2
ชู้รัก
****6เดือนที่แล้ว****
“ใจเย็นๆสิคะอรรถ ทำเป็นใจร้อนไปได้”
เสียงหวานของเพียงใจยิ่งฟังยิ่งทำให้คนที่ซุกไซ้ซอกคอเธออยู่แทบบจะอดใจไม่ไหว
“ผมหิวคุณไปทั้งตัวแล้วนะ จะให้ผมรออะไรอีกล่ะ”
เจ้านายหุ่นล่ำบึกเสียงสั่นเพราะหัวใจมันกำลังเรียกร้อง หญิงสาวตรงหน้า
“แหม...ก็แค่รอให้เปิดประตูห้องก่อนไม่ไหวเลยเหรอคะ”
เพียงใจต้องพูดเตือนสติ เพระตอนนี้ทั้งเขาและเธอต่างก็มีครอบครัวแล้ว และตอนนี้ทั้งคู่ก็รู้จักกันในฐานะเจ้านายและลูกน้องเท่านั้น
“ผมก็ลืมไปเลย เห็นหน้าคุณทีไร หัวใจมันทนไม่ไหวทุกที”
“หัวใจหรืออะไรคะที่ทนไม่ไหว”
เมื่อประตูห้องถูกเปิด เลขาสาวในชุดกระโปรงสั้นสีแดง ก็ถูกผลักลงบนเตียงทันที
“ใจคอจะไม่ให้เพียงใจได้อาบน้ำก่อนเลยเหรอคะ”
หญิงสาวรู้สึกไม่มั่นใจ เพราะเธอนั่งรถมาทั้งวันกว่าจะมาถึงที่ทะเล
“ไม่ไหวล่ะ เอาตอนนี้ก่อน แล้วเดี๋ยว เราค่อยไปต่อในห้องน้ำกัน”
อรรถพลตอนนี้ก็เปรียบได้กับเสือที่กำลังหิว และเหยื่อก็อยู่ตรงหน้า ถ้าขืนปล่อยให้หลุดมือไป คงไม่ใช่เสือผู้หญิงอย่างเขาแน่นอน
เสื้อผ้าในชุดสีแดงทั้งตัวของเลขาสาว ถูกถอดออกกองไว้ที่ปลายเตียงนอน แม้แต่ชุดชั้นในตัวจิ๋ว ก็ถูกกำจัดออกอยากรวดเร็ว
“คุณอรรถคะ ค่อยๆค่ะฉันช้ำไปหมดแล้ว”
เพียงใจทำเสียงออดอ้อน เมื่อถูกหมือหนาขยำอกอวบอย่างแรง จนเธอรู้สึกเหมือนมันจะแหลกคามือของเจ้านายอยู่แล้ว
ลีลารักที่ดุเดือดเลือดผ่านของอรรถพล นอกจากเพียงใจแล้วคงไม่มีผู้หญิงคนไหนรับไหว แม้แต่วราลีภรรยาของเขาที่มีอายุมากกว่าชายหนุ่มเกือบสิบปี ก็ถึงขั้นแทบจะไม่อยากยอมนอนกับสามีของตัวเอง เพราะเธอรู้สึกทรมานถึงแม้มันจะเสียวซ่านแค่ไหน แต่ด้วยอายุแล้ว เธอกลัวจะตายคาอกสามีเปล่าๆ
เรื่องของความรักไม่ใช่แค่เรื่องบนเตียง เมื่อบทรักบทแรกเสร็จ เพียงใจยังไม่ทันได้พักหายใจเลย เธอก็ถูกอุ้มมาวางไว้ที่อ่างอาบน้ำ
“ใจคอจะไม่ให้พักกันเลยเหรอคะ”
หญิงสาวกอดเจ้านายที่กำลังนั่งอยู่บนขอบอ่าง และหันมังกรใหญ่มาทางหน้าเธอ
“ใครบอกว่าผมจะทำต่อ ครั้งนี้คุณต้องทำบ้างแล้ว เอาเปรียบผมแบบนี้ โบนัสไม่ถึงแสนแน่ๆ”
พูดจบอรรถพลก็กดหัวของเพียงใจให้ปากของเธออยู่ในระดับที่พอดีกับมังกรอันใหญ่โตของเขา
