได้”
“เรามาเที่ยวกันอย่าพูดเรื่องคนอื่นเลย”
“ก็ได้ จะให้พูดเรื่องอะไรดีล่ะ”
“ก็เรื่องของเราไง”จ๊อบพูดขึ้น
“ไม่ไหวหรอก เรามาเที่ยวจะเอาเรื่องงานมาพูดได้ไง”
“ไม่ใช่เรื่องงาน เรื่องคืนก่อนที่เราจะกลับมาไทยนั่นแหละ”
“อ๋อ ก็ไม่มีอะไรนี่ มันจบลงแล้ว ฟินฟินทั้งสองฝ่าย”
“แบบนั้นจริงเหรอ”
“ก็จริงซิ บี้ไม่ใช่คนเรื่องมากและไม่ได้เอาไปเรื่อยนะ ถึงแม้จะเที่ยวเก่งแต่บี้ไม่สนหรอกคนที่มาเที่ยวเนี่ย”
“ถ้างั้นผมก็หมดสิทธิ์แล้วมั้งผมก็มาเที่ยว”
“ใช่ บอสหมดสิทธิ์แล้ว”
“ถ้างั้นผมกลับแล้วนะ ถ้าหมดสิทธิ์นี้แล้ว”จ๊อบเริ่มเมาเลยพูดจาไปเรื่อย
“บี้ล้อเล่น ถึงอย่างไงเราก็เป็นเพื่อนกันอยู่”
“ดีใจที่บี้เห็นผมเป็นเพื่อนไม่ใช่เจ้านาย”จ๊อบอมยิ้ม
“เป็นทั้งสองอย่างนั่นแหละ ถ้าเป็นอย่างหนึ่งจะดีมากเลย”
“อะไรเหรอ”
“คนรัก แต่เป็นไปไม่ได้หรอก เพราะบอสมีคนรักอยู่แล้ว”
“ไม่รู้สิ ตอนนี้ผมมีปัญหากับอ้นนิดหน่อย”
“อย่าเชียวนะ สงสารอ้น บอสต้องรักษาความสัมพันธ์ที่ดีๆไว้นะ”
“ผมจะพยายามรักษามันไว้ แต่ผมไม่รู้ว่าอ้นจะพยายามรักษามันไว้หรือเปล่า”
“แน่นอนอ้นเขาเป็นคนดี และรักบอสมากเท่าที่เห็นนะ”
“เหรอ”
“ใช่ ไม่พูดแหละไร้สาระ มาคุยเรื่องอื่นดีกว่า”
“ไม่คุยแล้วผมอยากกลับบ้าน”
“บ้านไหน”
“ที่บ้านผมไง”
“บี้หมายถึงบ้านพ่อแม่หรือคอนโดอ้น”
“ก็บ้านผมซิ ผมจะกลับไปทำไมคอนโดผมพึ่งไปมาก่อนที่จะมาหาบี้”จ๊อบดื่มอีกครั้งจนหมดขวด
“แล้วไม่อยากไปไหนต่อเหรอ”บี้ถาม
“ไม่อยากไปไหนแล้ว หรือว่าบี้มีที่เที่ยวที่อื่นอีก”
“ไม่มีหรอก กลับกันก็ได้”
เมื่อทั้งคู่ตัดสินใจจะกลับบ้าน บี้จึงเรียกพนักงงานเสิร์ฟมาคิดเงิน แต่จ๊อบไม่ให้บี้จ่าย เขาต้องการเป็นคนจ่ายเอง หลังจากนั้นทั้งสองจึงออกมานอกร้านและอยู่ตรงที่จอดรถ
“บี้จะกลับเลยเหรอ”จ๊อบถามอยู่ข้างรถ
“ถ้าบอสไม่ให้กลับบี้ก็ไม่กลับ”บี้ยิ้มหวานไอ้จ๊อบ
“ผมยังไม่อยากไห้บี้กลับหรอก”
“ไม่ให้กลับแล้วจะไปไหนต่อกันดีล่ะ”
“ฮือ ไม่รู้สิ”จ๊อบมองหน้าของบี้แล้วขาก็เกิดอารมณ์อยากสัมผัสเรือนร่างของบี้ขึ้นมาทันที เพราะเขายังติดใจลีลารักของบี้อยู่ไม่หาย ถึงแม้คืนนี้เขาไม่โดนยากำหนัดก็ตาม
“บี้เป็นคนตรงๆนะ บี้พูดเองก็ได้ เราไปโรงแรมกันไหม”สาเหตุที่บี้พูดเช่นนั้น เขาก็ไม่ต่างจากจ๊อบเท่าไรที่ยังติดใจลีลาบนเตียงของจ๊อบไม่หาย
