12
ข่าวใหม่
“เดี๋ยวนี้เจ้านายเรามาสายทุกวันเลยนะ ไม่รู้ว่ากลางวันมัวทำอะไรอยู่”
ชะอมนำพนักงานคนอื่นแซวเจ้านายแต่เช้า เพราะรู้ว่ากำลังเป็นข้าวใหม่ปลามันกัน
“ก็บ้านมันอยู่ออกไปนอกเมือง จะให้มาถึงแต่เช้าเหมือนพวกที่อยู่ข้างๆบริษัทได้อย่างไรล่ะ”
มาตาหาเหตุผลมาแก้อาย เพราะเขารู้ว่าทุกคนกำลังคิดอะไรอยู่
งานมากมายวางสุมอยู่บนโต๊ะ หลายงานก็รอจัดการเรื่องค่าจ้าง บางรายการก็เพิ่งเสนอมา รอมาตาตัดสินใจว่าจะรับงานไหม
“พี่มาตา พี่รู้ข่าวเด็ดหรือยัง”
ชะอมเปิดประตูห้องเข้ามา โดยที่ไม่ทันได้เคาะประตู เพราะรู้สึกตื่นเต้นกับข่าวที่เธอได้ยินมาจากเพื่อนในวงการไฮโซ
“ข่าวอะไร ดูทำเข้า เปิดประตูเข้ามาไม่ให้ซุ่มให้เสียง พี่ก็ตกใจหมด ทำอย่างกับมีข่าวใหญ่โตระดับประเทศ”
มาตาส่ายหัว เพราะคิดว่าคงไม่ได้มีอะไรน่าตื่นเต้น ที่เกี่ยวกับตัวเธอหรือบริษัท คงเป็นเรื่องของชาวบ้านที่ชะอมชอบติดตามมากกว่า
“ข่าวนี้รับรองพี่มาตา อาจจะตื่นเต้นตกใจกว่าชะอมอีก”
“มีอะไรก็พูดมา ไม่ต้องมาเล่นลิ้นทำให้พี่อยากรู้”
มาตาเริ่มหงุดหงิดที่เห็นลูกน้องทำท่าจะไม่บอกดีๆ เพราะเธอก็เริ่มอยากรู้เหมือนกัน ว่าข่าวที่ว่ามันจะเกี่ยวกับเธอยังไง
“งานแต่งงานระหว่างคุณอรรถกับคุณเพียงใจเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด”
สิ้นคำพูดชะอม หญิงสาวรู้สึกเหมือนหายใจไม่ทั่วท้อง เรื่องนี้มันเกี่ยวกับเธอจริงๆ
“เกิดอะไรขึ้น”
หญิงสาวถามเพราะคิดไม่ออก เห็นทั้งคู่ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้อยู่ด้วยกัน แล้วอยู่ดีๆทำไมถึงได้เลื่อนงานแต่
“เห็นเขาลือกันว่า บริษัทของคุณอรรถกำลังมีปัญหา เพราะพ่อตาแม่ยายเก่า แย่งลูกค้าไปจนหมด และปล่อยข่าวไม่ดีที่ทำให้บริษัทคุณอรรถขาดความน่าเชื่อถือ ผู้ถือหุ้นหลายคน ก็ขายหุ้นคืน แต่ตรงนี้ชะอมก็ไม่รู้ว่าจริงไหม ฟังเขาลือกันมา”
เมื่อเล่าจบลูกน้องคนสนิท สังเกตสีหน้าของเจ้านายที่เปลี่ยนไปทันที
“พี่มาตาอย่าคิดมาก เขาจะแต่งหรือไม่แต่งกัน ก็ไม่เกี่ยวกับคุณไมค์แน่ๆ อย่าคิดมากนะคะ ชะอมไม่น่ามาเล่าเลย”
“ใครบอกพี่คิดมาก พี่มั่นใจไนตัวคุณไมค์ แต่ถ้าเขาจะกลับไปหากันพี่ก็ยินดี ความรักมันห้ามกันไม่ได้หรอก เราก็เห็นกันมาหลายคู่แล้วนี่”
มาตาฝืนยิ้มอีกครั้ง เพราะไม่อยากให้คนเล่าไม่สบายใจ ที่มาเล่าเรื่องทุกข์ใจให้เธอฟัง
ชะอมออกไปแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องฝืนยิ้มอีกต่อไป มาตาไม่ได้มั่นใจเหมือนอย่าที่บอกชะอมไป ตอนนี้เธอกลับรู้สึกกลัว กลัวว่าเธอจะต้องเสียไมค์ไป กลัวว่าทุกอย่างจะไม่เหมือนเดิม
เย็นนี้ไมค์มารับภรรยาตามปกติ และวันนี้ทั้งคู่จะได้กลับบ้านเร็ว เพราะไม่มีธุระต้องไปไหน
“วันนี้ผมซื้อต้นไม้มาปลูก เพราะในรั้วไม่มีต้นไม้ใหญ่เลย เวลาแดดออกที รู้สึกร้อนไปหมด”
ไมค์พูดโดยที่ไม่ได้หันหน้ามามองคนข้างๆ ที่ตอนนี้สีหน้าไม่สดใสเอาเสียเลย
“มาตาคุณเป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมหน้าตาดูไม่สดชื่นเลย”
เมื่อรู้ตัวว่าตอนนี้ ตัวเองเป็นฝ่ายพูดอยู่คนเดียว ชายหนุ่มถึงได้หันมามองหน้าคนนั่งข้างๆ
“วันนี้เหนื่อยๆ งานยุ่งนิดหน่อยค่ะ”
คนตอบยังคงหลบหน้า ไม่หันมาสบตาคนถาม เพราะมาตารู้ว่าตอนนี้ตัวเองหัวใจไม่ปกติ
“ถ้าอย่างนั้นวันนี้คุณพักเลย เดี๋ยวผมจะโชว์ฝีมือการทำกับข้าวให้คุณกินเอง”
ไมค์เอื้อมมือมาจับมือภรรยาอย่างเอาใจ หวังช่วยให้เธอยิ้มได้
“ผมได้ฤกษ์แต่งงานมาแล้วนะ สิ้นเดือนหน้าและผมก็จองโรงแรมเรียบร้อยแล้วด้วย”
“คุณเพียงใจกับคุณอรรถเขาไม่แต่งงานกันแล้วนะคะ”
มาตาไม่รู้ตัวเหมือนกัน ว่าอยู่ดีๆทำไมเธอตอบชายหนุ่มกลับไปแบบนั้นทั้งที่มันคนละเรื่องเลย
“ผมงง แล้วมันเกี่ยวอะไรกับงานแต่งของเรา”
ไมค์ไม่เข้าใจ ว่าภรรยาของเขากำลังคิดอะไรอยู่ ถึงได้พูดสวนมาแบบนั้น
“ฉันบอกเผื่อคุณจะตัดสินใจใหม่เรื่องงานแต่งของเรา เพราะตอนนี้คุณเพียงใจกำลังโสด”
มาตาพูดตามที่หัวใจของเธอมันบอก เธอพร้อมจะยอมปล่อยถ้าเขาจะกลับไปหากัน
“มันจะไปกันใหญ่แล้ว นับตั้งแต่วันที่ผมจดทะเบียนสมรสกับคุณ วันนั้นผมไม่มีใครในหัวใจอีกแล้วนอกจากคุณ”
“แต่วันนั้นกับวันนี้มันไม่เหมือนกัน”
มาตายังคงไม่เชื่อมั่น เพราะตอนนี้เพียงใจยังไม่ได้มาง้อเขา แต่ถ้าเธอกลับมาล่ะ เขาจะยังใจแข็งได้อยู่ไหม
“ถ้าคุณไม่ไว้ใจผม เราแต่งงานกันสัปดาห์เลยไหม”
ไมค์ไม่รู้จะพูดอะไร ให้คนข้างๆสบายใจ เขาจึงคิดว่าการแต่งงานอาจจะช่วยได้
“แต่งแล้วก็เลิกได้ มันไม่ได้เกี่ยวกันเลย คุณไม่ต้องมาประชด”
ไมค์ตั้งใจจะทำให้ภรรยาเชื่อใจ แต่กลายเป็นเขายิ่งพูดเธอกลับยิ่งรู้สึกโมโหและหหงุดหงิดเข้าไปอีก
“แล้วผมต้องทำยังไง คุณถึงจะเชื่อว่าผมไม่ได้รักเพียงใจแล้ว”
