ตอนที่ 2
ร้อนรักในคืนที่เหงาใจ
“วันนี้ฝนตกน้ำท่วมกรุงเทพฯแน่นอน ลินินนี่แกทำยังไงเฌอเอมถึงยอมมาเที่ยวผับกับเราได้”
มุกดาถามด้วยความแปลกใจเพราะทั้งสามคนเป็นเพื่อนที่สนิทกันมาตั้งแต่สมัยมัธยมต้นแต่ก็เริ่มห่างกันไปตั้งแต่เฌอเอมแต่งงานเพราะเพื่อนทั้งสองคนต่างก็เกรงใจในตัวธเนศที่เป็นผู้ใหญ่จึงไม่มีใครกล้าชวนเอมออกมาเที่ยวด้วย
“ต่อไปนี้เราจะได้เพื่อนที่มีรอยยิ้มสดชื่นกลับมาแล้วเลิกแซวเอมมันได้แล้วมุกดา”
เพื่อนทั้งสามคนกอดคอกินเหล้ากันอย่างสนุกสนานก่อนหน้าที่เฌอเอมจะแต่งงานเธอกับเพื่อน ๆ ก็มีโอกาสได้มาเที่ยวบ้างแต่ไม่ใช่สถานที่แบบนี้แต่เมื่อเธอตัดสินใจใช้ชีวิตแบบคนมีครอบครัวหญิงสาวก็เลือกที่จะตัดเพื่อนออกไป เต็มที่ก็ได้แค่พูดคุยกันแค่ทางโทรศัพท์เท่านั้นจนเมื่อวานที่เป็นงานวันเกิดของลินินเธอจึงมีโอกาสได้มารวมตัวกันอีกครั้ง
“ดูเหมือนมีหนุ่มน้อยกำลังสนใจเพื่อนเรา”
ลินินส่งสายตาให้ทั้งเอมและมุกดารู้ว่าเธอกำลังหมายถึงใคร ชายหนุ่มที่นั่งอยู่โต๊ะข้าง ๆ เกือบชั่วโมงแล้วที่ลินินสังเกตว่าเขาเอาแต่นั่งส่งสายตาหวานให้เฌอเอม
“เฮ้ย! แก…ทำอะไรแบบนั้น”
หญิงสาวที่มีสถานภาพไม่โสดเพียงคนเดียวของกลุ่มถึงกับอุทานด้วยความตกใจเมื่อลินินยกแก้วให้อีกฝ่ายที่กำลังมองอยู่เพื่อเป็นการเชื้อเชิญให้เขาลุกมานั่งคุย
“มาคนเดียวหรือคะพ่อหนุ่ม”
ลินินถามเสียงหวานทันทีเมื่ออีกฝ่ายยกแก้วเหล้ามานั่งที่โต๊ะของสามสาว
“ครับ...ชีวิตผู้ชายโสดอย่างผมก็ต้องนั่งกินเหล้าคนเดียวจะเป็นการรบกวนไหมถ้าผมจะขอนั่งแจมกับพี่ ๆ”
แขกผู้มาใหม่ใช้คำว่าพี่ ๆ แต่เขากลับส่งสายตาหวานไปที่เอมเหมือนกับว่าจะทำให้หญิงสาวตรงหน้าหลอมละลายเป็นขี้ผึ้งโดนไฟให้ได้
“เพื่อนพี่ชื่อเอมแล้วน้องล่ะชื่ออะไร” มุกดาทำหน้าที่ถามแทนทันที
“ผมชื่อแดนครับยินดีที่ได้รู้จักพี่นะครับพี่เอม”
แดนไตรยกแก้วเหล้าขึ้นหญิงสาวที่กำลังถูกมองจนอายไม่รู้ว่าเธอควรจะทำอย่างไรลินินจึงรีบจับมือของเอมให้ยกแก้วเหล้าไปชนกับอีกฝ่าย
การสนทนาจากตอนแรกที่เป็นเรื่องราวของชีวิตครอบครัวของเอมก็เปลี่ยนไปทันทีเมื่อได้คู่สนทนามาใหม่เป็นหนุ่มหล่อที่ดูแล้วอายุน้อยกว่าทั้งสามคนอยู่มากแต่ด้วยรูปร่างสูงและท่าทางที่ดูสุขุมแต่มีเสน่ห์จึงทำให้เขาดูเป็นผู้ใหญ่มากกว่าอายุ
แดนไตรเป็นหนุ่มเจ้าสำราญอารมณ์ดีแต่เขาก็ไม่ใช่คนขี้โม้จนทำให้ดูไม่มีเสน่ห์ลินินเองมองแดนไตรที่กำลังชวนเฌอเอมคุยด้วยความรู้สึกที่หวังว่าชายหนุ่มตรงหน้าอาจจะสร้างความสุขให้กับเพื่อนเธอได้ขึ้นมาบ้าง
ลินินและมุกดาเวลามาดื่มก็มักจะดื่มเกินลิมิตขากลับต่างก็เมามายจึงได้ตัดสินใจที่จะจอดรถทิ้งไว้ที่ผับและเรียกให้บรรดาแฟน ของทั้งคู่มารับ
“ให้ผมไปส่งพี่นะครับ”
แดนไตรเสนอตัวเป็นคนขับรถไปส่งเอมที่บ้าน หญิงสาวทำท่าจะปฏิเสธแต่ภาพความทรงจำที่สามีของเธอพาผู้หญิงเข้ามานอนในบ้านนอนทับที่นอนที่เธอกับเขาใช้นอนด้วยกันทุกคืนและตัวเองก็ถูกไล่ลงมานอนข้างล่างทำให้เอมรู้สึกว่ามันคงถึงเวลาที่เธอจะต้องเอาคืนบ้าง
