6
กลัว
เกือบมืดแล้วแต่ไมค์ก็ยังไม่กลับมา มาตาไม่กล้าแม้แต่จะเปิดไฟ เพราะกลัวจะทำให้พวกโจรรู้ว่ามีคนอยู่ในบ้าน
“มาตา”
เสียงเรีกชื่อดังมาพร้อมกับเสียงไขกุญแจ หญิงสาวจำน้ำเสียงได้ดี เธอรีบลุกจากข้างหน้าต่าง โผเข้ากอดเจ้าของเสียงด้วยความดีใจ
“เป็นอะไร แล้วทำไมไม่เปิดไฟ นั่งอยู่มืดๆไม่กลัวหรือไงกัน”
ชายหนุ่มโอบเอวหญิงสาวแล้วค่อยๆพาเธอเดินเปิดไฟในห้องรับแขก
“เกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงได้กลัวแบบนี้”
ไมค์ถามด้วยสีหน้าเหมือนคนที่กำลังกลั้นเสียงหัวเราะไว้ เพราะกลัวคนเล่าจะโมโหเอา
มาตาเล่าเรื่องที่เธอได้ยิน เมื่อไมค์ออกไปทำงานได้ไม่ถึงชั่วโมง โดยที่หญิงสาวลืมไป ว่าชายหนุ่มก็จะรู้ว่าเธอกำลังคิดจะหนีไปจากที่นี่
“แล้วคุณออกไปทำอะไรที่กำแพง” ไมค์ทำเสียงเข้ม
“ฉันก็แค่ออกไปเดินเล่น” มาตาหลบตาทันที
“ก็ผมบอกแล้วไม่ใช่หรือไง ว่าห้ามออกจากบ้านเลย เห็นไหมแถวนี้มันมีแต่พวกโจรป่า ถ้าคุณโดนพวกมันจับ รับรองมีผัวพร้อมกันเป็นสิบแน่ๆ”
ไมค์ลุกขึ้นจากโซฟาทันที เพราะกลัวจะกลั้นเสียงหัวเราะไว้ไม่ไหว เมื่อเห็นสีหน้าของมาตาที่ดูหวาดกลัว
ความจริงแล้ว พวกโจรที่ว่าคือคนของเขาที่จ้างมาให้เฝ้าหญิงสาวอยู่นอกรั้ว เขาคิดแล้ว ว่าเธอต้องพยายามหนี พอได้ยินเสียงคนเดิน ลูกน้องของเขาจึงพูดเสียงดัง ตามที่ชายหนุ่มสั่งไว้ และมันก็ได้ผลจริงๆ
มาตายิ่งคิดถึงคำพูดของคนพวกนั้น ก็ยิ่งกลัว พอมาเจอเจ้าของบ้านพูดอีกเธอยิ่งกลัวไปกันใหญ่
“มัวแต่นั่งอยู่ตรงนั้นแล้วคืนนี้ผมจะกินอะไร”
ชายหนุ่มตะโกนมาจากห้องนอน เมื่อเห็นว่าหญิงสาวไม่ได้ลุกตามเขามา
“เดี๋ยวฉันทำให้ เอาง่ายๆไปก่อนนะ”
มาตาลืมไปเลย ว่าตั้งแต่เที่ยงเธอยังไม่ได้กินอะไรเลยนอกจากน้ำ เพราะมัวแต่นั่งเฝ้าอยู่ข้างหน้าต่าง
“ใจเย็น ไปหิวอะไรมาจากไหน กินเร็วจนผมกินไม่ทันแล้ว”
ไมค์มองหญิงสาวที่เคยกินแค่ไม่กี่คำก็อิ่มแต่วันนี้เธอกลับ กินจนไม่มีเวลาพูดอะไรสักคำเลย
“ก็ตั้งแต่กลางวันฉันยังไม่ได้กินอะไรเลย”
