ช่วงเย็นที่เงียบเหงาสำหรับเอ เพราะตั้มและตูนได้หายไปจากชีวิตของเอมาหลายวัน เพราะช่วงเวลานี้ตั้มและตูนกำลังติดพันซันและซีเพื่อนของอ้น ส่วนเจนงานยุ่งจนต้องทำโอที จึงไม่มีเวลามาเอช่วงค่ำ เขาจึงนั่นดื่มเบียร์อยู่หน้าห้องอย่างเดียวดาย ช่วงแรกยังมีคนงานเดินผ่านมาผ่านไป พอเริ่มค่ำคนงานเริ่มเข้าห้องใครห้องมัน จึงเหลือเพียงแต่เอที่นั่งเหม่อมองท้องฟ้าที่มีแต่ดวงดาวลอยระยิบระยับ แต่ก็ไม่สามารถทำลายความเหงาในใจของเอได้ เอนั้นดื่มเบียร์ขวดต่อขวดจนเมา เขาแค่พยุงตัวได้ไปได้แค่ที่ประตู พอควักกุญแจออกมาไขประตูแค่นั้น เขาก็ทำล่วงล่นและอาเจียนเต็มหน้าห้อง หลังจากนั้นเขาก็นอนฟุบอยู่หน้าห้อง
อ้นกำลังจะเดินกลับเข้าห้อง หลังจากไปดูงานกับจ๊อบจนได้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกัน จ๊อบนั้นจะมาส่งอ้นแค่ที่หน้าโรงงานเท่านั้น ความจริงเขาอยากจะมาส่งอ้นในโรงงานด้วยซ้ำ แต่ด้วยความเป็นนายจ้างกับลูกจ้าง จึงต้องเว้นระยะห่างไว้กันคำครหา เพราะในปัจจุบันหลายคนต่างมองอ้นกับจ๊อบในแง่ไม่ดีอยู่พอสมควร
เมื่ออ้นเดินมาถึงหน้าห้องของเอ เขาก็เห็นเอนอนนิ่งอยู่หน้าห้อง อ้นตกใจมากและเป็นห่วงจึงรีบเข้าไปดู ซึ่งสิ่งที่อ้นเห็นคือเศษอาหารเต็มตัวของเอ และบริเวณหน้าห้องพร้อมกลิ่นเหล้าฟุ้งจนอ้นต้องเบี่ยงหน้าหนี แต่เขาก็อดใจสงสารเอไม่ได้ อ้นจึงหยิบกุญแจที่ล่วงล่นอยู่ไขประตูแล้วเปิดออก หลังจากนั้นเขาก็พยุงร่างของเอเข้าไปในห้อง และพาไปไว้บนที่นอนที่แสนเก่าและยับยู่ยี่พอสมควร
อ้นยืนมองเอด้วยความสมเพชและเวทนา แต่ถึงอย่างไรความผูกพันที่เคยมีกันมา อ้นจึงไม่สามรถที่จะปล่อยให้เอนอนอยู่หน้าห้องได้ อ้นยืนนิ่งมองเอชั่วครู่หลังจากนั้นอ้นก็ไปที่หน้าห้อง เพื่อทำความสะอาดเศษอาหารที่อาเจียนออกมาจนสะอาด แล้วอ้นจึงไปนำกะละมังน้อยๆที่คราบดำติดเต็มไปหมด อ้นพยายามหาผ้าเช็ดตัวผืนน้อยก็ไม่มี เขาจึงเอาเสื้อยืดเก่าๆของเอมาชุบน้ำเพื่อเช็ดตัวเอ
กว่าที่อ้นจะถอดเสื้อของเอได้นั้นแสนลำบาก เพราะตอนนี้เอได้ตัวหนาขึ้นด้วยเพราะทำงานหนัก จึงมีมัดกล้ามซึ่งแตกต่างแต่ก่อนอย่างมาก อ้นยังจำภาพเก่าครั้งอดีตได้อย่างไม่ลืมเลือน แต่เขาก็ไม่สนใจที่จะคิดถึงมันอีกแล้ว จนมาวันนี้ที่เขาได้เจอเอในสภาพที่ไม่แตกต่างจากครั้งในอดีต ทำให้เขาอดคิดถึงภาพเก่าๆที่ผ่านมาไม่ได้
เอเช็ดตัวท่อนบนร่างกายของเอจนสะอาด หลังจากนั้นเขาก็ห่มผ้าให้เอและกำลังจะออกจากห้อง แต่เอดึงมือไว้แต่ตาของเขายังไม่ลืม