“ได้สิ”
หญิงสาวตอบตกลงขึ้นไปนั่งบนรถของแดนไตระหว่าง การเดินทางเธอได้รับโทรศัพท์จากสามีเขาไม่ได้โทรมาเพื่อถามเพราะเป็นห่วงแต่เขาโทรมาเพื่อต้องการบอกให้เธอเตรียมตัวพรุ่งนี้เขาจะพาเธอไปงานแต่งงานของเพื่อน เขากำชับให้เธอทำหน้ามีความสุขและแต่งตัวให้ดีที่สุดให้สมกับการเป็นภรรยาของเขาระหว่างการคุยโทรศัพท์เธอได้ยินผู้หญิงพูดแทรกเข้ามาตลอดและจากเสียงสนทนา เฌอเอมก็รู้ได้ทันทีว่าตอนนี้สามีของเธอกำลังนอนอยู่กับผู้หญิงที่เป็นคู่ขาคนใหม่
“พี่ยังไม่อยากกลับบ้านพาพี่ไปที่อื่นได้ไหม”เฌอเอมไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเธอถึงกล้าพูดแบบนั้นออกไปแต่เธอรู้สึกแบบนั้นจริง ๆ บ้านที่เธอกำลังจะกลับมันไม่ใช่บ้านแต่มันคือนรกที่เธอเลือกที่จะอยู่เอง“ดึกแล้วไปตรงไหนก็คงอันตรายจะว่าอะไรไหมถ้าผมจะชวนพี่ไปที่ห้องของผม”แดนไตรพูดชวนหญิงสาวที่เพิ่งจะรู้จักกันได้แค่เพียงไม่กี่ชั่วโมงไปที่ห้อง เขาไม่คาดคิดว่าเฌอเอมจะยอมแต่คำตอบที่ได้ทำให้คนชวนรู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูกชายหนุ่มแอบชอบหญิงสาวเหมือนรักแรกพบตั้งแต่เธอเดินเข้ามาในผับ เขานั่งส่งสายตาหวานให้อีกฝ่ายโดยที่เฌอเอมแทบจะไม่รู้ตัวและจากการที่หญิงสาวรับโทรศัพท์บนรถทำให้เขารู้ว่าเธอมีสามีอยู่แล้วและชีวิตครอบครัวของเธอก็ไม่ได้มีความสุข แดนไตรไม่ได้หวังที่จะเข้ามาเป็นมือที่สามแต่เขาเป็นห่วงเธอมากกว่าและก็ ดีใจที่เธอตัดสินใจจะอยู่กับเขาในคืนนี้แทนการกลับไปตรอมตรมอยู่คนเดียวที่บ้าน“คอนโดเธอใหญ่มาก ไหนตอนแรกบอกว่าเป็นแค่นักศึกษารับจ๊อบทำงานกลางคืนแล้วทำไมถึงอยู่คอนโดราคาแพงแบบนี้”เฌอเอมถามด้วยความสงสัยเพราะตอนที่นั่งคุยกันแดนไตรเล่าเรื่องราวของเขาว่าเป็นเพียงชายหนุ่มนักศึกษาที่เดินทางมาจากต่างจัง
ตอนที่ 3ค่ำคืนที่ไม่ต้องนอนคนเดียว“ผมขอโทษนะครับที่เมื่อคืนเรา….”แดนไตรเอ่ยคำขอโทษออกจากหัวใจจริง ๆ เมื่อหญิงสาวกำลังแต่งตัวเพื่อจะเดินทางออกจากคอนโดของเขาแต่ยังไม่ทันที่จะพูดอะไรต่อเขาต้องหยุดทันทีเมื่อเฌอเอมโน้มปากบางลงมาปิด ปากหยักได้รูปที่กำลังจะขยับพูดจนสนิท“ไม่มีใครผิดทั้งนั้นแต่พี่ว่าเรื่องระหว่างเรามันควรจะจบแค่วันนี้...”แดนไตรลุกขึ้นสวมกอดคนตรงหน้าทันทีไม่มีทางที่เขาจะยอมให้เรื่องทุกอย่างจบลงแบบนี้ เขาหลงรักหญิงสาวตรงหน้าเข้าแล้วจริง ๆ ไม่ว่าเขาจะต้องอยู่ในฐานะอะไรก็ตามเขาพร้อมจะยอมเสมอขอแค่เพียงแต่เธออย่าพูดแบบนี้พูดเหมือนกับว่าเขาจะไม่ได้เจอเธออีก“อย่าพูดแบบนี้นะครับอนาคตข้างหน้าเราสองคนไม่มีทางรู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้างแต่อย่างน้อยผมก็จะได้หลอกตัวเองว่าผมยังมีพี่อยู่ถ้าเมื่อไหร่ที่พี่ไม่มีความสุขเมื่อไหร่ที่คนอื่นทำร้ายพี่มาหาผมนะ ชีวิตของคนเราทุกคนมีคุณค่าอย่าปล่อยให้เราชินกับการโดนทำร้ายเพราะอีกฝ่ายเขาไม่มีทางเห็นคุณค่าเรา”เฌอเอมพยักหน้าสองมือเล็กแกะมือใหญ่ที่โอบเอวเธอไว้ก่อนที่เธอจะพาตัวเองออกจากคอนโดและเธอคิดว่าจะไม่กลับมาที่นี่อีกหญิงสาวพยายามตัด