“แล้วทำไมไม่กิน” ไมค์วางช้อนมองตนตรงข้ามด้วยความสงสัย
“ก็ใครจะไปกินอะไรลง ได้ยินพวกมันพูดแบบนั้น วันนี้ทั้งวันฉันก็เอาแต่นั่งเฝ้าหน้าต่าง คอยมองพวกมัน ว่าจะเข้ามาตอนไหน”
คราวนี้ไมค์เก็บกลั้นความขำเอาไว้ไม่อยู่แล้ว เขามองหน้ามาตาแล้วส่ายหัว ให้กับความไม่โตของเธอ
“มาตาถึงเธอจะอายุห่างกับผมหลายปี แต่ตอนนี้คุณก็โตแล้ว ผมถามจริงๆ ที่คุณเฝ้าอยู่แบบนั้นถ้ามันเข้ามาจริงๆ คุณจะทำอะไรได้”
“อย่างน้อยฉันก็ยังรู้ตัวก่อน ยังไปหาที่ซ่อนได้”
มาตาเธอคิดแบบนั้นจริง ๆ เพราะเธอคิดไว้แล้วว่ามีที่ไหนที่เธอจะไปแอบซ่อนได้บ้าง
“เอาเป็นว่าแค่คุณไม่คิดจะหนี ไม่เดินออกไปนอกบ้านแต่นี้คุณก็ปลอดภัยแล้ว ผมรับรอง”
“พูดแบบนี้หมายความว่าคุณจะไปแบบนี้ทุกวันเหรอ” คนถามทำเสียงน่าสงสาร
“ไม่หรอก ผมเอางานมาทำที่บ้าน วันสองวันถึงจะเข้าบริษัทที”
ตอนนี้ไมค์เปิดบริษัทเป็นของตัวเอง และมีเลขาที่ทำงานเก่งมาก เขาจึงวางใจได้ แต่ก็ต้องเข้าไปเซ็นเอกสารที่เป็นเรื่องเงินเป็นครั้งคราว
“แล้วคุณจะปล่อยฉันไปเมื่อไหร่ ฉันสัญญานะว่าจะไม่เอาเรื่องนี้ ไม่แจ้งตำรวจ” มาตาจับแขนชายหนุ่มอย่างเอาใจ
สิ่งที่เธอคิดไม่ถึงก็เกิดขึ้น ชายหนุ่มกวาดจานทุกใบลงไปกองอยู่ข้างล่าง สีหน้าแดงแสดงถึงความโกรธ
“ผมมันแย่ มันเลว มันไม่มีอะไรดีเลยใช่ไหม แม้แต่คุณยังอยากไปจากผมเลย”
ไมค์เดินมาหาคนถามที่กำลังยืนกลัวจนตัวสั่น ไม่กล้าขยับไปไหน พร้อมกับชี้นิ้วไปที่หน้าของเธอ
“จำไว้นะ ผมเบื่อคุณเมื่อไหร่ วันนั้นคุณจะเป็นอิสระ”
เมื่อคนเกรี้ยวกราดเดินออกจากโต๊ะอาหารไป มาตาจึงกล้าขยับตัว ค่อยๆเริ่มเก็บจานที่กระจายเต็มรอบโต๊ะ
จากที่รู้สึกโกรธที่โดนเขาจับตัวมา ยิ่งอยู่ไปเธอกลับยิ่งรู้สึกสงสารชายหนุ่มมากขึ้น เพราะเขาคงรักเพียงใจมากจริงๆ ถึงแม้ว่าเธอจะนอกใจเขา ถึงกลับไปมีอะไรกับคนอื่น เขาก็ยังรับได้
มาตาเริ่มรู้สึกว่าตัวเองคิดผิด ที่คิดว่าการช่วยให้เขาสองคนเลิกกัน เพื่อไม่ให้ไมค์ต้องโง่อยู่แบบนั้น แต่มันกลับกลายเป็นสิ่งที่ทำให้เขาเสียใจ จนกลายเป็นคนเจ้าอารมณ์แบบนี้