หญิงสาวเลียวนรอบ ก่อนจะใช้ปากเล็กจัดการลูบเข้าลูบออกจนเจ้านายหนุ่มต้องส่งเสียงครางออกมาด้วยความพอใจ
บทรักบทนี้เพียงใจเป็นคนกำกับการแสดง ซึ่งเป็นงานที่เธอถนัด มากกว่าเป็นฝ่ายตั้งรับเสียอีก
ร่างกายของคนที่เรียกร้องหากันมาหลายวัน แต่ยังหาโอกาสไม่ได้ เมื่อมีโอกาสจึงเสพสุขในกามอารมณ์กันอย่างไม่รู้จักอิ่ม แต่เรื่องแบบนี้มันไม่มีใครที่สามารถจะอยู่กับมันได้ทั้งวันทั้งคืน
“เที่ยวนี้บอกผัวเธอว่ามาประชุมหรือพบลูกค้าล่ะ”
อรรถหมายถึงเพียงใจ ว่าเธอบอกกับไมค์ผู้เป็นสามี ว่ามาต่างจังหวัดครั้งนี้ด้วยเหตุผลอะไร
“ไมค์เขาไม่เคยถามอะไรมากมายหรอกค่ะ เพียงใจบอกแค่ว่าไปต่างจังหวัดเรื่องงานนะ เขาก็ไม่เคยถามต่อ แถมช่วยจัดกระเป๋าให้อีกด้วย”
ไมค์เขาเป็นสามีที่ห่วงเรื่องงานมากกว่าเรื่องของภรรยาด้วยซ้ำ และนี่คือสาเหตุที่ทำให้เพียงใจนอกใจเขา
มองภายนอกชายหนุ่มดูเป็นคนอบอุ่น แต่ถ้าถามในมุมของภรรยา เพียงใจรู้สึกเหมือนตัวเองไร้ค่าไร้ความหมายทุกครั้งที่อยู่กับสามี
ทุกวันไมค์จะขนงานกลับมาทำที่บ้าน กว่าจะนอนก็เช้ามืด เพียงใจก็ได้แต่นอนรออยู่บนเตียงจนเผลอหลับไป นานเป็นเดือนกว่าจะได้มีอะไรกันสักครั้ง แต่หญิงสาวก็มั่นใจ ว่าสามีของเธอห่างเหินแบบนี้เพราะเรื่องงานไม่ได้มีคนอื่น
“ดีเหมือนกัน จะได้ไม่ต้องคอยคิดหาเหตุผล เพราะส่วนตัวผมสบายๆ อีแก่ที่บ้านมันแทบจะไม่อยากให้ผมโดนตัว”
อรรถพลแต่งงานกับวราลีเพียงเพราะหวังสมบัติของเธอ เพราะภรรยาแก่กว่าเขาถึงเก้าปี และสุขภาพก็ไม่ค่อยแข็งแรง เมื่อแต่งงานกัน วราลีก็วางมือเรื่องบริษัททันที ยกให้เป็นหน้าที่ของอรรถพล และด้วยความสามารถของเขา ก็สามารถทำกำไรได้เพิ่มขึ้นตลอด จึงเป็นที่รักของพ่อตาแม่ยาย คราวนี้จะทำอะไรก็ดูดีไปหมด
“ก็ใครจะไปทนคุณได้ล่ะคะ มีอะไรกันแต่ละครั้งไม่รู้ไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน แถมครั้งเดียวไม่เคยพอต้องซ้ำตลอด แล้วยิ่งคุณวราลีก็อายุมากแล้ว มีหวังถ้านอนกับคุณทุกคืน ไม่ได้แก่ตายแน่ๆ ”
ชู้รักสองคนพากันหัวเราะ กับการพูดถึงสามีและภรรยาของตัวเองลับหลัง อย่างที่ไม่ได้มีความรู้สึกผิดในสิ่งที่กำลังทำกันอยู่เลยสักนิด
“ผมจะหย่านะ”
อรรถพลพูดขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย จนเพียงใจหันไปมองหน้าชู้รักด้วยความตกใจ
“ทำไมล่ะคะ แล้วคุณไม่กลัวเรื่องสมบัติเหรอ” เพียงใจกลัวว่าเจ้านายของเธอจะไม่เหลืออะไร
“ผมจะจ้างบริษัทที่รับจ้างทำเรื่องนี้ดำเนินการให้ แล้วเมื่อผมมีข้อมูลมากพอ ผมก็จะขอหย่าและแบ่งทรัพย์สินกัน แต่ถ้าเขาไม่ยอมผมก็จะฟ้อง”
อรรถพลเขาเบื่อกับการหลบๆซ่อน ๆ และหมดความอดทนที่จะต้องทนเห็นหน้าผู้หญิงที่เขาไม่ได้รักต่อไปไม่ไหวแล้ว เขาต้องการอิสระคืน
เพียงใจไม่ได้รู้สึกดีใจหรือเสียใจกับสิ่งที่ได้ยิน เพราะเธอคิดว่าการที่อรรถพลจะหย่าหรือไม่หย่า ทั้งเธอและเขาก็เล่นชู้กันได้เหมือนเดิม แต่เธอกำลังคิดว่า ถ้าวันใดที่เธออยากจะได้อิสระคืนจากไมค์บ้าง เขาจะให้เธอไหม
ไมค์กับเพียงใจ แต่งงานกันเพราะความรัก แต่เมื่อเวลาผ่านไป ชายหนุ่มก็เอาแต่โหมทำงานเพื่อเก็บเงินสร้างครอบครัว โดยที่ไม่เคยถามเพียงใจเลยว่าสิ่งที่เธอต้องการคือเงินทองหรือตัวเขา จึงทำให้ความรักของทั้งคู่ ค่อยๆลดลงไปเรื่อยๆ จนเมื่อเพียงใจมาเจอกับอรรถที่ก็ขาดสิ่งนี้ไม่ต่างจากเธอเหมือนกัน ไฟเลยถูกจุดให้ลุกเผาไหม้คนทั้งคู่อย่างเช่นทุกวันนี้
ไม่นานอรรถพลก็มีข่าวดีมาให้เลขาสุดสวย เพราะเขากับ วราลีได้อย่ากันเรียบร้อยแล้ว แถมบริษัทยังตกเป็นของเขาทั้งหมด วราลีขอแค่บ้านกับที่ดินทั้งหมดที่เป็นมรดกและที่เธอซื้อเพิ่มเท่านั้น
“คุณทำได้อย่างไรคะ” เพียงใจตกใจที่ชู้รักของเขาสามารถหย่าและได้บริษัทมา
“ผมจ้างบริษัทที่เขารับจัดการเรื่องการขอหย่า หรือฟ้องหย่า เขาจะหาช่องทางให้ โดยเฉพาะข้อผิดพลาดของอีกฝ่าย คุณสนใจไหม นี่นามบัตร เจ้าของชื่อคุณมาตา”
เพียงใจรับนามบัตรมาอ่าน ก่อนจะเก็บลงกระเป๋าด้วยความหวัง ว่าเธออาจจะได้อิสระคืนเหมือนที่อรรถพลเพิ่งได้มาบ้าง
3ทำหน้าที่แทนภรรยา***ปัจจุบัน***หลังจากที่พยายามกลืนข้าวที่ชายหนุ่มเอามาให้ ลงท้องให้ได้มากที่สุดเพื่อจะมีแรงถ้าหากเธอพอมีทางที่จะหนีได้ “อร่อยใช่ไหม กินเกือบหมดเลย พรุ่งนี้จะได้ทำให้กินอีก เมนูนี้เพียงใจเขาชอบมากๆเลยนะ แต่ช่วงหลังผมยุ่งกับงาน จนไม่ได้ทำให้เธอกินเลย” เวลาที่ไมค์พูดกับเธอดีๆ มาตาฟังทีไรกลับรู้สึกสงสาร เพราะเสียงของเขามีความเศร้าปนอยู่ในนั้น