7
ความเฉยชา
เช้านี้เขาไม่ได้ออกไปทำงาน มาตาตั้งใจจะทำกับข้าวให้เขากินสุดฝีมือ
“กับข้าวเสร็จแล้วค่ะ”
แม่ครัวคนสวยออกไปตามชายหนุ่มที่กำลังนอนอ่านหนังสืออยู่ที่ห้องรับแขก
ไม่มีเสียงตอบ แต่ไมค์ก็ลุกมานั่งที่โต๊ะอาหารตามปกติ โดยที่ไม่ยอมพูดอะไรหว่างที่นั่งกินอาหารกัน
มาตารู้สึกอึดอัดจากที่ตั้งใจ จะทำกินข้าวให้อร่อย แต่กลับเป็นว่าเธอแทบจะกลืนไม่เข้าสักคำ
“อิ่มแล้วเหรอคะ” หญิงสาวถามเมื่อเห็นคนนั่งตรงข้างรวบช้อน
“อืม”
คำตอบที่ดูเหมือนไม่อยากตอบ มาตาก็สุดที่จะหาวิธีง้อแล้ว เธอจึงได้แต่อิ่มตาม เพราะไม่มีอารมณ์ที่จะนั่งกินแล้ว
วันนี้ทั้งวันทั้งสองคน ต่างอยู่กันคนละมุมบ้าน มาตาเองก็ไม่อยากเห็นเขาทำหน้าเฉยชาใส่เธอ ส่วนไมค์เองก็คงยังไม่อยากเห็นหน้าเธอ
อาหารค่ำกลายเป็นไมค์เข้าครัวเป็นคนทำเอง เขาจัดโต๊ะที่เขาเคยใช้นั่งดื่ม ให้เป็นโต๊ะอาหาร ตกแต่งด้วยดอกไม้ มาตาก็ทำได้แค่แอบมองเพราะไม่กล้าเข้าไปยุ่ง
ท้องฟ้าเริ่มมืด ชายหนุ่มเดินเข้ามาที่ห้องนอน และยื่นถุงกระดาษใบใหญ่ที่ในนั้นมีเสื้อผ้าอยู่ให้มาตา
“ชอบตัวไหนก็ใส่แล้วออกมากินข้าว คิดว่าคงเลือกชุดที่สวยที่สุด เพราะวันนี้ผมอยากกินข้าวกับคนสวย”
ตั้งแต่เช้าจนถึงเย็น นี่คือประโยคแรกที่เขาพูดกับเธอ มาตารีบอาบน้ำและเลือกชุดที่อยู่ในถุงที่เธอคิดว่าสวยที่สุดใส่ออกไปกินอาหารมื้อค่ำกับเขาที่ระเบียงหน้าบ้าน
แสงไฟทุกดวงถูกดับลง เหลือแต่เพียงแสงจากเทียนที่ไมค์จุดไว้รอบระเบียงและบนโต๊ะอาหาร
“นั่งสิ” เขาชี้ลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามเขา
“ชุดนี้เป็นยังไงคะ ถูกใจคุณไหม” มาตาถามแบบกล้าๆกลัวๆ
“คุณก็คือคุณ ใส่ชุดไหนก็คือคุณ”
คำตอบที่ได้ไม่ตรงคำถาม แต่มาตาไม่อยากทำให้บรรยากาศเสียเธอจึงได้แต่ยิ้มแล้วลงมือกินอาหารที่ชายหนุ่มเป็นคนทำเอง
เมื่อกินอิ่มหญิงสาวเช็ดปากและรวบช้อน ตามลักษณะผู้ดีในละครที่เธอเคยดู
“อร่อยไหม” ไมค์ถามด้วยใบหน้าที่ไม่แสดงความรู้สึก
“อร่อยมากๆค่ะ” มาตาชมด้วยความจริงใจและดีใจที่เขาพูดกับเธอ
“พรุ่งนี้ผมจะไปส่งคุณที่บ้าน ขอบคุณที่อยู่เป็นเพื่อนผมมาหลายวัน”
หญิงสาวรู้สึกจุกและเจ็บกับคำว่าเป็นเพื่อน ที่ชายหนุ่มพูด แต่เธอก็ไม่รู้จะเรียกร้องอะไรจากเขา
“ถ้าคุณคิดว่าที่ผ่านมา ฉันอยู่กับคุณในแบบเพื่อน ฉันก็จะเป็นเพื่อนกับคุณ และจะลืมทุกอย่างที่เกิดขึ้นถ้าคุณต้องการ”
