อ้นรีบมาทำงานแต่เช้าเพื่อเตรียมงาน ให้บอสของเขาที่บอกว่าตัวเองไม่เรื่องเยอะ แต่พฤติกรรมนั้นตรงข้ามกับคำพูดอย่างสิ้นเชิง เมื่ออ้นมาถึงออฟฟิคในโรงงานบีเอ็มรีไซเคิล เขารีบจัดแจงเรียงแฟ้มเอกสารเข้าชั้นอย่างเร่งรีบ และเปิดคอมพิวเตอร์ทิ้งไว้เพื่อให้บอสได้ทำงานได้ในทันที ตามคำบอกกล่าวของจิ๊บเลขาคนเก่า หลังจากที่อ้นทำงานเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาจึงออกมานั่งที่หน้าห้องรอการมาของบอส
ซึ่งอ้นก็รอได้ไม่นานบอสคนใหม่ของเขาก็มาถึง เมื่อบอสเดินผ่านมาเขาก็หันมามองอ้นไม่กี่วิแล้วหันหน้ากลับเดินเข้าห้องไป ปล่อยให้อ้นไม่ทันได้ยิ้มแม้แต่นิด อ้นจึงไม่รอช้าเดินตามเข้าไปในห้องทันที
“บอสดื่มกาแฟกี่ช้อนครับ”เมื่อวานอ้นลืมถามจิ๊บว่าบอสดื่มกาแฟกี่ช้อน เขาเลยไม่กล้าชงให้บอสได้ดื่ม
“สามช้อนไม่ต้องใส่อะไรทั้งนั้น”จ๊อบบอสของอ้นยังมีสีหน้าที่นิ่งเฉย
“ครับ”
อ้นจึงรีบไปชงกาแฟตามที่จ๊อบต้องการ เพราะตอนนี้จ๊อบได้เปิดดูเอกสารการผลิตในคอมพิวเตอร์ เมื่ออ้นชงเสร็จจึงรีบนำมาให้บอสทันที ด้วยความประหม่าและเกร็งในความนิ่งของจ๊อบ อ้นถือถ้วยกาแฟที่สั่นจนเสียงดัง
“แก็ก แก็ก แก็ก”
เมื่อจ๊อบได้ยินเสียงถ้วยกาแฟสั่น เขาจึงหันหน้ามามองอ้นทันที ส่วนอ้นก็ยืนนิ่งอยู่ข้างๆจ๊อบ ใจของอ้นตอนนี้เต้นระรัวด้วยความกลัว และได้สบตาจ๊อบที่หล่อสูงเนี้ยบทุกกระเบียดนิ้ว ถึงแม้อายุจะสามสิบแล้วก็ยังดูดีในสายตาของอ้น ซึ่งแก่กว่าอ้นร่วมสิบปีเพราะอ้นพึ่งยี่สิบต้นๆ
“กาแฟจะให้ผมดื่มหรือคุณจะดื่มอ้น”จ๊อบพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
“ให้บอสดื่มครับ”อ้นยังยืนนิ่งถือกาแฟอยู่ไม่ยอมวางลงบนโต๊ะ
“ให้ผมดื่มก็ว่างไว้สิ เรื่องแค่นี้ต้องให้บอก ต่อไปถ้าทำงานกับผมไม่ต้องบอกทุกเรื่องเหรอ”
“ครับ”อ้นวางถ้วยกาแฟไว้ข้างมือของจ๊อบ
“ก็แค่นี้แหละ เดี๋ยวตามผมไปดูงานในโรงงาน เตรียมเอกสารให้พร้อมด้วย และอย่าลืมเตรียมอุปกรณ์จดบันทึกข้อมูลทุกอย่าง”
จ๊อบดื่มกาแฟรวดเดียวหมดถ้วยและเปิดแฟ้มดูนิดหน่อย ส่วนอ้นก็รีบเตรียมเอกสารอย่างรีบเร่งจนเสร็จ เมื่อเขาเห็นจ๊อบลุกขึ้นกำลังจะเดินออกจากห้อง อ้นจึงรีบหยิบเอกสารและวิ่งตามจ๊อบไปอย่างรวดเร็ว
“ทำอะไรชักช้าอย่างนี้จะไปทันกินอะไร”จ๊อบพูดขึ้นทันทีที่อ้นวิ่งตามมาทันเขา
“ขอโทษครับบอส”
“คำว่าขอโทษ อย่าใช้บอสจนเกินไป ไม่มีประโยชน์อะไร”
“ครับบอส”อ้นรับคำ
จ๊อบเดินมาในส่วนของรับซื้อวัสุดรีไซเคิล ซึ่งจะเป็นโลหะทั้งหมด ก็จะมีเหล็ก สแตนเลส อลูมิเนียม สังกะสี เมื่อเขามาถึงก็ได้เข้าไปพูดคุยกับผู้จัดการโรงงาน ส่วนอ้นนั้นคิดว่าจดไม่ทันแน่ๆเขาเลยใช้โทรศัพท์มือถือบันทึกเสียง โดยที่จ๊อบไม่รู้เรื่องเพราะคุยกับผู้จัดการโรงงานอยู่ อ้นจึงมีเวลามองไปรอบๆโรงงาน ซึ่งคนงานทั้งหมดจะเป็นผู้ชาย