มาตาคิดว่าตอนนี้เขาคงกำลังนั่งดื่มเหล้าอยู่ที่หน้าบ้านตามปกติ แต่วันนี้หญิงสาวกลับไม่เห็นเขา เธอจึงเปลี่ยนลองเข้าไปดูในห้องนอนแทน
ไมค์อาบน้ำห่มผ้านอน เขาเปิดเพลงผ่านโทรศัพท์มือถือที่วางไว้หัวเตียง มาตาเห็นแล้วยิ่งรู้สึกผิดมากไปอีก
“ฉันขอโทษนะ สำหรับทุกอย่าง”
เมื่ออาบน้ำเสร็จ หญิงสาวผู้รู้สึกผิด ก็ล้มตัวลงนอนโอบกอดชายหนุ่มที่เธอแอบชอบมานาน จากทางด้านหลัง หวังว่าเขาจะรับรู้ว่าเธอรู้สึกผิดจริงๆ
“ฉันจะไม่ไปไหนทั้งนั้น จะอยู่กับคุณที่นี่ จนกว่าคุณจะไม่อยากเห็นหน้ากันแล้ว ”
มาตาขยับตัวให้เข้าไปแนบชิดกับแผ่นหลังหนา ให้แนบแน่นกว่าเดิม เมื่อรู้สึกว่าเขาไม่ขัดขืนและไม่โวยวายใส่เธอแน่นอน
“ฉันอาจแทนที่ภรรยาคุณไม่ได้ แต่ฉันจะพยายามทำให้คุณมีความสุขเหมือนที่เธอเคยทำ และหวังว่าสักวันคุณจะให้อภัยในสิ่งที่ฉันทำ ”
มาตาลุกขึ้นมาจูบแก้มชายหนุ่มที่นอนนิ่งลืมตาแต่ไม่ขยับตัว เพื่อหวังให้เขารู้สึกดีขึ้น
“นอนหลับฝันดีนะคะ”
คืนนี้เขานอนหลับ โดยไม่แตะต้องตัวเธอ มีแต่มาตาเองที่เป็นฝ่ายกอดเขาไว้
ทุกคืนที่เคยหวาดกลัว ว่าคืนนี้เขาจะทำอะไรเธอไหม แต่คืนนี้หญิงสาวกลับต้องการให้เขาทำกับเธอเหมือนเช่นทุกคืน
7ความเฉยชา เช้านี้เขาไม่ได้ออกไปทำงาน มาตาตั้งใจจะทำกับข้าวให้เขากินสุดฝีมือ “กับข้าวเสร็จแล้วค่ะ”แม่ครัวคนสวยออกไปตามชายหนุ่มที่กำลังนอนอ่านหนังสืออยู่ที่ห้องรับแขกไม่มีเสียงตอบ แต่ไมค์ก็ลุกมานั่งที่โต๊ะอาหารตามปกติ โดยที่ไม่ยอมพูดอะไรหว่างที่นั่งกินอาหารกันมาตารู้สึกอึดอัดจากที่ตั้งใจ จะทำกินข้าวให้อร่อย แต่กลับเป็นว่าเธอแทบจะกลืนไม่เข้าสักคำ“อิ่มแล้วเหรอคะ” หญิงสาวถามเมื่อเห็นคนนั่งตรงข้างรวบช้อน“อืม”คำตอบที่ดูเหมือนไม่อยากตอบ มาตาก็สุดที่จะหาวิธีง้อแล้ว เธอจึงได้แต่อิ่มตาม เพราะไม่มีอารมณ์ที่จะนั่งกินแล้ววันนี้ทั้งวันทั้งสองคน ต่างอยู่กันคนละมุมบ้าน มาตาเองก็ไม่อยากเห็นเขาทำหน้าเฉยชาใส่เธอ ส่วนไมค์เองก็คงยังไม่อยากเห็นหน้าเธออาหารค่ำกลายเป็นไมค์เข้าครัวเป็นคนทำเอง