ตลอดทางกลับบ้านธเนศพ่นคำหยาบคายใส่หญิงสาวที่นั่งข้าง ๆ มาตลอดทางเฌอเอมไม่แม้แต่จะตอบโต้ใด ๆ เธอไม่แสดงความกลัวไม่มีหยดน้ำตาหรือไม่มีคำอ้อนวอนเพราะมันไม่มีความรู้สึกนั้นหลงเหลืออีกแล้วค่ำคืนที่ผ่านมาเธอได้เรียนรู้ว่าความสุขของชีวิตมันคืออะไร เธอเอาความถูกต้องเอาบรรทัดฐานของสังคมมาตีกรอบตัวเองไว้ คนที่ต้องเผชิญกับความทุกข์ไม่ใช่คนเหล่านั้นที่เธอต้องการจะให้เขาเห็นว่าเธอมีความสุขแต่มันคือตัวเธอเองในเมื่อเธอยังไม่พร้อมจะหลุดไปจากตรงนี้เธอก็จะขออยู่ตรงที่เดิมในแบบที่เธอจะมีความสุขที่สุดก็พอ“พรุ่งนี้เข้าไปหาคุณแม่ผมด้วยแล้วก็อย่าไปพูดอะไรที่ไม่ควรพูด”ธเนศพูดแค่เพียงเท่านี้เขาก็ขับรถออกไปจากบ้านทันทีเอมรู้ว่าสามีของเธอกำลังรู้สึกเสียอารมณ์กับท่าทางที่แข็งกระด้างที่เธอไม่เคยเป็นมาก่อนแต่ก็นั่นแหละหญิงสาวไม่สนใจอะไรแล้วเธอเลือกที่จะใช้ชีวิตของเธอให้มีความสุขที่สุดถ้าเขาทำร้ายเธอ เธอก็จะทำร้ายเขาตอบเช่นกันลมพัดโชยอยู่ด้านนอกเสียงใบไม้ที่พัดสีกันไปมาดังผ่านหน้าต่างเข้ามาเพราะในเวลานี้เป็นปลายฝนต้นหนาว เฌอเอมอดที่จะรู้สึกเหงาไม่ได้ทั้งที่เธอคิดว่ากลับมาถึงบ้านแค่เพียงล้มตัวลงนอนก็คงจะหลับได้โ
ตอนที่ 4ขอบคุณคืนนี้ที่ไม่ต้องอยู่คนเดียว“คืนนี้เธอต้องไปทำงานไหม”แดนไตรแทบจะรีบตอบทันทีว่าเขาว่างสำหรับหญิงสาวที่กำลังโทรมาเสมอแต่มีบางอย่างที่ทำให้เขาไม่สามารถที่จะตอบแบบนั้นได้เขาจึงเลือกที่จะหยุดคิดก่อนที่จะตอบแบบที่ไม่ตรงกับใจออกไป“คืนนี้ผมต้องไปทำงานครับ”เฌอเอมพยายามทำความเข้าใจกับคำตอบว่าชายหนุ่มที่เธอกำลังโทรหาเขา เขาไม่ได้เป็นอะไรกับเธอและตอนนี้เขาเป็นนักศึกษาที่ต้องการหารายได้เพื่อนำมาใช้ในการเรียนคงไม่มีใครที่จะมานั่งรองรับอารมณ์ความเหงาเธอได้ตลอดเวลาบ้านที่ไม่เคยเหมือนบ้านทำให้เธอตัดสินใจที่จะไม่กลับในคืนนี้ เธอไม่รู้จะไปไหนเพราะวันนี้เพื่อน ๆ ของเธอต่างก็ติดธุระเธอจึงตัดสินใจไปนั่งดื่มที่ผับที่เป็นสถานที่ที่ทำให้เธอได้เจอกับแดนไตรและเธอก็ได้แต่หวังว่าถ้าเมื่อไหร่ที่ชายหนุ่มเลิกงานบางทีเขาอาจจะรีบติดต่อกลับมาหาเธอ“ท่าทีหลังพี่จะมากินเหล้าแบบนี้อย่ามาคนเดียวอีกนะครับผมเป็นห่วง”น้ำเสียงที่แสนจะคุ้นเคยทั้งที่เพิ่งรู้จักกันได้เพียงแค่ไม่กี่วันทำให้เฌอเอมถึงกับสะดุ้งตกใจแต่ก็แอบมีดีใจเมื่อรู้สึกว่าตัวเองกำลังเป็นคนสำคัญอีกครั้ง“ไหนบอกว่าคืนนี้มีงานแล้วมาที่นี่ทำไมหรือว
