วันนี้อ้นก็มาทำงานแต่เช้าตามเดิม แต่สิ่งที่แปลกไปเพราะจ๊อบได้กลับมาทำงานที่ออฟฟิค โดยมีเลขนุการคนใหม่เฝ้าอยู่หน้าห้อง ส่วนจิ๊บนั้นก็เป็นเทรนเนอร์อยู่ไม่ห่างกายบี้เลขนุการคนใหม่
ในระหว่างที่อ้นทำงานอยู่นั้นบี้เลขาคนใหม่ของจ๊อบก็เดินมาหา พร้อมด้วยสายตาที่เหยียดสุด มองอ้นตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า
“นี่เธอ บอสให้เอางานมาให้เธอทำ หวังว่าคงจะเสร็จทันก่อนห้าโมงเย็นนะ บอสสั่งมา”บี้เอาวางไว้บนโต๊ะ
“ครับ”
“นี่เหรอ เลขาคนเก่า”
“ครับ”
“ไม่แปลกใจที่โดนปลด ลดตำแหน่ง”บี้ใช้สายตาชำเลืองมองอ้นแล้วเชิดหน้าขึ้น ต่อจากนั้นบี้ก็เดินจากไป นั่งเฝ้าหน้าห้องของจ๊อบตามเดิม
“ร้ายเนาะเลขาคนใหม่”วีณาเพื่อนสาวหันมามองอ้น
“อย่าพูดไป”นฤมลใช้มือจุ๊ที่ปาก
“ปล่อยเขาไปเถอะ เราก็ทำงานของเราไป”อ้นพูดขึ้น
“จร้า”วีณาทำเสียงประชด
อ้นตั้งหน้าตั้งตาทำงานอย่างต่อเนื่อง เพราะต้องทำให้เสร็จภายในห้าโมงเย็น อ้นก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม ต้องบังคับกันขนาดนี้ ขนาดเมื่อวานยังให้เวลาจนกว่าจะทำเสร็จ อ้นจึงไม่สนใจสิ่งรอบข้าง รีบเร่งทำงานอย่างต่อเนื่องและให้รวดเร็ว ทันความต้องการของจ๊อบ ที่วันนี้นิสัยเปลื่ยนไปอีกรูปแบบหนึ่ง
ในที่สุดอ้นก็ทำงานเสร็จตามเวลา เขาจึงเตรียมตัวที่จะกลับห้องทันที เมื่ออ้นลงไปถึงหน้าบริษัท เพียงแค่ยืนรอรถแค่นั้น จ๊อบก็ขับรถมาจอดตรงหน้า พร้อมกับไขกระจกลง
“ขึ้นมา”จ๊อบพูดห้วนๆ
อ้นจึงรีบอ้อมไปอีกด้านหนึ่งและขึ้นเข้าไปในรถทันที เมื่ออ้นเข้าไปในรถแล้วจ๊อบก็แล่นรถออกไปในทันที
“ทำไมวันนี้บอสมารับอ้นได้ล่ะครับ”อ้นชำเลืองมองจ๊อบ
“ผมมีเรื่องที่จะคุยกับคุณ”จ๊อบใช้คำที่ดูห่างเหิน
“เรื่องอะไรครับ”
“ผมจะไม่ให้คุณอยู่ที่ห้องพักในโรงงานแล้วนะ”
“ครับ เดี๋ยวอ้นจะย้ายเร็วๆนี้ แต่ขอเวลาหาห้องเช่าสักสองสามวันก่อนครับ”อ้นรู้สึกใจหาย ก่อนหน้านี้เขายังรู้สึกดีอยู่เลยที่จ๊อบมารับที่หน้าบริษัท
“ไม่ต้อง ผมหาไว้ให้คุณแล้ว”
“ไม่เป็นไรครับ อ้นจะหาเอง เพราะอ้นไม่ได้เป็นเลขาของบอสแล้ว”
“แต่คุณยังเป็นพนักงานในบริษัทของผมอยู่”
“คนอื่นก็เป็นเหมือนกันนี่ครับ เดี๋ยวเขาจะเอาไปนินทราได้”
“คุณกลัวคนนินทราด้วยเหรอ ทีจับมือถือแขนกับผู้ชายในโรงงานไม่เห็นกลัวคำนินทราเลย”
“มันไม่ใช่อย่างที่บอสคิดเลย มันเป็นเรื่องที่บอสเข้าใจผิด เดี๋ยวอ้นจะเล่าให้ฟัง”
“ผมไม่ฟังคำแก้ตัวหรอก”
“อ้นไม่ได้แก้ตัว”
“ไม่ต้องพูด ผมไม่ฟัง”จ๊อบเสียงเข้ม
“ไม่พูดก็ได้แล้วแต่บอส”
“เดี๋ยวผมจะส่งคุณที่หน้าโรงงานนะ ผมมีธุรที่จะไปทำ อ๋อ ย้ายห้องเย็นนี้ด้วยรู้ไหม”
