11
ครอบครัว
“เหม็นกลิ่นความรักจัง”
ชะอมแซวเจ้านายที่เธอรักไม่ต่างจากพี่สาวแท้ๆ พนักงานคนอื่นก็พากันยิ้มตาม
“ให้พี่มีบ้างเถอะ เดี๋ยวจะขึ้นคานเอา”
มาตาคิดมาตลอดว่าคงไม่มีผู้ชายคนไหนมาทำให้เธอหลงรักได้เหมือนผู้ชายที่ให้ทุนเธอ และสุดท้ายมันก็เกิดขึ้นจริงๆ
“รักก็รุ่ง งานก็เยอะมากค่ะเจ้านาย ตอนนี้ชะอมอยากจะแยกร่างได้อยู่แล้ว”
ตั้งแต่บริษัทของเธอปล่อยโฆษณาชุดนั้นไป กระแสตอบรับดีมาก กลุ่มลูกค้ามีตั้งแต่วัยรุ่น วัยทำงาน และอายุเกินหกสิบไปแล้วก็ยังมี
“โบนัสก็จะงอกงามตามมานะชะอมคนสวย”
หญิงสาวไม่เคยเอาเปรียบพนักงาน เรียกได้ว่าดูแลทุกคนเหมือนพี่น้อง กับข้าวเวลาทำงานมืดก็มีของในตู้เย็นให้ทำกินกัน มาตาจะคอยซื้อมาเติมให้ตลอด
“โบนัส คำสั้นๆที่สร้างพลังอันยิ่งใหญ่”
พนักงานทุกคนพากันหัวเราะให้กับคำพูดของชะอม ที่ถึงแม้ฟังดูตลกแต่มันก็คือความจริง
“พี่มาตาคะ วันนี้มีลูกค้าจะเข้ามาพบเพื่อขอบคุณที่ทางเราทำงานได้สำเร็จ อีกไม่น่าจะเกินสิบห้านาที น่าจะมาถึงค่ะ”
“ถ้ามาถึงก็ให้เข้ามาหาพี่เลยนะ”
มาตาได้ยินแล้วก็รู้สึกมีความสุข ที่บริษัทของเธอได้สร้างความสุขให้คนรักได้อีกหนึ่งคู่
ก๊อก ก๊อก
“เข้ามาเลยค่ะ”
ก่อนที่ประตูจะเปิด หญิงสาววาดภาพไว้ว่า ลูกค้าที่กำลังจะเปิดประตูเข้ามา จะต้องอยู่ในวัยที่ใกล้เคียงกับเธอหรือไม่ก็แก่กว่านิดหน่อย
“สวัสดีค่ะคุณ...” หญิงสาวลังเลว่าจะเรียกคู่รักตรงหน้าว่าอะไรดี
“เรียกคุณลุง กับคุณป้าก็ได้จ้า”
ฝ่ายคุณป้า ตอบได้ตรงใจ เพราะเห็นมาตาทำท่าไปไม่ถูกที่เห็นชายหญิงในวัยที่ไม่น่าจะต่ำกว่าหกสิบปีเดินเข้ามา
“วันนี้พวกเรา เก็บองุ่นจากไร่ที่สระบุรีมาฝาก เพื่อเป็นการขอบคุณที่บริษัทของหนูทำให้เราได้มาเจอกันอีกครั้ง”
เสียงที่สั่นอาจเป็นเพราะเหนื่อยด้วยอายุ หรือเป็นเพราะความดีใจ แต่มันก็ทำให้คนฟังรู้สึกอยากจะร้องไห้
“ความสุขของคุณลุงกับคุณป้า เป็นคำขอบคุณที่ดีที่สุดสำเราพวกเราในบริษัทค่ะ และองุ่นนี้มันต้องหวานมากแน่ๆ เพราะมันมาจากความรัก ใช่ไหมคะ”
มาตาเห็นคุณลุงคุณป้า หันไปสบตากัน ต่างฝ่ายต่างทำท่าเขิน ยิ่งดูยิ่งรู้สึกเหมือนทั้งคู่กับมาเป็นวัยหนุ่มสาวอีกครั้ง
ทั้งสองคนเดินประคองกันกลับออกไป หลังจากพูดคุยขอบคุณ ตามที่ต้องการเรียบร้อยแล้ว มาตาจึงเรียกชะอมให้เข้ามาเอาองุ่นไปแบ่งกันกิน และอยากรู้เรื่องของทั้งสองคน
