คำพูดที่ไม่น่าจะออกจากปากหนุ่มนักศึกษาที่ดูจากลักษณะค่อนข้างจะเป็นเพลย์บอยเป็นนักดื่มแถมมีอาชีพคอยบริการใน ยามค่ำคืนแบบนี้เฌอเอมได้แต่มองหน้า เธอเข้าใจในสิ่งที่ชายหนุ่มพูดเหลืออย่างเดียวคือเธอยังทำมันไม่ได้
“คนเราเวลาที่เราอยู่ในปัญหาเราก็มักจะมองไม่เห็นทางออกแต่เมื่อไหร่ที่ปัญหานั้นไม่ใช่ของเรา เราจะมองทุกอย่างได้อย่างชัดเจนมากขึ้น พี่เข้าใจในสิ่งที่เธอต้องการบอกแต่ให้เวลาพี่หน่อยนะพี่ยังข้ามผ่านมันไปไม่ได้”
“พี่ยังรักสามีพี่ใช่ไหม”
คนถามกลั้นใจเพราะแดนไตรเองก็ไม่แน่ใจว่าคำตอบที่เขากำลังจะได้ยินมันจะทำให้เขากลายเป็นคนที่ผิดหวังในค่ำคืนนี้ หรือเปล่า
“พี่มีสิทธิ์ที่จะไม่รักเขาด้วยหรือเขาคือสามีของพี่นะ”
“พี่มีสิทธิ์ที่จะรักใครก็ได้หรือไม่รักใครก็ได้มันเป็นเรื่อง ของความรู้สึก ความรักไม่ใช่สิ่งที่บังคับกันที่ผมถามไม่ใช่เพราะต้องการจะให้พี่เลิกกับเขาแต่ผมต้องการอยากรู้ว่าสาเหตุที่แท้จริงที่พี่เลือกจะทนอยู่ทั้ง ๆ ที่มีความทุกข์แบบนี้เพราะพี่มีเหตุผลอย่างอื่นหรือหัวใจพี่ยังคงรักผู้ชายคนนั้นอยู่เต็มทั้งดวง”
คนถูกถามเธอยังไม่มีคำตอบให้กับชายหนุ่มตรงหน้า แก้วเหล้าในมือถูกยกขึ้นมาดื่มจนหมดแก้วก่อนที่เฌอเอมจะโน้มศีรษะตัวเองลงมาซบกับไหล่กว้างของชายหนุ่มที่ตอนนี้เขากับเธอเป็นมากกว่าแค่คนรู้จักแต่เธอก็ไม่รู้ว่าจะให้สภาพไหนกับเจ้าของไหล่ที่แสนอบอุ่นในค่ำคืนนี้
“ตอนผมเด็ก ๆ พ่อกับแม่ของผมทะเลาะกันทุกวันแต่แม่ก็ชอบพูดกับผมว่าสาเหตุที่แม่ต้องทนเพราะไม่อยากให้ครอบครัวแตกแยกไม่อยากให้ผมต้องกลายเป็นเด็กไม่มีพ่อ”
แดนไตรพูดเพียงเท่านี้ เขาก็หยุดถอนหายใจก่อนที่จะ คว้าแก้วเหล้ายกขึ้นดื่มจนหมดและเติมต่อโดยทันทีเหมือนว่าคำพูดที่เขากำลังจะพูดต่อไปมันแสนจะบีบคั้นหัวใจตัวเอง
“ทุกวันนี้ทั้งสองคนทะเลาะกันน้อยลงแต่ครอบครัวของผมก็ไม่เคยมีความสุข ผมอยากถามแม่เหมือนกันนะที่แม่บอกว่าไม่อยากให้ผมต้องกลายเป็นเด็กไม่มีพ่อ แม่เคยถามผมไหมว่าผมอยากมีพ่อหรือเปล่าบางครั้งถ้าตอนนี้ทั้งสองคนไม่ได้อยู่ด้วยกัน พ่ออาจจะเป็นผู้ชายที่ดีกว่านี้ในความทรงจำของผมก็ได้”
