5
ผู้ชายที่แสนร้าย
คืนนี้มาตายกเอาผ้าห่มกับหมอนมานอน ที่พื้นข้างๆโซฟา เพื่ออยู่เป็นเพื่อนคนเมา เพราะถ้าจะให้เธอลากเขาเข้าไปห้องนอนไม่ไหวแน่
สภาพของไมค์ตอนนี้ ช่างแตกต่างจากชายหนุ่มในวันที่มาตายังเรียนอยู่ชั้นมัธยมและเธอก็แอบปลื้มเขา ในวันที่เขาติดต่อผ่านมาทางครูของเธอเพื่อช่วยเหลือเรื่องทุนการศึกษา
ตอนที่หญิงสาวเรียนจบ เธออยากไปขอบคุณเขา แต่ชายหนุ่มเองบอกข้อตกลงไว้ตั้งแต่เริ่มแรกว่า เขาไม่ต้องการทำความรู้จักกับเด็กที่เขาให้ทุน เพราะต้องการช่วยเหลือแบบไม่หวังสิ่งตอบแทน
“หิวน้ำขอน้ำหน่อย”
หญิงสาวสะดุ้งลุกขึ้นทันที เมื่อได้ยินคนเมาร้องขอน้ำ แต่เขาไม่ยอมลุกหญิงสาวจึงค่อยปล้อนให้ แต่ด้วยความไม่ถนัด น้ำจึงหกรดเสื้อผ้า ไมค์โมโหคว้าแก้วได้ ขว้างกระแทกกำแพงจนแตก
เพล้ง!
แก้วแตกกระจาย หญิงสาวมองหน้าคนที่อยู่ในอ้อมแขนเธอมาตาปลอยแขนออกทันที จนศีรษะของชายหนุ่มกระแทกลงกับขอบโซฟา
“โอ๊ะ! อีคนชอบทำลายครอบครัวคนอื่นเขา ไป!อยากไปไหนก็ไป”
ไมค์ชี้ไม้ชี้มือไล่มาตา โดยที่ตัวเองยังลืมตาแทบไม่ขึ้น ความอดทนของหญิงสาวถึงที่สุด วันนี้เธอจะหนี
ไฟที่มีเพียงไม่กี่ดวง เพราะใช้พลังงานแสงอาทิตย์ มาตาจึงมองไม่ค่อยเห็นทางนอกบ้าน ไฟฉายเธอลองหามาหลายวันแล้วก็ไม่เจอว่ามี
เก้าอี้จากโต๊ะกินข้าวถูกยกมาวางข้างกำแพง แต่ด้วยความตัวเล็กเธอจึงไม่สามรถปีนได้ และเหล็กแหลมข้างบน มันก็ทำให้เธอรู้สึกว่าวิธีนี้เธอคงทำไม่สำเร็จ
สายตาของมาตาหันไปเห็นว่าประตูรั้วมีกุญแจใส่ไว้สองอัน เธอต้องหาลูกกุญแจทั้งสองดอกนั้นให้เจอแล้วเธอจะรอดโดยที่ไม่ต้องเจ็บตัว
“มานี่สิ”
ไมค์เรียกมาตาทันที เมื่อเห็นเธอกำลังเดินผ่าน หญิงสาวโกรธ เกลียดจาไม่อยากให้เขามาโดนตัว แต่เธอก็คิดว่าบางทีเธออาจจะได้กุญแจจากตัวเขาก็ได้
เมื่อคนตัวเล็กเดินเข้าไปใกล้ ชายหนุ่มที่เริ่มหายเมาแล้วก็ดึงตัวเธอลงไปนอนกอดบนโซฟา
มาตาอยากจะกรี๊ดด้วยความรู้สึกโมโห แต่ก็ไม่กล้าทำ เพราะคิดถึงภาพที่เขาตบเธอและก็ปาแก้ว มีหวังถ้าเธอกรี๊ดเขาคงทำร้ายเธอมากกว่านี่แน่ๆ