“ใครน่ะ เจนเหรอ”
“ฮือ”อ้นแกล้งรับคำเป็นเจน
“อมให้หน่อย”เอดึงแขนของอ้นจนล้มทับร่างของเขา
สิ่งที่อ้นตกใจไม่ใช่ที่เอดึงเขาจนล้มทับร่าง แต่เป็นคำพูดที่ทำให้อ้นตกใจอย่างหนัก เพราะคนที่เอพูดถึงคือเจน เพื่อนรักของเอนั่นเอง
“ปล่อยนะ เราไม่ใช่เจน”อ้นลุกขึ้นยืน เพราะเอได้ปล่อยมือที่จับแขนอ้นไว้
“แล้วใคร”เอลืมตาขึ้น คนที่อยู่ตรงหน้าเขานั้นก็คืออ้น เอตกใจอย่างมากเขาลุกขึ้นนั่งทันที
“อ้นมาไง”เอก้มหน้าไม่ยอมสบตาของอ้น
“ก็นายเมาเหมือนหมาอยู่หน้าห้องนั่นไง เราเห็นอดเวทนาไม่ได้เลยพามาที่ห้อง”เมื่ออ้นพูดจบก็หันหน้าไปทางอื่น
“เหรอ ใครบอกให้ช่วย ทำไมไม่ปล่อยกูอยู่อย่างนั้นล่ะ”
“นายนี่มันเลวเกินคนจริงๆ เราอุตส่าห์ช่วยแทนที่จะขอบใจสักคำก็ไม่มี”
“ไม่จำเป็น”
“พูดมาได้ไม่จำเป็น คนอย่างนายไม่น่าเกิดมาเลย เกิดมาก็รกโลก”
“มันจะมากไปแล้วนะอ้น เห็นเราไม่ทำอะไรเข้าหน่อยด่าเราอยู่นั่นแหละ”
“เราก็ไม่ได้อยากยุ่งกับนายหรอก เพราะเรื่องของเรามันจบไปนานแล้ว ที่เรามาช่วยเพราะมนุษยธรรมมากว่า”
“เหรอ แต่ถ้ากูไม่จบล่ะ”เมื่อเอพูดจบเขาก็จับร่างของอ้นดึงมาไว้กอดไว้ และม้วนตัวให้อ้นนอนราบกับเตียงส่วนตัวเขาก็ทับร่างของอ้นไว้
“ปล่อยนะ นายจะทำอะไร”
“ทำอย่างที่เราเคยทำกันนั่นแหละ”
“เรื่องของเรามันจบไปนานแล้ว ปล่อยนะเอเราอุตส่าห์ช่วยนาน จะมาทำแบบนี้กับเราไมได้เด็ดขาด”
“ทำไมจะทำไม่ได้”เอก้มลงจูบปากอ้น
อ้นพยายามดิ้นเพื่อให้หลุดพ้นจากเงื้อมมือของเอ และอ้นพยายามใช้แรงที่มีอยู่ดันร่างผลักเอแต่ไม่เป็นผล เมื่อเอหยุดจูบปากของอ้นและมาไซร้ซอกคอ อ้นจึงถือโอกาสนี่ผงกศีรษะขึ้นและกัดที่บ่าของเอ
“โอ๊ย”เอหยุดการกระทำทุกอย่าง
อ้นมีโอกาสจึงผลักร่างของเอพลิกล่วงล่นเตียง จังหวะหนีของอ้นมีมาพอดี เขาจึงรีบลงจากเตียงและกำลังจะวิ่งออกไป เอลุกขึ้นคว้าเอวของอ้นไว้ และพรหมจูบที่ซอกคอ อ้นจึงใช้เท้าตัวเองกระทืบเท้าของเอ จนเอต้องปล่อยร่างของอ้น
“เพลี้ยะ เพลี้ยะ เพลี้ยะ”อ้นตบหน้าของเอด้วยความโมโห
“เราไม่ใช่เจนจะมาทำอะไรกับเราแบบนี้ไม่ได้”อ้นรีบไปหยิบขวดเบียร์มาถือไว้
“ถ้านายเข้ามาเราฟาดทันที”
“นายใจร้ายกับเรามากเลยนะอ้น”
“นายนั่นแหละใจร้ายกับเรามากว่า แล้วที่นายจะมาทำกับเราแบบนี้ไม่ใช่เรื่องที่ควรทำไหม นายก็มีเจนอยู่แล้วนี่ ควรที่จะซื่อสัตย์กับเพื่อนหรือแฟนดี”
“มันไม่ใช่อย่างที่อ้นคิดเลย เรากับเจนไม่ได้มีอะไรกันขนาดนั้น”
“ไม่ได้มีอะไรกันนี่นะ บอกให้อมไอ้นั่นให้กัน”อ้นมองเอด้วยสายตาหลากหลายอารมณ์