ในระหว่างที่อ้นกำลังมองไปรอบๆนั้นเขาก็ต้องสะดุดกับชายหนุ่มคนหนึ่ง ที่กำลังเดินเข้ามาทางอ้น ซึ่งยิ่งชายหนุ่มเดินเข้ามาใกล้มากเท่าไร อ้นยิ่งคุ้นหน้ามากเท่านั้นจนชายหนุ่มคนนั้น เดินมาเกือบจะถึงตรงที่อ้นยืนอยู่ หลังจากนั้นอ้นหมดคลายสงสัยในทันที เพราะคนที่เดินมายืนตรงหน้าเขา ไม่ใช่ใครที่ไหนเพราะเป็นอดีตคนเคยรู้จัก
“เอ”อ้นพูดในใจ
ในส่วนของเอนั้นมีสีหน้าที่นิ่งเฉย แต่เขาก็จำได้ในทันทีชายหนุ่มที่ยืนหลังบอส ก็คืออ้นคนเคยรู้จักกันเมื่อสองปีที่แล้ว แต่เอก็ทำเป็นไม่รู้จักและหันไปพูดกับผู้จัดการโรงงานทันที
“ผู้จัดการครับลูกค้าที่นัดไว้มาแล้วครับ”
“บอกให้รอก่อนนะเดี๋ยวไปหา”
“ครับ”เมื่อเอพูดจบเขาก็หันหลังเดินกลับไป โดยที่ไม่สนใจอ้นแม้แต่น้อย ในส่วนของอ้นนั้นก็ไม่ได้สนเอเหมือนกัน แต่เขาก็ยังอดแปลกใจในโชคชะตาไม่ได้ ที่ทำไมต้องให้กลับมาเจอกันอีกครั้ง
“ไปคุยกับลูกค้าก่อนเถอะ เดี๋ยวผมจะไปดูที่อื่นอีก”จ๊อบพูดขึ้นและหันหลังเดินจากไปในทันที อ้นจึงรีบเดินตามไปอย่างกระชั้นชิด
ช่วงครึ่งเช้าจ๊อบได้เดินสำรวจโรงงานสามสี่ทีจนเกือบเที่ยง หลังจากนั้นเขาก็ออกไปข้างนอก แต่ก็ยังไม่วายสั่งให้อ้นทำรายงาน ว่าภายในครึ่งวันเขาทำอะไรไปบ้าง พูดกับใครเรื่องอะไรมีเป้าหมายจะทำอะไรต่อ หลังจากพบปะพนักงานระดับสูงเกือบครบทุกคน
เมื่อถึงเวลาเที่ยงวัน อ้นจึงรีบมารับประทานอาหารที่ร้านค้าในโรงงาน ที่มีพนักงานชายล้วนนับร้อยกระจัดกระจายนั่งกินข้าวกันเป็นกลุ่ม ในส่วนของอ้นนั้นยังไม่คุ้นเคย เขาจึงเดินมองร้านอาหารไปเรื่อยๆจนไม่ได้มองทาง จนทำให้เขาเดินชนกับชายหนุ่ม
“อุ๊ย ขอโทษไม่ได้ตั้งใจ”อ้นหันหน้ามามองคนที่เขาชนทันที ซึ่งอ้นถึงกับชะงักงันด้วยความตกใจ
“โลกกลมดีหนอ”เอพูดขึ้น เพราะเขาก็จำได้ว่าเป็นอ้น
“โลกเบี้ยวมากกว่า ที่ต้องมาเจอคนอย่างนาย”
“เจอคนอย่างกูแล้วเป็นไง หรือว่าทำให้มึงอดคิดถึงอดีตไม่ได้เหรอ”
“ลืมไปหมดแล้วอดีตเฮงซวย ขอตัวก่อนไม่ชอบคุยกับคนแปลกหน้า”อ้นรีบเดินจากไปในทันที
อ้นเดินอย่างเร่งรีบเพื่อหลบหลีกไม่อยากเห็นหน้าเอ เขาจึงเลือกซื้อข้าวราดแกงร้านสุดท้าย และซื้อน้ำดื่ม หลังจากนั้นเดินไปหลบมุมกินให้ไกลผู้คน เพียงอ้นนั่งกินข้าวไม่นานก็มีสองหนุ่มเดินมานั่งด้วย
“ขอนั่งด้วยคนได้ไหม”เอคนเคยสนิทพูดขึ้นพร้อมกับตั้มเพื่อนของเขาในสมัยเรียนเทคโน
“ที่อื่นมีตั้งเยอะทำไมไม่นั่ง มานั่งตรงนี้ทำไม”
“ลองมองดูซิว่ามีที่นั่งไหม ไม่ได้สักแต่พูด”เอพูดขึ้นพร้อมนั่งลงตรงหน้าอ้น ส่วนตั้มก็นั่งข้างๆเอ
อ้นมองไปรอบๆซึ่งก็เป็นจริงอย่างที่เอว่า ไม่มีที่ว่างหลงเหลืออยู่เลย แต่ละโต๊ะเต็มทุกตัวเหลือเพียงตัวที่เขานั่ง แต่อ้นก็ไม่พูดอะไรต่อได้แต่นั่งกินข้าวอย่างเร่งรีบ
“รู้จักกันด้วยเหรอ”ตั้มพูดขึ้น เพราะเขาก็คุ้นๆหน้าของอ้นเหมือนกัน
