1
เพราะเธอมันร้าย
การหย่าครั้งนี้ทำชีวิตทั้งชีวิตของชายหนุ่มพัง ไมค์เริ่มต้นชีวิตแต่งงานกับเพียงใจ ตอนนั้นเขามีแค่ตัวกับหัวใจเพียงเท่านั้น
วันนี้วันที่เขาต้องยอมเซ็นใบหย่า ให้ผู้หญิงที่เขาพยายามสร้างทุกสิ่งทุกอย่างมาเพื่อเธอ บ้าน รถ ที่ดิน และเงินในบัญชีมากมาย เพียงใจกลับไม่เรียกร้องขอสิ่งเหล่านั้น เธอกลับต้องการเพียงแค่อิสระเท่านั้น
ชายหนุ่มนั่งมองใบหย่าและกำลังคิดว่าใครคือคนผิดในเรื่องนี้ สิ่งที่เขาได้รู้มา คือเพียงใจว่าจ้างบริษัทหนึ่งเพื่อหาข้อมูล ข้อบกพร่องของเขา มาใช้ในการขอหย่า และเป็นการหย่าแบบที่ไม่เรียกร้องอะไรทั้งสิ้น
“เจ้าของบริษัทบ้าๆที่มันชอบทำให้ครอบครัวคนอื่นแตกแยกมันต้องรับผิดชอบ”
ไมค์กำมือทั้งสองข้างแน่น เมื่อเขาบอกกับตัวเองได้ ว่าใครคือคนผิด เขาก็คิดที่จะหาทางเอาคืนให้สาสมทันที
“พี่มาตามีลูกค้าเขาขอนัดคุยกับพี่ด่วน แต่เขาให้พี่ออกไปเจอเขานะ เพราะเขาบอกแต่เพียงว่าเป็นคนดังไม่อยากให้เรื่องนี้มีใครรู้มาก เขาโอนเงินมาเพื่อยืนยันว่าเขามีตัวตนหนึ่งแสนบาท แต่ชื่อที่โอนก็เป็นเพียงชื่อพนักงานทั่วไป ไม่ได้มีชื่อเสียงอะไร”
ชะอมเลขาคนสนิทรายงานเจ้านาย จริงๆก็ไม่ใช่ครั้งแรก ที่ลูกค้าเลือกที่จะไม่เปิดเผยตัว ยอมจ่ายแพงและเลือกให้มาตาเป็นคนทำงานเพียงคนเดียว
“ตกลง เอาที่อยู่ที่นัดหมายมา พี่รับงาน”
มาตาหญิงสาวผู้มีความมั่นใจในตัวเองสูง เธอเลือกที่จะก่อตั้งบริษัทนี้ขึ้นมา เพราะเธอต้องเสียแม่ไปจากการที่พ่อกับแม่ของเธอหมดรักต่อกันแล้ว พ่อกลับไม่ยอมหย่า แต่ทำร้ายหัวใจและร่างกายของแม่ทุกอย่าง ด้วยความรู้ในเรื่องกฎหมายที่น้อย แม่ของเธอ หาทางออกในชีวิตไม่ได้ จึงตัดสินใจฆ่าตัวตาย หลังจากที่ส่งเธอไปเรียนโรงเรียนประจำ
สถานที่นัดหมายเป็นบริเวณสวนสาธารณะนอกเมือง ที่ตอนนี้แทบไม่มีผู้คนแล้ว จะมีก็แต่แสงไฟจากบริเวณที่ยังมีคนออกกำลังกายอยู่ แต่มันไม่ใช่ตรงที่เขานัดเธอ เขานักเธอในบริเวณที่มืดและไม่มีผู้คนเลย
มาตานั่งกดโทรศัพท์เพื่อรอเวลาที่ลูกค้านัด เพราะเธอมาก่อนเวลานัดเสมอ แต่อยู่ดี ๆ เธอก็รู้สึกว่าทุกอย่างดับวูบลง
“ตื่นแล้วเหรอแม่สาวน้อยจอมทำลายครอบครัวคนอื่น”
ยังไม่ทันที่มาตาจะรู้สึกตัว ว่าเธอกำลังอยู่ที่ไหน ก็มีเสียงจากใครบางคนกำลังพูดอยู่ข้างๆเธอ
“คุณเป็นใคร”
หญิงสาวถามออกไปเพราะยังคงรู้สึกมึนงงจากฤทธิ์ของบางสิ่งที่ชายหนุ่มใช้เพื่อให้เธอไม่รู้สึกตัว เพื่อพาเธอมาที่นี่ ที่ที่เขาเตรียมไว้
“ลองมองหน้าผมให้ชัดๆ คุณไม่รู้จักผมจริงๆเหรอครับ คุณมาตา....”