“เราไม่ได้รักเจนเลย แค่เผลอมีอะไรกันไปแค่นั้นเอง”
“ดีหนอ เผลอตลอดเลย”
“จริงเราเผลอกับเจน แต่เราพึ่งรู้ตัวว่ารักอ้นนะ”
“โกหก”
“เพลี้ยะ”อ้นตบหน้าเออีกครั้ง
“ตบอีกเลยตบให้หนำใจเลย”เอยื่นหน้าให้อ้นได้ตบ
“เสียแรงเปล่าที่ตบนาย เราไปแล้วไม่อยากคุยกับคนไร้ค่าอย่างนาย”อ้นหันหลังกลับเพื่อที่จะออกจากห้อง
“กูมีเรื่องขอร้องมึงสักเรื่องได้ไหม”
“เรื่องอะไร”
“อย่าบอกเรื่องกูกับเจนให้คนอื่นได้รู้ได้ไหม”
“ได้ แต่นายต้อง”อ้นหันมามองหน้าเอ
“ต้องอะไร”เอถาม
“ห้ามมายุ่งกับเราอีก เราขอแค่นี้แหละ”
“ได้ กูจะไม่ยุ่งกับมึงแต่จะให้กูเลิกรักมึงไมได้หรอก”
“เรื่องนั้นมันเรื่องของนายไม่เกี่ยวกับเรา ถ้าอยากรักเราข้างเดียวก็รักไป”อ้นยิ้มที่มุมปากและเดินจากไป แต่ใจของเขาก็เริ่มหวั่นไหวอยู่ไม่น้อย
เมื่ออ้นได้เดินจากไปเอก็นั่งลงครุ่นคิด ถึงความรู้สึกที่แท้จริงของเขาที่มีต่ออ้น มันเป็นรู้สึกที่ทั้งรักและหวงในเวลาเดียวกัน เขาก็ไม่คาดคิดว่าจะมารักอ้นได้ เพราะไม่ได้เจอกันตั้งสองปี ช่วงที่อยู่ด้วยกันเอก็ไม่ได้มีความรู้สึกเช่นนั้น แต่ในเวลานี้ทำไมเอจึงรู้สึกรักอ้นขึ้นมาได้ เขาก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน
“ก๊อก ก๊อก ก๊อก”ไอ้เอเปิดประตูหน่อย
“เอ่อ”เอเดินไปเปิดประตูซึ่งตั้มและตูนยืนอยู่หน้าห้อง
“มีอะไรว่ะเข้ามาก่อน”เอพูดขึ้น
“ไม่เข้าหรอก แค่อยากถามว่าอ้นเข้ามาหานายทำไม”ตั้มถาม
“เปล่าไม่ได้เข้ามา”
“ไม่ได้เข้าอะไรก็เห็นเมื่อกี้ออกไปอยู่นี่ ไอ้นี่โกหกไม่เนียนเลย”ตูนพูดขึ้น
“ไม่มีอะไรหรอก พอดีกูเมานอนฟุบอยู่หน้าห้องเขาก็พากูเข้าห้องนั่นแหละ แค่นั้นจริงๆไม่มีอะไรเลย”
“ก็ดีแล้ว”
“ทำไม อะไร มันก็ดีอยู่แล้วซิ”
“มึงอย่าไปยุ่งกับอ้นเลย ซันกับซีบอกว่าอ้นเป็นเด็กโปรดบอสเชียว พึ่งกลับมาจากไปดูงานด้วยกัน ได้ข่าวบอสบอกรักอ้นด้วย จีจี้เพื่อนสาวของอ้นเล่าให้ซันกับซีฟัง สองคนนั้นก็มาเล่าให้กูฟังต่อ มึงรู้แล้วเหยียบไว้นะอย่าพูดไป”ตูนพูด
“แล้วไง กูไม่ได้สนใจอ้นตั้งแต่ตอนเรียน ตอนนี้ก็ไม่มีอะไร แค่คุยด้วยเพราะรู้จักกันแค่นั้นแหละ”
“ถ้าคิดได้อย่างนั้นก็ดี”ตั้มพูดขึ้นมา
“ไม่ต้องมาพูดเรื่องของกูเลย ว่าแต่พวกมึงเหอะหนีกูไปเที่ยวกับคนอื่น ทิ้งให้กูอยู่คนเดียว”
“คนอื่นที่ไหน”ตั้มพูด
“ก็ไอ้ซันไอ้ซีอะไรของมึงนั่นแหละ ถ้าไม่ใช่คนอื่นแล้วเป็นอะไร อย่าบอกนะว่ามึงสองคนกับไอ้ซันไอ้ซีมีอะไรกันแล้ว”อ้นมีสีหน้าที่สงสัย