มาตาพยายามคุมเสียงตัวเองไม่ให้สั่น พยายามไม่แสดงออกให้อีกฝ่ายรู้ ว่าเธอกำลังเสียใจ แต่มันก็ปิดบังคนที่แก่กว่าไม่ได้
“บ้านหลังนี้ต้อนรับเธอเสมอ ถ้าเธออยากอยู่ก็กลับมา แต่ถ้าไม่ต้องการอยู่ที่นี่แล้ว ก็แค่ทิ้งกุญแจนี้ไป”
พูดจบเจ้าของบ้านก็หยิบกุญแจพวงใหญ่วางไว้บนมือเล็กของเธอก่อนที่เขาจะลุกเพื่อเก็บจานและทุกอย่างบนโต๊ะ
“เดี๋ยวฉันเก็บเองค่ะ” มาตาทำท่าแย่งจานจากมือของเขา
“ไปอาบน้ำ เปลี่ยนเป็นชุดนอน ผมซื้อมาให้ใหม่แล้วอยู่ในตู้”
มาตาไม่อยากมีเรื่องกับเขาจึงยอมทำตามแต่โดยดี เมื่อเปิดตู้เสื้อผ้า เสื้อผ้าและของใช้ที่เป็นของเพียงใจหายไปหมดแล้ว มีเพียงเสื้อผ้าชุดใหม่เกือบสิบชุดที่แขวนไว้แทน
นอกจากเสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้กลายเป็นของใหม่ทั้งหมด มาตามองทุกอย่างพยายามทำความเข้าใจกับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ แต่ก็คิดไม่ออกว่ามันกำลังเกิดอะไรขึ้น เขาถึงได้ทำทุกอย่างแบบนี้
ไมค์เดินเข้ามาในห้องคว้าผ้าเช็ดตัวแล้วเข้าห้องน้ำไป หญิงสาวล้มตัวลงนอนด้วยความรู้สึกที่สับสนไปหมด ว่าเขากำลังเล่นอะไรกับเธอ
เมื่อได้ยินเสียงประตูห้องน้ำเปิด มาตาจึงแกล้งหลับตาลง เพราะไม่อยากมองหน้าเขา กลัวจะไปทำอะไรให้เขาโมโหอีก
“เสื้อผ้าชอบไหม ที่ซื้อให้” เขาถามโดยที่ไม่คิดว่าเธอจะหลับแล้ว
“ชอบค่ะ ขอบคุณมากนะคะ” มาตาตอบโดยที่หันไปมองชายหนุ่มที่กำลังเดินมาที่เตียงนอน
“แล้วเสื้อผ้าของ...”
“ผมอยู่กับคุณมาตา ผมไม่ได้อยู่กับคนอื่น ดังนั้นบ้านหลังนี้ก็ควรมีแค่ของคุณกับผม จนกว่าคุณจะตัดสินใจไปจากที่นี่ มันก็จะเหลือแค่ของผมเพียงคนเดียว”
ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะถามจบ ชายหนุ่มก็ตอบสวนมาทันที หญิงสาวเริ่มพอเข้าใจว่าที่ไมค์ทำทั้งหมด เพราะต้องการยอมรับความจริง ว่าชีวิตของเขาไม่มีเพียงใจอีกแล้ว
“พรุ่งนี้ผมจะไปส่งคุณที่ทำงาน ถ้าคุณยังอยากกลับมาอยู่ที่นี่กับผม ก็ขับรถของคุณกลับมา แต่ถ้าคุณไม่ต้องการ ผมคืนอิสระให้คุณแล้ว”
“ถ้าฉันกลับมา ฉันจะอยู่กับคุณที่นี่ในฐานะอะไร”
มาตาถามเพราะเธออยากกลับมามากว่าอยากไป แต่ไม่รู้ว่าเธอจะกลับมาอยู่ในฐานะอะไร เพื่อน นางบำเรอ หรือว่าเมีย
ไม่มีคำตอบจากชายหนุ่ม ไฟทุกดวงถูกปิด ร่างหนาโถมทับร่างบางอย่างคุ้นเคย ซุกไซ้ซอกคอ อย่างอ่อนโยนต่างจากทุกคืนที่ผ่านมา
“คืนนี้คือคืนที่ผมมีอะไรกับคุณไม่ใช่คนอื่นอีกแล้ว”
