Share

คำพูดที่ไม่มีใครเชื่อ  

ตอนที่ 8

คำพูดที่ไม่มีใครเชื่อ

สวนย่อมขนาดเล็กริมระเบียงถูกจัดให้กลายเป็นที่ทำงานของเฌอเอมเพราะตอนนี้หญิงสาวตัดสินใจที่จะรับงานออกแบบฉลากสินค้ามาทำเพราะเธอเรียนมาทางด้านนี้และเป็นการทำงานที่ไม่ต้องออกไปพบปะผู้คนถึงแม้ว่าเงินในบัญชีของเธอจะยังคงมีมากมายก็ตามแต่ในเมื่อเธอตัดสินใจแล้วว่าเธอจะเริ่มต้นชีวิตใหม่จึงไม่อยากจะใช้เงินของพ่อและแม่อยากหาเงินใช้ด้วยตัวเอง

‘แม่เข้าโรงพยาบาลนะ’

ข้อความทางไลน์ที่พ่อของเธอส่งมาตั้งแต่เมื่อเช้าหญิงสาวไม่ได้กดอ่านเพราะปกติแล้วทั้งพ่อและแม่จะส่งข้อความมาตลอดจากตอนแรกที่เธอตัดสินใจหนีออกมาจากบ้านของธเนศทั้งคู่ก็ส่งข้อความมาต่อว่าจนเวลาผ่านไปจนถึงตอนนี้ทั้งคู่ก็เริ่มเปลี่ยนเป็นห่วงใยและต้องการให้เธอกลับไป เธอจึงคิดว่าข้อความที่ส่งมา              เมื่อเช้าก็คงจะไม่ต่างจากทุกวันแต่สุดท้ายแล้วกลับเป็นข้อความที่สำคัญที่สุดเพราะบิดาแจ้งว่าตอนนี้มารดาของเธอกำลังไม่สบายอยู่ที่โรงพยาบาล

“พี่ต้องกลับไปดูแม่กับข้าวอยู่บนโต๊ะแล้วนะ…พี่จะรีบกลับมาให้เร็วที่สุด”

“พี่รอผมได้ไหมผมจะเข้าไปกับพี่”

 แดนไตรไม่อยากให้เฌอเอมกลับไปที่บ้านคนเดียวเพราะเขาไม่ไว้ใจในตัวธเนศถึงแม้ว่าฝ่ายนั้นจะเงียบหายไปแล้วก็ตามแต่ด้วยความเป็นผู้ชายเหมือนกันเขาคิดว่าสามีของหญิงสาวคงแค่เงียบเพื่อรอเวลาเอาคืนเท่านั้น

“เวลานี้คงไม่เหมาะ คุณแม่ก็ยังไม่สบายอยู่พี่ไม่อยากทำให้ท่านต้องไม่สบายใจมากขึ้น”

“ครับผมเข้าใจดูแลตัวเองให้ดีนะครับ”

แดนไตรถึงแม้จะเป็นห่วงแค่ไหนแต่เขาก็เลือกที่จะทำให้หญิงสาวสบายใจด้วยการพยายามเข้าใจในสิ่งที่เธอพูดไม่อยากทำให้เธอเป็นกังวลทั้งที่ตัวเขาเองสุดแสนจะกังวลในหัวใจเขาไม่ไว้ใจจริง ๆ

“คุณพ่อโกหกเอมทำไมคะ”

หญิงสาวรีบกลับมาที่บ้านเพราะพ่อของเธอส่งข้อความไปบอกว่าตอนนี้ทางโรงพยาบาลให้แม่กลับมาแล้วแต่เมื่อเธอมาถึงกลับเห็นว่าคนที่เธอกำลังเป็นห่วงยังคงมีสีหน้าสดใสไม่ได้เป็นอะไร บิดาของเธอโกหก

“จะต้องรอให้แม่ตายก่อนจริง ๆ ใช่ไหมถึงจะกลับมาบ้านได้”

