ตอนที่ 3
ค่ำคืนที่ไม่ต้องนอนคนเดียว
“ผมขอโทษนะครับที่เมื่อคืนเรา….”
แดนไตรเอ่ยคำขอโทษออกจากหัวใจจริง ๆ เมื่อหญิงสาวกำลังแต่งตัวเพื่อจะเดินทางออกจากคอนโดของเขาแต่ยังไม่ทันที่จะพูดอะไรต่อเขาต้องหยุดทันทีเมื่อเฌอเอมโน้มปากบางลงมาปิด ปากหยักได้รูปที่กำลังจะขยับพูดจนสนิท
“ไม่มีใครผิดทั้งนั้นแต่พี่ว่าเรื่องระหว่างเรามันควรจะจบแค่วันนี้...”
แดนไตรลุกขึ้นสวมกอดคนตรงหน้าทันทีไม่มีทางที่เขาจะยอมให้เรื่องทุกอย่างจบลงแบบนี้ เขาหลงรักหญิงสาวตรงหน้าเข้าแล้วจริง ๆ ไม่ว่าเขาจะต้องอยู่ในฐานะอะไรก็ตามเขาพร้อมจะยอมเสมอขอแค่เพียงแต่เธออย่าพูดแบบนี้พูดเหมือนกับว่าเขาจะไม่ได้เจอเธออีก
“อย่าพูดแบบนี้นะครับอนาคตข้างหน้าเราสองคนไม่มีทางรู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้างแต่อย่างน้อยผมก็จะได้หลอกตัวเองว่าผมยังมีพี่อยู่ถ้าเมื่อไหร่ที่พี่ไม่มีความสุขเมื่อไหร่ที่คนอื่นทำร้ายพี่มาหาผมนะ ชีวิตของคนเราทุกคนมีคุณค่าอย่าปล่อยให้เราชินกับการโดนทำร้ายเพราะอีกฝ่ายเขาไม่มีทางเห็นคุณค่าเรา”
เฌอเอมพยักหน้าสองมือเล็กแกะมือใหญ่ที่โอบเอวเธอไว้ก่อนที่เธอจะพาตัวเองออกจากคอนโดและเธอคิดว่าจะไม่กลับมาที่นี่อีก
หญิงสาวพยายามตัดใจจากเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนทั้งที่ความสุขมันทำให้เธอไม่อยากกลับไปที่บ้านที่เป็นนรกอีกแล้วแต่เมื่อคิดถึงหน้าตาของพ่อและแม่เธอก็จำเป็นที่ต้องฝืนทำในสิ่งที่เป็นความทุกข์เพื่อคนที่เธอรัก
เฌอเอมกลับมาถึงบ้านเป็นเวลาเกือบเที่ยง เธอคิดว่าธเนศคงไปทำงานแล้วเย็นนี้เธอกับเขาก็คงจะต้องทะเลาะกันก่อนที่จะไปงานแต่งงานของเพื่อนธเนศตามที่คนเป็นสามีนัดไว้
“กลับเช้าเลยนะไปนอนกับใครมาล่ะ”
ปกติแล้วถ้าโดนสามีถามแบบนี้คนเป็นภรรยาคงจะตัวสั่นไปทั้งตัวด้วยความกลัวทั้งที่เธอไม่เคยทำตัวอย่างที่เขาว่าแต่ในวันนี้เธอเป็นอย่างที่เขาพูดจริง ๆ เธอกลับไม่รู้สึกอะไร
เฌอเอมส่งยิ้มมุมปากและเดินเลี่ยงออกไปเพื่อจะขึ้นห้องไปยังชั้นสองแต่ก็ต้องหยุดชะงักทันทีเมื่อเห็นว่ามีผู้หญิงที่เธอไม่คุ้นหน้าเดินลงมาจากด้านบน
