ตอนที่ 8
คำพูดที่ไม่มีใครเชื่อ
สวนย่อมขนาดเล็กริมระเบียงถูกจัดให้กลายเป็นที่ทำงานของเฌอเอมเพราะตอนนี้หญิงสาวตัดสินใจที่จะรับงานออกแบบฉลากสินค้ามาทำเพราะเธอเรียนมาทางด้านนี้และเป็นการทำงานที่ไม่ต้องออกไปพบปะผู้คนถึงแม้ว่าเงินในบัญชีของเธอจะยังคงมีมากมายก็ตามแต่ในเมื่อเธอตัดสินใจแล้วว่าเธอจะเริ่มต้นชีวิตใหม่จึงไม่อยากจะใช้เงินของพ่อและแม่อยากหาเงินใช้ด้วยตัวเอง
‘แม่เข้าโรงพยาบาลนะ’
ข้อความทางไลน์ที่พ่อของเธอส่งมาตั้งแต่เมื่อเช้าหญิงสาวไม่ได้กดอ่านเพราะปกติแล้วทั้งพ่อและแม่จะส่งข้อความมาตลอดจากตอนแรกที่เธอตัดสินใจหนีออกมาจากบ้านของธเนศทั้งคู่ก็ส่งข้อความมาต่อว่าจนเวลาผ่านไปจนถึงตอนนี้ทั้งคู่ก็เริ่มเปลี่ยนเป็นห่วงใยและต้องการให้เธอกลับไป เธอจึงคิดว่าข้อความที่ส่งมา เมื่อเช้าก็คงจะไม่ต่างจากทุกวันแต่สุดท้ายแล้วกลับเป็นข้อความที่สำคัญที่สุดเพราะบิดาแจ้งว่าตอนนี้มารดาของเธอกำลังไม่สบายอยู่ที่โรงพยาบาล
“พี่ต้องกลับไปดูแม่กับข้าวอยู่บนโต๊ะแล้วนะ…พี่จะรีบกลับมาให้เร็วที่สุด”
“พี่รอผมได้ไหมผมจะเข้าไปกับพี่”
แดนไตรไม่อยากให้เฌอเอมกลับไปที่บ้านคนเดียวเพราะเขาไม่ไว้ใจในตัวธเนศถึงแม้ว่าฝ่ายนั้นจะเงียบหายไปแล้วก็ตามแต่ด้วยความเป็นผู้ชายเหมือนกันเขาคิดว่าสามีของหญิงสาวคงแค่เงียบเพื่อรอเวลาเอาคืนเท่านั้น
“เวลานี้คงไม่เหมาะ คุณแม่ก็ยังไม่สบายอยู่พี่ไม่อยากทำให้ท่านต้องไม่สบายใจมากขึ้น”
“ครับผมเข้าใจดูแลตัวเองให้ดีนะครับ”
แดนไตรถึงแม้จะเป็นห่วงแค่ไหนแต่เขาก็เลือกที่จะทำให้หญิงสาวสบายใจด้วยการพยายามเข้าใจในสิ่งที่เธอพูดไม่อยากทำให้เธอเป็นกังวลทั้งที่ตัวเขาเองสุดแสนจะกังวลในหัวใจเขาไม่ไว้ใจจริง ๆ
“คุณพ่อโกหกเอมทำไมคะ”
หญิงสาวรีบกลับมาที่บ้านเพราะพ่อของเธอส่งข้อความไปบอกว่าตอนนี้ทางโรงพยาบาลให้แม่กลับมาแล้วแต่เมื่อเธอมาถึงกลับเห็นว่าคนที่เธอกำลังเป็นห่วงยังคงมีสีหน้าสดใสไม่ได้เป็นอะไร บิดาของเธอโกหก
“จะต้องรอให้แม่ตายก่อนจริง ๆ ใช่ไหมถึงจะกลับมาบ้านได้”
อมราไม่รั้งรอเพราะเธอเก็บความรู้สึกนี้อยู่ในมานาน หัวใจของคนเป็นแม่ตอนแรกรู้สึกโกรธลูกสาวที่ทำตัวแย่แบบนั้นแต่ตอนนี้เธอรู้สึกน้อยใจที่ตลอดเวลาสองเดือนกว่าที่เฌอเอมหนีออกจากบ้านสามีเธอไม่เคยติดต่อหรือกลับมาที่นี่เลยนอกจากการคุยทางข้อความกับบิดาเท่านั้นที่พอจะทำให้คนเป็นแม่ได้รู้ว่าลูกสาวยังคงมีชีวิตอยู่
