ตอนที่ 7
ความสุขที่มีเธอ
“กลับคอนโดมาเจอของกินเต็มโต๊ะแบบนี้ทุกวันอีกหน่อยผมคงกลายเป็นหมู อู๊ด ๆ”
แดนไตรกลับจากฝึกงานเขารีบตรงมาที่โต๊ะอาหารเพื่อเปิดดูเมนูของมื้อเย็นวันนี้เพราะตั้งแต่เฌอเอมมาอยู่กับเขาจนถึงวันนี้ก็เป็นเวลาเกือบสองเดือน หญิงสาวจะทำกับข้าวรอรับเขาในทุกวัน
“พูดแบบนี้วันหลังพี่ไม่ทำแล้วนะ”
แม่ครัวทำท่าน้อยใจจนชายหนุ่มในชุดนักศึกษาต้องดึงเธอเข้ามากอดจนหญิงสาวแอบยิ้มหัวเราะด้วยความชอบใจที่อีกฝ่ายมักจะง้อเธอตลอดถึงแม้ว่าเธอจะแค่เพียงงอนเล่น ๆ เท่านั้น
“อะไรกัน” เฌอเอมถามด้วยความแปลกใจ
คนอายุน้อยกว่ายื่นซองสีขาวที่ในนั้นดูก็รู้ว่ามีเงินอยู่ให้กับหญิงสาวที่นั่งข้าง ๆ แต่อีกฝ่ายยังเลือกที่จะไม่รับเพราะเธอไม่เข้าใจว่าแดรไตรส่งซองเงินให้เธอทำไม
“เงินเดือนผม ที่ฝึกงานเขาจ่ายมาครับส่วนที่จำเป็นต้องใช้ผมหยิบแยกมาแล้วที่เหลือผมยกให้พี่ไว้ใช้จ่าย”
“เธอเก็บไว้เถอะพี่มีเงินเก็บเหลืออยู่ เธอเองก็ยังต้องเติมน้ำมันรถไปทำงานมีค่าใช้จ่ายอีกเยอะแยะไม่ต้องทำมาเป็นใจใหญ่เลยนะ”
เฌอเอมรีบคว้าซองเงินและส่งคืนให้กับเจ้าของทันทีเพราะตลอดเวลาที่เธออยู่ที่นี่ถึงแม้เธอจะไม่ทำงานอะไรแต่ก็มีเงินเก็บในบัญชีที่สามารถใช้จ่ายได้สบาย
“ผมไม่ได้ใจใหญ่อะไรแต่ที่พี่ทำอยู่ทุกวันนี้มันก็ต้องมีค่าใช้จ่ายไม่ว่าจะเป็นกับข้าวแต่ละมื้อพี่ก็ต้องออกเงินไปซื้อเองและไหนจะข้าวของเครื่องใช้ทุกวันนี้ผมไม่ได้ออกเงินซื้อเองสักบาท”
เอมถึงแม้ว่าเธอจะไม่ต้องการเงินจำนวนนี้แต่เธอก็กลัวว่าอีกฝ่ายจะรู้สึกน้อยใจเธอรู้ได้ว่าแดนไตรเป็นสุภาพบุรุษอย่างเต็มตัวเขาไม่ต้องการจะเอาเปรียบผู้หญิง เธอจึงตัดสินใจที่จะยอมรับเงินก้อนนั้นและก็คิดว่าเธอคงไม่ใช้มันจะรวบรวมไว้ให้ชายหนุ่มในวันที่เรียนจบเพื่อไว้สร้างตัว
“ไปพักผ่อนเถอะเดี๋ยวพี่ล้างจานเอง”
คนกลับมาจากทำงานเหนื่อย ๆ รีบลุกไปล้างจานทันทีเพราะกลัวว่าจะไม่ทันอีกฝ่ายแต่เขาก็ต้องถูกไล่กลับมาจนได้เพราะเฌอเอมไม่ต้องการให้แดนไตรต้องมาทำงานบ้านอีกในเมื่อเขาก็เหนื่อยกับงานที่ทำงานมาทั้งวัน