“รู้จักดีเลยแหละ เคยอยู่ห้องเดียวกัน เคยนอนด้วยกัน”เอจ้องมองหน้าอ้น
“เฮ้ย จำได้แล้ว น้องอ้นของมึงนี่หว่า”ตั้มพูดขึ้นด้วยความประหลาดใจ
“เดี๋ยวนี้เรียกอ้นไม่ได้แล้วนะ ต้องเรียกเลขาอ้นบอสคนใหม่เชียวนะ”เอพูดไปพลางกินข้าวไป
“ว้าว ไปไกลกว่ามึงอีกนะไอ้เอ มึงมาทำงานสองปียังเป็นแค่พนักงงานคุมเครื่องจักร”ตั้มหัวเราะร่วน
“ไอ้ตั้ม มึงเพื่อนกูหรือเพื่อนมันวะ”
“เมื่อก่อนเพื่อนมึง แต่เดี๋ยวนี้อยากเป็นเพื่อนอ้น”ตั้มยิ้มให้อ้น
อ้นก็ยิ้มตอบตั้มอย่างยินดี และหันไปมองหน้าเอแวบหนึ่งแล้วหันกลับมากินข้าวตามเดิม โดยมีท่าทีไม่สนในเอแต่อย่างใด แต่ในใจลึกๆก็หวนคิดถึงอดีตที่เคยอยู่ด้วยกันไม่กี่วัน แต่เป็นไม่กี่วันที่อ้นไม่มีวันลืม
“มึงอยากเป็นเพื่อนกับเขาแต่เขาอยากเป็นเพื่อนกับมึงหรือเปล่า”เอพูดขึ้น
“อยากสิ ชื่ออะไรจำไม่ได้แล้ว”อ้นพูด
“ตั้มครับ ยินดีที่รู้จักอีกครั้ง”ตั้มยิ้มกว้าง
“เช่นกันครับ”
ในส่วนของเอนั้นในอดีตเขาคิดไม่ได้รักอ้นแต่อย่างใด ถึงแม้ในอดีตจะมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งเกินเพื่อน แต่เขาก็รู้สึกไม่ดีที่อ้นนั้น ยินดีที่รับไม่ตรีจากตั้ม ต่างจากเขาที่ทำหมางเมินอย่างไม่เหลือใย
“ที่หายไปสองปีนี่ไปทำอะไรมา ถึงมาเป็นเลขาบอสคนใหม่ได้”ตั้มถาม
“ก็ไปเรียนหนังสือมาจนจบปริญญา”อ้นหันมามองเอที่กำลังก้มหน้าก้มตากินข้าว ด้วยท่าทีไม่สนใจอ้นแต่ในใจนั้นอยากรู้
“พอเรียนจบก็ได้มาทำงานที่นี่”อ้นพูดด้วยความมั่นใจ
“ที่นี่เลยเหรอ”
“เปล่า ทำที่สำนักงานใหญ่บีเอ็มนี่แหละ พอดีบอสคนใหม่เขาอยากมาดูงานที่นี่ ก็เลยได้ตามาด้วยนี่แหละ”
“อ้นเก่งจังเลย”ตั้มพูดขึ้น
“เก่งแต่พูดหรือเปล่า”เอพูดขึ้นด้วยความริษยาตั้ม ที่อ้นคุยดีด้วยอย่างเป็นกันเอง
“เก่งไม่เก่งไม่รู้ แต่ที่รู้แน่ๆไม่เคยหลอกหลวงใคร”
“พูดแบบนี้มึงว่าใคร”เอเริ่มโมโห
“พูดขึ้นลอยๆ แต่ถ้ามันไปลอยบนหัวใครก็ขอโทษด้วยก็แล้วกัน”
“ไอ้อ้นเดี๋ยวนี้มึงปากเก่งดีจัง ระวังจะไม่มีปากไว้ประจบบอสหรอก”
“เราไม่เคยประจบบอส เราไม่เคยพูดคำหวานเอาตัวเข้าแลกเพื่อผลประโยชน์”
“ใครเหรออ้น”ตั้มถาม
“ก็คนแถวนี้แหละ”
“มึงเหรอเอ”ตั้มหันมาถาม เพราะแถวนี้มีอยู่สองคนตั้มก็เลยคิดว่าเป็นเอ
“โง่ให้หลอกเองนี่”
“ใช่ เมื่อก่อนเราโง่แต่เดี๋ยวนี้ฉลาดแล้ว รับรองจะไม่ให้มีใครมาหลอกซ้ำสอง”
“พอๆเถอะ เรื่องอดีตพูดถึงทำไม มาพูดเรื่องปัจจุบันดีกว่า”ตั้มพูดขึ้นและหันหน้ามามองอ้น ด้วยสายตาที่พึงพอใจไม่น้อย
“พวกมึงอยู่ที่นี่กันเอง กูหาไม่เจอเลย”ตูนเพื่อนสมัยเรียนเทคโนอีกคนของเอ เดินถือจานข้าวพร้อมน้ำขวดมายืนตรงโต๊ะ
“เขยิบไปหน่อยสุดหล่อขอนั่งด้วยคน”ตูนหันมาพูดกับอ้น ส่วนอ้นก็เขยิบตัวเพื่อให้ตูนได้นั่ง
“ขอบใจมากนะ เรารู้จักกันหรือเปล่าเนี้ยหน้าคุ้นๆ”ตูนนั่งลงข้างๆอ้น
“จำไม่ได้เหรอน้องอ้นไง”ตั้มเอ่ยขึ้น
“อ้นไหนวะ”
“อ้าวก็อ้นคนที่เอพักอยู่ด้วยไง”
“เอ่อ จำได้แล้ว”ตูนหันมายิ้มให้อ้น ด้วยสายตาที่เป็นมิตร
“ทักทายกันพอหรือยัง รีบๆกินเข้าจะได้ไปทำงาน”เอรู้สึกไม่สบอารมณ์ที่เพื่อนๆของเขาที่ท่าทีสนใจในตัวของอ้น
“ไอ้เอมึงเป็นอะไรของมึง เจอเพื่อนเก่าแทนที่จะดีใจ ทำเป็นแสดงพูดโน้นพูดนี่ ใช่ไหมอ้น”ตูนยิ้มจนเห็นไรฟัน
“ฮือ”อ้นยิ้มและพยักหน้าเพราะเขาก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร
“พวกมึงเป็นเพื่อนกูนะเว้ย ทำไมเห็นคนอื่นดีกว่ากูได้อย่างไง”เอมองตั้มแล้วมามองตูน
“เราอิ่มแล้วขอตัวก่อนนะ ไม่อยากเห็นใครบางคนคลั่ง ไปแล้วนะ”เมื่ออ้นพูดจบก็ลุกขึ้นเดินออกไปทันที
“มึงเป็นอะไรของมึงไอ้เอ ก็ไอ้อ้นเพื่อนร่วมห้องของมึงไม่ใช่เหรอ จะพูดจากับมันดีๆหน่อยไม่ได้หรือไง”ตูนมองหน้าเอด้วยสีหน้าไม่เข้าใจ
“แหม คนมันเคยมีเรื่องคาใจกัน”ตั้มพูดขึ้น
“เรื่องอะไร”
“จำไม่ได้เหรอที่ไอ้อ้นมันโพสต์รูปคู่กับไอ้เอลงโซเซียล ไอ้เอเลยโมโหมันเลยหนีออกจากห้อง โดยมีไอ้เจนพาหนีว่ะ”ตั้มหัวเราะ
“อ๋อ ใช่ๆจำได้แล้ว ก็เรื่องมันตั้งนานแล้วนี่ ดูไอ้อ้นมันก็ไม่ได้ติดใจอะไรแล้วนี่หว่า”
“ติดใจหรือไม่ติดใจกูก็ไม่รู้หรอก เพราะเรื่องนี้เขารู้กันแค่สองคน ว่าแต่เกิดอะไรขึ้นบ้างระหว่างมึงสองคนว่ะ”ตั้มพูด
“พวกมึงสองคนหุบปากได้แล้ว มึงอยากรู้ไปทำไมเรื่องของคนอื่น รำคาญเห็นคนอื่นดีกว่าเพื่อน”เอมีสีหน้าที่ไม่พอใจ
“ไม่พูดเรื่องไอ้อ้นก็ได้ มาพูดเรื่องไอ้เจนกันดีกว่า มันเรียนจบแล้วนี่ เห็นว่าจะมาสมัครงานที่นี่ด้วย”ตูนเพื่อนสนิทของเจนพูดขึ้นพร้อมกินข้าวไปด้วย
“เหรอวะ”
เอนั้นตั้งแต่จากกันวันที่เจนไปส่งที่บ้าน เขาก็ติดต่อทางโซเซียลกับเจนสักพัก หลังจากนั้นเอก็ไม่ได้ติดต่อเจนอีกเลย ส่วนเจนก็ยุ่งกับการเรียนแล้วก็ห่างๆกันไป แต่เอยังจำได้อยู่ว่า คืนนั้นเจนแอบลักหลับเขา เมื่อครั้งในอดีตตอนที่เขาเมา ตอนที่เจนพาเขาหนีอ้นออกมาจากห้องพัก แต่เอก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก ได้แต่ปล่อยผ่านและทำเป็นลืมเรื่องที่เกิดขึ้น
ทั้งสามหนุ่มนั่งกินข้าวกันสักพัก หลังจากนั้นก็รีบไปเตรียมตัวทำงานรอบบ่าย ซึ่งมีเพียงแต่เอเท่านั้น ที่รู้สึกแปลกๆหลังจากเจออ้นอีกครั้ง แต่เขาก็พยายามที่จะไม่คิดอะไร แต่ก็ห้ามความคิดนั้นไม่ได้ เพราะอดีตที่ทั้งสองเคยมีเรื่องราวต่อกัน มันยากที่จะทำใจให้ลืมและนิ่งเฉยได้เมื่อกลับมาเจอกันอีกครั้ง
เมื่ออ้นมาถึงที่หน้าห้องทำงาน เขาก็รีบถอดคำพูดของจ๊อบที่ได้พูดคุยตกลง กับฝ่ายต่างๆในโรงงานเมื่อตอนเช้า แต่เขาก็ยังทำไม่ทันเสร็จ จ๊อบก็เดินผ่านมาและหยุดอยู่ตรงหน้าเขา
“เอาข้อมูลที่จดบันทึกไว้ทำเป็นรายงานส่งผมด้วย”
“ครับ”
“เอาด่วน”เมื่อจ๊อบพูดจบก็เข้าไปนั่งห้องทันที