ชายหนุ่มกระซิบข้างหู มาตาเพิ่งเข้าใจ ว่าทุกคืนที่ผ่านมา เขาคิดว่าเธอคือเพียงใจมาตลอด ส่วนคืนนี้เขาคงยอมรับความจริงได้ทุกอย่าง และเข้าใจว่าเธอก็คือเธอไม่ใช่อดีตภรรยาเขา
ค่ำคืนนี้ถ้าเปรียบรสรักที่ไมค์มอบให้สาวสวยที่อายุห่างจากเขาหลายปี ก็เปรียบเหมือนกับน้ำผึ้ง ที่มีความหวานละมุนและมีคุณค่า ต่างจากหลายคืนที่ผ่านมา ที่มันเหมือนกับน้ำอัดลมชื่นใจแต่กัดเซาะ จนมาตาไม่รู้สึกถึงความสุขที่แท้จริง จนเธอได้มาเจอกับน้ำผึ้งที่เขามอบให้เธอในคืนนี้
บทรักที่แสนหวานผ่านไปแล้ว มาตายังคงข่มตาให้หลับไม่สำเร็จ พรุ่งนี้เธอต้องตัดสินใจ ว่าจะกลับมาที่นี่หรือเดินออกจากชีวิตเขาไปแล้วไม่กลับมา
8อิสระที่ลำบากใจ ไมค์ขับรถไปส่งมาตาที่ทำงาน เพราะคิดว่าการหายไปของเธอหลายวันแบบนี้ที่ทำงานของเธอคงกำลังต้องการตัวเธอแน่ๆ “พี่มาตาพี่กลับมาแล้ว พวกเราทุกคนตัดสินไม่ถูกเลยว่าจะแจ้งความดีไหม ถึงแม้พี่จะส่งข้อความมาแล้ว” ชะอมเลขาคนสนิทวิ่งเข้ามากอดเจ้านาน ที่เปรียบเป็นเสมือนพี่สาวของเธอ “พี่มีเรื่องไม่ค่อยสบาย เลยอยากหลบไปอยู่คนเดียวเงียบๆสักพัก ตอนนี้พร้อมลุยงานต่อแล้ว” มาตาลูบผมลูกน้องคนสนิทอย่างเอ็นดู เพราะทั้งคู่รู้จักกันมาตั้งแต่ยังไม่ได้เปิดบริษัทนี้ จึงรู้ใจกันมากที่สุด “เรื่องงานเราจัดการได้เรียบร้อย แต่เราตัดสินไม่รับงานใหม่ เพราะตั้งใจจะรอพี่กลับมาก่อน” ชะอมรายงานเรื่องราวระหว่างที่เจ้านายไม่อยู่ “บ่ายนี้เรียกประชุมพนักงานทุกคนให้พี่หน่อย เรื่องสำคัญมาก ห้ามใครไม่เข้าเด็ดขาด” มาตารีบเข้าห้องทำงานและเก็บตัวเองอยู่แต่ในห้องห้ามใครเข้าไปรบกวน เพื่อเตรียมข้อมูลในการประชุมครั้งนี้ ทุกคนในบริษัทต่างคิดว่า พวกเขาคงกำลังจะโดนเลิกจ้างแน่ๆ เพราะเจ้านายของเธอทิ้งบริษัทไปหลายวัน พอกลับมาก็เรียกประชุมใ
9เมื่อไม่ได้ยินเสียงของหัวใจ เช้านี้มาตาต้องเริ่มต้นกับการวางแผนงานใหม่ทั้งหมด ทั้งวันเธอวุ่นวายจนไม่มีเวลาว่างพอที่จะมาคิดเรื่องของตัวเอง มันทำให้เธอสบายใจไปได้ชั่วขณะหนึ่ง “พี่มาตาเราต้องทำแผนโฆษณากันใหม่ทั้งหมด เดี๋ยวชะอมจะให้นักศึกษาทำแล้วเอามาให้พี่ดูนะ” “ชะอมให้น้องเขามาคุยกับพี่นะ” มาตาตั้งใจจะเป็นคนวางพล็อตโฆษณาเอง โดยที่ให้น้องนักศึกษาเป็นคนจัดการเรื่องกระบวนการทำ ช่วงบ่ายหญิงสาวต้องออกไปพบลูกค้ารายเก่าเพื่อรับเงินค่าจ้าง