ธเนศไม่ใช่แค่เพียงพูดแต่เขาเดินมาจิกผมภรรยาอย่าง เต็มแรงหญิงสาวยกมือไหว้ร้องขอให้เขาหยุดการกระทำเช่นนี้แต่มันก็ไม่เคยได้ผล
“เธอนี่มันดีแต่สวยนอกนั้นก็หาอะไรดีไม่ได้ ทุกวันนี้ฉันแทบจะไม่อยากกลับบ้านเพราะไม่อยากเจอหน้าเธอนั่นแหละรู้ไหม ผู้หญิงอะไรน่าเบื่อชะมัด แล้วนี่อะไรแทนที่จะอยู่บ้านรอเอาใจผัวกลับไปแรดกับเพื่อน ความจริงแล้วเธอไม่ใช่คนเรียบร้อยอย่างที่แสดงให้ฉันเห็นถ้าอยากจะแรดก็ช่วยไปแรดกับฉันบนเตียง”
ชายวัยกลางคนรูปร่างสูงผิวเข้มหน้าตาดีตามแบบไฮโซใช้มือที่ขยำผมของภรรยาผลักหน้าผากของเธออย่างแรงจนหญิงสาวล้มลงไปกองกับพื้นฝ่ามือทับลงไปตรงเศษแก้วที่แตกอยู่
“โอ๊ย ! ...เลือด”
คนตัวเล็กทำอะไรไม่ถูกเมื่อเห็นเลือดไหลออกมาจากมือขาวของเธอ หญิงสาวได้แต่ตะโกนโวยวายและร้องไห้หวังว่าสามีจะเมตตาในตัวเธอสักครั้งแต่กลายเป็นว่าเขากลับรู้สึกรำคาญและคว้ากุญแจรถขับไปออกจากบ้านทันที
“ลินินช่วยเราด้วย”
เหตุการณ์นี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ธเนศทำรุนแรงกับภรรยา ก่อนหน้านี้เขาเคยทำถึงขั้นตบเธอล้มลงไปกองกับพื้นแต่เฌอเอมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมครั้งนี้เธอกลับรู้สึกหวาดกลัวและอยากบอกเล่าความจริงให้เพื่อนได้ฟังเผื่อชีวิตของเธอจะมีทางออกที่ดีกว่าการต้องอดทนแบบนี้
ลินินรีบขับรถมาที่บ้านของเพื่อนสาวทันทีหลังจากที่ได้รับโทรศัพท์ตอนนี้ข้างนอกถนนโล่งรถไม่ติดเพราะเป็นเวลาใกล้จะ ตีสองแล้ว ลินินจึงใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงจึงมารับเพื่อนออกจากบ้านหลังใหญ่ไปนั่งคุยกันที่คอนโดของเธอ
“คุณธเนศโมโหอะไรขนาดนี้ เขาทำเกินไปแล้วนะ”
ลินินนั่งทำแผลให้เพื่อนปากก็โวยวายไม่พอใจที่สามีของเพื่อนทำไมถึงไม่กลายเป็นคนใจร้ายใจดำ
“ไม่เป็นไรเราชินแล้วแค่รั้งนี้ถึงขั้นมีเลือดออก ลินินก็รู้ว่าเราเป็นคนกลัวเลือดก็เลยตกใจไปหน่อย”
เฌอเอมเผลอพูดออกไปทำให้ลินินสามารถจับใจความได้ว่าความรุนแรงแบบนี้มันไม่ได้เกิดขึ้นแค่เพียงครั้งแรกแต่มันบ่อยเสียจนเพื่อนของเธอกล้าพอที่จะใช้คำว่าชิน
“ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ นะ เอมบอกพ่อกับแม่แกเถอะเถอะ”
“ไม่ได้นะ ! ”
คนที่เพิ่งถูกทำร้ายมาขึ้นเสียงสูงทันทีด้วยความตกใจกลัวเรื่องนี้จะถึงหูครอบครัวเธอ
