Share

ละครโรงใหญ่

ตอนที่ 9

ละครโรงใหญ่

“เอมกลับไปอยู่บ้านของเราเถอะนะ”

ธเนศเมื่อมาถึงและได้เผชิญหน้ากับภรรยาของเขาอีกครั้งเขาก็ตีบทโศกแสดงท่าทางเสียใจน้ำตาอาบแก้มจนคนที่เป็นพ่อตาแม่ยายอดที่จะสงสารลูกเขยไม่ได้

“ฉันคงไม่กลับไปเป็นกระสอบทรายหรือที่ระบายอารมณ์ให้ใครทั้งนั้น”

เฌอเอมไม่มีอะไรที่ต้องปกปิดอีกต่อไป เธอพูดความรู้สึก ทุกอย่างออกมาจากหัวใจทันทีถึงแม้เธอจะรู้ว่าบุพการีทั้งคู่ของเธอต่างไม่มีใครเชื่อก็ตาม

“เธอมีคนอื่นแล้วยังจะมาโยนความผิดให้พี่อีกหรือแต่                  ไม่เป็นไรขอแค่เธอกลับไปอยู่ด้วยกันพี่ก็พร้อมจะให้อภัยและลืม            ทุกอย่างอย่าทำให้คุณพ่อคุณแม่ต้องไม่สบายใจเลยนะ”

ธเนศคว้ามือของหญิงสาวมาจับและหอมมันอย่างนุ่มนวล  ทั้งที่ตลอดชีวิตการแต่งงานเธอไม่เคยได้สัมผัสถึงความรู้สึกแบบนี้เฌอเอมทั้งขยะแขยงทั้งอยากจะอาเจียนใส่คนตรงหน้า เธอไม่คิดเลยว่าผู้ชายจะสามารถแสดงละครได้ขนาดนี้

“ที่ผ่านมาฉันเคยคิดว่าคุณเลวแต่วันนี้นอกจากจะเลวแล้วฉันยังรู้ว่าคุณเป็นผู้ชายที่ตอแหลอีกต่างหากไปเรียนแสดงละครที่ไหนมาถึงได้ตีบทแตกกระจุยแต่อย่าลืมว่าทุกอย่างที่คุณทำมันไม่ได้เป็นความลับ”

เฌอเอมคว้าโทรศัพท์ที่เธอวางทิ้งไว้บนโต๊ะกลางห้องรับแขกและรีบเปิดเครื่องทันทีหลังจากที่อมราปิดเครื่องโทรศัพท์เพราะไม่ต้องการให้ใครโทรมาตามลูกสาวของเธอได้

“ทุกคนดูนี่นะคะ”

หญิงสาวเปิดวีดีโอที่เธอได้แอบตั้งกล้องไว้กลางบ้านเมื่อเธอมั่นใจว่าค่ำคืนไหนเธอจะโดนทำร้ายเธอเก็บหลักฐานไว้หมดและเปิดภาพและเสียงให้พ่อกับแม่ได้ดู ทั้งคู่ถึงกลับเข่าทรุดเมื่อได้เห็นว่าคนที่เป็นลูกเขยที่ทั้งคู่ทั้งรักและชื่นชมแท้จริงเป็นเพียงแค่               ซาตานร้ายที่ทำร้ายผู้หญิง

“ไอ้ธเนศมึงทำลูกกูจริง ๆ”

รวีถึงแม้จะมีอายุ 60 กว่าแล้วแต่เขายังคงแข็งแรงอยู่             สองมือกำแน่นลุกออกจากที่นั่งเพื่อหวังจะสาวหมัดไปยังหน้าลูกเขยแต่ด้วยอายุที่ต่างกันธเนศจึงเป็นฝ่ายขวามือของพ่อตาไว้ได้ก่อนที่จะผลักคนสูงวัยลงไปกองอยู่บนโซฟาอย่างแรงจนลุกไม่ขึ้น

“ก็ใช่ไงก็มึงสองคนไม่ใช่เหรอที่อยากให้กูแต่งงานกับลูกมึงก่อนหน้านี้ไม่เคยเห็นสนใจเลยว่าลูกมึงจะมีความสุขไหมก็เห็นแต่สนใจว่าจะหาประโยชน์อะไรได้บ้างจากครอบครัวของกูแล้วเป็นไงวันนี้จะทำมาเป็นทุกข์ร้อน ถุย!  พ่อแม่ยังไม่รักลูกตัวเองแล้วจะหวังให้ใครเข้ามาเห็นค่าจำไว้นะพวกแกต้องชดใช้ที่ทำให้ฉันต้องอายคนในสังคม”