ชายหนุ่มมัดมือทั้งสองข้างไว้ด้านหน้าและจับมาตานอนราบอยู่บนที่นอนขนาดใหญ่ โดยมีเขานั่งอยู่ข้างๆและคอยพูดทำเสียงที่ฟังแล้วชวนขนหัวลุก
“ไมค์ คุณคือคุณไมค์” เมื่อสติเริ่มมาหญิงสาวก็จำผู้ชายตรงหน้าได้
“ในเมื่อคุณจำชื่อผมได้ คุณก็คงจำได้ว่าทำอะไรไว้กับผมบ้าง”
จากเสียงยานเยือกเย็น เปลี่ยนเป็นเสียงดัง ดุดันขึ้นทันที เมื่อไมค์รู้ว่าคนที่กำลังนอนอยู่จำได้ว่าเขาคือใคร
“ฉันไปทำอะไรให้คุณ ภรรยาของคุณต่างหากที่มาจ้างฉันเพราะเขาไม่ได้รักคุณแล้ว” หญิงสาวตะคอกกลับ
“แต่ถ้าไม่มีคุณ เราก็จะไม่หย่ากัน และไม่นานผมก็จะทำให้เธอกลับมารักผมได้”
“คุณมันหลอกตัวเอง โง่จนไม่รู้จะเอาไปเปรียบเทียบกับอะไรแล้ว”
สิ้นเสียงมาตาก็โดนชายหนุ่มเอาผ้าห่มปิดปากปิดจมูกเธออย่างลืมตัวด้วยความโมโห ก่อนที่เขาจะยั้งมือไม่เผลอเป็นฆาตกรฆ่าคนตายไป
แค๊ก แค๊ก
มาตาสำลักเพราะเธอหายใจไม่ออก จนคิดว่าตัวเองคงต้องตายแล้วแน่ๆ
“คุณไมค์ฟังฉันนะ ฉันไม่ได้ทำลายชีวิตครอบครัวคุณ แต่ฉันช่วยให้คุณไม่ต้องโดนเมียสวมเขา คุณเพียงใจเขามีคนอื่นมานาน นานจนคุณเองกลายเป็นคนโง่ให้เขาหลอกมาเป็นปีแล้ว”
เมื่อรู้ว่าชีวิตที่ใกล้ความตายเป็นอย่างไรกัน มาตาก็เปลี่ยนน้ำเสียง ให้ดูนุ่มนวลเพื่อหวังให้ชายหนุ่มใจเย็นลงบ้าง
“ใช่ เพียงใจเขามีชู้ แต่ผมก็มีส่วนผิด ผมพร้อมจะให้อภัยและเริ่มต้นใหม่กับเขาเสมอ ถ้าคุณไม่เข้ามาเกี่ยวเรื่องนี้”
ไม่มีประโยชน์ที่จะพูดหรืออธิบายอะไรตอนนี้ เพราะไมค์พกแต่ความแค้น ชิงชัง และตัดสินแล้ว ว่าเรื่องนี้คนที่ผิดคือมาตา
“ตอนนี้คุณพาฉันมาที่ไหน”
เมื่อพูดเรื่องใครถูกใครผิด ดูแล้วชีวิตของเธอจะเสี่ยงมาก หญิงสาวจึงเลือกที่จะเปลี่ยนเรื่องพูดก่อน
“คุณไม่ต้องรู้หรอก คุณรู้แค่เพียงข้างนอกมีแต่ป่า ที่ที่ปลอดภัยที่สุดก็คือในบ้านหลังนี้เท่านั้น อย่าได้พยายามคิดหนี เพราะข้างนอกมีอันตรายรอคุณอยู่ทุกที่”
เมื่อพูดจบชายหนุ่มก็เดินออกจากประตูห้องนอนไป ทิ้งให้หญิงสาวรู้สึกกลัวกลับภาพที่เขาสร้างไว้ให้เธอ