คำพูดที่ไม่น่าจะออกจากปากหนุ่มนักศึกษาที่ดูจากลักษณะค่อนข้างจะเป็นเพลย์บอยเป็นนักดื่มแถมมีอาชีพคอยบริการใน ยามค่ำคืนแบบนี้เฌอเอมได้แต่มองหน้า เธอเข้าใจในสิ่งที่ชายหนุ่มพูดเหลืออย่างเดียวคือเธอยังทำมันไม่ได้“คนเราเวลาที่เราอยู่ในปัญหาเราก็มักจะมองไม่เห็นทางออกแต่เมื่อไหร่ที่ปัญหานั้นไม่ใช่ของเรา เราจะมองทุกอย่างได้อย่างชัดเจนมากขึ้น พี่เข้าใจในสิ่งที่เธอต้องการบอกแต่ให้เวลาพี่หน่อยนะพี่ยังข้ามผ่านมันไปไม่ได้”“พี่ยังรักสามีพี่ใช่ไหม”คนถามกลั้นใจเพราะแดนไตรเองก็ไม่แน่ใจว่าคำตอบที่เขากำลังจะได้ยินมันจะทำให้เขากลายเป็นคนที่ผิดหวังในค่ำคืนนี้ หรือเปล่า“พี่มีสิทธิ์ที่จะไม่รักเขาด้วยหรือเขาคือสามีของพี่นะ”“พี่มีสิทธิ์ที่จะรักใครก็ได้หรือไม่รักใครก็ได้มันเป็นเรื่อง ของความรู้สึก ความรักไม่ใช่สิ่งที่บังคับกันที่ผมถามไม่ใช่เพราะต้องการจะให้พี่เลิกกับเขาแต่ผมต้องการอยากรู้ว่าสาเหตุที่แท้จริงที่พี่เลือกจะทนอยู่ทั้ง ๆ ที่มีความทุกข์แบบนี้เพราะพี่มีเหตุผลอย่างอื่นหรือหัวใจพี่ยังคงรักผู้ชายคนนั้นอยู่เต็มทั้งดวง”คนถูกถามเธอยังไม่มีคำตอบให้กับชายหนุ่มตรงหน้า
ตอนที่ 5บอบช้ำเพียะ ! !หญิงสาวตัวเล็กลงไปล้มกองกับพื้นโดยที่เธอยังไม่ทันตั้งตัวเพราะโรงรถที่ไร้รถของสามีทำให้เธอมั่นใจว่าการกลับบ้านครั้งนี้ของเธอคงไม่ต้องพบกับความรุนแรงใด ๆ แต่ทุกอย่างกลับผิดพลาดเพราะธเนศตั้งใจให้เฌอเอมเข้าใจว่าเขาไม่อยู่เพราะวันนี้เขาต้องการทำร้ายเธอมากกว่าทุกครั้งที่เคย“มึงมันห่างมือห่างตีนมากเกินไปแล้วถึงได้ทำตัวแบบนี้...”ธเนศไม่ใช่แค่เพียงพูดหยาบคายแต่เขายืนยกขาขึ้นสูงก่อนที่จะประทับฝ่าเท้าลงตามตัวของหญิงสาวประหนึ่งว่าเฌอเอมเป็นเพียงแค่ที่หมอนนุ่ม ๆ ให้เขากระทืบเท้าได้อย่างหนำใจ“ไอ้ชั่ว ! เก่งแต่กับผู้หญิง”มันเป็นครั้งแรกของการโต้ตอบของเฌอเอมเพราะก่อนหน้านี้ เธอเลือกที่จะเป็นฝ่ายยอมเต็มที่ก็บีบน้ำตาร้องไห้ยกมือไหว้ขอร้องให้อีกฝ่ายหยุดการกระทำแต่ครั้งนี้เธอจะไม่ทนอีกต่อไปถึงแม้ว่าจะยังเธอตัดสินใจไม่ได้ว่าจะจัดการกับชีวิตครอบครัว ของเธอต่อไปอย่างไรดี“ชั่วใช่ไหม...แล้วมึงดีนักเหรออีเอม”ชายร่างสูงตัวใหญ่กระชากผมยาวของอีกฝ่ายขึ้นมาเต็มมือก่อนที่จะผลักเธอลงไปกองกับพื้นอีกครั้งแล้วบรรจงฟาดแข้งลงไปที่สะโพกของอีกฝ่ายเหมือนว่าเขากำลังสวมบทนักฟุตบอลที่เต
เฌอเอมบอบช้ำไปทั้งตัว เธอนอนซมด้วยพิษไข้ก่อนที่จะมารู้สึกตัวอีกทีเมื่อมีข้อความที่ส่งมาทางไลน์ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง“แดน…..”หญิงสาวไม่มีแรงพอที่จะพิมพ์ข้อความใด ๆ ตอบโต้กลับ เธอจึงตัดสินใจที่จะเปลี่ยนเป็นการโทรศัพท์แทนและแค่เพียง ปลายสายรับโทรศัพท์ เธอเองก็ทำได้แค่เรียกชื่ออีกฝ่ายและร้องไห้ออกมาพูดอะไรไม่ออก“เกิดอะไรขึ้นกับพี่ ! เขาทำร้ายพี่ใช่ไหม”“ใช่...พี่ไม่ไหวแล้วพี่ไม่รู้จะทำอย่างไรแดนมาพาพี่ไปจากที่นี่ได้ไหม”เฌอเอมรู้ว่าเย็นนี้ถ้าธเนศกลับมาเขาคงไม่ได้รู้สึกผิดที่เห็นสภาพของเธอเป็นแบบนี้แต่เขาอาจจะทำร้ายเธอตามที่เขาได้ขู่ไว้หญิงสาวคิดอยากจะหนีตั้งแต่เมื่อช่วงสายแต่เธอไม่มีแรงแม้กระทั่งจะพาตัวเองออกไปหน้าบ้านจนตอนนี้เธอได้ยาแก้ไข้กับแก้อักเสบเข้าไปทำให้มีแรงพอที่จะเดินได้แต่คงไม่สามารถที่จะขับรถไปไหนหรือเดินออกไปเพื่อเรียกรถแท็กซี่เธอจึงตัดสินใจขอร้องให้หนุ่มน้อยผู้เป็นดั่งยาของหัวใจมาพาเธอออกไปจากที่นี่แทน“ผมกำลังไป พี่ออกมารอผมนะครับ”เฌอเอมยังคงนอนร้องไห้โดยที่ไม่ได้วางสายโทรศัพท์จาก อีกฝ่ายเพราะแดนไตรขอร้องให้หญิงสาวถือสายของเขาไว้ตลอดเพราะกลัวว่าระหว่างที่เ