ในส่วนของอ้นก็เร่งถอดคำพูดจนกินเวลานานเกินไป จ๊อบจึงเรียกเข้าไปในห้อง เพราะเขาต้องการดูข้อมูลว่าวันนี้พูดอะไรทำอะไรและสั่งงานใครไว้บ้าง เมื่ออ้นได้ยินเสียงเรียกเขาจึงรีบเข้าไปหาทันที
“เขียนรายงานเสร็จหรือยัง”
“ยังครับ”
“ทำไมทำงานช้าจัง ก็แค่ลอกจากที่จดพิมพ์ออกมา มัวทำอะไรอยู่ถึงได้ชักช้า”จ๊อบมีน้ำเสียงที่ไม่ค่อยพอใจ
“คือผมต้องถอดคำพูดจากมือถือครับ”
“ง่ายดีหนอ คุณไม่ใช่นักข่าวที่ไปสัมภาษณ์คนดังแล้วอัดเสียงไว้ พอกลับมาก็ถอดคำพูด นั่นเขามีเวลาทำนาน แต่งานของผมไม่ใช่ คุณจะไปเสียเวลาถอดทำคำพูดทำไม ก็แค่คุณฟังๆจดๆแค่นั้น ทำไมแค่นี้ถึงทำไม่ได้”
“ขอโทษครับบอส”อ้นก้มหน้า
“เอาอีกแล้ว คำว่าขอโทษเนี่ย ขอซื้อได้ไหมเลิกพูดซะที”
“ได้ครับ”
“ได้ครับ แต่ยังทำไม่ได้ซักที คุณพึ่งทำงานวันแรก ผมจะไม่อะไรกับคุณมาก แต่ก็อดใจไม่ไหวที่จะ เอ่อ”จ๊อบมองหน้าอ้นด้วยแววตาที่เปลื่ยนไป และหยุดอึ้งกับคำพูดที่จะพูดต่อ
“ครับบอส ผมจะปรับปรุงให้ดีขึ้นกว่าเดิม”
“ก็ดี เราจะได้ทำงานกันด้วยความราบรื่น เอาล่ะผมยังไม่ขอดูวันนี้ก็ได้ แต่เย็นนี้คุณต้องไปพบลูกค้ากับผม เตรียมข้อมูลลูกค้าให้ผมด้วยก็แล้วกัน ออกไปได้ ไม่มีอะไรแล้วแค่นี้แหละ”
จ๊อบมองอ้นจนเปิดประตูออกไป แล้วเขาก็ครุ่นคิดความรู้สึกที่แทรกเข้ามา ในระหว่างที่เขากำลังต่อว่าอ้นเลขาเของเขา มันเป็นความรู้สึกแปลกๆที่เขามีต่ออ้น ซึ่งเขาก็ไม่เข้าใจว่าความรู้สึกนี้เกิดขึ้นได้อย่างไรกัน
หลังจากเลิกงานอ้นนั้นได้เดินตามจ๊อบ ไปพบลูกค้าที่นัดไว้ ในระหว่างที่เดินไปที่รถของจ๊อบที่จอดรอหน้าโรงงาน อ้นได้เดินผ่านหน้าเอและตั้มกับตูน ซึ่งอ้นก็เห็นทั้งสามแต่อ้นแลเป็นไม่เห็น เพราะไม่อยากเห็นหน้าเอที่ทำให้เขาเจ็บซ้ำน้ำใจในอดีต เมื่ออ้นเดินผ่านทั้งสามหนุ่ม ในส่วนของตั้มและตูนก็มองตามหลังจากนั้นก็หันหน้ามามองกันเอง “ไอ้อ้นนี่มันร้ายนะ เดินตามบอสต้อยๆเลย”ตั้มพูดขึ้น “โอ้โห ไอ้อ้นขึ้นรถไปกับบอสเห็นไหมไอ้เอ”ตูนหันมามองหน้าเอแวบหนึ่งแล้วหันไปมองอ้น “มึงเสียดายไหมไอ้เอ ที่ทิ้งเขาไปแต่ตอนนี้เขากับได้ดีกว่ามึงอีก”ตั้มหัวเราะ “ไอ้ตั้มถ้าไม่หยุดพูดเจอกูต่อยแน่”ในความรู้สึกของเอตอนนี้ เหมือนมีอะไรมาทิ่มแทงหัวใจอย่างที่เขาไม่เคยเป็นมาก่อน “พูดแค่นี้ทำเป็นโมโหหรือว่าพูดแทงใจดำมึงวะ” “กูไม่ได้รู้สึกอะไรกับไอ้อ้น กูจะไปเสียดายมันทำไม” “แล้วมึงรู้สึกกับใครบ้างวะ”ตูนหันมาถามเอ “กูไม่รู้สึกกับใครทั้งนั้นแหละ”เอพูดเสียงเข้ม “เลิกพูดเรื่องไอ้อ้นดีกว่า เรามาคิดกันว่าเย็นนี้จะไปกินเบียร์ที่ไหนดีกว่าไหม”ตั้มเอ่ยขึ้น “จริงด้วยพูดแล้วเปรี้ยวปาก”ตูนถึงกับเลียริมฝีปากทีเดียว