“ป้ากับลุงเขาเคยเป็นแฟนกันตอนสมัยเรียนอยู่ที่ต่างจังหวัด และต่อมาป้าเขาก็กลายไปเป็นเมียน้อยของเจ้านายเพราะจำเป็นต้องหาเงินมารักษาแม่ ลุงแกก็ไม่รู้เพราะป้าแกหายไปเลย จนสามีที่เป็นเจ้านายของป้าแกเสีย แกก็เลยให้ทางเราช่วยตามหาลุง เพราะลุงแกย้ายบ้านไปอยู่ที่ไหนไม่มีใครรู้ และพอเขาได้เจอกัน ป้าก็เล่าความจริงทั้งหมด ลุงก็ให้อภัย และเจ้าสาวกับเจ้าชายก็พากันไปยังปราสาทที่งดงาม”
กำลังจะซึ้งเลย แต่ชะอมก็อดที่จะพูดติดตลกไม่ได้ เพราะเป็นนิสัยที่ประจำตัวเธอจึงทำให้มาตารู้สึกทั้งรักและเอ็นดูลูกน้องคนนี้มาก
เย็นนี้ไมค์มารับมาตาที่ทำงาน เพราะเขาจะพาเธอไปเก็บของอีกบางส่วนที่บ้านของภรรยา ขากลับก็ตั้งใจจะซื้อของไปใส่ตู้เย็นไว้ทำกับข้าวกินเอง
“ผมดีใจนะ” อยู่ดีๆชายหนุ่มก็พูดขึ้นมา
“ดีใจเรื่องอะไรคะ”
มาตาถามเพราะคิดไม่ออก ว่าอยู่ดีๆ คนนั่งข้างๆเธอจะดีใจเรื่องอะไร
“ดีใจที่เมื่อเช้า ผมตื่นขึ้นมาแล้วได้เห็นคุณนอนอยู่ข้างๆ”
“ปากหวาน”
ด้วยความเขินหญิงสาวจึงฟาดมือไปที่แขนของคนขับอย่างแรง
“โอ๊ย!”
“ฉันขอโทษ เขินแรงไปหน่อย”
ทั้งคู่พากันหัวเราะ ที่วันนี้เขากับเธอเหมือนหนุ่มสาวที่เพิ่งจีบกันใหม่ ทั้งที่ทั้งคู่ผ่านค่ำคืนมาด้วยกันไม่รู้กี่ครั้งแล้ว
กว่าจะถึงบ้านก็ดึกแล้ว แต่มาตาก็ยืนยันที่จะทำอาหารมือเย็นเอง ที่ตอนนี้มันน่าจะกลายเป็นอาหารมื้อดึกไปแล้ว
ระหว่างรออาหารเสร็จ ไมค์ก็ทำหน้าที่ไปซักเสื้อผ้าแต่ตอนนี้ไม่ต้องซักมือแล้ว เพราะไม่ต้องแกล้งใคร ระหว่างรอชายหนุ่มก็รดน้ำต้นไม้ที่ปลูกไว้หลังบ้าน
มาตาแอบมองไมค์จากทางหน้าต่างห้องครัว เธอรู้สึกมีความสุข รู้สึกว่าครอบครัวที่เธอโหยหามันมาทั้งชีวิต ในที่สุดเธอก็สร้างมันได้
ค่ำคืนนี้เป็นการกินอาหารที่อร่อยที่สุดสำหรับไมค์ เพราะภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายเป็นคนทำให้เขาด้วยความตั้งใจ
ก่อนเข้านอนมาตาล้างจานทุกอย่างเรียบร้อย ทำให้ไมค์อดคิดถึงเมื่อครั้งที่เขาเคยอยู่กับเพียงใจ บ่อยครั้งมากที่เขาเหนื่อยงานแล้วต้องกลับมาทำงานบ้านเองทุกอย่าง
สามีที่น่ารักเข้ามาเก็บกวาดที่ห้องนอน ก่อนที่จะไปอาบน้ำ เพราะอยากให้คืนนี้ที่นอนน่านอนที่สุด
พระจันทร์คืนนี้ส่องแสงเจิดจ้าสวยงามกว่าทุกวัน ในสายตาของคนที่กำลังมีความรักอยู่เต็มหัวใจ
โคมไฟหัวเตียงถูกดับลง พร้อมกับการเป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องของทั้งคู่ ก่อนหน้านี้ต่างฝ่ายต่างไม่กล้าปล่อยความรู้สึกและอารมณ์ เพราะมันมีความรู้สึกผิดอยู่ในหัวใจ แต่ตอนนี้ทั้งคู่ไม่มีอะไรต้องคิดมากและเป็นกังวลอีกแล้ว