เมื่อคิดหาทางออกไม่ได้ ไมค์จึงถามหญิงสาวตรงๆ ว่าเขาต้องการให้เธอทำอะไร
“ฉันก็ไม่รู้ ฉันกลัว กลัวคุณจะไม่เหมือนเดิม ที่ผ่านมาคุณรักเธอมาก และคุณอาจจะกลับไปถ้าเธอมาขอโอกาสแก้ตัว”
หญิงสาวเริ่มพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนลง แต่กลับมีน้ำตาคลอในดวงตาคู่สวย
“ผมรักคุณคนเดียวและจะไม่มีวันหันกลับไปรักผู้หญิงที่ทำร้ายผมเด็ดขาด มาตาคุณไม่จำเป็นต้องเชื่อ เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ ขอเพียงแต่คุณมั่นใจและลองเชื่อใจผมบ้าง”
บรรยากาศในรถกลับมาเงียบ หญิงสาวไม่รู้จะพูดอะไรต่อ เธอรู้สึกว่าตัวเองกำลังรู้สึกหวั่นไหว ทั้งที่ก่อนหน้านี้ เธอไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน
อาหารมื้อเย็นไมค์เป็นฝ่ายทำ มาตาเองเอาแต่ง่วงนอนทำท่าอ่อนเพลียตลอด
“ไมค์คุณทำต้มอะไร ทำไมกลิ่นมันเหม็นมาก”
พูดจบมาตาก็ปิดปากตัวเอง รีบวิ่งไปที่ห้องน้ำทันที เพราะเธอแค่เพียงได้กลิ่นต้มยำกุ้งที่เธอเคยชอบมันก็ทำให้รู้สึกอยากอาเจียนทันที
“ผมเอาต้มยำไปวางไว้ข้างนอกแล้ว ดีขึ้นไหม แต่ก่อนคุณก็เคยชอบที่ผมทำ ทำไมอยู่ดีๆถึงมาเหม็นได้ล่ะวันนี้”
ชายหนุ่มถาม เพราะเขาตั้งใจทำสุดฝีมือแต่กลับทำให้ภรรยาอยากอาเจียนเมื่อได้กลิ่น
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน เมื่อกลางวันก็เหม็นโกโก้ที่ชะอมซื้อมา แล้ววันนี้ช่วงบ่ายก็ทำงานไม่ได้เลย เผลอนั่งหลับตลอด”
หญิงสาวนั่งคิดทบทวนตัวเอง ก็รู้สึกว่าวันนี้ตัวเองมีหลายอย่างที่ผิดปกติดไป
“ตอนขึ้นรถมาอารมณ์คุณก็ดูแปรปรวน คุณไม่สบายหรือเปล่า” ไมค์เริ่มรู้สึกเป็นห่วงภรรยา
“อาจเป็นเพราะประจำเดือนฉันยังไม่มาเลย ฮอร์โมนก็เลยไม่ปกติ”
พอมาตาพูดจบทั้งคู่ก็หันมาจ้องหน้ากัน ด้วยสีหน้าที่แสดงความตกใจ ก่อนที่จะพูดพร้อมกัน
“ท้อง”
“มาตาคุณต้องท้องแน่ๆ” ไมค์ลุกจากเก้าอี้มากอดเอวภรรยาไว้
“แต่เรามีอะไรกันไม่กี่ครั้งเองนะ” มาตายังไม่เชื่อว่าตัวเองจะท้อง
“ก็ผมเป็นคนมีน้ำยา ฝีมือดีระดับนี้แล้ว รับรองลูกๆผมกว่าล้านตัว มันต้องมีผู้ชนะที่เข้าไปฝังตัวในตัวคุณแน่ๆ”
หญิงสาวยังคงไม่เชื่อ เธอจะรอตรวจให้แน่ใจ แต่สำหรับไมค์เขาเชื่อและดีใจล่วงหน้าแล้ว