ในวันหยุดสุดสัปดาห์อ้นก็ได้ย้ายมาที่ห้องพักในโรงงาน ซึ่งเป็นห้องที่ใหญ่กว่าพนักงานคนอื่น เพราะจ๊อบได้สั่งไว้ให้จัดหาอย่างโดยด่วน เมื่ออ้นจัดห้องเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาก็ได้ออกจากห้องเพื่อที่จะไปหาอาหารรับประทานในตอนเย็น เพราะวันนี้เขาจัดห้องมาทั้งวัน มีเพียงขนมกับนมเท่านั้นที่ถึงท้อง ทางที่จะออกจากโรงงานไปตลาด ต้องผ่านห้องพักคนงาน อ้นจึงเดินไปเรื่อยโดยไม่หันมันข้างทางหรือแม้แต่เหลียวมอง จนมาสะดุดกับคำทักทายที่ไม่เป็นมิตรสักเท่าไร “หยิ่งเนาะ ตั้งแต่เป็นเลขาบอส” อ้นหันไปมองทันที ที่เมื่อเขาได้ยินเสียงที่คุ้นหู และนั่นเองที่ทำให้อ้นต้องรีบหันหน้ากลับ พร้อมที่จะเดินหนี ด้วยไม่อยากจะคุยให้เสียเวลา “จะไปไหน”เอเดินตามจับแขนของอ้นไว้ให้หยุดเดิน “ปล่อยนะ อย่าทำตัวไม่มีมารยาทแถวนี้”อ้นเหล่ตามองตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า “จับไม่ได้เลยเหรอ ที่เมื่อก่อนนี้จับทั้งจับทั้งกอดทั้งเอา ไม่เห็นว่าสักคำ” “เมื่อก่อนก็ส่วนเมื่อก่อน แต่เดี๋ยวนี้มันไม่ใช่” “เอ่อใช่สิ เป็นเลขานี่ใหญ่โตเหลือเกิน” “ไม่ได้ใหญ่โตหรอก แค่ไม่อยากคุยกับนายคนไร้ค่า เราไม่ให้ราคาที่จะคุยด้วยหรอก อ๋อ ใช่สิ นายมีราค
อ้นได้ตามจ๊อบพบปะลูกค้าตั้งแต่เช้ายันเย็น ไม่ได้พักทั้งกายและใจเหนื่อยจนอยากจะพัก แต่ก็ฝืนทนสู้อุตส่าห์ทำงานจนเสร็จสิ้น หลังจากนั้นจ๊อบก็พาอ้นไปรับประทานข้าวที่ริมน้ำบรรยากาศสุดหรู จึงส่งผลให้อ้นนั้นคลายเหนื่อยกายและใจอย่างหมดสิ้น “เป็นไงบ้างชอบไหมบรรยากาศแบบนี้ โรแมนติกดีนะผมว่า” “ครับ เป็นครั้งแรกที่อ้นได้มาในบรรยากาศแบบนี้” “บรรยากาศใต้แสงเทียนริมน้ำ ถ้ามากับแฟนนี่คงจะโรแมนติกน่าดูเลย แต่น่าเสียดายเราสองคนต่างไม่มีแฟน ถ้ามีแฟนจะได้พามาทั้งคู่ ถึงเวลาที่เราสองคนต้องหาแฟนแล้วมั้ง” “อ้นยังเด็กอยู่ยังไม่อยากมีแฟนหรอกครับ” “แสดงว่าผมแก่ใช่ไหม แค่จะสามสิบเอง ห่างจากอ้นเจ็ดแปดปีแค่นั้น” “ยังไม่แก่เลยครับ หน้าตาบอสเหมือนยี่สิบต้นๆเอง” “พูดแบบนี้ต้องเพิ่มเงินเดือนให้แล้วมั้ง” “ได้ก็ดีครับ อ้นจะได้เก็บไว้ซื้อบ้าน” “ผมว่าอ้นซื้อคอนโดดีกว่า เพราะอยู่คนเดียวไม่ใช่เหรอ ถ้าเกิดผมเหงาๆจะได้ไปหาสะดวก” “อ่า”อ้นอ้าปากค้าง เพราะบอสของเขาเปลื่ยนไปอีกแล้ว ยังกับคนละคนเมื่อช่วงกลางวันที่ผ่านมา “พูดไม่ออกเลยเหรอ แสดงว่ายังอยากมีแฟนอยู่ใช่ไหม กลัวผมไปขัดจังหวะแน่เลย”
ช่วงเย็นที่เงียบเหงาสำหรับเอ เพราะตั้มและตูนได้หายไปจากชีวิตของเอมาหลายวัน เพราะช่วงเวลานี้ตั้มและตูนกำลังติดพันซันและซีเพื่อนของอ้น ส่วนเจนงานยุ่งจนต้องทำโอที จึงไม่มีเวลามาเอช่วงค่ำ เขาจึงนั่นดื่มเบียร์อยู่หน้าห้องอย่างเดียวดาย ช่วงแรกยังมีคนงานเดินผ่านมาผ่านไป พอเริ่มค่ำคนงานเริ่มเข้าห้องใครห้องมัน จึงเหลือเพียงแต่เอที่นั่งเหม่อมองท้องฟ้าที่มีแต่ดวงดาวลอยระยิบระยับ แต่ก็ไม่สามารถทำลายความเหงาในใจของเอได้ เอนั้นดื่มเบียร์ขวดต่อขวดจนเมา