“แต่มันจะดีเหรอ”ใจจริงก็อยากไปแต่ก็ยังคาใจติดใจเรื่องอ้นอยู่เหมือนกัน
“ดีสิ เราแค่สนุกกันจะไปสนใจคนอื่นทำไม บางทีคนอื่นอาจสนุกแบบเราก็ได้ เขายังไม่สนใจเราเลย”บี้พยายามพูดให้เฉียดอ้นให้ได้มากที่สุด
“โอเค ตามนั้น”จ๊อบยิ้มนิดๆ
“แค่นี้แหละ ขับรถตามบี้มาเลย”
หลังจากบี้พูดจบเขาก็ขี้นรถและรีบขับไปอย่างโดยไว ส่วนจ๊อบก็ขับตามไม่ให้พลาดสายตา เพราะตอนนี้อารมณ์ใคร่ของเขาเกินห้ามใจไปแล้ว
จ๊อบกับบี้เดินเข้ามาในโรงแรมสุดหรูที่ห่างไกลผู้คน มิคกี้เข้าไปอาบน้ำก่อนแล้วออกมานอนบนเตียง ส่วนบี้อาบทีหลังและตามออกมานอนข้างๆจ๊อบ “สิ่งที่เราจะทำวันนี้มันผิดมากไหม”จ๊อบยังลังเล เพราะลึกๆเขายังรักอ้นอยู่ แต่ด้วยความคลางแคลงใจในตัวอ้น และโดนวางยาจากครั้งเก่าก่อน ทำให้จ๊อบมีนิสัยด้านความรักที่เปลื่ยนไปพอสมควร “อย่าพูดถูกผิดเลย ในเมื่อใจเราต้องการก็ควรปล่อยมันไปเป็นตามธรรมชาติ” “ผมไม่สบายใจเลยที่ต้องทำแบบนี้” “เอาน่า ความสุขเล็กๆน้อยๆของเรา หยุดพูดเถอะเดี๋ยวบี้จะจัดการให้ทุกอย่าง” บี้โอบกอดร่างของจ๊อบไว้หลวมๆและคลายออกมาลูบไล้ที่แผ่นอก ลูบคลำสัมผัสหัวนมของจ๊อบเล่นอย่างมันมือ จึงทำให้จ๊อบเสียวซ่านไปทั้งตัว เพราะเขาไม่เคยได้สัมผัสนี้จากอ้นมาก่อนเลย บี้เริ่มใช้ริมฝีปากประกบปากของจ๊อบ หลังจากนั้นใช้ลิ้นตวัดสัมผัสซึ่งกันและกัน จ๊อบตอบสนองบี้อย่างไม่อิดออด ส่วนมือของบี้จับหัวนมของจ๊อบขยำขยี้อย่างอ่อนโยน บี้ยังไม่หยุดอยู่แค่นั้น เขาเลื่อนไปสัมผัสที่ซอกหูและติ่งหูอย่างออกรสชาติ บี้ไล่ลงมาส่วนรักแร้ที่มีขนดกดำ บี้ดอมดมอย่างใ
อ้นนอนอยู่คอนโดอย่างเดียวดาย ซึ่งเขาก็แอบดีใจที่จ๊อบไม่มา เพราะอ้นก็ทำตัวไม่ถูก ถ้าเกิดจ๊อบอยากมีความสัมพันธ์ทางกายกับเขา เพราะตอนนี้ใจของอ้นเอียงเอนไปทางเอมากกว่าจ๊อบ อ้นนั่งๆนอนอยู่ที่คอนโด ดูซีรี่เล่นมือถือคุยกับเพื่อน และทำอีกหลายสิ่งหลายอย่าง ที่อ้นทำเช่นนั้นเพื่อที่จะได้ลืมความทุกข์ที่เริ่มเกาะกินใจเขาขึ้นมาเรื่อยๆ ในระหว่างที่อ้นกำลังคิดอะไรเพลินๆก็ได้ยินเสียงกดกริ่ง เขาจึงรีบไปเปิดประตู เพระคิดว่าน่าจะเป็นจ๊อบที่มาหาเขา แต่แล้วคนที่ยืนอยู่ตรงหน้านั้น ไม่ใช่คนที่เขาคิดไว้เมื่อครู่ “คุณบี้มีอะไรเหรอ”อ้นพูดขั้นเมื่อเห็นหน้าของบี้ แต่บี้ไม่พูดอะไรเดินเข้ามาในห้องทันที “ห้องโทรมไปเยอะเนอะเหมือนเจ้าของห้องเลย” “ถ้าคุณมาพูดแค่นี้ก็กลับไปซะ อ้นไม่มีเวลาที่จะมาคุยเรื่องไร้สาระ” “ฉันไม่ได้มาคุยเรื่องไร้สาระ แต่ฉันมีเรื่องที่น่าตื่นเต้นให้เธอดูมากกว่า”บี้ยิ้มอย่างมีเลศนัย “อ้นไม่อยากรู้อยากเห็นอะไรทั้งนั้น เชิญคุณกลับไปได้แล้ว” “ฉันจะยังไม่กลับ ถ้าเธอยังไม่ดูอะไรที่ฉันอยากให้ดู” “ถ้างั้นก็เอา