เมื่อถูกทิ้งให้อยู่คนเดียว มาตาก็พยายามดันตัวเองลุกจากที่นอน เพราะเขามัดเธอไว้แค่เพียงมือทั้งสองข้างเท่านั้น
คำพูดของเขาทำให้เธออยากเห็นว่าข้างนอกจะน่ากลัว เหมือนอย่างที่เขาบอกจริงไหม เธอจึงค่อยๆใช้มือที่ถูกมัดไว้เปิดม่านที่บังหน้าต่างอยู่
ภาพข้างนอกมีแต่ต้นไม้เต็มไปหมด แต่รอบๆบ้านมีรั้วที่ไม่สูงมากนักกั้นอยู่อีกที แสงไฟจากด้านนอกแทบจะไม่มี มีแต่แสงของพระจันทร์ที่พอจะทำให้หญิงสาวพอมองเห็นภาพข้างนอกได้
“เชื่อหรือยัง ว่ารอบๆมีแต่ป่า บ้านหลังนี้ผมซื้อต่อเขามาอีกที เจ้าของเก่าเขาโดนฆ่าตาย ลูกสาวเลยขายให้ผมถูกๆ”
นอกจากจะให้กลัวเรื่องป่า เขายังจะมาทำให้เธอต้องกลัวเรื่องผีอีก มาตารู้สึกเหมือนตัวเองกำลังอยู่กับคนโรคจิต
“ยื่นมือมา” ไมค์แก้มัดที่มือ
“คุณพาฉันมาที่นี่ทำไม” หญิงสาวอยากรู้ว่าเขาต้องการอะไรจากเธอ
“กินข้าวไป แล้วยังไม่ต้องอยากรู้อะไรทั้งนั้น ถ้ายังอยากหายใจต่อ”
ก่อนจะยื่นจานข้าวให้ ชายหนุ่มก็ขู่จะฆ่าต่ออีก มาตาอยากจะกรี๊ดให้ลั่นบ้าน เพราะไม่เคยต้องยอมเงียบอะไรแบบนี้เลยตั้งแต่เกิดมา แต่รู้ว่าตอนนี้ เธอยังไม่มีสิทธิ์ทำ จึงได้แต่เก็บกดไว้ในใจ
2ชู้รัก****6เดือนที่แล้ว**** “ใจเย็นๆสิคะอรรถ ทำเป็นใจร้อนไปได้”เสียงหวานของเพียงใจยิ่งฟังยิ่งทำให้คนที่ซุกไซ้ซอกคอเธออยู่แทบบจะอดใจไม่ไหว“ผมหิวคุณไปทั้งตัวแล้วนะ จะให้ผมรออะไรอีกล่ะ”เจ้านายหุ่นล่ำบึกเสียงสั่นเพราะหัวใจมันกำลังเรียกร้อง หญิงสาวตรงหน้า“แหม...ก็แค่รอให้เปิดประตูห้องก่อนไม่ไหวเลยเหรอคะ”เพียงใจต้องพูดเตือนสติ เพระตอนนี้ทั้งเขาและเธอต่างก็มีครอบครัวแล้ว และตอนนี้ทั้งคู่ก็รู้จักกันในฐานะเจ้านายและลูกน้องเท่านั้น“ผมก็ลืมไปเลย เห็นหน้าคุณทีไร หัวใจมันทนไม่ไหวทุกที”“หัวใจหรืออะไรคะที่ทนไม่ไหว”เมื่อประตูห้องถูกเปิด เลขาสาวในชุดกระโปรงสั้นสีแดง ก็ถูกผลักลงบนเตียงทันที“ใจคอจะไม่ให้เพียงใจได้อาบน้ำก่อนเลยเหรอคะ”หญิงสาวรู้สึกไม่มั่นใจ เพราะเธอนั่งรถมาทั้งวันกว่าจะมาถึงที่ทะเล“ไม่ไหวล่ะ เอาตอนนี้ก่อน แล้วเดี๋ยว เราค่อยไปต่อในห้องน้ำกัน”อรรถพลตอนนี้ก็เปรียบได้กับเสือที่กำลังหิว และเหยื่อก็อยู่ตรงหน้า ถ้าขืนปล่อยให้หลุดมือไป คงไม่ใช่เสือผู้หญิงอย่างเขาแน่นอนเสื้อผ้าในชุดสีแดงทั้งตัวของเลขาสาว ถูกถอดออกกองไว้ที่ปลายเตียงนอน แม้แต่ชุดชั้นในตัวจิ๋ว ก็ถูกก
