ตลอดทางกลับบ้านธเนศพ่นคำหยาบคายใส่หญิงสาวที่นั่งข้าง ๆ มาตลอดทางเฌอเอมไม่แม้แต่จะตอบโต้ใด ๆ เธอไม่แสดงความกลัวไม่มีหยดน้ำตาหรือไม่มีคำอ้อนวอนเพราะมันไม่มีความรู้สึกนั้นหลงเหลืออีกแล้ว
ค่ำคืนที่ผ่านมาเธอได้เรียนรู้ว่าความสุขของชีวิตมันคืออะไร เธอเอาความถูกต้องเอาบรรทัดฐานของสังคมมาตีกรอบตัวเองไว้ คนที่ต้องเผชิญกับความทุกข์ไม่ใช่คนเหล่านั้นที่เธอต้องการจะให้เขาเห็นว่าเธอมีความสุขแต่มันคือตัวเธอเองในเมื่อเธอยังไม่พร้อมจะหลุดไปจากตรงนี้เธอก็จะขออยู่ตรงที่เดิมในแบบที่เธอจะมีความสุขที่สุดก็พอ
“พรุ่งนี้เข้าไปหาคุณแม่ผมด้วยแล้วก็อย่าไปพูดอะไรที่ไม่ควรพูด”
ธเนศพูดแค่เพียงเท่านี้เขาก็ขับรถออกไปจากบ้านทันทีเอมรู้ว่าสามีของเธอกำลังรู้สึกเสียอารมณ์กับท่าทางที่แข็งกระด้างที่เธอไม่เคยเป็นมาก่อนแต่ก็นั่นแหละหญิงสาวไม่สนใจอะไรแล้วเธอเลือกที่จะใช้ชีวิตของเธอให้มีความสุขที่สุดถ้าเขาทำร้ายเธอ เธอก็จะทำร้ายเขาตอบเช่นกัน
ลมพัดโชยอยู่ด้านนอกเสียงใบไม้ที่พัดสีกันไปมาดังผ่านหน้าต่างเข้ามาเพราะในเวลานี้เป็นปลายฝนต้นหนาว เฌอเอมอดที่จะรู้สึกเหงาไม่ได้ทั้งที่เธอคิดว่ากลับมาถึงบ้านแค่เพียงล้มตัวลงนอนก็คงจะหลับได้โดยง่ายเพราะเมื่อคืนนี้เธอก็ไม่ค่อยได้นอนเต็มตาสักเท่าไหร่และยังจะค่ำคืนนี้อีกที่เธอต้องปั้นหน้าไปงานสังคมกับสามีแต่สุดท้ายเธอกับนอนพลิกตัวไปมาเพราะนอนไม่หลับคิดถึงใครบางคนที่เคยนอนกอดเธอเมื่อคืน
‘อย่ารักตัวเองน้อยกว่ารักคนอื่นนะครับ’
เสียงแจ้งเตือนว่ามีคนส่งไลน์มาหา หญิงสาวรีบเปิดอ่านมันไม่ใช่ไลน์ที่เธอคุ้นเคยเพราะเธอกับคนที่ส่งมายังไม่ได้เป็นเพื่อนกันเมื่อกดเข้าไปดูจึงรู้ว่าคนที่ส่งข้อความมาคือแดนไตรนั่นเอง
เฌอเอมเลือกที่จะอ่านข้อความและไม่ตอบอะไรเพราะเธอรู้ว่าความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนั้นมันเป็นความสัมพันธ์ที่ไม่ถูกต้องและสุดท้ายจุดจบของมันก็คือการแยกทาง เธอไม่อยากรู้สึกรักชายหนุ่มคนนั้นไปมากกว่านี้เพราะเมื่อถึงเวลาเธอเองต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายเจ็บเพราะเธอเป็นผู้หญิง
เช้าวันนี้หญิงสาวยังคงทำหน้าที่เป็นลูกสะใภ้ที่ดี เธอไปหาแม่ของธเนศตามที่สามีของเธอได้บอกไว้ถึงแม้ว่าเธอไม่ชอบหน้าผู้ใหญ่ของบ้านนั้นสักเท่าไหร่แต่เฌอเอมก็รู้ว่าคนเป็นแม่ไม่รู้พฤติกรรมของลูกชายในฐานะที่เธอเป็นลูกสะใภ้เธอก็ควรจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