อ้นนั้นได้ถือโอกาสมาพักผ่อนหย่อนใจ หลีกหนีความผิดหวังและความรักที่ไม่จริงใจ การมาเชียงใหม่ในครั้งนี้เป็นความใฝ่ฝันของอ้นด้วย ในเมื่ออ้นมีเงินพอที่จะใช้จ่าย เขาจึงอยากให้รางวัลตัวเอง ด้วยการตระเวนเที่ยวโดยขึ้นมาทางเหนือก่อนเป็นอันดับแรก การมาครั้งนี้มีเพียงจีจี้คนเดียวที่รับรู้ ส่วนซันและซีอ้นได้กำชับไว้ไม่ให้บอก เพราะว่าอ้นสงสัยสองคนนั้นน่าจะเอียนเองตามแฟนมาอยู่ข้างเออย่างแน่นอน ค่ำคืนนี้อ้นมีโครงการที่จะไปถนนคนเดิน เมื่อได้เวลาที่จะต้องไปเขาลงมาจากโรงแรม และมายืนรอรถตุ๊กๆที่หน้าโรงแรม แต่แล้วตุ๊กๆไม่ทันได้มาจอดรับ มีเพียงบิ๊กไบค์คันใหญ่จอดตรงหน้า พอคนขับเปิดกระจกหมวกกันน็อคออก ซึ่งไม่ใช่ใคร่แค่เห็นเพียงดวงตาสองคู่อ้นก็จำได้ทันที “ขึ้นรพร็วจะไปไหนบอกมา”เอพูดขึ้นทันที พร้อมยื่นหมวกกันน็อคอีกใบให้อ้น แต่อ้นไม่รับและมองด้วยสายตาที่ไม่สบอารมณ์ อ้นจึงเดินหนีและไม่พูดจาตอบโต้แต่อย่างใด และอ้นก็สงสัยอีกว่าเอรู้ได้อย่างไรว่าเขามาอยู่ที่เชียงใหม่ สาเหตุที่เอรู้นั้นก็เพราะว่าเขาดักรออยู่หน้าคอนโดทุกวันจนถึงวันที่อ้นออกจากคอนโด และเขาก็ได้ติดตามอ้นแบบห่างๆจนมา
อ้นนั่งครุ่นคิดเรื่องราวที่ผ่านมาตั้งแต่อดีตยันปัจจุบันบนเตียงนอน โดยเฉพาะช่วงเวลาในปัจจุบันที่เขาแสนจะกลัดกลุ้มขุ่นใจกับสองหนุ่มที่ตามตื้อไม่ห่าง จนอ้นตัดสินใจที่จะหนีจากสองคนนี้อีกครั้ง แต่อีกใจหนึ่งเขาก็รู้สึกดีตอนที่สองหนุ่มมารุมล้อม ความรู้สึกนี้พึ่งได้รับตอนนี้ที่อ้นได้นั่งทบทวนสิ่งต่างๆ แต่ปัญหาคือมีมาทีเดียวสองคน ซึ่งอ้นยังไม่รู้ใจตนเองว่าชอบใคร คนหนึ่งรักแรกคนสองรักใหม่ ต่างมีข้อดีข้อเสียและทำให้อ้นเจ็บซ้ำน้ำใจไม่น้อยไปกว่ากัน “ในระหว่างที่อ้นกำลังนั่งคิดถึงสองหนุ่มที่ตามติดไม่ห่างอยู่นั้น เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น อ้นจึงรีบรับทันที เพราะเป็นเพื่อนสาวที่สนิทตั้งแต่สมัยเรียน “ฮัลโหล” “ยังไม่นอนอีกเหรอ”จีจี้ถาม “ยังกำลังคิดอะไรเพลินๆอยู่” “คิดเรื่องอะไร” “ก็เรื่องบอสกับเอที่ตามมาถึงเชียงใหม่” “อ่ะ เราไม่ได้บอกนะ”ความจริงจีจี้รู้อยู่แล้ว เพราะเอและจ๊อบโทรมาหาเธอ ต่างฝ่ายต่างให้จีจี้เชียร์ “แล้วเธอได้บอกซันกับซีไหม” “โอ๊ยสองคนนั่นเดี๋ยวนี้ไม่เห็นหัวติดผู้ชาย ตามตั้มและตู