แดนไตรชายหนุ่มปากหวานผู้ร่าเริงเวลานี้เขาแปรเปลี่ยนเป็นชายหนุ่มที่ดูเคร่งขรึมแววตาเศร้าสีหน้าของเขาดูจริงจังจนเฌอเอมเองรู้สึกได้ว่าตอนนี้มีคนกำลังเครียดเป็นเพื่อนเธอ
“มันคงไม่เลวร้ายแบบนั้นหรอกอย่างน้อยเวลานี้เธอก็มีทั้งพ่อและแม่อยู่ด้วยกัน”
“ถ้ามันไม่เลวร้ายผมคงไม่ต้องออกมาอยู่ข้างนอกแบบนี้แล้วถ้ามันดีผมก็คงไม่เลือกทำอาชีพนี้ เรื่องเงินก็อาจจะเป็นส่วนหนึ่งในเหตุผลที่ผมเลือกที่จะออกมาบริการในเวลากลางคืนแต่อีกเหตุผลคือมันทำให้รู้สึกว่าเวลาที่ผมได้อยู่กับคนมากหน้าหลายตาได้ฟังเรื่องราวของหลาย ๆ ชีวิตบางครั้งมันก็ทำให้ผมรู้สึกว่ายังมีคนอื่นที่แย่กว่าเรา”
เฌอเอมจากที่เธอรู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้หญิงที่แสนโชคร้ายตอนนี้เธอเริ่มรู้สึกเหมือนอย่างที่แดนไตรพูดโลกใบนี้ยังมีคนที่มีความทุกข์มากกว่าเธออยู่มาก
“แล้วเธอออกมาอยู่ข้างนอกแบบนี้เธอมีความสุขมากกว่าอยู่ที่บ้านใช่ไหม”
“ใช่ครับแต่มันไม่ใช่ความสุขที่แท้จริงเพราะสุดท้ายแล้วพ่อกับแม่ท่านก็ไม่เคยมีความสุขและคนเป็นลูกอย่างผมจะมีความสุขได้อย่างไรกันแต่ปัญหาของผมแตกต่างกับพี่นะเพราะผมไม่สามารถเดินออกมาจากชีวิตพ่อกับแม่ได้เพราะท่านคือผู้ให้กำเนิดแต่ปัญหาของพี่มันอยู่ที่ตัวพี่เองบางครั้งสิ่งที่ทำให้พี่ไม่กล้าก้าวออกมามันอาจจะไม่มีอยู่จริงถ้าวันใดที่พี่ตอบคำถามตัวเองได้พี่จะรู้ว่าเหตุผลที่แท้จริงที่พี่เลือกจะทนอยู่กับความทุกข์เป็นเพราะอะไรกันแน่ซึ่งผมก็คงไม่รู้เท่ากับตัวพี่”
เฌอเอมเข้าใจในสิ่งที่แดนไตรพูดทุกอย่างแต่เธอไม่กล้าพออย่างที่เขาพูด เธอไม่สามารถที่จะก้าวออกมาจากความทุกข์นั้นได้มีเหตุผลเป็นร้อยแปดที่เธอเลือกที่จะทนโดยที่ไม่เคยรู้ว่าสิ่งที่เธอกำลังคิดมันถูกต้องไหมพ่อกับแม่ของเธอต้องการหน้าตาทางสังคมมากกว่าความสุขของลูกหรือเปล่า เฌอเอมได้แต่ถามตัวเองอยู่ในหัวใจเพราะทุกครั้งที่เธอตัดสินใจจะเล่าเรื่องราวชีวิตหลังแต่งงานให้บุพการีฟังเธอก็ต้องถูกทั้งสองคนพูดถึงธเนศแต่ในแง่ดีจน หญิงสาวไม่กล้าพอที่จะบอกคนทั้งคู่ว่าทุกอย่างมันไม่ได้เป็นอย่างที่ทุกคนเห็น