ตอนที่ 6หวงผมหรือ...ครับ“กินข้าวต้มก่อนนะครับจะได้มีแรง”เฌอเอมยังคงนอนซมอยู่แต่ถึงแม้ดวงตาคู่สวยจะถูกปิดด้วยเปลือกตาหลับสนิทแต่หัวใจของเธอกลับยังคงมีเสียงสะอื้นมีหยดน้ำตาไหลอยู่ในนั้นอย่างไม่ยอมหยุดเหมือนว่าตลอดเวลาที่เธอกำลังหลับแท้ที่จริงแล้วเธอไม่ได้หยุดร้องไห้เลยสักนาที“ขอบคุณนะ พี่ทำให้เธอต้องลำบากหรือเปล่าแทนที่จะได้ไปทำงานก็กลับต้องมาดูแลพี่แบบนี้”ท้องฟ้าที่มืดครึ้มด้านนอกทำให้เฌอเอมรู้ว่าเวลานี้เธอกำลังเป็นภาระให้กับชายหนุ่มที่กำลังยกข้าวต้มเข้ามาป้อนเธอ แดนไตรต้องไม่ได้ไปทำงานเพราะปกติแล้วเขาจะไปทำงานที่ผับเกือบทุกคืนเพราะมีวันหยุดแค่เพียงสัปดาห์ละหนึ่งวันเท่านั้น“ไม่หรอกครับพี่ ผมแลกวันหยุดกับเพื่อนแล้วพรุ่งนี้ผมคงไปทำงานตามปกติ พี่ก็จะคงดีขึ้นแต่ผมจะรีบกลับมานะ”แดนไตรเต็มใจและดีใจที่จะได้ดูแลคนตรงหน้าเพราะเขาถามเสียงของหัวใจตัวเองแล้วว่าเขาคงยอมไม่ได้ที่จะให้เฌอเอมกลับไปโดนทำร้ายอีกครั้งเพราะไม่ว่าเขาจะอยู่ในฐานะไหนเป็นแค่คนรู้จักหรือแม้แต่แค่เพื่อนสนิท เขาก็คงปล่อยให้คนที่อยู่ตรงหน้าโดนทำร้ายอีกครั้งไม่ได้“อุ๊ย !”“ผมขอโทษครับ พี่ร้อนไหม แย่จริง ๆ ผมไม่ทันระวัง”ชา
15เติมเต็ม มาตาแพ้ท้องอย่างหนัก จนเธอต้องหยุดรับงาน ปล่อยให้ชะอมเป็นคนจัดการทุกอย่าง ส่วนตัวเธอก็พักผ่อนอยู่บ้าน เพราะแค่ลุกเดินบ่อยๆ ก็เวียนหัวแล้ว “รีบกลับนะคะ อยู่บ้านคนเดียวเหงาจะแย่” หญิงสาวหอมแก้มสามี ก่อนที่เขาจะออกไปทำงาน แต่ใจก็แอบไม่อยากให้ไป เพราะไม่อยากต้องนั่งเหงาอยู่บ้าน เพียงใจยังคงไม่ละความพยายาม เขามาหาไมค์ที่ทำงานอยู่บ่อยๆ แต่ทุกครั้งที่มา ชายหนุ่มจะโทรศัพท์ไปหาอรรถพลเพื่อให้เขามารับตัวภรรยากลับไป “คุณนั่งรอตรงนี้นะ สามีคุณกำลังจะมา” มันไม่ใช่แค่คำขู่เพียงใจรู้ว่าอดีตสามีของเธอทำจริง เพราะเขาเคยทำมาแล้ว และเมื่ออรรถมาถึง เขาก็ทั้งลากทั้งผลักเธอ ด่าเธอจนเพียงใจอายคนแถวนั้นไปหมด แต่เธอมองไม่เห็นทางเลือกอื่นแล้ว ที่จะไปจากอรรถพลได้นอกจากเอาไมค์คืนมาให้ได้ หลังจากที่ธุรกิจของอรรถพลเริ่มมีปัญหา เขาก็หันกลับไปขอคืนดีกลับภรรยาและจดทะเบียนกันใหม่ จนจากที่เกือบจะได้เป็นเมียหลวง เพียงใจก็ยังคงได้เป็นแค่เมียน้อยตามเดิม เพียงใจมีแต่ความความเจ็บปวดในหัวใจที่สุดท้ายเธอต้องกลายเป็นผู้หญิงไร้ค่า เ