เธอสัมผัสได้ “แล้วคุณกินข้าวหรือยัง”มาตาอดเป็นห่วงชายหนุ่มไม่ได้ เพราะเขาดูเหมือนคนไม่ได้กินไม่ได้นอนมาหลายวัน“ผมกินไปเมื่อกลางวันแล้ว มันกินไม่ลง คุณไม่ต้องเป็นห่วงว่าผมจะตายแล้วไม่มีใครพาคุณออกไปจากที่นี่หรอก”มาตาได้แต่มองหน้าชายหนุ่มที่ครั้งหนึ่งเขาคงเคยหล่อและดูดีเอามาก ๆ แต่ตอนนี้ใบหน้าของเขาหมองคล้ำ หนวดก็ขึ้นเต็มไปหมด เหมือนคนที่ไม่ดูแลตัวเอง“เสื้อผ้า ของเครื่องใช้สำหรับผู้หญิง ผมเอาของเพียงใจเอามาไว้ให้คุณใช้แทนแล้ว”“ของแบบนี้ใครเขาใช้ร่วมกัน” มาตาส่ายหัวไม่ยอมใช้ของที่ไมค์บอกว่ามันเคยเป็นของเพียงใจมาก่อน“คุณอยากรู้นักใช่ไหม ว่าผมจับคุณมาที่นี่เพื่ออะไร ก็เพื่อให้คุณทำทุกอย่างแทนที่เพียง
4ตัวแทน “ตื่นแล้วไปทำกับข้าวให้ผมกินด้วย เพียงใจเขาทำอะไรก็อร่อย” ชายหนุ่มในสภาพที่ยังไม่ได้ใส่เสื้อผ้า ออกปากสั่งผู้หญิงที่เขาจับตัวมา โดยที่ไม่แม้แต่จะหันมามองหน้าด้วยซ้ำไป มาตาจัดการใส่เสื้อผ้าของตัวเองให้เรียบร้อย น้ำตามันไหลไปตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงเช้านี้ หญิงสาวเลือกที่จะยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้ว ว่ามันกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้ ในครัวมีอุปกรณ์พร้อม ในตู้เย็นก็มีเนื้อสัตว์และผัก เพียงพอกับการทำอาหารได้อีกหลายมื้อ มาตาพยายามคิดว่าเธอสามารถทำกับข้าวอะไรเป็นบ้าง เพราะปกติเธอก็ใช้ชีวิตแบบคนสมัยใหม่ซื้อกินเอา “กับข้าวอะไร รูปร่างไม่ได้น่ากินเลย” ไมค์มองกลับข้าวบนโต๊ะที่หญิงสาวจัดวางไว้บนโต๊ะอาหาร ด้วยสายตาตำหนิ “ฉันทำได้แค่นี้แหละค่ะ” มาตาตอบห้วนๆ “ตอนเด็กๆ พ่อแม่ของเธอคงไม่เคยสอนเลยมั้ง โตมาถึงได้ทำอะไรไม่เป็น” ชายหนุ่มเริ่มลามไปถึงพ่อกับแม่ของเธอ “แม่ของฉันฆ่าตัวตายตั้งแต่ฉันยังไม่โตและพ่อก็แต่งงานใหม่ ส่วนมากฉันใช้ชีวิตอยู่คนเดียว” คำตอบของหญิงสาวทำให้ไมค์คิดถึงเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ที่เ