“สวัสดีค่ะ...ชมพู่ต้องขอโทษด้วยนะคะเมื่อคืนหนูทำ ที่นอนคุณพี่เปื้อน”
สาวน้อยตรงหน้าที่ดูแล้วอายุน่าจะไม่เกินยี่สิบยกมือไหว้แต่ไม่ได้เหมือนรู้สึกผิดแต่แค่ต้องการเยาะเย้ยมากกว่าสภาพของหญิงสาวที่นุ่งแค่เพียงผ้าเช็ดตัวผืนเดียวเฌอเอมก็รู้ได้ทันทีว่าเมื่อคืนนี้ห้องนอนของเธอคงเป็นเวทีสวาทไปเสียแล้ว
“ไม่เป็นไรหรอกที่นี่มีผ้าปูที่นอนหลายผืนเพราะพี่ซื้อมาเตรียมไว้ คุณธเนศชอบทำสกปรกแบบนี้พี่ก็เลยไม่ชอบใช้ผ้าปูที่นอนซ้ำ อาบน้ำแต่งตัวแล้วรีบรับค่าตัวเสียนะ”
ธเนศลุกขึ้นยืนกอดอกมองภรรยาของเขาพูดจากับคู่ขา คนใหม่ด้วยความรู้สึกแปลกใจเพราะถ้าเป็นเฌอเอมคนเดิมเธอจะต้องร้องห่มร้องไห้ฟูมฟายต่อว่าเขาที่พาผู้หญิงอื่นมาเหยียบหัวใจถึงห้องนอนถึงแม้เขาจะทำมาแล้วไม่รู้กี่ครั้งก็ตามแต่ครั้งนี้หญิงสาวกับพูดจาราบเรียบเหมือนกับว่าไม่รู้สึกอะไรกับสิ่งที่เห็น
“คุณธเนศกับหนูเอมเป็นคู่ที่น่ารักมากเลยรู้ไหมคะ ป้ากับลุงแอบชื่นชมอยู่ว่าไม่ว่าจะไปงานสังคมที่ไหนไม่เคยเห็นคุณธเนศจะมาคนเดียวต้องพาหนูเอมมาด้วยตลอด”
คุณหญิงสมศรีผู้มีหน้ามีตาในวงสังคมไฮโซแล้วถือได้ว่าเป็นคนที่มีผลประโยชน์ต่อธุรกิจของธเนศมากที่สุดกล่าวชื่นชมเมื่อทั้งสองคนนำของขวัญไปมอบให้เธอก่อนวันปีใหม่และพากันมาร่วมในงานแต่งงานของลูกสาวเธอในคืนนี้
“ชีวิตของผมนอกจากธุรกิจก็มีครอบครัวนี่แหละครับที่ผมภูมิใจ ผมเลือกภรรยาไม่ผิดจริง ๆ เฌอเอมเธอเป็นผู้หญิงน่ารัก เธอทำให้ผมได้รู้จักกับคำว่าครอบครัวทำให้รู้ว่าความสุขมันเป็นอย่างไร ขอบคุณคุณหญิงมากนะครับที่ไปเป็นประธานในงานแต่งของเราสองคน”
เฌอเอมได้แต่ส่งยิ้มเมื่อได้ยินสามีพูดจาแบบนี้กับคุณหญิงสมศรีเธออยากจะกรี๊ดออกมาให้ได้อยากจะแฉให้ทุกคนรู้ว่าธเนศผู้ชายที่ดูอบอุ่นและประสบความสำเร็จทั้งเรื่องธุรกิจและชีวิตครอบครัวแท้ที่จริงเขาเป็นซาตานร้ายที่ไม่เคยรู้จักกับคำว่าความดีความถูกต้องศีลห้าข้อไม่มีข้อไหนเลยที่ธเนศจะทำได้
“ถ้ายังขืนทำหน้าแบบนี้กลับไปบ้านเจ็บตัวก็อย่ามาว่ากันนะ”