“พี่ทำให้ผมทุกอย่างแบบนี้ ผมรู้สึกไม่ดีเลยนะเพราะผมตั้งใจว่าจะเป็นคนดูแลพี่แต่ดูนี่สิเหมือนพี่ต่างหากที่เป็นคนดูแลผม”
แดนไตรไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้แต่มันตรงข้ามกับเฌอเอม เพราะเธอไม่เคยรู้สึกว่าเธอเป็นคนที่ต้องดูแลชายหนุ่มตรงหน้าเพราะหน้าที่ทำงานบ้านมันควรจะเป็นของผู้หญิงโดยเฉพาะตอนนี้เธอเป็นเพียงแค่คนว่างงานจึงอยากทำทุกอย่างที่เป็นงานบ้านเอง
“เธอคิดมากไปแดนทุกวันนี้เธอดูแลพี่ทุกอย่างรู้ไหมตั้งแต่พี่แต่งงานเวลาที่ไม่สบายก็ไม่เคยมีใครดูแลและไม่เคยมีใครช่วยแก้ปัญหาเวลาที่พี่มีเรื่องให้เครียดหรือแม้กระทั่งรองเท้าของที่พื้นหลุดพี่ก็ทำได้แค่เอาไปซ่อมที่ร้านหรือไม่ก็ทิ้งมันไปแต่ทุกวันนี้แดนทำให้พี่รู้สึกเหมือนว่าพี่มีช่างประจำตัวที่แก้ปัญหาให้พี่ได้ทุกเรื่อง”
ความรู้สึกของหญิงสาวคนหนึ่งที่ผิดพลาดจากชีวิตครอบครัวมาแล้วเธอไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่าการดูแลและปกป้องซึ่งแดนไตรก็ทำมันได้ดีในทุกวันดีจนเธอไม่อยากจะเสีย เขาไป เฌอเอมตัดสินใจว่าเธอจะเผชิญความจริงแต่มันคงไม่ใช่ในเร็ว ๆนี้เพราะเธอต้องการสร้าความเข้มแข็งให้ตัวเองมากกว่าที่เป็นอยู่
“พรุ่งนี้เธอเลิกงานเย็นไหมพี่อยากไปเลือกซื้อต้นไม้เพราะที่ระเบียงยังมีพื้นที่เหลือตั้งมากเวลากลางวันเราจะได้ไปนั่งเล่นได้”
“ได้สิครับผมจะรีบกลับมานะ”
วันว่างที่รอคอยก็มาถึงทั้งคู่พากันไปเลือกซื้อต้นไม้ที่เป็นต้นเล็ก ๆเหมาะแก่การปลูกในพื้นที่ที่จำกัดเพื่อทำให้ระเบียงที่กว้างขวางของคอนโดมิเนียมกลายเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจเป็นเหมือนที่ฟอกอากาศที่ตอนนี้ข้างนอกมีแต่มลพิษเต็มไปหมด
โต๊ะสำหรับดื่มกาแฟเล็ก ๆ ถูกตั้งไว้กลางระเบียงเฌอเอมตั้งใจว่าจะจัดมุมนี้ให้เป็นมุมสำหรับกินอาหารมื้อเช้า
“พี่ไปทำอาหารมื้อเย็นก่อนนะ”
“ไม่ต้องห่วงครับที่เหลือเดี๋ยวผมจัดการเอง”