โอบกอดแห่งความรัก ที่ส่งผ่านรสสวาททั้งทางกายและหัวใจ เสียงลมหายใจที่เหนื่อยหอบของทั้งคู่ ดังแข่งกับเสียงลมที่พัดต้นก้ามปูไปมา อ้อมกอดนี้มีความสุขที่สุดเมื่อสวรรค์ชั้นเจ็ดเปิดประตูรอ
12ข่าวใหม่ “เดี๋ยวนี้เจ้านายเรามาสายทุกวันเลยนะ ไม่รู้ว่ากลางวันมัวทำอะไรอยู่” ชะอมนำพนักงานคนอื่นแซวเจ้านายแต่เช้า เพราะรู้ว่ากำลังเป็นข้าวใหม่ปลามันกัน “ก็บ้านมันอยู่ออกไปนอกเมือง จะให้มาถึงแต่เช้าเหมือนพวกที่อยู่ข้างๆบริษัทได้อย่างไรล่ะ” มาตาหาเหตุผลมาแก้อาย เพราะเขารู้ว่าทุกคนกำลังคิดอะไรอยู่ งานมากมายวางสุมอยู่บนโต๊ะ หลายงานก็รอจัดการเรื่องค่าจ้าง บางรายการก็เพิ่งเสนอมา รอมาตาตัดสินใจว่าจะรับงานไหม “พี่มาตา พี่รู้ข่าวเด็ดหรือยัง” ชะอมเปิดประตูห้องเข้ามา โดยที่ไม่ทันได้เคาะประตู เพราะรู้สึกตื่นเต้นกับข่าวที่เธอได้ยินมาจากเพื่อนในวงการไฮโซ “ข่าวอะไร ดูทำเข้า เปิดประตูเข้ามาไม่ให้ซุ่มให้เสียง พี่ก็ตกใจหมด ทำอย่างกับมีข่าวใหญ่โตระดับประเทศ” มาตาส่ายหัว เพราะคิดว่าคงไม่ได้มีอะไรน่าตื่นเต้น ที่เกี่ยวกับตัวเธอหรือบริษัท คงเป็นเรื่องของชาวบ้านที่ชะอมชอบติดตามมากกว่า “ข่าวนี้รับรองพี่มาตา อาจจะตื่นเต้นตกใจกว่าชะอมอีก” “มีอะไรก็พูดมา ไม่ต้องมาเล่นลิ้นทำให้พี่อยากรู้” มาต
13ลูกค้าคนสำคัญ “พรุ่งนี้เราไปตรวจกันนะ ตอนเย็นเดี๋ยวผมไปรับที่ทำงาน” ไมค์ตื่นเต้นจนแทบอยากจะพาภรรยาไปตรวจตอนนี้ แต่มันดึกแล้วคงไม่มีที่ไหนเปิดให้ตรวจแน่ๆ ร้ายขายยาก็คงจะปิดหมดถ้าจะซื้อมาตรวจเอง “คุณอย่าคาดหวังแบบนี้สิคะ มันทำให้ฉันยิ่งกลัว กลัวว่าถ้าไม่ได้ท้องขึ้นมาคุณจะเสียใจ” มาตารู้สึกตัวเองกำลังต้องรับผิดชอบความหวังของสามี มันยิ่งทำให้เธอรู้สึกแย่เข้าไปอีก “อย่าคิดมาก ถ้าลูกยังไม่มา เราก็ทำกันใหม่ ยังมีเวลาอีกหลายปี คุณก็ยังอายุน้อยอยู่ ไม่ต้องกลัวว่าผมจะผิดหวัง ช่วงนี้คุณชอบคิดมากรู้ตัวไหม” มาตาไม่ตอบ แต่พยายามฉีกยิ้มให้คนที่กำลังโอบไหล่เธอไว้รู้สึกสบายใจ “นอนกันเถอะ ผมว่าจะพยายามลดการทำงานลง อยากมีเวลาให้คุณมากกว่านี้ ต่อไปวันเสาร์ผมจะเลิกครึ่งวันและวันอาทิตย์จะหยุดอยู่กับบ้าน แล้วคุณล่ะต้องไปทำงานทุกวันไหม” มาตาเข้าใจ ว่าทำไมไมค์ถึงต้องการลดการทำงาน เพราะเขากลัวชีวิตครอบครัวจะต้องล้มเหลวเหมือนครั้งที่อยู่กับเพียงใจอีก “ได้ค่ะ แต่อาจจะไม่ใช่ทุกเสาร์ ไว้เสาร์ไหนฉันไม่ได้หยุด คุณก็อยู่บ้านทำง