“ เอมขอโทษที่ลูกไม่กล้ากลับมาเพราะกลัวว่าจะต้องเจอกับคุณธเนศ”
“คนที่ลูกกำลังพูดว่ากลัว เขาคือสามีนะแต่ผู้ชายที่ลูกไปอยู่ด้วยมันเป็นแค่เพียงชู้เท่านั้น”
เฌอเอมรู้สึกตกใจที่คนเป็นพ่อพูดออกมาตรง ๆ ทั้งที่ก่อนหน้านี้เธอไม่เคยให้บุพการีทั้งคู่ได้รับรู้ว่าเธอหนีไปอยู่กับใคร
“คุณพ่อรู้ได้ยังไงคะ”
“ธเนศเล่าให้พ่อฟังหมดแล้วว่าลูกมีผู้ชายคนอื่นถึงได้หนีไปแบบนั้น”
รวีทำท่าทางเหมือนคนกำลังจะหมดแรงเขากำลังรู้สึกแย่กับพฤติกรรมของลูกสาวโดยที่ไม่คิดจะถามเลยสักคำว่า ความเป็นจริงมันเกิดอะไรขึ้นบ้างเฌอเอมถึงได้ตัดสินใจทำแบบนั้น
“แล้วคุณธเนศของคุณพ่อได้บอกไหมคะว่าเขาทำอะไรกับเอมบ้างเอมถึงได้ตัดสินใจทำตัวเป็นผู้หญิงแย่ ๆ แบบนั้นถ้าเขาไม่บอกเอมจะเล่าให้คุณพ่อฟังทุกอย่างเองค่ะ”
หญิงสาวเริ่มเล่าเรื่องราวทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบตลอดเวลาครึ่งปีหลังจากการแต่งงานที่เธอต้องทนเป็นกระสอบทรายเป็นที่ระบายอารมณ์ให้กับคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีที่ถูกต้องตามกฎหมาย รวีทำท่าตกใจแต่สุดท้ายเขากลับไม่เชื่อในสิ่งที่ลูกสาวพูดเพราะภายนอกธเนศนั้นดูเป็นสุภาพบุรุษและก่อนวันที่รวีจะตัดสินใจโกหกเฌอเอมว่าแม่ของเธอเข้าโรงพยาบาลธเนศก็ได้มาที่บ้านหลังนี้เขาบีบน้ำตาทำตัวน่าสงสารเหมือนว่าเขาคือผู้ถูกกระทำทั้งที่ก่อนหน้านี้เขารักภรรยาสุดหัวใจและคนที่เป็นพ่อตาก็เชื่อทุกคำที่ลูกเขยพูด
“เราค่อยคุยเรื่องนี้กันวันหลังดีกว่า พ่อลืมยาของแม่ไว้ในห้องเก็บของข้างล่างเพราะเผลอไปวางพร้อมกับของที่จะเก็บ เอมไปหยิบให้พ่อหน่อยนะ”
เฌอเอมถึงแม้จะรู้สึกได้ว่าพ่อของเธอไม่เชื่อในสิ่งที่เธอพูดเลยสักคำแต่ในเมื่ออีกฝ่ายเลือกที่จะเปลี่ยนเรื่องและขอร้องให้เธอไปหยิบของให้เธอจึงรีบไปทำตามเพราะกลัวว่าแม่ของเธอจะ กินยาช้าถึงแม้อมราจะไม่ได้ป่วยจริงเหมือนอย่างที่รวีโกหกแต่เธอก็เป็นคนแก่ที่มีโรคประจำตัวอยู่ไม่ใช่น้อย
“คุณพ่อขังเอมทำไมคะ ! ปล่อยเอมออกไปเดี๋ยวนี้”
เฌอเอมเข้าไปในห้องเก็บของข้างล่างได้เพียงแค่ไม่ถึงหนึ่งนาที เธอก็ถูกอีกฝ่ายปิดล็อกห้องจากด้านนอก หญิงสาวจึงรู้ว่าเธอถูกหลอกให้เข้ามาอยู่ในนี้เพื่อที่จะขังเธอไว้