ชายหนุ่มในชุดสูทหรูหราใช้มือของเขาบีบแขนเล็กจนแดงไปทั้งแขน เฌอเอมได้แต่พยายามแกะแต่ก็ไม่กล้าทำอะไรมากเพราะบรรดาแขกที่มาในงานก็รู้จักกับพ่อแม่ของเธอ เธอจึงทำได้แค่ขอตัวไปเข้าห้องน้ำและเก็บตัวร้องไห้อยู่ในนั้นเพียงคนเดียวก่อนที่จะแต่งหน้าปิดร่องรอยความช้ำของขอบตาและใส่หน้ากากสาวน้อยไฮโซผู้มีสามีที่ดีจนบรรดาสาว ๆ พากันอิจฉาเหมือนเดิม
งานแต่งงานที่เฌอเอมไม่เคยรู้สึกว่าเป็นงานที่มีความสุขอีกเลยตั้งแต่เธอได้ผ่านจุดนั้นมา ทุกครั้งที่เธอได้มางานมงคลแบบนี้ เธออดตั้งคำถามภายในหัวใจไม่ได้ว่าเจ้าสาวที่กำลังอยู่บนเวที เธอกำลังจะขึ้นสวรรค์หรือได้ตกนรกกันแน่ทั้งที่ตัวเธอเองก็รู้ว่าไม่ใช่ผู้หญิงทุกคนที่จะโชคร้ายเหมือนเธอแต่เฌอเอมหมดศรัทธากับความรักไปแล้วจริง ๆ
ตลอดทางกลับบ้านธเนศพ่นคำหยาบคายใส่หญิงสาวที่นั่งข้าง ๆ มาตลอดทางเฌอเอมไม่แม้แต่จะตอบโต้ใด ๆ เธอไม่แสดงความกลัวไม่มีหยดน้ำตาหรือไม่มีคำอ้อนวอนเพราะมันไม่มีความรู้สึกนั้นหลงเหลืออีกแล้วค่ำคืนที่ผ่านมาเธอได้เรียนรู้ว่าความสุขของชีวิตมันคืออะไร เธอเอาความถูกต้องเอาบรรทัดฐานของสังคมมาตีกรอบตัวเองไว้ คนที่ต้องเผชิญกับความทุกข์ไม่ใช่คนเหล่านั้นที่เธอต้องการจะให้เขาเห็นว่าเธอมีความสุขแต่มันคือตัวเธอเองในเมื่อเธอยังไม่พร้อมจะหลุดไปจากตรงนี้เธอก็จะขออยู่ตรงที่เดิมในแบบที่เธอจะมีความสุขที่สุดก็พอ“พรุ่งนี้เข้าไปหาคุณแม่ผมด้วยแล้วก็อย่าไปพูดอะไรที่ไม่ควรพูด”ธเนศพูดแค่เพียงเท่านี้เขาก็ขับรถออกไปจากบ้านทันทีเอมรู้ว่าสามีของเธอกำลังรู้สึกเสียอารมณ์กับท่าทางที่แข็งกระด้างที่เธอไม่เคยเป็นมาก่อนแต่ก็นั่นแหละหญิงสาวไม่สนใจอะไรแล้วเธอเลือกที่จะใช้ชีวิตของเธอให้มีความสุขที่สุดถ้าเขาทำร้ายเธอ เธอก็จะทำร้ายเขาตอบเช่นกันลมพัดโชยอยู่ด้านนอกเสียงใบไม้ที่พัดสีกันไปมาดังผ่านหน้าต่างเข้ามาเพราะในเวลานี้เป็นปลายฝนต้นหนาว เฌอเอมอดที่จะรู้สึกเหงาไม่ได้ทั้งที่เธอคิดว่ากลับมาถึงบ้านแค่เพียงล้มตัวลงนอนก็คงจะหลับได้โ