“เธอเด็กกว่าพี่ตั้งเยอะแต่กลับมองโลกได้ดีกว่าพี่ ขอบคุณนะที่คืนนี้ไม่ทิ้งให้พี่อยู่คนเดียว....ชนแก้วกันหน่อยสิเรา”
ค่ำคืนนี้เฌอเอมตัดสินใจที่จะยังไม่กลับบ้าน เธอต้องการรอจนกว่าพระอาทิตย์โผล่พ้นขอบฟ้าเพราะวันนี้เป็นวันทำงานของธเนศ เธอไม่อยากกลับบ้านไปเจอเขาถึงแม้ว่าตอนนี้โทรศัพท์ของเธอจะมีสายเข้าตลอดเวลาไม่ใช่เพราะเขาเป็นห่วงแต่คงกำลังรู้สึกโมโหที่ถูกภรรยาอย่างเธอท้าทายด้วยการไม่อยู่บ้านแบบนี้
“คืนนี้พี่จะไม่กลับบ้านใช่ไหม”
เฌอเอมยิ้มมุมปากแทนคำตอบโน้มศีรษะซบลงกับอกกว้าง อกของผู้ชายที่เธอรู้จักได้เพียงแค่ไม่กี่วันแต่มันกลับสร้าง ความอบอุ่นความปลอดภัยให้เธอมากกว่าสามีที่เธอแต่งงานมาหนึ่งปีเต็มและเป็นผู้ชายที่แสนดีในสายตาของทุกคนในสังคม
ตอนที่ 5บอบช้ำเพียะ ! !หญิงสาวตัวเล็กลงไปล้มกองกับพื้นโดยที่เธอยังไม่ทันตั้งตัวเพราะโรงรถที่ไร้รถของสามีทำให้เธอมั่นใจว่าการกลับบ้านครั้งนี้ของเธอคงไม่ต้องพบกับความรุนแรงใด ๆ แต่ทุกอย่างกลับผิดพลาดเพราะธเนศตั้งใจให้เฌอเอมเข้าใจว่าเขาไม่อยู่เพราะวันนี้เขาต้องการทำร้ายเธอมากกว่าทุกครั้งที่เคย“มึงมันห่างมือห่างตีนมากเกินไปแล้วถึงได้ทำตัวแบบนี้...”ธเนศไม่ใช่แค่เพียงพูดหยาบคายแต่เขายืนยกขาขึ้นสูงก่อนที่จะประทับฝ่าเท้าลงตามตัวของหญิงสาวประหนึ่งว่าเฌอเอมเป็นเพียงแค่ที่หมอนนุ่ม ๆ ให้เขากระทืบเท้าได้อย่างหนำใจ“ไอ้ชั่ว ! เก่งแต่กับผู้หญิง”มันเป็นครั้งแรกของการโต้ตอบของเฌอเอมเพราะก่อนหน้านี้ เธอเลือกที่จะเป็นฝ่ายยอมเต็มที่ก็บีบน้ำตาร้องไห้ยกมือไหว้ขอร้องให้อีกฝ่ายหยุดการกระทำแต่ครั้งนี้เธอจะไม่ทนอีกต่อไปถึงแม้ว่าจะยังเธอตัดสินใจไม่ได้ว่าจะจัดการกับชีวิตครอบครัว ของเธอต่อไปอย่างไรดี“ชั่วใช่ไหม...แล้วมึงดีนักเหรออีเอม”ชายร่างสูงตัวใหญ่กระชากผมยาวของอีกฝ่ายขึ้นมาเต็มมือก่อนที่จะผลักเธอลงไปกองกับพื้นอีกครั้งแล้วบรรจงฟาดแข้งลงไปที่สะโพกของอีกฝ่ายเหมือนว่าเขากำลังสวมบทนักฟุตบอลที่เต