ร่างกายของเธอกับเขาเบียดเสียดกันอยู่จนแน่น มาตารู้สึกได้ว่ามีบางอย่างอยู่ในกระเป๋ากางเกงของเขา เธอค่อยทำเอามือลูบไล้ๆไปทั่วขาของชายหนุ่ม และค่อยๆสอดมืองเข้าไปในกระเป๋ากางเกง กลับถูกไมค์ดึงมือของเธอให้มากอดเขาแทน
“ผมขอโทษนะ ผมเมาไปหน่อย”
ชายหนุ่มพูดโดยยังไม่ยอมลืมตาก่อนจูบลงที่หน้าผากของหญิงสาวที่เขานอนกอดอยู่
มาตารู้สึกทำอะไรไม่ถูก จากที่คิดจะหนี พอเจอคำว่าขอโทษและท่าทางที่ดูอ่อนลงของเขา ทำให้เธอยอมให้อภัยและสวมกอดเขาแน่นกว่าที่เขากอดเธอเสียอีก
ไม่นานบทรักครั้งที่สามก็เริ่มขึ้น ครั้งนี้โซฟากลางบ้านถูกใช้แทนเตียง คนเมาที่ก่อนหน้านี้ไม่ยอมลืมตาแต่ตอนนี้เขากลับมองสบตาหญิงสาวที่อยู่ใต้ตัวเขาอย่างปลุกอารมณ์
สงคราวบนโซฟาครั้งนี้ นอกจากหญิงสาวจะไม่ขัดขืน เธอยังเล่นบทผู้นำในบางครั้งเมื่อชายหนุ่มจับตัวเธอ ให้ลุกมานั่งทับมังกรใหญ่ของเขา
หญิงสาวขยับตัวเองตามจังหวะมือของคนตัวใหญ่ที่จับสะโพกอวบเธอไว้ การอยู่ข้างบนและเป็นคนทำเอง ทำให้หญิงสาวเดินทางไปถึงสวรรค์ได้เร็วกว่าที่เป็นฝ่ายนอนรอ
เมื่อประตูสวรรค์เปิดรับเธอแล้ว มาตาก็ล้มตัวลงนอน ปล่อยให้ชายหนุ่มเป็นฝ่ายใช้เรือนร่างของเธอไปสู่งฝั่งฝันบ้าง
ก่อนที่จะเริ่มบรรเลงบทรัก ไมค์ก้มหน้าลงไปสาละวนกับการดูดกินน้ำหวานจากกลีบสีชมพูที่ไหลอกกมาเยิ้มอย่างชอบใจ ก่อนจะใช้นิ้วกลางสอดเข้าไปเพื่อสะกิดเม็ดแห่งความเสียวซ่านเพื่อกระตุ้นอารมณ์ของคนตัวเล็กอีกครั้ง
เมื่อนิ้วของเขาถูกส่วนภายในของหญิงสาวตอดรัด ชาหนุ่มยิ่งชอบใจ เปลี่ยนจากนิ้วเป็นมังกรผงาดทันที
โซฟาเล็กไม่ได้เป็นอุปสรรค์เลย มาตาถูกหมุนตัว พลิกไปพลิกมา จนเธอจำแทบไม่ได้ว่าสงครามรักครั้งนี้ เธอเล่นท่าอะไรบ้าง แต่ก็ไม่มีท่าไหน ที่ทำให้เธอไม่รู้สึกเสียว โดยเฉพาะถ้าหันหลังให้เขา มันเสียจนเธอแทบจะขาดใจ ยิ่งท่านี้ทำให้เธอเห็นหน้าเขาในกระจก ที่บิดเบี้ยวกัดปากแน่น ยิ่งทำให้มาตาเหมือนหลุดออกไปอีกโลก จนตัวเบาหวิว
เมื่อสงครามจบลงทั้งคู่ก็นอนกอดกันอยู่บนโซฟา ที่เมื่อครู่มันกลายเป็นเวทีสวาท
หญิงสาวนอนคิดถึงเมื่อครั้งที่เพียงใจมาจ้างให้เธอจัดการเรื่องหย่าให้ เพียงใจเล่าข้อมูลให้เธอฟัง ว่าเธอกับไมค์แทบจะไม่ได้มีอะไรกัน บางทีนานถึงสามเดือนถึงจะมีครั้ง แต่นี่เธอมาอยู่ได้แค่เพียงสองวัน เธอกับไมค์ได้เสียกันสามครั้งไปแล้ว มาตาจึงคิดว่ามันต้องมีอะไรซ่อนอยู่ภายใต้คำว่ารักของไมค์ที่มีให้กับอดีตภรรยา