ซึ่งสถานที่นัดพบอยู่ใกล้กับบ้านที่เธอเคยถูกไมค์จับไปขังไว้มาตาจึงตั้งใจที่แวะเข้าไปเพื่อไปฟังเสียงหัวใจตัวเอง หญิงสาวมองรอบบ้านทันทีที่เธอมาถึง ไม่มีป่าลึกเกมือนอย่างที่เขาโกหก มีแค่เพียงป่าต้นก้ามปู ที่เขาปลูกล้อมบ้านไว้เกือบห้าสิบต้น มาตาคิดถึงคำขู่แล้วก็อดยิ้มไม่ได้ ถุงกับข้าวที่วางไว้บนโต๊ะคือสิ่งแรกที่หญิงสาวเห็นทันที ที่เข้าไปถึง มาตาหยิบแต่ละถุงขึ้นมาดู ตอนนี้ทุกถุงมันบูดหมดแล้ว “เมื่อคืนคุณมาที่นี่” หญิงสาวรู้สึกหัวใจวาบหวิวขึ้นมา เขามารอเธอ มาตาแอบเข้าข้างตัวเอ
10โฆษณาหรือเรื่องจริง สภาพร่างกายของไมค์ทรุดโทรมลง เพราะฤทธิ์ของสุราที่เขาดื่มมันหนักทุกวัน เช้าวันนี้เขาไปทำงานไม่ไหว จึงได้แต่ตอนอยู่บนเตียง ข้าวปลาก็ไม่กิน เพราะไม่มีแรงพอที่จะลุกไปทำหรือซื้อ จึงได้แต่หลับตาและหลับไปแบบนั้น ความล้มเหลวในชีวิตรักไม่ได้ทำให้ไมค์โตขึ้นเลย เขายังทำให้ทุกอย่างมันแย่ลงไปกว่าเดิม เมื่อร่างกายเริ่มสร่างเมา ไมค์ตั้งใจจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อโทรหาลูกน้องที่ทำงาน แต่เขากลับเปิดไปเจอโฆษณาชิ้นใหม่ของบริษัทของมาตา ที่กำลังถูกแชร์มากในโลกโซเชียลตอนนี้ เรื่องราวของโฆษณาบอกเล่า ถึงเด็กมัธยมคนหนึ่งที่ได้รับความช่วยเหลือจากชายหนุ่มที่เธอไม่เคยรู้จัก จนวันหนึ่งเธอมีโอกาสได้เจอเขาและแอบชอบเขามาตลอด จนเธอทำงานเธอกับเขามีโอกาสได้ใกล้ชิดกัน โดยที่ผู้ชายคนนั้นจำเธอไม่ได้ ทั้งคู่เกิดพลาดพลั้งมีอะไรกัน หญิงสาวตัดสินใจเดินออกมาจากชีวิตของชายหนุ่ม เพราะคิดว่าทุกอย่างเกิดจากความผิดพลาดไม่ใช่ความรัก ส่วนชายหนุ่มคนนั้นก็เอาแต่เฝ้ารอการกลับมาของเธอ โดยที่ไม่คิดจะทำอะไร จนในที่สุดบริษัทของมาตาก็เข้ามาช่วยให้ทั้งคู่ได้รู้หัวใจตัวเอ
11ครอบครัว “เหม็นกลิ่นความรักจัง” ชะอมแซวเจ้านายที่เธอรักไม่ต่างจากพี่สาวแท้ๆ พนักงานคนอื่นก็พากันยิ้มตาม “ให้พี่มีบ้างเถอะ เดี๋ยวจะขึ้นคานเอา” มาตาคิดมาตลอดว่าคงไม่มีผู้ชายคนไหนมาทำให้เธอหลงรักได้เหมือนผู้ชายที่ให้ทุนเธอ และสุดท้ายมันก็เกิดขึ้นจริงๆ “รักก็รุ่ง งานก็เยอะมากค่ะเจ้านาย ตอนนี้ชะอมอยากจะแยกร่างได้อยู่แล้ว” ตั้งแต่บริษัทของเธอปล่อยโฆษณาชุดนั้นไป กระแสตอบรับดีมาก กลุ่มลูกค้ามีตั้งแต่วัยรุ่น วัยทำงาน และอายุเกินหกสิบไปแล้วก็ยังมี “โบนัสก็จะงอกงามตามมานะชะอมคนสวย” หญิงสาวไม่เคยเอาเปรียบพนักงาน เรียกได้ว่าดูแลทุกคนเหมือนพี่น้อง