แดนไตรยืนมองกองดอกไม้ต้นไม้กระถางและดินที่เขากับเฌอเอมซื้อมาด้วยความรู้สึกมีความสุข ทุกวันนี้นอกจากเขาจะได้ตื่นขึ้นมาในตอนเช้ามีคนคอยนอนอยู่ข้าง ๆ มีหมอนกอดที่แสนอบอุ่นมีอาหารเช้าและอาหารมื้อเย็นที่แสนอร่อยและเขายังมี หญิงสาวที่คอยเป็นเพื่อนใจในทุก ๆ เรื่อง ชายหนุ่มจึงตั้งใจว่าเขาจะ จัดสวนดอกไม้ต้นไม้บนระเบียงให้สวยงามเพื่อเป็นที่สำหรับเธอกับเขาได้ใช้พักผ่อนกันในช่วงกลางวันและเป็นสวนแห่งความรักของเขากับเธอด้วย
“ว้าว ! พี่ไปทำกับข้าวแป๊บเดียวเองจัดเสร็จแล้ว แดนเธอไปเรียนมาจากไหนหรือเปล่าจัดสวนได้สวยมากเลยนะ”
เฌอเอมเมื่อทำกับข้าวเสร็จกำลังจะออกมาตามคนสวนจำเป็นให้ไปกินข้าวกับเธอแต่กลับพบว่าสวนย่อมถูกจัดอย่างสวยงามเรียบร้อยแล้ว
“เรามากินอาหารเย็นกันข้างนอกดีกว่า...ผมขอไปล้างมือก่อนนะครับ”
แดนไตรเมื่อล้างมือเสร็จเขาก็ขอเป็นคนจัดโต๊ะอาหารเองโดยให้เฌอเอมเข้าไปอาบน้ำและแต่งตัวให้สวยที่สุด
เทียนที่ถูกจุดรอบระเบียงพร้อมด้วยไฟสีที่เป็นเส้นยาว ระยิบระยับรูปดวงดาวถูกคล้องอยู่ตามระเบียงอย่างสวยงาม
อาหารมื้อเย็นวันนี้ถึงแม้จะเป็นเพียงแค่การกินที่คอนโดแต่ชายหนุ่มก็สรรสร้างบรรยากาศเหมือนกับว่าทั้งคู่กำลังดินเนอร์อยู่กลางร้านอาหารที่ราคาแสนแพง
“ขอบคุณนะ เธอมีอะไรให้พี่เซอร์ไพรส์ได้ตลอดนอกจากเป็นนักศึกษาเธอยังเป็นชาวสวนแล้วนี่ก็เป็นยังนักตกแต่งสถานที่ด้วยสุดยอดจริง ๆ เด็กดื้อของพี่”
หญิงสาวโผเข้ากอดชายหนุ่มตรงหน้า เธอหอมแก้ม ฟอดใหญ่เพื่อเป็นรางวัลให้หนุมน้อยที่กำลังยืนยิ้มภูมิใจกับบรรยากาศที่เขาตั้งใจทำให้เธอ
“สุขสันต์วันครบรอบสามเดือนที่เรารู้จักกันนะครับ”
เฌอเอมถึงเธอจะรู้สึกรักในตัวแดนไตรแค่ไหนแต่เธอก็ยังจำไม่ได้เลยว่าเธอกับเขาเจอกันตั้งแต่วันไหนเมื่อไหร่ทั้งที่เธอเป็นผู้หญิงกลับเป็นแดนไตรที่จำทุกอย่างได้โดยละเอียด
“เธอจำได้ด้วยหรือว่าเราเจอกันครั้งแรกวันไหน”
“ผมจำทุกอย่างที่เกี่ยวกับพี่ได้ทุกเรื่องและไม่ใช่แค่จำแต่ผมจะไม่มีวันลืมมันจากหัวใจเด็ดขาด”
คำพูดแสนหวานที่เฌอเอมได้ยินไม่ว่าจะกี่ครั้งก็ไม่เคยรู้สึกเบื่อ หญิงสาวรู้สึกหัวใจเบ่งบานขึ้นทุกครั้งมันเป็นเหมือนยาชูกำลังที่ทำให้เธอรู้สึกมีคุณค่าเพราะตลอดเวลาที่เธอแต่งงานศักดิ์ศรี ความเป็นคนในชีวิตของเธอย่อยยับลงทุกวันแต่ทุกครั้งที่เธอได้อยู่กับแดนไตรเธอคือผู้หญิงที่มีคุณค่า เขาทำให้เธอเป็นผู้หญิงที่โชคดีที่สุด
