4
ตัวแทน
“ตื่นแล้วไปทำกับข้าวให้ผมกินด้วย เพียงใจเขาทำอะไรก็อร่อย”
ชายหนุ่มในสภาพที่ยังไม่ได้ใส่เสื้อผ้า ออกปากสั่งผู้หญิงที่เขาจับตัวมา โดยที่ไม่แม้แต่จะหันมามองหน้าด้วยซ้ำไป
มาตาจัดการใส่เสื้อผ้าของตัวเองให้เรียบร้อย น้ำตามันไหลไปตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงเช้านี้ หญิงสาวเลือกที่จะยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้ว ว่ามันกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้
ในครัวมีอุปกรณ์พร้อม ในตู้เย็นก็มีเนื้อสัตว์และผัก เพียงพอกับการทำอาหารได้อีกหลายมื้อ มาตาพยายามคิดว่าเธอสามารถทำกับข้าวอะไรเป็นบ้าง เพราะปกติเธอก็ใช้ชีวิตแบบคนสมัยใหม่ซื้อกินเอา
“กับข้าวอะไร รูปร่างไม่ได้น่ากินเลย”
ไมค์มองกลับข้าวบนโต๊ะที่หญิงสาวจัดวางไว้บนโต๊ะอาหาร ด้วยสายตาตำหนิ
“ฉันทำได้แค่นี้แหละค่ะ” มาตาตอบห้วนๆ
“ตอนเด็กๆ พ่อแม่ของเธอคงไม่เคยสอนเลยมั้ง โตมาถึงได้ทำอะไรไม่เป็น” ชายหนุ่มเริ่มลามไปถึงพ่อกับแม่ของเธอ
“แม่ของฉันฆ่าตัวตายตั้งแต่ฉันยังไม่โตและพ่อก็แต่งงานใหม่ ส่วนมากฉันใช้ชีวิตอยู่คนเดียว”
คำตอบของหญิงสาวทำให้ไมค์คิดถึงเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ที่เขาเคยอุปถัมภ์เมื่อครั้งที่เขาเพิ่งเรียนจบใหม่ๆและยังไม่ได้แต่งงาน เธอคนนั้นก็มีชีวิตเหมือที่หญิงสาวเล่า
“มานั่งกินได้แล้ว เสร็จแล้วก็ไปซักผ้า แต่ที่นี่ไม่มีเครื่องซักผ้าให้หรอกนะ” ไมค์พูดด้วยน้ำเสียงเหมือนเจ้านายที่กำลังสั่งคนรับใช้
มาตาถือตะกร้าผ้า เดินไปหลังบ้าน เธอพยายามมองหาหนทางที่จะหนี แต่จากรั้วที่สูงและยังมีเหล็กแหลมล้อมรอบ ทำให้เธอได้แต่มองอย่างสิ้นหวัง
การซักผ้าด้วยมือไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเธอ เพราะตอนเด็กๆเธอก็ซักแบบนี้ ไม่มีอะไรเหลือในชีวิตตั้งแต่แม่ของเธอเสียไป
“ซักให้มันเร็วๆหน่อย เดี๋ยวแดดหมด เสื้อผ้าเหม็นพอดี”
ชายหนุ่มยังคงมายืนคุมเหมือนผู้คุมมายืนเฝ้านักโทษอย่างไรอย่างนั้น
ซักผ้า ล้างจานเสร็จ มาตาก็ไปกวาดบ้านถูบ้านต่อ หญิงสาวพยายามคิดว่าสิ่งที่เธอกำลังทำ คือการได้ตอบแทนบุญคุณที่ไมค์เคยช่วยเหลือ เพราะถ้าคิดว่าเขากำลังแก้แค้น ที่เธอทำให้เขาเสียภรรยาไป มาตาจะยิ่งทุกข์หนัก
“เป็นไงล่ะแม่ตัวดี ตอนนี้เพียงใจเขากำลังจะแต่งงานกับอรรถพล สมใจเธอแล้วสิ เงินมันซื้อเธอได้จริงๆ”
ไม่ใช่แค่คำพูดที่ใส่อารมณ์แต่เขากลับเดินมาคว้าตัวของหญิงสาวพร้อมกับกระชากแขนของเธอที่กำลังถูบ้านอยู่จนล้มลงไปกระแทกกับพื้น
“คุณจะทำอะไร”
มาตาทั้งเจ็บและตกใจ เมื่อถูกร่างหนาขึ้นคร่อมตัวเธอ และฉีกเสื้อของเธอออกจากัน
“ก็ชดใช้ ที่เธอทำทุกอย่างในชีวิตฉันพังหมด” ชายหนุ่มกัดฟันแน่นเมื่อคิดถึงข่าวที่เขาเพิ่งได้รับมา
“คนที่ทำชีวิตคุณพัง ก็คือตัวคุณเองดีแต่โทษคนอื่นแต่กลับไม่เคยโทษตัวเอง หน้าตัวเมียที่สุด”
เพี๊ย!