อมราไม่รั้งรอเพราะเธอเก็บความรู้สึกนี้อยู่ในมานาน หัวใจของคนเป็นแม่ตอนแรกรู้สึกโกรธลูกสาวที่ทำตัวแย่แบบนั้นแต่ตอนนี้เธอรู้สึกน้อยใจที่ตลอดเวลาสองเดือนกว่าที่เฌอเอมหนีออกจากบ้านสามีเธอไม่เคยติดต่อหรือกลับมาที่นี่เลยนอกจากการคุยทางข้อความกับบิดาเท่านั้นที่พอจะทำให้คนเป็นแม่ได้รู้ว่าลูกสาวยังคงมีชีวิตอยู่

“ เอมขอโทษที่ลูกไม่กล้ากลับมาเพราะกลัวว่าจะต้องเจอกับคุณธเนศ”

“คนที่ลูกกำลังพูดว่ากลัว เขาคือสามีนะแต่ผู้ชายที่ลูกไปอยู่ด้วยมันเป็นแค่เพียงชู้เท่านั้น”

เฌอเอมรู้สึกตกใจที่คนเป็นพ่อพูดออกมาตรง ๆ ทั้งที่ก่อนหน้านี้เธอไม่เคยให้บุพการีทั้งคู่ได้รับรู้ว่าเธอหนีไปอยู่กับใคร

“คุณพ่อรู้ได้ยังไงคะ”

“ธเนศเล่าให้พ่อฟังหมดแล้วว่าลูกมีผู้ชายคนอื่นถึงได้หนีไปแบบนั้น”

รวีทำท่าทางเหมือนคนกำลังจะหมดแรงเขากำลังรู้สึกแย่กับพฤติกรรมของลูกสาวโดยที่ไม่คิดจะถามเลยสักคำว่า                   ความเป็นจริงมันเกิดอะไรขึ้นบ้างเฌอเอมถึงได้ตัดสินใจทำแบบนั้น

“แล้วคุณธเนศของคุณพ่อได้บอกไหมคะว่าเขาทำอะไรกับเอมบ้างเอมถึงได้ตัดสินใจทำตัวเป็นผู้หญิงแย่ ๆ แบบนั้นถ้าเขาไม่บอกเอมจะเล่าให้คุณพ่อฟังทุกอย่างเองค่ะ”

หญิงสาวเริ่มเล่าเรื่องราวทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบตลอดเวลาครึ่งปีหลังจากการแต่งงานที่เธอต้องทนเป็นกระสอบทรายเป็นที่ระบายอารมณ์ให้กับคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีที่ถูกต้องตามกฎหมาย                  รวีทำท่าตกใจแต่สุดท้ายเขากลับไม่เชื่อในสิ่งที่ลูกสาวพูดเพราะภายนอกธเนศนั้นดูเป็นสุภาพบุรุษและก่อนวันที่รวีจะตัดสินใจโกหกเฌอเอมว่าแม่ของเธอเข้าโรงพยาบาลธเนศก็ได้มาที่บ้านหลังนี้เขาบีบน้ำตาทำตัวน่าสงสารเหมือนว่าเขาคือผู้ถูกกระทำทั้งที่ก่อนหน้านี้เขารักภรรยาสุดหัวใจและคนที่เป็นพ่อตาก็เชื่อทุกคำที่ลูกเขยพูด

“เราค่อยคุยเรื่องนี้กันวันหลังดีกว่า พ่อลืมยาของแม่ไว้ในห้องเก็บของข้างล่างเพราะเผลอไปวางพร้อมกับของที่จะเก็บ เอมไปหยิบให้พ่อหน่อยนะ”

เฌอเอมถึงแม้จะรู้สึกได้ว่าพ่อของเธอไม่เชื่อในสิ่งที่เธอพูดเลยสักคำแต่ในเมื่ออีกฝ่ายเลือกที่จะเปลี่ยนเรื่องและขอร้องให้เธอไปหยิบของให้เธอจึงรีบไปทำตามเพราะกลัวว่าแม่ของเธอจะ               กินยาช้าถึงแม้อมราจะไม่ได้ป่วยจริงเหมือนอย่างที่รวีโกหกแต่เธอก็เป็นคนแก่ที่มีโรคประจำตัวอยู่ไม่ใช่น้อย