“อ้นยังไม่ได้เก็บของเลย”
“ผมให้คนของผมไปรออ้นอยู่หน้าห้องแล้ว เดี๋ยวเขาจะช่วยอ้นขนของเอง เอาของที่จำเป็นก็พอ เพราะผมเตรียมไว้ให้คุณทุกอย่างแล้ว”
“บอสไม่น่ามาเดือดร้อนเพราะอ้นเลย”
“ผมไม่ได้เดือดร้อนที่อ้นย้ายห้อง แต่ผมเดือดร้อนคนข้างห้องอ้นนั่นแหละ ผมอยากให้อ้นอยู่ไกลๆเขา”
“อ้นก็ไม่ได้”อ้นพูดยังไม่ทันจบ
“ไม่ต้องพูด”
อ้นจึงต้องหยุดพูด พอจะพูดถึงเรื่องของเอ จ๊อบต้องห้ามพูดถึง ซึ่งอ้นก็สงสัยอยู่เหมือนกัน และที่น่าสงสัยยิ่งกว่าเดิม เย็นนี้นิสัยจ๊อบได้เปลื่ยนไปอีกครั้ง จนอ้นนั้นตามแท่บไม่ทัน
“ถึงแล้ว ผมส่งคุณตรงนี้นะ คืนนี้รอผมด้วย ผมจะไปหาที่ห้อง”
“ครับ”
อ้นลงจากรถและได้เข้าไปในโรงงานทันที ในระหว่างที่เดินเข้าไป เขาก็เห็นเอนั่งดื่มเหล้าอยู่คนเดียวเหมือนเดิม อ้นหันมามองแวบหนึ่งและหันกลับไปตามเดิม เขาเดินอย่างไม่เหลียวหลังมองเอแม้แต่น้อย ถึงเขาจะรู้สึกสงสารเออยู่บ้าง แต่อ้นก็ไม่สามารถทำอะไรมากไปกว่านี้
เมื่ออ้นมาถึงที่ห้องของเขา ก็เห็นคนงานสามสี่คนรอที่หน้าห้อง อ้นจึงยิ้มให้และพาเข้าไปในห้องช่วยเก็บข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่คนงานจะให้เก็บแต่เสื้อผ้า ส่วนของอื่น
จ๊อบไม่ให้เอาไป
“คุณอ้นบอสสั่งให้เอาแต่เสื้อผ้า พวกของใช้ที่ไม่จำเป็นและใหญ่ๆไม่ต้องเอาไป”คนงานคนหนึ่งพูดขึ้น
“แต่ ทีวี ตู้เย็น พัดลม หม้อหุงข้าว มันราคาแพงอ้นต้องเอาไป อ้นไม่มีเงินซื้อใหม่หรอก”
“คุณอ้นไม่จำเป็นต้องซื้อหรอก เพราะบอสเตรียมไว้ให้หมดแล้ว ใหม่กว่านี้แพงกว่านี้หลายเท่า อ๋อ บอสสั่งไว้ว่าของทุกอย่างที่ไม่เอา แต่ถ้าใช้ได้บอสบอก ให้คุณอ้นเอาให้คนชื่อเอได้เลยครับ”
“บอส”อ้นพึมพำในใจ เพราะอ้นไม่เข้าใจ ว่าจ๊อบในช่วงเวลานี้เขาคิดอะไร อยากทำอะไร เพื่ออะไร ถึงให้เขายกของที่ไม่เอาทุกอย่างให้เอ
“ก็ได้ ยกไปให้หมดเลย ที่พี่คิดว่าบอสไม่ให้เอาไป อ้นจะเก็บแต่เสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวเท่านั้น”อ้นถอนใจหายเฮือกใหญ่
เมื่ออ้นเก็บของส่วนตัวไว้หมดแล้ว เขาจึงเดินนำหน้าคนงานไปยังห้องของเอ เมื่อไปถึงเขาก็เห็นเอที่กำลังนั่งดื่มเหล้าอยู่ พออ้นไปถึง เอถึงกับยิ้มและรีบเดินเข้ามาหาอ้น ก่อนที่อ้นจะเดินมาถึงที่ตัวของเอเสียอีก
“เอ เราเอาพวกทีวี ตู้เย็น มาให้นายนะ”อ้นยิ้มบางๆ
“เอามาให้ทำไม”เอมีสีหน้าที่แปลกใจพอสมควร
“เราจะย้ายไปอยู่ที่อื่น พอดีของพวกนี้ไม่จำเป็นต้องใช้แล้วน่ะ”
“มึงจะซื้อใหม่เหรอของดีๆทั้งนั้นเลย”
“ฮือ”
“มึงจะไปอยู่ไหนล่ะ”
“ยังไม่รู้เลยว่าอยู่ตรงไหนบอสไม่ได้บอกไว้ และเรายังไม่ได้ถามคนขนของเลย”