จ๊อบออกจากห้องของอ้นไปได้ไม่นาน เสียงเคาะประตูรัวๆก็ดังขี้นไม่หยุด ด้วยความรำคาญอ้นจึงเปิดออกดูว่าเป็นใคร เพียงแง้มประตูเท่านั้นแหละ เอก็ผลักประตูเข้ามาทันทีและเดินนำหน้าอ้นไปนั่งที่โซฟา อ้นถึงกับยืนงงด้วยพฤติกรรมของเอ “มานั่งใกล้ๆนี่ มีเรื่องจะคุยด้วย” อ้นเดินอย่างช้าๆและนั่งลงข้างๆเอที่มีสีหน้าดูเคร่งเครียดพอสมควร ก่อนที่เอจะพูดอะไรออกมาเขาได้กัดริมฝีปากตัวเองเบาๆ “กูมีเรื่องจะคุยกับมึง” “มีอะไร” “ตอนนี้กูไม่มีพันธะ ไอ้เจนมันไปทำงานที่ภาคใต้แล้ว” “รู้แล้ว” “รู้แล้วก็ดีมึงจะได้สบายใจ” “เจนจะไปไหนอยู่ไหนมันก็ไม่เกี่ยวกับเรานี่” “เกี่ยวซิ ถ้าไอ้เจนมันยังพัวพันกับกู ถึงกูจะไม่ได้รักมัน แต่มึงก็จะคาใจกูอยู่” “เราจะคาใจนายทำไม ในเมื่อเราไมได้เป็นอะไรกันนี่” “มึงก็รู้ดีแกใจ มึงกับกูมีอะไรกันตั้งสองครั้ง ในป่าครั้งหนึ่ง ที่บ้านกูอีกครั้งหนึ่ง” “จะพูดทำไม เรื่องมันผ่านมาแล้ว”อ้นรู้สึกกระดากใจพอสมควรที่ได้ยินคำพูดนี้จากปากของเอ “ยังไม่รวมต
ช่วงเวลาแห่งความสุขบนดอยอินทนนท์ผ่านเป็นอย่างรวดเร็ว เอได้พาอ้นมาที่บ้านไร่ที่เขาอาศัยอยู่ ในนาทีนี้ที่เขาอยู่กันเพียงสองคนในห้องไม่ใหญ่มาก แต่เต็มไปด้วยความรักที่ยิ่งใหญ่ อ้นนั้นแสนดีใจหาใดเปรียบ การตัดสินใจในครั้งนี้ของอ้นก็เหมือนกับเสี่ยงดวงเหมือนกัน เพราะเขาก็ยังไม่แน่ใจว่าเอจะดีอย่างปากพูดไว้หรือเปล่า ในห้องนอนวันแรกที่มาอยู่บ้านไร่ของเอ อ้นนอนเล่นโทรศัพท์มือถือคุยกับเพื่อนรักอย่างจีจี้ เมื่อเอเดินออกมาจากห้องน้ำ เขารู้สึกไม่พอใจอ้นเล็กน้อย เพราะไม่ยอมสนใจเขาอย่างที่ควร เอจึงขึ้นไปบนเตียงและนอนข้างๆอ้น มีท่าทีที่กระฟัดกระเฟียด “ผัวนอนอยู่ทั้งคนยังคุยกับคนอื่นอีก” “ไม่ใช่คนอื่นเพื่อนเราเองจีจี้ไง นายจำไม่ได้เหรอ”อ้นเลิกกดส่งไลน์จีจี้ทันที “จำได้ แต่มันใช่เวลาไหมที่จะคุยกัน ตอนนี้เราต้องทำอะไรบางอย่าง” “ทำอะไรล่ะ” “ก็อย่างนี้ไง” เอพลิกร่างตะแครงก้มลงจูบที่ริมฝีปากของอ้น เขาใช้ปลายลิ้นซอนไซร้เข้าไปภายใน ส่วนอ้นก็สมยอมแต่โดยดีโอบกอดผิวเรือนกาย ไร้อาภรณ์ของเออย่างเร่าร้อน เอถอนริมฝีปากออกมาไซร้ซอกคอทุกมุม ตอห