“พ่อไม่ได้อยากทำแบบนี้แต่เอมรู้ไหมครอบครัวของเรา ถูกนินทาว่าร้ายไปทั่วดีนะที่คุณธเนศพยายามบอกทุกคนว่าเป็นเพียงแค่ข่าวลือตอนนี้ลูกแค่ไม่สบายและรักษาตัวอยู่ในบ้านเท่านั้นลูกไม่ต้องหวังอ้อนวอนให้พ่อปล่อยไปเพราะพ่อจะโทรตามคุณธเนศมาที่นี่เพื่อให้เขากับลูกได้ปรับความเข้าใจกัน”
หัวใจของหญิงสาวแหลกสลายนาทีนี้เธอไม่คิดเลยว่า ความจริงที่เธอเล่าตั้งแต่ต้นจนจบให้พ่อและแม่ฟังจะเป็นเพียงแค่อากาศที่ไม่มีความหมายไม่มีใครเชื่อเธอ ทุกคนเชื่อคำพูดที่ไม่มีความจริงอยู่ในนั้นของธเนศแต่กลับไม่เชื่อความจริงที่เธอพยายามพร่ำบอก
“โทรศัพท์”
เฌอเอมพยายามค้นโทรศัพท์ในตัวแต่เธอก็นึกขึ้นมาได้ว่าตอนที่เธอเดินมาที่ห้องเก็บของเธอวางมันไว้ที่ห้องรับแขกเวลานี้จึงไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไปจากที่ตั้งใจว่าจะโทรศัพท์แจ้งตำรวจให้ เข้ามาช่วยเธอเพราะเธอไม่มีวันที่จะยอมเจอหน้าธเนศในเวลานี้เด็ดขาด
“พี่ไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นกับเอม”
ลินินรู้สึกตกใจเมื่อได้รับโทรศัพท์จากแดนไตรว่าเขา ไม่สามารถติดต่อเฌอเอมได้หลังจากที่เธอเดินทางไปถึงบ้านโทรไปกี่ครั้งก็พบว่าโทรศัพท์ปิดเครื่อง
“ผมว่าต้องเกิดเรื่องไม่ดีกับพี่เอมแน่ ๆ เพราะก่อนที่จะไปพี่เขาบอกว่าจะรีบกลับมาพี่นินครับช่วยพาผมไปที่บ้านพี่เอมจะได้ไหม”
ลินินคิดว่าการไปเปิดตัวของแดนไตรในเวลานี้คงไม่เหมาะสมเพราะถ้าเฌอเอมปิดเครื่องโทรศัพท์แบบนี้แปลว่าสถานการณ์ที่บ้านคงจะไม่ปกติแน่นอนคนเป็นเพื่อนจึงเลือกที่จะเดินทางไปดูด้วยตัวเอง
“เฌอเอมไม่ได้มาที่นี่ก็อย่างที่ลินินรู้ว่าเอมตัดสินใจหนีธเนศไปทุกวันนี้พ่อกับแม่ก็ติดต่อไม่ได้”
อมราเดินมาต้อนรับเพื่อนของลูกสาวด้วยคำโกหกเพราะเวลานี้เธอกำลังรอเวลาที่ธเนศจะเดินทางมาถึงจึงพยายามรีบพูดเพื่อให้ลินินเดินทางกลับออกไปเพราะถ้าธเนศเดินทางมาที่นี่ลินินต้องรู้ความจริงว่าเฌอเอมยังคงอยู่ในบ้าน
“เอมบอกหนูว่าเขาจะกลับมาบ้านเพราะคุณแม่อยู่โรงพยาบาลแล้วทำไมคุณแม่ดูไม่เหมือนคนป่วยเลยคะ”
ลินินรู้ว่ามันเป็นการเสียมารยาทที่เธอพูดกับผู้ใหญ่แบบนี้แต่เวลานี้เธอรู้สึกเป็นห่วงเพื่อนสาวเอามาก ๆ การที่เฌอเอมปิดเครื่องโทรศัพท์และก็ไม่ออกมาพบเธอแม้ว่าเธอจะมาถึงบ้าน แสดงว่าหญิงสาวต้องกำลังตกอยู่ในอันตราย