“ทำไมจะไม่ได้ พ่อกับแม่ของเธอไม่มีทางยอมให้คุณธเนศมาทำร้ายลูกได้แบบนี้ในเมื่อครั้งนี้มันไม่ใช่ครั้งแรกแปลว่าแกอดทนมาหลายครั้งแล้วและเขาก็ยังทำอีกถ้าครั้งต่อไปเข้าทำแกถึงตายจะทำยังไง”
ลินินไม่เข้าใจเพื่อนเลยว่าทำไมเฌอเอมถึงได้มีความอดทนที่สูงแบบนี้เพราะถ้าเป็นตัวเธอแค่ถูกผู้ชายพูดจาหยาบคายด้วยเธอยังเลือกที่จะไม่ทนและนั่นคือสาเหตุที่ทำให้เธอยังคงโสดแบบมีคนคุยอยู่ถึงทุกวันนี้เพราะเธอตั้งใจไว้แล้วว่าถ้ามีผัวแล้วมันไม่ดีกว่าการอยู่คนเดียวเธอจะครองความโสดไปตลอดชีวิต
“ลืมไปแล้วหรือว่าครอบครัวของเรายังต้องพึ่งครอบครัว คุณธเนศอยู่แต่นั่นก็ไม่สำคัญเท่ากับหน้าตาในสังคมถ้าเรื่องนี้ดังไปในสังคมไฮโซ ลินินแกก็รู้ว่าแม่ของเราหน้าบางเป็นที่สุด คุณแม่จะต้องอายคนอื่นที่สุดท้ายลูกสาวถูกผัวซ้อมแบบนี้”
“พ่อแม่ของผัวแกตั้งหากที่ต้องอาย ลูกชายทำร้ายผู้หญิง”
ลินินส่ายหัว เธอไม่ใช่ไม่เข้าใจแต่เธอไม่ชอบกับสังคมไฮโซที่เฌอเอมต้องฝืนทนทุกอย่างเพื่อหน้าตาในสังคมจอมปลอม ลินินเองเกิดในสังคมบ้าน ๆ ที่ได้เรียนโรงเรียนดี ๆ ก็เป็นเพราะแม่ของเธอได้แต่งงานกับชาวต่างชาติและส่งเงินมาให้เธอใช้ เธอจึงไม่จำเป็นต้องรักษาหน้าตาอะไรทั้งนั้นเพราะแม่ของเธอสอนตลอดว่าสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตของคนเราก็คือความสุขและการรักตัวเอง
ค่ำคืนนี้เฌอเอมนอนค้างที่คอนโดของเพื่อน ลินินพูดกล่อมให้เพื่อนเล่าความจริงทั้งหมดในชีวิตหลังแต่งงานให้เธอฟัง เมื่อเธอได้ฟังเฌอเอมเล่า ลินินทั้งสงสารและโกรธที่ธเนศเป็นคนแบบนี้นอกจากที่เขาจะทำร้ายร่างกายเอมแล้วเขายังทำร้ายจิตใจด้วยการนอกใจโดยตลอดถึงขั้นพาผู้หญิงมานอนที่บ้าน นอนในห้องนอนและไล่ให้เมียตัวเองลงมานอนข้างล่างและเพื่อนของเธอก็ยอม ทำตามเพราะไม่อยากให้มีปัญหา
“ช่างใจเอานะเพื่อน ทุกข์กับสุขอันไหนมันมากกว่ากัน เรื่องที่แกต้องรักษาหน้าตาของครอบครัว ฉันเข้าใจแต่แกก็ไม่จำเป็นต้องยอมทุกเรื่องนะ”
เอมนอนคิดตามคำที่เพื่อนบอกเธอตัดสินใจว่านับจากวินาทีนี้เธอจะไม่เป็นของตายให้ธเนศอีกแล้วเธอจะกลับมาใช้ชีวิตอย่างมีความสุขอีกครั้งแต่ภายใต้ความสุขนั้นเธอจะไม่ทำให้พ่อและแม่รู้เด็ดขาดว่าชีวิตครอบครัวของเธอล้มเหลวในเมื่อธเนศใส่หน้ากาก ต่อหน้าสังคมว่าเขาคือสามีที่ดีทั้งที่ความจริงเขาเป็นเหมือนซาตานร้ายเธอก็จะสวมหน้ากากภรรยาที่น่ารักแต่เธอขอมีความสุขในชีวิตบ้างก็พอ