สิ้นคำด่าของหญิงสาว มือหนาก็ตบลงที่แก้มสีชมพูอย่างแรง ชายหนุ่มมองมือของตัวเองที่มันเผลอจนเขาควบคุมไม่ได้ที่ถูกเธอด่า
ความรู้สึกผิดมันเกิดขึ้นแค่เพียงวูบเดียว เพราะความเจ็บใจมันมีมากกว่า ชายหนุ่มจึงลงมือยัดเยียดความเป็นสามีให้หญิงสาวอีกครั้ง
มาตาได้แต่นอนหลับตาเพียงอย่างเดียว เพราะไม่รู้จะขัดขืนไปเพื่ออะไร เมื่อคืนเธอโดนข่มขืนบนเตียงแต่บ่ายนี้เธอโดนย่ำยีกลางพื้นบ้าน ยังโชคดีที่บ้านหลังนี้มีรั้วที่ปิดบังสายตาจากคนด้านนอกได้ ไม่อย่างนั้นเธอคงอับอายจนต้องแทรกแผ่นดินหนีแน่ๆถ้ามีใครมาเห็นเข้า
ไม่นานความขื่นขมในชีวิตก็ผ่านไปอีกหนึ่งครั้ง ต่างฝ่ายต่างแยกย้ายกันไปจัดการกับตัวเอง โดยไม่มีคำพูดใดๆออกจากปากของคนที่เพิ่งมีความสัมพันธ์กัน
‘มาตาเอ๋ย จะมีผัวกับเขาทั้งที ก็โดนทั้งข่มขืน ด่า ตบ’
หญิงสางมองหน้าแดงที่เพิ่งโดนตบมากับกระจก เธอเจ็บที่โดนตบแต่มันก็น้อยกว่าที่เธอต้องโดนบังคับให้นอนกับเขาแบบนี้
หมดแรงหมดใจ จนต้องนอนพักร่างอยู่แต่ในห้อง หญิงสาวมารู้สึกตัวอีกที ก็ใกล้เวลาอาหารเย็นแล้ว เธอจึงเปิดประตูเพื่อไปทำกับข้าว
ภาพที่เธอเห็นคือไมค์ยังคงนั่งอยู่ที่ระเบียงหน้าบ้าน มุมเดิมและดื่มเหล้าเหมือนเดิม มาตาได้แต่ถอนหายใจแต่ไม่อยากเข้าไปพูดอะไรอีกเพราะกลัวจะไปทำให้คนเมาโมโหเอาอีก
ห่างจากตัวบ้านออกไปไม่ถึงห้าร้อยเมตร บริเวณนั้นมีสัญญาณโทรศัพท์ เมื่อเช้าไมค์จึงยกคอมพิวเตอร์ไปนั่งทำงานตรงนั้น
ยังไม่ทันที่จะได้เริ่มงานเขาก็เจอกับข่าวการหมั้นของเพียงใจกับอรรถพล และอีกสองเดือนทั้งคู่กำลังจะแต่งงานกัน
ไมค์ยอมรับความจริงที่เกิดขึ้นแล้วไม่ได้ เขาต้องการระบายความโกรธนี้กับใครสักคน และมาตาก็คือคนที่เขาเลือก เพราะตอนนี้ชีวิตของเขานอกจากหญิงสาวแล้วเขาก็ไม่มีใครแล้ว
เหล้าที่เข้าปากแก้วต่อแก้ว ทำให้ชายหนุ่มล้มพับอยู่ที่โต๊ะ เพราะเมาจนไม่เหลือสติ หญิงสาวเดินมาหาเขาเพื่อหวังจะตามไปกินข้าวเย็น แต่กลับต้องแบกคนเมาเข้าไปนอนที่โซฟากลางบ้านแทน
“ทำร้ายคนอื่นไม่พอ ยังจะทำร้ายตัวเองอีก คุณจะโง่ไปถึงไหน”
ถึงแม้จะยังไม่หายโกรธที่เขาทั้งข่มขืนและตบเธอ แต่ด้วยความสงสาร มาตาจึงต้องหาผ้ามาเช็ดเนื้อเช็ดตัวคนเมา เปลี่ยนเสื้อผ้าให้ ตอนแรกหญิงสาวก็รู้สึกเขินอาย แต่พอนึกได้ ว่าเธอกับเขาก็เห็นกันมาหมดทุกอย่างแล้วจึงได้กล้าถอดเสื้อผ้าอีกฝ่ายออก