ธเนศสาวเท้าออกจากบ้านหลังใหญ่อย่างไวเพราะเวลานี้เขารู้ว่ากำลังเสียเปรียบเพราะบ้านหลังนี้ไม่ใช่บ้านของเขาถ้าเกิดอะไรที่เป็นความรุนแรงขึ้นพ่อแม่ของเฌอเอมมีสิทธิ์ที่จะแจ้งความเขาในข้อหาบุกรุกถึงแม้ว่าเขาจะเป็นลูกเขยก็ตาม

รถของธเนศขับออกไปแล้วลินินจึงตัดสินใจที่จะให้แดนไตรเข้าไปในบ้านของหญิงสาวที่เป็นเพื่อนเพราะจากลักษณะของการขับรถของธเนศก็พอจะเดาได้ว่าสถานการณ์ข้างในคงไม่ดีนัก

“ลินิน! แดน!”

เฌอเอมร้องเรียกเพื่อนและคนรักอย่างสุดเสียงด้วย             ความดีใจเพราะถึงแม้ว่าเธอจะรู้แล้วว่าพ่อกับแม่เชื่อว่าเธอได้เจออะไรมาบ้างแต่หญิงสาวก็ยังไม่แน่ใจว่าจะถูกปล่อยไปให้เจอ               แดนไตรอีกไหม

“สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่”

แดนไตรยกมือไหว้อย่างมีสัมมาคารวะแต่อีกฝ่ายกลับยกมือรับไหว้แบบพอให้พ้น ๆ เพราะจากการอ่านสถานการณ์ทั้งอมราและรวีต่างรับรู้ได้ว่าชายหนุ่มตรงหน้าคงเป็นชู้รักของลูกสาวและจากภาพที่เห็นชายหนุ่มยังใส่ชุดนักศึกษาก็พอจะเดาออกว่าคงไม่ใช่ผู้ชายที่มีอนาคตอะไรคงเป็นเพียงแค่เด็กหนุ่มที่หวังจะมาเกาะ              ลูกสาวของพวกเขากินก็เท่านั้น

“นินพาผู้ชายคนนี้ออกไปจากบ้านก่อนได้ไหมพ่อกับแม่มีเรื่องที่ต้องคุยกับเอมเป็นการส่วนตัวรับรองว่าเพื่อนของเธอไม่เป็นอันตรายอะไรหรอกเพราะฉันเป็นพ่อกับแม่คงไม่ทำร้ายลูกตัวเองได้ลง”

ลินินไม่รู้จะขัดขืนหรือพูดอะไรเธอจึงจำใจต้องพาแดนไตรออกไปจากบ้านทั้งที่ทั้งคู่ยังคงเป็นห่วงเฌอเอมแต่ในเมื่อบ้านหลังนี้เป็นบ้านของเพื่อนและคนที่อยู่ตรงหน้าก็คือพ่อแม่ของเฌอเอมเองทั้งคู่จึงจำยอมออกไป

“เด็กหนุ่มคนนั้นอย่าบอกนะว่าเป็น….”

 รวีนั่งลงกับเก้าอี้สองมือกำแน่นแววตาของเขาเหมือนคนที่กำลังจะร้องไห้แต่พยายามเก็บซ่อนความเจ็บช้ำไว้ในหัวใจเพราะ           ไม่อยากให้เรื่องราวมันเลวร้ายไปกว่านี้

“ใช่ค่ะ! เขาเป็นสามีคนใหม่ของลูก แดนไตรเป็นเพียงแค่ เด็กหนุ่มนักศึกษาที่มาจากครอบครัวที่ไม่ได้ร่ำรวย เขาไม่มีหน้ามีตาในสังคมไม่มีอะไรที่สู้คุณธเนศได้เลย เขามีแค่เพียงความรักและเขาก็ไม่เคยทำร้ายลูก”

เฌอเอมรู้ว่าสิ่งที่เธอกำลังจะพูดมันทำให้พ่อและแม่ต้องเจ็บปวดแต่ในเมื่อวันนี้ความจริงทุกอย่างมันถูกเปิดเผยแล้วไม่มีประโยชน์อะไรที่เธอจะต้องเก็บซ่อนอะไรบางอย่างไว้เป็นความลับเธอพร้อมจะเผชิญกับความจริง