อ้นตื่นนอนมาเขาก็ไม่เห็นเอนอนอยู่บนเตียง เขาจึงเข้าไปอาบน้ำและแต่งตัวลงมาด้านล่าง เพียงแค่ลงมาเขาก็เห็นอาหารวางไว้เต็มโต๊ะ อ้นเดินเข้าไปดูซึ่งเป็นอาหารดีๆทั้งนั้น เขายืนยิ้มในความเอาใจใส่ของเอ “น่ากินทั้งนั้นเลย”อ้นตักข้าวใส่จานและนั่งลง อ้นค่อยๆกินข้าวอย่างช้าๆพร้อมกับคิดถึงเอตอนทำกับข้าว เขาถึงกับหัวเราะเบาๆจากหนุ่มห่ามกลายมาเป็นพ่อบ้านพ่อเรือน อ้นกินข้าวจนอิ่มถึงสองจานเพราะรสมือของเอนั้นเลิศรสยิ่งนัก เมื่ออ้นกินข้าวอิ่มเขาจึงเดินออกไปนอกบ้าน มองไปรอบๆซึ่งมีแต่ไร้ข้าวโพด เขายังจำวันที่เอลากไปช่วยหักข้าวโพดได้ อ้นถึงกับยิ้มออกมา “ยิ้มอะไรครับ”เพื่อนของเอที่เคยไปช่วยอ้นในป่า เดินเข้ามาใกล้ๆอ้น “คิดอะไรเรื่อยเปื่อยเลยยิ้ม มาหาเอเหรอ สงสัยไปที่ไร่น่ะ” “ใช่ครับมาหาเอ ผมนิกจำผมได้ไหม”นิกยิ้มจนเห็นไรฟัน “ทำไมจะจำไม่ได้คนที่เคยใช้อ้นไว้ไงที่กลางป่า” “ดีจังที่จำผมได้ ผมก็นึกว่าอ้นลืมผมซะแล้ว” “จะลืมผู้มีพระคุณได้ไง”อ้นยิ้มหวานให้นิกเพื่อนของเอ “แล้วมาหาเอมีธุระอะไรหรือเปล่า”
อ้นนั่งๆนอนอยู่บ้านเฉยๆจึงเกิดความเบื่อหน่าย และเป็นช่วงเวลาใกล้เที่ยงเขาจึงตักข้าวใส่ปิ่นโต พร้อมกับข้าวสามขนมหนึ่ง หลังจากนั้นอ้นจึงเดินออกไปไร่ข้าวโพดเพื่อไปหาเอแฟนหนุ่ม อ้นพอจำทางได้บ้างเมื่อครั้งโดนเอจับมาไว้ที่บ้านปลายไร่ เขาเดินไปเรื่อยๆจนเห็นไร่ข้าวโพด อ้นมองเห็นร่างผู้ชายสองคนอยู่ใต้ต้นไม่ใหญ่ท้ายไร่ อ้นจึงเดินต่อไปเพราะเขาจำร่างของเอได้ ยิ่งอ้นเดินเข้าไปใกล้ๆ เขาค่อนข้างแน่ใจว่าเป็นเอ แต่ผู้ชายอีกคนอ้นคิดว่าไม่รู้จักแน่ๆ แต่อ้นคิดว่าน่าจะเป็นเพื่อนของเอ อ้นจึงไม่ได้ใส่ใจหรือสนใจอะไรไปมากกว่านี้ เขาจึงรีบเดินไปให้ถึงต้นไม้ใหญ่ไวๆ เพราะแดดค่อนข้างร้อนพอสมควร ถึงเขาจะใส่หมวกมาก็ตามที ซึ่งไม่ได้ช่วยอะไรได้มากนัก เมื่ออ้นเดินไปถึง สิ่งที่เขาเห็น เอกำลังนั่งกินข้าวหัวเราะต่อกระซิบกับชายหนุ่ม ซึ่งเขาไม่ได้สนใจอะไรนึกแค่ว่าเพื่อน “คุยอะไรกันสนุกเชียว”อ้นยืนอยู่ข้างหลังเอ “อ้าวมาได้ไง”เอมีสีหน้าตกใจเล็กน้อย “ใครเหรอ”ชายหนุ่มเสียงนุ่มนิ่มเอ่ยขึ้น “อ้นเพื่อนกูเอง”เอหันมามองชายหนุ่ม “นี่นินเพื่อนกูสมัยเรียนอนุบาล”เ