13ลูกค้าคนสำคัญ “พรุ่งนี้เราไปตรวจกันนะ ตอนเย็นเดี๋ยวผมไปรับที่ทำงาน” ไมค์ตื่นเต้นจนแทบอยากจะพาภรรยาไปตรวจตอนนี้ แต่มันดึกแล้วคงไม่มีที่ไหนเปิดให้ตรวจแน่ๆ ร้ายขายยาก็คงจะปิดหมดถ้าจะซื้อมาตรวจเอง “คุณอย่าคาดหวังแบบนี้สิคะ มันทำให้ฉันยิ่งกลัว กลัวว่าถ้าไม่ได้ท้องขึ้นมาคุณจะเสียใจ” มาตารู้สึกตัวเองกำลังต้องรับผิดชอบความหวังของสามี มันยิ่งทำให้เธอรู้สึกแย่เข้าไปอีก “อย่าคิดมาก ถ้าลูกยังไม่มา เราก็ทำกันใหม่ ยังมีเวลาอีกหลายปี คุณก็ยังอายุน้อยอยู่ ไม่ต้องกลัวว่าผมจะผิดหวัง ช่วงนี้คุณชอบคิดมากรู้ตัวไหม” มาตาไม่ตอบ แต่พยายามฉีกยิ้มให้คนที่กำลังโอบไหล่เธอไว้รู้สึกสบายใจ “นอนกันเถอะ ผมว่าจะพยายามลดการทำงานลง อยากมีเวลาให้คุณมากกว่านี้ ต่อไปวันเสาร์ผมจะเลิกครึ่งวันและวันอาทิตย์จะหยุดอยู่กับบ้าน แล้วคุณล่ะต้องไปทำงานทุกวันไหม” มาตาเข้าใจ ว่าทำไมไมค์ถึงต้องการลดการทำงาน เพราะเขากลัวชีวิตครอบครัวจะต้องล้มเหลวเหมือนครั้งที่อยู่กับเพียงใจอีก “ได้ค่ะ แต่อาจจะไม่ใช่ทุกเสาร์ ไว้เสาร์ไหนฉันไม่ได้หยุด คุณก็อยู่บ้านทำง
14หนักแน่น “เก็บเงินของคุณไว้เถอะค่ะ ใช่ฉันเคยทำลายครอบครัวของคุณไมค์ แต่มันก็ช่วยให้เขาเลิกโง่ไม่ต้องโดนสวมเขา ส่วนคุณก็ไม่ต้องคอยเป็นเมียน้อยใคร” เมื่อมาตาเริ่มโมโห สติก็เริ่มกลับมา เธอคิดว่าเธอผิดก็จริงแต่เพียงใจก็มีส่วนกับความผิดของเรื่องทั้งหมดด้วยเหมือนกัน “ไม่อยากรับงานก็ไม่ต้องรับ ฉันก็มาจ้างไปอย่างนั้นแหละ เพราะแค่ฉันกลับไปหาไมค์ ไม่มีทางที่เขาจะไม่ทิ้ง อีผู้หญิงคนนั้นแล้วรีบกลับมาหาฉันแน่ๆ” “คุณคิดเข้าข้างตัวเองมากไปหรือเปล่าครับ ภรรยาคุณอรรถ” เพียงใจยังไม่ทันพูดจบจบ ก็มีเสียงที่ทั้งเพียงใจและมาตาต่างคุ้นเคย ดังขึ้นมาหลังจากประตูที่ถูกเปิดออก “ไมค์คุณมาที่นี่ได้ยังไง” เพียงใจถามด้วยความตกใจ “ผมสิต้องถามว่าคุณมาทำไมเพียงใจ ส่วนผมก็มารับภรรยาของผม” ชายหนุ่มเดินมาโอบกอดมาตาด้วยรอยยิ้ม แบบคนที่กำลังรู้สึกว่าชนะ “ไมค์คุณหมายความว่าอะไร” เพียงใจถามด้วยเสียงที่เหมือนคนกำลังจะหมดแรง “ผมมารับมาตา ภรรยาที่ถูกต้องทางกฎหมายของผม” คำตอบที่ชัดเจน จนคนฟังไม่สามารถจะแปลความหมายเป็นอ