ตอนที่ 2ร้อนรักในคืนที่เหงาใจ“วันนี้ฝนตกน้ำท่วมกรุงเทพฯแน่นอน ลินินนี่แกทำยังไงเฌอเอมถึงยอมมาเที่ยวผับกับเราได้”มุกดาถามด้วยความแปลกใจเพราะทั้งสามคนเป็นเพื่อนที่สนิทกันมาตั้งแต่สมัยมัธยมต้นแต่ก็เริ่มห่างกันไปตั้งแต่เฌอเอมแต่งงานเพราะเพื่อนทั้งสองคนต่างก็เกรงใจในตัวธเนศที่เป็นผู้ใหญ่จึงไม่มีใครกล้าชวนเอมออกมาเที่ยวด้วย“ต่อไปนี้เราจะได้เพื่อนที่มีรอยยิ้มสดชื่นกลับมาแล้วเลิกแซวเอมมันได้แล้วมุกดา”เพื่อนทั้งสามคนกอดคอกินเหล้ากันอย่างสนุกสนานก่อนหน้าที่เฌอเอมจะแต่งงานเธอกับเพื่อน ๆ ก็มีโอกาสได้มาเที่ยวบ้างแต่ไม่ใช่สถานที่แบบนี้แต่เมื่อเธอตัดสินใจใช้ชีวิตแบบคนมีครอบครัวหญิงสาวก็เลือกที่จะตัดเพื่อนออกไป เต็มที่ก็ได้แค่พูดคุยกันแค่ทางโทรศัพท์เท่านั้นจนเมื่อวานที่เป็นงานวันเกิดของลินินเธอจึงมีโอกาสได้มารวมตัวกันอีกครั้ง“ดูเหมือนมีหนุ่มน้อยกำลังสนใจเพื่อนเรา”ลินินส่งสายตาให้ทั้งเอมและมุกดารู้ว่าเธอกำลังหมายถึงใคร ชายหนุ่มที่นั่งอยู่โต๊ะข้าง ๆ เกือบชั่วโมงแล้วที่ลินินสังเกตว่าเขาเอาแต่นั่งส่งสายตาหวานให้เฌอเอม“เฮ้ย! แก…ทำอะไรแบบนั้น”หญิงสาวที่มีสถานภาพไม่โสดเพียงคนเดียวของกลุ่มถึงกับอุทา
“พี่ยังไม่อยากกลับบ้านพาพี่ไปที่อื่นได้ไหม”เฌอเอมไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเธอถึงกล้าพูดแบบนั้นออกไปแต่เธอรู้สึกแบบนั้นจริง ๆ บ้านที่เธอกำลังจะกลับมันไม่ใช่บ้านแต่มันคือนรกที่เธอเลือกที่จะอยู่เอง“ดึกแล้วไปตรงไหนก็คงอันตรายจะว่าอะไรไหมถ้าผมจะชวนพี่ไปที่ห้องของผม”แดนไตรพูดชวนหญิงสาวที่เพิ่งจะรู้จักกันได้แค่เพียงไม่กี่ชั่วโมงไปที่ห้อง เขาไม่คาดคิดว่าเฌอเอมจะยอมแต่คำตอบที่ได้ทำให้คนชวนรู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูกชายหนุ่มแอบชอบหญิงสาวเหมือนรักแรกพบตั้งแต่เธอเดินเข้ามาในผับ เขานั่งส่งสายตาหวานให้อีกฝ่ายโดยที่เฌอเอมแทบจะไม่รู้ตัวและจากการที่หญิงสาวรับโทรศัพท์บนรถทำให้เขารู้ว่าเธอมีสามีอยู่แล้วและชีวิตครอบครัวของเธอก็ไม่ได้มีความสุข แดนไตรไม่ได้หวังที่จะเข้ามาเป็นมือที่สามแต่เขาเป็นห่วงเธอมากกว่าและก็ ดีใจที่เธอตัดสินใจจะอยู่กับเขาในคืนนี้แทนการกลับไปตรอมตรมอยู่คนเดียวที่บ้าน“คอนโดเธอใหญ่มาก ไหนตอนแรกบอกว่าเป็นแค่นักศึกษารับจ๊อบทำงานกลางคืนแล้วทำไมถึงอยู่คอนโดราคาแพงแบบนี้”เฌอเอมถามด้วยความสงสัยเพราะตอนที่นั่งคุยกันแดนไตรเล่าเรื่องราวของเขาว่าเป็นเพียงชายหนุ่มนักศึกษาที่เดินทางมาจากต่างจัง