กับข้าวที่ทำไว้เธอต้องนั่งกินคนเดียว เพราะอีกฝ่ายเมาหลับไปแล้ว เวลาที่เขาอยู่ทะเลาะกับเธอมันก็ช่วยให้เธอไม่รู้สึกเหงา แต่พอเขาเมาหลับแบบนี้ มาตายิ่งรู้สึกคิดถึงบ้าน คิดถึงทุกคนในที่ทำงาน ตอนนี้บริษัทของเธอจะเป็นยังไง ทุกคนจะตามหาเธอกันไหม น้ำตาแห่งความอ่อนก็ไหลหล่นลงไปในจานข่าว ด้วยความอ่อนแอที่มันถาถมเข้ามาในหัวใจ
5ผู้ชายที่แสนร้าย คืนนี้มาตายกเอาผ้าห่มกับหมอนมานอน ที่พื้นข้างๆโซฟา เพื่ออยู่เป็นเพื่อนคนเมา เพราะถ้าจะให้เธอลากเขาเข้าไปห้องนอนไม่ไหวแน่ สภาพของไมค์ตอนนี้ ช่างแตกต่างจากชายหนุ่มในวันที่มาตายังเรียนอยู่ชั้นมัธยมและเธอก็แอบปลื้มเขา ในวันที่เขาติดต่อผ่านมาทางครูของเธอเพื่อช่วยเหลือเรื่องทุนการศึกษา ตอนที่หญิงสาวเรียนจบ เธออยากไปขอบคุณเขา แต่ชายหนุ่มเองบอกข้อตกลงไว้ตั้งแต่เริ่มแรกว่า เขาไม่ต้องการทำความรู้จักกับเด็กที่เขาให้ทุน เพราะต้องการช่วยเหลือแบบไม่หวังสิ่งตอบแทน “หิวน้ำขอน้ำหน่อย” หญิงสาวสะดุ้งลุกขึ้นทันที เมื่อได้ยินคนเมาร้องขอน้ำ แต่เขาไม่ยอมลุกหญิงสาวจึงค่อยปล้อนให้ แต่ด้วยความไม่ถนัด น้ำจึงหกรดเสื้อผ้า ไมค์โมโหคว้าแก้วได้ ขว้างกระแทกกำแพงจนแตก เพล้ง! แก้วแตกกระจาย หญิงสาวมองหน้าคนที่อยู่ในอ้อมแขนเธอมาตาปลอยแขนออกทันที จนศีรษะของชายหนุ่มกระแทกลงกับขอบโซฟา “โอ๊ะ! อีคนชอบทำลายครอบครัวคนอื่นเขา ไป!อยากไปไหนก็ไป” ไมค์ชี้ไม้ชี้มือไล่มาตา โดยที่ตัวเองยังลืมตาแทบไม่ขึ้น ความอดทนของหญิงสาวถึงที่สุ
6กลัว เกือบมืดแล้วแต่ไมค์ก็ยังไม่กลับมา มาตาไม่กล้าแม้แต่จะเปิดไฟ เพราะกลัวจะทำให้พวกโจรรู้ว่ามีคนอยู่ในบ้าน “มาตา” เสียงเรีกชื่อดังมาพร้อมกับเสียงไขกุญแจ หญิงสาวจำน้ำเสียงได้ดี เธอรีบลุกจากข้างหน้าต่าง โผเข้ากอดเจ้าของเสียงด้วยความดีใจ “เป็นอะไร แล้วทำไมไม่เปิดไฟ นั่งอยู่มืดๆไม่กลัวหรือไงกัน” ชายหนุ่มโอบเอวหญิงสาวแล้วค่อยๆพาเธอเดินเปิดไฟในห้องรับแขก “เกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงได้กลัวแบบนี้” ไมค์ถามด้วยสีหน้าเหมือนคนที่กำลังกลั้นเสียงหัวเราะไว้ เพราะกลัวคนเล่าจะโมโหเอา มาตาเล่าเรื่องที่เธอได้ยิน เมื่อไมค์ออกไปทำงานได้ไม่ถึงชั่วโมง โดยที่หญิงสาวลืมไป ว่าชายหนุ่มก็จะรู้ว่าเธอกำลังคิดจะหนีไปจากที่นี่ “แล้วคุณออกไปทำอะไรที่กำแพง” ไมค์ทำเสียงเข้ม “ฉันก็แค่ออกไปเดินเล่น” มาตาหลบตาทันที “ก็ผมบอกแล้วไม่ใช่หรือไง ว่าห้ามออกจากบ้านเลย เห็นไหมแถวนี้มันมีแต่พวกโจรป่า ถ้าคุณโดนพวกมันจับ รับรองมีผัวพร้อมกันเป็นสิบแน่ๆ” ไมค์ลุกขึ้นจากโซฟาทันที เพราะกลัวจะกลั้นเสียงหัวเราะไว้ไม่ไหว เมื่อเ