15เติมเต็ม มาตาแพ้ท้องอย่างหนัก จนเธอต้องหยุดรับงาน ปล่อยให้ชะอมเป็นคนจัดการทุกอย่าง ส่วนตัวเธอก็พักผ่อนอยู่บ้าน เพราะแค่ลุกเดินบ่อยๆ ก็เวียนหัวแล้ว “รีบกลับนะคะ อยู่บ้านคนเดียวเหงาจะแย่” หญิงสาวหอมแก้มสามี ก่อนที่เขาจะออกไปทำงาน แต่ใจก็แอบไม่อยากให้ไป เพราะไม่อยากต้องนั่งเหงาอยู่บ้าน เพียงใจยังคงไม่ละความพยายาม เขามาหาไมค์ที่ทำงานอยู่บ่อยๆ แต่ทุกครั้งที่มา ชายหนุ่มจะโทรศัพท์ไปหาอรรถพลเพื่อให้เขามารับตัวภรรยากลับไป “คุณนั่งรอตรงนี้นะ สามีคุณกำลังจะมา” มันไม่ใช่แค่คำขู่เพียงใจรู้ว่าอดีตสามีของเธอทำจริง เพราะเขาเคยทำมาแล้ว และเมื่ออรรถมาถึง เขาก็ทั้งลากทั้งผลักเธอ ด่าเธอจนเพียงใจอายคนแถวนั้นไปหมด แต่เธอมองไม่เห็นทางเลือกอื่นแล้ว ที่จะไปจากอรรถพลได้นอกจากเอาไมค์คืนมาให้ได้ หลังจากที่ธุรกิจของอรรถพลเริ่มมีปัญหา เขาก็หันกลับไปขอคืนดีกลับภรรยาและจดทะเบียนกันใหม่ จนจากที่เกือบจะได้เป็นเมียหลวง เพียงใจก็ยังคงได้เป็นแค่เมียน้อยตามเดิม เพียงใจมีแต่ความความเจ็บปวดในหัวใจที่สุดท้ายเธอต้องกลายเป็นผู้หญิงไร้ค่า เ
ตอนที่ 1นรก..หลังแต่งงาน“ใครมันจะไปเป็นเจ้าหญิงเหมือนเฌอเอมตั้งแต่แต่งงานกับคุณธเนศไปก็เหมือนกับเป็นนางฟ้าเหาะขึ้นไปอยู่บนสวรรค์ที่มีสามีเป็นเทวดารูปหล่อที่สุด”มุกดาพูดขึ้นมากลางวงสนทนาของเพื่อนเพราะตอนนี้เธอไม่มีแฟนเป็นตัวเป็นตนเพื่อน ๆ ในกลุ่มทุกคนต่างก็มีคนรักแบบเล่น ๆ กันหมดยกเว้นแค่เพียงเอมเท่านั้นที่เลื่อนขั้นไปมีสามีก่อนคนอื่นทั้งที่เฌอเอมเองเป็นคนที่เรียบร้อยที่สุดในกลุ่มแต่ใครจะคาดคิดว่าสุดท้ายเธอจะได้สละโสดเป็นคนแรก“พูดเกินไปมุกดา” เฌอเอมได้แต่ยิ้มมุมปากไม่ได้แสดงความรู้สึกอะไรกับสิ่งที่เพื่อนกำลังชื่นชมเพราะตัวเองรู้ดีว่าชีวิตหลังการแต่งงานมันไม่ได้เป็นไปอย่างที่ทุกคนเห็น“ดูทำหน้าเข้ามีผัวดีแบบนี้ ชาตินี้ฉันยังไม่รู้จะหาได้ไหม”ลินินเพื่อนที่ถือได้ว่าสวยที่สุดในกลุ่มและเธอก็มีความแซ่บไม่แพ้ใครถึงแม้ตอนนี้ลินินจะมีคนที่กำลังดูใจกันแล้วแต่เธอก็หวงสถานภาพโสดเป็นที่สุดจึงไม่ยอมแต่งงานเพราะเธอชอบบอกกับเพื่อน ๆ ว่าการแต่งงานไม่ใช่จุดสิ้นสุดของความรักแต่มันคือ การเริ่มต้นชีวิตคู่ในอีกแง่มุมต่างหากและเธอก็ไม่ต้องการที่จะเริ่มต้นใหม่เพราะสถานภาพที่อยู่กันทุกวันนี้ก