เขาจัดโต๊ะที่เขาเคยใช้นั่งดื่ม ให้เป็นโต๊ะอาหาร ตกแต่งด้วยดอกไม้ มาตาก็ทำได้แค่แอบมองเพราะไม่กล้าเข้าไปยุ่งท้องฟ้าเริ่มมืด ชายหนุ่มเดินเข้ามาที่ห้องนอน และยื่นถุงกระดาษใบใหญ่ที่ในนั้นมีเสื้อผ้าอยู่ให้มาตา“ชอบตัวไหนก็ใส่แล้วออกมากินข้าว คิดว่าคงเลือกชุดที่สวยที่สุด เพราะวันนี้ผมอยากกินข้าวกั
8อิสระที่ลำบากใจ ไมค์ขับรถไปส่งมาตาที่ทำงาน เพราะคิดว่าการหายไปของเธอหลายวันแบบนี้ที่ทำงานของเธอคงกำลังต้องการตัวเธอแน่ๆ “พี่มาตาพี่กลับมาแล้ว พวกเราทุกคนตัดสินไม่ถูกเลยว่าจะแจ้งความดีไหม ถึงแม้พี่จะส่งข้อความมาแล้ว” ชะอมเลขาคนสนิทวิ่งเข้ามากอดเจ้านาน ที่เปรียบเป็นเสมือนพี่สาวของเธอ “พี่มีเรื่องไม่ค่อยสบาย เลยอยากหลบไปอยู่คนเดียวเงียบๆสักพัก ตอนนี้พร้อมลุยงานต่อแล้ว” มาตาลูบผมลูกน้องคนสนิทอย่างเอ็นดู เพราะทั้งคู่รู้จักกันมาตั้งแต่ยังไม่ได้เปิดบริษัทนี้ จึงรู้ใจกันมากที่สุด “เรื่องงานเราจัดการได้เรียบร้อย แต่เราตัดสินไม่รับงานใหม่ เพราะตั้งใจจะรอพี่กลับมาก่อน” ชะอมรายงานเรื่องราวระหว่างที่เจ้านายไม่อยู่ “บ่ายนี้เรียกประชุมพนักงานทุกคนให้พี่หน่อย เรื่องสำคัญมาก ห้ามใครไม่เข้าเด็ดขาด” มาตารีบเข้าห้องทำงานและเก็บตัวเองอยู่แต่ในห้องห้ามใครเข้าไปรบกวน เพื่อเตรียมข้อมูลในการประชุมครั้งนี้ ทุกคนในบริษัทต่างคิดว่า พวกเขาคงกำลังจะโดนเลิกจ้างแน่ๆ เพราะเจ้านายของเธอทิ้งบริษัทไปหลายวัน พอกลับมาก็เรียกประชุมใ
9เมื่อไม่ได้ยินเสียงของหัวใจ เช้านี้มาตาต้องเริ่มต้นกับการวางแผนงานใหม่ทั้งหมด ทั้งวันเธอวุ่นวายจนไม่มีเวลาว่างพอที่จะมาคิดเรื่องของตัวเอง มันทำให้เธอสบายใจไปได้ชั่วขณะหนึ่ง “พี่มาตาเราต้องทำแผนโฆษณากันใหม่ทั้งหมด เดี๋ยวชะอมจะให้นักศึกษาทำแล้วเอามาให้พี่ดูนะ” “ชะอมให้น้องเขามาคุยกับพี่นะ” มาตาตั้งใจจะเป็นคนวางพล็อตโฆษณาเอง โดยที่ให้น้องนักศึกษาเป็นคนจัดการเรื่องกระบวนการทำ ช่วงบ่ายหญิงสาวต้องออกไปพบลูกค้ารายเก่าเพื่อรับเงินค่าจ้าง