เฌอเอมบอบช้ำไปทั้งตัว เธอนอนซมด้วยพิษไข้ก่อนที่จะมารู้สึกตัวอีกทีเมื่อมีข้อความที่ส่งมาทางไลน์ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง“แดน…..”หญิงสาวไม่มีแรงพอที่จะพิมพ์ข้อความใด ๆ ตอบโต้กลับ เธอจึงตัดสินใจที่จะเปลี่ยนเป็นการโทรศัพท์แทนและแค่เพียง ปลายสายรับโทรศัพท์ เธอเองก็ทำได้แค่เรียกชื่ออีกฝ่ายและร้องไห้ออกมาพูดอะไรไม่ออก“เกิดอะไรขึ้นกับพี่ ! เขาทำร้ายพี่ใช่ไหม”“ใช่...พี่ไม่ไหวแล้วพี่ไม่รู้จะทำอย่างไรแดนมาพาพี่ไปจากที่นี่ได้ไหม”เฌอเอมรู้ว่าเย็นนี้ถ้าธเนศกลับมาเขาคงไม่ได้รู้สึกผิดที่เห็นสภาพของเธอเป็นแบบนี้แต่เขาอาจจะทำร้ายเธอตามที่เขาได้ขู่ไว้หญิงสาวคิดอยากจะหนีตั้งแต่เมื่อช่วงสายแต่เธอไม่มีแรงแม้กระทั่งจะพาตัวเองออกไปหน้าบ้านจนตอนนี้เธอได้ยาแก้ไข้กับแก้อักเสบเข้าไปทำให้มีแรงพอที่จะเดินได้แต่คงไม่สามารถที่จะขับรถไปไหนหรือเดินออกไปเพื่อเรียกรถแท็กซี่เธอจึงตัดสินใจขอร้องให้หนุ่มน้อยผู้เป็นดั่งยาของหัวใจมาพาเธอออกไปจากที่นี่แทน“ผมกำลังไป พี่ออกมารอผมนะครับ”เฌอเอมยังคงนอนร้องไห้โดยที่ไม่ได้วางสายโทรศัพท์จาก อีกฝ่ายเพราะแดนไตรขอร้องให้หญิงสาวถือสายของเขาไว้ตลอดเพราะกลัวว่าระหว่างที่เ
ตอนที่ 6หวงผมหรือ...ครับ“กินข้าวต้มก่อนนะครับจะได้มีแรง”เฌอเอมยังคงนอนซมอยู่แต่ถึงแม้ดวงตาคู่สวยจะถูกปิดด้วยเปลือกตาหลับสนิทแต่หัวใจของเธอกลับยังคงมีเสียงสะอื้นมีหยดน้ำตาไหลอยู่ในนั้นอย่างไม่ยอมหยุดเหมือนว่าตลอดเวลาที่เธอกำลังหลับแท้ที่จริงแล้วเธอไม่ได้หยุดร้องไห้เลยสักนาที“ขอบคุณนะ พี่ทำให้เธอต้องลำบากหรือเปล่าแทนที่จะได้ไปทำงานก็กลับต้องมาดูแลพี่แบบนี้”ท้องฟ้าที่มืดครึ้มด้านนอกทำให้เฌอเอมรู้ว่าเวลานี้เธอกำลังเป็นภาระให้กับชายหนุ่มที่กำลังยกข้าวต้มเข้ามาป้อนเธอ แดนไตรต้องไม่ได้ไปทำงานเพราะปกติแล้วเขาจะไปทำงานที่ผับเกือบทุกคืนเพราะมีวันหยุดแค่เพียงสัปดาห์ละหนึ่งวันเท่านั้น“ไม่หรอกครับพี่ ผมแลกวันหยุดกับเพื่อนแล้วพรุ่งนี้ผมคงไปทำงานตามปกติ พี่ก็จะคงดีขึ้นแต่ผมจะรีบกลับมานะ”แดนไตรเต็มใจและดีใจที่จะได้ดูแลคนตรงหน้าเพราะเขาถามเสียงของหัวใจตัวเองแล้วว่าเขาคงยอมไม่ได้ที่จะให้เฌอเอมกลับไปโดนทำร้ายอีกครั้งเพราะไม่ว่าเขาจะอยู่ในฐานะไหนเป็นแค่คนรู้จักหรือแม้แต่แค่เพื่อนสนิท เขาก็คงปล่อยให้คนที่อยู่ตรงหน้าโดนทำร้ายอีกครั้งไม่ได้“อุ๊ย !”“ผมขอโทษครับ พี่ร้อนไหม แย่จริง ๆ ผมไม่ทันระวัง”ชา