3ทำหน้าที่แทนภรรยา***ปัจจุบัน***หลังจากที่พยายามกลืนข้าวที่ชายหนุ่มเอามาให้ ลงท้องให้ได้มากที่สุดเพื่อจะมีแรงถ้าหากเธอพอมีทางที่จะหนีได้ “อร่อยใช่ไหม กินเกือบหมดเลย พรุ่งนี้จะได้ทำให้กินอีก เมนูนี้เพียงใจเขาชอบมากๆเลยนะ แต่ช่วงหลังผมยุ่งกับงาน จนไม่ได้ทำให้เธอกินเลย” เวลาที่ไมค์พูดกับเธอดีๆ มาตาฟังทีไรกลับรู้สึกสงสาร เพราะเสียงของเขามีความเศร้าปนอยู่ในนั้น เธอสัมผัสได้ “แล้วคุณกินข้าวหรือยัง”มาตาอดเป็นห่วงชายหนุ่มไม่ได้ เพราะเขาดูเหมือนคนไม่ได้กินไม่ได้นอนมาหลายวัน“ผมกินไปเมื่อกลางวันแล้ว มันกินไม่ลง คุณไม่ต้องเป็นห่วงว่าผมจะตายแล้วไม่มีใครพาคุณออกไปจากที่นี่หรอก”มาตาได้แต่มองหน้าชายหนุ่มที่ครั้งหนึ่งเขาคงเคยหล่อและดูดีเอามาก ๆ แต่ตอนนี้ใบหน้าของเขาหมองคล้ำ หนวดก็ขึ้นเต็มไปหมด เหมือนคนที่ไม่ดูแลตัวเอง“เสื้อผ้า ของเครื่องใช้สำหรับผู้หญิง ผมเอาของเพียงใจเอามาไว้ให้คุณใช้แทนแล้ว”“ของแบบนี้ใครเขาใช้ร่วมกัน” มาตาส่ายหัวไม่ยอมใช้ของที่ไมค์บอกว่ามันเคยเป็นของเพียงใจมาก่อน“คุณอยากรู้นักใช่ไหม ว่าผมจับคุณมาที่นี่เพื่ออะไร ก็เพื่อให้คุณทำทุกอย่างแทนที่เพียง
4ตัวแทน “ตื่นแล้วไปทำกับข้าวให้ผมกินด้วย เพียงใจเขาทำอะไรก็อร่อย” ชายหนุ่มในสภาพที่ยังไม่ได้ใส่เสื้อผ้า ออกปากสั่งผู้หญิงที่เขาจับตัวมา โดยที่ไม่แม้แต่จะหันมามองหน้าด้วยซ้ำไป มาตาจัดการใส่เสื้อผ้าของตัวเองให้เรียบร้อย น้ำตามันไหลไปตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงเช้านี้ หญิงสาวเลือกที่จะยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้ว ว่ามันกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้ ในครัวมีอุปกรณ์พร้อม ในตู้เย็นก็มีเนื้อสัตว์และผัก เพียงพอกับการทำอาหารได้อีกหลายมื้อ มาตาพยายามคิดว่าเธอสามารถทำกับข้าวอะไรเป็นบ้าง