5ผู้ชายที่แสนร้าย คืนนี้มาตายกเอาผ้าห่มกับหมอนมานอน ที่พื้นข้างๆโซฟา เพื่ออยู่เป็นเพื่อนคนเมา เพราะถ้าจะให้เธอลากเขาเข้าไปห้องนอนไม่ไหวแน่ สภาพของไมค์ตอนนี้ ช่างแตกต่างจากชายหนุ่มในวันที่มาตายังเรียนอยู่ชั้นมัธยมและเธอก็แอบปลื้มเขา ในวันที่เขาติดต่อผ่านมาทางครูของเธอเพื่อช่วยเหลือเรื่องทุนการศึกษา ตอนที่หญิงสาวเรียนจบ เธออยากไปขอบคุณเขา แต่ชายหนุ่มเองบอกข้อตกลงไว้ตั้งแต่เริ่มแรกว่า เขาไม่ต้องการทำความรู้จักกับเด็กที่เขาให้ทุน เพราะต้องการช่วยเหลือแบบไม่หวังสิ่งตอบแทน “หิวน้ำขอน้ำหน่อย” หญิงสาวสะดุ้งลุกขึ้นทันที เมื่อได้ยินคนเมาร้องขอน้ำ แต่เขาไม่ยอมลุกหญิงสาวจึงค่อยปล้อนให้ แต่ด้วยความไม่ถนัด น้ำจึงหกรดเสื้อผ้า ไมค์โมโหคว้าแก้วได้ ขว้างกระแทกกำแพงจนแตก เพล้ง! แก้วแตกกระจาย หญิงสาวมองหน้าคนที่อยู่ในอ้อมแขนเธอมาตาปลอยแขนออกทันที จนศีรษะของชายหนุ่มกระแทกลงกับขอบโซฟา “โอ๊ะ! อีคนชอบทำลายครอบครัวคนอื่นเขา ไป!อยากไปไหนก็ไป” ไมค์ชี้ไม้ชี้มือไล่มาตา โดยที่ตัวเองยังลืมตาแทบไม่ขึ้น ความอดทนของหญิงสาวถึงที่สุ
6กลัว เกือบมืดแล้วแต่ไมค์ก็ยังไม่กลับมา มาตาไม่กล้าแม้แต่จะเปิดไฟ เพราะกลัวจะทำให้พวกโจรรู้ว่ามีคนอยู่ในบ้าน “มาตา” เสียงเรีกชื่อดังมาพร้อมกับเสียงไขกุญแจ หญิงสาวจำน้ำเสียงได้ดี เธอรีบลุกจากข้างหน้าต่าง โผเข้ากอดเจ้าของเสียงด้วยความดีใจ “เป็นอะไร แล้วทำไมไม่เปิดไฟ นั่งอยู่มืดๆไม่กลัวหรือไงกัน” ชายหนุ่มโอบเอวหญิงสาวแล้วค่อยๆพาเธอเดินเปิดไฟในห้องรับแขก “เกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงได้กลัวแบบนี้” ไมค์ถามด้วยสีหน้าเหมือนคนที่กำลังกลั้นเสียงหัวเราะไว้ เพราะกลัวคนเล่าจะโมโหเอา มาตาเล่าเรื่องที่เธอได้ยิน เมื่อไมค์ออกไปทำงานได้ไม่ถึงชั่วโมง โดยที่หญิงสาวลืมไป ว่าชายหนุ่มก็จะรู้ว่าเธอกำลังคิดจะหนีไปจากที่นี่ “แล้วคุณออกไปทำอะไรที่กำแพง” ไมค์ทำเสียงเข้ม “ฉันก็แค่ออกไปเดินเล่น” มาตาหลบตาทันที “ก็ผมบอกแล้วไม่ใช่หรือไง ว่าห้ามออกจากบ้านเลย เห็นไหมแถวนี้มันมีแต่พวกโจรป่า ถ้าคุณโดนพวกมันจับ รับรองมีผัวพร้อมกันเป็นสิบแน่ๆ” ไมค์ลุกขึ้นจากโซฟาทันที เพราะกลัวจะกลั้นเสียงหัวเราะไว้ไม่ไหว เมื่อเ