คำว่าขอโทษ รอยจูบบนหน้าผาก แล้วบทรักที่ดุเดือดที่เขามอบให้เธอวันนี้ ทำให้หญิงสาวลืมเรื่องที่จะพยายามหนีทันที
“วันนี้ผมจะไปทำงาน ปิดบ้านดีๆ มีใครมาเรียกก็อย่าตอบกลับ อย่าออกไปนอกตัวบ้าน ผมบอกคุณแล้วนะที่นี่อันตรายรอบตัว”
วันนี้มาตาถูกทิ้งไว้คนเดียวในบ้าน ใจหนึ่งเธอก็คิดว่าวันนี้ เป็นวันที่เธอควรจะหนีที่สุด แต่อีกใจก็กลัวข้างนอกจะอันตรายกว่า เหมือนอย่างที่เขาบอกกับเธอไว้
ความคิดสับสนไปหมด มาตาจึงตัดสินใจที่จะไม่หนี แต่เธอจะพยายามรู้ให้ได้ว่าข้างนอกมีอะไร
หญิงสาวเดินสำรวจรั้วรอบบ้าน เธอพยายามหารอยแตกของกำแพง เผื่อจะมองเห็นว่าข้างนอกมีอะไรบ้าง แต่กำแพงเหมือนถูกสร้างใหม่ ไม่มีรอยแยกให้เธอได้เห็นเลย
“เจ้าของบ้านมันออกไปได้เกือบชั่วโมงแล้ว คงอีกนานกว่ามันจะกลับมา บ้านนี้มีแค่มันอยู่ หาทางปีนเข้าให้ได้ ในนั้นต้องมีอะไรมีค่าอยู่แน่ๆ”
เสียงของผู้ชายสองคนคุยกันข้างนอกรั้ว ทำให้หัวใจของมาตาสั่นไปหมด เธอรีบเดินเข้าบ้านให้เร็วที่สุด ล็อคประตูหน้าต่างทุกบาน รูดผ้าม่านปิดเพื่อไม่ให้ข้างนอกเห็นว่ามีคนอยู่
ตอนนี้หัวใจของมาตาคิดถึงแต่ไมค์อยากให้เขากลับมาเร็วๆ แค่เขาเพิ่งออกไปได้ชั่วโมงเดียวคงอีกนานกว่าจะกลับ
หญิงสาวนั่งเฝ้าอยู่ที่หน้าต่างคอยแหวกม่านแอบดู เพื่อที่จะได้รู้ว่า ตอนนี้มีใครเข้ามาในรั้วหรือยัง แต่ก็ผ่านไปเป็นชั่วโมงแล้วจากที่เธอได้ยินทั้งสองคนคุยกัน แต่ก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“หรือพวกมันกำลังไปตามพรรคพวกมาอีก” หญิงสาวคิดในใจ
วันนี้ทั้งวันมาตาไม่ทำอะไรเลย นอกจกเฝ้าหน้าต่างอยู่อย่างนั้น เพื่อรอจนกว่าชายหนุ่มจะกลับมา
6กลัว เกือบมืดแล้วแต่ไมค์ก็ยังไม่กลับมา มาตาไม่กล้าแม้แต่จะเปิดไฟ เพราะกลัวจะทำให้พวกโจรรู้ว่ามีคนอยู่ในบ้าน “มาตา” เสียงเรีกชื่อดังมาพร้อมกับเสียงไขกุญแจ หญิงสาวจำน้ำเสียงได้ดี เธอรีบลุกจากข้างหน้าต่าง โผเข้ากอดเจ้าของเสียงด้วยความดีใจ “เป็นอะไร แล้วทำไมไม่เปิดไฟ นั่งอยู่มืดๆไม่กลัวหรือไงกัน” ชายหนุ่มโอบเอวหญิงสาวแล้วค่อยๆพาเธอเดินเปิดไฟในห้องรับแขก “เกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงได้กลัวแบบนี้” ไมค์ถามด้วยสีหน้าเหมือนคนที่กำลังกลั้นเสียงหัวเราะไว้ เพราะกลัวคนเล่าจะโมโหเอา มาตาเล่าเรื่องที่เธอได้ยิน เมื่อไมค์ออกไปทำงานได้ไม่ถึงชั่วโมง โดยที่หญิงสาวลืมไป ว่าชายหนุ่มก็จะรู้ว่าเธอกำลังคิดจะหนีไปจากที่นี่ “แล้วคุณออกไปทำอะไรที่กำแพง” ไมค์ทำเสียงเข้ม “ฉันก็แค่ออกไปเดินเล่น” มาตาหลบตาทันที “ก็ผมบอกแล้วไม่ใช่หรือไง ว่าห้ามออกจากบ้านเลย เห็นไหมแถวนี้มันมีแต่พวกโจรป่า ถ้าคุณโดนพวกมันจับ รับรองมีผัวพร้อมกันเป็นสิบแน่ๆ” ไมค์ลุกขึ้นจากโซฟาทันที เพราะกลัวจะกลั้นเสียงหัวเราะไว้ไม่ไหว เมื่อเ
7ความเฉยชา เช้านี้เขาไม่ได้ออกไปทำงาน มาตาตั้งใจจะทำกับข้าวให้เขากินสุดฝีมือ “กับข้าวเสร็จแล้วค่ะ”แม่ครัวคนสวยออกไปตามชายหนุ่มที่กำลังนอนอ่านหนังสืออยู่ที่ห้องรับแขกไม่มีเสียงตอบ แต่ไมค์ก็ลุกมานั่งที่โต๊ะอาหารตามปกติ โดยที่ไม่ยอมพูดอะไรหว่างที่นั่งกินอาหารกันมาตารู้สึกอึดอัดจากที่ตั้งใจ จะทำกินข้าวให้อร่อย แต่กลับเป็นว่าเธอแทบจะกลืนไม่เข้าสักคำ“อิ่มแล้วเหรอคะ” หญิงสาวถามเมื่อเห็นคนนั่งตรงข้างรวบช้อน“อืม”คำตอบที่ดูเหมือนไม่อยากตอบ มาตาก็สุดที่จะหาวิธีง้อแล้ว เธอจึงได้แต่อิ่มตาม เพราะไม่มีอารมณ์ที่จะนั่งกินแล้ววันนี้ทั้งวันทั้งสองคน ต่างอยู่กันคนละมุมบ้าน มาตาเองก็ไม่อยากเห็นเขาทำหน้าเฉยชาใส่เธอ ส่วนไมค์เองก็คงยังไม่อยากเห็นหน้าเธออาหารค่ำกลายเป็นไมค์เข้าครัวเป็นคนทำเอง เขาจัดโต๊ะที่เขาเคยใช้นั่งดื่ม ให้เป็นโต๊ะอาหาร ตกแต่งด้วยดอกไม้ มาตาก็ทำได้แค่แอบมองเพราะไม่กล้าเข้าไปยุ่งท้องฟ้าเริ่มมืด ชายหนุ่มเดินเข้ามาที่ห้องนอน และยื่นถุงกระดาษใบใหญ่ที่ในนั้นมีเสื้อผ้าอยู่ให้มาตา“ชอบตัวไหนก็ใส่แล้วออกมากินข้าว คิดว่าคงเลือกชุดที่สวยที่สุด เพราะวันนี้ผมอยากกินข้าวกั