“บางครั้งพี่ก็แอบคิดไม่ได้ว่าการที่สามีของพี่ทำร้ายพี่แบบนี้มันก็มีข้อดีเหมือนกันเพราะมันทำให้พี่ได้เจอกับเธอ ถ้าชีวิตของพี่ไม่ต้องเจอครอบครัวที่เลวร้ายไม่ต้องเจอผู้ชายที่กักขฬะแบบนั้นบางทีเราสองคนอาจเป็นเหมือนเส้นขนานที่ใช้ชีวิตเคียงข้างกันอยู่แต่ไม่มีวันพบเจอกันก็ได้...ขอบคุณฟ้าที่ส่งเธอมาให้พี่นะ”
ค่ำคืนนี้นอกจากอาหารมื้อเย็นที่แสนอร่อยแล้วหญิงสาวยังยอมยกทั้งร่างกายและหัวใจให้เป็นอาหารใจให้กับชายหนุ่มตรงหน้าเธอรักเขายังเต็มหัวใจแบบที่ไม่ต้องอายใครอีกแล้วถึงแม้เธอยังจะไม่เคยบอกกับเขาก็ตามแต่เฌอเอมมั่นใจว่าการกระทำของเธอสำคัญมากกว่าคำพูด หัวใจของเธอไม่มีสามีอยู่ในนั้นถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้เธอจะบอกตัวเองมาตลอดว่าเธอคงรักสามีได้แค่คนเดียวแต่วันนี้เฌอเอมรู้แล้วว่าความรักที่แท้จริงเป็นอย่างไรที่ผ่านมาเธอไม่เคยรักธเนศแต่เธอแค่รู้สึกไปตามหน้าที่เท่านั้น
ตอนที่ 8คำพูดที่ไม่มีใครเชื่อสวนย่อมขนาดเล็กริมระเบียงถูกจัดให้กลายเป็นที่ทำงานของเฌอเอมเพราะตอนนี้หญิงสาวตัดสินใจที่จะรับงานออกแบบฉลากสินค้ามาทำเพราะเธอเรียนมาทางด้านนี้และเป็นการทำงานที่ไม่ต้องออกไปพบปะผู้คนถึงแม้ว่าเงินในบัญชีของเธอจะยังคงมีมากมายก็ตามแต่ในเมื่อเธอตัดสินใจแล้วว่าเธอจะเริ่มต้นชีวิตใหม่จึงไม่อยากจะใช้เงินของพ่อและแม่อยากหาเงินใช้ด้วยตัวเอง‘แม่เข้าโรงพยาบาลนะ’ข้อความทางไลน์ที่พ่อของเธอส่งมาตั้งแต่เมื่อเช้าหญิงสาวไม่ได้กดอ่านเพราะปกติแล้วทั้งพ่อและแม่จะส่งข้อความมาตลอดจากตอนแรกที่เธอตัดสินใจหนีออกมาจากบ้านของธเนศทั้งคู่ก็ส่งข้อความมาต่อว่าจนเวลาผ่านไปจนถึงตอนนี้ทั้งคู่ก็เริ่มเปลี่ยนเป็นห่วงใยและต้องการให้เธอกลับไป เธอจึงคิดว่าข้อความที่ส่งมา เมื่อเช้าก็คงจะไม่ต่างจากทุกวันแต่สุดท้ายแล้วกลับเป็นข้อความที่สำคัญที่สุดเพราะบิดาแจ้งว่าตอนนี้มารดาของเธอกำลังไม่สบายอยู่ที่โรงพยาบาล“พี่ต้องกลับไปดูแม่กับข้าวอยู่บนโต๊ะแล้วนะ…พี่จะรีบกลับมาให้เร็วที่สุด”“พี่รอผมได้ไหมผมจะเข้าไปกับพี่” แดนไตรไม่อยากให้เฌอเอมกลับไปที่บ้านคนเดียวเพราะเขาไม่ไว้ใจในตัวธเนศถึงแม้ว่