14หนักแน่น “เก็บเงินของคุณไว้เถอะค่ะ ใช่ฉันเคยทำลายครอบครัวของคุณไมค์ แต่มันก็ช่วยให้เขาเลิกโง่ไม่ต้องโดนสวมเขา ส่วนคุณก็ไม่ต้องคอยเป็นเมียน้อยใคร” เมื่อมาตาเริ่มโมโห สติก็เริ่มกลับมา เธอคิดว่าเธอผิดก็จริงแต่เพียงใจก็มีส่วนกับความผิดของเรื่องทั้งหมดด้วยเหมือนกัน “ไม่อยากรับงานก็ไม่ต้องรับ ฉันก็มาจ้างไปอย่างนั้นแหละ เพราะแค่ฉันกลับไปหาไมค์ ไม่มีทางที่เขาจะไม่ทิ้ง อีผู้หญิงคนนั้นแล้วรีบกลับมาหาฉันแน่ๆ” “คุณคิดเข้าข้างตัวเองมากไปหรือเปล่าครับ ภรรยาคุณอรรถ” เพียงใจยังไม่ทันพูดจบจบ ก็มีเสียงที่ทั้งเพียงใจและมาตาต่างคุ้นเคย ดังขึ้นมาหลังจากประตูที่ถูกเปิดออก “ไมค์คุณมาที่นี่ได้ยังไง” เพียงใจถามด้วยความตกใจ “ผมสิต้องถามว่าคุณมาทำไมเพียงใจ ส่วนผมก็มารับภรรยาของผม” ชายหนุ่มเดินมาโอบกอดมาตาด้วยรอยยิ้ม แบบคนที่กำลังรู้สึกว่าชนะ “ไมค์คุณหมายความว่าอะไร” เพียงใจถามด้วยเสียงที่เหมือนคนกำลังจะหมดแรง “ผมมารับมาตา ภรรยาที่ถูกต้องทางกฎหมายของผม” คำตอบที่ชัดเจน จนคนฟังไม่สามารถจะแปลความหมายเป็นอ
13ลูกค้าคนสำคัญ “พรุ่งนี้เราไปตรวจกันนะ ตอนเย็นเดี๋ยวผมไปรับที่ทำงาน” ไมค์ตื่นเต้นจนแทบอยากจะพาภรรยาไปตรวจตอนนี้ แต่มันดึกแล้วคงไม่มีที่ไหนเปิดให้ตรวจแน่ๆ ร้ายขายยาก็คงจะปิดหมดถ้าจะซื้อมาตรวจเอง “คุณอย่าคาดหวังแบบนี้สิคะ มันทำให้ฉันยิ่งกลัว กลัวว่าถ้าไม่ได้ท้องขึ้นมาคุณจะเสียใจ” มาตารู้สึกตัวเองกำลังต้องรับผิดชอบความหวังของสามี มันยิ่งทำให้เธอรู้สึกแย่เข้าไปอีก “อย่าคิดมาก ถ้าลูกยังไม่มา เราก็ทำกันใหม่ ยังมีเวลาอีกหลายปี คุณก็ยังอายุน้อยอยู่ ไม่ต้องกลัวว่าผมจะผิดหวัง ช่วงนี้คุณชอบคิดมากรู้ตัวไหม” มาตาไม่ตอบ แต่พยายามฉีกยิ้มให้คนที่กำลังโอบไหล่เธอไว้รู้สึกสบายใจ “นอนกันเถอะ ผมว่าจะพยายามลดการทำงานลง อยากมีเวลาให้คุณมากกว่านี้ ต่อไปวันเสาร์ผมจะเลิกครึ่งวันและวันอาทิตย์จะหยุดอยู่กับบ้าน แล้วคุณล่ะต้องไปทำงานทุกวันไหม” มาตาเข้าใจ ว่าทำไมไมค์ถึงต้องการลดการทำงาน เพราะเขากลัวชีวิตครอบครัวจะต้องล้มเหลวเหมือนครั้งที่อยู่กับเพียงใจอีก “ได้ค่ะ แต่อาจจะไม่ใช่ทุกเสาร์ ไว้เสาร์ไหนฉันไม่ได้หยุด คุณก็อยู่บ้านทำง
12ข่าวใหม่ “เดี๋ยวนี้เจ้านายเรามาสายทุกวันเลยนะ ไม่รู้ว่ากลางวันมัวทำอะไรอยู่” ชะอมนำพนักงานคนอื่นแซวเจ้านายแต่เช้า เพราะรู้ว่ากำลังเป็นข้าวใหม่ปลามันกัน “ก็บ้านมันอยู่ออกไปนอกเมือง จะให้มาถึงแต่เช้าเหมือนพวกที่อยู่ข้างๆบริษัทได้อย่างไรล่ะ” มาตาหาเหตุผลมาแก้อาย เพราะเขารู้ว่าทุกคนกำลังคิดอะไรอยู่ งานมากมายวางสุมอยู่บนโต๊ะ หลายงานก็รอจัดการเรื่องค่าจ้าง บางรายการก็เพิ่งเสนอมา รอมาตาตัดสินใจว่าจะรับงานไหม “พี่มาตา พี่รู้ข่าวเด็ดหรือยัง” ชะอมเปิดประตูห้องเข้ามา โดยที่ไม่ทันได้เคาะประตู เพราะรู้สึกตื่นเต้นกับข่าวที่เธอได้ยินมาจากเพื่อนในวงการไฮโซ “ข่าวอะไร ดูทำเข้า เปิดประตูเข้ามาไม่ให้ซุ่มให้เสียง พี่ก็ตกใจหมด ทำอย่างกับมีข่าวใหญ่โตระดับประเทศ” มาตาส่ายหัว เพราะคิดว่าคงไม่ได้มีอะไรน่าตื่นเต้น ที่เกี่ยวกับตัวเธอหรือบริษัท คงเป็นเรื่องของชาวบ้านที่ชะอมชอบติดตามมากกว่า “ข่าวนี้รับรองพี่มาตา อาจจะตื่นเต้นตกใจกว่าชะอมอีก” “มีอะไรก็พูดมา ไม่ต้องมาเล่นลิ้นทำให้พี่อยากรู้” มาต