ตอนที่ 3ค่ำคืนที่ไม่ต้องนอนคนเดียว“ผมขอโทษนะครับที่เมื่อคืนเรา….”แดนไตรเอ่ยคำขอโทษออกจากหัวใจจริง ๆ เมื่อหญิงสาวกำลังแต่งตัวเพื่อจะเดินทางออกจากคอนโดของเขาแต่ยังไม่ทันที่จะพูดอะไรต่อเขาต้องหยุดทันทีเมื่อเฌอเอมโน้มปากบางลงมาปิด ปากหยักได้รูปที่กำลังจะขยับพูดจนสนิท“ไม่มีใครผิดทั้งนั้นแต่พี่ว่าเรื่องระหว่างเรามันควรจะจบแค่วันนี้...”แดนไตรลุกขึ้นสวมกอดคนตรงหน้าทันทีไม่มีทางที่เขาจะยอมให้เรื่องทุกอย่างจบลงแบบนี้ เขาหลงรักหญิงสาวตรงหน้าเข้าแล้วจริง ๆ ไม่ว่าเขาจะต้องอยู่ในฐานะอะไรก็ตามเขาพร้อมจะยอมเสมอขอแค่เพียงแต่เธออย่าพูดแบบนี้พูดเหมือนกับว่าเขาจะไม่ได้เจอเธออีก“อย่าพูดแบบนี้นะครับอนาคตข้างหน้าเราสองคนไม่มีทางรู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้างแต่อย่างน้อยผมก็จะได้หลอกตัวเองว่าผมยังมีพี่อยู่ถ้าเมื่อไหร่ที่พี่ไม่มีความสุขเมื่อไหร่ที่คนอื่นทำร้ายพี่มาหาผมนะ ชีวิตของคนเราทุกคนมีคุณค่าอย่าปล่อยให้เราชินกับการโดนทำร้ายเพราะอีกฝ่ายเขาไม่มีทางเห็นคุณค่าเรา”เฌอเอมพยักหน้าสองมือเล็กแกะมือใหญ่ที่โอบเอวเธอไว้ก่อนที่เธอจะพาตัวเองออกจากคอนโดและเธอคิดว่าจะไม่กลับมาที่นี่อีกหญิงสาวพยายามตัด
ตลอดทางกลับบ้านธเนศพ่นคำหยาบคายใส่หญิงสาวที่นั่งข้าง ๆ มาตลอดทางเฌอเอมไม่แม้แต่จะตอบโต้ใด ๆ เธอไม่แสดงความกลัวไม่มีหยดน้ำตาหรือไม่มีคำอ้อนวอนเพราะมันไม่มีความรู้สึกนั้นหลงเหลืออีกแล้วค่ำคืนที่ผ่านมาเธอได้เรียนรู้ว่าความสุขของชีวิตมันคืออะไร เธอเอาความถูกต้องเอาบรรทัดฐานของสังคมมาตีกรอบตัวเองไว้ คนที่ต้องเผชิญกับความทุกข์ไม่ใช่คนเหล่านั้นที่เธอต้องการจะให้เขาเห็นว่าเธอมีความสุขแต่มันคือตัวเธอเองในเมื่อเธอยังไม่พร้อมจะหลุดไปจากตรงนี้เธอก็จะขออยู่ตรงที่เดิมในแบบที่เธอจะมีความสุขที่สุดก็พอ“พรุ่งนี้เข้าไปหาคุณแม่ผมด้วยแล้วก็อย่าไปพูดอะไรที่ไม่ควรพูด”ธเนศพูดแค่เพียงเท่านี้เขาก็ขับรถออกไปจากบ้านทันทีเอมรู้ว่าสามีของเธอกำลังรู้สึกเสียอารมณ์กับท่าทางที่แข็งกระด้างที่เธอไม่เคยเป็นมาก่อนแต่ก็นั่นแหละหญิงสาวไม่สนใจอะไรแล้วเธอเลือกที่จะใช้ชีวิตของเธอให้มีความสุขที่สุดถ้าเขาทำร้ายเธอ เธอก็จะทำร้ายเขาตอบเช่นกันลมพัดโชยอยู่ด้านนอกเสียงใบไม้ที่พัดสีกันไปมาดังผ่านหน้าต่างเข้ามาเพราะในเวลานี้เป็นปลายฝนต้นหนาว เฌอเอมอดที่จะรู้สึกเหงาไม่ได้ทั้งที่เธอคิดว่ากลับมาถึงบ้านแค่เพียงล้มตัวลงนอนก็คงจะหลับได้โ