“คุณพ่อขังเอมทำไมคะ ! ปล่อยเอมออกไปเดี๋ยวนี้”

เฌอเอมเข้าไปในห้องเก็บของข้างล่างได้เพียงแค่ไม่ถึงหนึ่งนาที เธอก็ถูกอีกฝ่ายปิดล็อกห้องจากด้านนอก หญิงสาวจึงรู้ว่าเธอถูกหลอกให้เข้ามาอยู่ในนี้เพื่อที่จะขังเธอไว้

“พ่อไม่ได้อยากทำแบบนี้แต่เอมรู้ไหมครอบครัวของเรา             ถูกนินทาว่าร้ายไปทั่วดีนะที่คุณธเนศพยายามบอกทุกคนว่าเป็นเพียงแค่ข่าวลือตอนนี้ลูกแค่ไม่สบายและรักษาตัวอยู่ในบ้านเท่านั้นลูกไม่ต้องหวังอ้อนวอนให้พ่อปล่อยไปเพราะพ่อจะโทรตามคุณธเนศมาที่นี่เพื่อให้เขากับลูกได้ปรับความเข้าใจกัน”

หัวใจของหญิงสาวแหลกสลายนาทีนี้เธอไม่คิดเลยว่า              ความจริงที่เธอเล่าตั้งแต่ต้นจนจบให้พ่อและแม่ฟังจะเป็นเพียงแค่อากาศที่ไม่มีความหมายไม่มีใครเชื่อเธอ ทุกคนเชื่อคำพูดที่ไม่มีความจริงอยู่ในนั้นของธเนศแต่กลับไม่เชื่อความจริงที่เธอพยายามพร่ำบอก

“โทรศัพท์”

เฌอเอมพยายามค้นโทรศัพท์ในตัวแต่เธอก็นึกขึ้นมาได้ว่าตอนที่เธอเดินมาที่ห้องเก็บของเธอวางมันไว้ที่ห้องรับแขกเวลานี้จึงไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไปจากที่ตั้งใจว่าจะโทรศัพท์แจ้งตำรวจให้              เข้ามาช่วยเธอเพราะเธอไม่มีวันที่จะยอมเจอหน้าธเนศในเวลานี้เด็ดขาด

“พี่ไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นกับเอม”

ลินินรู้สึกตกใจเมื่อได้รับโทรศัพท์จากแดนไตรว่าเขา                ไม่สามารถติดต่อเฌอเอมได้หลังจากที่เธอเดินทางไปถึงบ้านโทรไปกี่ครั้งก็พบว่าโทรศัพท์ปิดเครื่อง

“ผมว่าต้องเกิดเรื่องไม่ดีกับพี่เอมแน่ ๆ เพราะก่อนที่จะไปพี่เขาบอกว่าจะรีบกลับมาพี่นินครับช่วยพาผมไปที่บ้านพี่เอมจะได้ไหม”

ลินินคิดว่าการไปเปิดตัวของแดนไตรในเวลานี้คงไม่เหมาะสมเพราะถ้าเฌอเอมปิดเครื่องโทรศัพท์แบบนี้แปลว่าสถานการณ์ที่บ้านคงจะไม่ปกติแน่นอนคนเป็นเพื่อนจึงเลือกที่จะเดินทางไปดูด้วยตัวเอง 

“เฌอเอมไม่ได้มาที่นี่ก็อย่างที่ลินินรู้ว่าเอมตัดสินใจหนีธเนศไปทุกวันนี้พ่อกับแม่ก็ติดต่อไม่ได้”

อมราเดินมาต้อนรับเพื่อนของลูกสาวด้วยคำโกหกเพราะเวลานี้เธอกำลังรอเวลาที่ธเนศจะเดินทางมาถึงจึงพยายามรีบพูดเพื่อให้ลินินเดินทางกลับออกไปเพราะถ้าธเนศเดินทางมาที่นี่ลินินต้องรู้ความจริงว่าเฌอเอมยังคงอยู่ในบ้าน

“เอมบอกหนูว่าเขาจะกลับมาบ้านเพราะคุณแม่อยู่โรงพยาบาลแล้วทำไมคุณแม่ดูไม่เหมือนคนป่วยเลยคะ”