ตอนที่ 7ความสุขที่มีเธอ“กลับคอนโดมาเจอของกินเต็มโต๊ะแบบนี้ทุกวันอีกหน่อยผมคงกลายเป็นหมู อู๊ด ๆ”แดนไตรกลับจากฝึกงานเขารีบตรงมาที่โต๊ะอาหารเพื่อเปิดดูเมนูของมื้อเย็นวันนี้เพราะตั้งแต่เฌอเอมมาอยู่กับเขาจนถึงวันนี้ก็เป็นเวลาเกือบสองเดือน หญิงสาวจะทำกับข้าวรอรับเขาในทุกวัน“พูดแบบนี้วันหลังพี่ไม่ทำแล้วนะ”แม่ครัวทำท่าน้อยใจจนชายหนุ่มในชุดนักศึกษาต้องดึงเธอเข้ามากอดจนหญิงสาวแอบยิ้มหัวเราะด้วยความชอบใจที่อีกฝ่ายมักจะง้อเธอตลอดถึงแม้ว่าเธอจะแค่เพียงงอนเล่น ๆ เท่านั้น“อะไรกัน” เฌอเอมถามด้วยความแปลกใจคนอายุน้อยกว่ายื่นซองสีขาวที่ในนั้นดูก็รู้ว่ามีเงินอยู่ให้กับหญิงสาวที่นั่งข้าง ๆ แต่อีกฝ่ายยังเลือกที่จะไม่รับเพราะเธอไม่เข้าใจว่าแดรไตรส่งซองเงินให้เธอทำไม“เงินเดือนผม ที่ฝึกงานเขาจ่ายมาครับส่วนที่จำเป็นต้องใช้ผมหยิบแยกมาแล้วที่เหลือผมยกให้พี่ไว้ใช้จ่าย”“เธอเก็บไว้เถอะพี่มีเงินเก็บเหลืออยู่ เธอเองก็ยังต้องเติมน้ำมันรถไปทำงานมีค่าใช้จ่ายอีกเยอะแยะไม่ต้องทำมาเป็นใจใหญ่เลยนะ”เฌอเอมรีบคว้าซองเงินและส่งคืนให้กับเจ้าของทันทีเพราะตลอดเวลาที่เธออยู่ที่นี่ถึงแม้เธอจะไม่ทำงานอะไรแต่ก็มีเงินเก็บในบั
ตอนที่ 8คำพูดที่ไม่มีใครเชื่อสวนย่อมขนาดเล็กริมระเบียงถูกจัดให้กลายเป็นที่ทำงานของเฌอเอมเพราะตอนนี้หญิงสาวตัดสินใจที่จะรับงานออกแบบฉลากสินค้ามาทำเพราะเธอเรียนมาทางด้านนี้และเป็นการทำงานที่ไม่ต้องออกไปพบปะผู้คนถึงแม้ว่าเงินในบัญชีของเธอจะยังคงมีมากมายก็ตามแต่ในเมื่อเธอตัดสินใจแล้วว่าเธอจะเริ่มต้นชีวิตใหม่จึงไม่อยากจะใช้เงินของพ่อและแม่อยากหาเงินใช้ด้วยตัวเอง‘แม่เข้าโรงพยาบาลนะ’ข้อความทางไลน์ที่พ่อของเธอส่งมาตั้งแต่เมื่อเช้าหญิงสาวไม่ได้กดอ่านเพราะปกติแล้วทั้งพ่อและแม่จะส่งข้อความมาตลอดจากตอนแรกที่เธอตัดสินใจหนีออกมาจากบ้านของธเนศทั้งคู่ก็ส่งข้อความมาต่อว่าจนเวลาผ่านไปจนถึงตอนนี้ทั้งคู่ก็เริ่มเปลี่ยนเป็นห่วงใยและต้องการให้เธอกลับไป