“ไปอยู่กับบอสเหรอ”
“ไม่ได้ไปอยู่กับบอสแต่บอสหาที่อยู่ให้”
“บอสคงหึงเรา เห็นได้ตูนกับไอ้ตั้มบอก คนของบอสมาสอบถามเรื่องเราสองคน”
“นายรู้ก็ดีแล้ว จะได้ไม่มาทำตัวลุ่มล่ามกับเราอีก”
“มึงหมดรักกูแล้วใช่ไหม ดูท่าทีของมึงเท่าที่ผ่านมาและตอนนี้ มึงเย็นชากับกูมากเหลือเกิน”เอมีสีหน้าที่เศร้าลงอย่างถนัดตา
“ใช่ เราหมดรักนายแล้ว”อ้นรู้สึกใจหายพอสมควร กับคำพูดที่พูดออกไปในครั้งนี้
“แต่กูพึ่งรู้ตัวว่ารักมึงนะ”เอมีสีหน้าที่เว้าวอน
“มันสายเกินไปแล้ว นายเป็นคนทิ้งเราไปเองไม่ใช่เหรอ”
“ตอนนั้นกูยังไม่รู้ใจตัวเอง กูคิดว่าไม่ได้รักมึงนี่”
“แต่คิดอีกทีนายคงไม่ได้รักเราจริงหรอก ถ้าคนรักกันจริงจะหลอกกันทำไม”
“กูยอมรับตอนแรกกูหลอกมึง”
“ก็นั่นแหละ มันไม่ได้เริ่มต้นที่ความรัก พอเถอะไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว เรื่องของเรามันจบลงอย่างสมบูรณ์ เราก็ไปตามทางของเรา นายก็อยู่ตามทางของนาย อย่าลืมนะนายยังมีเจนที่ยังรักนายมาก”
“แต่กูไม่ได้รักมันนี่ กูรักไอ้เจนแบบเพื่อนคนหนึ่ง”
“มันเรื่องของนายไม่ใช่เรื่องของเรา นายต้องไปจัดการเอาเอง อย่าให้ความหวังใคร ทั้งที่ไม่ได้รักเขา เพราะคนที่มีความหวังกับเรา มันเจ็บปวดมากนะ”
“ใช่ เหมือนกูตอนนี้เลย”
“ไม่เหมือน เพราะเราไม่ได้ให้ความหวังกับนาย และหมดรักนายแล้ว”
“อ้น”
“ขอให้โชคดีตามทางของนายนะ เราไปแล้วอย่าได้พบเจอกันอีกเลย เพราะมันมีแต่ความเจ็บปวด”เมื่ออ้นพูดจบเขาก็เดินกลับไปยังที่ห้องของเขา เพื่อเตรียมตัวไปอยู่ที่ใหม่ แต่ใจของเขาก็รู้สึกเศร้าอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
อ้นรู้สึกตื่นตาตื้นใจกับคอนโดที่จ๊อบให้มาอยู่ ในที่แรกอ้นคิดว่าจ๊อบจะหาห้องพักให้ เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อน ว่าจ๊อบจะทำเพื่อเขาขนาดนี้ ความรู้สึกของอ้นตอนนี้ตื้นตันใจอย่างหาที่สุด เป็นความฝันเล็กๆที่เขาอยากมีคอนโด แต่ไม่ใช่คอนโดที่ใหญ่มีสองห้องนอนพร้อมห้องครัว ห้องรับแขก มีอาณาบริเวณที่กว้างใหญ่
“ผมกลับแล้วนะครับ”หัวหน้าคนงานคนหนึ่งพูดขึ้น
“ขอบคุณพวกพี่มากนะครับ”
“ไม่เป็นไรครับคุณอ้น”
เมื่อคนงานกลับไปแล้ว อ้นจึงเริ่มจัดห้องนอนอย่างเร่งรีบ เพื่อที่จะได้เสร็จทันจ๊อบมาหาเขาช่วงกลางคืน ในช่วงเวลานี้อ้นลืมเรื่องราวอื่นๆชั่วขณะ เพราะมัวแต่ปลื้มปริ่มใจกลับคอนโดใหม่
