ตอนที่ 11
ค่ำคืนที่ทำให้รู้จักคำว่ารักแท้
“พี่พร้อมจะฟังทุกอย่างที่เธอต้องการจะพูดแต่พี่อาจจะไม่เชื่อนะ เธอคงเข้าใจว่าการที่เธอโกหกพี่แบบนี้มันทำให้พี่ไม่กล้าที่จะเชื่ออะไรในตัวเธออีกแล้ว”
แดนไตรพยักหน้าเข้าใจเพราะตัวเขาเองก็คิดแล้วว่าถ้าเมื่อไหร่ความจริงของเขาถูกเปิดเผยถ้าเป็นตัวเขาเองโดนหลอกเหมือนอย่างที่ตัวเองกำลังทำอยู่เขาก็คงจะหมดความเชื่อถือในคนที่โกหก ชายหนุ่มจึงไม่คาดหวังว่าหญิงสาวจะเชื่อทุกอย่างโดยทันทีแต่อย่างน้อยเขาก็ดีใจที่เธอยังให้โอกาสเขาได้เล่าความจริงทุกอย่าง
แดนไตรเล่าเรื่องราวเหตุการณ์ตั้งแต่เมื่อ 4 ปีที่แล้วที่เขาตัดสินใจออกจากบ้านหลังใหญ่มาใช้ชีวิตที่คอนโดมิเนียมที่แม่ ของเขาซื้อให้ในวันเกิดเพราะตอนนั้นครอบครัวของเขากำลังเกิดปัญหาศรัณย์เป็นนักธุรกิจที่ถึงแม้จะมีอายุมากแล้วแต่ความมีเสน่ห์ของเขาก็ยังคงไม่แพ้หนุ่ม ๆ จึงทำให้มีสาวมาติดมากมายและเขาก็มักจะเลือกที่จะทำนิสัยเจ้าชู้จนทำให้ภาวีซึ่งเป็นแม่ของแดนไตรต้องเสียใจอยู่เรื่อย ๆ ชายหนุ่มจึงตัดสินใจว่าถ้ามารดายังเลือกที่จะอยู่กับคนเป็นพ่อเขาก็ขอที่จะไม่ทนเห็นภาพเหล่านั้น ภาวีไม่สามารถตัดใจจากสามีได้เธอจึงยอมให้ลูกชายออกมาใช้ชีวิต ข้างนอกตามที่เขาต้องการ
“แล้วคุณพ่อเธอไม่มีปัญหาหรือไงที่เธอออกมาแบบนี้”
เฌอเอมตั้งใจว่าจะไม่เชื่อแต่เธอกลับเชื่อทุกคำที่ชายหนุ่มตรงหน้าบอกนั่นอาจเป็นเพราะความรักที่เธอมีให้เขาและหลาย ๆสิ่งที่ตลอดเวลาที่เธอได้รู้จักกับผู้ชายคนนี้มันทำให้เธอตอบกับหัวใจว่าแท้ที่จริงแล้วเขาคงไม่ได้ตั้งใจโกหกเธอ
“คุณพ่อไม่พอใจแต่ผมก็ไม่ได้สนใจเพราะตั้งแต่ออกมาจากบ้านหลังนั้นผมก็หาเงินใช้เองคุณแม่พยายามที่จะโอนเงินมาให้แต่ผมไม่ต้องการเพราะแท้ที่จริงแล้วเงินทุกบาททุกสตางค์ของครอบครัวก็เกิดจากธุรกิจของคุณพ่อในเมื่อผมเลือกที่จะตัดขาดจากท่านผมก็ควรที่จะยืนด้วยลำแข้งของตัวเอง”
“ทำไมเธอถึงตัดสินใจกลับเข้าบ้านล่ะ”
เฌอเอมถามด้วยความสงสัยเพราะถ้าฟังจากที่แดนไตรพูดเขาไม่น่าจะยอมกลับเข้าไปอยู่ในบ้านเหมือนเดิมเพียงแค่เวลาไม่ กี่วันที่เธอตัดสินใจเข้ามาอยู่บ้านพ่อกับแม่
“เพราะพี่อย่างไรครับพี่ทำให้ผมเห็นว่าความสุขของการได้อยู่กับพ่อกับแม่มันมีความสุขแค่ไหนถึงแม้ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาผมจะไม่เคยชินกับคำว่าครอบครัวแต่พี่ทำให้ผมเรียนรู้ว่าในเวลาที่แม่ของผมกำลังมีความทุกข์ที่สุดผมควรจะอยู่ข้างท่านไม่ใช่ออกมาเผชิญโลกด้วยตัวเองแบบนี้เพราะมันเป็นการเห็นแก่ตัวแต่ไม่น่าเชื่อเมื่อผมกลับเข้าไปในบ้านคุณพ่อกลับเปิดใจที่จะคุยกับผมตรง ๆ”