14หนักแน่น “เก็บเงินของคุณไว้เถอะค่ะ ใช่ฉันเคยทำลายครอบครัวของคุณไมค์ แต่มันก็ช่วยให้เขาเลิกโง่ไม่ต้องโดนสวมเขา ส่วนคุณก็ไม่ต้องคอยเป็นเมียน้อยใคร” เมื่อมาตาเริ่มโมโห สติก็เริ่มกลับมา เธอคิดว่าเธอผิดก็จริงแต่เพียงใจก็มีส่วนกับความผิดของเรื่องทั้งหมดด้วยเหมือนกัน “ไม่อยากรับงานก็ไม่ต้องรับ ฉันก็มาจ้างไปอย่างนั้นแหละ เพราะแค่ฉันกลับไปหาไมค์ ไม่มีทางที่เขาจะไม่ทิ้ง อีผู้หญิงคนนั้นแล้วรีบกลับมาหาฉันแน่ๆ” “คุณคิดเข้าข้างตัวเองมากไปหรือเปล่าครับ ภรรยาคุณอรรถ” เพียงใจยังไม่ทันพูดจบจบ ก็มีเสียงที่ทั้งเพียงใจและมาตาต่างคุ้นเคย ดังขึ้นมาหลังจากประตูที่ถูกเปิดออก “ไมค์คุณมาที่นี่ได้ยังไง” เพียงใจถามด้วยความตกใจ “ผมสิต้องถามว่าคุณมาทำไมเพียงใจ ส่วนผมก็มารับภรรยาของผม” ชายหนุ่มเดินมาโอบกอดมาตาด้วยรอยยิ้ม แบบคนที่กำลังรู้สึกว่าชนะ “ไมค์คุณหมายความว่าอะไร” เพียงใจถามด้วยเสียงที่เหมือนคนกำลังจะหมดแรง “ผมมารับมาตา ภรรยาที่ถูกต้องทางกฎหมายของผม” คำตอบที่ชัดเจน จนคนฟังไม่สามารถจะแปลความหมายเป็นอ
15เติมเต็ม มาตาแพ้ท้องอย่างหนัก จนเธอต้องหยุดรับงาน ปล่อยให้ชะอมเป็นคนจัดการทุกอย่าง ส่วนตัวเธอก็พักผ่อนอยู่บ้าน เพราะแค่ลุกเดินบ่อยๆ ก็เวียนหัวแล้ว “รีบกลับนะคะ อยู่บ้านคนเดียวเหงาจะแย่” หญิงสาวหอมแก้มสามี ก่อนที่เขาจะออกไปทำงาน แต่ใจก็แอบไม่อยากให้ไป เพราะไม่อยากต้องนั่งเหงาอยู่บ้าน เพียงใจยังคงไม่ละความพยายาม เขามาหาไมค์ที่ทำงานอยู่บ่อยๆ แต่ทุกครั้งที่มา ชายหนุ่มจะโทรศัพท์ไปหาอรรถพลเพื่อให้เขามารับตัวภรรยากลับไป “คุณนั่งรอตรงนี้นะ สามีคุณกำลังจะมา” มันไม่ใช่แค่คำขู่เพียงใจรู้ว่าอดีตสามีของเธอทำจริง เพราะเขาเคยทำมาแล้ว และเมื่ออรรถมาถึง เขาก็ทั้งลากทั้งผลักเธอ ด่าเธอจนเพียงใจอายคนแถวนั้นไปหมด แต่เธอมองไม่เห็นทางเลือกอื่นแล้ว ที่จะไปจากอรรถพลได้นอกจากเอาไมค์คืนมาให้ได้ หลังจากที่ธุรกิจของอรรถพลเริ่มมีปัญหา เขาก็หันกลับไปขอคืนดีกลับภรรยาและจดทะเบียนกันใหม่ จนจากที่เกือบจะได้เป็นเมียหลวง เพียงใจก็ยังคงได้เป็นแค่เมียน้อยตามเดิม เพียงใจมีแต่ความความเจ็บปวดในหัวใจที่สุดท้ายเธอต้องกลายเป็นผู้หญิงไร้ค่า เ