8อิสระที่ลำบากใจ ไมค์ขับรถไปส่งมาตาที่ทำงาน เพราะคิดว่าการหายไปของเธอหลายวันแบบนี้ที่ทำงานของเธอคงกำลังต้องการตัวเธอแน่ๆ “พี่มาตาพี่กลับมาแล้ว พวกเราทุกคนตัดสินไม่ถูกเลยว่าจะแจ้งความดีไหม ถึงแม้พี่จะส่งข้อความมาแล้ว” ชะอมเลขาคนสนิทวิ่งเข้ามากอดเจ้านาน ที่เปรียบเป็นเสมือนพี่สาวของเธอ “พี่มีเรื่องไม่ค่อยสบาย เลยอยากหลบไปอยู่คนเดียวเงียบๆสักพัก ตอนนี้พร้อมลุยงานต่อแล้ว” มาตาลูบผมลูกน้องคนสนิทอย่างเอ็นดู เพราะทั้งคู่รู้จักกันมาตั้งแต่ยังไม่ได้เปิดบริษัทนี้ จึงรู้ใจกันมากที่สุด “เรื่องงานเราจัดการได้เรียบร้อย แต่เราตัดสินไม่รับงานใหม่ เพราะตั้งใจจะรอพี่กลับมาก่อน” ชะอมรายงานเรื่องราวระหว่างที่เจ้านายไม่อยู่ “บ่ายนี้เรียกประชุมพนักงานทุกคนให้พี่หน่อย เรื่องสำคัญมาก ห้ามใครไม่เข้าเด็ดขาด” มาตารีบเข้าห้องทำงานและเก็บตัวเองอยู่แต่ในห้องห้ามใครเข้าไปรบกวน เพื่อเตรียมข้อมูลในการประชุมครั้งนี้ ทุกคนในบริษัทต่างคิดว่า พวกเขาคงกำลังจะโดนเลิกจ้างแน่ๆ เพราะเจ้านายของเธอทิ้งบริษัทไปหลายวัน พอกลับมาก็เรียกประชุมใ
9เมื่อไม่ได้ยินเสียงของหัวใจ เช้านี้มาตาต้องเริ่มต้นกับการวางแผนงานใหม่ทั้งหมด ทั้งวันเธอวุ่นวายจนไม่มีเวลาว่างพอที่จะมาคิดเรื่องของตัวเอง มันทำให้เธอสบายใจไปได้ชั่วขณะหนึ่ง “พี่มาตาเราต้องทำแผนโฆษณากันใหม่ทั้งหมด เดี๋ยวชะอมจะให้นักศึกษาทำแล้วเอามาให้พี่ดูนะ” “ชะอมให้น้องเขามาคุยกับพี่นะ” มาตาตั้งใจจะเป็นคนวางพล็อตโฆษณาเอง โดยที่ให้น้องนักศึกษาเป็นคนจัดการเรื่องกระบวนการทำ ช่วงบ่ายหญิงสาวต้องออกไปพบลูกค้ารายเก่าเพื่อรับเงินค่าจ้าง ซึ่งสถานที่นัดพบอยู่ใกล้กับบ้านที่เธอเคยถูกไมค์จับไปขังไว้มาตาจึงตั้งใจที่แวะเข้าไปเพื่อไปฟังเสียงหัวใจตัวเอง หญิงสาวมองรอบบ้านทันทีที่เธอมาถึง ไม่มีป่าลึกเกมือนอย่างที่เขาโกหก มีแค่เพียงป่าต้นก้ามปู ที่เขาปลูกล้อมบ้านไว้เกือบห้าสิบต้น มาตาคิดถึงคำขู่แล้วก็อดยิ้มไม่ได้ ถุงกับข้าวที่วางไว้บนโต๊ะคือสิ่งแรกที่หญิงสาวเห็นทันที ที่เข้าไปถึง มาตาหยิบแต่ละถุงขึ้นมาดู ตอนนี้ทุกถุงมันบูดหมดแล้ว “เมื่อคืนคุณมาที่นี่” หญิงสาวรู้สึกหัวใจวาบหวิวขึ้นมา เขามารอเธอ มาตาแอบเข้าข้างตัวเอ