“เขาก็บอกกับแม่ว่าจะมาแต่เขาก็ไม่มาส่วนที่ลูกคิดว่าทำไมแม่ดูเหมือนคนไม่สบายแม่ก็คงไม่รู้จะตอบอย่างไรนะในเมื่อลินินพูดจาแบบนี้แม่ว่าหนูกลับไปเถอะแม่ไม่อยากคุยกับเด็กที่ พูดจาก้าวร้าว”
อมราเล่นบทหน้าเครียดทันที เธอทำสีหน้าให้อีกฝ่ายรู้ว่าเธอรู้สึกไม่พอใจก่อนที่จะเดินกลับเข้าบ้านเป็นการส่งแขกไปในตัว
คนเป็นเพื่อนเมื่อไม่ได้คำตอบว่าเวลานี้เฌอเอมอยู่ที่ไหนแต่เธอมั่นใจว่าเพื่อนของเธอต้องอยู่ในบ้านหลังนี้ หญิงสาวจึงตัดสินใจที่จะโทรศัพท์ตามแดนไตรให้มาที่บ้านของเฌอเอมและทั้งคู่ก็เลือกที่จะจอดรถเฝ้าดูอยู่ที่หน้าบ้านแต่ระหว่างที่ลินินจอดรถรออยู่และแดนไตรยังมาไม่ถึง เธอก็ได้เห็นว่ารถของธเนศได้ขับเข้ามาในบ้านของเพื่อนเธอ
“ฉันจะช่วยแกยังไงดีวะเฌอเอม”
ลินินมั่นใจแล้วว่าครอบครัวของเฌอเอมวางแผนทั้งหมดเพื่อให้หญิงสาวมาติดกับดักและโทรตามธเนศเพื่อให้มาเจอกับภรรยาแต่ลินินไม่รู้เลยว่าภายใต้แผนที่อมราและรวีวางไว้ทั้งคู่ได้รับทราบแล้วว่าคนเป็นลูกเขยได้ทำอย่างไรกับลูกสาวบ้าง
“เราเข้าไปข้างในกันเลยไหมครับ”
แดนไตรมาถึง เขาโทรศัพท์ตามให้ลินินขึ้นมานั่งอยู่บนรถของเขาเพราะไม่มั่นใจว่าธเนศจะจำรถเพื่อนของภรรยาได้ไหมแต่ถ้าเป็นรถของชายหนุ่มเขาไม่เคยรู้จักน่าจะปลอดภัยมากกว่า
“พี่ว่าถ้าเข้าไปตอนนี้เราจะมีแต่เสียเปรียบเพราะคุณธเนศเป็นสามีที่ถูกต้องตามกฎหมายและดูแล้วพ่อแม่ของเฌอเอมก็น่าจะเชื่อลูกเขยมากกว่า เรารอดูเหตุการณ์ก่อนดีกว่าอย่างน้อยธเนศคงไม่กล้าทำร้ายเอมที่บ้านของเธอแน่”
ชายหนุ่มรู้สึกเป็นห่วงกระวนกระวายใจไปหมดแต่เขาเชื่อในคำพูดของลินินว่าถ้าเขาวู่วามเข้าไปในตอนนี้มีแต่จะสร้าง ความเสียหายและแผนในอนาคตที่เขากับเฌอเอมเคยวางไว้ว่าเธอจะหาหลักฐานเพื่อมาใช้ในการฟ้องหย่ามันอาจจะกลายเป็นตัวเฌอเอมเองที่เป็นฝ่ายเสียเปรียบ