“แกเลือกแล้วใช่ไหม”

อมราถามลูกสาวทั้งที่เธอก็รู้คำตอบอยู่แล้วแต่แค่อยากให้เอมได้ลองคิดทบทวนอีกครั้งเพราะในฐานะผู้หญิงเธอเชื่อว่าการที่ลูกสาวของเธอยอมรับชายอีกคนเข้ามาเป็นสามีแบบนี้แปลว่าเธอต้องตัดสินใจที่จะไม่กลับไปหาคนเก่าอีกแน่นอนถึงแม้อมราใน   ฐานะแม่จะเห็นด้วยที่เฌอเอมตัดสินใจจะเลิกกับธเนศแต่เธอ              รู้สึกผิดหวังที่หญิงสาวไปคว้าผู้ชายที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้ามาเป็นสามีแบบนี้

“ครั้งนี้เอมเป็นคนเลือกคุณพ่อคุณแม่อย่าว่าเอมเลยนะคะเพราะเมื่อครั้งที่เอมยอมแต่งงานกับคุณธเนศเอมก็ยกให้คุณพ่อ            คุณแม่เป็นคนเลือกแล้วและสุดท้ายผู้ชายที่ดูดีมีหน้ามีตาในสังคมใครจะรู้ว่าภายใต้หน้ากากที่ดูเป็นสุภาพบุรุษแท้ที่จริงแล้วเขาไม่ต่างจากกุ๊ยข้างถนนที่ทำร้ายผู้หญิงหยาบคายใส่ผู้ใหญ่และยังเจ้าชู้ เขาแทบจะไม่มีศักดิ์ศรีแห่งความเป็นคนเลย เอมขอโทษที่ทำให้พ่อกับแม่ต้องผิดหวังถ้าการกระทำของเอมทำให้ครอบครัวของเรา              ต้องเสียหายลูกก็พร้อมจะก้าวออกไปเริ่มต้นชีวิตใหม่โดยไม่รบกวนพ่อกับแม่อีกเลยค่ะ”

หญิงสาวรีบคว้าโทรศัพท์ เธอตัดสินใจที่จะก้าวออกจาก  บ้านหลังนี้เพื่อไปเริ่มต้นชีวิตใหม่กับแดนไตรเพราะเธอรู้แล้วว่าความสุขที่แท้จริงมันไม่ใช่เงินทองหรือหน้าตาในสังคมแต่มันคือความสุขที่เกิดจากคำว่าครอบครัวการที่เราได้ตื่นนอนแล้วพบว่ามีคนที่รักเรานอนอยู่ข้าง ๆ การที่เราได้รู้ว่ากลับบ้านทุกครั้งจะมีคนที่เรารักและรักเรารออยู่มันมีความสุขแค่ไหน

“ถ้าแกคิดจะมีคนใหม่ก็ควรจัดการเรื่องราวของคนเก่าให้เรียบร้อยพรุ่งนี้พ่อจะติดต่อทนายความให้ระหว่างนี้แกก็ควรจะอยู่นิ่ง ๆ อย่าทำอะไรให้เราต้องเสียเปรียบ”

 เฌอเอมหยุดยืนนิ่งทันที เธอไม่คิดว่าคนเป็นพ่อจะเข้าใจเธอแบบนี้ถึงแม้ว่าท่านจะยังคงมีสีหน้าที่ยังคงความเสียใจอยู่ก็ตาม

“ขอบคุณคุณพ่อนะคะที่เข้าใจเอม”

หญิงสาวหันหลังรีบโผเข้ากอดบิดาทันทีน้ำตาแห่ง                   ความปลาบปลื้มใจวันนี้มันไหลบนความโล่งใจและสบายใจ เธอเคยคิดมาตลอดว่าพ่อกับแม่ไม่มีวันที่จะให้อภัยถ้าเธอตัดสินใจแยกทางกับธเนศและมาอยู่กินกับผู้ชายที่ไม่มีอะไรติดตัวมาแบบนี้แต่วันนี้เธอได้รู้แล้วว่าถึงแม้ว่าทั้งคู่จะเสียใจแค่ไหนแต่ก็เลือกที่จะทำให้ลูกมีความสุข

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status