7ความเฉยชา เช้านี้เขาไม่ได้ออกไปทำงาน มาตาตั้งใจจะทำกับข้าวให้เขากินสุดฝีมือ “กับข้าวเสร็จแล้วค่ะ”แม่ครัวคนสวยออกไปตามชายหนุ่มที่กำลังนอนอ่านหนังสืออยู่ที่ห้องรับแขกไม่มีเสียงตอบ แต่ไมค์ก็ลุกมานั่งที่โต๊ะอาหารตามปกติ โดยที่ไม่ยอมพูดอะไรหว่างที่นั่งกินอาหารกันมาตารู้สึกอึดอัดจากที่ตั้งใจ จะทำกินข้าวให้อร่อย แต่กลับเป็นว่าเธอแทบจะกลืนไม่เข้าสักคำ“อิ่มแล้วเหรอคะ” หญิงสาวถามเมื่อเห็นคนนั่งตรงข้างรวบช้อน“อืม”คำตอบที่ดูเหมือนไม่อยากตอบ มาตาก็สุดที่จะหาวิธีง้อแล้ว เธอจึงได้แต่อิ่มตาม เพราะไม่มีอารมณ์ที่จะนั่งกินแล้ววันนี้ทั้งวันทั้งสองคน ต่างอยู่กันคนละมุมบ้าน มาตาเองก็ไม่อยากเห็นเขาทำหน้าเฉยชาใส่เธอ ส่วนไมค์เองก็คงยังไม่อยากเห็นหน้าเธออาหารค่ำกลายเป็นไมค์เข้าครัวเป็นคนทำเอง เขาจัดโต๊ะที่เขาเคยใช้นั่งดื่ม ให้เป็นโต๊ะอาหาร ตกแต่งด้วยดอกไม้ มาตาก็ทำได้แค่แอบมองเพราะไม่กล้าเข้าไปยุ่งท้องฟ้าเริ่มมืด ชายหนุ่มเดินเข้ามาที่ห้องนอน และยื่นถุงกระดาษใบใหญ่ที่ในนั้นมีเสื้อผ้าอยู่ให้มาตา“ชอบตัวไหนก็ใส่แล้วออกมากินข้าว คิดว่าคงเลือกชุดที่สวยที่สุด เพราะวันนี้ผมอยากกินข้าวกั
8อิสระที่ลำบากใจ ไมค์ขับรถไปส่งมาตาที่ทำงาน เพราะคิดว่าการหายไปของเธอหลายวันแบบนี้ที่ทำงานของเธอคงกำลังต้องการตัวเธอแน่ๆ “พี่มาตาพี่กลับมาแล้ว พวกเราทุกคนตัดสินไม่ถูกเลยว่าจะแจ้งความดีไหม ถึงแม้พี่จะส่งข้อความมาแล้ว” ชะอมเลขาคนสนิทวิ่งเข้ามากอดเจ้านาน ที่เปรียบเป็นเสมือนพี่สาวของเธอ “พี่มีเรื่องไม่ค่อยสบาย เลยอยากหลบไปอยู่คนเดียวเงียบๆสักพัก ตอนนี้พร้อมลุยงานต่อแล้ว” มาตาลูบผมลูกน้องคนสนิทอย่างเอ็นดู เพราะทั้งคู่รู้จักกันมาตั้งแต่ยังไม่ได้เปิดบริษัทนี้ จึงรู้ใจกันมากที่สุด “เรื่องงานเราจัดการได้เรียบร้อย แต่เราตัดสินไม่รับงานใหม่ เพราะตั้งใจจะรอพี่กลับมาก่อน” ชะอมรายงานเรื่องราวระหว่างที่เจ้านายไม่อยู่ “บ่ายนี้เรียกประชุมพนักงานทุกคนให้พี่หน่อย เรื่องสำคัญมาก ห้ามใครไม่เข้าเด็ดขาด” มาตารีบเข้าห้องทำงานและเก็บตัวเองอยู่แต่ในห้องห้ามใครเข้าไปรบกวน เพื่อเตรียมข้อมูลในการประชุมครั้งนี้ ทุกคนในบริษัทต่างคิดว่า พวกเขาคงกำลังจะโดนเลิกจ้างแน่ๆ เพราะเจ้านายของเธอทิ้งบริษัทไปหลายวัน พอกลับมาก็เรียกประชุมใ