ชายหนุ่มหยุดพูดก่อนที่จะจับมือหญิงสาวขึ้นมากุมและวางลงที่หัวใจของเขาเหมือนเขากำลังมีความสุขกับสิ่งที่กำลังจะพูดถึงต่อไปนี้
“คุณพ่อยอมสัญญาที่จะเลิกทำทุกอย่างให้คุณแม่เสียใจแต่ท่านก็ไม่ได้บอกเหตุผลนะแต่ผมก็เดาว่าท่านคงไม่อยากเสียผม ไปอีก”
แดนไตรไม่ได้เล่ารายละเอียดทุกอย่างในครอบครัวของเขาให้กับหญิงสาวฟังหมดเพราะในบางช่วงบางตอนเขาก็อยากจะเก็บเป็นความลับของครอบครัวไม่ใช่ว่าเขาต้องการมีความลับกับเฌอเอมแต่เขาแค่มองว่าผู้ใหญ่ทั้งสองคนคงไม่รู้สึกยินดีที่ความไม่ดีของตัวเองจะถูกเปิดเผยกับเด็กรุ่นลูกเพราะมันจะทำให้ขาด ความน่าเชื่อถือความเคารพยำเกรงและเฌอเอมก็เข้าใจดี
ข่าวการขอแต่งงานที่เป็นข่าวใหญ่ในวงการอสังหาริมทรัพย์ดังไปถึงหูของธเนศและเขาก็อดที่จะเจ็บแค้นเพิ่มขึ้นไม่ได้เมื่อรู้ว่าผู้ชายที่คว้าหัวใจอดีตภรรยาของเขาไปแท้ที่จริงแล้วเป็นลูกชายของศัตรูทางธุรกิจของพ่อเขานั่นเอง
“ที่แพ้พ่อเธอก็เอาไปขายกับศัตรูของพ่อฉัน”
ธเนศใช้เบอร์แปลกโทรมาเฌอเอมจึงยอมรับโทรศัพท์ อดีตสามีพ่นคำดูถูกออกมาทันทีเพราะเขารู้ว่าเฌอเอมต้องเจ็บปวดถ้าถูกเขาเหยียดหยามเธอแบบนี้
“อย่าแพ้แล้วพาลสิคะฉันกับแดนไตรเรารักกันเองฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาเป็นลูกของใครร่ำรวยแค่ไหน”
“ เอะ! ฉันชักไม่แน่ใจว่าพ่อของเธอเอาเธอไปขายหรือความจริงแล้วไอ้หนุ่มน้อยคนนั้นมันหลอกใช้เธอเป็นเครื่องมือ ในการเอาชนะครอบครัวของฉันหวังว่าผู้หญิงอย่างเธอคงไม่โง่ ซ้ำสองนะเฌอเอม”
ปลายสายวางโทรศัพท์ไปแล้วแต่คนฟังเหมือนถูกทิ้งระเบิดก้อนใหญ่ไว้ภายในหัวใจเฌอเอมรู้สึกสับสนกับความคิดของตัวเองหรือเธอเริ่มไม่มั่นใจว่าสาเหตุที่แดนไตรเข้ามาทำความรู้จักและพัฒนาความสัมพันธ์กับเธออย่างรวดเร็วแบบนี้เป็นเพราะเขากำลังหลอกใช้เธอเป็นเครื่องมือหรือเปล่า
“ที่ผ่านมาแกยังรู้จักอดีตสามีของแกไม่พออีกใช่ไหม”
ลินินถูกเลือกให้เป็นศิลาณีในการปรึกษาปัญหาหัวใจครั้งนี้คนเป็นเพื่อนอดที่จะย้อนถามคนโทรมาไม่ได้เพราะลินินไม่อยากจะเชื่อว่าเฌอเอมจะรู้สึกหวั่นไหวต่อความรักของแดนไตรเพียงเพราะคำพูดของธเนศผู้ชายที่ทำร้ายร่างกายเพื่อนเธอมาเกือบ 1 ปีเต็ม
“ฉันก็ไม่ได้เชื่อในสิ่งที่คุณธเนศพูดหรอกแต่ก็แค่ลองถามแกดู”