ตอนที่ 9ละครโรงใหญ่“เอมกลับไปอยู่บ้านของเราเถอะนะ”ธเนศเมื่อมาถึงและได้เผชิญหน้ากับภรรยาของเขาอีกครั้งเขาก็ตีบทโศกแสดงท่าทางเสียใจน้ำตาอาบแก้มจนคนที่เป็นพ่อตาแม่ยายอดที่จะสงสารลูกเขยไม่ได้“ฉันคงไม่กลับไปเป็นกระสอบทรายหรือที่ระบายอารมณ์ให้ใครทั้งนั้น”เฌอเอมไม่มีอะไรที่ต้องปกปิดอีกต่อไป เธอพูดความรู้สึก ทุกอย่างออกมาจากหัวใจทันทีถึงแม้เธอจะรู้ว่าบุพการีทั้งคู่ของเธอต่างไม่มีใครเชื่อก็ตาม“เธอมีคนอื่นแล้วยังจะมาโยนความผิดให้พี่อีกหรือแต่ ไม่เป็นไรขอแค่เธอกลับไปอยู่ด้วยกันพี่ก็พร้อมจะให้อภัยและลืม ทุกอย่างอย่าทำให้คุณพ่อคุณแม่ต้องไม่สบายใจเลยนะ”ธเนศคว้ามือของหญิงสาวมาจับและหอมมันอย่างนุ่มนวล ทั้งที่ตลอดชีวิตการแต่งงานเธอไม่เคยได้สัมผัสถึงความรู้สึกแบบนี้เฌอเอมทั้งขยะแขยงทั้งอยากจะอาเจียนใส่คนตรงหน้า เธอไม่คิดเลยว่าผู้ชายจะสามารถแสดงละครได้ขนาดนี้“ที่ผ่านมาฉันเคยคิดว่าคุณเลวแต่วันนี้นอกจากจะเลวแล้วฉันยังรู้ว่าคุณเป็นผู้ชายที่ตอแหลอีกต่างหากไปเรียนแสดงละครที่ไหนมาถึงได้ตีบทแตกกระจุยแต่อย่าลืมว่าทุกอย่างที่คุณทำมันไม่ได้เป็นความลับ”เฌอเอมคว้าโทรศัพท์ที่เธอ
ตอนที่ 10โกหกรวีตัดสินใจที่จะปรึกษาทนายความแต่ทางทนายความแนะนำว่าถ้าขืนสู้คดีต่อไปกลัวว่าอาจจะเป็นฝ่ายแพ้เพราะบางทีทางฝ่ายของธเนศอาจจะมีหลักฐานที่หญิงสาวนอกใจไปมีชายอื่นทนายความจึงแนะนำให้เลือกวิธีไกล่เกลี่ยพูดคุยกัน“คุณธเนศเป็นผู้ชายที่ห่วงหน้าตาในสังคมมากผมว่าบางทีเราสามารถใช้จุดนี้ในการเอาชนะเขาก็ได้นะครับ”รวีเห็นด้วยกับสิ่งที่ทนายความแนะนำเขาจึงพยายามรวบรวมหลักฐานที่เฌอเอมส่งให้เพื่อใช้ขู่อีกฝ่ายว่าถ้าเรื่องราว การหย่าครั้งนี้ไม่เป็นไปโดยง่ายเรื่องราวทั้งหมดอาจจะถูกร่อนผ่านโลกโซเชียลและรับรองว่าความไวของสื่อสมัยนี้คงทำให้ธเนศได้เป็นผู้ชายที่โดนด่ามากที่สุดเพียงแค่ค่ำคืนเดียว“แต่ผมอยากจะแนะนำว่าถ้าคิดจะทำตามที่ผมบอกเราต้องมีหลักฐานให้มากพอเพราะถ้าทางโน้นมีหลักฐานที่แน่ชัดกว่าเรา