9เมื่อไม่ได้ยินเสียงของหัวใจ เช้านี้มาตาต้องเริ่มต้นกับการวางแผนงานใหม่ทั้งหมด ทั้งวันเธอวุ่นวายจนไม่มีเวลาว่างพอที่จะมาคิดเรื่องของตัวเอง มันทำให้เธอสบายใจไปได้ชั่วขณะหนึ่ง “พี่มาตาเราต้องทำแผนโฆษณากันใหม่ทั้งหมด เดี๋ยวชะอมจะให้นักศึกษาทำแล้วเอามาให้พี่ดูนะ” “ชะอมให้น้องเขามาคุยกับพี่นะ” มาตาตั้งใจจะเป็นคนวางพล็อตโฆษณาเอง โดยที่ให้น้องนักศึกษาเป็นคนจัดการเรื่องกระบวนการทำ ช่วงบ่ายหญิงสาวต้องออกไปพบลูกค้ารายเก่าเพื่อรับเงินค่าจ้าง ซึ่งสถานที่นัดพบอยู่ใกล้กับบ้านที่เธอเคยถูกไมค์จับไปขังไว้มาตาจึงตั้งใจที่แวะเข้าไปเพื่อไปฟังเสียงหัวใจตัวเอง หญิงสาวมองรอบบ้านทันทีที่เธอมาถึง ไม่มีป่าลึกเกมือนอย่างที่เขาโกหก มีแค่เพียงป่าต้นก้ามปู ที่เขาปลูกล้อมบ้านไว้เกือบห้าสิบต้น มาตาคิดถึงคำขู่แล้วก็อดยิ้มไม่ได้ ถุงกับข้าวที่วางไว้บนโต๊ะคือสิ่งแรกที่หญิงสาวเห็นทันที ที่เข้าไปถึง มาตาหยิบแต่ละถุงขึ้นมาดู ตอนนี้ทุกถุงมันบูดหมดแล้ว “เมื่อคืนคุณมาที่นี่” หญิงสาวรู้สึกหัวใจวาบหวิวขึ้นมา เขามารอเธอ มาตาแอบเข้าข้างตัวเอ
10โฆษณาหรือเรื่องจริง สภาพร่างกายของไมค์ทรุดโทรมลง เพราะฤทธิ์ของสุราที่เขาดื่มมันหนักทุกวัน เช้าวันนี้เขาไปทำงานไม่ไหว จึงได้แต่ตอนอยู่บนเตียง ข้าวปลาก็ไม่กิน เพราะไม่มีแรงพอที่จะลุกไปทำหรือซื้อ จึงได้แต่หลับตาและหลับไปแบบนั้น ความล้มเหลวในชีวิตรักไม่ได้ทำให้ไมค์โตขึ้นเลย เขายังทำให้ทุกอย่างมันแย่ลงไปกว่าเดิม เมื่อร่างกายเริ่มสร่างเมา ไมค์ตั้งใจจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อโทรหาลูกน้องที่ทำงาน แต่เขากลับเปิดไปเจอโฆษณาชิ้นใหม่ของบริษัทของมาตา ที่กำลังถูกแชร์มากในโลกโซเชียลตอนนี้ เรื่องราวของโฆษณาบอกเล่า ถึงเด็กมัธยมคนหนึ่งที่ได้รับความช่วยเหลือจากชายหนุ่มที่เธอไม่เคยรู้จัก จนวันหนึ่งเธอมีโอกาสได้เจอเขาและแอบชอบเขามาตลอด จนเธอทำงานเธอกับเขามีโอกาสได้ใกล้ชิดกัน โดยที่ผู้ชายคนนั้นจำเธอไม่ได้ ทั้งคู่เกิดพลาดพลั้งมีอะไรกัน หญิงสาวตัดสินใจเดินออกมาจากชีวิตของชายหนุ่ม เพราะคิดว่าทุกอย่างเกิดจากความผิดพลาดไม่ใช่ความรัก ส่วนชายหนุ่มคนนั้นก็เอาแต่เฝ้ารอการกลับมาของเธอ โดยที่ไม่คิดจะทำอะไร จนในที่สุดบริษัทของมาตาก็เข้ามาช่วยให้ทั้งคู่ได้รู้หัวใจตัวเอ