เฌอเอมรู้สึกอายเกินกว่าจะพูดความจริงในหัวใจ เธอจึงเลือกที่จะโกหกไปแบบนั้นแต่หลังจากที่เธอได้คุยกับลินินเธอได้ลองถามความรู้สึกตัวเอง หญิงสาวก็มั่นใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นแดนไตรไม่ได้ตั้งใจโกหก เธอจะไม่ปล่อยให้สิ่งที่ธเนศพยายามทำสำเร็จเธอจะ ไม่ยอมเข้าใจผิดและผิดใจกับแดนไตรเหมือนอย่างที่อดีตสามีของเธอต้องการเด็ดขาด
งานแต่งงานครั้งที่สองของเฌอเอมถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่เหมือนครั้งแรกแต่มันกลับเต็มไปด้วยความสุขความรักครั้งนี้เธอเป็นคนเลือกเองความรักครั้งนี้เป็นความรักที่เธอมั่นใจแม้ว่าเส้นทางชีวิตคู่ของเธอกับชายหนุ่มที่กำลังเป็นเจ้าบ่าวในตอนนี้เกิดจากความรักที่ผิดศีลธรรมแต่ตอนจบของมันเธอก็เลือกที่จะทำทุกอย่างให้ถูกต้องถ้าระหว่างเส้นทางของการใช้ชีวิตคู่นับจากนี้จะต้องเกิดอะไร หญิงสาวก็พร้อมจะทำใจยอมรับและถือเสียว่าทุกอย่างมันเป็น เวรกรรมที่เธอเคยทำผิดพลาดมา
“ขอบคุณนะที่ทำให้พี่ได้รู้จักความสุข”
“ขอบคุณค่ำคืนนั้นที่ทำให้ผมรู้จักคำว่ารักแรกพบและขอบคุณค่ำคืนนี้ที่ทำให้ผมรู้จักคำว่ารักแท้”
ค่ำคืนของการเข้าหอผ่านพ้นไปด้วยดีอย่างมีความสุขทั้งคู่วางแผนตั้งใจว่าจะมีตัวน้อยทันที เพราะตอนนี้เฌอเอมก็อายุสามสิบแล้ว
ชีวิตที่เหมือนคู่ขนานแต่ไม่มีทางประสบพบเจอกันอีกครั้งของเฌอเอมและธเนศช่างมีชีวิตที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงเพราะหลังจากที่หญิงสาวหย่าร้างกับเขาอย่างถูกต้องอีกฝ่ายก็ยังคงใช้ชีวิตตามวิถีเดิมถึงแม้ว่าเขาจะพยายามแสดงว่าเป็นคนดีแต่ไม่นาน ความชั่วของเขาก็กระจ่างต่อสายตาทุกคนโดยที่เฌอเอมไม่ได้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์เหล่านั้น
เรื่องราวของชีวิตที่แต่ละคนต้องเจอมีทั้งความสุขและ ความทุกข์บางคนก็เลือกที่จะจมกับสิ่งที่เจอไปทั้งชีวิตไม่ยอมออกมาเริ่มต้นใหม่แต่วันนี้เอมรู้แล้วว่าความสุขที่แท้จริงของเธอคือผู้ชายที่ชื่อแดนไตร ผู้ชายพี่ทำให้เธอได้รู้จักคำว่าการเคารพคุณค่าซึ่งกันและกันความรักที่แท้จริงไม่ได้เกิดจากหน้าตาทางสังคมหรือเงินทองแต่มันเกิดจากการให้เกียรติเกิดจากการดูแลปกป้องและอยู่ เคียงข้างกันในทุกปัญหา
ชีวิตครอบครัวของเฌอเอมครั้งนี้จะไม่มีทางล้มเหลวเหมือนครั้งที่ผ่านมาเด็ดขาดเพราะจะมีชายหนุ่มที่แสนดีคอยจับมือเคียงข้างผ่านไปในทุกห้วงของนาฬิกาชีวิต
.......THE END.......