ตอนที่ 9ละครโรงใหญ่“เอมกลับไปอยู่บ้านของเราเถอะนะ”ธเนศเมื่อมาถึงและได้เผชิญหน้ากับภรรยาของเขาอีกครั้งเขาก็ตีบทโศกแสดงท่าทางเสียใจน้ำตาอาบแก้มจนคนที่เป็นพ่อตาแม่ยายอดที่จะสงสารลูกเขยไม่ได้“ฉันคงไม่กลับไปเป็นกระสอบทรายหรือที่ระบายอารมณ์ให้ใครทั้งนั้น”เฌอเอมไม่มีอะไรที่ต้องปกปิดอีกต่อไป เธอพูดความรู้สึก ทุกอย่างออกมาจากหัวใจทันทีถึงแม้เธอจะรู้ว่าบุพการีทั้งคู่ของเธอต่างไม่มีใครเชื่อก็ตาม“เธอมีคนอื่นแล้วยังจะมาโยนความผิดให้พี่อีกหรือแต่ ไม่เป็นไรขอแค่เธอกลับไปอยู่ด้วยกันพี่ก็พร้อมจะให้อภัยและลืม ทุกอย่างอย่าทำให้คุณพ่อคุณแม่ต้องไม่สบายใจเลยนะ”ธเนศคว้ามือของหญิงสาวมาจับและหอมมันอย่างนุ่มนวล ทั้งที่ตลอดชีวิตการแต่งงานเธอไม่เคยได้สัมผัสถึงความรู้สึกแบบนี้เฌอเอมทั้งขยะแขยงทั้งอยากจะอาเจียนใส่คนตรงหน้า เธอไม่คิดเลยว่าผู้ชายจะสามารถแสดงละครได้ขนาดนี้“ที่ผ่านมาฉันเคยคิดว่าคุณเลวแต่วันนี้นอกจากจะเลวแล้วฉันยังรู้ว่าคุณเป็นผู้ชายที่ตอแหลอีกต่างหากไปเรียนแสดงละครที่ไหนมาถึงได้ตีบทแตกกระจุยแต่อย่าลืมว่าทุกอย่างที่คุณทำมันไม่ได้เป็นความลับ”เฌอเอมคว้าโทรศัพท์ที่เธอ
ตอนที่ 10โกหกรวีตัดสินใจที่จะปรึกษาทนายความแต่ทางทนายความแนะนำว่าถ้าขืนสู้คดีต่อไปกลัวว่าอาจจะเป็นฝ่ายแพ้เพราะบางทีทางฝ่ายของธเนศอาจจะมีหลักฐานที่หญิงสาวนอกใจไปมีชายอื่นทนายความจึงแนะนำให้เลือกวิธีไกล่เกลี่ยพูดคุยกัน“คุณธเนศเป็นผู้ชายที่ห่วงหน้าตาในสังคมมากผมว่าบางทีเราสามารถใช้จุดนี้ในการเอาชนะเขาก็ได้นะครับ”รวีเห็นด้วยกับสิ่งที่ทนายความแนะนำเขาจึงพยายามรวบรวมหลักฐานที่เฌอเอมส่งให้เพื่อใช้ขู่อีกฝ่ายว่าถ้าเรื่องราว การหย่าครั้งนี้ไม่เป็นไปโดยง่ายเรื่องราวทั้งหมดอาจจะถูกร่อนผ่านโลกโซเชียลและรับรองว่าความไวของสื่อสมัยนี้คงทำให้ธเนศได้เป็นผู้ชายที่โดนด่ามากที่สุดเพียงแค่ค่ำคืนเดียว“แต่ผมอยากจะแนะนำว่าถ้าคิดจะทำตามที่ผมบอกเราต้องมีหลักฐานให้มากพอเพราะถ้าทางโน้นมีหลักฐานที่แน่ชัดกว่าเรา เราก็อาจจะตกเป็นผู้ต้องหาในโลกโซเชียลก็ได้”รวีตัดสินใจโทรหาลูกสาวเพราะหวังว่าบางทีเฌอเอมอาจจะพอมีวิธีที่จะหาหลักฐานในการมัดตัวธเนศได้มากกว่านี้จากหลักฐานที่เธอมีอยู่เขาเป็นซาตานร้ายเป็นผู้ชายที่กล้าทำร้ายแม้กระทั่งผู้หญิงเป็นผู้ชายที่ไม่ใช่เป็นหัวหน้าครอบครัวเขาทำให้ภรรยามีแต่ความทุกข์แล