“ที่ฉันให้เธอมาหาเพราะอยากจะรู้ว่าเมื่อไหร่เธอจะมีหลานให้ฉันสักที งานการอะไรก็ไม่ได้ทำแทนที่จะรีบตั้งหน้าตั้งตามีลูกกลับไปทำอะไรอยู่”
พรนภาถามลูกสะใภ้ด้วยน้ำเสียงที่แสดงความไม่พอใจ ค้อนขวับเพราะเธอได้รับรู้เรื่องราวมาจากธเนศว่าสาเหตุที่ทั้งคู่ ไม่มีลูกเพราะเฌอเอมเอาแต่ขัดขืนเวลาที่นคนเป็นสามีจะหลับนอนด้วย
“เอมไม่ได้ทำอะไรนอนอยู่บ้านรอลูกชายคุณแม่มาปั๊มลูก ทุกวันเลยค่ะแต่จะให้มีลูกได้อย่างไรในเมื่อคุณธเนศแทบจะไม่ค่อยกลับบ้านหรือถ้ากลับมาถึงก็ไม่มีแรงแล้ว”
หญิงสูงวัยตรงหน้ากำมือแน่นด้วยความโมโหเธอไม่คิดเลยว่าสาวน้อยไฮโซผู้มาจากตระกูลที่เป็นผู้ดีจะกล้าพูดจาแบบนี้ถึงแม้ว่ามันจะเป็นคำพูดที่ไม่ต่างจากที่เธอพูดเมื่อสักครู่แต่เธอแค่มองว่าเธอเป็นผู้ใหญ่เธอจะพูดอะไรก็ได้ส่วนเอมเป็นเด็กมีหน้าที่แค่ฟังเท่านั้น
“เธอนี่มันดูหน้าใส ๆ ซื่อ ๆ ไม่น่าเชื่อเลยนะว่าจะเป็น คนพูดจาแบบนี้ไม่สมกับวงศ์ตระกูลของเธอเลย”
เฌอเอมได้แต่แสยะยิ้มให้เพราะไม่มีประโยชน์อะไรที่เธอจะโต้เถียงกับคนที่เอาแต่เข้าข้างลูก หญิงสาวรู้ตัวเองดีว่าเธอโชคดี แค่ไหนที่ทุกวันนี้ไม่ต้องมีชีวิตน้อย ๆ มาเป็นห่วงคล้องเธอ ถ้านับจากนี้เธอหมดความอดทนเมื่อไหร่เธอจะได้ไปจากที่นี่โดยที่ไม่ต้องมีห่วง
พรนภานั่งต่อว่าลูกสะใภ้อีกเกือบครึ่งชั่วโมงโดยที่ไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายที่เปิดปากพูดเนื้อหาสาระส่วนมากก็ต่อว่าเรื่องการเป็นแม่บ้านแม่เรือนของหญิงสาวการเอาอกเอาใจสามีเพราะเธอ พอรู้ระแคะระคายมาว่าธเนศไม่ค่อยกลับบ้านแล้วก็มีบ้านเล็กบ้านน้อยแต่ไม่ได้คิดว่าเป็นความผิดของลูกชาย พรนภาโทษว่าเกิดจากความบกพร่องของลูกสะใภ้
“เป็นผู้หญิงก็ต้องดูแลสามีให้ดีที่สุดหวังว่าวันนี้ฉันเรียกเธอมาคุยจะทำให้เธอสำนึกได้ว่าเธอควรจะเปลี่ยนแปลงตัวเองยังไงเพื่อให้ธเนศอยู่บ้านบ้างไม่ใช่ให้ลูกชายของฉันต้องไปหาความสุขข้างนอกอย่าให้คนเขาติฉินนินทาเธอได้หัดสงสารพ่อกับแม่เธอบ้าง”
หญิงสาวยกมือไหว้ขอบคุณสีหน้าแววตาของเธอแสดง ความท้าทายหญิงสูงวัยเป็นอย่างมาก พรนภาไม่เคยเห็นเลยว่าลูกสะใภ้ของเธอจะมีลักษณะท่าทางแบบนี้เธอทั้งแปลกใจและตกใจแต่ก็ไม่กล้าพูดอะไรมากเพราะเธอกับพ่อแม่ของเอมก็ถ้อยทีถ้อยอาศัยกันอยู่