เขาแค่พยุงตัวได้ไปได้แค่ที่ประตู พอควักกุญแจออกมาไขประตูแค่นั้น เขาก็ทำล่วงล่นและอาเจียนเต็มหน้าห้อง หลังจากนั้นเขาก็นอนฟุบอยู่หน้าห้องอ้นกำลังจะเดินกลับเข้าห้อง หลังจากไปดูงานกับจ๊อบจนได้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกัน จ๊อบนั้นจะมาส่งอ้นแค่ที่หน้าโรงงานเท่านั้น ความจริงเขาอยากจะมาส่งอ้นในโรงงานด้วยซ้ำ แต่ด้วยความเป็นนายจ้างกับลูกจ้าง จึงต้องเว้นระยะห่างไว้กันคำครหา เพราะในปัจจุบันหลายคนต่างมองอ้นกับจ๊อบในแง่ไม่ดีอยู่พอสมควรเมื่ออ้นเดินมาถึงหน้าห้องของเอ เขาก็เห็นเอนอนนิ่งอยู่หน้าห้อง อ้นตกใจมากและเป็นห่วงจึงรีบเข้าไปดู ซึ่งสิ่งที่อ้นเห็นคือเศษอาหารเต็มตัว
หลายวันมานี้เอนั้นกลุ้มใจกลัดกลุ้มไฟรักสุมทรวง เขาไม่สามารถตัดใจห้ามให้คิดถึงคะนึงหาอ้นได้ ถึงแม้จะมีเจนอยู่เคียงข้างทุกค่ำคืน รสรักและความสัมพันธ์ฉันเพื่อนก็ไม่สามารถมัดใจเอได้ แต่เขาก็ไม่ได้ทำร้ายจิตใจเจนจนเกินไป ยังให้เจนกอดหอมทำอะไรก็ได้ตามที่เจนต้องการ แต่ถ้าจะให้รับรักเจนนั้นเอไม่สามารถที่จะทำเช่นนั้นได้เลย คืนนี้ก็ตามเดิมที่เอได้มานั่งดื่มคนเดียวอย่างเหงาใจ เพราะเจนกว่าจะมาก็ดึกพอสมควร ส่วนตั้มกับตูนนั้นแท่บหายไปจากชีวิตของเอทีเดียว เพราะกำลังคลั่งรักกับซันและซี เป็นสองคู่ชู้ชื่นที่สุขสมไร้อุปสรรคใดมาขวางกั้น ในระหว่างที่อ้นกำลังจะเดินเข้าไปยังห้องพัก หลังจากจ๊อบมาส่ง เมื่อไปพบลูกค้าที่มาจากต่างประเทศ “ไม่ทักกันเลยนะ”เอตะโกนเสียงดังจนอ้นตัองหันมามอง แต่อ้นไม่สนเดินหน้าต่อไป “เดี๋ยวก่อน”เอลุกขึ้นวิ่งไปจับแขนอ้นไว้ “ปล่อยนะ”อ้นแกะมือของเอให้หลุดออก แต่ไม่สามารถทำได้ในเวลาอันสั้น “เดี๋ยวนี้ถูกเนื้อถูกตัวไม่ได้เลยนะ” “ใช่ เรามีแฟนแล้ว นายจะมาทำตัวแบบนี้ไม่ได้” “บอสเหรอ ยินดีด้วยนะ หนูตกถึงข้าวสาร” “เอ หยุดสักทีเถอะ” “ทำไมต้องหยุด” “ถ้าไม่หยุดนายอาจจะไ
วันนี้อ้นก็มาทำงานแต่เช้าตามเดิม แต่สิ่งที่แปลกไปเพราะจ๊อบได้กลับมาทำงานที่ออฟฟิค โดยมีเลขนุการคนใหม่เฝ้าอยู่หน้าห้อง ส่วนจิ๊บนั้นก็เป็นเทรนเนอร์อยู่ไม่ห่างกายบี้เลขนุการคนใหม่ ในระหว่างที่อ้นทำงานอยู่นั้นบี้เลขาคนใหม่ของจ๊อบก็เดินมาหา พร้อมด้วยสายตาที่เหยียดสุด มองอ้นตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า “นี่เธอ บอสให้เอางานมาให้เธอทำ หวังว่าคงจะเสร็จทันก่อนห้าโมงเย็นนะ บอสสั่งมา”บี้เอาวางไว้บนโต๊ะ “ครับ” “นี่เหรอ เลขาคนเก่า” “ครับ” “ไม่แปลกใจที่โดนปลด ลดตำแหน่ง”บี้ใช้สายตาชำเลืองมองอ้นแล้วเชิดหน้าขึ้น ต่อจากนั้นบี้ก็เดินจากไป นั่งเฝ้าหน้าห้องของจ๊อบตามเดิม “ร้ายเนาะเลขาคนใหม่”วีณาเพื่อนสาวหันมามองอ้น “อย่าพูดไป”นฤมลใช้มือจุ๊ที่ปาก “ปล่อยเขาไปเถอะ เราก็ทำงานของเราไป”อ้นพูดขึ้น “จร้า”วีณาทำเสียงประชด อ้นตั้งหน้าตั้งตาทำงานอย่างต่อเนื่อง เพราะต้องทำให้เสร็จภายในห้าโมงเย็น อ้นก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม ต้องบังคับกันขนาดนี้ ขนาดเมื่อวานยังให้เวลาจนกว่าจะทำเสร็จ อ้นจึงไม่สนใจสิ่งรอบข้าง รีบเร่งทำงานอย่างต่อเนื่องและให้รวดเร็ว ทันความต้องการของจ๊อบ ที่วันนี้นิสัยเปลื่ยน