1เพราะเธอมันร้าย การหย่าครั้งนี้ทำชีวิตทั้งชีวิตของชายหนุ่มพัง ไมค์เริ่มต้นชีวิตแต่งงานกับเพียงใจ ตอนนั้นเขามีแค่ตัวกับหัวใจเพียงเท่านั้น วันนี้วันที่เขาต้องยอมเซ็นใบหย่า ให้ผู้หญิงที่เขาพยายามสร้างทุกสิ่งทุกอย่างมาเพื่อเธอ บ้าน รถ ที่ดิน และเงินในบัญชีมากมาย เพียงใจกลับไม่เรียกร้องขอสิ่งเหล่านั้น เธอกลับต้องการเพียงแค่อิสระเท่านั้น ชายหนุ่มนั่งมองใบหย่าและกำลังคิดว่าใครคือคนผิดในเรื่องนี้ สิ่งที่เขาได้รู้มา คือเพียงใจว่าจ้างบริษัทหนึ่งเพื่อหาข้อมูล ข้อบกพร่องของเขา มาใช้ในการขอหย่า และเป็นการหย่าแบบที่ไม่เรียกร้องอะไรทั้งสิ้น “เจ้าของบริษัทบ้าๆที่มันชอบทำให้ครอบครัวคนอื่นแตกแยกมันต้องรับผิดชอบ” ไมค์กำมือทั้งสองข้างแน่น เมื่อเขาบอกกับตัวเองได้ ว่าใครคือคนผิด เขาก็คิดที่จะหาทางเอาคืนให้สาสมทันที “พี่มาตามีลูกค้าเขาขอนัดคุยกับพี่ด่วน แต่เขาให้พี่ออกไปเจอเขานะ เพราะเขาบอกแต่เพียงว่าเป็นคนดังไม่อยากให้เรื่องนี้มีใครรู้มาก เขาโอนเงินมาเพื่อยืนยันว่าเขามีตัวตนหนึ่งแสนบาท แต่ชื่อที่โอนก็เป็นเพียงชื่อพนักงานทั่วไป ไม่ได้มีชื่อเสียงอ
2ชู้รัก****6เดือนที่แล้ว**** “ใจเย็นๆสิคะอรรถ ทำเป็นใจร้อนไปได้”เสียงหวานของเพียงใจยิ่งฟังยิ่งทำให้คนที่ซุกไซ้ซอกคอเธออยู่แทบบจะอดใจไม่ไหว“ผมหิวคุณไปทั้งตัวแล้วนะ จะให้ผมรออะไรอีกล่ะ”เจ้านายหุ่นล่ำบึกเสียงสั่นเพราะหัวใจมันกำลังเรียกร้อง หญิงสาวตรงหน้า“แหม...ก็แค่รอให้เปิดประตูห้องก่อนไม่ไหวเลยเหรอคะ”เพียงใจต้องพูดเตือนสติ เพระตอนนี้ทั้งเขาและเธอต่างก็มีครอบครัวแล้ว และตอนนี้ทั้งคู่ก็รู้จักกันในฐานะเจ้านายและลูกน้องเท่านั้น“ผมก็ลืมไปเลย เห็นหน้าคุณทีไร หัวใจมันทนไม่ไหวทุกที”“หัวใจหรืออะไรคะที่ทนไม่ไหว”เมื่อประตูห้องถูกเปิด เลขาสาวในชุดกระโปรงสั้นสีแดง ก็ถูกผลักลงบนเตียงทันที“ใจคอจะไม่ให้เพียงใจได้อาบน้ำก่อนเลยเหรอคะ”หญิงสาวรู้สึกไม่มั่นใจ เพราะเธอนั่งรถมาทั้งวันกว่าจะมาถึงที่ทะเล“ไม่ไหวล่ะ เอาตอนนี้ก่อน แล้วเดี๋ยว เราค่อยไปต่อในห้องน้ำกัน”อรรถพลตอนนี้ก็เปรียบได้กับเสือที่กำลังหิว และเหยื่อก็อยู่ตรงหน้า ถ้าขืนปล่อยให้หลุดมือไป คงไม่ใช่เสือผู้หญิงอย่างเขาแน่นอนเสื้อผ้าในชุดสีแดงทั้งตัวของเลขาสาว ถูกถอดออกกองไว้ที่ปลายเตียงนอน แม้แต่ชุดชั้นในตัวจิ๋ว ก็ถูกก