“ก็ประมาณนั้นแหละ กูมีอะไรก็บอกมึงตรงๆ กูไม่อายหรอก ไม่ใช่มึงนี่ชอบปิดบังจนเสียเขาไป ตอนนี้มานั่งเสียใจเสียดายคนดีๆ”ตั้มพูดประชดจนเอหน้าชา
“กูจะนอนแล้วแค่นี้แหละ”เอปิดประตูใส่หน้าเพื่อนของเขาทั้งสองคน เพราะตั้มและตูนนั้นพูดแทงใจดำอย่างเจ็บแสบที่สุด
เอเดินเข้าไปในห้องด้วยความโมโห เขาจึงเตะพัดลมกระเด็นแยกชิ้นส่วนกระจัดกระจาย หลังจากนั้นเขาก็นั่งลงบนเตียงนอน ใช้มือคุมปิดหน้าก้มลงด้วยความกลัดกลุ้มใจ
เมื่ออ้นมาถึงห้องเขาก็เอาเสื้อผ้าออกจากกระเป๋า และเตรียมตัวจะอาบน้ำ แต่ได้ยินเสียงเคาะประตูซะก่อน เขาจึงเดินออกไปเปิดประตูดู และคนที่อยู่ตรงหน้าเขาคือเจน
“มีอะไร”
“เข้าไปคุยในห้องได้ไหม”
“ไม่ได้ เราไม่ไว้ใจนายพวกเดียวกับเอนี่ คืนนั้นนายยังจะต่อยเราอยู่เลย”
“ก็ได้ คุยตรงนี้ก็ได้”
“มีอะไรว่ามา”
“อย่ามายุ่งกับเออีก”เจนมองอ้นด้วยสายตาที่ดุดัน
“เราไม่เคยยุ่ง เอต่างหากที่มายุ่งกับเรา”อ้นใช้สายตาที่เย็นชาใส่เจน
“โกหก ก็กูเห็นมึงออกมาจากห้องของไอ้เอมัน”เจนกำลังจะมาหาเออยู่พอดีและเดินตามหลังตั้มกับตูนมา แต่สองคนนั้นไม่รู้ว่าตัวว่าเจนตามมา
“เอเขาเมาหลับอยู่หน้าห้องเราเลยพาเอเข้าห้องก็แค่นั้น”
“กูไม่เชื่อ คนเคยมีอะไรกันมันก็ต้องมีบ้างนั่นแหละ”
“อย่าเอาการกระทำของนายมาตัดสินเรา”อ้นเชิดหน้าขึ้น
“การกระทำอะไร”เจนมีสีหน้ามึนงง
“ก็นายกับเอมีอะไรกันแล้วไม่ใช่เหรอ”อ้นอมยิ้ม
“หุบปากเลยนะไอ้อ้น ขืนมึงพูดอีกกูจะต่อยปากมึง”เจนกำหมัดแน่น
“กล้าก็ต่อยซิ”
“ถือว่าเป็นเด็กบอส ถ้ามึงพูดเรื่องกูกับไอ้เอ หรือไปยุ่งกับไอ้เอ กูจะบอสว่ามึงมีอะไรกับไอ้เอมาก่อน”
“อยากบอกก็บอกไปซิ ทุกคนล้วนมีอดีตรวมทั้งนายด้วยนั่นแหละ”
“ไม่ใช่อดีตแต่ปัจจุบันมึงกับไอ้เอก็มีอะไรกัน อาจจะมีหรือไม่มีก็ได้ แต่บอสก็ต้องข้องใจอยู่เหมือนกัน”
“มันเกี่ยวอะไรกับบอสล่ะ”
“ได้ข่าวว่าบอสบอกรักมึงไม่ใช่เหรอ กูบอกให้คนอื่นได้รู้ ถึงจะตกงานแต่ก็คุ้ม เพราะงานไม่ได้มีที่เดียว แต่มึงนั่นแหละจะโดนอะไรบ้างก็ยังไม่รู้”
“นายรู้ได้ไง”อ้นมีสีหน้าที่ตกใจ
“ไม่ต้องรู้หรอกว่ารู้ได้ไง”เจนแอบได้ยินตั้มกับตูนคุยกับเอเมื่อครู่ที่ผ่านมา เขาแอบอยู่ตรงซอกมุมจึงไม่มีใครเห็น
“เอาแบบนี้เราไม่ยุ่งเรื่องของกันและกัน มึงก็อยู่กับบอสของมึงไป ถ้ามึงเลือกไอ้เอกูขอบอกว่ามึงโง่สิ้นดี อยู่กับบอสสบายใช้ชีวิตหรูๆไปดีกว่า ไม่ต้องมายุ่งกับไอ้เอที่ไม่มีอะไรสักอย่าง”
“ก็ได้ เราไม่ยุ่งกัน แต่นายก็ต้องห้ามเอมายุ่งกับเรา นายก็รู้ดีอย่าหึงจนหน้ามืดตามัวว่าเอต่างหากที่มายุ่งกับเราเอง”