กับข้าวเวลาทำงานมืดก็มีของในตู้เย็นให้ทำกินกัน มาตาจะคอยซื้อมาเติมให้ตลอด “โบนัส คำสั้นๆที่สร้างพลังอันยิ่งใหญ่” พนักงานทุกคนพากันหัวเราะให้กับคำพูดของชะอม ที่ถึงแม้ฟังดูตลกแต่มันก็คือความจริง “พี่มาตาคะ วันนี้มีลูกค้าจะเข้ามาพบเพื่อขอบคุณที่ทางเราทำงานได้สำเร็จ อีกไม่น่าจะเกินสิบห้านาที น่าจะมาถึงค่ะ” “ถ้ามาถึงก็ให้เข้ามาหาพี่เลยนะ”
12ข่าวใหม่ “เดี๋ยวนี้เจ้านายเรามาสายทุกวันเลยนะ ไม่รู้ว่ากลางวันมัวทำอะไรอยู่” ชะอมนำพนักงานคนอื่นแซวเจ้านายแต่เช้า เพราะรู้ว่ากำลังเป็นข้าวใหม่ปลามันกัน “ก็บ้านมันอยู่ออกไปนอกเมือง จะให้มาถึงแต่เช้าเหมือนพวกที่อยู่ข้างๆบริษัทได้อย่างไรล่ะ” มาตาหาเหตุผลมาแก้อาย เพราะเขารู้ว่าทุกคนกำลังคิดอะไรอยู่ งานมากมายวางสุมอยู่บนโต๊ะ หลายงานก็รอจัดการเรื่องค่าจ้าง บางรายการก็เพิ่งเสนอมา รอมาตาตัดสินใจว่าจะรับงานไหม “พี่มาตา พี่รู้ข่าวเด็ดหรือยัง” ชะอมเปิดประตูห้องเข้ามา โดยที่ไม่ทันได้เคาะประตู เพราะรู้สึกตื่นเต้นกับข่าวที่เธอได้ยินมาจากเพื่อนในวงการไฮโซ “ข่าวอะไร ดูทำเข้า เปิดประตูเข้ามาไม่ให้ซุ่มให้เสียง พี่ก็ตกใจหมด ทำอย่างกับมีข่าวใหญ่โตระดับประเทศ” มาตาส่ายหัว เพราะคิดว่าคงไม่ได้มีอะไรน่าตื่นเต้น ที่เกี่ยวกับตัวเธอหรือบริษัท คงเป็นเรื่องของชาวบ้านที่ชะอมชอบติดตามมากกว่า “ข่าวนี้รับรองพี่มาตา อาจจะตื่นเต้นตกใจกว่าชะอมอีก” “มีอะไรก็พูดมา ไม่ต้องมาเล่นลิ้นทำให้พี่อยากรู้” มาต
13ลูกค้าคนสำคัญ “พรุ่งนี้เราไปตรวจกันนะ ตอนเย็นเดี๋ยวผมไปรับที่ทำงาน” ไมค์ตื่นเต้นจนแทบอยากจะพาภรรยาไปตรวจตอนนี้ แต่มันดึกแล้วคงไม่มีที่ไหนเปิดให้ตรวจแน่ๆ ร้ายขายยาก็คงจะปิดหมดถ้าจะซื้อมาตรวจเอง “คุณอย่าคาดหวังแบบนี้สิคะ มันทำให้ฉันยิ่งกลัว กลัวว่าถ้าไม่ได้ท้องขึ้นมาคุณจะเสียใจ” มาตารู้สึกตัวเองกำลังต้องรับผิดชอบความหวังของสามี มันยิ่งทำให้เธอรู้สึกแย่เข้าไปอีก “อย่าคิดมาก ถ้าลูกยังไม่มา เราก็ทำกันใหม่ ยังมีเวลาอีกหลายปี คุณก็ยังอายุน้อยอยู่ ไม่ต้องกลัวว่าผมจะผิดหวัง ช่วงนี้คุณชอบคิดมากรู้ตัวไหม” มาตาไม่ตอบ แต่พยายามฉีกยิ้มให้คนที่กำลังโอบไหล่เธอไว้รู้สึกสบายใจ “นอนกันเถอะ ผมว่าจะพยายามลดการทำงานลง อยากมีเวลาให้คุณมากกว่านี้ ต่อไปวันเสาร์ผมจะเลิกครึ่งวันและวันอาทิตย์จะหยุดอยู่กับบ้าน แล้วคุณล่ะต้องไปทำงานทุกวันไหม” มาตาเข้าใจ ว่าทำไมไมค์ถึงต้องการลดการทำงาน เพราะเขากลัวชีวิตครอบครัวจะต้องล้มเหลวเหมือนครั้งที่อยู่กับเพียงใจอีก “ได้ค่ะ แต่อาจจะไม่ใช่ทุกเสาร์ ไว้เสาร์ไหนฉันไม่ได้หยุด คุณก็อยู่บ้านทำง