7ความเฉยชา เช้านี้เขาไม่ได้ออกไปทำงาน มาตาตั้งใจจะทำกับข้าวให้เขากินสุดฝีมือ “กับข้าวเสร็จแล้วค่ะ”แม่ครัวคนสวยออกไปตามชายหนุ่มที่กำลังนอนอ่านหนังสืออยู่ที่ห้องรับแขกไม่มีเสียงตอบ แต่ไมค์ก็ลุกมานั่งที่โต๊ะอาหารตามปกติ โดยที่ไม่ยอมพูดอะไรหว่างที่นั่งกินอาหารกันมาตารู้สึกอึดอัดจากที่ตั้งใจ จะทำกินข้าวให้อร่อย แต่กลับเป็นว่าเธอแทบจะกลืนไม่เข้าสักคำ“อิ่มแล้วเหรอคะ” หญิงสาวถามเมื่อเห็นคนนั่งตรงข้างรวบช้อน“อืม”คำตอบที่ดูเหมือนไม่อยากตอบ มาตาก็สุดที่จะหาวิธีง้อแล้ว เธอจึงได้แต่อิ่มตาม เพราะไม่มีอารมณ์ที่จะนั่งกินแล้ววันนี้ทั้งวันทั้งสองคน ต่างอยู่กันคนละมุมบ้าน มาตาเองก็ไม่อยากเห็นเขาทำหน้าเฉยชาใส่เธอ ส่วนไมค์เองก็คงยังไม่อยากเห็นหน้าเธออาหารค่ำกลายเป็นไมค์เข้าครัวเป็นคนทำเอง เขาจัดโต๊ะที่เขาเคยใช้นั่งดื่ม ให้เป็นโต๊ะอาหาร ตกแต่งด้วยดอกไม้ มาตาก็ทำได้แค่แอบมองเพราะไม่กล้าเข้าไปยุ่งท้องฟ้าเริ่มมืด ชายหนุ่มเดินเข้ามาที่ห้องนอน และยื่นถุงกระดาษใบใหญ่ที่ในนั้นมีเสื้อผ้าอยู่ให้มาตา“ชอบตัวไหนก็ใส่แล้วออกมากินข้าว คิดว่าคงเลือกชุดที่สวยที่สุด เพราะวันนี้ผมอยากกินข้าวกั
8อิสระที่ลำบากใจ ไมค์ขับรถไปส่งมาตาที่ทำงาน เพราะคิดว่าการหายไปของเธอหลายวันแบบนี้ที่ทำงานของเธอคงกำลังต้องการตัวเธอแน่ๆ “พี่มาตาพี่กลับมาแล้ว พวกเราทุกคนตัดสินไม่ถูกเลยว่าจะแจ้งความดีไหม ถึงแม้พี่จะส่งข้อความมาแล้ว” ชะอมเลขาคนสนิทวิ่งเข้ามากอดเจ้านาน ที่เปรียบเป็นเสมือนพี่สาวของเธอ “พี่มีเรื่องไม่ค่อยสบาย เลยอยากหลบไปอยู่คนเดียวเงียบๆสักพัก ตอนนี้พร้อมลุยงานต่อแล้ว” มาตาลูบผมลูกน้องคนสนิทอย่างเอ็นดู เพราะทั้งคู่รู้จักกันมาตั้งแต่ยังไม่ได้เปิดบริษัทนี้ จึงรู้ใจกันมากที่สุด “เรื่องงานเราจัดการได้เรียบร้อย แต่เราตัดสินไม่รับงานใหม่ เพราะตั้งใจจะรอพี่กลับมาก่อน” ชะอมรายงานเรื่องราวระหว่างที่เจ้านายไม่อยู่ “บ่ายนี้เรียกประชุมพนักงานทุกคนให้พี่หน่อย เรื่องสำคัญมาก ห้ามใครไม่เข้าเด็ดขาด” มาตารีบเข้าห้องทำงานและเก็บตัวเองอยู่แต่ในห้องห้ามใครเข้าไปรบกวน เพื่อเตรียมข้อมูลในการประชุมครั้งนี้ ทุกคนในบริษัทต่างคิดว่า พวกเขาคงกำลังจะโดนเลิกจ้างแน่ๆ เพราะเจ้านายของเธอทิ้งบริษัทไปหลายวัน พอกลับมาก็เรียกประชุมใ