“ไม่ต้องห่วง กูจัดการไอ้เอเอง มึงก็อยู่ของมึงไป กูกับไอ้เอก็จะอยู่ในที่ของกู จบป่ะ”
“โอเค”
“กูไปแล้ว”
เมื่อเจนเดินจากไป อ้นก็ปิดประตูและเดินกลับเขาห้อง อ้นนั่งครุ่นคิดเรื่องราวที่เจนพูดเมื่อครู่สักพัก หลังจากนั้นอ้นก็เข้าห้องน้ำเพื่อชำระร่างกาย ด้วยความคิดหลากหลายจนเกิดความกลัดกลุ้มขึ้นมา
หลายวันมานี้เอนั้นกลุ้มใจกลัดกลุ้มไฟรักสุมทรวง เขาไม่สามารถตัดใจห้ามให้คิดถึงคะนึงหาอ้นได้ ถึงแม้จะมีเจนอยู่เคียงข้างทุกค่ำคืน รสรักและความสัมพันธ์ฉันเพื่อนก็ไม่สามารถมัดใจเอได้ แต่เขาก็ไม่ได้ทำร้ายจิตใจเจนจนเกินไป ยังให้เจนกอดหอมทำอะไรก็ได้ตามที่เจนต้องการ แต่ถ้าจะให้รับรักเจนนั้นเอไม่สามารถที่จะทำเช่นนั้นได้เลย คืนนี้ก็ตามเดิมที่เอได้มานั่งดื่มคนเดียวอย่างเหงาใจ เพราะเจนกว่าจะมาก็ดึกพอสมควร ส่วนตั้มกับตูนนั้นแท่บหายไปจากชีวิตของเอทีเดียว เพราะกำลังคลั่งรักกับซันและซี เป็นสองคู่ชู้ชื่นที่สุขสมไร้อุปสรรคใดมาขวางกั้น ในระหว่างที่อ้นกำลังจะเดินเข้าไปยังห้องพัก หลังจากจ๊อบมาส่ง เมื่อไปพบลูกค้าที่มาจากต่างประเทศ “ไม่ทักกันเลยนะ”เอตะโกนเสียงดังจนอ้นตัองหันมามอง แต่อ้นไม่สนเดินหน้าต่อไป “เดี๋ยวก่อน”เอลุกขึ้นวิ่งไปจับแขนอ้นไว้ “ปล่อยนะ”อ้นแกะมือของเอให้หลุดออก แต่ไม่สามารถทำได้ในเวลาอันสั้น “เดี๋ยวนี้ถูกเนื้อถูกตัวไม่ได้เลยนะ” “ใช่ เรามีแฟนแล้ว นายจะมาทำตัวแบบนี้ไม่ได้” “บอสเหรอ ยินดีด้วยนะ หนูตกถึงข้าวสาร” “เอ หยุดสักทีเถอะ” “ทำไมต้องหยุด” “ถ้าไม่หยุดนายอาจจะไ
วันนี้อ้นก็มาทำงานแต่เช้าตามเดิม แต่สิ่งที่แปลกไปเพราะจ๊อบได้กลับมาทำงานที่ออฟฟิค โดยมีเลขนุการคนใหม่เฝ้าอยู่หน้าห้อง ส่วนจิ๊บนั้นก็เป็นเทรนเนอร์อยู่ไม่ห่างกายบี้เลขนุการคนใหม่ ในระหว่างที่อ้นทำงานอยู่นั้นบี้เลขาคนใหม่ของจ๊อบก็เดินมาหา พร้อมด้วยสายตาที่เหยียดสุด มองอ้นตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า “นี่เธอ บอสให้เอางานมาให้เธอทำ หวังว่าคงจะเสร็จทันก่อนห้าโมงเย็นนะ บอสสั่งมา”บี้เอาวางไว้บนโต๊ะ “ครับ” “นี่เหรอ เลขาคนเก่า” “ครับ” “ไม่แปลกใจที่โดนปลด ลดตำแหน่ง”บี้ใช้สายตาชำเลืองมองอ้นแล้วเชิดหน้าขึ้น ต่อจากนั้นบี้ก็เดินจากไป นั่งเฝ้าหน้าห้องของจ๊อบตามเดิม “ร้ายเนาะเลขาคนใหม่”วีณาเพื่อนสาวหันมามองอ้น “อย่าพูดไป”นฤมลใช้มือจุ๊ที่ปาก “ปล่อยเขาไปเถอะ เราก็ทำงานของเราไป”อ้นพูดขึ้น “จร้า”วีณาทำเสียงประชด อ้นตั้งหน้าตั้งตาทำงานอย่างต่อเนื่อง เพราะต้องทำให้เสร็จภายในห้าโมงเย็น อ้นก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม ต้องบังคับกันขนาดนี้ ขนาดเมื่อวานยังให้เวลาจนกว่าจะทำเสร็จ อ้นจึงไม่สนใจสิ่งรอบข้าง รีบเร่งทำงานอย่างต่อเนื่องและให้รวดเร็ว ทันความต้องการของจ๊อบ ที่วันนี้นิสัยเปลื่ยน