14หนักแน่น “เก็บเงินของคุณไว้เถอะค่ะ ใช่ฉันเคยทำลายครอบครัวของคุณไมค์ แต่มันก็ช่วยให้เขาเลิกโง่ไม่ต้องโดนสวมเขา ส่วนคุณก็ไม่ต้องคอยเป็นเมียน้อยใคร” เมื่อมาตาเริ่มโมโห สติก็เริ่มกลับมา เธอคิดว่าเธอผิดก็จริงแต่เพียงใจก็มีส่วนกับความผิดของเรื่องทั้งหมดด้วยเหมือนกัน “ไม่อยากรับงานก็ไม่ต้องรับ ฉันก็มาจ้างไปอย่างนั้นแหละ เพราะแค่ฉันกลับไปหาไมค์ ไม่มีทางที่เขาจะไม่ทิ้ง อีผู้หญิงคนนั้นแล้วรีบกลับมาหาฉันแน่ๆ” “คุณคิดเข้าข้างตัวเองมากไปหรือเปล่าครับ ภรรยาคุณอรรถ” เพียงใจยังไม่ทันพูดจบจบ ก็มีเสียงที่ทั้งเพียงใจและมาตาต่างคุ้นเคย ดังขึ้นมาหลังจากประตูที่ถูกเปิดออก “ไมค์คุณมาที่นี่ได้ยังไง” เพียงใจถามด้วยความตกใจ “ผมสิต้องถามว่าคุณมาทำไมเพียงใจ ส่วนผมก็มารับภรรยาของผม” ชายหนุ่มเดินมาโอบกอดมาตาด้วยรอยยิ้ม แบบคนที่กำลังรู้สึกว่าชนะ “ไมค์คุณหมายความว่าอะไร” เพียงใจถามด้วยเสียงที่เหมือนคนกำลังจะหมดแรง “ผมมารับมาตา ภรรยาที่ถูกต้องทางกฎหมายของผม” คำตอบที่ชัดเจน จนคนฟังไม่สามารถจะแปลความหมายเป็นอ
15เติมเต็ม มาตาแพ้ท้องอย่างหนัก จนเธอต้องหยุดรับงาน ปล่อยให้ชะอมเป็นคนจัดการทุกอย่าง ส่วนตัวเธอก็พักผ่อนอยู่บ้าน เพราะแค่ลุกเดินบ่อยๆ ก็เวียนหัวแล้ว “รีบกลับนะคะ อยู่บ้านคนเดียวเหงาจะแย่” หญิงสาวหอมแก้มสามี ก่อนที่เขาจะออกไปทำงาน แต่ใจก็แอบไม่อยากให้ไป เพราะไม่อยากต้องนั่งเหงาอยู่บ้าน เพียงใจยังคงไม่ละความพยายาม เขามาหาไมค์ที่ทำงานอยู่บ่อยๆ แต่ทุกครั้งที่มา ชายหนุ่มจะโทรศัพท์ไปหาอรรถพลเพื่อให้เขามารับตัวภรรยากลับไป “คุณนั่งรอตรงนี้นะ สามีคุณกำลังจะมา” มันไม่ใช่แค่คำขู่เพียงใจรู้ว่าอดีตสามีของเธอทำจริง เพราะเขาเคยทำมาแล้ว และเมื่ออรรถมาถึง เขาก็ทั้งลากทั้งผลักเธอ ด่าเธอจนเพียงใจอายคนแถวนั้นไปหมด แต่เธอมองไม่เห็นทางเลือกอื่นแล้ว ที่จะไปจากอรรถพลได้นอกจากเอาไมค์คืนมาให้ได้ หลังจากที่ธุรกิจของอรรถพลเริ่มมีปัญหา เขาก็หันกลับไปขอคืนดีกลับภรรยาและจดทะเบียนกันใหม่ จนจากที่เกือบจะได้เป็นเมียหลวง เพียงใจก็ยังคงได้เป็นแค่เมียน้อยตามเดิม เพียงใจมีแต่ความความเจ็บปวดในหัวใจที่สุดท้ายเธอต้องกลายเป็นผู้หญิงไร้ค่า เ