ซึ่งสถานที่นัดพบอยู่ใกล้กับบ้านที่เธอเคยถูกไมค์จับไปขังไว้มาตาจึงตั้งใจที่แวะเข้าไปเพื่อไปฟังเสียงหัวใจตัวเอง หญิงสาวมองรอบบ้านทันทีที่เธอมาถึง ไม่มีป่าลึกเกมือนอย่างที่เขาโกหก มีแค่เพียงป่าต้นก้ามปู ที่เขาปลูกล้อมบ้านไว้เกือบห้าสิบต้น มาตาคิดถึงคำขู่แล้วก็อดยิ้มไม่ได้ ถุงกับข้าวที่วางไว้บนโต๊ะคือสิ่งแรกที่หญิงสาวเห็นทันที ที่เข้าไปถึง มาตาหยิบแต่ละถุงขึ้นมาดู ตอนนี้ทุกถุงมันบูดหมดแล้ว “เมื่อคืนคุณมาที่นี่” หญิงสาวรู้สึกหัวใจวาบหวิวขึ้นมา เขามารอเธอ มาตาแอบเข้าข้างตัวเอ
10โฆษณาหรือเรื่องจริง สภาพร่างกายของไมค์ทรุดโทรมลง เพราะฤทธิ์ของสุราที่เขาดื่มมันหนักทุกวัน เช้าวันนี้เขาไปทำงานไม่ไหว จึงได้แต่ตอนอยู่บนเตียง ข้าวปลาก็ไม่กิน เพราะไม่มีแรงพอที่จะลุกไปทำหรือซื้อ จึงได้แต่หลับตาและหลับไปแบบนั้น ความล้มเหลวในชีวิตรักไม่ได้ทำให้ไมค์โตขึ้นเลย เขายังทำให้ทุกอย่างมันแย่ลงไปกว่าเดิม เมื่อร่างกายเริ่มสร่างเมา ไมค์ตั้งใจจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อโทรหาลูกน้องที่ทำงาน แต่เขากลับเปิดไปเจอโฆษณาชิ้นใหม่ของบริษัทของมาตา ที่กำลังถูกแชร์มากในโลกโซเชียลตอนนี้ เรื่องราวของโฆษณาบอกเล่า ถึงเด็กมัธยมคนหนึ่งที่ได้รับความช่วยเหลือจากชายหนุ่มที่เธอไม่เคยรู้จัก จนวันหนึ่งเธอมีโอกาสได้เจอเขาและแอบชอบเขามาตลอด จนเธอทำงานเธอกับเขามีโอกาสได้ใกล้ชิดกัน โดยที่ผู้ชายคนนั้นจำเธอไม่ได้ ทั้งคู่เกิดพลาดพลั้งมีอะไรกัน หญิงสาวตัดสินใจเดินออกมาจากชีวิตของชายหนุ่ม เพราะคิดว่าทุกอย่างเกิดจากความผิดพลาดไม่ใช่ความรัก ส่วนชายหนุ่มคนนั้นก็เอาแต่เฝ้ารอการกลับมาของเธอ โดยที่ไม่คิดจะทำอะไร จนในที่สุดบริษัทของมาตาก็เข้ามาช่วยให้ทั้งคู่ได้รู้หัวใจตัวเอ