ตอนที่ 1นรก..หลังแต่งงาน“ใครมันจะไปเป็นเจ้าหญิงเหมือนเฌอเอมตั้งแต่แต่งงานกับคุณธเนศไปก็เหมือนกับเป็นนางฟ้าเหาะขึ้นไปอยู่บนสวรรค์ที่มีสามีเป็นเทวดารูปหล่อที่สุด”มุกดาพูดขึ้นมากลางวงสนทนาของเพื่อนเพราะตอนนี้เธอไม่มีแฟนเป็นตัวเป็นตนเพื่อน ๆ ในกลุ่มทุกคนต่างก็มีคนรักแบบเล่น ๆ กันหมดยกเว้นแค่เพียงเอมเท่านั้นที่เลื่อนขั้นไปมีสามีก่อนคนอื่นทั้งที่เฌอเอมเองเป็นคนที่เรียบร้อยที่สุดในกลุ่มแต่ใครจะคาดคิดว่าสุดท้ายเธอจะได้สละโสดเป็นคนแรก“พูดเกินไปมุกดา” เฌอเอมได้แต่ยิ้มมุมปากไม่ได้แสดงความรู้สึกอะไรกับสิ่งที่เพื่อนกำลังชื่นชมเพราะตัวเองรู้ดีว่าชีวิตหลังการแต่งงานมันไม่ได้เป็นไปอย่างที่ทุกคนเห็น“ดูทำหน้าเข้ามีผัวดีแบบนี้ ชาตินี้ฉันยังไม่รู้จะหาได้ไหม”ลินินเพื่อนที่ถือได้ว่าสวยที่สุดในกลุ่มและเธอก็มีความแซ่บไม่แพ้ใครถึงแม้ตอนนี้ลินินจะมีคนที่กำลังดูใจกันแล้วแต่เธอก็หวงสถานภาพโสดเป็นที่สุดจึงไม่ยอมแต่งงานเพราะเธอชอบบอกกับเพื่อน ๆ ว่าการแต่งงานไม่ใช่จุดสิ้นสุดของความรักแต่มันคือ การเริ่มต้นชีวิตคู่ในอีกแง่มุมต่างหากและเธอก็ไม่ต้องการที่จะเริ่มต้นใหม่เพราะสถานภาพที่อยู่กันทุกวันนี้ก
ธเนศไม่ใช่แค่เพียงพูดแต่เขาเดินมาจิกผมภรรยาอย่าง เต็มแรงหญิงสาวยกมือไหว้ร้องขอให้เขาหยุดการกระทำเช่นนี้แต่มันก็ไม่เคยได้ผล“เธอนี่มันดีแต่สวยนอกนั้นก็หาอะไรดีไม่ได้ ทุกวันนี้ฉันแทบจะไม่อยากกลับบ้านเพราะไม่อยากเจอหน้าเธอนั่นแหละรู้ไหม ผู้หญิงอะไรน่าเบื่อชะมัด แล้วนี่อะไรแทนที่จะอยู่บ้านรอเอาใจผัวกลับไปแรดกับเพื่อน ความจริงแล้วเธอไม่ใช่คนเรียบร้อยอย่างที่แสดงให้ฉันเห็นถ้าอยากจะแรดก็ช่วยไปแรดกับฉันบนเตียง”ชายวัยกลางคนรูปร่างสูงผิวเข้มหน้าตาดีตามแบบไฮโซใช้มือที่ขยำผมของภรรยาผลักหน้าผากของเธออย่างแรงจนหญิงสาวล้มลงไปกองกับพื้นฝ่ามือทับลงไปตรงเศษแก้วที่แตกอยู่“โอ๊ย ! ...เลือด”คนตัวเล็กทำอะไรไม่ถูกเมื่อเห็นเลือดไหลออกมาจากมือขาวของเธอ หญิงสาวได้แต่ตะโกนโวยวายและร้องไห้หวังว่าสามีจะเมตตาในตัวเธอสักครั้งแต่กลายเป็นว่าเขากลับรู้สึกรำคาญและคว้ากุญแจรถขับไปออกจากบ้านทันที“ลินินช่วยเราด้วย”เหตุการณ์นี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ธเนศทำรุนแรงกับภรรยา ก่อนหน้านี้เขาเคยทำถึงขั้นตบเธอล้มลงไปกองกับพื้นแต่เฌอเอมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมครั้งนี้เธอกลับรู้สึกหวาดกลัวและอยากบอกเล่าความจ