ตอนที่ 11ค่ำคืนที่ทำให้รู้จักคำว่ารักแท้“พี่พร้อมจะฟังทุกอย่างที่เธอต้องการจะพูดแต่พี่อาจจะไม่เชื่อนะ เธอคงเข้าใจว่าการที่เธอโกหกพี่แบบนี้มันทำให้พี่ไม่กล้าที่จะเชื่ออะไรในตัวเธออีกแล้ว”แดนไตรพยักหน้าเข้าใจเพราะตัวเขาเองก็คิดแล้วว่าถ้าเมื่อไหร่ความจริงของเขาถูกเปิดเผยถ้าเป็นตัวเขาเองโดนหลอกเหมือนอย่างที่ตัวเองกำลังทำอยู่เขาก็คงจะหมดความเชื่อถือในคนที่โกหก ชายหนุ่มจึงไม่คาดหวังว่าหญิงสาวจะเชื่อทุกอย่างโดยทันทีแต่อย่างน้อยเขาก็ดีใจที่เธอยังให้โอกาสเขาได้เล่าความจริงทุกอย่างแดนไตรเล่าเรื่องราวเหตุการณ์ตั้งแต่เมื่อ 4 ปีที่แล้วที่เขาตัดสินใจออกจากบ้านหลังใหญ่มาใช้ชีวิตที่คอนโดมิเนียมที่แม่ ของเขาซื้อให้ในวันเกิดเพราะตอนนั้นครอบครัวของเขากำลังเกิดปัญหาศรัณย์เป็นนักธุรกิจที่ถึงแม้จะมีอายุมากแล้วแต่ความมีเสน่ห์ของเขาก็ยังคงไม่แพ้หนุ่ม ๆ จึงทำให้มีสาวมาติดมากมายและเขาก็มักจะเลือกที่จะทำนิสัยเจ้าชู้จนทำให้ภาวีซึ่งเป็นแม่ของแดนไตรต้องเสียใจอยู่เรื่อย ๆ ชายหนุ่มจึงตัดสินใจว่าถ้ามารดายังเลือกที่จะอยู่กับคนเป็นพ่อเขาก็ขอที่จะไม่ทนเห็นภาพเหล่านั้น ภาวีไม่สามารถตัดใจจากสามีได้เธอจึงยอม
1เพราะเธอมันร้าย การหย่าครั้งนี้ทำชีวิตทั้งชีวิตของชายหนุ่มพัง ไมค์เริ่มต้นชีวิตแต่งงานกับเพียงใจ ตอนนั้นเขามีแค่ตัวกับหัวใจเพียงเท่านั้น วันนี้วันที่เขาต้องยอมเซ็นใบหย่า ให้ผู้หญิงที่เขาพยายามสร้างทุกสิ่งทุกอย่างมาเพื่อเธอ บ้าน รถ ที่ดิน และเงินในบัญชีมากมาย เพียงใจกลับไม่เรียกร้องขอสิ่งเหล่านั้น เธอกลับต้องการเพียงแค่อิสระเท่านั้น ชายหนุ่มนั่งมองใบหย่าและกำลังคิดว่าใครคือคนผิดในเรื่องนี้ สิ่งที่เขาได้รู้มา คือเพียงใจว่าจ้างบริษัทหนึ่งเพื่อหาข้อมูล ข้อบกพร่องของเขา มาใช้ในการขอหย่า และเป็นการหย่าแบบที่ไม่เรียกร้องอะไรทั้งสิ้น “เจ้าของบริษัทบ้าๆที่มันชอบทำให้ครอบครัวคนอื่นแตกแยกมันต้องรับผิดชอบ” ไมค์กำมือทั้งสองข้างแน่น เมื่อเขาบอกกับตัวเองได้ ว่าใครคือคนผิด เขาก็คิดที่จะหาทางเอาคืนให้สาสมทันที “พี่มาตามีลูกค้าเขาขอนัดคุยกับพี่ด่วน แต่เขาให้พี่ออกไปเจอเขานะ เพราะเขาบอกแต่เพียงว่าเป็นคนดังไม่อยากให้เรื่องนี้มีใครรู้มาก เขาโอนเงินมาเพื่อยืนยันว่าเขามีตัวตนหนึ่งแสนบาท แต่ชื่อที่โอนก็เป็นเพียงชื่อพนักงานทั่วไป ไม่ได้มีชื่อเสียงอ