ค่ำคืนเดียวดายสุดหรูในคอนโดที่เงียบเหงา อ้นนั่งเหม่อลอยรอคอยจ๊อบกลับมา เขาหวนคิดถึงคะนึงหาเรื่องราวในอดีตที่ผ่านมา อ้นครุ่นคิดทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้น ต่อจากนี้เขาจะยอมรับผลของการเลือกทางเดินของตัวเอง อ้นพร้อมรับรักและเป็นของจ๊อบทั้งกายและใจ ทว่าเขาก็ไม่สามารถคาดเดาในอนาคตได้ ต่อจากนี้อะไรจะเกิดขึ้น ถึงกระนั้นอ้นก็ไม่สนใจอีกต่อไป เขาขอแค่อยู่กับปัจจุบันให้มีความสุขแค่นั้นเป็นพอ ในขณะที่อ้นกำลังคิดอะไรเพลินๆจ๊อบก็เดินเข้ามายังห้องนอนของอ้น “ชอบไหม”จ๊อบมีสีหน้าที่นิ่งเฉย “ชอบครับ แต่มันคงแพงมาก อ้นว่ามันมากไปสำหรับอ้นน่ะ” “ไม่หรอก สำหรับคนที่ผมรัก และทำให้ผมเจ็บ”จ๊อบนั่งลงข้างๆอ้น “นี่เอกสาร ถ้าอ้นเซ็นคอนโดนี่ก็เป็นคนอ้นทันที”จ๊อบยื่นเอกสารให้อ้น “ไม่เอาหรอกครับ ขอแค่อ้นได้อยู่ก็พอใจแล้ว และอีกอย่างอ้นทำให้บอสเจ็บ คงไม่เหมาะที่จะรับของบอสหรอกครับ”อ้นหันหน้าไปทางอื่นด้วยความน้อยใจ “ไม่ได้ ห้ามปฏิเสธ อ้นจำเป็นต้องมีสมบัติติดตัวด้วย และนี่คือกุญแจรถ”จ๊อบยื่นให้อ้น แต่ของทั้งสองชิ้นอ้นปฏิเสธหมด “ถ้าอ้นไม่เอาเราเลิกกัน”จ๊อบวางเอกสารไว้บนหัวเตียง “ทุกวันนี้ก็เหมือนเลิกก
อ้นได้ย้ายมาอยู่ที่คอนโดของจ๊อบแฟนหนุ่มที่มั่งคั่ง ในช่วงเวลาที่อยู่กันหลายเดือนอ้นก็มีความสุขสบายอย่างที่ใจเขาต้องการ ยามว่างอ้นก็ไปร้านอ้นคาเฟ่ ที่ขายกาแฟและเครื่องดื่มพร้อมกับเบเกอรี่ ที่จ๊อบแฟนหนุ่มเจ้าของบริษัทบีเอ็มรีไซเคิลเป็นคนเปิดให้ สองสามวันมานี้จ๊อบแฟนหนุ่มของเขาไม่ได้มาหา เพราะมีลูกค้ามาจากต่างประเทศเขาจึงต้องไปพบปะพูดคุยกับลูกค้า ในค่ำคืนนี้อ้นจึงรู้สึกเหงาๆ ในระหว่างที่อ้นกำลังนั่งดูซีรี่ที่เขาชอบอยู่นั้น ก็ได้มีเสียงกริ่งดังขึ้น อ้นจึงเดินออกไปส่องดูและเขาก็แน่ใจว่าไม่รู้จัก แต่อ้นก็ใจกล้าเปิดออกมา เพราะอยากรู้ว่าคนที่มาหานั้นเป็นใคร มีธุระจนมาเกือบจะมืดค่ำอยู่แล้ว พออ้นเปิดประตูออกแค่นั้น สาววัยกลางคนก็เดินเข้ามาในห้องของเขาทันที เมื่อมาถึงก็ไม่มีความเกรงใจเดินมองไปรอบๆห้อง “คุณเป็นใครเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาต”อ้นเดินตามติดทุกฝีก้าวที่ทั้งสองเดินไปมา “ฉันต้องถามเธอมากกว่ามั้งว่าเป็นใคร”สาววัยกลางจ้องหน้าของอ้นอย่างกับกินเลือดกิ นเนื้อ “ทำไมต้องถามผม ผมต่างหากต้องถามคุณ ที่นี่มันคอนโดของผม คุณต่างหากที่บุกรุกเข้ามาในที่ส่วนบุคคล”