3ทำหน้าที่แทนภรรยา***ปัจจุบัน***หลังจากที่พยายามกลืนข้าวที่ชายหนุ่มเอามาให้ ลงท้องให้ได้มากที่สุดเพื่อจะมีแรงถ้าหากเธอพอมีทางที่จะหนีได้ “อร่อยใช่ไหม กินเกือบหมดเลย พรุ่งนี้จะได้ทำให้กินอีก เมนูนี้เพียงใจเขาชอบมากๆเลยนะ แต่ช่วงหลังผมยุ่งกับงาน จนไม่ได้ทำให้เธอกินเลย” เวลาที่ไมค์พูดกับเธอดีๆ มาตาฟังทีไรกลับรู้สึกสงสาร เพราะเสียงของเขามีความเศร้าปนอยู่ในนั้น เธอสัมผัสได้ “แล้วคุณกินข้าวหรือยัง”มาตาอดเป็นห่วงชายหนุ่มไม่ได้ เพราะเขาดูเหมือนคนไม่ได้กินไม่ได้นอนมาหลายวัน“ผมกินไปเมื่อกลางวันแล้ว มันกินไม่ลง คุณไม่ต้องเป็นห่วงว่าผมจะตายแล้วไม่มีใครพาคุณออกไปจากที่นี่หรอก”มาตาได้แต่มองหน้าชายหนุ่มที่ครั้งหนึ่งเขาคงเคยหล่อและดูดีเอามาก ๆ แต่ตอนนี้ใบหน้าของเขาหมองคล้ำ หนวดก็ขึ้นเต็มไปหมด เหมือนคนที่ไม่ดูแลตัวเอง“เสื้อผ้า ของเครื่องใช้สำหรับผู้หญิง ผมเอาของเพียงใจเอามาไว้ให้คุณใช้แทนแล้ว”“ของแบบนี้ใครเขาใช้ร่วมกัน” มาตาส่ายหัวไม่ยอมใช้ของที่ไมค์บอกว่ามันเคยเป็นของเพียงใจมาก่อน“คุณอยากรู้นักใช่ไหม ว่าผมจับคุณมาที่นี่เพื่ออะไร ก็เพื่อให้คุณทำทุกอย่างแทนที่เพียง
4ตัวแทน “ตื่นแล้วไปทำกับข้าวให้ผมกินด้วย เพียงใจเขาทำอะไรก็อร่อย” ชายหนุ่มในสภาพที่ยังไม่ได้ใส่เสื้อผ้า ออกปากสั่งผู้หญิงที่เขาจับตัวมา โดยที่ไม่แม้แต่จะหันมามองหน้าด้วยซ้ำไป มาตาจัดการใส่เสื้อผ้าของตัวเองให้เรียบร้อย น้ำตามันไหลไปตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงเช้านี้ หญิงสาวเลือกที่จะยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้ว ว่ามันกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้ ในครัวมีอุปกรณ์พร้อม ในตู้เย็นก็มีเนื้อสัตว์และผัก เพียงพอกับการทำอาหารได้อีกหลายมื้อ มาตาพยายามคิดว่าเธอสามารถทำกับข้าวอะไรเป็นบ้าง เพราะปกติเธอก็ใช้ชีวิตแบบคนสมัยใหม่ซื้อกินเอา “กับข้าวอะไร รูปร่างไม่ได้น่ากินเลย” ไมค์มองกลับข้าวบนโต๊ะที่หญิงสาวจัดวางไว้บนโต๊ะอาหาร ด้วยสายตาตำหนิ “ฉันทำได้แค่นี้แหละค่ะ” มาตาตอบห้วนๆ “ตอนเด็กๆ พ่อแม่ของเธอคงไม่เคยสอนเลยมั้ง โตมาถึงได้ทำอะไรไม่เป็น” ชายหนุ่มเริ่มลามไปถึงพ่อกับแม่ของเธอ “แม่ของฉันฆ่าตัวตายตั้งแต่ฉันยังไม่โตและพ่อก็แต่งงานใหม่ ส่วนมากฉันใช้ชีวิตอยู่คนเดียว” คำตอบของหญิงสาวทำให้ไมค์คิดถึงเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ที่เ