2ชู้รัก****6เดือนที่แล้ว**** “ใจเย็นๆสิคะอรรถ ทำเป็นใจร้อนไปได้”เสียงหวานของเพียงใจยิ่งฟังยิ่งทำให้คนที่ซุกไซ้ซอกคอเธออยู่แทบบจะอดใจไม่ไหว“ผมหิวคุณไปทั้งตัวแล้วนะ จะให้ผมรออะไรอีกล่ะ”เจ้านายหุ่นล่ำบึกเสียงสั่นเพราะหัวใจมันกำลังเรียกร้อง หญิงสาวตรงหน้า“แหม...ก็แค่รอให้เปิดประตูห้องก่อนไม่ไหวเลยเหรอคะ”เพียงใจต้องพูดเตือนสติ เพระตอนนี้ทั้งเขาและเธอต่างก็มีครอบครัวแล้ว และตอนนี้ทั้งคู่ก็รู้จักกันในฐานะเจ้านายและลูกน้องเท่านั้น“ผมก็ลืมไปเลย เห็นหน้าคุณทีไร หัวใจมันทนไม่ไหวทุกที”“หัวใจหรืออะไรคะที่ทนไม่ไหว”เมื่อประตูห้องถูกเปิด เลขาสาวในชุดกระโปรงสั้นสีแดง ก็ถูกผลักลงบนเตียงทันที“ใจคอจะไม่ให้เพียงใจได้อาบน้ำก่อนเลยเหรอคะ”หญิงสาวรู้สึกไม่มั่นใจ เพราะเธอนั่งรถมาทั้งวันกว่าจะมาถึงที่ทะเล“ไม่ไหวล่ะ เอาตอนนี้ก่อน แล้วเดี๋ยว เราค่อยไปต่อในห้องน้ำกัน”อรรถพลตอนนี้ก็เปรียบได้กับเสือที่กำลังหิว และเหยื่อก็อยู่ตรงหน้า ถ้าขืนปล่อยให้หลุดมือไป คงไม่ใช่เสือผู้หญิงอย่างเขาแน่นอนเสื้อผ้าในชุดสีแดงทั้งตัวของเลขาสาว ถูกถอดออกกองไว้ที่ปลายเตียงนอน แม้แต่ชุดชั้นในตัวจิ๋ว ก็ถูกก
3ทำหน้าที่แทนภรรยา***ปัจจุบัน***หลังจากที่พยายามกลืนข้าวที่ชายหนุ่มเอามาให้ ลงท้องให้ได้มากที่สุดเพื่อจะมีแรงถ้าหากเธอพอมีทางที่จะหนีได้ “อร่อยใช่ไหม กินเกือบหมดเลย พรุ่งนี้จะได้ทำให้กินอีก เมนูนี้เพียงใจเขาชอบมากๆเลยนะ แต่ช่วงหลังผมยุ่งกับงาน จนไม่ได้ทำให้เธอกินเลย” เวลาที่ไมค์พูดกับเธอดีๆ มาตาฟังทีไรกลับรู้สึกสงสาร เพราะเสียงของเขามีความเศร้าปนอยู่ในนั้น เธอสัมผัสได้ “แล้วคุณกินข้าวหรือยัง”มาตาอดเป็นห่วงชายหนุ่มไม่ได้ เพราะเขาดูเหมือนคนไม่ได้กินไม่ได้นอนมาหลายวัน“ผมกินไปเมื่อกลางวันแล้ว มันกินไม่ลง คุณไม่ต้องเป็นห่วงว่าผมจะตายแล้วไม่มีใครพาคุณออกไปจากที่นี่หรอก”มาตาได้แต่มองหน้าชายหนุ่มที่ครั้งหนึ่งเขาคงเคยหล่อและดูดีเอามาก ๆ แต่ตอนนี้ใบหน้าของเขาหมองคล้ำ หนวดก็ขึ้นเต็มไปหมด เหมือนคนที่ไม่ดูแลตัวเอง“เสื้อผ้า ของเครื่องใช้สำหรับผู้หญิง ผมเอาของเพียงใจเอามาไว้ให้คุณใช้แทนแล้ว”“ของแบบนี้ใครเขาใช้ร่วมกัน” มาตาส่ายหัวไม่ยอมใช้ของที่ไมค์บอกว่ามันเคยเป็นของเพียงใจมาก่อน“คุณอยากรู้นักใช่ไหม ว่าผมจับคุณมาที่นี่เพื่ออะไร ก็เพื่อให้คุณทำทุกอย่างแทนที่เพียง