อ้นรีบมาที่หลายอ้นคาเฟ่แต่เช้า เพราะมีมือดีมาพ่นสีที่หน้าร้าน ด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย จนผู้คนที่เดินผ่านมาผ่านไปต้องหันมามอง และข้อสำคัญลูกค้าประจำเมื่อมาถึง แล้วเห็นคำพ่นด่าและกองอุจาระคน ที่วางอยู่หน้าประตูร้าน จึงทำให้ลูกค้าเหล่านั้นต่างแยกย้ายหนีหายไปกันหมด เมื่ออ้นมาถึงร้านของเขา อ้นถึงกับตกใจและเกิดความกลัว เพราะในข้อความนั้นเขียนถ้อยคำที่หยาบคาย อีอ้นขายตัว ไร้ยางอาย หน้าหนา ถ้ามึงยังไม่เลิกยุ่งกับผัวกู กูจะตามรังควานมึงไม่เลิก “พี่อ้น หนูมาถึงก็เป็นแบบนี้แล้ว เราจะทำอย่างไรดีล่ะ”พนักงานสาวคนหนึ่งพูดขึ้น “ปิดร้านสักพัก เรื่องเงินเดือนเดี๋ยวพี่จะจ่ายตามเดิมนะไม่ต้องห่วงหรอก” “ใครกันทำหนูอยากรู้จริงๆ” “พี่ก็ไม่รู้หรอก พี่ดูในกล้องมันปิดหน้าขับมอเตอร์ไซค์มา เห็นหน้าไม่ชัด เลยแต่พี่แจ้งความไว้แล้ว” “เอ้า นั่นใครมา”พนักงานสาวคนเดิมพูดขึ้น “ว่าไงจ๊ะ อ้น ใครช่างกล้ามาเขียนเรื่องจริง อุ๊ย เรื่องไม่จริงได้นี่”บี้เลขาของจ๊อบแฟนหนุ่มของอ้นเดินเข้ามาใกล้ๆอ้น “ก็สงสัยใครช่างกล้าทำ”อ้นนั่งนิ่งๆ “ที่มานี่ไม่ได้มาเพราะเป
อ้นมองหน้าเอด้วยความโกรธที่เขามาพูดจาไม่ดี และข่มขู่เขาซึ่งอ้นก็ไม่เข้าใจว่าเอจะแค้นเคืองเขาอะไรหนักหนา ในเมื่อจุดเริ่มต้นเอไปฝ่ายทิ้งเขาไปก่อน และเมื่อเจอกันอีกครั้งก่อนหน้านี้ ก็เป็นเรื่องปกติที่อ้นเลือกคนอื่น เพราะในเมื่อเอทำให้เขาเจ็บตั้งแต่แรก “นายนี่มันหมาบ้ากัดไปเรื่อย เรื่องของเรามันจบไปนานแล้ว” “กูไม่จบ” “ไม่จบอะไร”เจนรีบเดินมาถามเมื่อเห็นสองคนคุยกันนานพอสมควร “เรื่องรถ ไม่มีอะไรหรอก”เอพูดขึ้น “ก็ไม่เห็นมีอะไรนี่ ก็แค่เรียกประกันมาแค่นั้นก็จบ จะมายืนคุยอะไรกันให้มากความ เดี๋ยวพวกเราต้องไปซื้อของกันอีกไม่ใช่เหรอ ตอนเย็นก็ต้องไปหาไอ้ตั้มกับไอ้ตูน” “ฮือ ตามนั้น”เอจำในพยักหน้าให้เจน “ใช่ นายจะมาพูดเรื่องไร้สาระอะไรให้มากความ”อ้นมองปราดเดียวทั้งสองคน เมื่อทุกอย่างจบอ้นก็รีบไปโรงพยาบาล เพราะศีรษะของเขาเริ่มคล้ำเขียวจากการโดนกระแทก หลังจากหาหมอเสร็จเขาก็รีบกลับมาที่ห้องในทันที หลายวันต่อมาอ้นไม่ได้ออกไปไหน เพราะเขายังเจ็บรอยซ้ำที่ศีรษะ และเหตุการณ์ในครั้งนี้เขาก็ไม่ได้บอกใครแม้แต่คนเดียว รวมทั้งจ๊อบแฟนหนุ่มของเขา เพราะอ้