ตอนที่ 2ร้อนรักในคืนที่เหงาใจ“วันนี้ฝนตกน้ำท่วมกรุงเทพฯแน่นอน ลินินนี่แกทำยังไงเฌอเอมถึงยอมมาเที่ยวผับกับเราได้”มุกดาถามด้วยความแปลกใจเพราะทั้งสามคนเป็นเพื่อนที่สนิทกันมาตั้งแต่สมัยมัธยมต้นแต่ก็เริ่มห่างกันไปตั้งแต่เฌอเอมแต่งงานเพราะเพื่อนทั้งสองคนต่างก็เกรงใจในตัวธเนศที่เป็นผู้ใหญ่จึงไม่มีใครกล้าชวนเอมออกมาเที่ยวด้วย“ต่อไปนี้เราจะได้เพื่อนที่มีรอยยิ้มสดชื่นกลับมาแล้วเลิกแซวเอมมันได้แล้วมุกดา”เพื่อนทั้งสามคนกอดคอกินเหล้ากันอย่างสนุกสนานก่อนหน้าที่เฌอเอมจะแต่งงานเธอกับเพื่อน ๆ ก็มีโอกาสได้มาเที่ยวบ้างแต่ไม่ใช่สถานที่แบบนี้แต่เมื่อเธอตัดสินใจใช้ชีวิตแบบคนมีครอบครัวหญิงสาวก็เลือกที่จะตัดเพื่อนออกไป เต็มที่ก็ได้แค่พูดคุยกันแค่ทางโทรศัพท์เท่านั้นจนเมื่อวานที่เป็นงานวันเกิดของลินินเธอจึงมีโอกาสได้มารวมตัวกันอีกครั้ง“ดูเหมือนมีหนุ่มน้อยกำลังสนใจเพื่อนเรา”ลินินส่งสายตาให้ทั้งเอมและมุกดารู้ว่าเธอกำลังหมายถึงใคร ชายหนุ่มที่นั่งอยู่โต๊ะข้าง ๆ เกือบชั่วโมงแล้วที่ลินินสังเกตว่าเขาเอาแต่นั่งส่งสายตาหวานให้เฌอเอม“เฮ้ย! แก…ทำอะไรแบบนั้น”หญิงสาวที่มีสถานภาพไม่โสดเพียงคนเดียวของกลุ่มถึงกับอุทา
“พี่ยังไม่อยากกลับบ้านพาพี่ไปที่อื่นได้ไหม”เฌอเอมไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเธอถึงกล้าพูดแบบนั้นออกไปแต่เธอรู้สึกแบบนั้นจริง ๆ บ้านที่เธอกำลังจะกลับมันไม่ใช่บ้านแต่มันคือนรกที่เธอเลือกที่จะอยู่เอง“ดึกแล้วไปตรงไหนก็คงอันตรายจะว่าอะไรไหมถ้าผมจะชวนพี่ไปที่ห้องของผม”แดนไตรพูดชวนหญิงสาวที่เพิ่งจะรู้จักกันได้แค่เพียงไม่กี่ชั่วโมงไปที่ห้อง เขาไม่คาดคิดว่าเฌอเอมจะยอมแต่คำตอบที่ได้ทำให้คนชวนรู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูกชายหนุ่มแอบชอบหญิงสาวเหมือนรักแรกพบตั้งแต่เธอเดินเข้ามาในผับ เขานั่งส่งสายตาหวานให้อีกฝ่ายโดยที่เฌอเอมแทบจะไม่รู้ตัวและจากการที่หญิงสาวรับโทรศัพท์บนรถทำให้เขารู้ว่าเธอมีสามีอยู่แล้วและชีวิตครอบครัวของเธอก็ไม่ได้มีความสุข แดนไตรไม่ได้หวังที่จะเข้ามาเป็นมือที่สามแต่เขาเป็นห่วงเธอมากกว่าและก็ ดีใจที่เธอตัดสินใจจะอยู่กับเขาในคืนนี้แทนการกลับไปตรอมตรมอยู่คนเดียวที่บ้าน“คอนโดเธอใหญ่มาก ไหนตอนแรกบอกว่าเป็นแค่นักศึกษารับจ๊อบทำงานกลางคืนแล้วทำไมถึงอยู่คอนโดราคาแพงแบบนี้”เฌอเอมถามด้วยความสงสัยเพราะตอนที่นั่งคุยกันแดนไตรเล่าเรื่องราวของเขาว่าเป็นเพียงชายหนุ่มนักศึกษาที่เดินทางมาจากต่างจัง