4ตัวแทน “ตื่นแล้วไปทำกับข้าวให้ผมกินด้วย เพียงใจเขาทำอะไรก็อร่อย” ชายหนุ่มในสภาพที่ยังไม่ได้ใส่เสื้อผ้า ออกปากสั่งผู้หญิงที่เขาจับตัวมา โดยที่ไม่แม้แต่จะหันมามองหน้าด้วยซ้ำไป มาตาจัดการใส่เสื้อผ้าของตัวเองให้เรียบร้อย น้ำตามันไหลไปตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงเช้านี้ หญิงสาวเลือกที่จะยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้ว ว่ามันกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้ ในครัวมีอุปกรณ์พร้อม ในตู้เย็นก็มีเนื้อสัตว์และผัก เพียงพอกับการทำอาหารได้อีกหลายมื้อ มาตาพยายามคิดว่าเธอสามารถทำกับข้าวอะไรเป็นบ้าง เพราะปกติเธอก็ใช้ชีวิตแบบคนสมัยใหม่ซื้อกินเอา “กับข้าวอะไร รูปร่างไม่ได้น่ากินเลย” ไมค์มองกลับข้าวบนโต๊ะที่หญิงสาวจัดวางไว้บนโต๊ะอาหาร ด้วยสายตาตำหนิ “ฉันทำได้แค่นี้แหละค่ะ” มาตาตอบห้วนๆ “ตอนเด็กๆ พ่อแม่ของเธอคงไม่เคยสอนเลยมั้ง โตมาถึงได้ทำอะไรไม่เป็น” ชายหนุ่มเริ่มลามไปถึงพ่อกับแม่ของเธอ “แม่ของฉันฆ่าตัวตายตั้งแต่ฉันยังไม่โตและพ่อก็แต่งงานใหม่ ส่วนมากฉันใช้ชีวิตอยู่คนเดียว” คำตอบของหญิงสาวทำให้ไมค์คิดถึงเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ที่เ
5ผู้ชายที่แสนร้าย คืนนี้มาตายกเอาผ้าห่มกับหมอนมานอน ที่พื้นข้างๆโซฟา เพื่ออยู่เป็นเพื่อนคนเมา เพราะถ้าจะให้เธอลากเขาเข้าไปห้องนอนไม่ไหวแน่ สภาพของไมค์ตอนนี้ ช่างแตกต่างจากชายหนุ่มในวันที่มาตายังเรียนอยู่ชั้นมัธยมและเธอก็แอบปลื้มเขา ในวันที่เขาติดต่อผ่านมาทางครูของเธอเพื่อช่วยเหลือเรื่องทุนการศึกษา ตอนที่หญิงสาวเรียนจบ เธออยากไปขอบคุณเขา แต่ชายหนุ่มเองบอกข้อตกลงไว้ตั้งแต่เริ่มแรกว่า เขาไม่ต้องการทำความรู้จักกับเด็กที่เขาให้ทุน เพราะต้องการช่วยเหลือแบบไม่หวังสิ่งตอบแทน “หิวน้ำขอน้ำหน่อย” หญิงสาวสะดุ้งลุกขึ้นทันที เมื่อได้ยินคนเมาร้องขอน้ำ แต่เขาไม่ยอมลุกหญิงสาวจึงค่อยปล้อนให้ แต่ด้วยความไม่ถนัด น้ำจึงหกรดเสื้อผ้า ไมค์โมโหคว้าแก้วได้ ขว้างกระแทกกำแพงจนแตก เพล้ง! แก้วแตกกระจาย หญิงสาวมองหน้าคนที่อยู่ในอ้อมแขนเธอมาตาปลอยแขนออกทันที จนศีรษะของชายหนุ่มกระแทกลงกับขอบโซฟา “โอ๊ะ! อีคนชอบทำลายครอบครัวคนอื่นเขา ไป!อยากไปไหนก็ไป” ไมค์ชี้ไม้ชี้มือไล่มาตา โดยที่ตัวเองยังลืมตาแทบไม่ขึ้น ความอดทนของหญิงสาวถึงที่สุ