10โฆษณาหรือเรื่องจริง สภาพร่างกายของไมค์ทรุดโทรมลง เพราะฤทธิ์ของสุราที่เขาดื่มมันหนักทุกวัน เช้าวันนี้เขาไปทำงานไม่ไหว จึงได้แต่ตอนอยู่บนเตียง ข้าวปลาก็ไม่กิน เพราะไม่มีแรงพอที่จะลุกไปทำหรือซื้อ จึงได้แต่หลับตาและหลับไปแบบนั้น ความล้มเหลวในชีวิตรักไม่ได้ทำให้ไมค์โตขึ้นเลย เขายังทำให้ทุกอย่างมันแย่ลงไปกว่าเดิม เมื่อร่างกายเริ่มสร่างเมา ไมค์ตั้งใจจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อโทรหาลูกน้องที่ทำงาน แต่เขากลับเปิดไปเจอโฆษณาชิ้นใหม่ของบริษัทของมาตา ที่กำลังถูกแชร์มากในโลกโซเชียลตอนนี้ เรื่องราวของโฆษณาบอกเล่า ถึงเด็กมัธยมคนหนึ่งที่ได้รับความช่วยเหลือจากชายหนุ่มที่เธอไม่เคยรู้จัก จนวันหนึ่งเธอมีโอกาสได้เจอเขาและแอบชอบเขามาตลอด จนเธอทำงานเธอกับเขามีโอกาสได้ใกล้ชิดกัน โดยที่ผู้ชายคนนั้นจำเธอไม่ได้ ทั้งคู่เกิดพลาดพลั้งมีอะไรกัน หญิงสาวตัดสินใจเดินออกมาจากชีวิตของชายหนุ่ม เพราะคิดว่าทุกอย่างเกิดจากความผิดพลาดไม่ใช่ความรัก ส่วนชายหนุ่มคนนั้นก็เอาแต่เฝ้ารอการกลับมาของเธอ โดยที่ไม่คิดจะทำอะไร จนในที่สุดบริษัทของมาตาก็เข้ามาช่วยให้ทั้งคู่ได้รู้หัวใจตัวเอ
11ครอบครัว “เหม็นกลิ่นความรักจัง” ชะอมแซวเจ้านายที่เธอรักไม่ต่างจากพี่สาวแท้ๆ พนักงานคนอื่นก็พากันยิ้มตาม “ให้พี่มีบ้างเถอะ เดี๋ยวจะขึ้นคานเอา” มาตาคิดมาตลอดว่าคงไม่มีผู้ชายคนไหนมาทำให้เธอหลงรักได้เหมือนผู้ชายที่ให้ทุนเธอ และสุดท้ายมันก็เกิดขึ้นจริงๆ “รักก็รุ่ง งานก็เยอะมากค่ะเจ้านาย ตอนนี้ชะอมอยากจะแยกร่างได้อยู่แล้ว” ตั้งแต่บริษัทของเธอปล่อยโฆษณาชุดนั้นไป กระแสตอบรับดีมาก กลุ่มลูกค้ามีตั้งแต่วัยรุ่น วัยทำงาน และอายุเกินหกสิบไปแล้วก็ยังมี “โบนัสก็จะงอกงามตามมานะชะอมคนสวย” หญิงสาวไม่เคยเอาเปรียบพนักงาน เรียกได้ว่าดูแลทุกคนเหมือนพี่น้อง กับข้าวเวลาทำงานมืดก็มีของในตู้เย็นให้ทำกินกัน มาตาจะคอยซื้อมาเติมให้ตลอด “โบนัส คำสั้นๆที่สร้างพลังอันยิ่งใหญ่” พนักงานทุกคนพากันหัวเราะให้กับคำพูดของชะอม ที่ถึงแม้ฟังดูตลกแต่มันก็คือความจริง “พี่มาตาคะ วันนี้มีลูกค้าจะเข้ามาพบเพื่อขอบคุณที่ทางเราทำงานได้สำเร็จ อีกไม่น่าจะเกินสิบห้านาที น่าจะมาถึงค่ะ” “ถ้ามาถึงก็ให้เข้ามาหาพี่เลยนะ”