เธอจึงคิดว่าข้อความที่ส่งมา เมื่อเช้าก็คงจะไม่ต่างจากทุกวันแต่สุดท้ายแล้วกลับเป็นข้อความที่สำคัญที่สุดเพราะบิดาแจ้งว่าตอนนี้มารดาของเธอกำลังไม่สบายอยู่ที่โรงพยาบาล“พี่ต้องกลับไปดูแม่กับข้าวอยู่บนโต๊ะแล้วนะ…พี่จะรีบกลับมาให้เร็วที่สุด”“พี่รอผมได้ไหมผมจะเข้าไปกับพี่” แดนไตรไม่อยากให้เฌอเอมกลับไปที่บ้านคนเดียวเพราะเขาไม่ไว้ใจในตัวธเนศถึงแม้ว่
ตอนที่ 9ละครโรงใหญ่“เอมกลับไปอยู่บ้านของเราเถอะนะ”ธเนศเมื่อมาถึงและได้เผชิญหน้ากับภรรยาของเขาอีกครั้งเขาก็ตีบทโศกแสดงท่าทางเสียใจน้ำตาอาบแก้มจนคนที่เป็นพ่อตาแม่ยายอดที่จะสงสารลูกเขยไม่ได้“ฉันคงไม่กลับไปเป็นกระสอบทรายหรือที่ระบายอารมณ์ให้ใครทั้งนั้น”เฌอเอมไม่มีอะไรที่ต้องปกปิดอีกต่อไป เธอพูดความรู้สึก ทุกอย่างออกมาจากหัวใจทันทีถึงแม้เธอจะรู้ว่าบุพการีทั้งคู่ของเธอต่างไม่มีใครเชื่อก็ตาม“เธอมีคนอื่นแล้วยังจะมาโยนความผิดให้พี่อีกหรือแต่ ไม่เป็นไรขอแค่เธอกลับไปอยู่ด้วยกันพี่ก็พร้อมจะให้อภัยและลืม ทุกอย่างอย่าทำให้คุณพ่อคุณแม่ต้องไม่สบายใจเลยนะ”ธเนศคว้ามือของหญิงสาวมาจับและหอมมันอย่างนุ่มนวล ทั้งที่ตลอดชีวิตการแต่งงานเธอไม่เคยได้สัมผัสถึงความรู้สึกแบบนี้เฌอเอมทั้งขยะแขยงทั้งอยากจะอาเจียนใส่คนตรงหน้า เธอไม่คิดเลยว่าผู้ชายจะสามารถแสดงละครได้ขนาดนี้“ที่ผ่านมาฉันเคยคิดว่าคุณเลวแต่วันนี้นอกจากจะเลวแล้วฉันยังรู้ว่าคุณเป็นผู้ชายที่ตอแหลอีกต่างหากไปเรียนแสดงละครที่ไหนมาถึงได้ตีบทแตกกระจุยแต่อย่าลืมว่าทุกอย่างที่คุณทำมันไม่ได้เป็นความลับ”เฌอเอมคว้าโทรศัพท์ที่เธอ