เราก็อาจจะตกเป็นผู้ต้องหาในโลกโซเชียลก็ได้”รวีตัดสินใจโทรหาลูกสาวเพราะหวังว่าบางทีเฌอเอมอาจจะพอมีวิธีที่จะหาหลักฐานในการมัดตัวธเนศได้มากกว่านี้จากหลักฐานที่เธอมีอยู่เขาเป็นซาตานร้ายเป็นผู้ชายที่กล้าทำร้ายแม้กระทั่งผู้หญิงเป็นผู้ชายที่ไม่ใช่เป็นหัวหน้าครอบครัวเขาทำให้ภรรยามีแต่ความทุกข์แล
ตอนที่ 11ค่ำคืนที่ทำให้รู้จักคำว่ารักแท้“พี่พร้อมจะฟังทุกอย่างที่เธอต้องการจะพูดแต่พี่อาจจะไม่เชื่อนะ เธอคงเข้าใจว่าการที่เธอโกหกพี่แบบนี้มันทำให้พี่ไม่กล้าที่จะเชื่ออะไรในตัวเธออีกแล้ว”แดนไตรพยักหน้าเข้าใจเพราะตัวเขาเองก็คิดแล้วว่าถ้าเมื่อไหร่ความจริงของเขาถูกเปิดเผยถ้าเป็นตัวเขาเองโดนหลอกเหมือนอย่างที่ตัวเองกำลังทำอยู่เขาก็คงจะหมดความเชื่อถือในคนที่โกหก ชายหนุ่มจึงไม่คาดหวังว่าหญิงสาวจะเชื่อทุกอย่างโดยทันทีแต่อย่างน้อยเขาก็ดีใจที่เธอยังให้โอกาสเขาได้เล่าความจริงทุกอย่างแดนไตรเล่าเรื่องราวเหตุการณ์ตั้งแต่เมื่อ 4 ปีที่แล้วที่เขาตัดสินใจออกจากบ้านหลังใหญ่มาใช้ชีวิตที่คอนโดมิเนียมที่แม่ ของเขาซื้อให้ในวันเกิดเพราะตอนนั้นครอบครัวของเขากำลังเกิดปัญหาศรัณย์เป็นนักธุรกิจที่ถึงแม้จะมีอายุมากแล้วแต่ความมีเสน่ห์ของเขาก็ยังคงไม่แพ้หนุ่ม ๆ จึงทำให้มีสาวมาติดมากมายและเขาก็มักจะเลือกที่จะทำนิสัยเจ้าชู้จนทำให้ภาวีซึ่งเป็นแม่ของแดนไตรต้องเสียใจอยู่เรื่อย ๆ ชายหนุ่มจึงตัดสินใจว่าถ้ามารดายังเลือกที่จะอยู่กับคนเป็นพ่อเขาก็ขอที่จะไม่ทนเห็นภาพเหล่านั้น ภาวีไม่สามารถตัดใจจากสามีได้เธอจึงยอม
1เพราะเธอมันร้าย การหย่าครั้งนี้ทำชีวิตทั้งชีวิตของชายหนุ่มพัง ไมค์เริ่มต้นชีวิตแต่งงานกับเพียงใจ ตอนนั้นเขามีแค่ตัวกับหัวใจเพียงเท่านั้น วันนี้วันที่เขาต้องยอมเซ็นใบหย่า ให้ผู้หญิงที่เขาพยายามสร้างทุกสิ่งทุกอย่างมาเพื่อเธอ บ้าน รถ ที่ดิน และเงินในบัญชีมากมาย เพียงใจกลับไม่เรียกร้องขอสิ่งเหล่านั้น เธอกลับต้องการเพียงแค่อิสระเท่านั้น ชายหนุ่มนั่งมองใบหย่าและกำลังคิดว่าใครคือคนผิดในเรื่องนี้ สิ่งที่เขาได้รู้มา