ตอนที่ 4ขอบคุณคืนนี้ที่ไม่ต้องอยู่คนเดียว“คืนนี้เธอต้องไปทำงานไหม”แดนไตรแทบจะรีบตอบทันทีว่าเขาว่างสำหรับหญิงสาวที่กำลังโทรมาเสมอแต่มีบางอย่างที่ทำให้เขาไม่สามารถที่จะตอบแบบนั้นได้เขาจึงเลือกที่จะหยุดคิดก่อนที่จะตอบแบบที่ไม่ตรงกับใจออกไป“คืนนี้ผมต้องไปทำงานครับ”เฌอเอมพยายามทำความเข้าใจกับคำตอบว่าชายหนุ่มที่เธอกำลังโทรหาเขา เขาไม่ได้เป็นอะไรกับเธอและตอนนี้เขาเป็นนักศึกษาที่ต้องการหารายได้เพื่อนำมาใช้ในการเรียนคงไม่มีใครที่จะมานั่งรองรับอารมณ์ความเหงาเธอได้ตลอดเวลาบ้านที่ไม่เคยเหมือนบ้านทำให้เธอตัดสินใจที่จะไม่กลับในคืนนี้ เธอไม่รู้จะไปไหนเพราะวันนี้เพื่อน ๆ ของเธอต่างก็ติดธุระเธอจึงตัดสินใจไปนั่งดื่มที่ผับที่เป็นสถานที่ที่ทำให้เธอได้เจอกับแดนไตรและเธอก็ได้แต่หวังว่าถ้าเมื่อไหร่ที่ชายหนุ่มเลิกงานบางทีเขาอาจจะรีบติดต่อกลับมาหาเธอ“ท่าทีหลังพี่จะมากินเหล้าแบบนี้อย่ามาคนเดียวอีกนะครับผมเป็นห่วง”น้ำเสียงที่แสนจะคุ้นเคยทั้งที่เพิ่งรู้จักกันได้เพียงแค่ไม่กี่วันทำให้เฌอเอมถึงกับสะดุ้งตกใจแต่ก็แอบมีดีใจเมื่อรู้สึกว่าตัวเองกำลังเป็นคนสำคัญอีกครั้ง“ไหนบอกว่าคืนนี้มีงานแล้วมาที่นี่ทำไมหรือว
คำพูดที่ไม่น่าจะออกจากปากหนุ่มนักศึกษาที่ดูจากลักษณะค่อนข้างจะเป็นเพลย์บอยเป็นนักดื่มแถมมีอาชีพคอยบริการใน ยามค่ำคืนแบบนี้เฌอเอมได้แต่มองหน้า เธอเข้าใจในสิ่งที่ชายหนุ่มพูดเหลืออย่างเดียวคือเธอยังทำมันไม่ได้“คนเราเวลาที่เราอยู่ในปัญหาเราก็มักจะมองไม่เห็นทางออกแต่เมื่อไหร่ที่ปัญหานั้นไม่ใช่ของเรา เราจะมองทุกอย่างได้อย่างชัดเจนมากขึ้น พี่เข้าใจในสิ่งที่เธอต้องการบอกแต่ให้เวลาพี่หน่อยนะพี่ยังข้ามผ่านมันไปไม่ได้”“พี่ยังรักสามีพี่ใช่ไหม”คนถามกลั้นใจเพราะแดนไตรเองก็ไม่แน่ใจว่าคำตอบที่เขากำลังจะได้ยินมันจะทำให้เขากลายเป็นคนที่ผิดหวังในค่ำคืนนี้ หรือเปล่า“พี่มีสิทธิ์ที่จะไม่รักเขาด้วยหรือเขาคือสามีของพี่นะ”“พี่มีสิทธิ์ที่จะรักใครก็ได้หรือไม่รักใครก็ได้มันเป็นเรื่อง ของความรู้สึก ความรักไม่ใช่สิ่งที่บังคับกันที่ผมถามไม่ใช่เพราะต้องการจะให้พี่เลิกกับเขาแต่ผมต้องการอยากรู้ว่าสาเหตุที่แท้จริงที่พี่เลือกจะทนอยู่ทั้ง ๆ ที่มีความทุกข์แบบนี้เพราะพี่มีเหตุผลอย่างอื่นหรือหัวใจพี่ยังคงรักผู้ชายคนนั้นอยู่เต็มทั้งดวง”คนถูกถามเธอยังไม่มีคำตอบให้กับชายหนุ่มตรงหน้า