ตอนที่ 10โกหกรวีตัดสินใจที่จะปรึกษาทนายความแต่ทางทนายความแนะนำว่าถ้าขืนสู้คดีต่อไปกลัวว่าอาจจะเป็นฝ่ายแพ้เพราะบางทีทางฝ่ายของธเนศอาจจะมีหลักฐานที่หญิงสาวนอกใจไปมีชายอื่นทนายความจึงแนะนำให้เลือกวิธีไกล่เกลี่ยพูดคุยกัน“คุณธเนศเป็นผู้ชายที่ห่วงหน้าตาในสังคมมากผมว่าบางทีเราสามารถใช้จุดนี้ในการเอาชนะเขาก็ได้นะครับ”รวีเห็นด้วยกับสิ่งที่ทนายความแนะนำเขาจึงพยายามรวบรวมหลักฐานที่เฌอเอมส่งให้เพื่อใช้ขู่อีกฝ่ายว่าถ้าเรื่องราว การหย่าครั้งนี้ไม่เป็นไปโดยง่ายเรื่องราวทั้งหมดอาจจะถูกร่อนผ่านโลกโซเชียลและรับรองว่าความไวของสื่อสมัยนี้คงทำให้ธเนศได้เป็นผู้ชายที่โดนด่ามากที่สุดเพียงแค่ค่ำคืนเดียว“แต่ผมอยากจะแนะนำว่าถ้าคิดจะทำตามที่ผมบอกเราต้องมีหลักฐานให้มากพอเพราะถ้าทางโน้นมีหลักฐานที่แน่ชัดกว่าเรา เราก็อาจจะตกเป็นผู้ต้องหาในโลกโซเชียลก็ได้”รวีตัดสินใจโทรหาลูกสาวเพราะหวังว่าบางทีเฌอเอมอาจจะพอมีวิธีที่จะหาหลักฐานในการมัดตัวธเนศได้มากกว่านี้จากหลักฐานที่เธอมีอยู่เขาเป็นซาตานร้ายเป็นผู้ชายที่กล้าทำร้ายแม้กระทั่งผู้หญิงเป็นผู้ชายที่ไม่ใช่เป็นหัวหน้าครอบครัวเขาทำให้ภรรยามีแต่ความทุกข์แล
ตอนที่ 11ค่ำคืนที่ทำให้รู้จักคำว่ารักแท้“พี่พร้อมจะฟังทุกอย่างที่เธอต้องการจะพูดแต่พี่อาจจะไม่เชื่อนะ เธอคงเข้าใจว่าการที่เธอโกหกพี่แบบนี้มันทำให้พี่ไม่กล้าที่จะเชื่ออะไรในตัวเธออีกแล้ว”แดนไตรพยักหน้าเข้าใจเพราะตัวเขาเองก็คิดแล้วว่าถ้าเมื่อไหร่ความจริงของเขาถูกเปิดเผยถ้าเป็นตัวเขาเองโดนหลอกเหมือนอย่างที่ตัวเองกำลังทำอยู่เขาก็คงจะหมดความเชื่อถือในคนที่โกหก ชายหนุ่มจึงไม่คาดหวังว่าหญิงสาวจะเชื่อทุกอย่างโดยทันทีแต่อย่างน้อยเขาก็ดีใจที่เธอยังให้โอกาสเขาได้เล่าความจริงทุกอย่างแดนไตรเล่าเรื่องราวเหตุการณ์ตั้งแต่เมื่อ 4 ปีที่แล้วที่เขาตัดสินใจออกจากบ้านหลังใหญ่มาใช้ชีวิตที่คอนโดมิเนียมที่แม่ ของเขาซื้อให้ในวันเกิดเพราะตอนนั้นครอบครัวของเขากำลังเกิดปัญหาศรัณย์เป็นนักธุรกิจที่ถึงแม้จะมีอายุมากแล้วแต่ความมีเสน่ห์ของเขาก็ยังคงไม่แพ้หนุ่ม ๆ จึงทำให้มีสาวมาติดมากมายและเขาก็มักจะเลือกที่จะทำนิสัยเจ้าชู้จนทำให้ภาวีซึ่งเป็นแม่ของแดนไตรต้องเสียใจอยู่เรื่อย ๆ ชายหนุ่มจึงตัดสินใจว่าถ้ามารดายังเลือกที่จะอยู่กับคนเป็นพ่อเขาก็ขอที่จะไม่ทนเห็นภาพเหล่านั้น ภาวีไม่สามารถตัดใจจากสามีได้เธอจึงยอม