12ข่าวใหม่ “เดี๋ยวนี้เจ้านายเรามาสายทุกวันเลยนะ ไม่รู้ว่ากลางวันมัวทำอะไรอยู่” ชะอมนำพนักงานคนอื่นแซวเจ้านายแต่เช้า เพราะรู้ว่ากำลังเป็นข้าวใหม่ปลามันกัน “ก็บ้านมันอยู่ออกไปนอกเมือง จะให้มาถึงแต่เช้าเหมือนพวกที่อยู่ข้างๆบริษัทได้อย่างไรล่ะ” มาตาหาเหตุผลมาแก้อาย เพราะเขารู้ว่าทุกคนกำลังคิดอะไรอยู่ งานมากมายวางสุมอยู่บนโต๊ะ หลายงานก็รอจัดการเรื่องค่าจ้าง บางรายการก็เพิ่งเสนอมา รอมาตาตัดสินใจว่าจะรับงานไหม “พี่มาตา พี่รู้ข่าวเด็ดหรือยัง” ชะอมเปิดประตูห้องเข้ามา โดยที่ไม่ทันได้เคาะประตู เพราะรู้สึกตื่นเต้นกับข่าวที่เธอได้ยินมาจากเพื่อนในวงการไฮโซ “ข่าวอะไร ดูทำเข้า เปิดประตูเข้ามาไม่ให้ซุ่มให้เสียง พี่ก็ตกใจหมด ทำอย่างกับมีข่าวใหญ่โตระดับประเทศ” มาตาส่ายหัว เพราะคิดว่าคงไม่ได้มีอะไรน่าตื่นเต้น ที่เกี่ยวกับตัวเธอหรือบริษัท คงเป็นเรื่องของชาวบ้านที่ชะอมชอบติดตามมากกว่า “ข่าวนี้รับรองพี่มาตา อาจจะตื่นเต้นตกใจกว่าชะอมอีก” “มีอะไรก็พูดมา ไม่ต้องมาเล่นลิ้นทำให้พี่อยากรู้” มาต
13ลูกค้าคนสำคัญ “พรุ่งนี้เราไปตรวจกันนะ ตอนเย็นเดี๋ยวผมไปรับที่ทำงาน” ไมค์ตื่นเต้นจนแทบอยากจะพาภรรยาไปตรวจตอนนี้ แต่มันดึกแล้วคงไม่มีที่ไหนเปิดให้ตรวจแน่ๆ ร้ายขายยาก็คงจะปิดหมดถ้าจะซื้อมาตรวจเอง “คุณอย่าคาดหวังแบบนี้สิคะ มันทำให้ฉันยิ่งกลัว กลัวว่าถ้าไม่ได้ท้องขึ้นมาคุณจะเสียใจ” มาตารู้สึกตัวเองกำลังต้องรับผิดชอบความหวังของสามี มันยิ่งทำให้เธอรู้สึกแย่เข้าไปอีก “อย่าคิดมาก ถ้าลูกยังไม่มา เราก็ทำกันใหม่ ยังมีเวลาอีกหลายปี คุณก็ยังอายุน้อยอยู่ ไม่ต้องกลัวว่าผมจะผิดหวัง ช่วงนี้คุณชอบคิดมากรู้ตัวไหม” มาตาไม่ตอบ แต่พยายามฉีกยิ้มให้คนที่กำลังโอบไหล่เธอไว้รู้สึกสบายใจ “นอนกันเถอะ ผมว่าจะพยายามลดการทำงานลง อยากมีเวลาให้คุณมากกว่านี้ ต่อไปวันเสาร์ผมจะเลิกครึ่งวันและวันอาทิตย์จะหยุดอยู่กับบ้าน แล้วคุณล่ะต้องไปทำงานทุกวันไหม” มาตาเข้าใจ ว่าทำไมไมค์ถึงต้องการลดการทำงาน เพราะเขากลัวชีวิตครอบครัวจะต้องล้มเหลวเหมือนครั้งที่อยู่กับเพียงใจอีก “ได้ค่ะ แต่อาจจะไม่ใช่ทุกเสาร์ ไว้เสาร์ไหนฉันไม่ได้หยุด คุณก็อยู่บ้านทำง