ธเนศไม่ใช่แค่เพียงพูดแต่เขาเดินมาจิกผมภรรยาอย่าง เต็มแรงหญิงสาวยกมือไหว้ร้องขอให้เขาหยุดการกระทำเช่นนี้แต่มันก็ไม่เคยได้ผล“เธอนี่มันดีแต่สวยนอกนั้นก็หาอะไรดีไม่ได้ ทุกวันนี้ฉันแทบจะไม่อยากกลับบ้านเพราะไม่อยากเจอหน้าเธอนั่นแหละรู้ไหม ผู้หญิงอะไรน่าเบื่อชะมัด แล้วนี่อะไรแทนที่จะอยู่บ้านรอเอาใจผัวกลับไปแรดกับเพื่อน ความจริงแล้วเธอไม่ใช่คนเรียบร้อยอย่างที่แสดงให้ฉันเห็นถ้าอยากจะแรดก็ช่วยไปแรดกับฉันบนเตียง”ชายวัยกลางคนรูปร่างสูงผิวเข้มหน้าตาดีตามแบบไฮโซใช้มือที่ขยำผมของภรรยาผลักหน้าผากของเธออย่างแรงจนหญิงสาวล้มลงไปกองกับพื้นฝ่ามือทับลงไปตรงเศษแก้วที่แตกอยู่“โอ๊ย ! ...เลือด”คนตัวเล็กทำอะไรไม่ถูกเมื่อเห็นเลือดไหลออกมาจากมือขาวของเธอ หญิงสาวได้แต่ตะโกนโวยวายและร้องไห้หวังว่าสามีจะเมตตาในตัวเธอสักครั้งแต่กลายเป็นว่าเขากลับรู้สึกรำคาญและคว้ากุญแจรถขับไปออกจากบ้านทันที“ลินินช่วยเราด้วย”เหตุการณ์นี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ธเนศทำรุนแรงกับภรรยา ก่อนหน้านี้เขาเคยทำถึงขั้นตบเธอล้มลงไปกองกับพื้นแต่เฌอเอมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมครั้งนี้เธอกลับรู้สึกหวาดกลัวและอยากบอกเล่าความจ
ตอนที่ 2ร้อนรักในคืนที่เหงาใจ“วันนี้ฝนตกน้ำท่วมกรุงเทพฯแน่นอน ลินินนี่แกทำยังไงเฌอเอมถึงยอมมาเที่ยวผับกับเราได้”มุกดาถามด้วยความแปลกใจเพราะทั้งสามคนเป็นเพื่อนที่สนิทกันมาตั้งแต่สมัยมัธยมต้นแต่ก็เริ่มห่างกันไปตั้งแต่เฌอเอมแต่งงานเพราะเพื่อนทั้งสองคนต่างก็เกรงใจในตัวธเนศที่เป็นผู้ใหญ่จึงไม่มีใครกล้าชวนเอมออกมาเที่ยวด้วย“ต่อไปนี้เราจะได้เพื่อนที่มีรอยยิ้มสดชื่นกลับมาแล้วเลิกแซวเอมมันได้แล้วมุกดา”เพื่อนทั้งสามคนกอดคอกินเหล้ากันอย่างสนุกสนานก่อนหน้าที่เฌอเอมจะแต่งงานเธอกับเพื่อน ๆ ก็มีโอกาสได้มาเที่ยวบ้างแต่ไม่ใช่สถานที่แบบนี้แต่เมื่อเธอตัดสินใจใช้ชีวิตแบบคนมีครอบครัวหญิงสาวก็เลือกที่จะตัดเพื่อนออกไป เต็มที่ก็ได้แค่พูดคุยกันแค่ทางโทรศัพท์เท่านั้นจนเมื่อวานที่เป็นงานวันเกิดของลินินเธอจึงมีโอกาสได้มารวมตัวกันอีกครั้ง“ดูเหมือนมีหนุ่มน้อยกำลังสนใจเพื่อนเรา”ลินินส่งสายตาให้ทั้งเอมและมุกดารู้ว่าเธอกำลังหมายถึงใคร ชายหนุ่มที่นั่งอยู่โต๊ะข้าง ๆ เกือบชั่วโมงแล้วที่ลินินสังเกตว่าเขาเอาแต่นั่งส่งสายตาหวานให้เฌอเอม“เฮ้ย! แก…ทำอะไรแบบนั้น”หญิงสาวที่มีสถานภาพไม่โสดเพียงคนเดียวของกลุ่มถึงกับอุทา