11ครอบครัว “เหม็นกลิ่นความรักจัง” ชะอมแซวเจ้านายที่เธอรักไม่ต่างจากพี่สาวแท้ๆ พนักงานคนอื่นก็พากันยิ้มตาม “ให้พี่มีบ้างเถอะ เดี๋ยวจะขึ้นคานเอา” มาตาคิดมาตลอดว่าคงไม่มีผู้ชายคนไหนมาทำให้เธอหลงรักได้เหมือนผู้ชายที่ให้ทุนเธอ และสุดท้ายมันก็เกิดขึ้นจริงๆ “รักก็รุ่ง งานก็เยอะมากค่ะเจ้านาย ตอนนี้ชะอมอยากจะแยกร่างได้อยู่แล้ว” ตั้งแต่บริษัทของเธอปล่อยโฆษณาชุดนั้นไป กระแสตอบรับดีมาก กลุ่มลูกค้ามีตั้งแต่วัยรุ่น วัยทำงาน และอายุเกินหกสิบไปแล้วก็ยังมี “โบนัสก็จะงอกงามตามมานะชะอมคนสวย” หญิงสาวไม่เคยเอาเปรียบพนักงาน เรียกได้ว่าดูแลทุกคนเหมือนพี่น้อง กับข้าวเวลาทำงานมืดก็มีของในตู้เย็นให้ทำกินกัน มาตาจะคอยซื้อมาเติมให้ตลอด “โบนัส คำสั้นๆที่สร้างพลังอันยิ่งใหญ่” พนักงานทุกคนพากันหัวเราะให้กับคำพูดของชะอม ที่ถึงแม้ฟังดูตลกแต่มันก็คือความจริง “พี่มาตาคะ วันนี้มีลูกค้าจะเข้ามาพบเพื่อขอบคุณที่ทางเราทำงานได้สำเร็จ อีกไม่น่าจะเกินสิบห้านาที น่าจะมาถึงค่ะ” “ถ้ามาถึงก็ให้เข้ามาหาพี่เลยนะ”
12ข่าวใหม่ “เดี๋ยวนี้เจ้านายเรามาสายทุกวันเลยนะ ไม่รู้ว่ากลางวันมัวทำอะไรอยู่” ชะอมนำพนักงานคนอื่นแซวเจ้านายแต่เช้า เพราะรู้ว่ากำลังเป็นข้าวใหม่ปลามันกัน “ก็บ้านมันอยู่ออกไปนอกเมือง จะให้มาถึงแต่เช้าเหมือนพวกที่อยู่ข้างๆบริษัทได้อย่างไรล่ะ” มาตาหาเหตุผลมาแก้อาย เพราะเขารู้ว่าทุกคนกำลังคิดอะไรอยู่ งานมากมายวางสุมอยู่บนโต๊ะ หลายงานก็รอจัดการเรื่องค่าจ้าง บางรายการก็เพิ่งเสนอมา รอมาตาตัดสินใจว่าจะรับงานไหม “พี่มาตา พี่รู้ข่าวเด็ดหรือยัง” ชะอมเปิดประตูห้องเข้ามา โดยที่ไม่ทันได้เคาะประตู เพราะรู้สึกตื่นเต้นกับข่าวที่เธอได้ยินมาจากเพื่อนในวงการไฮโซ “ข่าวอะไร ดูทำเข้า เปิดประตูเข้ามาไม่ให้ซุ่มให้เสียง พี่ก็ตกใจหมด ทำอย่างกับมีข่าวใหญ่โตระดับประเทศ” มาตาส่ายหัว เพราะคิดว่าคงไม่ได้มีอะไรน่าตื่นเต้น ที่เกี่ยวกับตัวเธอหรือบริษัท คงเป็นเรื่องของชาวบ้านที่ชะอมชอบติดตามมากกว่า “ข่าวนี้รับรองพี่มาตา อาจจะตื่นเต้นตกใจกว่าชะอมอีก” “มีอะไรก็พูดมา ไม่ต้องมาเล่นลิ้นทำให้พี่อยากรู้” มาต