ตอนที่ 5บอบช้ำเพียะ ! !หญิงสาวตัวเล็กลงไปล้มกองกับพื้นโดยที่เธอยังไม่ทันตั้งตัวเพราะโรงรถที่ไร้รถของสามีทำให้เธอมั่นใจว่าการกลับบ้านครั้งนี้ของเธอคงไม่ต้องพบกับความรุนแรงใด ๆ แต่ทุกอย่างกลับผิดพลาดเพราะธเนศตั้งใจให้เฌอเอมเข้าใจว่าเขาไม่อยู่เพราะวันนี้เขาต้องการทำร้ายเธอมากกว่าทุกครั้งที่เคย“มึงมันห่างมือห่างตีนมากเกินไปแล้วถึงได้ทำตัวแบบนี้...”ธเนศไม่ใช่แค่เพียงพูดหยาบคายแต่เขายืนยกขาขึ้นสูงก่อนที่จะประทับฝ่าเท้าลงตามตัวของหญิงสาวประหนึ่งว่าเฌอเอมเป็นเพียงแค่ที่หมอนนุ่ม ๆ ให้เขากระทืบเท้าได้อย่างหนำใจ“ไอ้ชั่ว ! เก่งแต่กับผู้หญิง”มันเป็นครั้งแรกของการโต้ตอบของเฌอเอมเพราะก่อนหน้านี้ เธอเลือกที่จะเป็นฝ่ายยอมเต็มที่ก็บีบน้ำตาร้องไห้ยกมือไหว้ขอร้องให้อีกฝ่ายหยุดการกระทำแต่ครั้งนี้เธอจะไม่ทนอีกต่อไปถึงแม้ว่าจะยังเธอตัดสินใจไม่ได้ว่าจะจัดการกับชีวิตครอบครัว ของเธอต่อไปอย่างไรดี“ชั่วใช่ไหม...แล้วมึงดีนักเหรออีเอม”ชายร่างสูงตัวใหญ่กระชากผมยาวของอีกฝ่ายขึ้นมาเต็มมือก่อนที่จะผลักเธอลงไปกองกับพื้นอีกครั้งแล้วบรรจงฟาดแข้งลงไปที่สะโพกของอีกฝ่ายเหมือนว่าเขากำลังสวมบทนักฟุตบอลที่เต
เฌอเอมบอบช้ำไปทั้งตัว เธอนอนซมด้วยพิษไข้ก่อนที่จะมารู้สึกตัวอีกทีเมื่อมีข้อความที่ส่งมาทางไลน์ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง“แดน…..”หญิงสาวไม่มีแรงพอที่จะพิมพ์ข้อความใด ๆ ตอบโต้กลับ เธอจึงตัดสินใจที่จะเปลี่ยนเป็นการโทรศัพท์แทนและแค่เพียง ปลายสายรับโทรศัพท์ เธอเองก็ทำได้แค่เรียกชื่ออีกฝ่ายและร้องไห้ออกมาพูดอะไรไม่ออก“เกิดอะไรขึ้นกับพี่ ! เขาทำร้ายพี่ใช่ไหม”“ใช่...พี่ไม่ไหวแล้วพี่ไม่รู้จะทำอย่างไรแดนมาพาพี่ไปจากที่นี่ได้ไหม”เฌอเอมรู้ว่าเย็นนี้ถ้าธเนศกลับมาเขาคงไม่ได้รู้สึกผิดที่เห็นสภาพของเธอเป็นแบบนี้แต่เขาอาจจะทำร้ายเธอตามที่เขาได้ขู่ไว้หญิงสาวคิดอยากจะหนีตั้งแต่เมื่อช่วงสายแต่เธอไม่มีแรงแม้กระทั่งจะพาตัวเองออกไปหน้าบ้านจนตอนนี้เธอได้ยาแก้ไข้กับแก้อักเสบเข้าไปทำให้มีแรงพอที่จะเดินได้แต่คงไม่สามารถที่จะขับรถไปไหนหรือเดินออกไปเพื่อเรียกรถแท็กซี่เธอจึงตัดสินใจขอร้องให้หนุ่มน้อยผู้เป็นดั่งยาของหัวใจมาพาเธอออกไปจากที่นี่แทน“ผมกำลังไป พี่ออกมารอผมนะครับ”เฌอเอมยังคงนอนร้องไห้โดยที่ไม่ได้วางสายโทรศัพท์จาก อีกฝ่ายเพราะแดนไตรขอร้องให้หญิงสาวถือสายของเขาไว้ตลอดเพราะกลัวว่าระหว่างที่เ