11ครอบครัว “เหม็นกลิ่นความรักจัง” ชะอมแซวเจ้านายที่เธอรักไม่ต่างจากพี่สาวแท้ๆ พนักงานคนอื่นก็พากันยิ้มตาม “ให้พี่มีบ้างเถอะ เดี๋ยวจะขึ้นคานเอา” มาตาคิดมาตลอดว่าคงไม่มีผู้ชายคนไหนมาทำให้เธอหลงรักได้เหมือนผู้ชายที่ให้ทุนเธอ และสุดท้ายมันก็เกิดขึ้นจริงๆ “รักก็รุ่ง งานก็เยอะมากค่ะเจ้านาย ตอนนี้ชะอมอยากจะแยกร่างได้อยู่แล้ว” ตั้งแต่บริษัทของเธอปล่อยโฆษณาชุดนั้นไป กระแสตอบรับดีมาก กลุ่มลูกค้ามีตั้งแต่วัยรุ่น วัยทำงาน และอายุเกินหกสิบไปแล้วก็ยังมี “โบนัสก็จะงอกงามตามมานะชะอมคนสวย” หญิงสาวไม่เคยเอาเปรียบพนักงาน เรียกได้ว่าดูแลทุกคนเหมือนพี่น้อง กับข้าวเวลาทำงานมืดก็มีของในตู้เย็นให้ทำกินกัน มาตาจะคอยซื้อมาเติมให้ตลอด “โบนัส คำสั้นๆที่สร้างพลังอันยิ่งใหญ่” พนักงานทุกคนพากันหัวเราะให้กับคำพูดของชะอม ที่ถึงแม้ฟังดูตลกแต่มันก็คือความจริง “พี่มาตาคะ วันนี้มีลูกค้าจะเข้ามาพบเพื่อขอบคุณที่ทางเราทำงานได้สำเร็จ อีกไม่น่าจะเกินสิบห้านาที น่าจะมาถึงค่ะ” “ถ้ามาถึงก็ให้เข้ามาหาพี่เลยนะ”
10โฆษณาหรือเรื่องจริง สภาพร่างกายของไมค์ทรุดโทรมลง เพราะฤทธิ์ของสุราที่เขาดื่มมันหนักทุกวัน เช้าวันนี้เขาไปทำงานไม่ไหว จึงได้แต่ตอนอยู่บนเตียง ข้าวปลาก็ไม่กิน เพราะไม่มีแรงพอที่จะลุกไปทำหรือซื้อ จึงได้แต่หลับตาและหลับไปแบบนั้น ความล้มเหลวในชีวิตรักไม่ได้ทำให้ไมค์โตขึ้นเลย เขายังทำให้ทุกอย่างมันแย่ลงไปกว่าเดิม เมื่อร่างกายเริ่มสร่างเมา ไมค์ตั้งใจจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อโทรหาลูกน้องที่ทำงาน แต่เขากลับเปิดไปเจอโฆษณาชิ้นใหม่ของบริษัทของมาตา ที่กำลังถูกแชร์มากในโลกโซเชียลตอนนี้ เรื่องราวของโฆษณาบอกเล่า ถึงเด็กมัธยมคนหนึ่งที่ได้รับความช่วยเหลือจากชายหนุ่มที่เธอไม่เคยรู้จัก จนวันหนึ่งเธอมีโอกาสได้เจอเขาและแอบชอบเขามาตลอด จนเธอทำงานเธอกับเขามีโอกาสได้ใกล้ชิดกัน โดยที่ผู้ชายคนนั้นจำเธอไม่ได้ ทั้งคู่เกิดพลาดพลั้งมีอะไรกัน หญิงสาวตัดสินใจเดินออกมาจากชีวิตของชายหนุ่ม เพราะคิดว่าทุกอย่างเกิดจากความผิดพลาดไม่ใช่ความรัก ส่วนชายหนุ่มคนนั้นก็เอาแต่เฝ้ารอการกลับมาของเธอ โดยที่ไม่คิดจะทำอะไร จนในที่สุดบริษัทของมาตาก็เข้ามาช่วยให้ทั้งคู่ได้รู้หัวใจตัวเอ
9เมื่อไม่ได้ยินเสียงของหัวใจ เช้านี้มาตาต้องเริ่มต้นกับการวางแผนงานใหม่ทั้งหมด ทั้งวันเธอวุ่นวายจนไม่มีเวลาว่างพอที่จะมาคิดเรื่องของตัวเอง มันทำให้เธอสบายใจไปได้ชั่วขณะหนึ่ง “พี่มาตาเราต้องทำแผนโฆษณากันใหม่ทั้งหมด เดี๋ยวชะอมจะให้นักศึกษาทำแล้วเอามาให้พี่ดูนะ” “ชะอมให้น้องเขามาคุยกับพี่นะ” มาตาตั้งใจจะเป็นคนวางพล็อตโฆษณาเอง โดยที่ให้น้องนักศึกษาเป็นคนจัดการเรื่องกระบวนการทำ ช่วงบ่ายหญิงสาวต้องออกไปพบลูกค้ารายเก่าเพื่อรับเงินค่าจ้าง ซึ่งสถานที่นัดพบอยู่ใกล้กับบ้านที่เธอเคยถูกไมค์จับไปขังไว้มาตาจึงตั้งใจที่แวะเข้าไปเพื่อไปฟังเสียงหัวใจตัวเอง หญิงสาวมองรอบบ้านทันทีที่เธอมาถึง ไม่มีป่าลึกเกมือนอย่างที่เขาโกหก มีแค่เพียงป่าต้นก้ามปู ที่เขาปลูกล้อมบ้านไว้เกือบห้าสิบต้น มาตาคิดถึงคำขู่แล้วก็อดยิ้มไม่ได้ ถุงกับข้าวที่วางไว้บนโต๊ะคือสิ่งแรกที่หญิงสาวเห็นทันที ที่เข้าไปถึง มาตาหยิบแต่ละถุงขึ้นมาดู ตอนนี้ทุกถุงมันบูดหมดแล้ว “เมื่อคืนคุณมาที่นี่” หญิงสาวรู้สึกหัวใจวาบหวิวขึ้นมา เขามารอเธอ มาตาแอบเข้าข้างตัวเอ
8อิสระที่ลำบากใจ ไมค์ขับรถไปส่งมาตาที่ทำงาน เพราะคิดว่าการหายไปของเธอหลายวันแบบนี้ที่ทำงานของเธอคงกำลังต้องการตัวเธอแน่ๆ “พี่มาตาพี่กลับมาแล้ว พวกเราทุกคนตัดสินไม่ถูกเลยว่าจะแจ้งความดีไหม ถึงแม้พี่จะส่งข้อความมาแล้ว” ชะอมเลขาคนสนิทวิ่งเข้ามากอดเจ้านาน ที่เปรียบเป็นเสมือนพี่สาวของเธอ “พี่มีเรื่องไม่ค่อยสบาย เลยอยากหลบไปอยู่คนเดียวเงียบๆสักพัก ตอนนี้พร้อมลุยงานต่อแล้ว” มาตาลูบผมลูกน้องคนสนิทอย่างเอ็นดู เพราะทั้งคู่รู้จักกันมาตั้งแต่ยังไม่ได้เปิดบริษัทนี้ จึงรู้ใจกันมากที่สุด “เรื่องงานเราจัดการได้เรียบร้อย แต่เราตัดสินไม่รับงานใหม่ เพราะตั้งใจจะรอพี่กลับมาก่อน” ชะอมรายงานเรื่องราวระหว่างที่เจ้านายไม่อยู่ “บ่ายนี้เรียกประชุมพนักงานทุกคนให้พี่หน่อย เรื่องสำคัญมาก ห้ามใครไม่เข้าเด็ดขาด” มาตารีบเข้าห้องทำงานและเก็บตัวเองอยู่แต่ในห้องห้ามใครเข้าไปรบกวน เพื่อเตรียมข้อมูลในการประชุมครั้งนี้ ทุกคนในบริษัทต่างคิดว่า พวกเขาคงกำลังจะโดนเลิกจ้างแน่ๆ เพราะเจ้านายของเธอทิ้งบริษัทไปหลายวัน พอกลับมาก็เรียกประชุมใ
7ความเฉยชา เช้านี้เขาไม่ได้ออกไปทำงาน มาตาตั้งใจจะทำกับข้าวให้เขากินสุดฝีมือ “กับข้าวเสร็จแล้วค่ะ”แม่ครัวคนสวยออกไปตามชายหนุ่มที่กำลังนอนอ่านหนังสืออยู่ที่ห้องรับแขกไม่มีเสียงตอบ แต่ไมค์ก็ลุกมานั่งที่โต๊ะอาหารตามปกติ โดยที่ไม่ยอมพูดอะไรหว่างที่นั่งกินอาหารกันมาตารู้สึกอึดอัดจากที่ตั้งใจ จะทำกินข้าวให้อร่อย แต่กลับเป็นว่าเธอแทบจะกลืนไม่เข้าสักคำ“อิ่มแล้วเหรอคะ” หญิงสาวถามเมื่อเห็นคนนั่งตรงข้างรวบช้อน“อืม”คำตอบที่ดูเหมือนไม่อยากตอบ มาตาก็สุดที่จะหาวิธีง้อแล้ว เธอจึงได้แต่อิ่มตาม เพราะไม่มีอารมณ์ที่จะนั่งกินแล้ววันนี้ทั้งวันทั้งสองคน ต่างอยู่กันคนละมุมบ้าน มาตาเองก็ไม่อยากเห็นเขาทำหน้าเฉยชาใส่เธอ ส่วนไมค์เองก็คงยังไม่อยากเห็นหน้าเธออาหารค่ำกลายเป็นไมค์เข้าครัวเป็นคนทำเอง เขาจัดโต๊ะที่เขาเคยใช้นั่งดื่ม ให้เป็นโต๊ะอาหาร ตกแต่งด้วยดอกไม้ มาตาก็ทำได้แค่แอบมองเพราะไม่กล้าเข้าไปยุ่งท้องฟ้าเริ่มมืด ชายหนุ่มเดินเข้ามาที่ห้องนอน และยื่นถุงกระดาษใบใหญ่ที่ในนั้นมีเสื้อผ้าอยู่ให้มาตา“ชอบตัวไหนก็ใส่แล้วออกมากินข้าว คิดว่าคงเลือกชุดที่สวยที่สุด เพราะวันนี้ผมอยากกินข้าวกั