คือเพียงใจว่าจ้างบริษัทหนึ่งเพื่อหาข้อมูล ข้อบกพร่องของเขา มาใช้ในการขอหย่า และเป็นการหย่าแบบที่ไม่เรียกร้องอะไรทั้งสิ้น “เจ้าของบริษัทบ้าๆที่มันชอบทำให้ครอบครัวคนอื่นแตกแยกมันต้องรับผิดชอบ” ไมค์กำมือทั้งสองข้างแน่น เมื่อเขาบอกกับตัวเองได้ ว่าใครคือคนผิด เขาก็คิดที่จะหาทางเอาคืนให้สาสมทันที “พี่มาตามีลูกค้าเขาขอนัดคุยกับพี่ด่วน แต่เขาให้พี่ออกไปเจอเขานะ เพราะเขาบอกแต่เพียงว่าเป็นคนดังไม่อยากให้เรื่องนี้มีใครรู้มาก เขาโอนเงินมาเพื่อยืนยันว่าเขามีตัวตนหนึ่งแสนบาท แต่ชื่อที่โอนก็เป็นเพียงชื่อพนักงานทั่วไป ไม่ได้มีชื่อเสียงอ
2ชู้รัก****6เดือนที่แล้ว**** “ใจเย็นๆสิคะอรรถ ทำเป็นใจร้อนไปได้”เสียงหวานของเพียงใจยิ่งฟังยิ่งทำให้คนที่ซุกไซ้ซอกคอเธออยู่แทบบจะอดใจไม่ไหว“ผมหิวคุณไปทั้งตัวแล้วนะ จะให้ผมรออะไรอีกล่ะ”เจ้านายหุ่นล่ำบึกเสียงสั่นเพราะหัวใจมันกำลังเรียกร้อง หญิงสาวตรงหน้า“แหม...ก็แค่รอให้เปิดประตูห้องก่อนไม่ไหวเลยเหรอคะ”เพียงใจต้องพูดเตือนสติ เพระตอนนี้ทั้งเขาและเธอต่างก็มีครอบครัวแล้ว และตอนนี้ทั้งคู่ก็รู้จักกันในฐานะเจ้านายและลูกน้องเท่านั้น“ผมก็ลืมไปเลย เห็นหน้าคุณทีไร หัวใจมันทนไม่ไหวทุกที”“หัวใจหรืออะไรคะที่ทนไม่ไหว”เมื่อประตูห้องถูกเปิด เลขาสาวในชุดกระโปรงสั้นสีแดง ก็ถูกผลักลงบนเตียงทันที“ใจคอจะไม่ให้เพียงใจได้อาบน้ำก่อนเลยเหรอคะ”หญิงสาวรู้สึกไม่มั่นใจ เพราะเธอนั่งรถมาทั้งวันกว่าจะมาถึงที่ทะเล“ไม่ไหวล่ะ เอาตอนนี้ก่อน แล้วเดี๋ยว เราค่อยไปต่อในห้องน้ำกัน”อรรถพลตอนนี้ก็เปรียบได้กับเสือที่กำลังหิว และเหยื่อก็อยู่ตรงหน้า ถ้าขืนปล่อยให้หลุดมือไป คงไม่ใช่เสือผู้หญิงอย่างเขาแน่นอนเสื้อผ้าในชุดสีแดงทั้งตัวของเลขาสาว ถูกถอดออกกองไว้ที่ปลายเตียงนอน แม้แต่ชุดชั้นในตัวจิ๋ว ก็ถูกก