13ลูกค้าคนสำคัญ “พรุ่งนี้เราไปตรวจกันนะ ตอนเย็นเดี๋ยวผมไปรับที่ทำงาน” ไมค์ตื่นเต้นจนแทบอยากจะพาภรรยาไปตรวจตอนนี้ แต่มันดึกแล้วคงไม่มีที่ไหนเปิดให้ตรวจแน่ๆ ร้ายขายยาก็คงจะปิดหมดถ้าจะซื้อมาตรวจเอง “คุณอย่าคาดหวังแบบนี้สิคะ มันทำให้ฉันยิ่งกลัว กลัวว่าถ้าไม่ได้ท้องขึ้นมาคุณจะเสียใจ” มาตารู้สึกตัวเองกำลังต้องรับผิดชอบความหวังของสามี มันยิ่งทำให้เธอรู้สึกแย่เข้าไปอีก “อย่าคิดมาก ถ้าลูกยังไม่มา เราก็ทำกันใหม่ ยังมีเวลาอีกหลายปี คุณก็ยังอายุน้อยอยู่ ไม่ต้องกลัวว่าผมจะผิดหวัง ช่วงนี้คุณชอบคิดมากรู้ตัวไหม” มาตาไม่ตอบ แต่พยายามฉีกยิ้มให้คนที่กำลังโอบไหล่เธอไว้รู้สึกสบายใจ “นอนกันเถอะ ผมว่าจะพยายามลดการทำงานลง อยากมีเวลาให้คุณมากกว่านี้ ต่อไปวันเสาร์ผมจะเลิกครึ่งวันและวันอาทิตย์จะหยุดอยู่กับบ้าน แล้วคุณล่ะต้องไปทำงานทุกวันไหม” มาตาเข้าใจ ว่าทำไมไมค์ถึงต้องการลดการทำงาน เพราะเขากลัวชีวิตครอบครัวจะต้องล้มเหลวเหมือนครั้งที่อยู่กับเพียงใจอีก “ได้ค่ะ แต่อาจจะไม่ใช่ทุกเสาร์ ไว้เสาร์ไหนฉันไม่ได้หยุด คุณก็อยู่บ้านทำง
14หนักแน่น “เก็บเงินของคุณไว้เถอะค่ะ ใช่ฉันเคยทำลายครอบครัวของคุณไมค์ แต่มันก็ช่วยให้เขาเลิกโง่ไม่ต้องโดนสวมเขา ส่วนคุณก็ไม่ต้องคอยเป็นเมียน้อยใคร” เมื่อมาตาเริ่มโมโห สติก็เริ่มกลับมา เธอคิดว่าเธอผิดก็จริงแต่เพียงใจก็มีส่วนกับความผิดของเรื่องทั้งหมดด้วยเหมือนกัน “ไม่อยากรับงานก็ไม่ต้องรับ ฉันก็มาจ้างไปอย่างนั้นแหละ เพราะแค่ฉันกลับไปหาไมค์ ไม่มีทางที่เขาจะไม่ทิ้ง อีผู้หญิงคนนั้นแล้วรีบกลับมาหาฉันแน่ๆ” “คุณคิดเข้าข้างตัวเองมากไปหรือเปล่าครับ ภรรยาคุณอรรถ” เพียงใจยังไม่ทันพูดจบจบ ก็มีเสียงที่ทั้งเพียงใจและมาตาต่างคุ้นเคย ดังขึ้นมาหลังจากประตูที่ถูกเปิดออก “ไมค์คุณมาที่นี่ได้ยังไง” เพียงใจถามด้วยความตกใจ “ผมสิต้องถามว่าคุณมาทำไมเพียงใจ ส่วนผมก็มารับภรรยาของผม” ชายหนุ่มเดินมาโอบกอดมาตาด้วยรอยยิ้ม แบบคนที่กำลังรู้สึกว่าชนะ “ไมค์คุณหมายความว่าอะไร” เพียงใจถามด้วยเสียงที่เหมือนคนกำลังจะหมดแรง “ผมมารับมาตา ภรรยาที่ถูกต้องทางกฎหมายของผม” คำตอบที่ชัดเจน จนคนฟังไม่สามารถจะแปลความหมายเป็นอ