ลินินรู้ว่ามันเป็นการเสียมารยาทที่เธอพูดกับผู้ใหญ่แบบนี้แต่เวลานี้เธอรู้สึกเป็นห่วงเพื่อนสาวเอามาก ๆ การที่เฌอเอมปิดเครื่องโทรศัพท์และก็ไม่ออกมาพบเธอแม้ว่าเธอจะมาถึงบ้าน            แสดงว่าหญิงสาวต้องกำลังตกอยู่ในอันตราย 

“เขาก็บอกกับแม่ว่าจะมาแต่เขาก็ไม่มาส่วนที่ลูกคิดว่าทำไมแม่ดูเหมือนคนไม่สบายแม่ก็คงไม่รู้จะตอบอย่างไรนะในเมื่อลินินพูดจาแบบนี้แม่ว่าหนูกลับไปเถอะแม่ไม่อยากคุยกับเด็กที่                  พูดจาก้าวร้าว”

อมราเล่นบทหน้าเครียดทันที เธอทำสีหน้าให้อีกฝ่ายรู้ว่าเธอรู้สึกไม่พอใจก่อนที่จะเดินกลับเข้าบ้านเป็นการส่งแขกไปในตัว

คนเป็นเพื่อนเมื่อไม่ได้คำตอบว่าเวลานี้เฌอเอมอยู่ที่ไหนแต่เธอมั่นใจว่าเพื่อนของเธอต้องอยู่ในบ้านหลังนี้ หญิงสาวจึงตัดสินใจที่จะโทรศัพท์ตามแดนไตรให้มาที่บ้านของเฌอเอมและทั้งคู่ก็เลือกที่จะจอดรถเฝ้าดูอยู่ที่หน้าบ้านแต่ระหว่างที่ลินินจอดรถรออยู่และแดนไตรยังมาไม่ถึง เธอก็ได้เห็นว่ารถของธเนศได้ขับเข้ามาในบ้านของเพื่อนเธอ

“ฉันจะช่วยแกยังไงดีวะเฌอเอม”

         ลินินมั่นใจแล้วว่าครอบครัวของเฌอเอมวางแผนทั้งหมดเพื่อให้หญิงสาวมาติดกับดักและโทรตามธเนศเพื่อให้มาเจอกับภรรยาแต่ลินินไม่รู้เลยว่าภายใต้แผนที่อมราและรวีวางไว้ทั้งคู่ได้รับทราบแล้วว่าคนเป็นลูกเขยได้ทำอย่างไรกับลูกสาวบ้าง

“เราเข้าไปข้างในกันเลยไหมครับ”

แดนไตรมาถึง เขาโทรศัพท์ตามให้ลินินขึ้นมานั่งอยู่บนรถของเขาเพราะไม่มั่นใจว่าธเนศจะจำรถเพื่อนของภรรยาได้ไหมแต่ถ้าเป็นรถของชายหนุ่มเขาไม่เคยรู้จักน่าจะปลอดภัยมากกว่า

“พี่ว่าถ้าเข้าไปตอนนี้เราจะมีแต่เสียเปรียบเพราะคุณธเนศเป็นสามีที่ถูกต้องตามกฎหมายและดูแล้วพ่อแม่ของเฌอเอมก็น่าจะเชื่อลูกเขยมากกว่า เรารอดูเหตุการณ์ก่อนดีกว่าอย่างน้อยธเนศคงไม่กล้าทำร้ายเอมที่บ้านของเธอแน่”

ชายหนุ่มรู้สึกเป็นห่วงกระวนกระวายใจไปหมดแต่เขาเชื่อในคำพูดของลินินว่าถ้าเขาวู่วามเข้าไปในตอนนี้มีแต่จะสร้าง                    ความเสียหายและแผนในอนาคตที่เขากับเฌอเอมเคยวางไว้ว่าเธอจะหาหลักฐานเพื่อมาใช้ในการฟ้องหย่ามันอาจจะกลายเป็นตัวเฌอเอมเองที่เป็นฝ่ายเสียเปรียบ

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status