ตอนที่ 4ขอบคุณคืนนี้ที่ไม่ต้องอยู่คนเดียว“คืนนี้เธอต้องไปทำงานไหม”แดนไตรแทบจะรีบตอบทันทีว่าเขาว่างสำหรับหญิงสาวที่กำลังโทรมาเสมอแต่มีบางอย่างที่ทำให้เขาไม่สามารถที่จะตอบแบบนั้นได้เขาจึงเลือกที่จะหยุดคิดก่อนที่จะตอบแบบที่ไม่ตรงกับใจออกไป“คืนนี้ผมต้องไปทำงานครับ”เฌอเอมพยายามทำความเข้าใจกับคำตอบว่าชายหนุ่มที่เธอกำลังโทรหาเขา เขาไม่ได้เป็นอะไรกับเธอและตอนนี้เขาเป็นนักศึกษาที่ต้องการหารายได้เพื่อนำมาใช้ในการเรียนคงไม่มีใครที่จะมานั่งรองรับอารมณ์ความเหงาเธอได้ตลอดเวลาบ้านที่ไม่เคยเหมือนบ้านทำให้เธอตัดสินใจที่จะไม่กลับในคืนนี้ เธอไม่รู้จะไปไหนเพราะวันนี้เพื่อน ๆ ของเธอต่างก็ติดธุระเธอจึงตัดสินใจไปนั่งดื่มที่ผับที่เป็นสถานที่ที่ทำให้เธอได้เจอกับแดนไตรและเธอก็ได้แต่หวังว่าถ้าเมื่อไหร่ที่ชายหนุ่มเลิกงานบางทีเขาอาจจะรีบติดต่อกลับมาหาเธอ“ท่าทีหลังพี่จะมากินเหล้าแบบนี้อย่ามาคนเดียวอีกนะครับผมเป็นห่วง”น้ำเสียงที่แสนจะคุ้นเคยทั้งที่เพิ่งรู้จักกันได้เพียงแค่ไม่กี่วันทำให้เฌอเอมถึงกับสะดุ้งตกใจแต่ก็แอบมีดีใจเมื่อรู้สึกว่าตัวเองกำลังเป็นคนสำคัญอีกครั้ง“ไหนบอกว่าคืนนี้มีงานแล้วมาที่นี่ทำไมหรือว
คำพูดที่ไม่น่าจะออกจากปากหนุ่มนักศึกษาที่ดูจากลักษณะค่อนข้างจะเป็นเพลย์บอยเป็นนักดื่มแถมมีอาชีพคอยบริการใน ยามค่ำคืนแบบนี้เฌอเอมได้แต่มองหน้า เธอเข้าใจในสิ่งที่ชายหนุ่มพูดเหลืออย่างเดียวคือเธอยังทำมันไม่ได้“คนเราเวลาที่เราอยู่ในปัญหาเราก็มักจะมองไม่เห็นทางออกแต่เมื่อไหร่ที่ปัญหานั้นไม่ใช่ของเรา เราจะมองทุกอย่างได้อย่างชัดเจนมากขึ้น พี่เข้าใจในสิ่งที่เธอต้องการบอกแต่ให้เวลาพี่หน่อยนะพี่ยังข้ามผ่านมันไปไม่ได้”“พี่ยังรักสามีพี่ใช่ไหม”คนถามกลั้นใจเพราะแดนไตรเองก็ไม่แน่ใจว่าคำตอบที่เขากำลังจะได้ยินมันจะทำให้เขากลายเป็นคนที่ผิดหวังในค่ำคืนนี้ หรือเปล่า“พี่มีสิทธิ์ที่จะไม่รักเขาด้วยหรือเขาคือสามีของพี่นะ”“พี่มีสิทธิ์ที่จะรักใครก็ได้หรือไม่รักใครก็ได้มันเป็นเรื่อง ของความรู้สึก ความรักไม่ใช่สิ่งที่บังคับกันที่ผมถามไม่ใช่เพราะต้องการจะให้พี่เลิกกับเขาแต่ผมต้องการอยากรู้ว่าสาเหตุที่แท้จริงที่พี่เลือกจะทนอยู่ทั้ง ๆ ที่มีความทุกข์แบบนี้เพราะพี่มีเหตุผลอย่างอื่นหรือหัวใจพี่ยังคงรักผู้ชายคนนั้นอยู่เต็มทั้งดวง”คนถูกถามเธอยังไม่มีคำตอบให้กับชายหนุ่มตรงหน้า