3ทำหน้าที่แทนภรรยา***ปัจจุบัน***หลังจากที่พยายามกลืนข้าวที่ชายหนุ่มเอามาให้ ลงท้องให้ได้มากที่สุดเพื่อจะมีแรงถ้าหากเธอพอมีทางที่จะหนีได้ “อร่อยใช่ไหม กินเกือบหมดเลย พรุ่งนี้จะได้ทำให้กินอีก เมนูนี้เพียงใจเขาชอบมากๆเลยนะ แต่ช่วงหลังผมยุ่งกับงาน จนไม่ได้ทำให้เธอกินเลย” เวลาที่ไมค์พูดกับเธอดีๆ มาตาฟังทีไรกลับรู้สึกสงสาร เพราะเสียงของเขามีความเศร้าปนอยู่ในนั้น เธอสัมผัสได้ “แล้วคุณกินข้าวหรือยัง”มาตาอดเป็นห่วงชายหนุ่มไม่ได้ เพราะเขาดูเหมือนคนไม่ได้กินไม่ได้นอนมาหลายวัน“ผมกินไปเมื่อกลางวันแล้ว มันกินไม่ลง คุณไม่ต้องเป็นห่วงว่าผมจะตายแล้วไม่มีใครพาคุณออกไปจากที่นี่หรอก”มาตาได้แต่มองหน้าชายหนุ่มที่ครั้งหนึ่งเขาคงเคยหล่อและดูดีเอามาก ๆ แต่ตอนนี้ใบหน้าของเขาหมองคล้ำ หนวดก็ขึ้นเต็มไปหมด เหมือนคนที่ไม่ดูแลตัวเอง“เสื้อผ้า ของเครื่องใช้สำหรับผู้หญิง ผมเอาของเพียงใจเอามาไว้ให้คุณใช้แทนแล้ว”“ของแบบนี้ใครเขาใช้ร่วมกัน” มาตาส่ายหัวไม่ยอมใช้ของที่ไมค์บอกว่ามันเคยเป็นของเพียงใจมาก่อน“คุณอยากรู้นักใช่ไหม ว่าผมจับคุณมาที่นี่เพื่ออะไร ก็เพื่อให้คุณทำทุกอย่างแทนที่เพียง
4ตัวแทน “ตื่นแล้วไปทำกับข้าวให้ผมกินด้วย เพียงใจเขาทำอะไรก็อร่อย” ชายหนุ่มในสภาพที่ยังไม่ได้ใส่เสื้อผ้า ออกปากสั่งผู้หญิงที่เขาจับตัวมา โดยที่ไม่แม้แต่จะหันมามองหน้าด้วยซ้ำไป มาตาจัดการใส่เสื้อผ้าของตัวเองให้เรียบร้อย น้ำตามันไหลไปตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงเช้านี้ หญิงสาวเลือกที่จะยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้ว ว่ามันกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้ ในครัวมีอุปกรณ์พร้อม ในตู้เย็นก็มีเนื้อสัตว์และผัก เพียงพอกับการทำอาหารได้อีกหลายมื้อ มาตาพยายามคิดว่าเธอสามารถทำกับข้าวอะไรเป็นบ้าง เพราะปกติเธอก็ใช้ชีวิตแบบคนสมัยใหม่ซื้อกินเอา “กับข้าวอะไร รูปร่างไม่ได้น่ากินเลย” ไมค์มองกลับข้าวบนโต๊ะที่หญิงสาวจัดวางไว้บนโต๊ะอาหาร ด้วยสายตาตำหนิ “ฉันทำได้แค่นี้แหละค่ะ” มาตาตอบห้วนๆ “ตอนเด็กๆ พ่อแม่ของเธอคงไม่เคยสอนเลยมั้ง โตมาถึงได้ทำอะไรไม่เป็น” ชายหนุ่มเริ่มลามไปถึงพ่อกับแม่ของเธอ “แม่ของฉันฆ่าตัวตายตั้งแต่ฉันยังไม่โตและพ่อก็แต่งงานใหม่ ส่วนมากฉันใช้ชีวิตอยู่คนเดียว” คำตอบของหญิงสาวทำให้ไมค์คิดถึงเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ที่เ