การกลับบ้านของอ้นในครั้งนี้ เขาไมได้ขับรถกลับเพราะยังไม่สามารถทำใจได้ เพราะก่อนหน้านี้ที่เขาโดนรถชน และมีคนมาขู่อาฆาตเขา อ้นจึงตัดสินใจขึ้นรถประจำทางมา เพื่อความปลอดภัยกับตัวเอง เมื่อรถประจำทางมาถึงที่ขนส่ง เพียงอ้นลงจากรถแค่นั้นวินมอเตอร์ไซค์ก็เข้ามาหาอ้นทันที “ไปไหนครับ” อ้นจึงบอกที่อยู่ที่เขาจะไปและตกลงราคากัน อ้นจึงตัดสินใจไปกับวินมอเตอร์ไซค์หนุ่ม ที่รุ่นเดียวกับเขาแต่พูดจาไพเราะ เขาจึงรู้สึกไว้ใจและคาดว่าน่าจะไม่เกิดอะไรขึ้นกับเขา เมื่อวินเตอร์ไซค์ขับมาถึงกลางทางบ้านของเขา วินมอเตอร์ไซค์ก็เปลื่ยนทิศทางทันที อ้นผิดสังเกตจึงบอกให้วินมอเตอร์ไซค์จอดรถ แต่ไม่เป็นผลเพราะวินมอเตอร์ไซค์ขับเร็วยิ่งขึ้นกว่าเดิม “จอดรถเดี๋ยวนี้ นายจะพาเราไปที่ไหน” ไร้เสียงตอบกลับจากวินมอเตอร์ไซค์ อ้นเกิดความกลัวและคิดไม่ตกว่าจะทำเช่นไร เพราะหลายเหตุการณ์ที่ผ่านมานั้นทำให้เขาคิดไปต่างๆนาๆ “ถ้านายไม่จอดรถเราจะกระโดดลงแล้วนะ”อ้นขู่ไปอย่างงั้นเพราะอย่างไงเขาก็ไม่กล้าที่จะกระโดดลงรถอย่างแน่นอน อ้นพลันคิดได้เขาจึงหยิบมือถือออกมา พร้อมที่จะโทรขอความช่วยเหลือ วินมอเตอร์ไซค
เอเดินทางกลับมายังบ้านของเขาซึ่งปลูกห่างจากบ้านพ่อแม่ของเขาพอสมควร ส่วนกระท่อมน้อยปลายไร่นั้นไกลจากบ้านเขาไม่มากนัก ที่เขาไม่พักที่เดียวกับอ้น เพราะเขาแค้นเคืองอ้นที่ไม่รับรักเขา จึงอยากที่จะแกล้งสักระยะหลังจากนั้นจะปล่อยอ้นไป เพราะเอนั้นรู้ข่าวจากตั้มและตูนเพื่อนของเขาที่เป็นแฟนซันและซีเพื่อนของอ้น ว่าอ้นจะกลับบ้านเวลาไหนและนั่นเป็นเหตุให้เอได้มาช่วยอ้นได้ทันเวลา แต่เขาก็ยังแปลกใจไม่หายใครที่จ้องทำร้ายอ้น ซึ่งเอเป็นห่วงอ้นมากเขาจึงจะพยายามหาคนร้ายที่อยู่ข้างหลังให้ได้ โดยมีตั้มตูนและซันซีร่วมด้วยช่วยอยู่เบื้องหลัง เหตุการณ์ที่อ้นได้มาอยู่กับเอทั้งสี่คนก็รู้ ยกเว้นแต่จีจี้ที่ซันและซีไม่ยอมบอก เพราะจีจี้ไม่ค่อยชอบเออย่างมาก เมื่อเอมาถึงบ้านของเขาก็เห็นเจนนั่งรอเขาอยู่ในบ้าน เพราะเจนสามารถเข้านอกออกในบ้านของอ้นได้ตามต้องการ เพราะเอนั้นไม่สามารถที่จะห้ามเจนมาหาเขาได้ เพื่อตัดปัญหาเอจึงให้กุญแจบ้านกับเจนไว้อย่างถาวรเลย “ไปไหนมากลับมาซะมืดค่ำเลย”เจนถามทันทีที่เอเข้ามาภายในบ้าน “ไปทำธุระ”เอนั่งลงบนโซฟาเก่าๆในห้องโถงขนาดเล็ก “ธุระที่ไหน” “กูจะไปไหนมาไหนต้อง