ตอนที่ 5บอบช้ำเพียะ ! !หญิงสาวตัวเล็กลงไปล้มกองกับพื้นโดยที่เธอยังไม่ทันตั้งตัวเพราะโรงรถที่ไร้รถของสามีทำให้เธอมั่นใจว่าการกลับบ้านครั้งนี้ของเธอคงไม่ต้องพบกับความรุนแรงใด ๆ แต่ทุกอย่างกลับผิดพลาดเพราะธเนศตั้งใจให้เฌอเอมเข้าใจว่าเขาไม่อยู่เพราะวันนี้เขาต้องการทำร้ายเธอมากกว่าทุกครั้งที่เคย“มึงมันห่างมือห่างตีนมากเกินไปแล้วถึงได้ทำตัวแบบนี้...”ธเนศไม่ใช่แค่เพียงพูดหยาบคายแต่เขายืนยกขาขึ้นสูงก่อนที่จะประทับฝ่าเท้าลงตามตัวของหญิงสาวประหนึ่งว่าเฌอเอมเป็นเพียงแค่ที่หมอนนุ่ม ๆ ให้เขากระทืบเท้าได้อย่างหนำใจ“ไอ้ชั่ว ! เก่งแต่กับผู้หญิง”มันเป็นครั้งแรกของการโต้ตอบของเฌอเอมเพราะก่อนหน้านี้ เธอเลือกที่จะเป็นฝ่ายยอมเต็มที่ก็บีบน้ำตาร้องไห้ยกมือไหว้ขอร้องให้อีกฝ่ายหยุดการกระทำแต่ครั้งนี้เธอจะไม่ทนอีกต่อไปถึงแม้ว่าจะยังเธอตัดสินใจไม่ได้ว่าจะจัดการกับชีวิตครอบครัว ของเธอต่อไปอย่างไรดี“ชั่วใช่ไหม...แล้วมึงดีนักเหรออีเอม”ชายร่างสูงตัวใหญ่กระชากผมยาวของอีกฝ่ายขึ้นมาเต็มมือก่อนที่จะผลักเธอลงไปกองกับพื้นอีกครั้งแล้วบรรจงฟาดแข้งลงไปที่สะโพกของอีกฝ่ายเหมือนว่าเขากำลังสวมบทนักฟุตบอลที่เต
เฌอเอมบอบช้ำไปทั้งตัว เธอนอนซมด้วยพิษไข้ก่อนที่จะมารู้สึกตัวอีกทีเมื่อมีข้อความที่ส่งมาทางไลน์ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง“แดน…..”หญิงสาวไม่มีแรงพอที่จะพิมพ์ข้อความใด ๆ ตอบโต้กลับ เธอจึงตัดสินใจที่จะเปลี่ยนเป็นการโทรศัพท์แทนและแค่เพียง ปลายสายรับโทรศัพท์ เธอเองก็ทำได้แค่เรียกชื่ออีกฝ่ายและร้องไห้ออกมาพูดอะไรไม่ออก“เกิดอะไรขึ้นกับพี่ ! เขาทำร้ายพี่ใช่ไหม”“ใช่...