เพราะปกติเธอก็ใช้ชีวิตแบบคนสมัยใหม่ซื้อกินเอา “กับข้าวอะไร รูปร่างไม่ได้น่ากินเลย” ไมค์มองกลับข้าวบนโต๊ะที่หญิงสาวจัดวางไว้บนโต๊ะอาหาร ด้วยสายตาตำหนิ “ฉันทำได้แค่นี้แหละค่ะ” มาตาตอบห้วนๆ “ตอนเด็กๆ พ่อแม่ของเธอคงไม่เคยสอนเลยมั้ง โตมาถึงได้ทำอะไรไม่เป็น” ชายหนุ่มเริ่มลามไปถึงพ่อกับแม่ของเธอ “แม่ของฉันฆ่าตัวตายตั้งแต่ฉันยังไม่โตและพ่อก็แต่งงานใหม่ ส่วนมากฉันใช้ชีวิตอยู่คนเดียว” คำตอบของหญิงสาวทำให้ไมค์คิดถึงเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ที่เ
5ผู้ชายที่แสนร้าย คืนนี้มาตายกเอาผ้าห่มกับหมอนมานอน ที่พื้นข้างๆโซฟา เพื่ออยู่เป็นเพื่อนคนเมา เพราะถ้าจะให้เธอลากเขาเข้าไปห้องนอนไม่ไหวแน่ สภาพของไมค์ตอนนี้ ช่างแตกต่างจากชายหนุ่มในวันที่มาตายังเรียนอยู่ชั้นมัธยมและเธอก็แอบปลื้มเขา ในวันที่เขาติดต่อผ่านมาทางครูของเธอเพื่อช่วยเหลือเรื่องทุนการศึกษา ตอนที่หญิงสาวเรียนจบ เธออยากไปขอบคุณเขา แต่ชายหนุ่มเองบอกข้อตกลงไว้ตั้งแต่เริ่มแรกว่า เขาไม่ต้องการทำความรู้จักกับเด็กที่เขาให้ทุน เพราะต้องการช่วยเหลือแบบไม่หวังสิ่งตอบแทน “หิวน้ำขอน้ำหน่อย” หญิงสาวสะดุ้งลุกขึ้นทันที เมื่อได้ยินคนเมาร้องขอน้ำ แต่เขาไม่ยอมลุกหญิงสาวจึงค่อยปล้อนให้ แต่ด้วยความไม่ถนัด น้ำจึงหกรดเสื้อผ้า ไมค์โมโหคว้าแก้วได้ ขว้างกระแทกกำแพงจนแตก เพล้ง! แก้วแตกกระจาย หญิงสาวมองหน้าคนที่อยู่ในอ้อมแขนเธอมาตาปลอยแขนออกทันที จนศีรษะของชายหนุ่มกระแทกลงกับขอบโซฟา “โอ๊ะ! อีคนชอบทำลายครอบครัวคนอื่นเขา ไป!อยากไปไหนก็ไป” ไมค์ชี้ไม้ชี้มือไล่มาตา โดยที่ตัวเองยังลืมตาแทบไม่ขึ้น ความอดทนของหญิงสาวถึงที่สุ
6กลัว เกือบมืดแล้วแต่ไมค์ก็ยังไม่กลับมา มาตาไม่กล้าแม้แต่จะเปิดไฟ เพราะกลัวจะทำให้พวกโจรรู้ว่ามีคนอยู่ในบ้าน “มาตา” เสียงเรีกชื่อดังมาพร้อมกับเสียงไขกุญแจ หญิงสาวจำน้ำเสียงได้ดี เธอรีบลุกจากข้างหน้าต่าง โผเข้ากอดเจ้าของเสียงด้วยความดีใจ “เป็นอะไร แล้วทำไมไม่เปิดไฟ นั่งอยู่มืดๆไม่กลัวหรือไงกัน” ชายหนุ่มโอบเอวหญิงสาวแล้วค่อยๆพาเธอเดินเปิดไฟในห้องรับแขก “เกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงได้กลัวแบบนี้” ไมค์ถามด้วยสีหน้าเหมือนคนที่กำลังกลั้นเสียงหัวเราะไว้ เพราะกลัวคนเล่าจะโมโหเอา มาตาเล่าเรื่องที่เธอได้ยิน เมื่อไมค์ออกไปทำงานได้ไม่ถึงชั่วโมง โดยที่หญิงสาวลืมไป ว่าชายหนุ่มก็จะรู้ว่าเธอกำลังคิดจะหนีไปจากที่นี่ “แล้วคุณออกไปทำอะไรที่กำแพง” ไมค์ทำเสียงเข้ม “ฉันก็แค่ออกไปเดินเล่น” มาตาหลบตาทันที “ก็ผมบอกแล้วไม่ใช่หรือไง ว่าห้ามออกจากบ้านเลย เห็นไหมแถวนี้มันมีแต่พวกโจรป่า ถ้าคุณโดนพวกมันจับ รับรองมีผัวพร้อมกันเป็นสิบแน่ๆ” ไมค์ลุกขึ้นจากโซฟาทันที เพราะกลัวจะกลั้นเสียงหัวเราะไว้ไม่ไหว เมื่อเ
7ความเฉยชา เช้านี้เขาไม่ได้ออกไปทำงาน มาตาตั้งใจจะทำกับข้าวให้เขากินสุดฝีมือ “กับข้าวเสร็จแล้วค่ะ”แม่ครัวคนสวยออกไปตามชายหนุ่มที่กำลังนอนอ่านหนังสืออยู่ที่ห้องรับแขกไม่มีเสียงตอบ แต่ไมค์ก็ลุกมานั่งที่โต๊ะอาหารตามปกติ โดยที่ไม่ยอมพูดอะไรหว่างที่นั่งกินอาหารกันมาตารู้สึกอึดอัดจากที่ตั้งใจ จะทำกินข้าวให้อร่อย แต่กลับเป็นว่าเธอแทบจะกลืนไม่เข้าสักคำ“อิ่มแล้วเหรอคะ” หญิงสาวถามเมื่อเห็นคนนั่งตรงข้างรวบช้อน“อืม”คำตอบที่ดูเหมือนไม่อยากตอบ มาตาก็สุดที่จะหาวิธีง้อแล้ว เธอจึงได้แต่อิ่มตาม เพราะไม่มีอารมณ์ที่จะนั่งกินแล้ววันนี้ทั้งวันทั้งสองคน ต่างอยู่กันคนละมุมบ้าน มาตาเองก็ไม่อยากเห็นเขาทำหน้าเฉยชาใส่เธอ ส่วนไมค์เองก็คงยังไม่อยากเห็นหน้าเธออาหารค่ำกลายเป็นไมค์เข้าครัวเป็นคนทำเอง เขาจัดโต๊ะที่เขาเคยใช้นั่งดื่ม ให้เป็นโต๊ะอาหาร ตกแต่งด้วยดอกไม้ มาตาก็ทำได้แค่แอบมองเพราะไม่กล้าเข้าไปยุ่งท้องฟ้าเริ่มมืด ชายหนุ่มเดินเข้ามาที่ห้องนอน และยื่นถุงกระดาษใบใหญ่ที่ในนั้นมีเสื้อผ้าอยู่ให้มาตา“ชอบตัวไหนก็ใส่แล้วออกมากินข้าว คิดว่าคงเลือกชุดที่สวยที่สุด เพราะวันนี้ผมอยากกินข้าวกั