11ครอบครัว “เหม็นกลิ่นความรักจัง” ชะอมแซวเจ้านายที่เธอรักไม่ต่างจากพี่สาวแท้ๆ พนักงานคนอื่นก็พากันยิ้มตาม “ให้พี่มีบ้างเถอะ เดี๋ยวจะขึ้นคานเอา” มาตาคิดมาตลอดว่าคงไม่มีผู้ชายคนไหนมาทำให้เธอหลงรักได้เหมือนผู้ชายที่ให้ทุนเธอ และสุดท้ายมันก็เกิดขึ้นจริงๆ “รักก็รุ่ง งานก็เยอะมากค่ะเจ้านาย ตอนนี้ชะอมอยากจะแยกร่างได้อยู่แล้ว” ตั้งแต่บริษัทของเธอปล่อยโฆษณาชุดนั้นไป กระแสตอบรับดีมาก กลุ่มลูกค้ามีตั้งแต่วัยรุ่น วัยทำงาน และอายุเกินหกสิบไปแล้วก็ยังมี “โบนัสก็จะงอกงามตามมานะชะอมคนสวย” หญิงสาวไม่เคยเอาเปรียบพนักงาน เรียกได้ว่าดูแลทุกคนเหมือนพี่น้อง กับข้าวเวลาทำงานมืดก็มีของในตู้เย็นให้ทำกินกัน มาตาจะคอยซื้อมาเติมให้ตลอด “โบนัส คำสั้นๆที่สร้างพลังอันยิ่งใหญ่” พนักงานทุกคนพากันหัวเราะให้กับคำพูดของชะอม ที่ถึงแม้ฟังดูตลกแต่มันก็คือความจริง “พี่มาตาคะ วันนี้มีลูกค้าจะเข้ามาพบเพื่อขอบคุณที่ทางเราทำงานได้สำเร็จ อีกไม่น่าจะเกินสิบห้านาที น่าจะมาถึงค่ะ” “ถ้ามาถึงก็ให้เข้ามาหาพี่เลยนะ”
12ข่าวใหม่ “เดี๋ยวนี้เจ้านายเรามาสายทุกวันเลยนะ ไม่รู้ว่ากลางวันมัวทำอะไรอยู่” ชะอมนำพนักงานคนอื่นแซวเจ้านายแต่เช้า เพราะรู้ว่ากำลังเป็นข้าวใหม่ปลามันกัน “ก็บ้านมันอยู่ออกไปนอกเมือง จะให้มาถึงแต่เช้าเหมือนพวกที่อยู่ข้างๆบริษัทได้อย่างไรล่ะ” มาตาหาเหตุผลมาแก้อาย เพราะเขารู้ว่าทุกคนกำลังคิดอะไรอยู่ งานมากมายวางสุมอยู่บนโต๊ะ หลายงานก็รอจัดการเรื่องค่าจ้าง บางรายการก็เพิ่งเสนอมา รอมาตาตัดสินใจว่าจะรับงานไหม “พี่มาตา พี่รู้ข่าวเด็ดหรือยัง” ชะอมเปิดประตูห้องเข้ามา โดยที่ไม่ทันได้เคาะประตู เพราะรู้สึกตื่นเต้นกับข่าวที่เธอได้ยินมาจากเพื่อนในวงการไฮโซ “ข่าวอะไร ดูทำเข้า เปิดประตูเข้ามาไม่ให้ซุ่มให้เสียง พี่ก็ตกใจหมด ทำอย่างกับมีข่าวใหญ่โตระดับประเทศ” มาตาส่ายหัว เพราะคิดว่าคงไม่ได้มีอะไรน่าตื่นเต้น ที่เกี่ยวกับตัวเธอหรือบริษัท คงเป็นเรื่องของชาวบ้านที่ชะอมชอบติดตามมากกว่า “ข่าวนี้รับรองพี่มาตา อาจจะตื่นเต้นตกใจกว่าชะอมอีก” “มีอะไรก็พูดมา ไม่ต้องมาเล่นลิ้นทำให้พี่อยากรู้” มาต