9เมื่อไม่ได้ยินเสียงของหัวใจ เช้านี้มาตาต้องเริ่มต้นกับการวางแผนงานใหม่ทั้งหมด ทั้งวันเธอวุ่นวายจนไม่มีเวลาว่างพอที่จะมาคิดเรื่องของตัวเอง มันทำให้เธอสบายใจไปได้ชั่วขณะหนึ่ง “พี่มาตาเราต้องทำแผนโฆษณากันใหม่ทั้งหมด เดี๋ยวชะอมจะให้นักศึกษาทำแล้วเอามาให้พี่ดูนะ” “ชะอมให้น้องเขามาคุยกับพี่นะ” มาตาตั้งใจจะเป็นคนวางพล็อตโฆษณาเอง โดยที่ให้น้องนักศึกษาเป็นคนจัดการเรื่องกระบวนการทำ ช่วงบ่ายหญิงสาวต้องออกไปพบลูกค้ารายเก่าเพื่อรับเงินค่าจ้าง ซึ่งสถานที่นัดพบอยู่ใกล้กับบ้านที่เธอเคยถูกไมค์จับไปขังไว้มาตาจึงตั้งใจที่แวะเข้าไปเพื่อไปฟังเสียงหัวใจตัวเอง หญิงสาวมองรอบบ้านทันทีที่เธอมาถึง ไม่มีป่าลึกเกมือนอย่างที่เขาโกหก มีแค่เพียงป่าต้นก้ามปู ที่เขาปลูกล้อมบ้านไว้เกือบห้าสิบต้น มาตาคิดถึงคำขู่แล้วก็อดยิ้มไม่ได้ ถุงกับข้าวที่วางไว้บนโต๊ะคือสิ่งแรกที่หญิงสาวเห็นทันที ที่เข้าไปถึง มาตาหยิบแต่ละถุงขึ้นมาดู ตอนนี้ทุกถุงมันบูดหมดแล้ว “เมื่อคืนคุณมาที่นี่” หญิงสาวรู้สึกหัวใจวาบหวิวขึ้นมา เขามารอเธอ มาตาแอบเข้าข้างตัวเอ
10โฆษณาหรือเรื่องจริง สภาพร่างกายของไมค์ทรุดโทรมลง เพราะฤทธิ์ของสุราที่เขาดื่มมันหนักทุกวัน เช้าวันนี้เขาไปทำงานไม่ไหว จึงได้แต่ตอนอยู่บนเตียง ข้าวปลาก็ไม่กิน เพราะไม่มีแรงพอที่จะลุกไปทำหรือซื้อ จึงได้แต่หลับตาและหลับไปแบบนั้น ความล้มเหลวในชีวิตรักไม่ได้ทำให้ไมค์โตขึ้นเลย เขายังทำให้ทุกอย่างมันแย่ลงไปกว่าเดิม เมื่อร่างกายเริ่มสร่างเมา ไมค์ตั้งใจจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อโทรหาลูกน้องที่ทำงาน แต่เขากลับเปิดไปเจอโฆษณาชิ้นใหม่ของบริษัทของมาตา ที่กำลังถูกแชร์มากในโลกโซเชียลตอนนี้ เรื่องราวของโฆษณาบอกเล่า ถึงเด็กมัธยมคนหนึ่งที่ได้รับความช่วยเหลือจากชายหนุ่มที่เธอไม่เคยรู้จัก จนวันหนึ่งเธอมีโอกาสได้เจอเขาและแอบชอบเขามาตลอด จนเธอทำงานเธอกับเขามีโอกาสได้ใกล้ชิดกัน โดยที่ผู้ชายคนนั้นจำเธอไม่ได้ ทั้งคู่เกิดพลาดพลั้งมีอะไรกัน หญิงสาวตัดสินใจเดินออกมาจากชีวิตของชายหนุ่ม เพราะคิดว่าทุกอย่างเกิดจากความผิดพลาดไม่ใช่ความรัก ส่วนชายหนุ่มคนนั้นก็เอาแต่เฝ้ารอการกลับมาของเธอ โดยที่ไม่คิดจะทำอะไร จนในที่สุดบริษัทของมาตาก็เข้ามาช่วยให้ทั้งคู่ได้รู้หัวใจตัวเอ