ค่ำคืนเดียวดายสุดหรูในคอนโดที่เงียบเหงา อ้นนั่งเหม่อลอยรอคอยจ๊อบกลับมา เขาหวนคิดถึงคะนึงหาเรื่องราวในอดีตที่ผ่านมา อ้นครุ่นคิดทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้น ต่อจากนี้เขาจะยอมรับผลของการเลือกทางเดินของตัวเอง อ้นพร้อมรับรักและเป็นของจ๊อบทั้งกายและใจ ทว่าเขาก็ไม่สามารถคาดเดาในอนาคตได้ ต่อจากนี้อะไรจะเกิดขึ้น ถึงกระนั้นอ้นก็ไม่สนใจอีกต่อไป เขาขอแค่อยู่กับปัจจุบันให้มีความสุขแค่นั้นเป็นพอ ในขณะที่อ้นกำลังคิดอะไรเพลินๆจ๊อบก็เดินเข้ามายังห้องนอนของอ้น “ชอบไหม”จ๊อบมีสีหน้าที่นิ่งเฉย “ชอบครับ แต่มันคงแพงมาก อ้นว่ามันมากไปสำหรับอ้นน่ะ” “ไม่หรอก สำหรับคนที่ผมรัก และทำให้ผมเจ็บ”จ๊อบนั่งลงข้างๆอ้น “นี่เอกสาร ถ้าอ้นเซ็นคอนโดนี่ก็เป็นคนอ้นทันที”จ๊อบยื่นเอกสารให้อ้น “ไม่เอาหรอกครับ ขอแค่อ้นได้อยู่ก็พอใจแล้ว และอีกอย่างอ้นทำให้บอสเจ็บ คงไม่เหมาะที่จะรับของบอสหรอกครับ”อ้นหันหน้าไปทางอื่นด้วยความน้อยใจ “ไม่ได้ ห้ามปฏิเสธ อ้นจำเป็นต้องมีสมบัติติดตัวด้วย และนี่คือกุญแจรถ”จ๊อบยื่นให้อ้น แต่ของทั้งสองชิ้นอ้นปฏิเสธหมด “ถ้าอ้นไม่เอาเราเลิกกัน”จ๊อบวางเอกสารไว้บนหัวเตียง “ทุกวันนี้ก็เหมือนเลิกก
อ้นได้ย้ายมาอยู่ที่คอนโดของจ๊อบแฟนหนุ่มที่มั่งคั่ง ในช่วงเวลาที่อยู่กันหลายเดือนอ้นก็มีความสุขสบายอย่างที่ใจเขาต้องการ ยามว่างอ้นก็ไปร้านอ้นคาเฟ่ ที่ขายกาแฟและเครื่องดื่มพร้อมกับเบเกอรี่ ที่จ๊อบแฟนหนุ่มเจ้าของบริษัทบีเอ็มรีไซเคิลเป็นคนเปิดให้ สองสามวันมานี้จ๊อบแฟนหนุ่มของเขาไม่ได้มาหา เพราะมีลูกค้ามาจากต่างประเทศเขาจึงต้องไปพบปะพูดคุยกับลูกค้า ในค่ำคืนนี้อ้นจึงรู้สึกเหงาๆ ในระหว่างที่อ้นกำลังนั่งดูซีรี่ที่เขาชอบอยู่นั้น ก็ได้มีเสียงกริ่งดังขึ้น อ้นจึงเดินออกไปส่องดูและเขาก็แน่ใจว่าไม่รู้จัก แต่อ้นก็ใจกล้าเปิดออกมา เพราะอยากรู้ว่าคนที่มาหานั้นเป็นใคร มีธุระจนมาเกือบจะมืดค่ำอยู่แล้ว พออ้นเปิดประตูออกแค่นั้น สาววัยกลางคนก็เดินเข้ามาในห้องของเขาทันที เมื่อมาถึงก็ไม่มีความเกรงใจเดินมองไปรอบๆห้อง “คุณเป็นใครเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาต”อ้นเดินตามติดทุกฝีก้าวที่ทั้งสองเดินไปมา “ฉันต้องถามเธอมากกว่ามั้งว่าเป็นใคร”สาววัยกลางจ้องหน้าของอ้นอย่างกับกินเลือดกิ นเนื้อ “ทำไมต้องถามผม ผมต่างหากต้องถามคุณ ที่นี่มันคอนโดของผม คุณต่างหากที่บุกรุกเข้ามาในที่ส่วนบุคคล”