พี่ไม่ไหวแล้วพี่ไม่รู้จะทำอย่างไรแดนมาพาพี่ไปจากที่นี่ได้ไหม”เฌอเอมรู้ว่าเย็นนี้ถ้าธเนศกลับมาเขาคงไม่ได้รู้สึกผิดที่เห็นสภาพของเธอเป็นแบบนี้แต่เขาอาจจะทำร้ายเธอตามที่เขาได้ขู่ไว้หญิงสาวคิดอยากจะหนีตั้งแต่เมื่อช่วงสายแต่เธอไม่มีแรงแม้กระทั่งจะพาตัวเองออกไปหน้าบ้านจนตอนนี้เธอได้ยาแก้ไข้กับแก้อักเสบเข้าไปทำให้มีแรงพอที่จะเดินได้แต่คงไม่สามารถที่จะขับรถไปไหนหรือเดินออกไปเพื่อเรียกรถแท็กซี่เธอจึงตัดสินใจขอร้องให้หนุ่มน้อยผู้เป็นดั่งยาของหัวใจมาพาเธอออกไปจากที่นี่แทน“ผมกำลังไป พี่ออกมารอผมนะครับ”เฌอเอมยังคงนอนร้องไห้โดยที่ไม่ได้วางสายโทรศัพท์จาก อีกฝ่ายเพราะแดนไตรขอร้องให้หญิงสาวถือสายของเขาไว้ตลอดเพราะกลัวว่าระหว่างที่เ
ตอนที่ 6หวงผมหรือ...ครับ“กินข้าวต้มก่อนนะครับจะได้มีแรง”เฌอเอมยังคงนอนซมอยู่แต่ถึงแม้ดวงตาคู่สวยจะถูกปิดด้วยเปลือกตาหลับสนิทแต่หัวใจของเธอกลับยังคงมีเสียงสะอื้นมีหยดน้ำตาไหลอยู่ในนั้นอย่างไม่ยอมหยุดเหมือนว่าตลอดเวลาที่เธอกำลังหลับแท้ที่จริงแล้วเธอไม่ได้หยุดร้องไห้เลยสักนาที“ขอบคุณนะ พี่ทำให้เธอต้องลำบากหรือเปล่าแทนที่จะได้ไปทำงานก็กลับต้องมาดูแลพี่แบบนี้”ท้องฟ้าที่มืดครึ้มด้านนอกทำให้เฌอเอมรู้ว่าเวลานี้เธอกำลังเป็นภาระให้กับชายหนุ่มที่กำลังยกข้าวต้มเข้ามาป้อนเธอ แดนไตรต้องไม่ได้ไปทำงานเพราะปกติแล้วเขาจะไปทำงานที่ผับเกือบทุกคืนเพราะมีวันหยุดแค่เพียงสัปดาห์ละหนึ่งวันเท่านั้น“ไม่หรอกครับพี่ ผมแลกวันหยุดกับเพื่อนแล้วพรุ่งนี้ผมคงไปทำงานตามปกติ พี่ก็จะคงดีขึ้นแต่ผมจะรีบกลับมานะ”แดนไตรเต็มใจและดีใจที่จะได้ดูแลคนตรงหน้าเพราะเขาถามเสียงของหัวใจตัวเองแล้วว่าเขาคงยอมไม่ได้ที่จะให้เฌอเอมกลับไปโดนทำร้ายอีกครั้งเพราะไม่ว่าเขาจะอยู่ในฐานะไหนเป็นแค่คนรู้จักหรือแม้แต่แค่เพื่อนสนิท เขาก็คงปล่อยให้คนที่อยู่ตรงหน้าโดนทำร้ายอีกครั้งไม่ได้“อุ๊ย !”“ผมขอโทษครับ พี่ร้อนไหม แย่จริง ๆ ผมไม่ทันระวัง”ชา
ตอนที่ 7ความสุขที่มีเธอ“กลับคอนโดมาเจอของกินเต็มโต๊ะแบบนี้ทุกวันอีกหน่อยผมคงกลายเป็นหมู อู๊ด ๆ”แดนไตรกลับจากฝึกงานเขารีบตรงมาที่โต๊ะอาหารเพื่อเปิดดูเมนูของมื้อเย็นวันนี้เพราะตั้งแต่เฌอเอมมาอยู่กับเขาจนถึงวันนี้ก็เป็นเวลาเกือบสองเดือน