5ผู้ชายที่แสนร้าย คืนนี้มาตายกเอาผ้าห่มกับหมอนมานอน ที่พื้นข้างๆโซฟา เพื่ออยู่เป็นเพื่อนคนเมา เพราะถ้าจะให้เธอลากเขาเข้าไปห้องนอนไม่ไหวแน่ สภาพของไมค์ตอนนี้ ช่างแตกต่างจากชายหนุ่มในวันที่มาตายังเรียนอยู่ชั้นมัธยมและเธอก็แอบปลื้มเขา ในวันที่เขาติดต่อผ่านมาทางครูของเธอเพื่อช่วยเหลือเรื่องทุนการศึกษา ตอนที่หญิงสาวเรียนจบ เธออยากไปขอบคุณเขา แต่ชายหนุ่มเองบอกข้อตกลงไว้ตั้งแต่เริ่มแรกว่า เขาไม่ต้องการทำความรู้จักกับเด็กที่เขาให้ทุน เพราะต้องการช่วยเหลือแบบไม่หวังสิ่งตอบแทน “หิวน้ำขอน้ำหน่อย” หญิงสาวสะดุ้งลุกขึ้นทันที เมื่อได้ยินคนเมาร้องขอน้ำ แต่เขาไม่ยอมลุกหญิงสาวจึงค่อยปล้อนให้ แต่ด้วยความไม่ถนัด น้ำจึงหกรดเสื้อผ้า ไมค์โมโหคว้าแก้วได้ ขว้างกระแทกกำแพงจนแตก เพล้ง! แก้วแตกกระจาย หญิงสาวมองหน้าคนที่อยู่ในอ้อมแขนเธอมาตาปลอยแขนออกทันที จนศีรษะของชายหนุ่มกระแทกลงกับขอบโซฟา “โอ๊ะ! อีคนชอบทำลายครอบครัวคนอื่นเขา ไป!อยากไปไหนก็ไป” ไมค์ชี้ไม้ชี้มือไล่มาตา โดยที่ตัวเองยังลืมตาแทบไม่ขึ้น ความอดทนของหญิงสาวถึงที่สุ
6กลัว เกือบมืดแล้วแต่ไมค์ก็ยังไม่กลับมา มาตาไม่กล้าแม้แต่จะเปิดไฟ เพราะกลัวจะทำให้พวกโจรรู้ว่ามีคนอยู่ในบ้าน “มาตา” เสียงเรีกชื่อดังมาพร้อมกับเสียงไขกุญแจ หญิงสาวจำน้ำเสียงได้ดี เธอรีบลุกจากข้างหน้าต่าง โผเข้ากอดเจ้าของเสียงด้วยความดีใจ “เป็นอะไร แล้วทำไมไม่เปิดไฟ นั่งอยู่มืดๆไม่กลัวหรือไงกัน” ชายหนุ่มโอบเอวหญิงสาวแล้วค่อยๆพาเธอเดินเปิดไฟในห้องรับแขก “เกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงได้กลัวแบบนี้” ไมค์ถามด้วยสีหน้าเหมือนคนที่กำลังกลั้นเสียงหัวเราะไว้ เพราะกลัวคนเล่าจะโมโหเอา มาตาเล่าเรื่องที่เธอได้ยิน เมื่อไมค์ออกไปทำงานได้ไม่ถึงชั่วโมง โดยที่หญิงสาวลืมไป ว่าชายหนุ่มก็จะรู้ว่าเธอกำลังคิดจะหนีไปจากที่นี่ “แล้วคุณออกไปทำอะไรที่กำแพง” ไมค์ทำเสียงเข้ม “ฉันก็แค่ออกไปเดินเล่น” มาตาหลบตาทันที “ก็ผมบอกแล้วไม่ใช่หรือไง ว่าห้ามออกจากบ้านเลย เห็นไหมแถวนี้มันมีแต่พวกโจรป่า ถ้าคุณโดนพวกมันจับ รับรองมีผัวพร้อมกันเป็นสิบแน่ๆ” ไมค์ลุกขึ้นจากโซฟาทันที เพราะกลัวจะกลั้นเสียงหัวเราะไว้ไม่ไหว เมื่อเ