เอนั่งซึมเศร้าเหงาใจอยู่ในห้องแคบๆอย่างเดียวดาย ใจของเอในเวลานี้ทุกข์ระทมขนาดหนัก หลังจากที่อ้นได้จากไปอยู่ที่อื่น ในที่เขาไม่สามารถจะไปหาได้ เขารู้สึกโทษตัวเองที่ไม่น่าหนีอ้นมาจากครานั้น ถ้าวันนั้นเขาอยู่กับอ้น อาจจะไม่มีวันที่เขาทุกข์ระทมขนาดนี้ ในระหว่างที่เอกำลังคิดถึงเรื่องราวที่ผ่านมานั้น แต่เขาก็ต้องหยุดความคิดนั้นทันที เพราะเจนได้เข้ามาหาเออย่างอารมณ์ดี
“เป็นอะไรซึมไปเลย”
“ไม่มีอะไร”
“แน่ใจเหรอ”
“ฮือ”
“นึกว่าเสียใจที่อ้นไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว”
“ไม่เกี่ยวกันมันจะไปอยู่ที่ไหนก็เรื่องของมันไม่เกี่ยวกับกู”
“จริงเหรอ”เจนเข้าไปนั่งใกล้ๆเอ
“ไม่ต้องถาม ไม่ต้องมาเอ่ยชื่อนี้ให้กูได้ยินอีก ต่างคนต่างอยู่แล้วนี่ มึงจะมาตอกย้ำกูอีกทำไม”อ้นหันมามองหน้าเจน
“กูไม่พูดถึงไอ้อ้นก็ได้ เรามาพูดถึงเรื่องของเราดีกว่า”
“เรื่องของเราก็ไม่เห็นมีอะไรนี่”
“ทำไมไม่มีล่ะ”
“เรื่องอะไร”เอมีสีหน้าที่สงสัย
“กูไม่อยากที่จะหลบๆซ่อนๆคบกับมึงแบบนี้อีกแล้ว”
“ถ้าไม่ให้คบแบบนี้จะให้คบแบบไหนล่ะ”เอหันมามองเจน
“มึงรู้ไหมไอ้ตั้มกับไอ้ตูนมันคบกับเพื่อนของไอ้อ้น”
“รู้ แล้วไง”
“แล้วทำไมเราไม่เปิดเผยเรื่องของเราบ้างล่ะ ตอนแรกกูก็ไม่กล้าหรอกนะ แต่กูเห็นไอ้สองคนมันมีความสุขดี กูอิจฉามันกูอยากเป็นแบบมัน กูอยากไปเที่ยวกับมึง อยากทำโน้นทำนี่อีกหลายอย่าง เรามาทำแบบนั้นกันบ้างได้ไหม”
“ทุกวันนี้ก็ทำแบบนั้นได้นี่ไม่ใช่เหรอ”
“นั่นมันแบบเพื่อน แต่กูอยากทำแบบคนรักกันเขาทำกัน”
“กูบอกมึงตั้งกี่รอบแล้วว่ากูไม่ได้รักมึง”
“แต่กูรักมึงมากนะเว้ย มึงก็น่าจะรู้ดีที่สุด กูยอมทำทุกอย่างเพื่อมึงได้นะ”
“ถ้าทำทุกอย่างได้ มึงก็ต้องรับสภาพนี้ให้ได้ ถ้ามึงรับไม่ได้ก็จบกันแค่นี้ กูไม่อยากให้ความหวังกับมึง เพราะกูไม่ได้รักมึงเกินไปกว่าคำว่าเพื่อน”
“แต่กูรักมึงมากว่าคำว่าเพื่อนี่หว่า”
“เรื่องของเราไม่มีทางเป็นไปได้หรอก มึงทำใจและหาคนที่รักมึงดีกว่า กูไม่ใช่คนที่ดีเพียงพอสำหรับมึงหรอก มึงอยู่กับกูก็มีแต่จมปลัก”
“เอ กูทำไมได้หรอก กูอยากอยู่กับมึง”เจนกอดเอไว้แน่น
“ถ้ามึงอยากอยู่กับกูมึงก็ต้องรับความเป็นกูให้ได้”
“กูรับได้ ขอให้มึงอยู่กับกูแบบนี้ก็ได้”ใจของเจนระทมทุกข์ขนาดหนัก
“ก็แค่นั้นแหละ”เอก็รู้สึกสงสารเจน แต่เขาก็ไม่สามารถที่จะให้ตามสิ่งที่เจนต้องการได้
“มึงกอดกูหน่อยได้ไหม หอมแก้มก็ยังดี กูขอแค่นี้ได้ไหมไอ้เอ”เจนพูดขึ้น
“กูทำไม่ได้หรอก”
“สักครั้งได้ไหม กูจะได้มีชีวิตชีวากว่าที่เป็นอยู่ขณะนี้”
“กู เอ่อ”
“เอ กูขอร้องกูอยากได้รับสัมผัสจากมึงบ้าง”
“ก็ได้”
เจนคลายกอดเอออกและมองหน้าอ้นอย่างเศร้าสร้อย เอเพียงเห็นหน้าเจนเขาก็รู้สึกสงสาร เขาจึงค่อยๆยื่นริมฝีปากประกบแก้มเจน และเลื่อนลงมาที่ริมฝีปาก เจนรีบกอดรัดเอไว้แน่น เอจึงดันร่างของเจนออก
“กูทำให้มึงได้แค่นี้แหละ มึงกลับไปเถอะคืนนี้กูอยากอยู่คนเดียว”
“แต่กูอยากอยู่กับมึง”
“มันไม่ได้มีแค่คืนนี้คืนเดียว คืนต่อๆไปก็ยังมี แต่คืนนี้กูรู้สึกว่าไม่สบายกูอยากพักผ่อน”
“ก็ได้ พรุ่งนี้กูจะมาหามึงใหม่”เจนยื่นริมฝีปากสัมผัสที่แก้มของเอเพียงครั้งเดียว หลังจากนั้นเขาก็ลุกขึ้นและเดินจากไปอย่างเดียวดายท่ามกลางความมืด
เมื่อเจนได้ออกจากห้องนอนของเอไปแล้ว ในส่วนตัวของเขาเองก็ล้มนอนลงบนเตียง โดยมือหนึ่งใช้หนุนศีรษะ อีกข้างหนึ่งก่ายหน้าผาก เขาครุ่นคิดทบทวนเรื่องราวต่างๆอีกครั้ง แต่นั่นไม่ได้กระทบกระเทือนจิตใจเขาเท่าไรนัก แต่สิ่งที่ทำให้เอได้สะเทือนใจอย่างหาที่สุด นั่นคือการจากไปของอ้น และความผิดพลาดที่เขาทอดทิ้งอ้นในอดีต จึงเป็นเหตุที่ทำให้เอในสะเทือนใจอย่างหาที่สุดไมได้
ค่ำคืนเดียวดายสุดหรูในคอนโดที่เงียบเหงา อ้นนั่งเหม่อลอยรอคอยจ๊อบกลับมา เขาหวนคิดถึงคะนึงหาเรื่องราวในอดีตที่ผ่านมา อ้นครุ่นคิดทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้น ต่อจากนี้เขาจะยอมรับผลของการเลือกทางเดินของตัวเอง อ้นพร้อมรับรักและเป็นของจ๊อบทั้งกายและใจ ทว่าเขาก็ไม่สามารถคาดเดาในอนาคตได้ ต่อจากนี้อะไรจะเกิดขึ้น ถึงกระนั้นอ้นก็ไม่สนใจอีกต่อไป เขาขอแค่อยู่กับปัจจุบันให้มีความสุขแค่นั้นเป็นพอ ในขณะที่อ้นกำลังคิดอะไรเพลินๆจ๊อบก็เดินเข้ามายังห้องนอนของอ้น “ชอบไหม”จ๊อบมีสีหน้าที่นิ่งเฉย “ชอบครับ แต่มันคงแพงมาก อ้นว่ามันมากไปสำหรับอ้นน่ะ” “ไม่หรอก สำหรับคนที่ผมรัก และทำให้ผมเจ็บ”จ๊อบนั่งลงข้างๆอ้น “นี่เอกสาร ถ้าอ้นเซ็นคอนโดนี่ก็เป็นคนอ้นทันที”จ๊อบยื่นเอกสารให้อ้น “ไม่เอาหรอกครับ ขอแค่อ้นได้อยู่ก็พอใจแล้ว และอีกอย่างอ้นทำให้บอสเจ็บ คงไม่เหมาะที่จะรับของบอสหรอกครับ”อ้นหันหน้าไปทางอื่นด้วยความน้อยใจ “ไม่ได้ ห้ามปฏิเสธ อ้นจำเป็นต้องมีสมบัติติดตัวด้วย และนี่คือกุญแจรถ”จ๊อบยื่นให้อ้น แต่ของทั้งสองชิ้นอ้นปฏิเสธหมด “ถ้าอ้นไม่เอาเราเลิกกัน”จ๊อบวางเอกสารไว้บนหัวเตียง “ทุกวันนี้ก็เหมือนเลิกก
อ้นได้ย้ายมาอยู่ที่คอนโดของจ๊อบแฟนหนุ่มที่มั่งคั่ง ในช่วงเวลาที่อยู่กันหลายเดือนอ้นก็มีความสุขสบายอย่างที่ใจเขาต้องการ ยามว่างอ้นก็ไปร้านอ้นคาเฟ่ ที่ขายกาแฟและเครื่องดื่มพร้อมกับเบเกอรี่ ที่จ๊อบแฟนหนุ่มเจ้าของบริษัทบีเอ็มรีไซเคิลเป็นคนเปิดให้ สองสามวันมานี้จ๊อบแฟนหนุ่มของเขาไม่ได้มาหา เพราะมีลูกค้ามาจากต่างประเทศเขาจึงต้องไปพบปะพูดคุยกับลูกค้า ในค่ำคืนนี้อ้นจึงรู้สึกเหงาๆ ในระหว่างที่อ้นกำลังนั่งดูซีรี่ที่เขาชอบอยู่นั้น