8อิสระที่ลำบากใจ ไมค์ขับรถไปส่งมาตาที่ทำงาน เพราะคิดว่าการหายไปของเธอหลายวันแบบนี้ที่ทำงานของเธอคงกำลังต้องการตัวเธอแน่ๆ “พี่มาตาพี่กลับมาแล้ว พวกเราทุกคนตัดสินไม่ถูกเลยว่าจะแจ้งความดีไหม ถึงแม้พี่จะส่งข้อความมาแล้ว” ชะอมเลขาคนสนิทวิ่งเข้ามากอดเจ้านาน ที่เปรียบเป็นเสมือนพี่สาวของเธอ “พี่มีเรื่องไม่ค่อยสบาย เลยอยากหลบไปอยู่คนเดียวเงียบๆสักพัก ตอนนี้พร้อมลุยงานต่อแล้ว” มาตาลูบผมลูกน้องคนสนิทอย่างเอ็นดู เพราะทั้งคู่รู้จักกันมาตั้งแต่ยังไม่ได้เปิดบริษัทนี้ จึงรู้ใจกันมากที่สุด “เรื่องงานเราจัดการได้เรียบร้อย แต่เราตัดสินไม่รับงานใหม่ เพราะตั้งใจจะรอพี่กลับมาก่อน” ชะอมรายงานเรื่องราวระหว่างที่เจ้านายไม่อยู่ “บ่ายนี้เรียกประชุมพนักงานทุกคนให้พี่หน่อย เรื่องสำคัญมาก ห้ามใครไม่เข้าเด็ดขาด” มาตารีบเข้าห้องทำงานและเก็บตัวเองอยู่แต่ในห้องห้ามใครเข้าไปรบกวน เพื่อเตรียมข้อมูลในการประชุมครั้งนี้ ทุกคนในบริษัทต่างคิดว่า พวกเขาคงกำลังจะโดนเลิกจ้างแน่ๆ เพราะเจ้านายของเธอทิ้งบริษัทไปหลายวัน พอกลับมาก็เรียกประชุมใ
9เมื่อไม่ได้ยินเสียงของหัวใจ เช้านี้มาตาต้องเริ่มต้นกับการวางแผนงานใหม่ทั้งหมด ทั้งวันเธอวุ่นวายจนไม่มีเวลาว่างพอที่จะมาคิดเรื่องของตัวเอง มันทำให้เธอสบายใจไปได้ชั่วขณะหนึ่ง “พี่มาตาเราต้องทำแผนโฆษณากันใหม่ทั้งหมด เดี๋ยวชะอมจะให้นักศึกษาทำแล้วเอามาให้พี่ดูนะ” “ชะอมให้น้องเขามาคุยกับพี่นะ” มาตาตั้งใจจะเป็นคนวางพล็อตโฆษณาเอง โดยที่ให้น้องนักศึกษาเป็นคนจัดการเรื่องกระบวนการทำ ช่วงบ่ายหญิงสาวต้องออกไปพบลูกค้ารายเก่าเพื่อรับเงินค่าจ้าง ซึ่งสถานที่นัดพบอยู่ใกล้กับบ้านที่เธอเคยถูกไมค์จับไปขังไว้มาตาจึงตั้งใจที่แวะเข้าไปเพื่อไปฟังเสียงหัวใจตัวเอง หญิงสาวมองรอบบ้านทันทีที่เธอมาถึง ไม่มีป่าลึกเกมือนอย่างที่เขาโกหก มีแค่เพียงป่าต้นก้ามปู ที่เขาปลูกล้อมบ้านไว้เกือบห้าสิบต้น มาตาคิดถึงคำขู่แล้วก็อดยิ้มไม่ได้ ถุงกับข้าวที่วางไว้บนโต๊ะคือสิ่งแรกที่หญิงสาวเห็นทันที ที่เข้าไปถึง มาตาหยิบแต่ละถุงขึ้นมาดู ตอนนี้ทุกถุงมันบูดหมดแล้ว “เมื่อคืนคุณมาที่นี่” หญิงสาวรู้สึกหัวใจวาบหวิวขึ้นมา เขามารอเธอ มาตาแอบเข้าข้างตัวเอ