ตอนที่ 6หวงผมหรือ...ครับ“กินข้าวต้มก่อนนะครับจะได้มีแรง”เฌอเอมยังคงนอนซมอยู่แต่ถึงแม้ดวงตาคู่สวยจะถูกปิดด้วยเปลือกตาหลับสนิทแต่หัวใจของเธอกลับยังคงมีเสียงสะอื้นมีหยดน้ำตาไหลอยู่ในนั้นอย่างไม่ยอมหยุดเหมือนว่าตลอดเวลาที่เธอกำลังหลับแท้ที่จริงแล้วเธอไม่ได้หยุดร้องไห้เลยสักนาที“ขอบคุณนะ พี่ทำให้เธอต้องลำบากหรือเปล่าแทนที่จะได้ไปทำงานก็กลับต้องมาดูแลพี่แบบนี้”ท้องฟ้าที่มืดครึ้มด้านนอกทำให้เฌอเอมรู้ว่าเวลานี้เธอกำลังเป็นภาระให้กับชายหนุ่มที่กำลังยกข้าวต้มเข้ามาป้อนเธอ แดนไตรต้องไม่ได้ไปทำงานเพราะปกติแล้วเขาจะไปทำงานที่ผับเกือบทุกคืนเพราะมีวันหยุดแค่เพียงสัปดาห์ละหนึ่งวันเท่านั้น“ไม่หรอกครับพี่ ผมแลกวันหยุดกับเพื่อนแล้วพรุ่งนี้ผมคงไปทำงานตามปกติ พี่ก็จะคงดีขึ้นแต่ผมจะรีบกลับมานะ”แดนไตรเต็มใจและดีใจที่จะได้ดูแลคนตรงหน้าเพราะเขาถามเสียงของหัวใจตัวเองแล้วว่าเขาคงยอมไม่ได้ที่จะให้เฌอเอมกลับไปโดนทำร้ายอีกครั้งเพราะไม่ว่าเขาจะอยู่ในฐานะไหนเป็นแค่คนรู้จักหรือแม้แต่แค่เพื่อนสนิท เขาก็คงปล่อยให้คนที่อยู่ตรงหน้าโดนทำร้ายอีกครั้งไม่ได้“อุ๊ย !”“ผมขอโทษครับ พี่ร้อนไหม แย่จริง ๆ ผมไม่ทันระวัง”ชา
ตอนที่ 7ความสุขที่มีเธอ“กลับคอนโดมาเจอของกินเต็มโต๊ะแบบนี้ทุกวันอีกหน่อยผมคงกลายเป็นหมู อู๊ด ๆ”แดนไตรกลับจากฝึกงานเขารีบตรงมาที่โต๊ะอาหารเพื่อเปิดดูเมนูของมื้อเย็นวันนี้เพราะตั้งแต่เฌอเอมมาอยู่กับเขาจนถึงวันนี้ก็เป็นเวลาเกือบสองเดือน หญิงสาวจะทำกับข้าวรอรับเขาในทุกวัน“พูดแบบนี้วันหลังพี่ไม่ทำแล้วนะ”แม่ครัวทำท่าน้อยใจจนชายหนุ่มในชุดนักศึกษาต้องดึงเธอเข้ามากอดจนหญิงสาวแอบยิ้มหัวเราะด้วยความชอบใจที่อีกฝ่ายมักจะง้อเธอตลอดถึงแม้ว่าเธอจะแค่เพียงงอนเล่น ๆ เท่านั้น“อะไรกัน” เฌอเอมถามด้วยความแปลกใจคนอายุน้อยกว่ายื่นซองสีขาวที่ในนั้นดูก็รู้ว่ามีเงินอยู่ให้กับหญิงสาวที่นั่งข้าง ๆ แต่อีกฝ่ายยังเลือกที่จะไม่รับเพราะเธอไม่เข้าใจว่าแดรไตรส่งซองเงินให้เธอทำไม“เงินเดือนผม ที่ฝึกงานเขาจ่ายมาครับส่วนที่จำเป็นต้องใช้ผมหยิบแยกมาแล้วที่เหลือผมยกให้พี่ไว้ใช้จ่าย”“เธอเก็บไว้เถอะพี่มีเงินเก็บเหลืออยู่ เธอเองก็ยังต้องเติมน้ำมันรถไปทำงานมีค่าใช้จ่ายอีกเยอะแยะไม่ต้องทำมาเป็นใจใหญ่เลยนะ”เฌอเอมรีบคว้าซองเงินและส่งคืนให้กับเจ้าของทันทีเพราะตลอดเวลาที่เธออยู่ที่นี่ถึงแม้เธอจะไม่ทำงานอะไรแต่ก็มีเงินเก็บในบั