ก็ได้มีเสียงกริ่งดังขึ้น อ้นจึงเดินออกไปส่องดูและเขาก็แน่ใจว่าไม่รู้จัก แต่อ้นก็ใจกล้าเปิดออกมา เพราะอยากรู้ว่าคนที่มาหานั้นเป็นใคร มีธุระจนมาเกือบจะมืดค่ำอยู่แล้ว พออ้นเปิดประตูออกแค่นั้น สาววัยกลางคนก็เดินเข้ามาในห้องของเขาทันที เมื่อมาถึงก็ไม่มีความเกรงใจเดินมองไปรอบๆห้อง “คุณเป็นใครเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาต”อ้นเดินตามติดทุกฝีก้าวที่ทั้งสองเดินไปมา “ฉันต้องถามเธอมากกว่ามั้งว่าเป็นใคร”สาววัยกลางจ้องหน้าของอ้นอย่างกับกินเลือดกิ นเนื้อ “ทำไมต้องถามผม ผมต่างหากต้องถามคุณ ที่นี่มันคอนโดของผม คุณต่างหากที่บุกรุกเข้ามาในที่ส่วนบุคคล”
อ้นรีบมาที่หลายอ้นคาเฟ่แต่เช้า เพราะมีมือดีมาพ่นสีที่หน้าร้าน ด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย จนผู้คนที่เดินผ่านมาผ่านไปต้องหันมามอง และข้อสำคัญลูกค้าประจำเมื่อมาถึง แล้วเห็นคำพ่นด่าและกองอุจาระคน ที่วางอยู่หน้าประตูร้าน จึงทำให้ลูกค้าเหล่านั้นต่างแยกย้ายหนีหายไปกันหมด เมื่ออ้นมาถึงร้านของเขา อ้นถึงกับตกใจและเกิดความกลัว เพราะในข้อความนั้นเขียนถ้อยคำที่หยาบคาย อีอ้นขายตัว ไร้ยางอาย หน้าหนา ถ้ามึงยังไม่เลิกยุ่งกับผัวกู กูจะตามรังควานมึงไม่เลิก “พี่อ้น หนูมาถึงก็เป็นแบบนี้แล้ว เราจะทำอย่างไรดีล่ะ”พนักงานสาวคนหนึ่งพูดขึ้น “ปิดร้านสักพัก เรื่องเงินเดือนเดี๋ยวพี่จะจ่ายตามเดิมนะไม่ต้องห่วงหรอก” “ใครกันทำหนูอยากรู้จริงๆ” “พี่ก็ไม่รู้หรอก พี่ดูในกล้องมันปิดหน้าขับมอเตอร์ไซค์มา เห็นหน้าไม่ชัด เลยแต่พี่แจ้งความไว้แล้ว” “เอ้า นั่นใครมา”พนักงานสาวคนเดิมพูดขึ้น “ว่าไงจ๊ะ อ้น ใครช่างกล้ามาเขียนเรื่องจริง อุ๊ย เรื่องไม่จริงได้นี่”บี้เลขาของจ๊อบแฟนหนุ่มของอ้นเดินเข้ามาใกล้ๆอ้น “ก็สงสัยใครช่างกล้าทำ”อ้นนั่งนิ่งๆ “ที่มานี่ไม่ได้มาเพราะเป
อ้นมองหน้าเอด้วยความโกรธที่เขามาพูดจาไม่ดี และข่มขู่เขาซึ่งอ้นก็ไม่เข้าใจว่าเอจะแค้นเคืองเขาอะไรหนักหนา ในเมื่อจุดเริ่มต้นเอไปฝ่ายทิ้งเขาไปก่อน และเมื่อเจอกันอีกครั้งก่อนหน้านี้ ก็เป็นเรื่องปกติที่อ้นเลือกคนอื่น เพราะในเมื่อเอทำให้เขาเจ็บตั้งแต่แรก “นายนี่มันหมาบ้ากัดไปเรื่อย เรื่องของเรามันจบไปนานแล้ว” “กูไม่จบ” “ไม่จบอะไร”เจนรีบเดินมาถามเมื่อเห็นสองคนคุยกันนานพอสมควร “เรื่องรถ ไม่มีอะไรหรอก”เอพูดขึ้น “ก็ไม่เห็นมีอะไรนี่ ก็แค่เรียกประกันมาแค่นั้นก็จบ จะมายืนคุยอะไรกันให้มากความ เดี๋ยวพวกเราต้องไปซื้อของกันอีกไม่ใช่เหรอ ตอนเย็นก็ต้องไปหาไอ้ตั้มกับไอ้ตูน” “ฮือ ตามนั้น”เอจำในพยักหน้าให้เจน “ใช่ นายจะมาพูดเรื่องไร้สาระอะไรให้มากความ”อ้นมองปราดเดียวทั้งสองคน เมื่อทุกอย่างจบอ้นก็รีบไปโรงพยาบาล เพราะศีรษะของเขาเริ่มคล้ำเขียวจากการโดนกระแทก หลังจากหาหมอเสร็จเขาก็รีบกลับมาที่ห้องในทันที หลายวันต่อมาอ้นไม่ได้ออกไปไหน เพราะเขายังเจ็บรอยซ้ำที่ศีรษะ และเหตุการณ์ในครั้งนี้เขาก็ไม่ได้บอกใครแม้แต่คนเดียว รวมทั้งจ๊อบแฟนหนุ่มของเขา เพราะอ้
การกลับบ้านของอ้นในครั้งนี้ เขาไมได้ขับรถกลับเพราะยังไม่สามารถทำใจได้ เพราะก่อนหน้านี้ที่เขาโดนรถชน และมีคนมาขู่อาฆาตเขา อ้นจึงตัดสินใจขึ้นรถประจำทางมา เพื่อความปลอดภัยกับตัวเอง เมื่อรถประจำทางมาถึงที่ขนส่ง เพียงอ้นลงจากรถแค่นั้นวินมอเตอร์ไซค์ก็เข้ามาหาอ้นทันที “ไปไหนครับ” อ้นจึงบอกที่อยู่ที่เขาจะไปและตกลงราคากัน อ้นจึงตัดสินใจไปกับวินมอเตอร์ไซค์หนุ่ม ที่รุ่นเดียวกับเขาแต่พูดจาไพเราะ เขาจึงรู้สึกไว้ใจและคาดว่าน่าจะไม่เกิดอะไรขึ้นกับเขา เมื่อวินเตอร์ไซค์ขับมาถึงกลางทางบ้านของเขา วินมอเตอร์ไซค์ก็เปลื่ยนทิศทางทันที อ้นผิดสังเกตจึงบอกให้วินมอเตอร์ไซค์จอดรถ แต่ไม่เป็นผลเพราะวินมอเตอร์ไซค์ขับเร็วยิ่งขึ้นกว่าเดิม “จอดรถเดี๋ยวนี้ นายจะพาเราไปที่ไหน” ไร้เสียงตอบกลับจากวินมอเตอร์ไซค์ อ้นเกิดความกลัวและคิดไม่ตกว่าจะทำเช่นไร เพราะหลายเหตุการณ์ที่ผ่านมานั้นทำให้เขาคิดไปต่างๆนาๆ “ถ้านายไม่จอดรถเราจะกระโดดลงแล้วนะ”อ้นขู่ไปอย่างงั้นเพราะอย่างไงเขาก็ไม่กล้าที่จะกระโดดลงรถอย่างแน่นอน อ้นพลันคิดได้เขาจึงหยิบมือถือออกมา พร้อมที่จะโทรขอความช่วยเหลือ วินมอเตอร์ไซค
เอเดินทางกลับมายังบ้านของเขาซึ่งปลูกห่างจากบ้านพ่อแม่ของเขาพอสมควร ส่วนกระท่อมน้อยปลายไร่นั้นไกลจากบ้านเขาไม่มากนัก ที่เขาไม่พักที่เดียวกับอ้น เพราะเขาแค้นเคืองอ้นที่ไม่รับรักเขา จึงอยากที่จะแกล้งสักระยะหลังจากนั้นจะปล่อยอ้นไป เพราะเอนั้นรู้ข่าวจากตั้มและตูนเพื่อนของเขาที่เป็นแฟนซันและซีเพื่อนของอ้น ว่าอ้นจะกลับบ้านเวลาไหนและนั่นเป็นเหตุให้เอได้มาช่วยอ้นได้ทันเวลา แต่เขาก็ยังแปลกใจไม่หายใครที่จ้องทำร้ายอ้น ซึ่งเอเป็นห่วงอ้นมากเขาจึงจะพยายามหาคนร้ายที่อยู่ข้างหลังให้ได้ โดยมีตั้มตูนและซันซีร่วมด้วยช่วยอยู่เบื้องหลัง เหตุการณ์ที่อ้นได้มาอยู่กับเอทั้งสี่คนก็รู้ ยกเว้นแต่จีจี้ที่ซันและซีไม่ยอมบอก เพราะจีจี้ไม่ค่อยชอบเออย่างมาก เมื่อเอมาถึงบ้านของเขาก็เห็นเจนนั่งรอเขาอยู่ในบ้าน เพราะเจนสามารถเข้านอกออกในบ้านของอ้นได้ตามต้องการ เพราะเอนั้นไม่สามารถที่จะห้ามเจนมาหาเขาได้ เพื่อตัดปัญหาเอจึงให้กุญแจบ้านกับเจนไว้อย่างถาวรเลย “ไปไหนมากลับมาซะมืดค่ำเลย”เจนถามทันทีที่เอเข้ามาภายในบ้าน “ไปทำธุระ”เอนั่งลงบนโซฟาเก่าๆในห้องโถงขนาดเล็ก “ธุระที่ไหน” “กูจะไปไหนมาไหนต้อง