ตอนที่ 4ขอบคุณคืนนี้ที่ไม่ต้องอยู่คนเดียว“คืนนี้เธอต้องไปทำงานไหม”แดนไตรแทบจะรีบตอบทันทีว่าเขาว่างสำหรับหญิงสาวที่กำลังโทรมาเสมอแต่มีบางอย่างที่ทำให้เขาไม่สามารถที่จะตอบแบบนั้นได้เขาจึงเลือกที่จะหยุดคิดก่อนที่จะตอบแบบที่ไม่ตรงกับใจออกไป“คืนนี้ผมต้องไปทำงานครับ”เฌอเอมพยายามทำความเข้าใจกับคำตอบว่าชายหนุ่มที่เธอกำลังโทรหาเขา เขาไม่ได้เป็นอะไรกับเธอและตอนนี้เขาเป็นนักศึกษาที่ต้องการหารายได้เพื่อนำมาใช้ในการเรียนคงไม่มีใครที่จะมานั่งรองรับอารมณ์ความเหงาเธอได้ตลอดเวลาบ้านที่ไม่เคยเหมือนบ้านทำให้เธอตัดสินใจที่จะไม่กลับในคืนนี้ เธอไม่รู้จะไปไหนเพราะวันนี้เพื่อน ๆ ของเธอต่างก็ติดธุระเธอจึงตัดสินใจไปนั่งดื่มที่ผับที่เป็นสถานที่ที่ทำให้เธอได้เจอกับแดนไตรและเธอก็ได้แต่หวังว่าถ้าเมื่อไหร่ที่ชายหนุ่มเลิกงานบางทีเขาอาจจะรีบติดต่อกลับมาหาเธอ“ท่าทีหลังพี่จะมากินเหล้าแบบนี้อย่ามาคนเดียวอีกนะครับผมเป็นห่วง”น้ำเสียงที่แสนจะคุ้นเคยทั้งที่เพิ่งรู้จักกันได้เพียงแค่ไม่กี่วันทำให้เฌอเอมถึงกับสะดุ้งตกใจแต่ก็แอบมีดีใจเมื่อรู้สึกว่าตัวเองกำลังเป็นคนสำคัญอีกครั้ง“ไหนบอกว่าคืนนี้มีงานแล้วมาที่นี่ทำไมหรือว
คำพูดที่ไม่น่าจะออกจากปากหนุ่มนักศึกษาที่ดูจากลักษณะค่อนข้างจะเป็นเพลย์บอยเป็นนักดื่มแถมมีอาชีพคอยบริการใน ยามค่ำคืนแบบนี้เฌอเอมได้แต่มองหน้า เธอเข้าใจในสิ่งที่ชายหนุ่มพูดเหลืออย่างเดียวคือเธอยังทำมันไม่ได้“คนเราเวลาที่เราอยู่ในปัญหาเราก็มักจะมองไม่เห็นทางออกแต่เมื่อไหร่ที่ปัญหานั้นไม่ใช่ของเรา เราจะมองทุกอย่างได้อย่างชัดเจนมากขึ้น พี่เข้าใจในสิ่งที่เธอต้องการบอกแต่ให้เวลาพี่หน่อยนะพี่ยังข้ามผ่านมันไปไม่ได้”“พี่ยังรักสามีพี่ใช่ไหม”คนถามกลั้นใจเพราะแดนไตรเองก็ไม่แน่ใจว่าคำตอบที่เขากำลังจะได้ยินมันจะทำให้เขากลายเป็นคนที่ผิดหวังในค่ำคืนนี้ หรือเปล่า“พี่มีสิทธิ์ที่จะไม่รักเขาด้วยหรือเขาคือสามีของพี่นะ”“พี่มีสิทธิ์ที่จะรักใครก็ได้หรือไม่รักใครก็ได้มันเป็นเรื่อง ของความรู้สึก ความรักไม่ใช่สิ่งที่บังคับกันที่ผมถามไม่ใช่เพราะต้องการจะให้พี่เลิกกับเขาแต่ผมต้องการอยากรู้ว่าสาเหตุที่แท้จริงที่พี่เลือกจะทนอยู่ทั้ง ๆ ที่มีความทุกข์แบบนี้เพราะพี่มีเหตุผลอย่างอื่นหรือหัวใจพี่ยังคงรักผู้ชายคนนั้นอยู่เต็มทั้งดวง”คนถูกถามเธอยังไม่มีคำตอบให้กับชายหนุ่มตรงหน้า