ตอนที่ 8คำพูดที่ไม่มีใครเชื่อสวนย่อมขนาดเล็กริมระเบียงถูกจัดให้กลายเป็นที่ทำงานของเฌอเอมเพราะตอนนี้หญิงสาวตัดสินใจที่จะรับงานออกแบบฉลากสินค้ามาทำเพราะเธอเรียนมาทางด้านนี้และเป็นการทำงานที่ไม่ต้องออกไปพบปะผู้คนถึงแม้ว่าเงินในบัญชีของเธอจะยังคงมีมากมายก็ตามแต่ในเมื่อเธอตัดสินใจแล้วว่าเธอจะเริ่มต้นชีวิตใหม่จึงไม่อยากจะใช้เงินของพ่อและแม่อยากหาเงินใช้ด้วยตัวเอง‘แม่เข้าโรงพยาบาลนะ’ข้อความทางไลน์ที่พ่อของเธอส่งมาตั้งแต่เมื่อเช้าหญิงสาวไม่ได้กดอ่านเพราะปกติแล้วทั้งพ่อและแม่จะส่งข้อความมาตลอดจากตอนแรกที่เธอตัดสินใจหนีออกมาจากบ้านของธเนศทั้งคู่ก็ส่งข้อความมาต่อว่าจนเวลาผ่านไปจนถึงตอนนี้ทั้งคู่ก็เริ่มเปลี่ยนเป็นห่วงใยและต้องการให้เธอกลับไป เธอจึงคิดว่าข้อความที่ส่งมา เมื่อเช้าก็คงจะไม่ต่างจากทุกวันแต่สุดท้ายแล้วกลับเป็นข้อความที่สำคัญที่สุดเพราะบิดาแจ้งว่าตอนนี้มารดาของเธอกำลังไม่สบายอยู่ที่โรงพยาบาล“พี่ต้องกลับไปดูแม่กับข้าวอยู่บนโต๊ะแล้วนะ…พี่จะรีบกลับมาให้เร็วที่สุด”“พี่รอผมได้ไหมผมจะเข้าไปกับพี่” แดนไตรไม่อยากให้เฌอเอมกลับไปที่บ้านคนเดียวเพราะเขาไม่ไว้ใจในตัวธเนศถึงแม้ว่
ตอนที่ 9ละครโรงใหญ่“เอมกลับไปอยู่บ้านของเราเถอะนะ”ธเนศเมื่อมาถึงและได้เผชิญหน้ากับภรรยาของเขาอีกครั้งเขาก็ตีบทโศกแสดงท่าทางเสียใจน้ำตาอาบแก้มจนคนที่เป็นพ่อตาแม่ยายอดที่จะสงสารลูกเขยไม่ได้“ฉันคงไม่กลับไปเป็นกระสอบทรายหรือที่ระบายอารมณ์ให้ใครทั้งนั้น”เฌอเอมไม่มีอะไรที่ต้องปกปิดอีกต่อไป เธอพูดความรู้สึก ทุกอย่างออกมาจากหัวใจทันทีถึงแม้เธอจะรู้ว่าบุพการีทั้งคู่ของเธอต่างไม่มีใครเชื่อก็ตาม“เธอมีคนอื่นแล้วยังจะมาโยนความผิดให้พี่อีกหรือแต่ ไม่เป็นไรขอแค่เธอกลับไปอยู่ด้วยกันพี่ก็พร้อมจะให้อภัยและลืม ทุกอย่างอย่าทำให้คุณพ่อคุณแม่ต้องไม่สบายใจเลยนะ”ธเนศคว้ามือของหญิงสาวมาจับและหอมมันอย่างนุ่มนวล ทั้งที่ตลอดชีวิตการแต่งงานเธอไม่เคยได้สัมผัสถึงความรู้สึกแบบนี้เฌอเอมทั้งขยะแขยงทั้งอยากจะอาเจียนใส่คนตรงหน้า เธอไม่คิดเลยว่าผู้ชายจะสามารถแสดงละครได้ขนาดนี้“ที่ผ่านมาฉันเคยคิดว่าคุณเลวแต่วันนี้นอกจากจะเลวแล้วฉันยังรู้ว่าคุณเป็นผู้ชายที่ตอแหลอีกต่างหากไปเรียนแสดงละครที่ไหนมาถึงได้ตีบทแตกกระจุยแต่อย่าลืมว่าทุกอย่างที่คุณทำมันไม่ได้เป็นความลับ”เฌอเอมคว้าโทรศัพท์ที่เธอ