7ความเฉยชา เช้านี้เขาไม่ได้ออกไปทำงาน มาตาตั้งใจจะทำกับข้าวให้เขากินสุดฝีมือ “กับข้าวเสร็จแล้วค่ะ”แม่ครัวคนสวยออกไปตามชายหนุ่มที่กำลังนอนอ่านหนังสืออยู่ที่ห้องรับแขกไม่มีเสียงตอบ แต่ไมค์ก็ลุกมานั่งที่โต๊ะอาหารตามปกติ โดยที่ไม่ยอมพูดอะไรหว่างที่นั่งกินอาหารกันมาตารู้สึกอึดอัดจากที่ตั้งใจ จะทำกินข้าวให้อร่อย แต่กลับเป็นว่าเธอแทบจะกลืนไม่เข้าสักคำ“อิ่มแล้วเหรอคะ” หญิงสาวถามเมื่อเห็นคนนั่งตรงข้างรวบช้อน“อืม”คำตอบที่ดูเหมือนไม่อยากตอบ มาตาก็สุดที่จะหาวิธีง้อแล้ว เธอจึงได้แต่อิ่มตาม เพราะไม่มีอารมณ์ที่จะนั่งกินแล้ววันนี้ทั้งวันทั้งสองคน ต่างอยู่กันคนละมุมบ้าน มาตาเองก็ไม่อยากเห็นเขาทำหน้าเฉยชาใส่เธอ ส่วนไมค์เองก็คงยังไม่อยากเห็นหน้าเธออาหารค่ำกลายเป็นไมค์เข้าครัวเป็นคนทำเอง เขาจัดโต๊ะที่เขาเคยใช้นั่งดื่ม ให้เป็นโต๊ะอาหาร ตกแต่งด้วยดอกไม้ มาตาก็ทำได้แค่แอบมองเพราะไม่กล้าเข้าไปยุ่งท้องฟ้าเริ่มมืด ชายหนุ่มเดินเข้ามาที่ห้องนอน และยื่นถุงกระดาษใบใหญ่ที่ในนั้นมีเสื้อผ้าอยู่ให้มาตา“ชอบตัวไหนก็ใส่แล้วออกมากินข้าว คิดว่าคงเลือกชุดที่สวยที่สุด เพราะวันนี้ผมอยากกินข้าวกั
8อิสระที่ลำบากใจ ไมค์ขับรถไปส่งมาตาที่ทำงาน เพราะคิดว่าการหายไปของเธอหลายวันแบบนี้ที่ทำงานของเธอคงกำลังต้องการตัวเธอแน่ๆ “พี่มาตาพี่กลับมาแล้ว พวกเราทุกคนตัดสินไม่ถูกเลยว่าจะแจ้งความดีไหม ถึงแม้พี่จะส่งข้อความมาแล้ว” ชะอมเลขาคนสนิทวิ่งเข้ามากอดเจ้านาน ที่เปรียบเป็นเสมือนพี่สาวของเธอ “พี่มีเรื่องไม่ค่อยสบาย เลยอยากหลบไปอยู่คนเดียวเงียบๆสักพัก ตอนนี้พร้อมลุยงานต่อแล้ว” มาตาลูบผมลูกน้องคนสนิทอย่างเอ็นดู เพราะทั้งคู่รู้จักกันมาตั้งแต่ยังไม่ได้เปิดบริษัทนี้ จึงรู้ใจกันมากที่สุด “เรื่องงานเราจัดการได้เรียบร้อย แต่เราตัดสินไม่รับงานใหม่ เพราะตั้งใจจะรอพี่กลับมาก่อน” ชะอมรายงานเรื่องราวระหว่างที่เจ้านายไม่อยู่ “บ่ายนี้เรียกประชุมพนักงานทุกคนให้พี่หน่อย เรื่องสำคัญมาก ห้ามใครไม่เข้าเด็ดขาด” มาตารีบเข้าห้องทำงานและเก็บตัวเองอยู่แต่ในห้องห้ามใครเข้าไปรบกวน เพื่อเตรียมข้อมูลในการประชุมครั้งนี้ ทุกคนในบริษัทต่างคิดว่า พวกเขาคงกำลังจะโดนเลิกจ้างแน่ๆ เพราะเจ้านายของเธอทิ้งบริษัทไปหลายวัน พอกลับมาก็เรียกประชุมใ