อ้นมาในชุดเตรียมพร้อม กางเกงขายาวเสื้อลายดอกแขนยาวพร้อมหมวก รองบูทส่วนมือก็สวมถึงมือ และอุปกรณ์ใส่ข้าวโพดสะพายด้านหลัง อ้นรู้สึกหนักและเหนื่อยที่เดินมาที่ไร่ แต่เอก็ไม่มีท่าทีสงสารอ้นแม้แต่น้อย “หักข้าวโพดเดี๋ยวนี้จนกว่าจะถึงเที่ยง”เอออกคำสั่งเสียงดัง “ทำไมใจร้ายกับเราอย่างนี้เราไปทำอะไรให้นายเจ็บซ้ำน้ำใจ” “ก็กูรักมึงแต่มึงไม่รักกู เป็นอัลไซเมอร์หรือไง แต่ก็ไม่เป็นไรก็จะย้ำกับมึงทุกๆวัน” “ย้ำไปถึงชาติหน้าเลย เราไม่มีวันรักคนที่ทำร้ายเราหรอก” “ไม่เชื่อคอยดูก็แล้วกัน แต่ตอนนี้มึงหักข้าวโพดก่อน” เอจำใจทำตามอ้นอย่างเสียมิได้ ถึงแม้อ้นจะไม่ค่อยได้ทำงานหนักมาก่อน แต่เขาก็สามารถที่จะหักข้าวโพดได้ เพราะพื้นเพของอ้นแค่พอมีพอใช้ไม่ได้ถึงกับรวยมาก แต่ถ้าให้อ้นเลือกเขาก็อยากทำงานที่สบายไม่ต้องออกแรงขนาดนี้ “เก็บให้มันเร็วๆหน่อยซิ ทำเป็นมือไม้อ่อนกูไม่ใช้บอสนะ จะมาอ่อยโน้นนี่ทำไม่ไหว ฝันไปเถอะว่ากูจะสงสารมึง ถ้ายังไม่เที่ยงไม่ต้องกินข้าว” “แค่นี้ก็เร็วแล้ว จะเอาเร็วแค่ไหน” “มันต้องทำอย่างนี้”เอทำให้ดูและเขาก็เดินหักข้าวโพดนำหน้าอ้นไป
อ้นวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต ในช่วงเวลานี้เขาไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่า ตัวของเขาจะรอดจากความเลวร้ายนี้ได้อย่างไร มีแต่เพียงวิ่งหนีไปให้ไกล ซึ่งเส้นทางที่อ้นวิ่งเข้าไปนั้นเริ่มลึกเข้าไปในป่าทืบ ถึงกระนั้นอ้นก็ยอมหันหลังไปมอง ถึงแม้คนร้ายที่วิ่งติดตามอ้นจะหยุดอยู่บริเวณรอบนอกของป่าแล้ว เพราะทั้งสามไม่กล้าเข้าไป และมีความคิดที่จะดักรออ้นอยู่ตรงนี้ เนื่องหนึ่งในสามเป็นคนในพื้นที่ เขาจึงรู้ดีว่าป่าแห่งนี้ถ้าไม่ชำนาญพื้นที่ เมื่อเข้าไปแล้วจึงหาทางออกยากมาก ด้วยความเมื่อยล้าอ้นจึงหยุดวิ่งและหันไปมองด้านหลัง ซึ่งอ้นก็ไม่เห็นใครเขาจึงนั่งลงพักเหนื่อย ด้วยความที่ในป่ามีความเงียบเกินเขาจึงเกิดความกลัวขึ้นกะทันหัน ในจิตใจของอ้นเวลานี้หวั่นเกรงกลัวทุกอย่าง เขาพยายามมองไปรอบๆซึ่งมีแต่ป่า และเสียงไหวๆของต้นไม้ที่โอนเอนตามแรงลม พร้อมเสียงสัตว์นานาชนิดที่อ้นได้ฟังถึงกับขนลุก เขาจึงรู้สึกกลัว พออ้นได้มีเวลาพัก เขาจึงเกิดความคิดที่จะไปจากป่าแห่งนี้ แต่เขาไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นเดินไปทางไหน อ้นจึงได้แต่นั่งนิ่งๆอยู่ที่เดิม เพื่อรอใครสักคนผ่านเข้ามาทางนี้ แต่ยังไร้วี่แววด้วยแสงอาทิตย์เริ่มอ่อนแรงล