หญิงสาวจะทำกับข้าวรอรับเขาในทุกวัน“พูดแบบนี้วันหลังพี่ไม่ทำแล้วนะ”แม่ครัวทำท่าน้อยใจจนชายหนุ่มในชุดนักศึกษาต้องดึงเธอเข้ามากอดจนหญิงสาวแอบยิ้มหัวเราะด้วยความชอบใจที่อีกฝ่ายมักจะง้อเธอตลอดถึงแม้ว่าเธอจะแค่เพียงงอนเล่น ๆ เท่านั้น“อะไรกัน” เฌอเอมถามด้วยความแปลกใจคนอายุน้อยกว่ายื่นซองสีขาวที่ในนั้นดูก็รู้ว่ามีเงินอยู่ให้กับหญิงสาวที่นั่งข้าง ๆ แต่อีกฝ่ายยังเลือกที่จะไม่รับเพราะเธอไม่เข้าใจว่าแดรไตรส่งซองเงินให้เธอทำไม“เงินเดือนผม ที่ฝึกงานเขาจ่ายมาครับส่วนที่จำเป็นต้องใช้ผมหยิบแยกมาแล้วที่เหลือผมยกให้พี่ไว้ใช้จ่าย”“เธอเก็บไว้เถอะพี่มีเงินเก็บเหลืออยู่ เธอเองก็ยังต้องเติมน้ำมันรถไปทำงานมีค่าใช้จ่ายอีกเยอะแยะไม่ต้องทำมาเป็นใจใหญ่เลยนะ”เฌอเอมรีบคว้าซองเงินและส่งคืนให้กับเจ้าของทันทีเพราะตลอดเวลาที่เธออยู่ที่นี่ถึงแม้เธอจะไม่ทำงานอะไรแต่ก็มีเงินเก็บในบั
ตอนที่ 8คำพูดที่ไม่มีใครเชื่อสวนย่อมขนาดเล็กริมระเบียงถูกจัดให้กลายเป็นที่ทำงานของเฌอเอมเพราะตอนนี้หญิงสาวตัดสินใจที่จะรับงานออกแบบฉลากสินค้ามาทำเพราะเธอเรียนมาทางด้านนี้และเป็นการทำงานที่ไม่ต้องออกไปพบปะผู้คนถึงแม้ว่าเงินในบัญชีของเธอจะยังคงมีมากมายก็ตามแต่ในเมื่อเธอตัดสินใจแล้วว่าเธอจะเริ่มต้นชีวิตใหม่จึงไม่อยากจะใช้เงินของพ่อและแม่อยากหาเงินใช้ด้วยตัวเอง‘แม่เข้าโรงพยาบาลนะ’ข้อความทางไลน์ที่พ่อของเธอส่งมาตั้งแต่เมื่อเช้าหญิงสาวไม่ได้กดอ่านเพราะปกติแล้วทั้งพ่อและแม่จะส่งข้อความมาตลอดจากตอนแรกที่เธอตัดสินใจหนีออกมาจากบ้านของธเนศทั้งคู่ก็ส่งข้อความมาต่อว่าจนเวลาผ่านไปจนถึงตอนนี้ทั้งคู่ก็เริ่มเปลี่ยนเป็นห่วงใยและต้องการให้เธอกลับไป เธอจึงคิดว่าข้อความที่ส่งมา เมื่อเช้าก็คงจะไม่ต่างจากทุกวันแต่สุดท้ายแล้วกลับเป็นข้อความที่สำคัญที่สุดเพราะบิดาแจ้งว่าตอนนี้มารดาของเธอกำลังไม่สบายอยู่ที่โรงพยาบาล“พี่ต้องกลับไปดูแม่กับข้าวอยู่บนโต๊ะแล้วนะ…พี่จะรีบกลับมาให้เร็วที่สุด”“พี่รอผมได้ไหมผมจะเข้าไปกับพี่” แดนไตรไม่อยากให้เฌอเอมกลับไปที่บ้านคนเดียวเพราะเขาไม่ไว้ใจในตัวธเนศถึงแม้ว่