“พี่ยังไม่อยากกลับบ้านพาพี่ไปที่อื่นได้ไหม”เฌอเอมไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเธอถึงกล้าพูดแบบนั้นออกไปแต่เธอรู้สึกแบบนั้นจริง ๆ บ้านที่เธอกำลังจะกลับมันไม่ใช่บ้านแต่มันคือนรกที่เธอเลือกที่จะอยู่เอง“ดึกแล้วไปตรงไหนก็คงอันตรายจะว่าอะไรไหมถ้าผมจะชวนพี่ไปที่ห้องของผม”แดนไตรพูดชวนหญิงสาวที่เพิ่งจะรู้จักกันได้แค่เพียงไม่กี่ชั่วโมงไปที่ห้อง เขาไม่คาดคิดว่าเฌอเอมจะยอมแต่คำตอบที่ได้ทำให้คนชวนรู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูกชายหนุ่มแอบชอบหญิงสาวเหมือนรักแรกพบตั้งแต่เธอเดินเข้ามาในผับ เขานั่งส่งสายตาหวานให้อีกฝ่ายโดยที่เฌอเอมแทบจะไม่รู้ตัวและจากการที่หญิงสาวรับโทรศัพท์บนรถทำให้เขารู้ว่าเธอมีสามีอยู่แล้วและชีวิตครอบครัวของเธอก็ไม่ได้มีความสุข แดนไตรไม่ได้หวังที่จะเข้ามาเป็นมือที่สามแต่เขาเป็นห่วงเธอมากกว่าและก็ ดีใจที่เธอตัดสินใจจะอยู่กับเขาในคืนนี้แทนการกลับไปตรอมตรมอยู่คนเดียวที่บ้าน“คอนโดเธอใหญ่มาก ไหนตอนแรกบอกว่าเป็นแค่นักศึกษารับจ๊อบทำงานกลางคืนแล้วทำไมถึงอยู่คอนโดราคาแพงแบบนี้”เฌอเอมถามด้วยความสงสัยเพราะตอนที่นั่งคุยกันแดนไตรเล่าเรื่องราวของเขาว่าเป็นเพียงชายหนุ่มนักศึกษาที่เดินทางมาจากต่างจัง
ตอนที่ 3ค่ำคืนที่ไม่ต้องนอนคนเดียว“ผมขอโทษนะครับที่เมื่อคืนเรา….”แดนไตรเอ่ยคำขอโทษออกจากหัวใจจริง ๆ เมื่อหญิงสาวกำลังแต่งตัวเพื่อจะเดินทางออกจากคอนโดของเขาแต่ยังไม่ทันที่จะพูดอะไรต่อเขาต้องหยุดทันทีเมื่อเฌอเอมโน้มปากบางลงมาปิด ปากหยักได้รูปที่กำลังจะขยับพูดจนสนิท“ไม่มีใครผิดทั้งนั้นแต่พี่ว่าเรื่องระหว่างเรามันควรจะจบแค่วันนี้...”แดนไตรลุกขึ้นสวมกอดคนตรงหน้าทันทีไม่มีทางที่เขาจะยอมให้เรื่องทุกอย่างจบลงแบบนี้ เขาหลงรักหญิงสาวตรงหน้าเข้าแล้วจริง ๆ ไม่ว่าเขาจะต้องอยู่ในฐานะอะไรก็ตามเขาพร้อมจะยอมเสมอขอแค่เพียงแต่เธออย่าพูดแบบนี้พูดเหมือนกับว่าเขาจะไม่ได้เจอเธออีก“อย่าพูดแบบนี้นะครับอนาคตข้างหน้าเราสองคนไม่มีทางรู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้างแต่อย่างน้อยผมก็จะได้หลอกตัวเองว่าผมยังมีพี่อยู่ถ้าเมื่อไหร่ที่พี่ไม่มีความสุขเมื่อไหร่ที่คนอื่นทำร้ายพี่มาหาผมนะ ชีวิตของคนเราทุกคนมีคุณค่าอย่าปล่อยให้เราชินกับการโดนทำร้ายเพราะอีกฝ่ายเขาไม่มีทางเห็นคุณค่าเรา”เฌอเอมพยักหน้าสองมือเล็กแกะมือใหญ่ที่โอบเอวเธอไว้ก่อนที่เธอจะพาตัวเองออกจากคอนโดและเธอคิดว่าจะไม่กลับมาที่นี่อีกหญิงสาวพยายามตัด