ตอนที่ 5บอบช้ำเพียะ ! !หญิงสาวตัวเล็กลงไปล้มกองกับพื้นโดยที่เธอยังไม่ทันตั้งตัวเพราะโรงรถที่ไร้รถของสามีทำให้เธอมั่นใจว่าการกลับบ้านครั้งนี้ของเธอคงไม่ต้องพบกับความรุนแรงใด ๆ แต่ทุกอย่างกลับผิดพลาดเพราะธเนศตั้งใจให้เฌอเอมเข้าใจว่าเขาไม่อยู่เพราะวันนี้เขาต้องการทำร้ายเธอมากกว่าทุกครั้งที่เคย“มึงมันห่างมือห่างตีนมากเกินไปแล้วถึงได้ทำตัวแบบนี้...”ธเนศไม่ใช่แค่เพียงพูดหยาบคายแต่เขายืนยกขาขึ้นสูงก่อนที่จะประทับฝ่าเท้าลงตามตัวของหญิงสาวประหนึ่งว่าเฌอเอมเป็นเพียงแค่ที่หมอนนุ่ม ๆ ให้เขากระทืบเท้าได้อย่างหนำใจ“ไอ้ชั่ว ! เก่งแต่กับผู้หญิง”มันเป็นครั้งแรกของการโต้ตอบของเฌอเอมเพราะก่อนหน้านี้ เธอเลือกที่จะเป็นฝ่ายยอมเต็มที่ก็บีบน้ำตาร้องไห้ยกมือไหว้ขอร้องให้อีกฝ่ายหยุดการกระทำแต่ครั้งนี้เธอจะไม่ทนอีกต่อไปถึงแม้ว่าจะยังเธอตัดสินใจไม่ได้ว่าจะจัดการกับชีวิตครอบครัว ของเธอต่อไปอย่างไรดี“ชั่วใช่ไหม...แล้วมึงดีนักเหรออีเอม”ชายร่างสูงตัวใหญ่กระชากผมยาวของอีกฝ่ายขึ้นมาเต็มมือก่อนที่จะผลักเธอลงไปกองกับพื้นอีกครั้งแล้วบรรจงฟาดแข้งลงไปที่สะโพกของอีกฝ่ายเหมือนว่าเขากำลังสวมบทนักฟุตบอลที่เต
เฌอเอมบอบช้ำไปทั้งตัว เธอนอนซมด้วยพิษไข้ก่อนที่จะมารู้สึกตัวอีกทีเมื่อมีข้อความที่ส่งมาทางไลน์ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง“แดน…..”หญิงสาวไม่มีแรงพอที่จะพิมพ์ข้อความใด ๆ ตอบโต้กลับ เธอจึงตัดสินใจที่จะเปลี่ยนเป็นการโทรศัพท์แทนและแค่เพียง ปลายสายรับโทรศัพท์ เธอเองก็ทำได้แค่เรียกชื่ออีกฝ่ายและร้องไห้ออกมาพูดอะไรไม่ออก“เกิดอะไรขึ้นกับพี่ ! เขาทำร้ายพี่ใช่ไหม”“ใช่...พี่ไม่ไหวแล้วพี่ไม่รู้จะทำอย่างไรแดนมาพาพี่ไปจากที่นี่ได้ไหม”เฌอเอมรู้ว่าเย็นนี้ถ้าธเนศกลับมาเขาคงไม่ได้รู้สึกผิดที่เห็นสภาพของเธอเป็นแบบนี้แต่เขาอาจจะทำร้ายเธอตามที่เขาได้ขู่ไว้หญิงสาวคิดอยากจะหนีตั้งแต่เมื่อช่วงสายแต่เธอไม่มีแรงแม้กระทั่งจะพาตัวเองออกไปหน้าบ้านจนตอนนี้เธอได้ยาแก้ไข้กับแก้อักเสบเข้าไปทำให้มีแรงพอที่จะเดินได้แต่คงไม่สามารถที่จะขับรถไปไหนหรือเดินออกไปเพื่อเรียกรถแท็กซี่เธอจึงตัดสินใจขอร้องให้หนุ่มน้อยผู้เป็นดั่งยาของหัวใจมาพาเธอออกไปจากที่นี่แทน“ผมกำลังไป พี่ออกมารอผมนะครับ”เฌอเอมยังคงนอนร้องไห้โดยที่ไม่ได้วางสายโทรศัพท์จาก อีกฝ่ายเพราะแดนไตรขอร้องให้หญิงสาวถือสายของเขาไว้ตลอดเพราะกลัวว่าระหว่างที่เ